ตอนที่ 7 : ブラックホール | kakuzu x hidan
ブラックホール
Black hole | kakuzu x hidan | sisircxes
“เมื่อจมลงไปในห้วงแห่งความมืดนั้น เราจะไม่มีวันหวนกลับออกมาได้”
A. คำจำกัดความขอบฟ้าเหตุการณ์อันเป็นองค์ประกอบหนึ่งของหลุมดำ คือ พื้นผิวในกาลอวกาศซึ่งระบุตำแหน่งที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ เมื่อวัตถุได้ข้ามผ่านพื้นผิวนี้ไปแล้ว จะไม่มีทางผ่านกลับออกมายังอีกด้านได้อีก
“ปะป๋าหล่ะ”
“นายท่านกำลังกลับมาจากการประชุมครับ คาดว่าจะมาถึงตอนประมาณแปดโม — ”
“งั้นฮิดันไม่ไปโรงเรียน” ผมคว้ากระเป๋ามาจากผู้ดูแลแล้วหันหลังกลับเข้าไปในบ้านทันที ทุกคนโค้งให้แต่ก็มีสีหน้าอึกอักเหมือนอยากจะมาลากตัวผมยัดเข้าไปในรถ ผมตีสีหน้าไม่พอใจ ก็ช่วยไม่ได้นี่ เขาสัญญากับผมเองว่าจะไปส่งเข้าโรงเรียนวันแรกของม.ปลายปีหนึ่ง
“ท่านฮิดันครับ...” ผู้ดูแลเดินตามเข้ามาเรียกผมเบาๆ ผมโบกมือไล่เขาให้ไปห่างๆเพราะกำลังหงุดหงิด ไม่นานนักก็มีมือข้างหนึ่งมาจับไหล่ขวาผมไว้ “อะไรล่ะ ก็บอกว่าไม่ — ปะป๋า...”
ปะป๋าส่ายหัวแล้วเฉาะมือข้างซ้ายลงบนหัวผม “ฮิดันเจ็บ!” ผมผลักผู้ชายตัวใหญ่ที่ตัวเองเรียกว่าปะป๋าออกไป แต่นั่นก็ไม่ได้กระเทือนส่วนไหนของเขาสักนิด เหอะ! ก็เป็นยากูซ่านี่ถ้าโดนลูกชายผลักแค่นี้แล้วล้มก็หมดความน่าเชื่อถือกันพอดี
“ไง จะไม่ไปโรงเรียนหรอ ?”
“ก็...”
“ปะป๋าก็มารับฮิดันแล้วนี่ไง” เขาก้มลงมาชนหน้าผากกับผม ผมกระตุกยิ้มออกมาบางๆเหมือนได้รับชัยชนะอยู่กลายๆ นาทีต่อมาตัวผมก็ปลิวไปตามแรงจูง
แผ่นหลังกว้างของผู้ชายที่ผมเรียกว่า ปะป๋า แข็งแรงกำยำสมเป็นหัวหน้ายากูซ่า ผมที่มัดไว้ลวกๆนั่นปลิวสยายไปมาตามแรงเดิน ผมจ้องมองแผ่นหลังนั้นไปเรื่อยๆ แรงดึงดูดของเขาแผ่รังสีออกมาเหมือนกับทฤษฎีหลุมดำที่ผมเคยเปิดอ่านผ่านๆได้กล่าวไว้ – เขาเป็นเสมือนหลุมมืดดำที่แม้แต่มนุษย์ผู้แสนชาญฉลาดก็ไม่อาจจะต้านทานได้ และแม้ว่าตัวของผมจะถูกหลบซ่อนไว้ ณ ที่ใดที่หนึ่งภายในห้วงอันมืดมิดนี้ แต่บางครั้งเองก็มีความเสี่ยงว่าอาจจะถูกมองเป็นจุดด้อยที่คนภายนอกเห็นพ้องต้องกันว่าสมควรกำจัดทิ้งไป
ผมเคยคิดอยากจะลองวิ่งหนีดูแต่แรงดึงดูดเหล่านั้นก็พาเรากลับมาอยู่ที่จุดเริ่มต้น
“เดินทางปลอดภัยนะครับ” ผู้ดูแลทั้งหลายที่ยืนอยู่หน้าบ้านต่างโค้งให้เราทั้งสองก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ หากว่านายท่านกลับมาไม่ทันก็คงได้มีเหตุการณ์บ้านแตกกันไปข้างแน่ล่ะ ไม่มีใครจะกล้าขัดใจท่านฮิดันลูกชายของท่านคาคุสึได้หรอก
B. วัตถุและรังสีรวมไปถึงแสงสามารถที่จะคงอยู่ในวงโคจรภายใน เออร์โกสเฟียร์ ได้โดยไม่ตกลงสู่ใจกลาง แม้พวกมันไม่สามารถอยู่ใกล้แต่จะคงที่ เหมือนกับที่สามารถสังเกตเห็นได้โดยผู้สังเกตจากภายนอก
ขอโทษนะฮิดันจัง... อยู่ที่นี่เถอะนะ...
