คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8 : หวง...หรือ...หึง
Chapter : 8
หวง…หรือ…หึง
บรรยกาศการประชุมระหว่างแกงส้มและสมายเป็นไปอย่างอึมครึม ถามคำเธอก็ตอบคำ
“นี่สมาย” แกงส้มกระซิบเรียกน้องสาว แม้แกงส้มจะตามใจสมายมากเพียงใด แต่งานก็คืองาน จะเอาเรื่องส่วนตัวและงานมารวมกันไม่ได้ เขาตั้งใจที่จะพัฒนาและบริหารงานให้เจริญก้าวหน้า เพื่อสมาชิกทุกคนและคนในครอบครัวเขา ซึ่งนั่นหมายรวมถึงเธอด้วย
“อย่าเพิ่งงอนพี่ได้มั้ย? เราทำงานกันก่อนนะ” สิ้นเสียงแกงส้ม สมายเองก็ต้องยอมจำนน
หญิงสาวออกความคิดเห็นต่างๆนาๆ ที่เหล่าสมาชิกในองค์ประชุมต่างเห็นด้วยกับเธอ ว่านี่จะเป็นทางเลือกและสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทของพวกเขา
“สมายว่า…บริษัทเราควรจะมีการสานสัมพันธ์ร่วมกันกับบริษัทอื่น เพื่อความก้าวหน้าที่ดีที่จะสามารถพัฒนาเครือข่ายและหุ้นส่วนของเราได้”
“แล้วเราจะเลือกบริษัทไหนครับน้องสมาย” รองประธานบริหาร หรือ แคนถาม
“จิรรินทร เซ็นเตอร์ ค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยความภาคภูมิใจ เธอเคยคุยเรื่องนี้กับเจ้าของบริษัทนี้แล้ว และเขาก็เห็นด้วยกับเธอ
สิ้นเสียงสมายเหล่าสมาชิกต่างฮือฮาด้วยความตกใจ และคาดไม่ถึงว่าบริษัทจำหน่ายเสื้อผ้า และนำเข้าสู้ผ้าและเครื่องหนังระดับต้นๆของประเทศไทยจะมาร่วมหุ้นกับ พวกเขา ส่วนผู้เป็นพี่ชายก็ต้องชะงัก ไม่ได้ดีใจหรือตกใจเหมือนคนอื่นๆ แต่เขารู้สึกไม่พอใจมากตั้งหาก เมื่อบริษัทที่เธอพูดถึงไม่ใช่ของใครที่ไหน แต่เป็นบริษัทของจิราวิทย์ หรือฮัท แฟนของน้องสาวเขานั่นเอง
“มึงเป็นไรวะ” แคนกระซิบถามแกงส้ม เมื่อเห็นเขาเงียบไม่ออกความเห็นใดๆ
“ผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้ครับ” แกงส้มพูดอย่างไม่สนใจคำถามของแคน
“ยังไม่ได้นะคะ พี่ยังไม่ได้เซ็นอนุมัติเลย” สมายร้องขัดแกงส้ม
“เรื่องนี้เราค่อยว่ากันอีกที” พูดจบแกงส้มก็เดินออกจากห้องทันที ปล่อยให้คนทั้งห้องต่างงุนงง แต่ก็ยอมเดินตามออกจากห้องประชุมกันไป ทิ้งให้สมายยืนหงุดหงิดด้วยความขัดใจ
“มึงเป็นอะไรของมึงว่ะ กูว่าโปรเจคที่น้องสมายเสนอก็น่าสนใจ ทำไมมึงไม่เซ็น” แคนบ่นตามหลังแกงส้มเข้าไปในห้องทำงานของเขา แต่แกงส้มกลับไม่สนใจคำพูดนั่น เขานั่งลงที่เก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ด้วยความเบื่อหน่าย
“นี่ถ้ากูไม่รู้มาก่อนว่ามึงกับน้องสมายเป็นพี่น้องคลานตามกันมานะ กูคงคิดว่ามึงหึงน้องเขาว่ะ” แคนพูดตามที่คิด แกงส้มถึงกับชะงักในคำพูดของแคน
