ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: IMPOSSIBLE :: [WonHyuk]

    ลำดับตอนที่ #4 : EP.3 IMPOSSIBLE :: อารมณ์เสีย

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 52


    />

    ฮยอกแจวิ่งออกมาจากหลังตึก เขาใช้หลังมือปิดที่ปากบวมเจ่อส่วนหน้าตาก็แดงจัดเหมือนกับพึ่งผ่านการเดินตากแดดในทะเลทรายซาฮารา ยังไม่ทันที่ซองมินจะอ้าปากร้องถามว่าเป็นอะไร ฮยอกแจก็บอกสั้นๆ ว่ามีธุระด่วนขอตัวกลับพลางหยิบกระเป๋าเป้สีน้ำตาลที่วางไว้บนโต๊ะแล้ววิ่งจากไปอย่างเร็วที่สุด

    ฮยอกแจเดี๋ยวสิ นายลืมหนังสือนะซองมินร้องเรียกแต่ดูเหมือนเพื่อนสนิทจะไม่ทันได้ยิน เขาจึงรีบรวบของบนโต๊ะแล้ววิ่งตามไป คยูฮยอนมองตามซองมินจนลับตาด้วยความงง แล้วก็ยิ่งงงมากขึ้นเมื่อเห็นชีวอนเพิ่งเดินกลับมาจากเส้นทางเดียวกับที่ไอ้หมอนั่นวิ่งออกมา

     

    มึงทำอะไร?”เดินออกมาจากหลังเสาไปหาเพื่อนหนุ่ม ชีวอนยักไหล่แล้วตอบออกมาหน้าตาย

    กูไม่ได้ทำอะไร

    กูไม่เชื่อคยูฮยอนแย้งไปทันที ก็ดูหน้ามันดิ่สดใสสุดๆ ปากยิ้มตาสะใจเต็มๆ ถ้ากูเชื่อที่มึงพูดกูก็เป็นคนโง่แล้ว...คยูฮยอนกำลังตั้งใจฟังคำตอบของเพื่อน แต่คำที่มันบอกนี่สิทำเอาอึ้งจนเถียงไม่ออกเลย

    อย่าสนใจเรื่องของกูเลย มึงเอาเวลาไปสนใจเรื่องตัวเองดีกว่า ซองมินน่ารักขนาดนี้ถ้ามึงมัวแต่ชักช้าระวังจะโดนหมาคาบไปนะเว้ยบอกให้ยิ้มๆ แล้วเดินห่างออกไป คยูฮยอนมองตามอย่างเซ็ง ก็รู้ทั้งรู้ว่าถ้าช้าอาจไม่ทันการแต่จะให้กูทำไงวะ

    ....กูไม่กล้านี่หว่า...

     

     

    ……..

     

     

    ...มีข่าวลือกันให้กระฉ่อนว่าตอนนี้ชเวชีวอนเดือนรูปหล่อของคณะและมหาวิทยาลัยกำลังตามจีบปาร์คโบรัมเฟรชชี่สาวสวยของคณะสถาปัตย์จนเลิกยุ่งเกี่ยวกับสาวๆ ที่กำลังคบอยู่ในระหว่างนั้น...หลายต่อหลายสายตาหันไปมองชายหนุ่มรูปหล่อกับดอกกุหลาบช่อขาวที่กำลังยืนรอใครบางคนอย่างไม่กลัวเมื่อยอยู่หน้าคณะสถาปัตย์...นี่ไงชเวชีวอนที่เขาลือเขาว่ากัน มายืนตัวเป็นๆ ให้เห็นแบบนี้...สงสัยว่าข่าวลือนั้นคงไม่ใช่แค่คำพูดลือกันไปเสียแล้ว...

     

    สวัสดีครับน้องโบรัมทักทายเสียงนุ่มแล้วส่งรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ให้หญิงสาวที่เพิ่งเดินออกมาหน้าคณะ โบรัมเห็นชีวอนแล้วก็ยอมรับว่าหัวใจสั่นๆ เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสแล๊กเรียบๆ กลับทำให้คนใส่กลายร่างยังกับเป็นเจ้าชายในเทพนิยาย...นี่เป็นเพราะว่าคนใส่ชื่อชเวชีวอนใช่ไหมเลยทำให้ดูดีและดึงดูดตาได้ขนาดนี้...

