คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : EP.1 IMPOSSIBLE :: คนของเธอ
ชีวอนอกหัก
ใครจะคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ กับคนรูปหล่อ พ่อเป็นมหาเศรษฐี แม่เป็นผู้ดีเก่าอย่างชเวชีวอนนักศึกษาเดือนเด่นปี 2 คณะบริหารธุรกิจ...
แต่...มันเกิดขึ้นแล้วครับ เกิดขึ้นจริงๆ แล้วก็เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ด้วย!
อะไรกันวะ คนอย่างกูนี่นะโดนหักอก? นี่กูฝันไปรึเปล่า? ตลอด 19 ปีที่ผ่านมาแค่หลิ่วตาบวกกับส่งลักยิ้มบุ๋มๆ ไปให้ รายไหนรายนั้นก็ระทวยตลอด เรื่องจีบนี่ก็ไม่ต้องพูดถึง ลงทุนลงแรงจีบเมื่อไหร่สาวๆวิ่งเข้ามาซบอกกันแทบหัวทิ่ม แต่นี่ไม่เข้าใจ? ทำไมโบรัมถึงได้ปฏิเสธแบบที่ดูเหมือนจะไม่ไยดีเลยด้วยซ้ำ
“พี่ชีวอนทั้งหล่อทั้งรวย”ข้อนี้รู้
“พี่ชีวอนอ่อนโยนแล้วก็เป็นสุภาพบุรุษมากๆ”ข้อนี้ก็รู้อีก
“แต่พี่ชีวอนคะ โบรัมไม่ได้ชอบพี่ชีวอนมากเกินกว่าเป็นพี่ชายเลยค่ะ ยังไงโบรัมก็ต้องขอโทษพี่ชีวอนด้วยนะคะ”เสียงตอนออกจากริมฝีปากสีชมพูโคตรหวาน ยังไงปากก็คงจะหวานตามไปด้วย อะไรวะก็นึกว่าสักวันจะได้ลิ้มชิมแต่ดันเล่นมาตัดรอนกันขนาดนี้ก็แย่สิ จะว่าเล่นตัวก็คงไม่เพราะท่าทางดูเหมือนจะไม่ชอบจริงๆ
“ทำไมครับโบรัมพี่ไม่ดีตรงไหนเหรอ?”
“พี่ชีวอนเป็นคนดีค่ะ อัธยาศัยก็ดีมากๆ แต่ว่า…โบรัมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
ฮะ? มีคนที่ชอบอยู่แล้ว ไรวะ? ใครบังอาจมาตัดหน้ากู นี่มันน้องปีหนึ่งเฟรชชี่เพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเลยนะโว้ย!
“พอจะบอกพี่ได้ไหมครับว่าเป็นใคร”
“พี่ชีวอนอยากรู้ไปทำไมคะ?”
“พี่อยากรู้ว่าคนแบบไหนที่น้องชอบ เผื่อบางทีจะได้ปรับปรุงตัวเองให้เหมือนแบบนั้น”
ก็พูดไปงั้น อยากรู้มากกว่าว่าไอ้คนที่ตัดหน้าจีบโบรัมน่ะเป็นใคร หล่อสู้กูได้มั้ย รวยสู้กูได้มั้ย หัวดีเท่ากูได้มั้ย...
“พี่ชีวอนเป็นแบบพี่เค้าไม่ได้หรอกค่ะ”เธอหัวเราะนิดๆ ยิ้มหน่อยๆ โบรัมเป็นผู้หญิงประเภทที่มองเผินๆ เหมือนจะง่าย แต่ลองเข้าไปทำความรู้จักสิ จะรู้ได้ทันทีว่าเธอเคี้ยวยาก
“ทำไมครับ? ทำไมพี่ถึงเป็นแบบนั้นไม่ได้”
“ก็พี่ชีวอนเจ้าชู้ ควงผู้หญิงไม่เลือกหน้า ยังไงพี่คงเลิกนิสัยเลวๆ แบบนี้ยากค่ะ โบรัมคิดว่าอย่างนั้นนะคะ”
... แม่งฉุนชิบโดนหลอกด่าแล้วไงกู หน้าสวยแบบนั้นใครจะคิดว่าทั้งฉลาดทั้งปากคม แอบเจ็บใจอยู่เล็กๆ นึกอยากเอาชนะโบรัมขึ้นมาเหมือนกัน แต่จะไปเสียเวลาทำไม โลกนี้ยังมีผู้หญิงอีกตั้งเยอะ เอาเวลาที่เสียไปกับการตามจีบโบรัมไปจีบคนอื่นๆ จะดีกว่า
ชีวอนเดินอาดๆ และหยุดตรงม้าหินของคณะเศรษฐศาสตร์พร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆ ไม่ได้อยากจะหาเรื่องใครแต่ว่าอยากเห็นหน้าค่าตา “ไอ้คนนั้นของโบรัม” ว่าหน้าตาเป็นยังไงทำไมถึงชนะคนเพอร์เฟคอย่างกูได้ พยายามซักโบรัมอยู่ตั้งนานว่าคนที่ชอบเป็นใคร เธออ้ำอึ้งก่อนจะบอกชื่อที่ไม่รู้จักแล้วไม่รู้สึกติดหูสักนิด แต่ก็พอจะจำได้ขึ้นใจล่ะ ศัตรูหัวใจกลายๆ นี่หว่า...
