คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 8 เขิน เขิน
บทที่ 8
เขิน เขิน
ชางมินจากไปได้ไม่นาน ผมก็ได้ปฎิบัติการเป่าผมให้แห้ง ทำเหมือนมันเป็นภารกิจที่สำคัญมาเลย ไอ้การเป่าผมเนี่ย ตอนที่ผมกำลังนั่งมองตากันกับยุนโฮอยู่ นี่ถ้าเป็นปลากัดคงจะท้องไปแล้วแต่แล้ว แต่มันคงจะเป็นไปไม่ได้หรอกเพราะ ประการแรก ผมไม่ใช่ปลากัด และอย่างที่สอง ผมเป็นเพศเดียวกับยุนโฮ ไม่มีทางที่จะท้องได้แน่นอน โอ๊ย ผมเริ่มพาไปนอกประเด็นแล้ว กลับมาสู่การจ้องตาของเราสอง ผมก็ได้แต่สงสัยว่ามันจะจ้องอีกนานใหม ผมปวดอึ - -“
“นายจ้องฉันมีอะไรเหรอ” ในที่สุดความอดทนของผมก็หมดลง
“เปล่า แค่อยากมอง” ไอ้บ้านี่ ตอบได้กวนมากๆ
“แล้วนายมองทำไม” ผมถามต่ออย่างไม่ลดละ
“มองคนสวย ผิดเหรอ”
“-////-“ เขินซิครับคุณผู้อ่าน เขินมากๆ เกิดมาเพิ่งเคยถูกผู้ชายชมต่อหน้าต่อตา ไม่ได้ๆ ผมเป็นผู้ชายจะมาขงมาเขินอะไรผู้ชายด้วยกัน
“ฉันว่าเราควรไปเรียนได้แล้วนะ เดี๋ยวผมส่ง” ไม่พูดเปล่ายังเดินมาพยุงผมอีก
“เอ่อ..ไม่ไรฉันไปเองได้ นายก็มีเรียนเหมือนกันไม่ใช่หรอ”
“ไม่เป็นไร ฉันไปส่งเธอก่อนดีกว่า...เป็นห่วง” เขินอีกซิครับ มันทำผมเขินอีกแล้ว ไม่ๆ ผมเป็นผู้ชายไม่เขินคำหวานๆของผู้ชายด้วยกันหรอกนะ
“นายคงพูดจาอย่างนี้กับผู้หญิงบ่อยสินะ”
“ไม่เคยหรอก เพิ่งเธอคนแรก” ไม่เชื่อ!! มันพูดได้อย่างหน้าตาเฉยไม่มีอาย ถ้าเป็นผมพูดอย่างนั้นกับผู้หญิงนะ เขินตายไปนานแล้ว
“ฉันจะพยายามเชื่อแล้วกัน” ผมตอบอย่างไม่เชื่อ แต่ในใจนี่แทบจะกรี๊ดเป็นภาษาเฮติ
“เธอคงมีคนชมบ่อยสินะ สวยขนาดนี้” ระหว่างทางที่เดินไปห้องมันก็ยังหยอดคำหวานใส่ผมไม่เลิก จะให้กรูเขินไปถึงไหน เดี๋ยวก็เก็บอาการไม่อยู่หรอก
“ไม่บ่อยหรอก มีคนสวยกว่าฉันอีกเยอะ..อ๊ะ ถึงแล้ว ขอบใจที่มาส่งนะ” ผมพูดอย่างถ่อมตัว เป็นไงๆ นางเอกซะจริง อุว่ะฮะฮ่า แล้วก็ยิ้มสยามด้วยความงดงามให้ยุนโฮ
“-////-“ เย้!! ในที่สุดผมก็ทำมันเขินจนได้ หน้าแดงเลย ฮ่าๆๆ ภูมิใจมันทำผมเขินมามากเกินไปล่ะแล้วผมก็เดินเข้าห้องไปอย่างสง่างาม
“เอ่อ....ขอเบอร์เธอหน่อยสิ” ก่อนผมจะเดินไปมันก็ดึงแขนผมไว้แล้วก็ขอเบอร์ผมอีก เชอะ!! นี่ถ้าไม่หล่อจริง อย่าหวังว่าคิมแจจะให้จับมือถือแขนหรอกนะ