    โบรัมมองชีวอนอย่างชื่นชมยิ่งเห็นลักยิ้มบุ๋มที่สองข้างแก้มแล้วถึงกับเคลิ้มไปชั่วนาที...ถ้าไม่เคลิ้มเอาซะบ้างก็น่าแปลกใจกับความเป็นผู้หญิงของตัวเองบ้างล่ะนะ

     

    ดอกไม้เหมาะสำหรับคนสวยๆ ครับชีวอนส่งดอกกุหลาบสีขาวช่อโตที่ถือไว้ตั้งนานให้ โบรัมยิ้มกลับไปอย่างขอบคุณแต่ก็ไม่ได้รับดอกไม้ไว้

    โบรัมคงรับไม่ได้หรอกค่ะ ขอโทษด้วยนะคะไม่อยากจะบอกให้เสียน้ำใจ แต่คราวที่แล้วเธอก็โยนมันทิ้งไปแล้วน่ะนะ...

    แล้วไม่ต้องซื้อมาอีกนะคะ พอดี...โบรัมแพ้เกสรดอกไม้เธอตอบไปอย่างสุภาพ จริงๆ ก็โกหกแหละ แพ้อะไรที่ไหนกันไม่ได้แพ้สักนิด ก็แค่ไม่อยากรับของราคาแพงเพื่อเอาไปโยนทิ้งเหมือนครั้งก่อนๆ ต่างหาก

    อ้าว...เหรอครับชีวอนเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะค่อยก้มมองดอกไม้ น่าเสียดายแฮะที่คนสวยไม่ได้อยากได้ดอกไม้สวยๆ แบบนี้

    แล้ววันนี้...แฟนไม่มารับเหรอครับ?”โบรัมขมวดคิ้วกับคำพูด  แฟน? อ่อ...พี่ฮยอกแจน่ะเหรอ จริงสิลืมไปซะสนิทว่าตอนนี้กำลังรับสมอ้างบอกคนนั้นคนนี้ไปทั่วว่าเป็นแฟนกับพี่ฮยอกแจ

    อ๋อ...เดี๋ยวพี่ฮยอกแจก็คงมาค่ะบอกพลางเดินไปนั่งที่ม้าหินเพื่อรอพี่ชาย ชีวอนเดินตามและขอนั่งเป็นเพื่อน โบรัมพยักหน้าอนุญาตให้ชีวอนนั่งด้วย ถึงจะรู้มาว่าคนๆ นี้เป็นคาสโนว่าที่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเปลี่ยนไม่ซ้ำมือ แต่เท่าที่ผ่านมาพี่ชีวอนก็ยังไม่เคยทำรุ่มร่ามน่าเกลียดหรือเจ้าชู้ยักษ์ใส่จนเธอจนอยากจะวิ่งหนี...

     

     

    ...

     

     

    ฮยอกแจรีบวิ่งออกมาจากคณะ กว่าจะเคลียร์งานเสร็จพระอาทิตย์ก็แทบจะตกดินอยู่แล้ว ชายหนุ่มวิ่งอย่างกระหืดหอบเพื่อรีบเร่งไปหาเป้าหมาย ป่านนี้โบรัมคงจะรอนานแล้วแน่ๆ

    พอมาถึงหน้าคณะสถาปัตย์ก็ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นว่าโบรัมอยู่กับไอ้หมอนั่น ...ทั้งๆ ที่มันก็ผ่านไปตั้งสี่ห้าวันแล้วแต่พอเห็นหน้ามันแล้วก็ดันรู้สึกร้อนวาบที่ปากขึ้นมาจนได้ ไอ้เลวเอ้ยแม่งมาจูบกู มือขวายกมาถูไปมาแรงๆ ยิ่งนึกก็ยิ่งขนลุกโว้ยยยย!

