คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1 : Lady?
Q
สายลมในยามเย็นของฤดูใบไม้ร่วงนี้มันช่าง… เหงาเสียจริง หญิงสาวที่ยืนมองต้นไม้ที่มีแค่กิ่งไม่มีใบเลยนั้น คิดในใจ ผมที่เจอเธอโดยบังเอิญนั้น ก็ได้ยินเสียงความคิดอันแสนเศร้าของเธอเข้า ใบหน้าของเธอที่เงยหน้ามองต้นไม้และใบไม้ที่ร่วงหล่นนั้นช่างแสนจะเศร้าเสียจริง
ผมที่มองเธออยู่อย่างนั้นราวกับมีมนตร์สะกด เธอผู้ที่มีความคิดอันน่าเศร้าก็หันมาสบตาของผม ผมมองไปที่ดวงตาของเธอ เธอคนนั้นไม่คิดที่ปฏิเสธดวงตาของผมที่จ้องมองเธอเลย แต่เธอกลับ... จ้องผมด้วยสายตาที่แม้แต่ผมยังเข้าใจยาก พวกเรายืนจ้องกันอย่างนั้นนานจนผมรู้สึกตัว เธอคนยิ้มให้กับผมอย่างขำๆ แต่ดวงตาของเธอกับมีน้ำตาไหลลงมา
เธอในตอนนั้นราวกับเป็นรูปภาพที่มีชิวิตและมีลมหายใจ ตัวของผมนั้นไม่ได้เป็นมนุษย์อย่างที่ใครทุกคนเข้าใจ ตัวผมเป็นปีศาจ!! แต่ผมเป็นปีศาจครึ่งมนุษย์ ผมที่คิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น จู่ๆ เธอคนนั้นก็เดินเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ จนผมรู้สึกถึงเสียงฝีเท้าอันสงบนิ่งของเธอ
เธอเดินเข้ามาใกล้ผมและหยุดฝีเท้าอันสงบนิ่งนั้นลงตรงหน้าผม เธอจ้องตาของผมอย่างเศร้าๆ และทันใดนั้นก่อนที่ผมจะได้ทันรู้ตัว เธอคนนั้นก็คว้าใบหน้าของผมลงไปจูบเสียแล้ว รสชาติของริมฝีปากเธอทั้งรู้สึกหวานและรู้สึกเศร้าในเวลาเดียวกัน หัวใจของผมในตอนนั้นเต้นแรงซะจน ทนแรงต้านทานของเธอคนนั้นไม่ไหว ผมก็เลยจูบเธอกลับอย่างอ่อนโยน
พวกเราสองคนยืนจูบกันท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านตัวของพวกเราทั้งสอง เมื่อเธอคนนั้นผละริมฝีปากนั้นออก เธอก็ทำหน้าเศร้าและน้ำตาไหลออกมา แต่ทว่าทั้งๆที่เธอกำลังร้องไห้อยู่แท้ๆ แต่ที่ปากของกลับยิ้มมาให้ผมจนผมหัวใจเต้นแรง และอยู่ๆ เธอคนนั้นก็พูดขึ้นมาว่า
“ขอโทษนะ” ทั้งน้ำตาและเธอก็ยิ้มให้ผมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะหันหลังให้ผมและเดินออกไป ผมรู้สึกเจ็บที่หัวใจเมื่อเธอคนนั้นเธอจากไป เพราะว่าเธอ คือ รักแรกของผม เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมหัวใจเต้นรัวได้ขนาดนั้นและเธอก็เป็นคนแรกที่ผมรักด้วย ผมจะไม่มีวันลืมเธอเลย และผมจะต้องตามหาเธอให้เจอจนได้ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนก็ตาม!!
ทำไม? เธอคนนั้นถึงบอก ขอโทษ ผมล่ะ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงขอโทษผมทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิด และระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรอยู่นั้น ความรู้สึกเจ็บและหายใจไม่ออกนี่มันอะไรกัน!! หัวใจเหมือนถูกบีบให้แน่นขึ้นเรื่อยๆ และผมก็เริ่มหายใจไม่ออก ผมเอามือกุมไว้ที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง ผมรู้สึกเหมือนกำลัง จะตาย หัวใจของผมเต้นรัวและตอนนี้เสียงหายใจของผมเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ ราวกับไม่มีอากาศที่จะหายใจ
หัวใจของผมเต้นแรงและ ถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนผมรู้สึกว่าตาของผมกำลังจะปิดลงและสติของผมก็เริ่มจะเลือนราง ภาพสุดท้ายก่อนที่ผมจะหมดลมหายใจลงไปนั้น เธอได้เดินมาและพูดอะไรสักอย่างแต่สติของผมหมดลงไปซะก่อนที่จะได้ฟังจบ ใบหน้าของเธอในตอนนั้นกำลังร้องให้อยู่....