ฮิดันจะอยู่ได้ยังไง หม่าม๊าจะทิ้งฮิดันไว้กับคนพวกนี้เหรอ...
“อย่าไป...” ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาทั้งๆที่ตอนนี้พึ่งจะตีสาม ผมกำมือแน่นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ผู้หญิงคนนั้นจูงมือผมมาส่งให้กับปะป๋าแล้วเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับมา – ราวกับถูกผลักให้ตกลงไปในหลุมสีดำสนิทที่ไม่ว่าจะพยายามเพ่งมองแค่ไหนก็ไม่แสงสว่างจากทางออก
ขอโทษนะคาคุสึ ช่วยดูแลเขาแทนฉันที
“ออกไปจากความคิดฉันนะ...ออกไป!!!!” ผมทึ้งหัว เสียงที่เธอทิ้งไว้ไม่ใช่คำกล่าวลาแต่กลับเป็นคำปัดความรับผิดชอบฝากฝังผมไว้กับคนอื่น – แม้ว่าตอนนี้ปะป๋าจะไม่ใช่คนอื่นอีกต่อไปแต่ผมก็ยังคงได้ยินเสียงนั่นวนเวียนอยู่ในหัว
นี่น่ะเหรอ สิ่งที่หลงเหลือไว้ให้ผม... ลูกชายที่ไม่มีใครต้องการ...
“ฮิดัน...” เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงทุ้มต่ำที่พาผมออกจากภวังค์ เขา – ปะป๋าคาคุสึเดินเข้ามาใกล้กับผมที่ยังคงนั่งอยู่บนฟูกนอนไม่ขยับเขยื้อน มือใหญ่อ้าออกแล้วส่งมาตรงหน้าผม “มานี่สิ”
ผมส่ายหน้าแต่เขาก็ยังไม่ยอมรามือไป ผมเงียบ เขาเงียบ เสียงลมหายใจของพวกเราทั้งคู่กลายเป็นเสียงที่ดังที่สุดในห้อง เขากระดิกนิ้วชี้เบาๆ โอเค – ผมยอมแพ้แล้วคลานเข้าไปใกล้เขา ปะป๋าคาคุสึยกตัวผมไปนั่งอยู่ระหว่างกลางตักของเขา
“ฮิดันไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
“…” เขาเงียบ ผมเอื้อมมือไปจับนิ้วโป้งของเขาเอาไว้แล้วพิงหัวลงกับบ่ากว้าง ลมหายใจของปะป๋าสม่ำเสมอและเชื่องช้า ผมหัวเราะออกมาเบาๆ
“มีอะไร”
“ปะป๋าแก่แล้วสินะ หายใจช้าชะมัด”
“อืม มันก็พอมีอยู่นะ...”
“อะไร ?”