     

    กำลังใช้มือถูปากอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ก็ดันเหลือบตาไปมองเห็นไอ้โย่งนั่นมันจับมือโบรัม อ้าวไอ้โย่งมึงมาจับมือน้องกูทำไมวะ! เห็นแล้วก็โมโหกึกแล้วรีบมุ่งตรงไปยังคนทั้งสอง

     

    มึงทำอะไรเนี่ย!”ไม่มีอีกต่อไปแล้วความสุภาพต่อหน้าโบรัม อย่างไอ้เลวนี่ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดเพราะๆ ต่อหน้าโบรัมอีก

    นายก็เห็นอยู่นี่ว่าฉันกำลังจับมือโบรัมตอบแล้วส่งยิ้มมาให้ ฮยอกแจฟังแล้วแทบคลั่ง กูเห็นแล้วโว้ยยย ที่พูดไปเนี่ยกูหมายถึงให้มึงปล่อยมือน้องกู!

    โบรัมกลับบ้าน!”พูดพลางดึงมือน้องสาวออกจากไอ้โย่งนั่น โบรัมนิ่วหน้านิดหนึ่งเพราะฮยอกแจกระชากเสียแรง ...

    ชีวอนมองตามคนโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ท่าทางโมโหน่าดูแต่ตอนนี้กูอารมณ์ดีว่ะ

    บ๊ายบายนะครับน้องโบรัม โชคดีนะครับฮยอกแจบอกตามไล่หลัง ฮยอกแจชะงักขากึก แล้วหันมาโชว์นิ้วกลางให้ด้วยใบหน้าโกรธขึ้ง

     

     

    ....

     

     

                พี่ฮยอกแจเดินช้าๆ ก็ได้บอกกับพี่ชายที่ตอนนี้เรียกว่าแทบจะลากให้เธอเดินตามมาด้วย เสียงบ่นทำให้ฮยอกแจเพิ่งจะรู้สึก หันมามองน้องอีกทีก็เห็นน้องสาวทำหน้านิ่วแล้วนิ่วอีก...ท่าทางคงจะเจ็บแขนว่ะก็กูเล่นทั้งกระชากทั้งบีบนี่หว่า...

                เอ่อ...พี่ขอโทษนะโบรัมบอกพลางปล่อยมือออก...นี่กูหงุดหงิดเกินไปรึเปล่าวะ?

                อื้มไม่เป็นไรโบรัมพยักหน้าหงึกพลางเอามือลูบแขนไปมา เจ็บอ่ะ...

    พี่ฮยอกแจก็นะ ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนั้นเลยนี่ พี่ชีวอนเค้ายังไม่ทันได้ทำอะไรสักหน่อย

    พอพูดถึงไอ้บ้านั่นขึ้นมาก็หัวเสียขึ้นมาอีกรอบ!

    แล้วที่มันจับมือเราอยู่ไม่เรียกว่าทำอะไรเหรอ!”ต่อว่าน้องสาวแล้วส่งสายตาดุๆ ให้จนโบรัมได้แต่ยิ้มกลับอย่างแหยๆ

    ก็ไม่ได้มีอะไรมากสักหน่อย...

    มากสิ! แค่จับมือนี่ก็มากแล้ว! โบรัมรู้รึเปล่าผู้ชายน่ะถ้าลองได้เริ่มจับมือแล้วก็จะต้องเริ่มจับโน่นจับนี่มากขึ้นไปอีก ยิ่งหื่นกามอย่างไอ้หมอนั่นรับรองมันไม่จับแค่มือโบรัมแน่!”

    พี่ชีวอนไม่ได้หื่นกามสักหน่อยค้านกับสิ่งที่ตัวเองเห็นและเจอแต่ฮยอกแจก็ค้านกลับตามสิ่งที่ตัวเองเห็นและเจอเหมือนกัน

    ใครบอก! ไอ้เลวนั่นน่ะมันทั้งหื่นทั้งกามจิตวิปริตชีวิตพิสดาร จำไว้นะโบรัมอย่าเข้าใกล้ไอ้โย่งนั่นในระยะสองเมตรเด็ดขาด ไม่งั้นอย่าหาว่าพี่ไม่เตือน!”