เมื่อผมลืมตาขึ้นก็ผมกับสถานที่แห่งหนึ่งเข้า ที่แห่งนั้นเป็นปราสาทแบบปีศาจอาศัยอยู่ และผมก็รู้สึกถึงกลิ่นที่รุนแรงและฉุนจมูกเข้า กลิ่นที่ฉุนนี้เป็นกลิ่นของพวกปีศาจโดนเฉพาะ ยิ่งมีกลิ่นแรงเท่าไรแสดงว่ามีพลังและอำนาจมากเท่านั้น กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่แสดงความมีอำนาจ ไม่เหมือนกับพวกสุนัขที่ฉี่เพื่อแสดงอาณาเขต แต่กลิ่นนี้เป็นเครื่องหมายว่าได้ฆ่าคน ปีศาจมาแล้ว เพราะกลิ่นนี้เป็นกลิ่นของเลือด!!
ผมเป็นปีศาจจำพวกที่รักสงบไม่ชอบฆ่าพวกเดียวกัน แม้แต่มนุษย์ผมก็ไม่เคยฆ่าแม่แต่คนเดียว แต่กลิ่นเลือดที่เป็นเครื่องหมายของปีศาจที่แข็งแกร่งนั้น ลอยโชยมาที่จมูกผม
ผมที่เริ่มสงสัยกับกลิ่นเลือดนั้น ค่อยๆ เดินตามกลิ่นไปเรื่อยๆ ทางเดินในปราสาทนั้นกว้างและมืดมาก ทางเดินของปราสาทถูกประดับไปด้วยหัวกะโหลกนับพันกว่าอันที่ตั้งเรียงกัน บางอันให้ถูกตกแต่งด้วยหอกหรือเถาวัลย์
ผมเดินตามกลิ่นมาเรื่อยๆกลิ่นของเลือดนั้นค่อยๆทวีความฉุนมากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดผมก็เดินมาที่ห้องโถงในปราสาทที่เป็นทรงกลม ตรงกลางมีนาฬิกาเรือนโตตั้งตระหง่านอยู่ นาฬิกาเรือนนั้นถูกประดับไปด้วยตุ๊กตานับร้อยตัว และหน้าปัดนาฬิกามีเข็มนาฬิกาสีสนิมเดินอยู่และข้างๆหน้าปัดหน้านาฬิกานั้น มีตุ๊กตาตัวโตกว่ายืนยิ้มเหมือนกับว่าต้องการที่จะทักทายผู้ที่มาเยือน
ผมหันไปมองทางขวาของห้องโถงนั้น มีประตูอยู่และที่หน้าประตูนั้นมีรูปของหนวดผีเสื้ออยู่ ผมลองผลักประตูบานนั้นออกไปก็พบกับหนวดผีเสื้อกว่าพันอยู่ในตู้กระจกอย่างดี
ผมออกจากห้องนั้นและผมก็มองไปห้องถัดไป ผมเปิดห้องทุกห้องที่อยู่ในชั้นแรกของห้องโถงจนหมด และก็ผมว่าทุกห้องเป็นสิ่งของที่เหมือนกันหมดเหมือนกับเป็นของสะสมและพอเดินเข้าไปจนสุดก็จะพบกับรูปภาพของคนที่เป็นเจ้าของ
ผมเดินขึ้นบันไดของแต่ละชั้นไปจนถึงชั้นสูงสุด ก็พบกับประตูบานหนึ่งซึ่งแตกต่างจากประตูบานอื่นๆ เพราะที่หน้าประตูบานอื่นจะมีรูปของสะสมอยู่ แต่ประตูบานนี้ไม่รูปหรืออะไรสลักไว้เลยเป็นประตูไม้ธรรมดาบานหนึ่งเท่านั้น
ผมผลักประตูบานนั้นออกไปพบกับห้องห้องหนึ่ง ห้องนั้นเป็นห้องที่ถูกออกแบบให้มืดและน่าขนลุก ผมเดินเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ พบกับโซฟาตัวหนึ่ง โซฟาตัวนั้นเป็นสีแดงเลือดหมูและบนโซฟาตัวนั้น ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่ ผู้หญิงคนนั้นมี ผมสีดำสนิทผมของเธอยาวถึงพื้น และเธอก็ใส่ยูกาตะสีแดงสดและสายโอบิ*สีเหลืองอันใหญ่