เอ่อ...แล้วกูเป็นอะไรไป มายืนจ้องผู้ชายทำไมวะ?
ชีวอนหันขวับเหมือนนึกได้ มองหาใครสักคนแล้วถามดีกว่าว่าคนไหนชื่อลีฮยอกแจคนที่โบรัมชอบ แต่...แถวนี้ก็ผู้ชายทั้งนั้น ขืนถามไปแล้วแจ๊กพ๊อตเจอเจ้าของชื่อขึ้นมาจะตอบยังไงล่ะเนี่ย จะตอบว่ามาดูหน้ามึงเพราะว่าโบรัมบอกว่าชอบมึงยังงั้นเหรอ? เออ...มึนกับตัวเอง มัวแต่หงุดหงิดรีบเดินมาเลยไม่ทันได้คิด คณะเศรษฐศาสตร์ยิ่งไม่ค่อยถูกชะตากับคณะบริหารอยู่ด้วย มาซ่าส์แถวนี้นานๆ เดี๋ยวเป็นเหตุให้รุ่นพี่เขาทะเลาะกันขึ้นมาแล้วเรื่องจะยุ่ง
...แต่แม่งไม่เข้าใจตัวเอง มึงก็คิดอะไรก็ทำอะไรของมึงไปสิ ทำไมต้องแอบชำเลืองไปมองไอ้ตัวขาวนั่นด้วยวะ?
เฮ้ย...มันสบตาว่ะ!
รีบหลบตาทันควัน เฮ้ยกูไม่ได้ตั้งใจจ้องมึงนะ แต่มึงเสือกเด่นเอง ใครใช้ให้มึงผิวขาวขนาดนั้นวะ
หันไปมองอีกที ...มันเดินตรงมาที่กูแล้ว เฮ่ย...ทำไงดี!
แล้วทำไมมึงต้องกลุ้มด้วยวะ ไม่ได้ทำความผิดอะไรก็แค่แอบชำเลืองมองนิดหน่อย ตัวมันก็เตี้ยกว่าตั้งเยอะ ถ้าจะมีเรื่องยังไงมึงก็ชนะ ชีวอนยืดอกหันไปมองคนที่เดินดุ่มๆ เข้ามาหา หน้าตามันดูเคร่งๆ ว่ะ เอาแล้ว...มันเดินใกล้เข้ามาแล้ว...
ยิ่งมันเดินเข้ามาใกล้ให้เห็นหน้าชัดๆ ก็รู้สึกว่ามันโคตรขาว กินสำลีเป็นอาหารเหรอ ถึงได้ขาวขนาดนั้น ปากที่เห็นอยู่ไกลๆ ว่าแดง พอเห็นใกล้แล้วก็รู้สึกว่าแดงจัดกว่า
เดินมาให้ห่างไม่กี่ก้าวก็หยุดตรงและยืนมองมาที่เขา ชีวอนจ้องกลับว่าจะส่งยิ้มให้เพื่อกลบเกลื่อนความบาดหมางแต่กลับยิ้มไม่ออก ก็ดูหน้ามันดิ ทำเหมือนกูไปแย่งผู้หญิงมันมา
เพื่อความรอมชอมเลยจะอ้าปากบอกว่า “สวัสดี” แต่ไอ้ตัวขาวมันก็ชิงพูดก่อน คำพูดของมันเนี่ยทำเอาพูดต่อไม่ได้เลย แม่งงงงง ไรวะ
อยากรู้มั้ยว่าไอ้ตัวขาวมันพูดว่ายังไง...
มันพูดว่า...
“...”
