ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: IMPOSSIBLE :: [WonHyuk]

    ลำดับตอนที่ #2 : EP.1 IMPOSSIBLE :: คนของเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 52


    ชีวอนอกหัก

     

            ใครจะคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ กับคนรูปหล่อ พ่อเป็นมหาเศรษฐี แม่เป็นผู้ดีเก่าอย่างชเวชีวอนนักศึกษาเดือนเด่นปี 2 คณะบริหารธุรกิจ...

    แต่...มันเกิดขึ้นแล้วครับ เกิดขึ้นจริงๆ แล้วก็เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ด้วย!

             

    อะไรกันวะ คนอย่างกูนี่นะโดนหักอก? นี่กูฝันไปรึเปล่า? ตลอด 19 ปีที่ผ่านมาแค่หลิ่วตาบวกกับส่งลักยิ้มบุ๋มๆ ไปให้ รายไหนรายนั้นก็ระทวยตลอด เรื่องจีบนี่ก็ไม่ต้องพูดถึง ลงทุนลงแรงจีบเมื่อไหร่สาวๆวิ่งเข้ามาซบอกกันแทบหัวทิ่ม แต่นี่ไม่เข้าใจ? ทำไมโบรัมถึงได้ปฏิเสธแบบที่ดูเหมือนจะไม่ไยดีเลยด้วยซ้ำ

                พี่ชีวอนทั้งหล่อทั้งรวยข้อนี้รู้

                พี่ชีวอนอ่อนโยนแล้วก็เป็นสุภาพบุรุษมากๆข้อนี้ก็รู้อีก

                แต่พี่ชีวอนคะ โบรัมไม่ได้ชอบพี่ชีวอนมากเกินกว่าเป็นพี่ชายเลยค่ะ ยังไงโบรัมก็ต้องขอโทษพี่ชีวอนด้วยนะคะเสียงตอนออกจากริมฝีปากสีชมพูโคตรหวาน ยังไงปากก็คงจะหวานตามไปด้วย อะไรวะก็นึกว่าสักวันจะได้ลิ้มชิมแต่ดันเล่นมาตัดรอนกันขนาดนี้ก็แย่สิ จะว่าเล่นตัวก็คงไม่เพราะท่าทางดูเหมือนจะไม่ชอบจริงๆ

                ทำไมครับโบรัมพี่ไม่ดีตรงไหนเหรอ?”

                พี่ชีวอนเป็นคนดีค่ะ อัธยาศัยก็ดีมากๆ แต่ว่าโบรัมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว

            ฮะ? มีคนที่ชอบอยู่แล้ว  ไรวะ? ใครบังอาจมาตัดหน้ากู นี่มันน้องปีหนึ่งเฟรชชี่เพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเลยนะโว้ย!

                พอจะบอกพี่ได้ไหมครับว่าเป็นใคร

                พี่ชีวอนอยากรู้ไปทำไมคะ?”

                พี่อยากรู้ว่าคนแบบไหนที่น้องชอบ เผื่อบางทีจะได้ปรับปรุงตัวเองให้เหมือนแบบนั้น

            ก็พูดไปงั้น อยากรู้มากกว่าว่าไอ้คนที่ตัดหน้าจีบโบรัมน่ะเป็นใคร หล่อสู้กูได้มั้ย รวยสู้กูได้มั้ย หัวดีเท่ากูได้มั้ย...

                พี่ชีวอนเป็นแบบพี่เค้าไม่ได้หรอกค่ะเธอหัวเราะนิดๆ ยิ้มหน่อยๆ โบรัมเป็นผู้หญิงประเภทที่มองเผินๆ เหมือนจะง่าย แต่ลองเข้าไปทำความรู้จักสิ จะรู้ได้ทันทีว่าเธอเคี้ยวยาก

            ทำไมครับ?  ทำไมพี่ถึงเป็นแบบนั้นไม่ได้

    ก็พี่ชีวอนเจ้าชู้ ควงผู้หญิงไม่เลือกหน้า ยังไงพี่คงเลิกนิสัยเลวๆ แบบนี้ยากค่ะ โบรัมคิดว่าอย่างนั้นนะคะ

    ... แม่งฉุนชิบโดนหลอกด่าแล้วไงกู หน้าสวยแบบนั้นใครจะคิดว่าทั้งฉลาดทั้งปากคม แอบเจ็บใจอยู่เล็กๆ นึกอยากเอาชนะโบรัมขึ้นมาเหมือนกัน แต่จะไปเสียเวลาทำไม โลกนี้ยังมีผู้หญิงอีกตั้งเยอะ เอาเวลาที่เสียไปกับการตามจีบโบรัมไปจีบคนอื่นๆ จะดีกว่า

