คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : My Precious Jewel : ขโมย!
“พี่ดงเฮ พี่เรียววุค โทรมาค่า”น้องสาวตัวน้อยร้องเรียกพี่ชายที่กำลังก้มหน้าก้มตา ทำอาหารอยู่ในครัว
ก็แค่ใส่กิมจิ น้ำตาลทราย ขิงสับ เต้าหู้ หัวหอม แล้วก็หมูลงไป คนๆๆ รอเดือดแค่เนี้ย ทำไมลีดงเฮคนนี้ถึงทำไม่ได้สักทีนะ กิมชีจิแก กิมชีจิแก!
ดงเฮได้แต่บนอุบอยู่ในใจ
“พี่ดงเฮค๊า โทรศัพท์ค่า”น้องสาวเรียกอีกสองสามหนเพราะพี่ชายไม่ออกมารับโทรศัพท์เสียที
พอได้ยินน้องสาวเรียกซ้ำเขาเลยตะโกนกลับออกไป
“รู้แล้วๆ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”
“มีอะไรเหรอเรียววุค”เขากรอกเสียงไปตามสายโทรศัพท์บ้าน เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือหรอก เพราะถ้าซื้อมาอย่างน้อยมันก็สิ้นเปลืองเข้าไปอีก แค่พี่ฮยอกแจมีคนเดียวก็พอแล้ว พี่เขาน่ะจำเป็นต้องใช้เวลาทำงาน แล้วก็เอาไว้โทรมาบอกน้องๆ อย่างพวกเขา เวลาที่พี่ฮยอกแจไม่ได้จะแวะมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านหลังจากที่เลิกงานในช่วงกลางวัน แล้วออกไปอีกทีตอนไปทำงานที่ร้านแถวๆ อินซาดงนั่น
“ดงเฮ นายออกไปเป็นเพื่อนฉันซื้อพวกเครื่องเขียนต้อนรับเปิดเทอมใหม่หน่อยสิ”ปลายสายทำเสียงอ้อนๆ แต่ดงเฮก็ไม่ได้ตกหลุมอ้อนของเพื่อนง่ายๆ
“ฉันก็เห็นนายมีตั้งเยอะแยะแล้วจะซื้อใหม่ทำไมอีก ฉันไม่ไปหรอก”
“ไม่ได้ไม่ได้ มันไม่อินเทรนด์ นายต้องออกมาเป็นเพื่อนฉันนะ ออกมาเร็วๆ ด้วย ฉันจะรออยู่ที่หน้าร้านอินเตอร์นะ... บาย”ในเมื่ออ้อนไม่ได้ก็ต้องบังคับกันล่ะ เรียววุคพูดจบก็รีบวางสายไม่ได้รอฟังเพื่อนพูดอะไรอีก
“อ้าวเฮ้ย เรียววุค เรียววุค
เฮ่อ...วางสายไปซะแล้ว”
เอาแต่ใจตัวเองจริงๆ เลยเรียววุค
ดงเฮถอนใจ...แต่ถึงเพื่อนคนนี้จะเอาแต่ใจตัวเองแค่ไหน เรียววุคก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา...ก็เรียววุคน่ะเป็นคนเดียวที่ไม่ได้มองเขาด้วยสายตาที่แปลกไป หลังจากที่รู้ว่า ลีดงเฮผู้มีทรัพย์สินเงินทองมากมายคนนี้กลับกลายเป็นคนที่ไม่เหลืออะไรเลย...
แตกต่างกับคนมากมายในโรงเรียน คนที่เคยเข้ามาพูดคุยกับเขา เพื่อนที่เคยร่วมเรียนด้วยกันมา คนหลายๆ คนที่เคยรู้จักต่างก็แปลกไปไม่เป็นเหมือนเดิม...เขารู้สึกเจ็บปวดกับสายตาที่มองเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด...ต่างกับเมื่อก่อนที่มีแต่คนมองเขาอย่างชื่นชม...
แต่พอนานเข้าเขาก็ชักเริ่มชิน...เขาได้เรียนรู้ว่า มิตรภาพอันจอมปลอมจะสูญสลายก็ต่อเมื่อเราไม่มีผลประโยชน์จะเอื้อให้ใครอีก แต่มิตรแท้จะอยู่กับเราเสมอไม่ว่าเราจะรวยล้นฟ้าหรือจนจมเหวก็ตาม...