“ว่าไง กูถามว่ามึงมองหน้ากูทำส้นมึงเหรอ?”
ชีวอนอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบยังไง... เขามองหน้าคนถาม นึกไม่ถึงว่าไอ้นี่จะกล้าใช้สรรพนามแบบนี้กับคนที่ไม่รู้จัก...ดวงตาที่จ้อง มองก็แข็งกร้าวและมีประกายที่...เดือดปุดๆ
“หลงตัวเองไปหรือเปล่า ฉันไม่ได้มองหน้านายสักหน่อย”ปฏิเสธด้วยประโยคออกจะไพเราะ กูมึงไม่มีหลุดเพราะเกรงจะเสียภาพพจน์ชายชเวสุดสุภาพของมหาวิทยาลัย...
“มึงคิดว่ากูโง่ถึงขนาดไม่รู้ว่าถูกมองเหรอ”เออเว้ย...มันฉลาด...
“ฉันไม่ได้คิดยังงั้น ก็แค่บังเอิญหันไปมองแล้วเจอนาย...แค่นั้น”ตอบด้วยถ้อยคำในแบบฉบับคนมีการศึกษาแต่ก็ยอมรับว่าน้ำเสียงของตัวเองก็กวนใช่ย่อย ทำไงได้ก็ไอ้คนตรงหน้ามันวางก้ามเองนี่หว่า ตัวเล็กๆ ผอมๆ แค่นี้ดันทำตัวอย่างกับเป็นพวกนักเลงคุมคณะ มองนิดทำเป็นเดือดเป็นแค้น โธ่...ก็อยากให้รู้เหมือนกันว่าคนอย่างชเวชีวอนก็ไม่ใช่หมูที่จะให้ใครมาแหย่ได้เล่นๆ
“แล้วที่มึงยืนหัวเด่ หันซ้ายแป๊บหนึ่งมึงก็ชำเลืองไปทางกู หันขวาอีกแป๊บมึงก็หันไปทางกู...แบบนี้มึงจะบอกว่าบังเอิญหันไปเจอกูอย่าง งั้นรึเปล่า?”
คนตัวโย่งเริ่มหน้าจืดขึ้นมาตะหงิดๆ...
“เออๆ ยอมรับก็ได้ว่าฉันมองนายจริง แต่ที่มองก็แค่แปลกใจว่าทำไมนายถึงขาวขนาดนี้”เริ่มถูกต้อนจะจนมุมหาทางออกไม่ได้ก็เลยต้องตอบไปตามตรง ก็ขาวจริงๆ นี่หว่ายิ่งอยู่ใกล้ยิ่งมองเห็นความขาวของมัน ผิวหน้าก็แม่งโคตรจะบาง แอบเห็นเส้นเลือดฝอยอยู่เป็นกระจุก ผิวใสเกินไปรึเปล่าเนี่ยมึง
ดวงตาเล็กภายใต้ขอบตาเรียวนั่นกรอกไปมา ดูเหมือนมันกำลังคิดอะไรบางอย่าง…แล้วอยู่ดีๆ ก็หันขวับเดินออกไป เฮ่ออออโล่งงงงง ก็กูไม่ได้อยากจะมีเรื่องกับใครนี่หว่า
แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว แถวนี้ก็ไม่ค่อยมีคนหน้าตาเป็นมิตรเท่าไหร่ ถึงหนึ่งในนั้นจะรวมไอ้ตัวขาวนี่อยู่ด้วย ยังไงก็ได้คุยกันแล้วล่ะวะ...ลองถามมันสักหน่อยดีกว่าว่ามันน่ะรู้จักไหมไอ้คนที่ชื่อว่าลีฮยอกแจ
“เอ่อนาย...นายเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์ใช่ไหม?”ถามปุ๊บก็หันมาแล้วยังจ้องจนตาแทบถลน ชีวอนแอบนึกถึงหมาพันธุ์ชิสุตอนตาโปนๆขึ้นมาตะหงิดๆ
“มึงถามทำไม”
“พอดีกำลังตามหาคนๆ หนึ่ง...นายพอจะรู้จักเขาหรือเปล่า”
“ใคร?”ถามเสียงห้วนๆ แต่ก็ไม่ได้ดูดุดันน่ากลัว สงสัยเพราะว่าหน้ามันดูละอ่อน
“ลีฮยอกแจ...ลีฮยอกแจ คณะเศรษฐศาสตร์ นายรู้จักไหม?”