           

    ชีวอนเดินอาดๆ และหยุดตรงม้าหินของคณะเศรษฐศาสตร์พร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆ  ไม่ได้อยากจะหาเรื่องใครแต่ว่าอยากเห็นหน้าค่าตา ไอ้คนนั้นของโบรัม ว่าหน้าตาเป็นยังไงทำไมถึงชนะคนเพอร์เฟคอย่างกูได้ พยายามซักโบรัมอยู่ตั้งนานว่าคนที่ชอบเป็นใคร เธออ้ำอึ้งก่อนจะบอกชื่อที่ไม่รู้จักแล้วไม่รู้สึกติดหูสักนิด แต่ก็พอจะจำได้ขึ้นใจล่ะ ศัตรูหัวใจกลายๆ นี่หว่า...

                 กวาดสายตาไปรอบๆ แล้วสายตาก็ดันไปหยุดตรงไอ้ผู้ชายคนหนึ่ง แม่งเด่นว่ะ เด่นเพราะตัวมันขาว แต่แม่ง(อีกที)...ผิวขาวซีดแบบนั้นยังกับพวกขาดธาตุเหล็กล่ะมากกว่า หน้ามันไม่หล่อ จมูกมันก็ไม่โด่งแต่โค้งงอนดูเหมือนคนดื้อดึงเอาการ ปากมันก็ดูเชิดรั้นๆ เป็นสีแดงๆ

                เอ่อ...แล้วกูเป็นอะไรไป มายืนจ้องผู้ชายทำไมวะ?

     

            ชีวอนหันขวับเหมือนนึกได้ มองหาใครสักคนแล้วถามดีกว่าว่าคนไหนชื่อลีฮยอกแจคนที่โบรัมชอบ แต่...แถวนี้ก็ผู้ชายทั้งนั้น ขืนถามไปแล้วแจ๊กพ๊อตเจอเจ้าของชื่อขึ้นมาจะตอบยังไงล่ะเนี่ย จะตอบว่ามาดูหน้ามึงเพราะว่าโบรัมบอกว่าชอบมึงยังงั้นเหรอ? เออ...มึนกับตัวเอง มัวแต่หงุดหงิดรีบเดินมาเลยไม่ทันได้คิด คณะเศรษฐศาสตร์ยิ่งไม่ค่อยถูกชะตากับคณะบริหารอยู่ด้วย มาซ่าส์แถวนี้นานๆ เดี๋ยวเป็นเหตุให้รุ่นพี่เขาทะเลาะกันขึ้นมาแล้วเรื่องจะยุ่ง

    ...แต่แม่งไม่เข้าใจตัวเอง มึงก็คิดอะไรก็ทำอะไรของมึงไปสิ ทำไมต้องแอบชำเลืองไปมองไอ้ตัวขาวนั่นด้วยวะ?

               

    เฮ้ย...มันสบตาว่ะ!

                รีบหลบตาทันควัน เฮ้ยกูไม่ได้ตั้งใจจ้องมึงนะ แต่มึงเสือกเด่นเอง ใครใช้ให้มึงผิวขาวขนาดนั้นวะ

                หันไปมองอีกที ...มันเดินตรงมาที่กูแล้ว เฮ่ย...ทำไงดี!

             แล้วทำไมมึงต้องกลุ้มด้วยวะ ไม่ได้ทำความผิดอะไรก็แค่แอบชำเลืองมองนิดหน่อย ตัวมันก็เตี้ยกว่าตั้งเยอะ ถ้าจะมีเรื่องยังไงมึงก็ชนะ ชีวอนยืดอกหันไปมองคนที่เดินดุ่มๆ เข้ามาหา หน้าตามันดูเคร่งๆ ว่ะ เอาแล้ว...มันเดินใกล้เข้ามาแล้ว...

     

                ยิ่งมันเดินเข้ามาใกล้ให้เห็นหน้าชัดๆ ก็รู้สึกว่ามันโคตรขาว กินสำลีเป็นอาหารเหรอ ถึงได้ขาวขนาดนั้น ปากที่เห็นอยู่ไกลๆ ว่าแดง พอเห็นใกล้แล้วก็รู้สึกว่าแดงจัดกว่า

                เดินมาให้ห่างไม่กี่ก้าวก็หยุดตรงและยืนมองมาที่เขา ชีวอนจ้องกลับว่าจะส่งยิ้มให้เพื่อกลบเกลื่อนความบาดหมางแต่กลับยิ้มไม่ออก ก็ดูหน้ามันดิ ทำเหมือนกูไปแย่งผู้หญิงมันมา

                เพื่อความรอมชอมเลยจะอ้าปากบอกว่า สวัสดีแต่ไอ้ตัวขาวมันก็ชิงพูดก่อน คำพูดของมันเนี่ยทำเอาพูดต่อไม่ได้เลย แม่งงงงง ไรวะ

                อยากรู้มั้ยว่าไอ้ตัวขาวมันพูดว่ายังไง...         
           