มิตรปลอมๆ ของเขามีมากมายจนนับไม่ไหว แต่มิตรแท้ของเขามีคนเดียวก็เรียววุค...
“ดาบินไปกับพี่เปล่า?”ดงเฮหันไปถามน้องสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาวาดรูป ดาบินชอบวาดรูปพอๆกับชอบเล่นเปียโน แต่ตอนนี้...ไม่มีเปียโนให้เล่นแล้ว ดาบินก็เลยทุ่มเทให้กับการวาดรูปที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากนอกจาก ดินสอ กระดาษ และสีไม้...
“ไม่เอา หนูไม่อยากไป หนูจะวาดรูป”น้องสาวตอบแล้วยังคงก้มหน้างุดสนใจแต่รูปที่วาดอยู่เท่านั้น...
“งั้น...พี่จะรีบกลับมาให้ทันมื้อเย็นแล้วกัน เดี๋ยวซื้อจาจังมยอนมาฝาก....เฮ่อ อุตส่าห์กำลังหัดทำกิมชีกีแจอยู่แท้ๆ เลย”
“พี่ไม่ต้องพยายามทำหรอก ยังไงมันก็กินไม่ได้อยู่ดี”น้องสาวว่าพลางมองพี่ชายตาใสแป๋วเชิงล้อเลียน
“ลีดาบิน”พี่ชายเรียกชื่อเธอเสียงหนักๆ น้องสาวตัวน้อยรีบก้มหน้าก้มตาแล้ววาดการ์ตูนของเธอต่อไป...
ดงเฮยิ้มน้อยๆ แล้วลูบหัวน้องสาวเบาๆ
“อยู่บ้านดีๆ นะเด็กดี อย่าออกไปไหนล่ะ”
“ค่า”น้องสาวรับปากเสียงแจ๋ว ดงเฮจึงเดินไปหยิบกระเป๋าเป้ที่แขวนไว้ แล้วเดินออกจากห้องไป....
..................
ลีดงเฮและเรียววุค นัดกันไปที่ถนนมกดง ถนนสายคึกคักที่มีสินค้าติดแบรนด์เต็มไปหมด
“ไหนนายบอกว่าจะซื้อเครื่องเขียนไง แล้วที่ดึงฉันเข้าร้านเสื้อผ้าเนี่ย...มันหมายความว่ายังไงเรียววุค”คนตัวเล็กเริ่มโวยวายคนที่ตัวเล็กกว่าอีกคนเมื่อโดนดึงเข้าไปในร้านเสื้อผ้า...
“เอาน่ะดงเฮ อย่าโวยวายหน่อยเลย ก็จะเปิดเทอมแล้วนี่ ก็เลยต้องมีของใหม่ๆ ทั้งเสื้อผ้าใหม่ ทั้งอุปกรณ์การเรียนใหม่น่ะแหละ...”เรียววุคพูดไปพลางส่องสายตามองเสื้อเชิ้ตแขนสั้นที่อยู่ตรงราวแขวนนั้น
“เอาสักผืนไหม ฉันซื้อให้”ว่าแล้วก็หยิบเสื้อเชิ้ตลายขวางที่แขวนไว้มาทาบกับตัวเพื่อน
“เฮ้ย...ไม่เอาหรอก นายซื้อของนายไปเถอะ ทุกวันนี้เสื้อผ้าก็เต็มตู้ฉันอยู่แล้ว ไม่ต้องซื้อใหม่หรอก”
“ก็ตามใจ”
เรียววุคว่าแล้วหันไปเลือก เลือก เลือก เสื้อผ้าต่อไป...ส่วนดงเฮได้แต่ถอนหายใจและส่ายหน้าไปมาอย่างระอา ผู้ชายอะไรชอบเข้าร้านเสื้อผ้าจริงๆ...