“...”เงียบไปอึดใจใหญ่เลย สรุปไอ้ตัวขาวนี่มันรู้จักเปล่าวะไอ้ลีฮยอกแจน่ะ
“…มึงมีอะไรกับมัน”กว่าจะพูดได้นะมึง นึกไปถึงดวงจันทร์เลยเหรอ
“แล้วนายรู้จักหรือเปล่าล่ะ”
“แล้วมึงมีอะไรกับมันล่ะ”เอ้าย้อนกันไปย้อนกันมาอยู่นั่น...
“ก็พอดีฉันอยากรู้ว่าหน้าตาเขาเป็นยังไงน่ะ”
“ก็หน้าแบบที่มึงจ้องอยู่นี่ไง กู...ลีฮยอกแจ”
ชีวอนตาโต....แม่ง....แจ๊กพ๊อต!
“มึงมีอะไรกับกู”ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งๆ คิ้วนี่ขมวดเป็นปมจนน่าจะแก้ไม่ออกแล้ว
“ไม่มีอะไรมากก็แค่อยากมาดูว่าคนที่ชื่อลีฮยอกแจหน้าตาเป็นยังไง”บอกไปแบบนั้นพลางกวาดตาดูตั้งแต่หัวจรดเท้า ชีวอนรีเพลย์สิ่งที่โบรัมบอกกับเขาอีกครั้ง...เหอะ...นี่เหรอลีฮยอกแจคนที่ โบรัมบอกว่าชอบมากกว่าเขา...…
...ไม่ได้เรื่องเลย...
ส่ายหัวอย่างปลงๆ ยังไงก็รู้สึกว่าเทียบกับเขาไม่ติด ดูจากเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ก็ของเกลื่อนๆ รองเท้าผ้าใบขาดๆ คงได้มาจากตลาดนัด นาฬิกาก็น่ามีขายดาษๆ ทั่วไป ชีวอนยังคงสแกนคนตรงหน้าถี่ยิบด้วยเครื่องสแกนในสมองส่วนที่ควบคุมไปด้วยรสนิยมเลิศหรู
ไม่ได้รู้ตัวเลยจริงๆ ว่าท่าทางและสายตานั้นเข้าไปกวนส้นของคนถูกตรวจสอบอย่างจัง แล้วก็ไม่รู้ตัวเลยเหมือนกันว่ามีเงากำปั้นพุ่งเข้าที่หน้าหล่อๆ
มารู้ตัวอีกที โน่น...กำปั้นไม่มีรูตะบันขึ้นหน้าเสียฉิบ ซี๊ดดดดเจ็บ....มือมันก็ไม่ใหญ่นี่หว่าทำไมหมัดหนักนักวะ!
“มึงต่อยกูทำไมเนี่ย!”สุดจะทนแล้วครับ หัวเสียสุดๆ อยู่ดีๆ ก็โดนต่อยจนพูดเพราะด้วยไม่ได้อีกต่อไป ไอ้นี่มารยาททราม...ต่อยมาได้ มึงไม่รู้จักใช่มั้ย กูชเวชีวอนนะมึง ขนาดรองอธิบดียังเป็นญาติกูเลย
“เรื่องของกู”แสยะยิ้มแล้วถากถางด้วยสายตา แล้วเจ้าของชื่อ “ลีฮยอกแจ” ก็จะเดินหนีไปดื้อๆ เสียอย่างนั้น...
เรื่องเหรอ...ชีวอนจะยอมได้ยังไง เขาตะโกนกลับ เฮ้ยมึง! แล้วก็เข้าไปกระชากคอเสื้อ
แม่งงงงงงงงงโคตรเตี้ย ท่าทางกูก็เลยเหมือนกำลังรังแกเด็ก...
“มึงขอโทษกูเดี๋ยวนี้”
“เรื่องอะไรที่กูต้องขอโทษมึง”ตอบเสียงห้วน แววตาท้าทาย ไม่ได้มีความเกรงกลัวเลยเหรอมึง มึงกลัวกูหน่อยดิ๊ กูตัวโตมือใหญ่ ซัดมึงทีมึงมีโอกาสน๊อกแบบไม่ต้องนับเลยนะ
“ก็มึงต่อยหน้ากู”
“ก็ช่วยไม่ได้หน้ามึงมันน่าต่อย”พูดพลางยักไหล่อย่างไม่แยแส แถมทำหน้ากวนประสาท ไอ้นี่...อยากโดนสักหมัดใช่ไหม!