“วิธีที่จะทำให้ปะป๋ากลับมาหายใจเร็วขึ้น” ปะป๋าพูดพร้อมกับใช้ปลายจมูกเกลี่ยที่ข้างขอบตาของผม อะไรน่ะ พูดจาไม่รู้เรื่องเหมือนตาลุงที่เข้ากับลูกหลานไม่ได้เลย “พูดไม่รู้เรื่อง...อะ...” ปะป๋าจับใบหน้าของผมให้หันไปทางเขา ปลายจมูกที่กำลังคลอเคลียมาหยุดอยู่ที่เหนือหน้าผากของผม เขาฝากฝังรอยจูบเบาๆไว้บนนั้นก่อนจะอุ้มผมลงไปวางที่เดิมแล้วบอกให้ผมรีบนอนได้แล้ว
“…”
ผมขยุ้มเสื้อบริเวณอกข้างซ้ายแล้วผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ความรู้สึกแปลกประหลากเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อมีเหตุการณ์ระหว่างเราสองคน ภายในสถานที่ที่คนภายนอกไม่รับรู้ ท่ามกลางสภาวะที่เงียบงัน – บางครั้งบางทีผมก็เผลอนึกไปเองว่าก้นบึ้งของหลุมลึกสีดำนี้อาจจะมีแสงสว่างลอดมาจากที่ไหนสักแห่ง
แต่เมื่อพอถึงยามเช้าของวันรุ่งขึ้น ผมก็จะกลับเข้าไปแอบซ่อนอยู่ในที่กำบังของตนเองในหลุมสีดำนั่นอีกครั้ง
“จะมารับฮิดันหรือเปล่า” ผมหันไปถามปะป๋าก่อนจะลงจากรถ เขาส่ายหน้า ผมจึงกระแทกเสียง อืม! แล้วเดินไปทางประตูโรงเรียนแต่เสียงของปะป๋าก็ดังขึ้นซะก่อน “แต่จะรออยู่ที่บ้าน”
C. อุณหภูมิของการแผ่รังสีฮอว์คิงของสเปกตรัมของวัตถุดำเป็นปฏิภาคกับความโน้มถ่วงพื้นผิวของหลุมดำ สำหรับหลุมดำของชวาร์สชิลด์เป็นส่วนกลับกับมวล ดังนั้นหลุมดำขนาดใหญ่จะอุณหภูมิต่ำมากและแผ่รังสีที่มีขนาดเล็กมาก
“ผู้ดูแลนางิสะ...” ผมเรียกคนที่กำลังเลี้ยวรถเข้ารั้วบ้าน นางิสะหันมาตอบผมหลังจากจอดรถแล้วเรียบร้อย “ว่าไงครับท่านฮิดัน”
“ปะป๋า...หายไปแปดวันแล้วนะ”
“ท่านคาคุสึมีความจำเป็นต้องอยู่เจรจาธุรกิจสักระยะหนึ่งครับแต่ท่านไม่ได้ห้ามให้ติดต่อไปนี่ครับ ทำไมท่านฮิดันไม่ลองโทรหาท่านคาคุสึดูล่ะครับ” นางิสะพูดจบก็เดินลงมาเปิดประตูให้ผม ตามทางเดินของบ้านมีทุกคนรอต้อนรับอยู่ แต่คนๆเดียวที่ผมอยากให้มารอผมกลับบ้าน – กลับไม่อยู่ให้เห็นแม้แต่เงา
ตู้ด...ตู้ด...
“ไม่เห็นจะรับเลย” ผมวางโทรศัพท์บ้านลงที่เก่าแล้วถอนหายใจออกมา ผู้ดูแลนางิสะไม่น่าพูดแบบนั้นเลย ถ้าไม่พูดให้อยากโทรไปล่ะก็ –
กริ้ง...กริ้ง...
“ปะป๋า!” ผมยกหูโทรศัพท์ทันทีที่ได้ยินเสียง แต่ปลายสายกลับเงียบสนิทเหมือนไม่มีใครถือสายอยู่ “ฮะ...ฮัลโหล ต้องการพูดกับใคร”
“…”
ตู้ด...ตู้ด...
ยังไม่ทันจะได้ถามอะไร ปลายสายก็วางไปเสียแล้ว ผมกัดปาก กระแทกหูโทรศัพท์กลับลงไปอย่างหงุดหงิด อะไรกันเล่า จะพูดก็ไม่พูด คนอุตส่าห์หลงดีใจนึกว่าจะเป็นเขา...
- - -
ขอโทษนะคาคุสึ ช่วยดูแลเขาให้ฉันที
“หม่าม๊า…” ผมสะดุ้งตื่นจากฝัน พอหันไปมองรอบๆก็พบว่าเดอิดาระนั่งเล่นเกมส์อยู่ข้างๆ เขาหันมาทางผมก่อนจะขมวดคิ้ว “ไม่สบายหรือไง กลับบ้านไปนอนไป” หมอนั่นพูดแล้วผลักหัวผมจนเอียง เขายกกระเป๋าของผมขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะโบกมือไล่
“ให้ฉันโทรเรียกใครมารับนายให้ไหม”
“ไม่เป็นไร...”