...คนสองคนเดินออกมาจากถนนสายนั้น และพากันเดินเลาะตรงทางเดินที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนจะเป็นที่โล่งๆ แล้วมีลานกว้างติดริมน้ำ แต่ตอนนี้มันกำลังมีพวกรถเครน ไม้ เศษเหล็ก ถังปูน อุปกรณ์ก่อสร้างวางเต็มไปทั่ว นั่นก็เพราะที่แถบนี้กำลังจะถูกสร้างให้เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ของย่านนี้
เรียววุคได้ของมาเยอะแยะ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้าผ้าใบ แล้วก็เครื่องเขียน...แต่ที่ซื้อเครื่องเขียนติดมือมาก็เพราะว่าเขากลัวดงเฮจะบ่นเอาต่างหาก...ก็เพื่อนเขาน่ะขี้บ่นโวยวายยังกับแม่ที่บ้านของเขาเลย...ขืนดงเฮรู้ว่าจุดประสงค์ที่เขาชวนดงเฮออกมาก็คือมาช๊อปเป็นเพื่อนไม่ใช่ซื้ออุปกรณ์การเรียน หูของเขาก็คงจะชาแน่ๆ ...
ส่วนดงเฮไม่ได้ซื้ออะไรเลยนอกจากจาจังมยอนที่รับปากกับน้องสาวไว้ว่าจะซื้อไปฝาก...
“แล้วเจอกันนะเรียววุค”
“อืม...บาย”คนทั้งสองร่ำลากัน ดงเฮกับเรียววุคที่บ้านอยู่กันคนละฝั่งก็เดินแยกจากกันไปคนละทาง
พลั่ก!
คนคนหนึ่งเข้ามาชนเรียววุคจนเขาล้มคะมำ ถุงเสื้อผ้า ข้าวของทุกอย่างระเนระนาดตามพื้น รวมทั้งกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กที่เขาพกเงินเอาไว้...ไม่ทันที่เรียววุคจะเก็บมัน ชายที่ชนคนนั้นก็คว้ากระเป๋าของเขาไปแล้วก็วิ่งหนีออกไปอย่างหน้าตาเฉย
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ขโมย! ขโมย!” เรียววุคร้องตะโกน แต่แถวนั้นแทบจะไม่มีใครเลย นอกจากเด็กสี่ห้าคนที่กำลังเล่นเตะบอลอยู่ตรงสนามใกล้ๆ ริมน้ำ
ดงเฮหันกลับไปมองเพื่อน พอเห็นคนนั้นวิ่ง เขาก็เลยวิ่งด้วย ถึงจะออกตัวช้ากว่า แต่อดีตแชมป์วิ่งแข่งระดับประถมศึกษาอย่างลีดงเฮก็สามารถวิ่งตามจนเกือบเข้าใกล้ได้
...แต่ต่อให้วิ่งตามจนทัน เขาก็คงจะสู้มันไม่ได้ ก็เพราะเจ้าหัวขโมยนั่นทั้งตัวสูงทั้งตัวหนากว่าน่ะสิ คนตัวเล็กๆ อย่างเขาเลยต้องมองหาเครื่องทุ่นแรง ดงเฮเหลือบเห็นท่อเหล็กที่วางกองอยู่ข้างทาง เขาจึงรีบคว้ามันขึ้นมาแล้วก็ปาใส่หัวของเจ้าหัวขโมยนั่นเต็มๆ
โป๊ก!
หัวขโมยนั่นนอนคว่ำลงไปกับพื้น ดงเฮเดินเข้าไปใกล้ๆ อย่างระวัง พอมองจนแน่ใจว่าเจ้าขโมยนั่นไม่น่าจะลุกขึ้นมาได้ เขาก็เข้าไปดึงกระเป๋าของเรียววุคออกมาจากมือของมัน...