    มันพูดว่า...       

              มองหน้ากูทำส้นมึงเหรอ?”

           
    “...

              “ว่าไง กูถามว่ามึงมองหน้ากูทำส้นมึงเหรอ?”

              ชีวอนอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบยังไง... เขามองหน้าคนถาม นึกไม่ถึงว่าไอ้นี่จะกล้าใช้สรรพนามแบบนี้กับคนที่ไม่รู้จัก...ดวงตาที่จ้อง มองก็แข็งกร้าวและมีประกายที่...เดือดปุดๆ

    หลงตัวเองไปหรือเปล่า ฉันไม่ได้มองหน้านายสักหน่อยปฏิเสธด้วยประโยคออกจะไพเราะ กูมึงไม่มีหลุดเพราะเกรงจะเสียภาพพจน์ชายชเวสุดสุภาพของมหาวิทยาลัย...

                มึงคิดว่ากูโง่ถึงขนาดไม่รู้ว่าถูกมองเหรอเออเว้ย...มันฉลาด...

                ฉันไม่ได้คิดยังงั้น ก็แค่บังเอิญหันไปมองแล้วเจอนาย...แค่นั้นตอบด้วยถ้อยคำในแบบฉบับคนมีการศึกษาแต่ก็ยอมรับว่าน้ำเสียงของตัวเองก็กวนใช่ย่อย ทำไงได้ก็ไอ้คนตรงหน้ามันวางก้ามเองนี่หว่า ตัวเล็กๆ ผอมๆ แค่นี้ดันทำตัวอย่างกับเป็นพวกนักเลงคุมคณะ มองนิดทำเป็นเดือดเป็นแค้น โธ่...ก็อยากให้รู้เหมือนกันว่าคนอย่างชเวชีวอนก็ไม่ใช่หมูที่จะให้ใครมาแหย่ได้เล่นๆ

              แล้วที่มึงยืนหัวเด่ หันซ้ายแป๊บหนึ่งมึงก็ชำเลืองไปทางกู หันขวาอีกแป๊บมึงก็หันไปทางกู...แบบนี้มึงจะบอกว่าบังเอิญหันไปเจอกูอย่าง งั้นรึเปล่า?”

    คนตัวโย่งเริ่มหน้าจืดขึ้นมาตะหงิดๆ...

    เออๆ ยอมรับก็ได้ว่าฉันมองนายจริง แต่ที่มองก็แค่แปลกใจว่าทำไมนายถึงขาวขนาดนี้เริ่มถูกต้อนจะจนมุมหาทางออกไม่ได้ก็เลยต้องตอบไปตามตรง ก็ขาวจริงๆ นี่หว่ายิ่งอยู่ใกล้ยิ่งมองเห็นความขาวของมัน ผิวหน้าก็แม่งโคตรจะบาง แอบเห็นเส้นเลือดฝอยอยู่เป็นกระจุก ผิวใสเกินไปรึเปล่าเนี่ยมึง 

                ดวงตาเล็กภายใต้ขอบตาเรียวนั่นกรอกไปมา ดูเหมือนมันกำลังคิดอะไรบางอย่างแล้วอยู่ดีๆ ก็หันขวับเดินออกไป เฮ่ออออโล่งงงงง ก็กูไม่ได้อยากจะมีเรื่องกับใครนี่หว่า

                แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว แถวนี้ก็ไม่ค่อยมีคนหน้าตาเป็นมิตรเท่าไหร่ ถึงหนึ่งในนั้นจะรวมไอ้ตัวขาวนี่อยู่ด้วย ยังไงก็ได้คุยกันแล้วล่ะวะ...ลองถามมันสักหน่อยดีกว่าว่ามันน่ะรู้จักไหมไอ้คนที่ชื่อว่าลีฮยอกแจ

                เอ่อนาย...นายเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์ใช่ไหม?”ถามปุ๊บก็หันมาแล้วยังจ้องจนตาแทบถลน ชีวอนแอบนึกถึงหมาพันธุ์ชิสุตอนตาโปนๆขึ้นมาตะหงิดๆ

                มึงถามทำไม

              พอดีกำลังตามหาคนๆ หนึ่ง...นายพอจะรู้จักเขาหรือเปล่า

              ใคร?”ถามเสียงห้วนๆ แต่ก็ไม่ได้ดูดุดันน่ากลัว สงสัยเพราะว่าหน้ามันดูละอ่อน

              ลีฮยอกแจ...ลีฮยอกแจ คณะเศรษฐศาสตร์ นายรู้จักไหม?”

