คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 6 ภาพบาดตา
บทที่ 6
ภาพบาดตา
“แจจุง!! ตื่นๆๆๆๆ” เสียงหวานตะโกนเสียงดังเพื่อปลุกคนตรงหน้าให้ตื่นก่อนที่จะไปโรงเรียนสาย
“อือ” เสียงครางเบาๆดังมาจากร่างบางที่กำลังนอนหลับอย่างสบาย
“ตื่นได้แล้ว” โบอาพูดพลางเดินไปเปิดผ้าห่มที่คลุมตัวแจจุงออกแล้วลากขาแจจุงให้ลงจากเตียง และมันก็สำเร็จการปลุกอย่างนี้สามารถปลุกคิมแจจุงได้
“อะไรเนี่ย..ฮ้าว..คนยิ่งง่วงๆอยู่..มีอะไร” ร่างบางพูดไปหาวไปพลางทำท่าจะกลับขึ้นเตียงนอนต่ออีกแต่ก็ถูกโบอาลากเข้าห้องน้ำพร้อมกับยัดเสื้อผ้าให้เข้าไปเปลี่ยนด้วย
“อย่าแอบหลับในห้องน้ำนะ” โบอาขู่ก่อนจะเดินไปปลุกฮีชอลตามด้วยจุนซูโดยใช้วิธีการปลุกเดียวกันกับที่ปลุกแจจุง แล้วลงไปทำอาหารให้ทั้งสามกิน
30 นาทีผ่านไป ทั้งสามก็พร้อมเพรียงกันลงมาทานอาหารด้วยความเร่งรีบเพราะอีก20นาทีก็จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว
“รีบๆกินกันหน่อยสิสายขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวก็ไปเรียนไม่ทันหรอก” โบอาบอก
“ไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวยัยจียอนก็มารับพวกเรา...ยัยจียอนขับรถเร็วจะตายไป” แจจุงบอกกับโบอาก่อนจะยัดขนมปังเข้าปากด้วยท่าทางไม่สมกับกุลสตรีเลยแม้แต่นิด ทำเอาโบอาถึงกับบ่นไปเลยทีเดียว
“นี่พวกเธอกินอาหารให้มันดีๆหน่อยสิ เดี๋ยวความลับก็แตกหรอกฉันอุตสาห์เปลี่ยนคำเรียกแล้วแท้ๆ”โบอาบ่นแล้วพูดต่อ
“ฉันคงยังไม่ได้บอกซินะว่าจียอนเพิ่งโทรมาบอกว่ามารับไม่ได้เพราะต้องรีบไปทำธุระ ดังนี้วันนี้พวกเธอต้องไปโรงเรียนกันเอง” โบอาพูดด้วยสีหน้าทะเล้นออกแนวสะใจที่ลูกพี่ลูกน้องของตังเองจะได้เจอกับความซวย
“ช่างมันเถอะ ไปสายนิดหน่อยไม่เป็นอะไรหรอก” ฮีชอลกล่าวอย่างไม่สนใจ
“ไม่สนใจได้ไงฮะพี่ เรื่องการเรียนเป็นเรื่องสำคัญนะพี่” แจจุงพูดด้วยความไม่พอใจร่างบางเดินไปหยิบขนมปังมาทานแล้วรีบวิ่งไปหารถด้วยความรวดเร็วทำเอาฮีชอลถึงกับงงว่าทำไมอยู่ๆน้องสาว(?) ถึงสนใจการเรียนเพราะปรกติเห็นชวนหนีโรงเรียนเป็นว่าเล่น
“ฮีนิมพี่แจเค้าเป็นไรอ่ะ” จุนซูถามด้วยอาการงงๆเช่นเดียวกับพี่ชาย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันสงสัยเมนส์มาแรง”ร่างบางตอบและเป็นการสิ้นสุดการสนทนาของสองพี่น้องเพราะทั้งคู่ต่างพากันยัดขนมปังเข้าปากแล้วรีบตามแจจุงไปโรงเรียนด้วยความเร็วเหนือเสียง
“พะ..พี่แจ.จ.จุ.ง” ร่างบางที่กำลังรีบร้อนเข้าโรงเรียนหันไปตามเสียงเรียก