ผมเดินแบกเป้ออกมาจากโรงเรียนหลังจากไปขออนุญาตอาจารย์ที่ปรึกษากลับบ้านก่อนเวลา ถึงแม้ว่าจะมีไข้นิดหน่อยแต่ก็ไม่อยากจะโทรให้นางิสะมารับเพราะตามที่ได้ยินมา วันนี้เขาต้องไปทำธุระแทนปะป๋า
ผมลากเท้าเดินไปเรื่อยๆก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าสนามเด็กเล่น ตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งลงบนชิงช้าแล้วแกว่งมันเบาๆ หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง – มันกำลังเหวี่ยงผมให้กลับลงไปในห้วงสีดำนั่นลึกยิ่งกว่าเดิม แสงสีเทาที่เคยผ่านตากลับมามืดสนิทอีกครั้งจนเหมือนกับว่าตัวผมกำลังตาบอด
ผมขยุ้มเสื้อบริเวณอกข้างซ้ายเอาไว้ ความรู้สึกที่บีบรัดอยู่ในนี้ทำเอาผมหายใจไม่ออกมาหลายวัน อย่างน้อยก็น่าจะติดต่อมาบ้างไม่ใช่หรือไง จะหนีผมไปเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วเหรอ
“อะ...” ผมสะดุ้งเมื่อมีคนมาแตะไหล่ แต่ยังไม่ทันได้หันไปมองอะไรผมก็ถูกโยนเข้าไปในรถตู้ซะแล้ว “ปล่อย!”
พลั่วะ !
“หุบปากไว้ร้องหาปะป๋าแกเถอะ”
D. ทรงกลมโฟตอนเป็นขอบเขตของความหนาที่เป็นศูนย์เมื่อโฟตอนเคลื่อนที่ไปตามเส้นสัมผัสวงกลมที่จะทำให้วงโคจรเป็นวงกลม เมื่อแสงสามารถหนีจากภายในทรงกลมโฟตอนได้ ไม่ว่าจะเป็นแสงใดที่สามารถข้ามผ่านทรงกลมโฟตอนในเส้นทางโคจรภายในจะถูกจับโดยหลุมดำ
ผมก้มมองสภาพตัวเองที่ถูกล่ามโซ่ไว้กับเสาต้นหนึ่ง ผู้ชายชุดดำหลายคนถือปืนยืนล้อมรอบผมไว้ ถึงจะตกใจแต่ก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ได้ “คิดว่าจับฉันมาแล้วจะได้อะไรขึ้นมาเหรอ” ผมถามผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เขาไม่หันมาตอบหรือว่าแสดงปฏิกริยาอื่นๆ
แบบนี้ก็แย่หน่อยนะ ก็ปะป๋าไม่อยู่นี่ ใครจะมาตามหานายกันนะฮิดัน...นางิสะ อาโอโมริ หรือว่าเรียวตะ... ผมนั่งอยู่เฉยๆราวกับว่าชินชากับเรื่องพวกนี้ แน่สิ เป็นลูกชายของเขาที่เป็นหัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่า ไอ้เรื่องโดนจับตัวมาเพื่อเป็นข้อต่อรองเพื่อผลประโยชน์ต่างๆนานานี่ก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
“โทรเรียกพ่อมันมา”
“ครับนาย”
“ไม่มาหรอก...” ผมพูดออกไปแผ่วเบา ผู้ชายวัยกลางคนที่คาบบุหรี่อยู่หันมาทางผม เขาเดินมาใกล้ก่อนจะทรุดนั่งลงตรงหน้าผม “แกว่าไงนะ”
“ไม่มาหรอก...ปะป๋าน่ะ เขาไม่มาหรอก” ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขาแล้วยิ้มออกมา เขายิ้มคืนให้ก่อนจะซัดหลังมือลงที่ข้างแก้มของผมจนรู้สึกเจ็บกราม เขาใช้บุหรี่ในมือชี้หน้าผม “หุบปากอยู่เฉยๆแล้วรอพ่อมารับจะดีกว่านะไอ้หนู”
ผมเม้มปากจนรู้สึกเจ็บ ก็เขาหายไปตั้งแปดวันแล้วนี่ ผมพูดผิดตรงไหนที่บอกว่าเขาจะไม่มีทางโผล่หน้ามา – เขาจะสนใจอะไรกับแค่ลูกที่คนอื่นเอามาโยนทิ้งไว้ให้ สมเพชตัวเองเข้าไปสิ ฮิดัน “…ฮะๆ”
พลั่ก!