              ...เงียบไปอึดใจใหญ่เลย สรุปไอ้ตัวขาวนี่มันรู้จักเปล่าวะไอ้ลีฮยอกแจน่ะ

              “…มึงมีอะไรกับมันกว่าจะพูดได้นะมึง นึกไปถึงดวงจันทร์เลยเหรอ

                แล้วนายรู้จักหรือเปล่าล่ะ

                แล้วมึงมีอะไรกับมันล่ะเอ้าย้อนกันไปย้อนกันมาอยู่นั่น...

                ก็พอดีฉันอยากรู้ว่าหน้าตาเขาเป็นยังไงน่ะ

                ก็หน้าแบบที่มึงจ้องอยู่นี่ไง กู...ลีฮยอกแจ

              ชีวอนตาโต....แม่ง....แจ๊กพ๊อต!

              มึงมีอะไรกับกูถามด้วยน้ำเสียงเคร่งๆ  คิ้วนี่ขมวดเป็นปมจนน่าจะแก้ไม่ออกแล้ว

                ไม่มีอะไรมากก็แค่อยากมาดูว่าคนที่ชื่อลีฮยอกแจหน้าตาเป็นยังไงบอกไปแบบนั้นพลางกวาดตาดูตั้งแต่หัวจรดเท้า ชีวอนรีเพลย์สิ่งที่โบรัมบอกกับเขาอีกครั้ง...เหอะ...นี่เหรอลีฮยอกแจคนที่ โบรัมบอกว่าชอบมากกว่าเขา...

                ...ไม่ได้เรื่องเลย...

                ส่ายหัวอย่างปลงๆ ยังไงก็รู้สึกว่าเทียบกับเขาไม่ติด ดูจากเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ก็ของเกลื่อนๆ รองเท้าผ้าใบขาดๆ คงได้มาจากตลาดนัด นาฬิกาก็น่ามีขายดาษๆ ทั่วไป ชีวอนยังคงสแกนคนตรงหน้าถี่ยิบด้วยเครื่องสแกนในสมองส่วนที่ควบคุมไปด้วยรสนิยมเลิศหรู

                ไม่ได้รู้ตัวเลยจริงๆ ว่าท่าทางและสายตานั้นเข้าไปกวนส้นของคนถูกตรวจสอบอย่างจัง แล้วก็ไม่รู้ตัวเลยเหมือนกันว่ามีเงากำปั้นพุ่งเข้าที่หน้าหล่อๆ  

    มารู้ตัวอีกที โน่น...กำปั้นไม่มีรูตะบันขึ้นหน้าเสียฉิบ ซี๊ดดดดเจ็บ....มือมันก็ไม่ใหญ่นี่หว่าทำไมหมัดหนักนักวะ!

              มึงต่อยกูทำไมเนี่ย!”สุดจะทนแล้วครับ หัวเสียสุดๆ อยู่ดีๆ ก็โดนต่อยจนพูดเพราะด้วยไม่ได้อีกต่อไป ไอ้นี่มารยาททราม...ต่อยมาได้ มึงไม่รู้จักใช่มั้ย กูชเวชีวอนนะมึง ขนาดรองอธิบดียังเป็นญาติกูเลย

                เรื่องของกูแสยะยิ้มแล้วถากถางด้วยสายตา แล้วเจ้าของชื่อ ลีฮยอกแจ ก็จะเดินหนีไปดื้อๆ เสียอย่างนั้น...

    เรื่องเหรอ...ชีวอนจะยอมได้ยังไง เขาตะโกนกลับ เฮ้ยมึง! แล้วก็เข้าไปกระชากคอเสื้อ

    แม่งงงงงงงงงโคตรเตี้ย ท่าทางกูก็เลยเหมือนกำลังรังแกเด็ก...

                มึงขอโทษกูเดี๋ยวนี้

                เรื่องอะไรที่กูต้องขอโทษมึงตอบเสียงห้วน แววตาท้าทาย  ไม่ได้มีความเกรงกลัวเลยเหรอมึง มึงกลัวกูหน่อยดิ๊ กูตัวโตมือใหญ่ ซัดมึงทีมึงมีโอกาสน๊อกแบบไม่ต้องนับเลยนะ

                ก็มึงต่อยหน้ากู

                ก็ช่วยไม่ได้หน้ามึงมันน่าต่อยพูดพลางยักไหล่อย่างไม่แยแส แถมทำหน้ากวนประสาท ไอ้นี่...อยากโดนสักหมัดใช่ไหม!