“มึงพูดอะไรของมึง”
“เอ๊า กูเห็นมึงงอนกันได้งอนกันดี หวงจังเลยนะน้องสาวน่ะ หวงหรือหึงกันแน่ว่ะ”
“ไอ้เชี่ยแคน” แกงส้มหน้าขึ้นสี เขากระชากคอเสื้อของเพื่อนสนิทก่อนจะอัดหมัดเป็นของแถม
“ไอ้เชี่ย กุแค่ล้อเล่น” แคนผลักแกงส้มออกห่างจากตัวเขา ก่อนจะยกมือเช็ดเลือดที่มุมปาก แกงส้มเองเมื่อได้สติก็ตกใจกับการกระทำของตัวเอง ก่อนจะค่อยๆใจเย็นลง
“ขอโทด!!...มึงออกไปกุจะทำงาน” แกงส้มเดินไปเปิดประตูให้แคนเสร็จสรรพ บุคคลที่ถูกเชิญถึงกับต้องเดินออกไปอย่างจำใจ แม้เขาเองจะงงๆกับพฤติกรรมของเพื่อนคนนี้ก็ตาม
แกงส้มถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอนตัวลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ ‘หวงหรือหึงกันแน่ว่ะ’ คำพูดของแคนวนเวียนอยู่ในหัวของเขาเป็นเวลานาน สลัดเท่าไหร่ก็ไม่ออก ความรู้สึกดีๆมันเกิดขึ้นจนมากเกินไปแล้ว เธอกับเขาเป็นพี่น้องกัน จะรักกันแบบนั้นได้ยังไง แกงส้มพยายามบอกกับตัวเอง เขาต่อสายโทรศัพท์ไปขอยาแก้ปวดศีรษะจากเลขาหน้าห้อง ไม่นานนักยาก็ถูกวางไว้ตรงหน้า แต่คนที่นำมาให้เขากลับไม่ใช่เลขา แต่เป็น…
“พี่ต้นอ้อบอกว่าพี่ขอยาแก้ปวด…พี่เป็นอะไรคะ” สมายนั่นเองที่เอายาแก้ปวดมาให้เขา
“ทำไมไม่ให้ต้นอ้อเอาเขามา” แก้ส้มพูดก่อนจะหยิบพาราสองเม็ดใส่ปาก ก่อนจะดื่มน้ำตาม
“มายผ่านมาได้ยินสายโทรศัพท์พี่พอดี…น้องเป็นห่วงพี่” สมายพูดไปตามความจริง ตอนแรกเธอกะจะเข้ามาโวยวายเขาเรื่องโปรเจคหรอกน่า แต่พอเห็นสีหน้าของพี่ชายเวลานี้แล้ว เธอรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาจับใจ เรื่องที่เคยงอนก็หายไปจนหมดสิ้น
“เลิกงอนพี่แล้วเหรอ” แกงส้มถามน้องสาวอย่างยิ้มๆ
“ค่ะ” สมายเองก็ตอบออกมาตรงๆ ก่อนที่เธอจะตรงเข้าไป ก่อนจะเอามือน้อยๆนั่นอังที่หน้าผากพี่ชาย
“พี่แกงตัวร้อน” สมายเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจและแววตาเป็นกังวล
“พี่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ น้องไปทำงานต่อเถอะ” แกงส้มว่า ก่อนที่สมายจะพยักหน้ารับ
“เรื่องโปรเจค พี่เซ็นให้มายนะคะ” น้องสาวออดอ้อนพี่ชาย แกงส้มพยักหน้ารับ ไม่ใช่เป็นเพราะน้ำเสียงและใบหน้าที่ออดอ้อนนั่นหรอก แต่เป็นเพราะเขาคิดแล้วตั้งหากว่านี่ จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะยกระดับบริษัทของเขาขึ้นมา สมายยิ้มรับก่อนจะเดินออกจากห้องไป ด้านแกงส้มเอง วันนี้เขาเคลียร์งานหมดตั้งแต่ก่อนเที่ยงวันแล้ว คงไม่ผิดถ้าเขาจะขอเข้าไปงีบรอน้องสาวทำงาน ที่ห้องพักส่วนตัวด้านในห้องทำงานของเขาสักครู่
.