“อย่าเพิ่งเลยดีกว่านะ...เรายังเพิ่งรู้จักกันอยู่เลย” ผมพูดก่อนจะเดินไปกระซิบข้างหูไอ่หมี ฮ่าๆ ได้ชื่อใหม่แล้ว คนอะไรหน้าตาเหมือนมี “ถ้าอยากได้จริง ก็หาเองแล้วกันนะ”
โอ้ว หน้ามันแดงมาถึงหูเลยอ่ะ เขินอะไรขนาดนั้น แต่ผมก็แอบเขินเหมือนกันนะเนี่ย ปรกติทำอะไรแบบนี้กับชางมินยังไม่รู้สึกอะไรเลย
ในที่สุดวันนี้ก็จบสิ้นลงซักที ผมหล่ะรอคอยเวลานี้มานานนม นมนาน เพราะอะไรหรอ หึหึ ก็วันนี้เป็นวันที่เจ้าชางมินจะกลับบ้านพร้อมผม ผมต้องอ้อนให้มันซื้อหนังให้ผมดูหน่อยซะแล้ว ไม่ได้ดูมานาน ย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ไม่มีเนตให้โหลดหนังดูอีก เซ็งซะจริง ไปหาชางมินดีกว่า ไม่ไปหาเจ้ซิน กับ จุนซู หรอกเดี๋ยวไปหาแล้วก็ไม่อยู่อีก
“ชางมิน!!!!” ผมตะโกนเรียกชางมินจากชั้นสามของตึกลงไปหาเจ้าของชื่อที่อยู่ชั้นล่าง คงจะรู้นะว่าเสียงมันจะดังขนาดไหน และคนจะหันมามองขนาดไหน แต่คิมแจไม่สนใจ เพราะ คิมแจ หน้าด้านเหมือนฮีชอล (พูดงี้มาตบกันเลยใหมแจ ; ฮีชอล)
“วันนี้ผมกลับพร้อมพี่ไม่ได้นะ ผมมีธุระ แล้วค่อยคุยกันอีกที” เจ้าบ้าชางมิ้น!! ทำไมไม่โทรบอกฉันก่อนฮะ ฉันว่าจะไปซื้อหนังดูซักหน่อย ไม่สนใจแล้ว กลับบ้านดีกว่า
และแล้วผมก็เดินกลับบ้านคนเดียว สงสัยกันหล่ะซิว่าพวกผู้ล่วงรู้ความลับหายกันไปไหนหมด ผมจะเล่าให้ฟังทีละคนนะ เริ่มจาก สี่สาวลัทธิวาย ลีน่า ดาน่า ซันเดย์ สเตฟานี่ สามคนนี้มีนัดกันไปดูหนัง ชิ ไปสวีทกันอยู่ได้เซ็ง
ส่วนจุนซู กลับบ้านพร้อมกับจีเฮเป็นที่เรียบร้อย และคุณพี่ฮีชอลสุดที่รัก กำลังตามหาหนุ่มชาวจีนสุดหล่อที่ทำข้าวผักปักกิ่งอร่อยจนยัยฮีชอลเพ้อไปเป็นชั่วโมง นั่นแหละคือสาเหตุที่ผมต้องเดินกลับบ้านคนเดียว ที่จริงก็จะมีเจ้าเด็กบ้าชางมินเดินกลับด้วยอยู่หรอกถ้าไม่ติดว่าเจ้าเด็กบ้านั่นมีธุระ
“แจจุงครับ” เสียงคุ้นๆ ใครว่ะ อ๋อ ไอ่หมียุนโฮนี้เอง
“มีอะไรเหรอ” ผมหันไปยิ้มให้ ฮ่าๆ ผมรู้แล้ว มันจะเขินเวลาผมยิ้ม
“จะกลับบ้านเหรอครับ” ไม่พูดเปล่าเดินมาอยู่เคียงข้างผม หร้อมกับแย่งกระเป๋าในมือไปถืออีก ก็ดีเหมือนกัน ไม่หนัก