              พี่ชีวอน!”เสียงดังมากพอที่ทำเขาให้ต้องชะงักมือที่ง้างไว้เกือบสุด ชีวอนหันไปมองตามเสียง โบรัมนี่หว่า...อ้าวเฮ้ยกู...มาดสุภาพบุรุษแม่งหมดเลยล่ะทีเนี้ย...

                ชีวอนคลายมือแล้วหันไปทางหญิงสาวจึงเป็นโอกาสให้ฮยอกแจกระชากมือหนาออกจากคอเสื้อของเขา

               
                 ...ชีวอนหันกลับมามอง  ไอ้ตัวขาวรอดพ้นเป็นอิสระไปแล้ว...ก็ดีที่หลุดออกไป ไม่งั้นมีหวังมันคงได้คางเหลือง...

    พี่ฮยอกแจเป็นอะไรรึเปล่าคะโบรัมถลาไปหาคนที่โดนกระชากคอเสื้อเมื่อครู่ด้วยความเป็นห่วง แววตาวูบไหวยามกวาดสายตามองหาร่องรอยบาดเจ็บว่ามีปรากฏบนเนื้อตัวบ้างหรือเปล่า

    เปล่าครับพี่ไม่เป็นอะไร

    โหยยยมึง ถุยยยย ทีกับกูล่ะพูดโคตรเพราะ...ชีวอน แสยะปากมองแบบเหยียดๆ โบรัมเงยหน้าไปมองชีวอนพอดีเลยได้เห็นท่าทางนั้นด้วย เธอมองเขากลับด้วยสายตาผิดหวัง             
              “พี่ชีวอนคะ โบรัมไม่คิดเลยนะคะว่าพี่จะเป็นคนแบบนี้ ที่โบรัมยอมบอกให้พี่รู้ว่าโบรัมชอบเป็นใครก็เพราะโบรัมเห็นว่าพี่คงมี มารยาทมากพอที่จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับพี่ฮยอกแจ แต่โบรัมคิดผิดไปอย่างมากจริงๆบอกแล้วรวบมือของฮยอกแจมากุมเอาไว้แน่น    

              ชีวอนมองการกระทำของโบรัมแล้วเดือดขึ้นมาเล็กๆ ดูท่าเป็นห่วงเป็นใยกันจริง คนหนึ่งก็กุมมือไม่ปล่อย อีกคนก็ยืนปล่อยให้กุมมือแบบนิ่งๆ

                น้องโบรัมครับ พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนี่ครับก็เพราะว่าโบรัมมาทันล่ะนะ ถ้ามาไม่ทัน   อันนี้พี่ก็ไม่ยั้งมือเหมือนกัน

                พี่ต่างหากที่โดนคนของน้องโบรัมต่อยเอาบอกพลางใช้หัวแม่มือคลำๆ ที่ข้างแก้ม มันไม่ได้เฉียดๆ แต่เสยเข้ามาตรงๆ ภายนอกอาจจะแค่ช้ำนิดหน่อย แต่ข้างในก็น่าจะมีปัญหาเอาการเพราะลิ้นรับรสปะแล่มๆ ได้ ในปากคงจะมีเลือดออก...

                โบรัมมองตามมือของชีวอน เธอเห็นรอยช้ำเล็กๆ แน่นอนว่ามันไม่มีรอยนี้ปรากฏที่ส่วนไหนของพี่ฮยอกแจเลย โบรัมหันไปมองฮยอกแจอีกทีตอนนี้เธอเห็นว่าพี่ฮยอกแจกำลังยิ้มที่มุมปาก ส่วนแววตาดูสะใจเอามากๆ...

                ไม่รู้ล่ะ...ยังไงพี่ชีวอนก็ผิดที่มายุ่งกับพี่ฮยอกแจเธอบอกแล้วเปลี่ยนจากกุมมือไปเป็นคล้องแขน แบบนี้เรียกว่าเข้าข้างกันเห็นๆ อารมณ์ของชีวอนเพิ่มระดับความเดือดขึ้นไปอีก รู้สึกกำลังโดนหยามยังไงก็ไม่รู้...