    อะ...เอ่อ...ค่ะค่ะถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแต่เธอก็จำต้องพยักหน้าเอาใจไว้ก่อน

    ...แล้วเป็นเพราะพี่ชายอารมณ์เสียเธอก็เลยเงียบไม่กล้าพูดอะไรตลอดการเดินทาง ฮยอกแจเดินไปส่งโบรัมจนถึงป้ายรถประจำทางที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย และรอส่งจนกระทั่งรถเคลื่อนออกไปจากป้ายแล้วเขาจึงค่อยเดินกลับไปตามทางเดินหอพักของตัวเอง...

     

    โบรัมลงจากรถประจำทางแล้วก็เดินเลาะไปในซอยที่คุ้นเคย ถึงแม้ว่าซอยนี้จะไม่มีบ้านคนมากเท่าไหร่แต่เพราะว่าเธออยู่มาตั้งแต่เด็กและคุ้นเคยเป็นอย่างดีจึงไม่รู้สึกอะไรกับบรรยากาศมืดๆ เงียบๆ ในซอยที่ดูเปลี่ยวแบบนี้

    หญิงสาวเดินไปเรื่อยๆ ไม่รีบและไม่ช้า...แต่แวบหนึ่งเธอก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกหนึ่งบุคคล...ด้านหน้าของเธอไม่มีใครก็คงต้องเป็นด้านหลัง...โบรัมหยุดเดินแล้วหันกลับไปมอง..แต่เธอก็มองไม่เห็นใคร เป็นแบบนี้อยู่สองสามหนจนเธอต้องเธอขมวดคิ้ว...ความตึงเครียดเริ่มเกิดขึ้นทีละนิด

    โบรัมตัดสินใจเดินเร่งฝีเท้า ตอนนี้เธอก็ยังได้ยินเสียงฝีเท้าเหมือนเดิม ใจคอไม่สู้จะดีแล้ว...ถึงจะคุ้นกับสถานที่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กลัวอันตราย...เอาไงดีล่ะ เธอพยายามคิด วิ่งดีไหมอีกไม่นานก็จะถึงบ้านแล้วแค่ออกตัววิ่งใส่สปีดเต็มที่ก็น่าจะไม่เป็นอะไร

    ขาเร็วกว่านึกโบรัมใส่สปีดวิ่งทันที แต่ขาเธอมันสั้นไปหรือเปล่าทำไมเธอจึงได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งมาใกล้ๆ ล่ะ ตายแล้วจะทำไงดีล่ะเนี่ย!

    แขนยาวโอบเอาที่รอบเอว โบรัมสะดุ้งเฮือก! หึย! นี่เธอโดนมันจับตัวแล้วหรือเนี่ย โอ้ยไม่นะ เธอยังอยากมีชีวิตรอด พี่ฮยอกแจ! แม่! ช่วยโบรัมด้วย!

    จะตะโกนทำไมเอามือปิดปากได้ทันก่อนที่เธอจะตะโกนให้ลั่นซอย โบรัมชะงักเมื่อได้ยินน้ำเสียงคุ้นเคย...ที่ดิ้นๆ เมื่อครู่หายไปเป็นปลิดทิ้ง...และเมื่อเอี้ยวตัวหันไปมองคนที่อยู่ด้านหลังก็ถึงกับโมโหขึ้นมาทันทีทันใด!

     เล่นอะไรบ้าๆ!”น้ำตาปริ่มขอบด้วยความโกรธขึ้ง โบรัมหันไปเผชิญหน้ากับคนร่างสูงโปร่งแล้วใช้กำปั้นน้อยทุบตุบตับที่อกและแผงไหล่ไปหลายที

    ตกใจหมดแล้วรู้รึเปล่า นี่แน่ะ!”บอกแล้วออกแรงทุบให้หนักขึ้นอีก คนโดนตีไม่ได้คว้ามือไว้แต่ยังคงปล่อยให้ตีอยู่อย่างนั้น ส่วนตาก็มองมาแบบที่...ไม่รู้จักสลด

    โบรัมหน้าร้อนวาบแล้วละมือออกชั่วคราวเมื่อเผลอไปสบตาของอีกฝ่าย โธ่เอ้ยทำไมกันโบรัม ทำไมถึงต้องพ่ายแพ้แววตาแบบนี้ด้วย!