“ยังอ่ะ พอดีว่าแจจะไปซื้อของก่อน”
“เดี๋ยวผมไปส่งนะครับ” ไม่พูดเปล่ายังพาผมไปขึ้นมอเตอร์ไซอีก
“งั้น...ต้องรบกวนยุนโฮด้วยนะค่ะ” ทำไมผมถึงรู้สึกว่าผมทำตัวหวานแหวว แอ๊บแบ๊วเกินไปรึเปล่าเนี่ย เหมือนนี่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของผมเลย
แล้วในท่าสุดสองเราก็เดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งท่ามกลางกรุงโซล ผมเดินไปหาร้านขายซีดี ดีวีดี แล้วเลือกซื้อหนังมาดูประมาณ 3-4 เรื่อง ซื้อหนังสามสี่เรื่องเนี่ยมันเยอะเหรอ ไอ่หมียุนถึงได้ทักอย่างนี้
“ซื้อไปทำบ้านหรอแจจุง”
“ก็กะว่าอย่างนั้นอยู่นะ” มันกวนมา ผมก็กวนกลับ เห่อๆ รู้สึกว่าต้วเองนี้นิสัยแปลกๆเนาะ
“หึ กวนนะเนี่ยแจจุง”
“ฉันกวนอะไรหรอ” ผมนี่ก็ยังกวนทีนไม่เลิกนะ
“กวนใจผมไง” อ๊ากก มุกเสี่ยวมาก แต่ทำไมผมเขินอีกแล้ว
“เลิกปล่อยมุกเสี่ยวๆ อย่างนี้เถอะ...ฉันหิวแล้วอ่ะ”
“อืม..ไปกินไอศครีมกันเถอะ เดี๋ยวผมพาไป” ไปพูดเปล่าจับมือผมพาไปยังร้านไอศครีมอีก
[U-know talk]
เปลี่ยนโหมดกันบ้างให้คนสวยพูดมามันไม่ดี ผมได้จับมือของแจจุงด้วย มือนิ่มมากๆเลย คุณว่ามุกที่ผมพูดไปนี่เสียวใหมครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมกลายเป็นคนเสี่ยวๆได้ขนาดนี้ ปรกติมีแต่ผู้หญิงสวยๆเข้ามาคุยกับผม มาจีบผม ผมยังไม่รู้สึกอะไรแบบนี้เลย แต่พอมาเจอกับ แจจุง ผมรู้สึกว่าเหมือนไม่ใช่ตัวผมเองเลย ยิ่งเวลาแจจุงยิ้มเนี่ย ทำเอาผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่เขินอย่างเดียวเลย ปรกติผมเป็นคนควบคุมอารมณ์เก่งนะ ผมว่าเราหยุดคุยเรื่องนี้กันเถอะกลับมายังเหตุการปัจจุบันเถอะ
ผมพาแจจุงมายังร้านไอศกรีม ‘Timeout’ ของแม่ยูชอน ผมเดินไปทักทายแม่ของยูชอนนิดหน่อยแล้วพาแจจุงไปนั่งที่ตรงริมหน้าต่าง เป็นมุมที่สุดแสนจะโรแมนติก
ท่าทางการกินไอศกรีมของแจจุงนี่ก็ยังน่ารักได้ตลอกเวลาเลยนะครับ คนอะไรน่ารักได้ทุกอิริยาบถ
“นายไม่กินเหรอมัวแต่จ้องหน้าฉันอยู่ได้” แจจุงเงยหน้าขึ้นมาถามผมหลังจากที่กินไอศครีมหมดแล้ว นี่ทำไมกินเร็วจังเลย
“ผมไม่ค่อยหิวเท่าไร” มันก็จริงนะ แค่ได้มองหน้าแจจุงผมก็อิ่มแล้ว