.
.
“อะไรกันพี่ฮัท!!! บริษัทของเราอยู่ด้วยตัวของตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งใคร” สต๊อปโวยวายพี่ชายตัวดีทันทีที่ออกจากห้องประชุม
“จะมีหุ้นเพิ่มพี่ก็ว่าไม่เห็นว่ามันจะเป็นอะไร หนำซ้ำโปรเจคนี้มีแต่ได้กับได้” ฮัทอธิบายให้น้องสาวฟัง
“แต่ต๊อปไม่เห็นด้วย !!”
“มีเหตุผลหน่อยสิสต๊อป”
“แล้วเหตุผลของพี่คืออะไรคะ….เพราะยัยเด็กนั่นใช่มั้ย” สต๊อปสวนกลับอย่างหงุดหงิด
“นี่น้องอย่าเอาเรื่องนั้นมารวมกับเรื่องงานสิ…ที่พี่ทำไปทุกอย่าง พี่ตัดสินใจและคิดมาดีที่สุดแล้ว ธุรกิจของเราจะเป็นธุรกิจแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย”
“ฮึ่ยย” หญิงสาวเถียงไม่ออก ก่อนจะเดินหนีกลับไปที่ห้องทำงานของเธอ
“คุณแม่ !! นับวันพี่ฮัทจะเหมือนคุณแม่เข้าไปทุกทีแล้วนะคะ” สต๊อปพูดกับบุคคลที่อยู่ในกรอบรูปภาพ
.
.
.
“พี่ต้นอ้อคะ เดี๋ยวสมายเข้าไปตามพี่แกงส้มเองค่ะ พี่ต้นอ้อกลับบ้านเถอะค่ะ” สมายพูดเมื่อเห็นต้นอ้อกำลังจะเข้าไปตามแกงส้มให้กับเธออย่างเช่นทุกเย็น
สมายเข้ามาในห้อง ก็พบเพียงความว่างเปล่า เธอเดินสำรวจทั่วบริเวณ โต๊ะทำงานเรียบร้อยกว่าทุกวัน ไม่มีเอกสารงานกองเกะกะเหมือนทุกวัน ‘นี่แสดงว่าพี่ชายเธอต้องเคลียร์งานเสร็จแล้วแน่ๆ’ สมายคิด ก่อนจะเดินเข้าไปตามหาพี่ชายในห้องส่วนตัวของเขา เป็นไปตามคาดเมื่อเดินเข้ามา สมายเห็นผู้เป็นพี่นอนหลับอยู่อย่างสบายใจ เธอยืนมองพี่ชายของเธออยู่นาน ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ เธอไม่ได้เห็นภาพนี้นานแล้วนะ
“พี่แกงคะ” สมายเรียกพี่ชายเบาๆ แต่…เงียบ
“พี่กะ…” หญิงสาวเข้าไปเขย่าตัวพี่ชาย ซึ่งอุณหภูมิในร่างกายพี่ชายที่เธอสัมผัสได้นั่นร้อนพอๆกับน้ำร้อน จนต้องสะดุ้ง
“พี่แกง พี่แกงตื่นก่อนสิคะ” ไม่เป็นผล เมื่อเรียกเท่าไหร่พี่ชายเธอก็ไม่แม้แต่จะขยับตัว หญิงสาววิ่งออกไปดูนอกห้องก็ไม่พบใคร ขณะนี้เวลาเกือบ 2 ทุ่ม พนักงานต่างแยกย้ายกันกลับไปจนหมดแล้ว นี่ถ้าเธอไม่มั่วแต่บ้างานจนลืมเวลา พี่ชายเธอคงไม่ต้องมานอนหนาวรอเธอแบบนี้
“ฮัลโหล พี่ฮัทคะช่วยมายด้วย….”