    ไม่ตีต่อแล้วเหรอ?”ถามเมื่ออีกฝ่ายเบนหน้าหนี คนถูกถามไม่ตอบแต่ริมฝีปากเชิดรั้นขึ้นอย่างแง่งอน ...แต่ไม่ว่าดูกี่ครั้งเขาก็รู้สึกว่า...น่ารัก

    คิดถึงพูดสั้นๆ แต่ก็ทำเอาโบรัมหายใจขัดๆ วงแขนยาวโอบเธอเอาไว้แนบชิด...

    คิดถึงอะไรก็เจอกันออกบ่อยพูดเสียงงึมงำแล้วซบหน้าลงไปที่แผงอก...หาที่หลบภัยเอาไว้ก่อนเมื่อประสานสายตาแล้วรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังมองจนรู้สึกวาบไปทั้งตัว...เจ้าของคงไม่เคยรู้สักครั้งล่ะมั้งว่าแววตาคู่นี้มีอิทธิพลมากเพียงไหนในการชักจูงให้เธอต้องทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

    ...ริมฝีปากถูกช่วงชิงไปอย่างไม่ทันตั้งตัว...แต่เธอก็ตอบสนองรสจูบไปอย่างตั้งใจ...ถ้าพี่ฮยอกแจรู้เข้าก็คงเป็นเรื่องใหญ่แต่จะให้เธอทำยังไงในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธแรงต้านทานจากคนๆ นี้ได้...ไม่เคยทำได้แม้สักครั้งเดียว...

    ซึงฮยอน...เสียงแผ่วออกจากริมฝีปากสวยได้เพียงเสี้ยววินาทีเพราะริมฝีปากของคนสูงกว่ายังคงกระหน่ำซ้ำจูบรสร้อนจนเธอหายใจหายคอแทบไม่ทัน...

     

     

    .....

    หลังจากส่งโบรัมขึ้นรถไปแล้วฮยอกแจก็เดินก้มหน้างุดๆ ตรงไปที่หอพัก แต่เพราะว่าเดินก้มหน้านั่นไงก็เลยไม่ทันเห็นว่ามีใครยืนอยู่ตรงหน้าจนเผลอชนเข้าให้ดังพลั่ก

    ...คนตาเล็กกลายเป็นคนโตขึ้นมาทันทีเมื่อมองเห็นว่าคนที่เขาชนเป็นใคร!

    ทำเป็นตกใจไปได้ลอยหน้าลอยตาพูดได้อีก แม่งเอ้ยเห็นแล้วฉุนว่ะ!

    มึงมาดักรอกูทำไม!”ไอ้โย่งนี่ตั้งใจกัดกูไม่ปล่อยหรือไงวะ รู้มั้ยว่าตั้งแต่กูเจอมึงเนี่ยกูจิตตกไปตั้งวันละกี่รอบ

    หลงตัวเองรึเปล่า กูไม่ได้มาดักรอมึงสักหน่อยตอบออกมาอย่างหน้าด้านเลยว่ะ เออกูจะพยายามเชื่อ! นึกด่ามันอยู่ในใจเป็นร้อยประโยคพลางก้าวขาฉับๆ หนีแต่ไอ้โย่งแม่งก็ยังมาเดินขวางหน้ากูอีก เฮ้ย! อะไรของมึงวะ!

    โว้ย!มึงจะมายุ่งอะไรกับกูนักหนาเนี่ย!”ด่าใส่หน้าแต่ดันทำเป็นลอยหน้าลอยตายิ้มให้กูอีก รู้ตัวไหมล่ะนั่นว่ากูโคตรอยากจะเอาส้นยัดใส่หน้ามึงน่ะ!

    ก็จนกว่ามึงจะเลิกกับโบรัม

    ฝันไปเหอะมึง! กูไม่มีวันปล่อยโบรัมให้คนอย่างมึงเด็ดขาด!”

    ทำไม...คนอย่างกูทำไมชีวอนเริ่มเดือดขึ้นมานิดๆ เมื่อเห็นแววตาที่มองมาเหมือนขยะแขยงเต็มทน ทำไมวะในสายตาของมึงกูน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรือไง

    ก็คนอย่างมึงแม่งวิปริต!”