                ไม่ใช่ท่าทางการกระทำของโบรัมแต่เป็นดวงตาของไอ้ตัวขาวนั่นต่างหาก ตาของมันก็โคตรเล็กมองแทบจะไม่เห็นแต่ชีวอนก็ไม่เข้าใจทำไมถึงเห็นไอ้แววตา หยามๆ นั้นแบบชัดๆ เห็นแล้วก็รู้สึกเดือดจนอยากวิ่งเข้าไปกระทืบตอนนี้เลย ให้ตายเด่ะ!    

               

    คนนี้คือใครโบรัม?”

    เจ้าของดอกไม้เมื่อวานไงคะพี่ฮยอกแจหมายถึงดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ที่เธอโยนทิ้งลงถังขยะไปอย่างไม่ไยดีเมื่อวานนั่นแหละ

    ฮยอกแจถึงกับร้อง...อ้อ...ในใจ เจ้าของดอกไม้คือไอ้หมอนี่เอง...

                ขอโทษด้วยนะที่นายคงต้องอกหัก...หันไปมองสาวน้อยข้างๆ ขยิบตาให้นิดหนึ่งแล้วพาดแขนโอบเอวให้แนบตัวเข้ามา...

    เพราะหัวใจของโบรัมมีแค่ฉันคนเดียวใช่ไหมครับ...น้องโบรัม

                ค่ะ...พี่ฮยอกแจตอบทันทีทันใดซ้ำยังยิ้มหวานแถมมองตาเคลิ้ม นี่มันจีบกันสดๆ เลยนี่หว่า....แม่งโว้ยยยยเห็นแล้วหงุดหงิด

                แต่คนสวยๆ...เขามีไว้ให้แย่งชิง...คอยดูไปนะครับน้องโบรัม...พี่จะทำให้น้องโบรัมมอบหัวใจให้พี่ให้ได้

              ฮยอกแจแทบจะอาเจียนออกมาตามภาษาเลี่ยนๆ เห่ยๆ ที่มันใช้...

              คนอย่างนายไม่มีทางทำอะไรแบบนี้ได้หรอกฮยอกแจตอบแทนโบรัมซะเลย ก็ทำไมกูนี่แหละรู้ใจโบรัมที่สุด

                ไม่ลองไม่รู้ดูมัน...พูดซะขนาดนี้ก็ยังไม่หยุด

              แต่โบรัมไม่มีวันสนใจเจ้าหมอนี่ใช่ไหมครับ

              ค่ะ...พี่ฮยอกแจเหมือนตั้งปุ่มอัตโนมัติไว้ ถามอะไรเป็นได้ตอบแบบเดิม มองแบบเดิม ยิ้มแบบเดิม...ชีวอนไม่เข้าใจไอ้หมอนี่มันมีเสน่ห์ยังไงโบรัมถึงได้เคลิ้มขนาดนั้น นอกจากความขาวที่ว่าสะดุดตาแล้ว ไอ้นี่ก็แทบไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลย หน้าตาก็งั้นๆ เลยเถอะ

                พี่จะทำให้โบรัมเปลี่ยนใจจากหมอนี่ให้ได้...มองด้วยดวงตาจริงจังและบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่แตกต่างกัน ที่จริงก็ไม่ได้สนใจหรือว่าอยากได้หัวใจโบรัมอย่างที่ปากพูด แต่เป็นเพราะอยากเอาชนะเจ้าของสายตาดูถูกนั่นเสียมากกว่า ตั้งแต่เกิดเติบโตจนมาถึงวันนี้ สาบานได้เลยว่านายชเวชีวอนยังไม่เคยโดนใครใช้สายตามองหยามเหยียดได้ขนาดนี้

                โดยเฉพาะกับคนที่เหมือนเป็นคนละระดับ ทุกคนต่างก็หลีกห่างถอยหนีไม่มีใครกล้าเทียบ ไม่เหมือนไอ้หมอนี่...ใจกล้า...ซ้ำยังเป็นเหมือนหมาดุๆ ตั้งท่าจะกัดเขาลูกเดียว

                พี่มั่นใจว่าพี่ทำได้นะ...คอยดูสิ...พูดกับโบรัมแต่สายตากลับจ้องไปที่ไอ้ตัวขาวเขม็ง ฮยอกแจกัดฟันกรอด ทำไมหมอนี่มันหน้าด้านจังวะ ขนาดผู้หญิงไม่รักไม่ชอบมันก็ยังหน้าทน ดิ้นๆ จะเอาให้ได้ นี่มันรักน้องโบรัมจริงหรือว่าแค่อยากเอาชนะ?

              สงสัยว่าจะเป็นข้อหลัง...