“พี่ชีวอน!”เสียงดังมากพอที่ทำเขาให้ต้องชะงักมือที่ง้างไว้เกือบสุด ชีวอนหันไปมองตามเสียง โบรัมนี่หว่า...อ้าวเฮ้ยกู...มาดสุภาพบุรุษแม่งหมดเลยล่ะทีเนี้ย...
ชีวอนคลายมือแล้วหันไปทางหญิงสาวจึงเป็นโอกาสให้ฮยอกแจกระชากมือหนาออกจากคอเสื้อของเขา
...ชีวอนหันกลับมามอง ไอ้ตัวขาวรอดพ้นเป็นอิสระไปแล้ว...ก็ดีที่หลุดออกไป ไม่งั้นมีหวังมันคงได้คางเหลือง...
“พี่ฮยอกแจเป็นอะไรรึเปล่าคะ”โบรัมถลาไปหาคนที่โดนกระชากคอเสื้อเมื่อครู่ด้วยความเป็นห่วง แววตาวูบไหวยามกวาดสายตามองหาร่องรอยบาดเจ็บว่ามีปรากฏบนเนื้อตัวบ้างหรือเปล่า
“เปล่าครับพี่ไม่เป็นอะไร”
โหยยยมึง ถุยยยย ทีกับกูล่ะพูดโคตรเพราะ...ชีวอน แสยะปากมองแบบเหยียดๆ โบรัมเงยหน้าไปมองชีวอนพอดีเลยได้เห็นท่าทางนั้นด้วย เธอมองเขากลับด้วยสายตาผิดหวัง
“พี่ชีวอนคะ โบรัมไม่คิดเลยนะคะว่าพี่จะเป็นคนแบบนี้ ที่โบรัมยอมบอกให้พี่รู้ว่าโบรัมชอบเป็นใครก็เพราะโบรัมเห็นว่าพี่คงมี มารยาทมากพอที่จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับพี่ฮยอกแจ แต่โบรัมคิดผิดไปอย่างมากจริงๆ”บอกแล้วรวบมือของฮยอกแจมากุมเอาไว้แน่น
ชีวอนมองการกระทำของโบรัมแล้วเดือดขึ้นมาเล็กๆ ดูท่าเป็นห่วงเป็นใยกันจริง คนหนึ่งก็กุมมือไม่ปล่อย อีกคนก็ยืนปล่อยให้กุมมือแบบนิ่งๆ
“น้องโบรัมครับ พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนี่ครับ”ก็เพราะว่าโบรัมมาทันล่ะนะ ถ้ามาไม่ทัน …อันนี้พี่ก็ไม่ยั้งมือเหมือนกัน
“พี่ต่างหากที่โดนคนของน้องโบรัมต่อยเอา”บอกพลางใช้หัวแม่มือคลำๆ ที่ข้างแก้ม มันไม่ได้เฉียดๆ แต่เสยเข้ามาตรงๆ ภายนอกอาจจะแค่ช้ำนิดหน่อย แต่ข้างในก็น่าจะมีปัญหาเอาการเพราะลิ้นรับรสปะแล่มๆ ได้ ในปากคงจะมีเลือดออก...
โบรัมมองตามมือของชีวอน เธอเห็นรอยช้ำเล็กๆ แน่นอนว่ามันไม่มีรอยนี้ปรากฏที่ส่วนไหนของพี่ฮยอกแจเลย โบรัมหันไปมองฮยอกแจอีกทีตอนนี้เธอเห็นว่าพี่ฮยอกแจกำลังยิ้มที่มุมปาก ส่วนแววตาดูสะใจเอามากๆ...
“ไม่รู้ล่ะ...ยังไงพี่ชีวอนก็ผิดที่มายุ่งกับพี่ฮยอกแจ”เธอบอกแล้วเปลี่ยนจากกุมมือไปเป็นคล้องแขน แบบนี้เรียกว่าเข้าข้างกันเห็นๆ อารมณ์ของชีวอนเพิ่มระดับความเดือดขึ้นไปอีก รู้สึกกำลังโดนหยามยังไงก็ไม่รู้...
ไม่ใช่ท่าทางการกระทำของโบรัมแต่เป็นดวงตาของไอ้ตัวขาวนั่นต่างหาก ตาของมันก็โคตรเล็กมองแทบจะไม่เห็นแต่ชีวอนก็ไม่เข้าใจทำไมถึงเห็นไอ้แววตา หยามๆ นั้นแบบชัดๆ เห็นแล้วก็รู้สึกเดือดจนอยากวิ่งเข้าไปกระทืบตอนนี้เลย ให้ตายเด่ะ!