“แกหัวเราะอะไร ฮะ!”
“ฮะๆ...ฮ่าๆๆๆๆ” ผมเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง หมอนั่นพยายามจะจ่อปืนไว้ที่หน้าเพื่อขู่ผมแต่ผมก็ได้แต่หัวเราะต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย “เอาสิ ฮ่าๆ ต่อให้นายฆ่าฉันตายตอนนี้เขาก็ไม่มา!”
“ไอ้เด็กเวร! มึงหุบปากเดี๋ยวนี้!” เขาจ่อปลายกระบอกปืนเข้ามาในโพรงปากของผม ผมหยุดหัวเราะก่อนจะยิ้มออกมาจากดวงตาแล้วมองเขาอย่างท้าทาย ผู้ชายอีกคนที่คาบบุหรี่ไว้ในปากมาจับไอ้เวรนี่แยกออกจากผม
“อย่าลองดีนักเลยไอ้หนู” เขาลูบเรียวหน้าของผมจนไปถึงสันกรามแล้วบีบมันไว้แน่น ในมืออีกข้างที่หยิบบุหรี่ออกมาจากปากจี้ลงไปตรงช่วงไหล่ของผมผ่านเสื้อนักเรียนตัวบาง “…อึก” ใช่ มันเจ็บ เจ็บมาก แต่ผมก็ไม่ยอมร้องออกมาสักแอะ ก็ปะป๋าสอนว่าเป็นลูกชายของปะป๋าต้องอดทนนี่ ผมมองคนตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า กัดริมฝีปากเอาไว้เพื่อกลั้นเสียงร้อง
ถึงแม้จะรู้ดีว่าเขาคงไม่มีทางมาช่วยผมได้ แต่ผมก็กลับนึกถึงแต่เขา – ปะป๋าคาคุสึคนนั้นที่กอดผมเอาไว้จนจมอกหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นทิ้งผมไป แม้ว่าเขาจะเป็นเหมือนกับหลุมดำที่คอยดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างลงไปในห้วงที่แสนมืดมิดนั้นแต่สำหรับผมแล้วเขาก็คือปะป๋าของฮิดัน “ปะป๋า...ฮึก...ปะป๋า...”
“ว่าไงคนเก่ง”
ในตอนนั้นผมจำอะไรแทบไม่ได้นอกจากหยดเลือดที่กระเซ็นมาครั้งแล้วครั้งเล่า คมดาบที่ตวัดไปมาอย่างเด็ดเดี่ยว สายตาที่ราวกับจะดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างให้จมลงไปในนั้น อ้อมแขนที่ผมโหยหามันมาตลอด และคำพูดที่ว่า “ปะป๋ามารับฮิดันกลับบ้านแล้ว” ของเขา
E. การปรากฏของเอกภาวะเป็นที่เข้าใจว่าเป็นสัญญาณของจุดสิ้นสุดของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป โดยไม่คาดคิด เหมือนกับที่เกิดเมื่อกลศาสตร์ควอนตัมมีผลกระทบและกลายมาเป็นความสำคัญ เนื่องจากความกดดันมีมากและอนุภาคก็มีผลกระทบซึ่งกันและกัน
“เจ็บตรงนี้ใช่ไหม” ปะป๋ากดผ้าลงบนแผลของผมที่ถูกไฟจากบุหรี่จี้ มือใหญ่ของปะป๋าแปะผ้าพันแผลลงบนไหล่ผมอย่างแผ่วเบา ผมมองหน้าของเขา – มันคืออะไรกันแน่นะ ความรู้สึกแบบนี้ หัวใจที่กำลังเต้นจนได้ยินเสียงของมัน ผมกำลังดีใจที่ปะป๋ามาช่วยหรือว่าดีใจที่เขาไม่ได้ทิ้งผมไปกันแน่นะ ผมยกมือข้างที่ว่างอยู่แปะลงบนอกด้านซ้ายของตัวเอง
“ปะป๋า...”