“พี่จำผมได้ใหมครับ?”ร่างสูงถามแจจุงด้วยความประหม่า แจจุงยืนนึกอยู่นานว่าคนตรงหน้าเป็นใคร
“ชางมิน!!!!” แจจุงกระโดดกอดร่างสูงทันทีที่นึกได้
“กว่าพี่จะจำผมได้นะครับ” ชางมินพูดก่อนจะทำแก้มป่องด้วยความงอนที่ร่างบางเกือบจะจำตนไม่ได้
“ก็นายเปลี่ยนไปมากเลยนะสูงขึ้นแถมหล่อขึ้นแล้วนายก็ยังใส่แว่น” ร่างบางเถียง
“พี่ไม่เปลี่ยนไปมากกว่าผมอีกเหรอครับ” ชางมินพูดทำเอาแจจุงถึงกับสะอึก
“เอ่อ....ช่างมันเถอะนะ แหะๆ” แจจุงตัดบทก่อนเดินควงแขนชางมินแบบที่ทำเป็นประจำระหว่างทางทั้งคู่ก็เดินคุยกันถึงความเป็นอยู่ของกันและกัน พ่อของชางมินเป็นเพื่อนกับพ่อของแจจุงทำให้ตอนเด็กๆทั้งคู่มักจะเล่นด้วยกันบ่อยๆ ก่อนที่ชางมินจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศเมื่อ5ปีที่แล้ว
“ว่าแต่นายมาทำอะไรที่นี่เนี่ย” แจจุงถามชางมินหลังจากที่คุยกันมานาน
“ผมย้ายมาเรียนที่นี่” ชางมินตอบ
“จริงนะ ฉันดีใจจริงๆ ว่าแต่นายมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไรทำไมไม่เป็นมีใครบอกพวกฉันเลย” แจจุงถามด้วยความแปลกใจ
“ผมย้ายมาที่นี่ตั้งแต่ปีที่แล้ว”ชางมินพูดก่อนจะดันแว่นขึ้นแล้วกล่าวต่อ “เมื่อวานผมจะเข้าไปทักจุนซูแต่เจ้านั่นก็ดันหายไปซะก่อน”
“แล้วทำไมนายไม่มาทักฉันฮะ” ร่างบางพูดด้วยท่าทางงอนๆ
“ก็ผมหาพี่ไม่เจออ่ะ” ชางมินพูดแล้วทำแก้มป่องๆ
“ช่างมันเถอะ...นายรู้เรื่องที่พวกฉันต้องเป็นอย่างนี้แล้วใช่ใหม” แจจุงถามเสียงเบา+กระซิบเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน
“ผมรู้แล้ว พ่อพี่ฝากบอกพ่อผมให้โทรมาบอกอยู่ว่าดูแลพวกพี่ดีๆด้วย อย่าให้ไปก่อเรื่องที่ไหนกับใครอีก แล้วก็ฝากบอกด้วยว่า ไบรอั้นและคังตะอาจจะได้มาอยู่กับพวกพี่ถ้าพวกพี่ทำตัวดีๆ โดยมีผมและเจ้โบเป็นคนตัดสิน” ชางมินกระซิบตอบด้วยความสะใจนิดๆ
“ไม่จริงใช่ใหม..อ๊ากกก...ชางมิ้น!! อย่าทำแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม” ร่างบางได้ยินอย่างนั้นถึงกับแหกปากร้องออกมาอย่างอดไม่ได้
“ฮ่าๆ พี่เตรียมตัวเตรียมใจไว้ซะเถอะ” ชางมินหัวเราะด้วยความสะใจก่อนจะเดินแยกจากแจจุงเพื่อขึ้นห้องเรียนแต่ยังไม่วายตะโกนบอกแจจุงด้วยว่า “ตอนเที่ยงเจอกันนะพี่”
ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าการกระทำของทำคู่ทำให้ ‘ซัมวัน’ อาจจะคนสองคนหรือหลายคนเข้าใจผิดไปได้เยอะหรืออาจจะน้อยก็ยังไม่รู้ (เพราะนังไรเตอร์ยังคิดไม่ออก)
ความคิดเห็น