“คนนี้คือใครโบรัม?”
“เจ้าของดอกไม้เมื่อวานไงคะพี่ฮยอกแจ”หมายถึงดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ที่เธอโยนทิ้งลงถังขยะไปอย่างไม่ไยดีเมื่อวานนั่นแหละ
ฮยอกแจถึงกับร้อง...อ้อ...ในใจ เจ้าของดอกไม้คือไอ้หมอนี่เอง...
“ขอโทษด้วยนะที่นายคงต้องอกหัก...”หันไปมองสาวน้อยข้างๆ ขยิบตาให้นิดหนึ่งแล้วพาดแขนโอบเอวให้แนบตัวเข้ามา...
“เพราะหัวใจของโบรัมมีแค่ฉันคนเดียว…ใช่ไหมครับ...น้องโบรัม”
“ค่ะ...พี่ฮยอกแจ”ตอบทันทีทันใดซ้ำยังยิ้มหวานแถมมองตาเคลิ้ม นี่มันจีบกันสดๆ เลยนี่หว่า....แม่งโว้ยยยยเห็นแล้วหงุดหงิด
“แต่คนสวยๆ...เขามีไว้ให้แย่งชิง...คอยดูไปนะครับน้องโบรัม...พี่จะทำให้น้องโบรัมมอบหัวใจให้พี่ให้ได้”
ฮยอกแจแทบจะอาเจียนออกมาตามภาษาเลี่ยนๆ เห่ยๆ ที่มันใช้...
“คนอย่างนายไม่มีทางทำอะไรแบบนี้ได้หรอก”ฮยอกแจตอบแทนโบรัมซะเลย ก็ทำไมกูนี่แหละรู้ใจโบรัมที่สุด
“ไม่ลองไม่รู้”ดูมัน...พูดซะขนาดนี้ก็ยังไม่หยุด
“แต่โบรัมไม่มีวันสนใจเจ้าหมอนี่ใช่ไหมครับ”
“ค่ะ...พี่ฮยอกแจ”เหมือนตั้งปุ่มอัตโนมัติไว้ ถามอะไรเป็นได้ตอบแบบเดิม มองแบบเดิม ยิ้มแบบเดิม...ชีวอนไม่เข้าใจไอ้หมอนี่มันมีเสน่ห์ยังไงโบรัมถึงได้เคลิ้มขนาดนั้น นอกจากความขาวที่ว่าสะดุดตาแล้ว ไอ้นี่ก็แทบไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลย หน้าตาก็งั้นๆ เลยเถอะ
“พี่จะทำให้โบรัมเปลี่ยนใจจากหมอนี่ให้ได้...”มองด้วยดวงตาจริงจังและบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่แตกต่างกัน ที่จริงก็ไม่ได้สนใจหรือว่าอยากได้หัวใจโบรัมอย่างที่ปากพูด แต่เป็นเพราะอยากเอาชนะเจ้าของสายตาดูถูกนั่นเสียมากกว่า ตั้งแต่เกิดเติบโตจนมาถึงวันนี้ สาบานได้เลยว่านายชเวชีวอนยังไม่เคยโดนใครใช้สายตามองหยามเหยียดได้ขนาดนี้
โดยเฉพาะกับคนที่เหมือนเป็นคนละระดับ ทุกคนต่างก็หลีกห่างถอยหนีไม่มีใครกล้าเทียบ ไม่เหมือนไอ้หมอนี่...ใจกล้า...ซ้ำยังเป็นเหมือนหมาดุๆ ตั้งท่าจะกัดเขาลูกเดียว
“พี่มั่นใจว่าพี่ทำได้นะ...คอยดูสิ...”พูดกับโบรัมแต่สายตากลับจ้องไปที่ไอ้ตัวขาวเขม็ง ฮยอกแจกัดฟันกรอด ทำไมหมอนี่มันหน้าด้านจังวะ ขนาดผู้หญิงไม่รักไม่ชอบมันก็ยังหน้าทน ดิ้นๆ จะเอาให้ได้ นี่มันรักน้องโบรัมจริงหรือว่าแค่อยากเอาชนะ?
สงสัยว่าจะเป็นข้อหลัง...