สมายนั่งรอดูอาการผู้เป็นพี่ชายอย่างใกล้ชิด ตอนนี้พี่ชายเธอถึงมือหมอเรียบร้อยแล้ว นั่นก็เป็นเพราะฮัทเองที่ช่วยพาพี่ชายเธอมาส่งที่โรงพยาบาล
“คุณหมอคะ พี่แกงเป็นอย่างไรบ้างคะ” สมายถามอย่างตื่นเต้น
“คนไข้แค่อ่อนเพลีย และพักผ่อนน้อยครับ ร่างกายอ่อนแอจึงทำให้มีไข้สูง อาการไม่น่าเป็นห่วง พักผ่อนไม่กี่วันก็หายครับ” สิ้นเสียงหมอ สมายถอนใจอย่างโล่งอก ก่อนที่เธอจะหันไปส่งยิ้มหวานให้กับชายที่ยืนอยู่ข้างกาย
“ขอบคุณมากนะคะพี่ฮัท ที่มาช่วยมาย”
“ไม่เป็นไรครับผม” ฮัทตอบพร้อมกับท่าตะเบ๊ะ ที่เขาและเธอชอบเล่นกันบ่อยๆเมื่อสมัยมัธยม
“พี่ฮัทกลับบ้านเถอะค่ะ มายอยู่ได้”
“ไม่เป็นไร พี่อยากอยู่กับมาย” ฮัท ไม่พูดเปล่าเขาโอบเอวเล็กๆนั่นให้มาแนบชิดกายเขา สมายอดหมั่นไส้กับการกระทำของฮัทไม่ได้ เธอกระทุ้งศอกเข้าที่ท้องแข็งๆนั่น ก่อนจะเดินหนีเข้าไปในห้องพักไข้ของแกงส้ม
“กูไม่ได้หึง กูแค่หวงโว๊ย” หญิงสาวถึงกับตกใจ เมื่อเข้ามาได้ยินพี่ชายเธอนอนโวยวายอยู่ ‘หึง หวง อะไรกัน นี่พี่ชายเธอละเมอหรอกเหรอนี่’ สมายมองพี่ชายสักพัก ก่อนจะหลุดขำออกมา เมื่อนึกไปถึงตอนเด็กๆ ที่พี่ชายเธอก็เคยละเมอว่ารักเธอ ‘พี่รักสมายได้ยินมั้ย?’ คำนี่ล่ะเธอจำได้ดี
“เกิดอะไรขึ้นเหรอสมาย” ฮัทถามอย่างตกใจ เมื่อเขาเองก็ได้ยินเสียงโวยวายดังออกไปถึงข้างนอกห้อง
“ฮ่าฮา พี่แกงละเมอค่ะ ฮ่าฮา” สมายอดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา
คืนนั้นฮัทไม่ได้กลับบ้าน แต่เขาอยู่เฝ้าแกงส้มเป็นเพื่อนสมายยันเช้า เป็นอีกหนึ่งวันที่เธอมีความสุขมาก เธออยู่กับคนที่เธอรักพร้อมกันทั้งสองคน คนหนึ่งคือพี่ชายสุดที่รัก…แกงส้ม อีกคนคือรักแรกพบของเธอ…ฮัท
ขออภัยหากสะกดคำผิด หรือ ใช้คำวิบัติ แต่เพื่ออรรถรสในการอ่าน
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณค่ะ.
ความคิดเห็น