“อ่ะ เรียววุค”ลีดงเฮหันกลับแล้วยื่นกระเป๋าให้เรียววุคที่เพิ่งจะวิ่งหอบตามมา
แต่ทันทีที่สบตากลับเรียววุคเขาก็เห็นความตาตระหนกในดวงตาที่เบิกกว้างของเพื่อน ไม่ทันที่ดงเฮจะหันไปตามสายตาเพื่อน อะไรหนักๆ ก็ฟาดมาที่กลางหลังแล้วทำเอาเขาถึงกับล้มลงไปที่พื้น
“ดงเฮ!”เรียววุคได้แต่ยืนร้องและยืนมองตัวสั่น เขาน่าจะเข้าไปช่วยพยุงดงเฮสักนิดก็ยังดี แต่ขาของเขาก็ดันก้าวไม่ออก
“ไอ้เด็กบ้า! คิดว่าเก่งนักเหรอ!”เจ้าขโมยนั่นกระชากคอเสื้อจนร่างเล็กต้องลุกยืนไปตามแรงกระชากนั้นของมัน ดงเฮเหลือบเห็นที่มือขวาของมันจับท่อเหล็กที่เขาเพิ่งขว้างใส่มันไปเมื้อกี้ด้วย ดงเฮถึงกับอ้าปากค้างเมื่อนึกได้ถึงชะตากรรมว่าอีกไม่นานเขาจะต้องเจออะไรบ้าง
พ่อ แม่ พี่ฮยอกแจช่วยผมด้วย!
พลัก!
คนร่างสูงโปร่งคนหนึ่งถีบเข้าตรงชายซี่โครงขวาแบบเต็มๆ ทำเอาหัวขโมยนั้นเซไปตามแรงถีบและถลาลงไปนอนกับพื้น
ดงเฮรอดจากการถูกฟาด แต่เขาก็ถึงกับทรุดตัวนั่งกับพื้นเพราะกำลังขาที่หายไปเหลือเพียงแต่ความสั่นระริก...
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”คนตัวสูงดูล่ำกว่าอีกคนที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่หันมาถามพร้อมกับส่งมือยื่นให้ ดงเฮมองอย่างอึ้งๆ แต่ก็ส่งมือให้คนตาคมที่มีแววตาอบอุ่นคนนั้นอย่างง่ายดาย...
“คิบอมระวังโว้ย!”เสียงเรียกทำให้คนถูกขานชื่อไหวตัวแล้วก็หลบท่อเหล็กนั้นได้อย่างหวุดหวิด!
ส่วนดงเฮก็เอี้ยวตัวหลบเจ้าหัวขโมยไปพร้อมๆ กับคนที่จับมือเขาไว้ไม่ยอมปล่อยด้วยเช่นกัน!
“เล่นทีเผลอเหรอ!”ถึงมือหนึ่งจะไม่ว่างเพราะยังกุมมือเล็กไว้แน่น แต่ขายาวๆ ก็ยังว่างพอที่จะรู้หน้าที่ดีว่าเจ้าของนั้นโมโหแค่ไหนที่ถูกเล่นลอบกัด ขายาวๆ นั้นกระแทกไปที่กลางหลังของหัวขโมยร่างหนาจังๆ จนร่างของมันเซไปทางชายร่างสูงโปร่ง
“จะทำร้ายเพื่อนฉันเหรอ
”อีกคนหนึ่งนั้นยิ้มเย็นแล้วก็ซัดกำปั้นไปที่ช่องท้องของหัวขโมยร่างหนานั่นสองสามที...
มันลงไปนอนกลิ้งกับพื้นแล้วบิดตัวไปมา...
เรียววุคกับดงเฮได้แต่อ้าปากค้าง ถ้าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์พวกเขาก็คงนึกว่ากำลังดูการถ่ายทำฉากแอคชั่นในละครอยู่แน่นอน
“ไง...หมดฤทธิ์แล้วเหรอ...”คนร่างสูงโปร่งใช้เท้าเขี่ยร่างที่ทรุดนอน แววตาเข้มนั้นสะใจน่าดู...แล้วมีทีท่าว่าจะกระทืบต่ออีกทีด้วยซ้ำ...
“พอเถอะคยูฮยอน...ส่งให้ตำรวจจัดการต่อดีกว่า
”ชายร่างสูงที่ชื่อคิบอมห้ามเพื่อนเอาไว้ แววตาที่มองคนที่นอนบิดไปมานั้นเต็มไปด้วยความสมเพช...อาชีพมากมายไม่ยอมทำแต่ริจะเป็นโจร...ถ้าเจอคนสู้ขึ้นมาก็ต้องล้มกลิ้งไปแบบนี้ล่ะ
“อืม...”คนร่างโปร่งเอาเท้าที่เคยวางพาดบนลำตัวของหัวขโมยนั่นออกพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขึ้นมากดหมายเลข
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่มือหนาปล่อยมือเล็กออกเป็นอิสระ แต่พอเขาหันมามองอีกทีก็ทำเอาคนตัวเล็กรู้สึกวูบวาบในใจ...