“อืม...”
“ฮิดัน...”
“อืม...” ปะป๋าผลักกล่องปฐมพยาบาลออกห่างจากตัวแล้วเงยหน้ามองผม “เอ่อ...” ผมรู้ตัวว่ากำลังประหม่าที่ถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นของปะป๋า ผมกลืนน้ำลายเอือกใหญ่ พยายามที่จะพูดต่อไป “ฮิดัน...ป่วย...เป็นอะไรไม่รู้”
“หืม? ป่วย?”
“ฮิดัน...ตรงนี้...บางที มันก็เต้นแรงตอนที่ปะป๋ากอด...บางที มันก็เจ็บปวดจนทนไม่ได้แค่คิดว่าปะป๋าจะทิ้งฮิดันไปอีก...ฮิดัน...ควรจะทำ...ยังไง” ผมมองลึกเข้าไปในดวงตาของชายตรงหน้า เขาไม่เปลี่ยนสีหน้าไปแม้แต่นิด ไม่มีปฏิกิริยากับคำถามของผมเลย “ช่างมัน...ช่างมันเถอะ!”
“...” เขามองหน้าผม สีหน้าเรียบนิ่งทำให้ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป – แต่ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ เขาก็ “ถ้าไม่รู้ว่าจะทำยังไง...ก็ทำแบบนี้ไง” ปะป๋ากระซิบตอบ ริมฝีปากเย็นเฉียบกระทบลงมาบนแก้มของผม ดูดซับความร้อนจากผมไปเรื่อยๆจนมาถึงริมฝีปาก ผมตาโต ผลักปะป๋าออกจากตัวเบาๆ “ปะป๋า...”
“ว่าไง” เขายิ้มเยาะ เหมือนเมื่อกี้ตัวเองไม่ได้ทำอะไรลงไปทั้งนั้น
“แบบนี้มันผิดนะ”
“แบบไหน”
“ก็แบบนี้...แบบที่...” อะไรล่ะ จะต้อนให้พูดทำไมในเมื่อตัวเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้ว ผมก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วพึมพำในลำคอ “แบบที่ปะป๋าทำกับฮิดันเมื่อกี้…”
“ฮิดัน ฟังนะ” มือใหญ่สองข้างของปะป๋ากุมใบหน้าของผมให้เชิดขึ้น ดวงตาสีเข้มจ้องมองมายังผมจนสามารถเห็นเงาสะท้อนภาพของตัวเองในดวงตาของเขา ปะป๋าพรูลมหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย “มันไม่มีอะไรที่ผิดหรือถูกหรอก”
“แต่ว่า...”
“ต่อให้มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้ แค่ฮิดันยังเป็นฮิดันคนเดิมของปะป๋า และปะป๋าเป็นปะป๋าคนเดิมของฮิดันตลอดไปมันก็พอแล้วไม่ใช่หรอ”
ลำแสงสีเทาที่ลอดผ่านมา ไม่ได้กำลังจะวิ่งหนีไป มันเพียงแต่พยายามที่จะวิ่งวนไปมารอบตัวผมจนมองตามไม่ทัน แม้ว่ามันจะหายไปเป็นบางครั้งแต่ผมก็รู้ดีว่ามันยังคงวิ่งวนอยู่อย่างไม่ยอมหมดไฟในตัวเอง วิ่งวนจนกระทั่งส่องสว่างมาถึงตัวผมในทุกๆด้าน วิ่งวนจนกระทั่งถ้าหากวันหนึ่งมันหยุดไป ตัวผมคือสิ่งแรกที่ได้รับผลกระทบจากการจากไปของมัน
“ปะป๋า...”