“งั้นฉันขอนะ” ว่าแล้วแจจุงก็เอื้อมมือมาหยิบไอศครีมที่อยู่ตรงหน้าผมไปกินอย่างไม่รอคำอนุญาตจากผม แจจุงไม่เหมือนกันผู้หญิงคนอื่นๆที่ผมเคยไปเดตมาด้วยเลย
เวลาผ่านไปไม่นานแจจุงก็กินไอศกรีมหมดแล้ว พอผมจะไปจ่ายเงินแจจุงก็ห้ามผมไว้แล้วจ่ายเงินเองทั้งหมด
“ฉันกินเองคนเดียวทั้งสองอัน จะให้นายจ่ายได้ไงหล่ะ” ไม่พูดเปล่ายังยิ้มให้ผมอีก นี่จะทำให้ผมเขินไปอีกใช่ใหม ผมเคยทำให้แจจุงเขินได้เลยซักครั้ง ไม่ว่าผมจะหยอดมุกเสี่ยวๆไปขนาดไหนเข้าก็ยังเฉยได้อยู่เลย
“ไม่เป็นไร ผมเต็มใจเลี้ยง” ในที่สุดผมก็จ่ายเงินค่าไอศกรีมให้แจจุงได้
“งั้นก็ขอบใจนะ” แจจุงพูดยิ้มๆ บอกได้คำเดียวว่าสวย
“จะกลับบ้านเลยใหม เดี๋ยวผมไปส่ง”
“งั้นก็รบกวนด้วยนะ” แล้วผมก็พาแจจุงมาส่งที่บ้านอย่างปลอดภัย
บ้านของแจจุงเป็นบ้านหลังขนาดพอดีที่จะอยู่เป็นครอบครัว ผมได้แต่สงสัยว่าพ่อแม่ของแจจุงไปไหน ถึงได้อยู่กันแค่สามพี่น้อง
“ที่จริงบ้านฉันอยู่ญี่ปุ่นหน่ะ แต่พอดีพวกฉันไปมีปัญหากับคนอื่นเยอะก็เลยถูกส่งมาอยู่ที่เกาหลีนี่แหละ” แจจุงเล่าเหมือนอ่านใจผมออกว่าจะพูดอะไร
“แล้วพ่อแม่แจจุงหล่ะ” ผมถาม
“ก็อยู่กันที่ญี่ปุ่นนั้นแหละ” แจจุงพูดด้วยท่าทางสบายๆ
“ขอบใจนะที่มาส่ง ขับรถกลับดีๆนะ” แจจุงบอกลาผม
“เปลี่ยนจากคำขอบใจ เป็นไปดูหนังกันวันเสาร์ได้ใหมหล่ะ” ผมชวน ในใจนี่แอบเขินเหมือนกันนะเนี่ย ไม่เคยชวนใครไปเดต มีแต่คนมาชวนผมเอง
“อืม..ไม่แน่ใจนะ ฉันไม่รับปากแล้วกัน”
“ไม่ว่างหรอ” ผมถาม
“ไม่แน่ใจอ่ะ ว่าจะไปไหนกับชางมินรึเปล่า” ทำไมต้องไปกับชางมินด้วยหล่ะ ทำไมอะไรๆก็ชางมินๆ นี่ผมเป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมรู้สึกว่าไม่ชอบให้ชางมินอยู่กับแจจุงเลย
“อ้าว แจจุงมาแล้วหรอ” เสียงของโบอา นักร้องสาวที่กำลังดังอยู่ตอนนี้
“เจ้ ไม่ไปทำงานหรอ” แจจุงหันไปตามเสียงเรียก
“ช่วงนี้บริษัทให้พักงานหน่ะ” โบอาตอบ แล้วหันมายิ้มทักทายผม
“อ๋อ”
“งั้นผมกลับก่อนแล้วกันนะครับ แจจุง คุณโบอา” ผมบอกลาแจจุง และโบอา ก่อนจะขับมอไซกลับบ้าน
........................................................................
ความคิดเห็น