“พวกนายพอจะมีเชือกหรืออะไรที่มันคล้ายเชือกบ้างไหม?”คนร่างสูงที่ถูกเรียกว่าคิบอมหันไปมองคนทั้งสอง เรียววุคจึงรีบไปควานหาของในถุงที่กองอยู่กับพื้นอย่างระเนระนาด ส่วนดงเฮก็เบนสายตามองไปทางขโมยที่นอนอยู่ที่พื้นอย่างรู้สึกเห็นใจนิดๆ ...
ทั้งโดนถีบ โดนเตะ โดนต่อย จะตายก่อนถึงมือตำรวจไหมเนี่ย...
“ไอ้นี้ใช้ได้ไหม?”เรียววุคยื่นสายเชือกผูกรองเท้าที่ติดมากับรองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ของเขา ชายคนนั้นพยักหน้าแล้วก็จัดการรวบมือหัวขโมยและมัดด้วยเชือกนั้นแน่นๆ
ไม่นานนักดงเฮก็เห็นตำรวจสองคนเดินเข้ามา คนร่างสูงโปร่งที่ถูกเรียกว่าคยูฮยอนพูดอะไรบางอย่างด้วย ตำรวจสองคนนั้นพยักหน้าแล้วจึงหันมาบอกกับพวกเขาทั้งสองคน
“ถ้าพวกนายไม่เป็นอะไรมาก ก็กลับบ้านไปได้แล้ว”ดงเฮและเรียววุคโค้งขอบคุณตำรวจ แล้วก็ไม่ลืมที่จะหันไปขอบคุณชายร่างสูงทั้งสองคน...
“ขอบคุณมากนะ ขอบคุณมากจริงๆ”ทั้งเรียววุคและดงเฮต่างก็ขอบคุณคนสองคนนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งสองคนนั้นก็ได้แต่พยักหน้ารับ...
“กลับบ้านไปได้แล้ว เดินทางระมัดระวังตัวกันด้วยล่ะ”คนที่ชื่อคยูฮยอนบอกอย่างเป็นห่วง...คนทั้งสองยิ้มขอบคุณอีกครั้งแล้วต่างก็แยกย้ายกันกลับ...
...เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ดงเฮก็หันไปมองชายร่างสูงทั้งสองคนอีกหน พวกเขายังคงยืนอยู่ที่เดิม แล้วคนร่างสูงโปร่งก็ยิ้มและโบกมือให้...ดงเฮโบกมือลาแล้วส่งยิ้มให้ด้วยเช่นกัน แล้วจึงค่อยหันกลับไปมองตรงทางเดินที่จะพาเขาไปสู่บ้าน...
เฮ้อ...นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว...
ขอบคุณนายสองคนมากนะ..ชื่ออะไรนะ...อ้อ....คิบอม... คยูฮยอน...
คิบอม คยูฮยอน ฉันขอบคุณพวกนายจริงๆ
คิบอมและคยูฮยอนมองซ้ายทีขวาที ราวกับจะช่วยระวังให้ว่าถ้ามีใครมาทำอะไรอีก พวกเขาก็พร้อมที่จะช่วยเสมอ...พอคนสองคนนั้นไปจนลับตาแล้วแล้วคยูฮยอนก็พูดพึมพำเหมือนๆ เป็นคนละเมอ...
“คิบอม...เด็กนั่นน่ะ...น่ารักเนอะ”
“คนไหนล่ะ
คนทางซ้ายหรือขวา...”คิบอมหันไปถามเพื่อนหนุ่ม ที่กำลังยืนอมยิ้ม
แววตาเหม่อลอย
“เฮ้ย...”คิบอมใช้ศอกสะกิดเพื่อนหนุ่มจนเพื่อนเขาตัวเซไปเลย
“ฮะ...อะไร?”คยูฮยอนมองกลับมาแถมด้วยสีหน้างงๆ อีกต่างหาก
“ก็นายบอกว่าเด็กนั่นน่ารัก ฉันก็เลยถามว่า คนไหน?”