ผมเดินเข้าไปหาเธอที่นอนอยู่บนโซฟาสีแดงเลือดหมูนั้นอย่างช้าๆ แต่ไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวเท้าออกไปนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็หันมามองผมซะก่อน เธอมองผมด้วยดวงตา สีแดง ริมฝีปากของเธอเรียบสนิทแต่ในเวลาเดียวกันนั้นริมฝีปากของเธอก็เหมือนกำลังแสยะยิ้มอยู่จนน่าขนลุก
เธอมองมาทางที่ผมยืนอยู่ และจู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมาว่า
“มาแล้วหรอ เอมะ อิสึคายะ” เธอพูดจบก็ยิ้มออกมา ผมตกใจมากที่ยิ้มทางผม ทำไมเธอถึงรู้ชื่อผมได้กัน!! และก่อนที่ผมจะได้ถามเธอว่าทำไมถึงรู้ชื่อผมได้ เธอก็ชิงผมพูดเสียก่อน
“เธอไม่ต้องรู้หรอกว่าทำไม ฉันถึงรู้ชื่อเธอได้ เอาเป็นว่าเธอมีความปราณาที่ต้องการจะทำให้สำเร็จอยู่ใช่มั้ย?” เธอถามผม ผมสะดุ้งนิดหน่อยและใช้ดวงตามองเธออย่างสงสัยว่าทำไม? เธอถึงรู้สิ่งที่ผมปราณาได้ ผมจึงถามเธอไปว่า
“ทำไมคุณถึงรู้ล่ะว่าผมต้องการอะไรอยู่” ผมถามเธอด้วยสีหน้าจริงจัง
“เพราะว่าคนที่เข้ามาที่นี้ได้ต้องมีคุณสมบัติหรือความปราณาที่ไม่มีคนธรรมดาทำให้ได้ต้องเป็นที่นี้เท่านั้นถึงจะสำเร็จ”
“งั้นถ้าผมถามว่าทำไมผมถึงมาที่นี้ได้ไมล่ะ”
“ได้ เธอเข้ามาในนี้ได้เพราะผู้หญิงคนหนึ่งที่มีคำสาปติดตัวมาตั้งแต่เด็กไงล่ะ และผู้หญิงคนนั้นก็คือคนที่เธอเจอก่อนจะมาถึงที่นี้ เธอคงจะโดนคำสาปของผู้หญิงคนนั้นจากทางการสัมผัสตัวของเธอเข้า เธอที่กำลังจะตายเพราะสัมผัสตัวผู้หญิงคนนั้นเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ผู้หญิงคนนั้นคงจะไม่อยากให้เธอตายเลยช่วยเอาไว้ด้วยการพาเธอมาที่นี้ไงล่ะ และฉันก็อยากจะถามเธอว่าเธอสัมผัสผู้หญิงคนนั้นทางไหน?” แล้วผมจะบอกเธอว่ายังไงดีล่ะ ผมสัมผัสกับเธอทางปากนะ มันคือจูบนะ!! จะให้ผมบอกเรื่องน่าอายกับคนที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกได้ไงกันเล่า ในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรอยู่นั้น เธอก็พูดขึ้นมาว่า
“เธอจูบกับผู้หญิงคนนั้นสินะ” ผมหันไปมองเห็นอย่างตกใจ ผมอ้าปากจะพูดแต่ถูกเธอพูดชิงเสียก่อน
“เธอถูกผู้หญิงคนนั้นสาปให้ต้องตายแล้วล่ะ!!!”
To Be Continued
Talk That Talk
ขอบคุณ "คุราเกะ" ที่ให้ยืมธีมสวยๆจร้าา
r
ความคิดเห็น