แต่ไม่มีทาง ตราบใดที่กู...ลีฮยอกแจยังมีชีวิตอยู่ มึงไม่มีวันจะได้แอ้มน้องโบรัมแน่ๆ ชาติหน้าตอนดึกๆ เหอะมึง
“แล้วจะคอยดู”จ้องตากลับและตอบกลับเสียงแข็งไม่ต่างกันเท่าไหร่ โบรัมหันมองคนทั้งสอง ฟังเผินๆ เหมือนตัวเองมีค่าเพราะผู้ชายสองคนกำลังแย่งเธออยู่ แต่เอ...ไหงไม่ได้รู้สึกยังงั้น?
จ้องกันนิ่งเป็นครู่ฮยอกแจก็แสยะยิ้ม เขาหันไปมองโบรัมที่ตอนนี้กำลังเพ่งสายตามองเขาที มองไอ้โย่งนั่นที...
เห็นท่าทางโบรัมแล้วก็หัวเราะในลำคอ ฮยอกแจโอบไหล่หญิงสาวแล้วพาตัวออกไป แต่ก่อนไปก็ไม่วายทิ้งสายตามองหยามไปยังคู่กัดที่เพิ่งเจอกันวันแรก ชีวอนเห็นสายตานั้นแล้วก็หน้าดำหน้าแดง ...แม่งโว้ยยยย!
คอยดูเถอะไอ้ลีฮยอกแจ เดี๋ยวมึงก็จะได้รู้ คนอย่างชเวชีวอนไม่ใช่ไอ้กระจอก กูจะแย่งน้องโบรัมมาจากมึงให้ได้ คอยดูแล้วกันมึง!
….
ทั้งสองเดินเคียงคู่กันเข้ามายังคณะ เดินจนลับตาชีวอนแล้วนั่นล่ะ โบรัมก็ดึงมือที่พาดไหล่เธอไว้ออก
“พี่ฮยอกแจทำอะไรเนี่ย”
“อะไร?”ถามเหมือนไม่รู้เรื่องจนโบรัมนึกหมั่นเขี้ยวขึ้นมา
“พี่ฮยอกแจอ่ะ...ก็พี่ไปต่อยพี่ชีวอนเค้าทำไมล่ะ”
“ก็หมั่นไส้มัน...”ตอบแบบอารมณ์ดี วันนี้รู้สึกโล่งสมอง สงสัยเป็นเพราะว่าได้ต่อยคน
ฮยอกแจหันมามองหญิงสาวที่ตอนนี้หน้ายุ่งๆ เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะสั่งสอนประสาคนเป็นพี่ชายและผู้ชาย
“จำไว้นะโบรัม เวลามีคนมาจีบต้องให้พี่ดูก่อนว่าคนๆ นั้นดีพอที่จะคบด้วยหรือเปล่า”
“แต่พี่ชีวอนก็ดีเกินพอเลยนะพี่ฮยอกแจ เพราะว่าพี่เค้าน่ะทั้งหล่อ ทั้งรวย เรียนก็เก่ง เล่นกีฬาก็ดี เป็นหนึ่งในกรรมการนักศึกษา ยิ้มก็มีเสน่ห์...แล้วก็...”กำลังจะพูดต่อแต่พอเห็นหน้าฮยอกแจก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ... ถ้าพี่ฮยอกแจมีหนวดป่านนี้หนวดก็คงกระดิกเพราะความหวงน้องสาวไปแล้ว
“พี่ฮยอกแจจ๋า...”ร้องเสียงหวานแล้วมองตาปริบๆ ฮยอกแจจ้องมองโบรัม ทำหน้าทำตาแบบนี้อีกแล้ว ก็รู้ๆ อยู่ว่าทำแบบนี้ทีไรต้องใจอ่อนให้ทุกที
“พี่ฮยอกแจเป็นห่วงโบรัมมากๆ เลยใช่ม๊า”ถามเสียงอ้อนๆ แล้วก็เอนหน้ามาซบที่อก...นี่ล่ะโบรัมตัวจริงเลย...โคตรจะขี้อ้อน
“ก็ใช่สิถ้าไม่ห่วงเราแล้วจะให้พี่ห่วงใครที่ไหน”บอกพลางใช้มือลูบผมอย่างเอ็นดู...โบรัม...ปาร์คโบรัม น้องสาวคนนี้เป็นลูกของอาที่เขารักมาก...บางทีเขาก็รู้สึกว่าเขารักอายิ่งกว่ารักพ่อแม่แท้ๆ ของเขาเสียอีก...