    กูวิปริตยังไง!”ไอ้นี่แม่งมาว่ากูวิปริตได้ไงวะ!

    มึงเลิกมองกูแบบนี้ได้ไหม!”ที่มึงด่ากูมากูก็เครียดแล้ว แต่สายตาที่มึงมองกูนี่กูก็โคตรจิ๊ดว่ะ เลิกได้ไหมไอ้แววตาดูถูกรังเกียจหยามเหยียดเยาะเย้ยอะไรแบบนั้นของมึงน่ะกูไม่ชอบ!

    ทำไม...ถามลอยๆ แต่ดันเห็นมันขบเขี้ยวฟันจนกรามโผล่แล้วเห็นเส้นเลือดปูดโปน หึหึ...ดูท่าทางว่ามึงจะถูกใจสายตาของกูว่ะ ..

    ถ้ากูมองมึงแบบนี้แล้วทำไมมองอย่างเยาะเย้ยจนชีวอนโกรธขึ้งคว้าหมับจับแขนล๊อกไว้ทางด้านหลังแล้วผลักหน้ามันให้ชิดกับกำแพง

    ปล่อยกูนะมึง!”ร้องโหวกเหวกโวยวายเพราะถูกจับล๊อกแถมโดนกดหน้าซีกหนึ่งเข้าชิดกำแพงอีก พยายามดิ้นๆ แต่ก็ดันเกิดมาตัวเล็กกว่าเลยดิ้นสู้มันไม่ได้ โอ้ย! กูจะทำไงเนี่ยถึงจะหลุดออกจากล๊อกได้ โอ้ยแม่งหงุดหงิดโว้ย!

    ปล่อยโว้ย! ปล่อย! ปล่อยยยยยย!”นอกจากแหกปากแล้วก็ทำอะไรไม่ได้เลยนะมึง ฮ่าๆ สะใจว่ะ ทำเป็นอวดเก่งนะไอ้เปี้ยก เป็นไงล่ะมึงตอนนี้ล่ะทำอะไรไม่ถูกเลย

    ปล่อยกูนะโว้ย!

    ชีวอนมองคนหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้วอารมณ์ก็ดีขึ้น กูโรคจิตเปล่าเนี่ยแต่เวลาเห็นมันเป็นแบบนี้ทีไรแล้วชอบว่ะ

    ไอ้วิปริตไอ้สมองหมาไอ้สันดานหยาบไอ้เชี่ยไอ้เลวววววววววววววววว!”ด่ายังกับร้องแร๊พแต่ชีวอนกลับยิ้มออกมาจนแก้มบุ๋ม ด่ามาดิ ด่ามาเหอะ ด่าให้ตายกูก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะที่มึงด่ากูมาทั้งหมดเนี่ยกูไม่รับ ฮ่าๆ

    อ้าว...หยุดด่าแล้วเหรอฮยอกแจหอบแฮ่กเออออออออก็กูเหนื่อยนี่โว้ย!

    หยุดด่าแล้วก็เตรียมรับโทษที่ด่าไว้ด้วยนะครับบอกยิ้มๆ แล้วเคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ซีกหน้าที่ไม่ได้แนบไปกับกำแพง  ฮยอกแจตาค้างไปอึดใจแล้วก็หลับตาปี๋ ไอ้เลววววไอ้จิตวิปริตมึงจะทำอะไรกู!

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ฮ่าๆๆๆ ดูมึงทำหน้าเด่ะกลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะหัวเราะเสียงลั่นแล้วปล่อยมือที่เคยล๊อกแขนและกดหัวของคนตัวเล็กไว้ให้เป็นอิสระ ฮยอกแจลืมตาทั้งๆ ที่หน้ายังไม่หายซีด หันไปมองเห็นไอ้โย่งกำลังหัวเราะท้องงอท้องแข็ง นี่มึงขำกูขนาดนั้นเลย!