แม้จะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว แต่คยูฮยอนก็รู้สึกเขินเกินกว่าจะพูดออกมา
“ก็...ทั้งสองคนนั่นแหละ”
“ไป...กลับๆ”พลางแก้เขินด้วยการชวนเพื่อนกลับ คิบอมไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มที่เชิงมุมปาก...เขาอ่านแววตาคยูฮอนออก...แววตาของเพื่อนรักมองคนตัวเล็กแล้วจับจ้องอยู่นานเป็นพิเศษ แถมยังส่งยิ้มให้ โบกมือให้อยู่เป็นนานสองนาน นั่นก็น่าจะหมายความว่า คนน่ารักที่ คยูฮยอนพูดถึง ก็น่าจะเป็นคนๆ นั้น.....
คนตัวเล็กๆ ...
ตัวเล็กขนาดที่ว่าแค่ลมพัดแรงก็อาจจะปลิวไปตามลมได้
แต่เห็นตัวเล็กขนาดนั้น แต่กลับใจเด็ดน่าดูเลย
กล้ามากจริงๆ ที่ขว้างท่อเหล็กใส่เจ้าโจรนั่น...
...ใจเด็ดสูสีกับความน่ารักเลยทีเดียว...
........................................
ดาบินคงหิวแย่เลย แต่ก็คงหาอะไรกินรองท้องไปบ้างแล้วมั้ง ดาบินหุงข้าวเป็นนี่นา... ถ้าหิวก็คงกินข้าวคลุกกิมจิรอไปก่อนนั่นล่ะ...
ดงเฮได้แต่นึกอย่างนั้น...อดห่วงดาบินไม่ได้...ก็ตอนนี้มันเลยเวลากินข้าวเย็นของพวกเขามาตั้งสองชั่วโมงแล้ว...อีกอย่างตอนนี้มันก็เกือบสองทุ่มไปแล้วนี่...
“ดาบินพี่กลับมาแล้ว
”เขาพูดเสียงสดใสขณะที่เปิดประตูห้อง...
...แต่ไม่มีคนอยู่ในห้อง...
“อ้าว...”เขากวาดตาเห็นแต่ห้องที่ว่างเปล่า ก็เลยรู้สึกแปลกใจ เอ...หรือว่าดาบินจะอยู่ในห้องน้ำ...
“ดาบิน...”เขาเรียกน้องสาวอีกทีแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ เขาเดินไปดูที่ห้องน้ำ ห้องครัว...ก็ไม่มี...
บนดาดฟ้าหรือเปล่า?
ดาดฟ้าเป็นที่ประจำที่เขากับดาบินชอบไปนั่งเล่น บางทีดาบินอาจจะไปนั่งเล่นที่นั่นก็ได้...
เขาวิ่งขึ้นไปที่ดาดฟ้า...แต่ก็ไม่เจอน้องสาว...
“น้าครับน้าครับ!” เขาเคาะประตูห้องของคนที่เช่าอยู่ชั้นบน เขาถามหาดาบิน แต่พวกเขาก็บอกว่าไม่เห็นดาบิน...
หัวใจของเขาเต้นแรง...แล้วก็รู้สึกใจหายวูบ...
“ดาบิน! ดาบิน!”
เขาออกมานอกบ้าน วิ่งหา ตามหา ไปทุกที่แถบนั้นที่เขาชอบพาน้องไปบ่อยๆ แล้วก็ไปทุกที่ที่เขาคิดว่าดาบินน่าจะไปได้...
แต่เขาก็ไม่เจอน้อง...
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ เขาก็มองไม่เห็นน้องสาว
เกิดอะไรขึ้น...ทำไม...
คนพวกนั้นมาจับดาบินไปหรือเปล่า?
มีคนมาลักพาตัวดาบินไปไหม?
หลากความคิดพรั่งพรูสู่สมองและตีรันคลุกกันจนดงเฮเริ่มสับสน...เขานึกไม่ออกว่าจะก้าวขาไปทางไหนต่อดี...
หัวใจมันหล่นวูบ...
เขาจะทำยังไงดี เขาควรไปตามหาน้องที่ไหนดี...
ดงเฮยืนอย่างสิ้นแรง...มันสิ้นแรงจริงๆ ตอนนี้เขาควรทำยังไง ควรทำไงดี ดาบิน พี่จะไปตามหาเธอที่ไหน ที่ไหน!