                แต่ไม่มีทาง ตราบใดที่กู...ลีฮยอกแจยังมีชีวิตอยู่ มึงไม่มีวันจะได้แอ้มน้องโบรัมแน่ๆ ชาติหน้าตอนดึกๆ เหอะมึง

                แล้วจะคอยดูจ้องตากลับและตอบกลับเสียงแข็งไม่ต่างกันเท่าไหร่ โบรัมหันมองคนทั้งสอง  ฟังเผินๆ เหมือนตัวเองมีค่าเพราะผู้ชายสองคนกำลังแย่งเธออยู่ แต่เอ...ไหงไม่ได้รู้สึกยังงั้น?

                จ้องกันนิ่งเป็นครู่ฮยอกแจก็แสยะยิ้ม เขาหันไปมองโบรัมที่ตอนนี้กำลังเพ่งสายตามองเขาที มองไอ้โย่งนั่นที...

    เห็นท่าทางโบรัมแล้วก็หัวเราะในลำคอ ฮยอกแจโอบไหล่หญิงสาวแล้วพาตัวออกไป แต่ก่อนไปก็ไม่วายทิ้งสายตามองหยามไปยังคู่กัดที่เพิ่งเจอกันวันแรก ชีวอนเห็นสายตานั้นแล้วก็หน้าดำหน้าแดง ...แม่งโว้ยยยย!

                คอยดูเถอะไอ้ลีฮยอกแจ เดี๋ยวมึงก็จะได้รู้ คนอย่างชเวชีวอนไม่ใช่ไอ้กระจอก กูจะแย่งน้องโบรัมมาจากมึงให้ได้ คอยดูแล้วกันมึง!

     

     

              ….

     

     

              ทั้งสองเดินเคียงคู่กันเข้ามายังคณะ เดินจนลับตาชีวอนแล้วนั่นล่ะ โบรัมก็ดึงมือที่พาดไหล่เธอไว้ออก

                พี่ฮยอกแจทำอะไรเนี่ย

              อะไร?”ถามเหมือนไม่รู้เรื่องจนโบรัมนึกหมั่นเขี้ยวขึ้นมา

                พี่ฮยอกแจอ่ะ...ก็พี่ไปต่อยพี่ชีวอนเค้าทำไมล่ะ

                ก็หมั่นไส้มัน...ตอบแบบอารมณ์ดี วันนี้รู้สึกโล่งสมอง สงสัยเป็นเพราะว่าได้ต่อยคน

                ฮยอกแจหันมามองหญิงสาวที่ตอนนี้หน้ายุ่งๆ เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะสั่งสอนประสาคนเป็นพี่ชายและผู้ชาย

              จำไว้นะโบรัม เวลามีคนมาจีบต้องให้พี่ดูก่อนว่าคนๆ นั้นดีพอที่จะคบด้วยหรือเปล่า

                แต่พี่ชีวอนก็ดีเกินพอเลยนะพี่ฮยอกแจ เพราะว่าพี่เค้าน่ะทั้งหล่อ ทั้งรวย เรียนก็เก่ง เล่นกีฬาก็ดี เป็นหนึ่งในกรรมการนักศึกษา ยิ้มก็มีเสน่ห์...แล้วก็...กำลังจะพูดต่อแต่พอเห็นหน้าฮยอกแจก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ... ถ้าพี่ฮยอกแจมีหนวดป่านนี้หนวดก็คงกระดิกเพราะความหวงน้องสาวไปแล้ว

                พี่ฮยอกแจจ๋า...ร้องเสียงหวานแล้วมองตาปริบๆ ฮยอกแจจ้องมองโบรัม  ทำหน้าทำตาแบบนี้อีกแล้ว ก็รู้ๆ อยู่ว่าทำแบบนี้ทีไรต้องใจอ่อนให้ทุกที

                พี่ฮยอกแจเป็นห่วงโบรัมมากๆ เลยใช่ม๊าถามเสียงอ้อนๆ แล้วก็เอนหน้ามาซบที่อก...นี่ล่ะโบรัมตัวจริงเลย...โคตรจะขี้อ้อน

                ก็ใช่สิถ้าไม่ห่วงเราแล้วจะให้พี่ห่วงใครที่ไหนบอกพลางใช้มือลูบผมอย่างเอ็นดู...โบรัม...ปาร์คโบรัม น้องสาวคนนี้เป็นลูกของอาที่เขารักมาก...บางทีเขาก็รู้สึกว่าเขารักอายิ่งกว่ารักพ่อแม่แท้ๆ ของเขาเสียอีก...