    ฮ่าๆๆๆๆๆๆยังไม่หยุดหัวเราะแถมยังเอามือกุมท้องแสดงท่าทีว่าขำสุดๆ ฮยอกแจเห็นแล้วก็โคตรจะฉุนยกขาง้างใส่เจาะยางไปที่หน้าแข้ง ชีวอนที่มัวแต่หัวเราะไม่ทันได้ระวังตัวก็เลยถึงกับร้องโอยยกยาขึ้นกระโดดเหย็งๆ

    โอ้ยยยยยยมึงทำอะไรเนี่ย

    ฮยอกแจไม่ตอบแต่รีบวิ่งหนี อยู่ให้โง่สิ ตัวแม่งยังกับวัวกระทิงถ้ากูอยู่สงสัยได้โดนมันกระทืบกูตายคาส้นแน่!

     

    ถึงจะเจ็บแต่ชีวอนก็ลุกขึ้นมาได้ เขารีบวิ่งตามไอ้ตัวขาวที่รีบวิ่งปรี้ดนำไปก่อน โธ่ไอ้ขาสั้น มึงวิ่งสามก้าวเท่ากับกูก้าวเดียวยังจะเสือกวิ่งหนีอีก พอวิ่งเข้าใกล้จนเอื้อมมือได้เขาก็กระชากแขนให้คนตัวเล็กตัวลอยมาติดตัว แต่เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้แรงก็เยอะใช่ย่อยเพราะแม่งดันฝืนแรงไว้ไม่ให้ปลิวตามมือกูมา แถมยังเอามือเกาะเสาไว้แน่นต้านแรงดึงจากกูอีก เออดีอย่างนี้สนุกดีมึง สองคนยื้อตัวกันอยู่พักใหญ่สุดท้ายฮยอกแจก็เสียหลักเซถลา แต่ก่อนล้มก็กวาดเอาชีวอนเซไปด้วยจนล้มลงไปกองกับพื้นทั้งสองคน

    ชีวอนได้สติก่อนก็ลุกขึ้นมาคร่อมตัวฮยอกแจไว้ กดแขนล๊อกขา แล้วก็มองคนที่โดนคร่อมตัวจนทำเอาทุกรูขุมขนในร่างกายของฮยอกแจลุกหมด!

    มะ...มึงจะทำอะไร!”

    ปล้ำบอกสั้นๆ พลางแลบลิ้นเลียปากแผล่บๆ  ฮยอกแจถึงกับตาค้างมองคนตรงหน้าด้วยความช๊อกสุดขีด วะ...เหวอ!

    .

     

    .

     

    .

    กูล้อเล่นพูดยิ้มๆ แล้วคลายมือออก ฮยอกแจถึงกับถอนใจออกเฮือกใหญ่... เฮ้อออออออออออออออ

    กูหิว ไปหาอะไรกินเป็นเพื่อนกูหน่อยเด่ะบอกพลางดันตัวเองให้ลุกยืนแล้วส่งมือให้ไอ้ตัวขาวที่ทำนอนหงายกับพื้นแล้วกำลังทำหน้างงแถมกระพริบตาปริบๆ ชีวอนมองยิ้มๆ ทำหน้าแบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะมึง


                ฮยอกแจงง อะไรวะ
    ?

    ไอ้โย่งส่งมือมาให้ แล้วก็ยิ้มให้กูอีก เป็นอะไรของมัน? อยู่ดีๆ ก็มาชวนกูไปหาอะไรกิน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังกับเพิ่งออกรบกับกูอยู่เลย

    เล่นวิ่งไล่จับกับมึงจนท้องหิวแล้วเนี่ย ป่ะ...ไปหาอะไรกินกัน

    ...

    ฮยอกแจงงแต่ก็ส่งมือกลับให้จนมันดึงให้ลุกยืนได้สำเร็จ พอลุกขึ้นได้ก็ยังไม่เลิกทำหน้างงบวกมึน แล้วอยู่ดีๆ ก็อ้าปากพูดต่อรองด้วยใบหน้าจริงจัง

     

     

    ชวนกูไปกินแล้วมึงก็ต้องสัญญาว่าจะเลี้ยงกูไม่ขาดสักวอนเลยนะโว้ย ไม่งั้นกูไม่ยอมไปกินกับมึงเด็ดขาด

     

     -------------------------------------

     

    13/01/2009+post 29/01/2009

    ~~ คุณคนอ่านเรื่องของเจหลีชอบเรื่องนี้กันไหมคะ
                อยากรู้จัง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×