ดาบินเธออยู่ที่ไหน!
...พี่ฮยอกแจ! พี่ฮยอกแจช่วยด้วย!
ขอบคุณมากสำหรับทุกคอมเม้นท์เลยนะคะ ซึ้งอ่ะ บางคนเขียนสั้น บางคนเขียนยาว
แต่ทุกคนก็ตั้งใจเขียนให้ใช่ไหมค่ะ ง่า...รู้สึกดีจัง
อ่านแล้วอย่างบ้าเลย ประทับใจ แล้วก็ปริ้นเก็บแล้วละ หุหุ
รักทุกคอมเม้นท์และรักคนอ่านทุกคนค่า
ตอนนี้ เนื้อคู่ของดงเฮมาแล้ว
ไม่ใช่ คิเฮนะคะ แต่เป็น....บอมเฮต่างหาก (กร๊าก...จะโดนฆ่าไหมเรา หุหุ)
ก็เขาเป็นรักแท้กันนี่ เราจะพรากเขาทั้งสองออกจากกันได้ไงใช่ม๊า...
(แต่ที่เกาหลีเขาให้อึนเฮเป็นคู่แท้แล้วก็โหวตให้อึนเฮได้ที่ 9 อ่ะ)
ขนาดในรายการราตรีสโมสร ที่ถามบอมว่าชอบกินอะไร คิบอมยังบอกว่าชอบกินปลาเลย
พวกพิธีกรงง แต่ชีวอนแล้วก็พวกเราเนี่ย ฮากันตรึมเลยใช่ไหมล่ะ
ในนิยายเรื่องนี้ก็คิเฮล่ะนะ...เพราะอึนเฮเป็นพี่น้องกันนี่นา...หุหุ
(แล้วคนเขียนก็ชอบให้ฮยอกมันเคะอ่ะ...เหอๆ)
ในส่วนของคนที่จะมาคู่ฮยอก...ก็คงต้องรออ่านตอนถัดๆ ไป แล้วกันนะคะ
บางคนอาจจะรู้แล้ว แต่เราจะไม่ยอมบอก จนกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจะชัดเจนค่ะ ...(แอบเล่นตัว 55)
ส่วนคู่อื่นๆ นอกเหนือจากสองคู่นี้ ก็...เป็นไปแบบปกติที่คนส่วนมากให้คู่กันนั่นล่ะค่ะ...
แล้วก็เอามาฝากเผื่อคนที่ยังไม่รู้จักน่ะค่ะ อาหารที่ดงเฮทำ ก็คือ 김치찌개 กิมชีจิแก
หรือ กิมจิจิเก หรือ กิมชิจิเกะ หรือซุปกิมจิ หรือ แกงกิมจินั่นล่ะค่ะ
(หลายชื่อตามสำเนียงที่เพี้ยนมาจากเกาหลี)
วิธีทำดูเหมือนจะทำง่ายๆ นะ แต่...ทำยังไงให้อร่อยเนี่ย มันแบบว่า...
เหอๆ ลองเอาไปทำกันเองแล้วกันนะคะ วัตถุดิบหาง่ายๆ ทั่วไปค่ะ
ลองไปดูที่เว็บนี้นะคะ เขาสอนวิธีทำ แต่ส่วนมากเขาจะใส่เต้าหู้กับเส้นหมี่เพิ่มไปด้วยน่ะค่ะ
วิธีทำกิมชีจิแก
ลองทำดูนะคะ เผื่อวันหนึ่งได้เป็นสะใภ้เกาหลีจะได้ทำให้คุณแม่สามีทาน
ปล.เขียนฉากแอ๊กชั่นไม่เป็นอ่ะ...แค่นี้พออ่านได้ใช่มั้ยคะ?
ปล.อีกที ...กี้แอบโหดอ่ะ...ถ้าบอมไม่ห้ามสงสัยขโมยนั่นจะตาย (แล้ว fic นี้ก็จะกลายเป็นเรื่องรันทดของกี้ไป 555)
오호호 =โอ-โฮ-โฮ = โฮะ โฮะ โฮะ = หัวเราะแบบไฮโซ
ความคิดเห็น