“หืม”
“ไม่ว่าจะมีเกิดอะไรขึ้น...” ผมเว้นช่วงสูดลมหายใจ และจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขา ผมเอ่ยออกไปเบาๆ
“ห้ามหายไปจากฮิดันนะ”
-----------------------------
“ถ้าปะป๋าเลือกได้ จะเป็นกาแล็กซี่หรือแบล็กโฮล”
“ก็ต้องแบล็กโฮลสิ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็ถ้าเป็นแบล็กโฮล ปะป๋าก็จะซ่อนฮิดันเอาไว้เป็นของตัวเองคนเดียวได้ยังไงล่ะ”
お誕生日 おめでとう御座います
dear , Kakuzu
สวัสดีค่ะ ชาวคาคุฮิ 55555555555555555555555555555
แบล็กโฮลน่ารักไหมคะ (เลือกตอบได้แค่น่ารัก กับ น่ารักมากค่ะ เลือก!)
ตั้งใจแต่งมาตั้งแต่ปิดเทอมจนตอนนี้จะเปิดเทอมแล้วค่ะจึงได้โอกาสลง
และเป็นฤกษ์งามยามดีที่เป็นวันเกิดของปะป๋าคาคุพอดี เย้ <3
สารภาพว่าให้ชินโรวจังช่วยวาดภาพปลากรอบมาตั้งนานโขแล้ว
นางก็ส่งมาให้แล้ว พึ่งจะมาเปิดดูเมลวันนี้ (เลวทรามมากค่ะ ขอประทานอภัย)
รูปดีงามมากกกกกกก อยากถูกกลืนนนนนนนนนนนนนนนน อยากถูกดูดดดด
ฮิดันเองก็น่ารักสมวัยใสๆน่า------------------------------ พอค่ะ
มันไม่มีอะไรมากโนะ เพราะตั้งใจให้เรทที่เด็กประถมก็อ่านได้ค่ะ
เอาจริงๆมันน่ารักจะตาย ปะป๋ากับฮิดันจัง (ถ้าไม่รวมไอ้ฉากทรมานจิตนั่น)
ฝากติชมและติดตามผลงานของทั้งเราและชินโรวจังกันด้วยนะคะ
ช่วงนี้ต่างคนต่างประสบปัญหาไม่มีเวลาจะทำอย่างอื่นค่ะ มหาลัยจะเปิดแย้ว ฮือ
ติดตาม + คอมเม้นกันได้ในทวิต ที่แท็ก #DINEFIC ค่า
ไว้พบกันโอกาสหน้า (ถ้าอยากจะมีตอนสเป อิอิ)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฮิดันน้อยน่าฉงฉาน น่ารักง้องแง้งขนาดนี้หม่าม๊ากล้าทิ้งลิงเผือกหัวเถิกไว้กับปะป๋าได้ไง....../ เอาจริงๆเราแอบคาใจมากตัวเธอ สรุปทั้งคู่นี้เป็นพ่อลูกแท้ๆมั้ย แต่แบบ แท้ไม่แท้เราก็จิ้นไปไกลโขซะแล้ว 555555555 555
ปะป๋าก็ปากหว๊านหวาน คาคุสึในฟิคศิน่าร๊าก อยู่ไกลๆแม่จะถูให้เลขออกซะเล-----
ชอบการหยิบยกเรื่องหลุมดำมาประติดประต่อเรื่องราวจังเลยค่ะ สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่คลุมเครืออธิบายไม่ถูกของคู่นี้ แต่สุดท้ายมาปังตรงที่จริงๆแล้วคาคุสึไม่เคยไปไหนจากฮิดันเลย กำลังวิ่งตามอยู่เสมอถึงแม้จะหายไปบ้างแต่ก็ยังเป็นไฟนำทางไฟที่ส่องแสงสว่างให้อยู่เสมอ
ส่วนฉากทรมานจิตนี่อร่อยไม่แพ้กัน ได้เห็นเด็กโดนทรมานแล้วหัวเราะนี่ ทำไมชินโรนึกแล้วมีความสุ๊ขมีความสุข 55555555555
เชียร์ตอนสเปค่ะ ต้องการตอนสเปที่ดีย์ //////
ขอบคุณสำหรับฟิคเธอน๊า ทำเรามีความสุขนอนอมยิ้มได้อีกหลายคืนแน่ๆ //// ดีใจที่ได้วาดให้น๊า ถ้าอยากแต่งอีกเรียกใช้บริการได้เสมอนะจ๊ะ XD