“โบรัมอย่าไปใจอ่อนให้มันเด็ดขาด ถึงมันจะดูพร้อมแค่ไหน แต่พี่ก็ดูสันดานมันออก ไอ้นั่นมันไม่ได้รักเราหรอก มันก็แค่อยากได้เราเท่านั้น”
“รู้แล้วจ้ะ”โบรัมผงกหัวอย่างเชื่อฟังพี่ชาย ก็แหม่...ชื่อเสียงคาสโนวอนก็ไม่ใช่ย่อยๆ เลย เธอก็รู้อยู่เหมือนกันล่ะน่า...
“วันนี้พี่ต้องรีบกลับไปทำรายงาน พี่คงต้องกลับก่อน กลับบ้านคนเดียวก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ ด้วยล่ะน้องรัก”
“ค่าพี่ชายที่รัก”ตอบพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เป็นอีกครั้งที่ฮยอกแจยกมือไปลูบเรือนผมนุ่มของโบรัมอย่างเอ็นดู...น่ารักจริงโว้ยน้องสาวคนนี้...
….
ฮยอกแจพักตรงหอพักในเขตรอบนอกมหาวิทยาลัย เพื่อความประหยัดเขาจึงเลือกเดินทางด้วยการใช้สองเท้า ซึ่งก็ใช้เวลาราวๆ 20 นาที ไม่ได้กินเวลาอะไรมากมายนัก
พอเดินขึ้นมาจนถึงห้องพักก็ต้องชะงัก เพราะมีคนหน้าคุ้นเคยยืนดักรออยู่ตรงหน้าห้อง มันเป็นคนหุ่นโปร่ง สูงราวๆ 180 ใบหน้าเรียวแต่แก้มค่อนข้างซูบ...
“มีอะไร”ถามเสียงเรียบ ส่วนตา...แทบจะไม่อยากมองมันด้วยซ้ำ...
เจ้าเด็กนั่นไม่ตอบ แต่แบมือยื่นมาตรงหน้า เหมือนเป็นสิ่งที่รู้กันดี ฮยอกแจชายตามองแต่ก็ยอมคว้ากระเป๋าเงินออกจากกระเป๋ากางเกง มือเรียวกำลังกางกระเป๋าออกแต่ก็ดันโดนแย่งกระเป๋าทั้งใบไปจากมือ
“อะไร ทำไมมีเงินแค่เนี้ย?”ดึงแบงค์หมื่นวอนหลายๆ ใบออกแล้วเหลือแบงค์พันวอนไว้แค่สี่ห้าใบก่อนโยนคืนเจ้าของที่ตอนนี้ยังคงมีใบหน้าเรียบนิ่ง
“ช่วงนี้รายงานเยอะ”ตอบไปสั้นๆ พลางก้มลงหยิบกระเป๋าที่มันร่วงสู่พื้นเพราะตอนที่ไอ้เด็กนั่นโยนให้มา เขาไม่ได้รับ...
“แม่...เป็นไงมั่ง”ถามเสียงนิ่งแต่มีความเหนื่อยอ่อนซ่อนอยู่ ไอ้เด็กนั่นไม่ยอมตอบ ปากมันเอาแต่เคี้ยวหมากฝรั่งแจ๊บๆ แล้วยืนนิ่งพิงอยู่ตรงหน้าประตูห้องพัก
... เงียบกันทั้งครู่และเป็นอย่างนั้นอยู่ชั่วอึดใจได้ แล้วไอ้เด็กนั่นมันก็ยืนตัวตรง สงสัยความอดทนของมันหมดเพราะมันเป็นคนที่อยู่นิ่งๆ ได้ไม่นาน พอยืนตรงได้สักพักมันก็เดินเฉียดเขาไปตรงทางลงบันได แต่ก่อนจะเดินจากไป ไอ้เด็กนั่นมันก็ทิ้งคำตอบไว้ให้เขาต้องใจสั่น...
“เหมือนเดิม”
เหมือนเดิม...ถ้าเหมือนเดิมก็หมายความว่าเหตุการณ์ที่บ้านก็ยังแย่...แย่เหมือนๆ เดิม
ฮยอกแจมองตามหลังไวๆ ของไอ้เด็กอายุน้อยกว่าคนนั้น...ลมหายใจถูกพ่นออกมาไม่รู้จักกี่ครั้ง รู้สึกเหนื่อยใจทั้งเรื่องของแม่และเรื่องของมัน…
.
.
.
มัน...ชเวซึงฮยอน...น้องชายคนละพ่อกับเขา
-----------------------------------------------------------
28/12/2008+30/12/2008 & post 29012009
พอมาถึงที่นี่ก็เลยจับมารวมกันจ้ะ แหะๆ ^^
ความคิดเห็น