                โบรัมอย่าไปใจอ่อนให้มันเด็ดขาด ถึงมันจะดูพร้อมแค่ไหน แต่พี่ก็ดูสันดานมันออก ไอ้นั่นมันไม่ได้รักเราหรอก มันก็แค่อยากได้เราเท่านั้น

              รู้แล้วจ้ะโบรัมผงกหัวอย่างเชื่อฟังพี่ชาย ก็แหม่...ชื่อเสียงคาสโนวอนก็ไม่ใช่ย่อยๆ เลย เธอก็รู้อยู่เหมือนกันล่ะน่า...

                วันนี้พี่ต้องรีบกลับไปทำรายงาน พี่คงต้องกลับก่อน กลับบ้านคนเดียวก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ ด้วยล่ะน้องรัก

                ค่าพี่ชายที่รักตอบพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เป็นอีกครั้งที่ฮยอกแจยกมือไปลูบเรือนผมนุ่มของโบรัมอย่างเอ็นดู...น่ารักจริงโว้ยน้องสาวคนนี้...

                 

     

              ….

     

     

     

                ฮยอกแจพักตรงหอพักในเขตรอบนอกมหาวิทยาลัย เพื่อความประหยัดเขาจึงเลือกเดินทางด้วยการใช้สองเท้า ซึ่งก็ใช้เวลาราวๆ 20 นาที ไม่ได้กินเวลาอะไรมากมายนัก

              พอเดินขึ้นมาจนถึงห้องพักก็ต้องชะงัก เพราะมีคนหน้าคุ้นเคยยืนดักรออยู่ตรงหน้าห้อง มันเป็นคนหุ่นโปร่ง สูงราวๆ 180 ใบหน้าเรียวแต่แก้มค่อนข้างซูบ...

                มีอะไรถามเสียงเรียบ ส่วนตา...แทบจะไม่อยากมองมันด้วยซ้ำ...

                เจ้าเด็กนั่นไม่ตอบ แต่แบมือยื่นมาตรงหน้า เหมือนเป็นสิ่งที่รู้กันดี ฮยอกแจชายตามองแต่ก็ยอมคว้ากระเป๋าเงินออกจากกระเป๋ากางเกง มือเรียวกำลังกางกระเป๋าออกแต่ก็ดันโดนแย่งกระเป๋าทั้งใบไปจากมือ

                อะไร ทำไมมีเงินแค่เนี้ย?”ดึงแบงค์หมื่นวอนหลายๆ ใบออกแล้วเหลือแบงค์พันวอนไว้แค่สี่ห้าใบก่อนโยนคืนเจ้าของที่ตอนนี้ยังคงมีใบหน้าเรียบนิ่ง    

                ช่วงนี้รายงานเยอะตอบไปสั้นๆ พลางก้มลงหยิบกระเป๋าที่มันร่วงสู่พื้นเพราะตอนที่ไอ้เด็กนั่นโยนให้มา เขาไม่ได้รับ...

                แม่...เป็นไงมั่งถามเสียงนิ่งแต่มีความเหนื่อยอ่อนซ่อนอยู่ ไอ้เด็กนั่นไม่ยอมตอบ ปากมันเอาแต่เคี้ยวหมากฝรั่งแจ๊บๆ แล้วยืนนิ่งพิงอยู่ตรงหน้าประตูห้องพัก

                ... เงียบกันทั้งครู่และเป็นอย่างนั้นอยู่ชั่วอึดใจได้ แล้วไอ้เด็กนั่นมันก็ยืนตัวตรง สงสัยความอดทนของมันหมดเพราะมันเป็นคนที่อยู่นิ่งๆ ได้ไม่นาน พอยืนตรงได้สักพักมันก็เดินเฉียดเขาไปตรงทางลงบันได แต่ก่อนจะเดินจากไป ไอ้เด็กนั่นมันก็ทิ้งคำตอบไว้ให้เขาต้องใจสั่น...

    เหมือนเดิม

                เหมือนเดิม...ถ้าเหมือนเดิมก็หมายความว่าเหตุการณ์ที่บ้านก็ยังแย่...แย่เหมือนๆ เดิม

    ฮยอกแจมองตามหลังไวๆ ของไอ้เด็กอายุน้อยกว่าคนนั้น...ลมหายใจถูกพ่นออกมาไม่รู้จักกี่ครั้ง รู้สึกเหนื่อยใจทั้งเรื่องของแม่และเรื่องของมัน

    .

     

    .

     

    .

     

    มัน...ชเวซึงฮยอน...น้องชายคนละพ่อกับเขา




    -----------------------------------------------------------
    28/12/2008
    +30/12/2008 & post 29012009

    ที่จริงมันอยู่คนละตอน แต่มันสั้นมาก
    พอมาถึงที่นี่ก็เลยจับมารวมกันจ้ะ แหะๆ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×