ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความทรงจำแห่งสายลมหนาว

    ลำดับตอนที่ #3 : ลอบปลงพระชนม์

    • อัปเดตล่าสุด 10 ธ.ค. 49


    ตารางการทรงงานขององค์หญิงรัชทายาทกางแผ่หลาอยู่กลางโต๊ะทรงอักษรของผู้สำเร็จราชการแทน  ดวงพระเนตรสีแดงจัดชายตามองอย่างเจ้าเล่ห์    ตอนนี้ก็เปรียบเหมือนดังว่าเจ้าหญิงเจมีไนก็ตกอยู่ในอุ้งหัตถ์อย่างแท้จริง  เพราะถ้ามีข้อมูลอยู่กับพระองค์แบบนี้แล้ว  จะวางแผนอะไรก็ง่ายดายเท่ากับพลิกฝ่ามือ
    ขอบใจมากนะลาอู   ที่นำของขวัญที่มีค่าขนาดนี้มาให้ข้า
    หามิได้พ่ะย่ะค่ะ  กระหม่อมเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อพระองค์อยู่แล้ว ลาอู  โดเรก้า  ลูกชายคนเดียวของท่าเสนาบดี ลาเปช  กราบทูลด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากผู้เป็นบิดา
    เจ้ายินดีที่จะรับงานใหม่หรือยัง
    พ่ะย่ะค่ะ ลาอูโค้งลงต่ำ  นัยน์ตาสีเทาหม่นเปลี่ยนเป็นสีควันบุหรี่ดูน่าฉงน
    ข้าจะใช้แผนเก่า  แผนเมื่อสิบสามปีก่อน  ที่หุบเขาหิมะทลาย
    พ่ะย่ะค่ะ  กระหม่อมจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้  แล้วเรื่องนี้  จะบอกท่านเสนาฯมหาดไทยไหมพ่ะย่ะค่ะ
    ไม่ต้อง!  ไว้ข้าจะเป็นคนบอกพ่อของเจ้าเอง
    ทูลลาพะย่ะค่ะ" 
    วรองค์เล็กบางขึ้นไปนั่งคุมบังเหียนบนอาชาสีขาวดุจหิมะ  แต่ที่โดดเด่นก็คือ ดวงตาสีน้ำทะเลที่เป็นสีเดียวกับผู้จับมันใส่อานถวายให้แด่องค์หญิงรัชทายาทเมื่อครั้งยังเยาว์
    ดวงพระเนตรเหลือบมองพระพี่เลี้ยงที่มาส่งด้วยความรู้สึกแปลกๆ  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พระองค์จะเดินทางไกลไปเมืองหน้าด่าน  แต่ทำไมถึงรู้สึกพระทัยหายก็ไม่รู้
    ออกเดินทางได้แล้วพะย่ะค่ะ เสนาบดีรัชเชลกราบทูล
    ไปก่อนนะเอลม่าเพคะ
    หัตถ์เรียวกระตุกบังเหียนเบาๆ  ขบวนเสด็จของเจาหญิงรัชทายาทแห่งทราเวล จึงค่อยๆ เคลื่อนออกจากประตูวังไปอย่างเงียบๆ
    ข่าวทางชายแดนเป็นไงบ้างท่านเสนาฯ เจ้าหญิงตรัสถามด้วยสีพระพักตร์เคร่งเครียด  ดูมีแววกังวลอยู่ไม่น้อย
    เสนาบดีกลาโหมชักม้าเข้ามาใกล้ม้าทรงสีขาวสะอาดอีกนิดหน่อย  กราบทูลน้ำเสียงค่อนข้างหนักใจ
    ไม่ค่อยดีพะย่ะค่ะ  ชาวบ้านเริ่มก่อการ  เพราไม่พอใจที่ราชวงค์ไม่กระทำการปราบโจรป่าให้สิ้นซาก  จนเมื่อเช้า  มีข่าวด่วนจากม้าเร็วว่า  วุ่นวายจนเป็นการจลาจลไปแล้วพะย่ะค่ะ
    ถึงขั้นนั้นเลยเหรอ? พระขนงขมวดมุ่น  ก่อนตรัสสั่ง
    รีบเดินทางเถอะ  เราอยากไปถึงที่นั่นเร็วๆ
    พะย่ะค่ะ ชายหนุ่มรับบัญชาจากเจ้าหญิงเจมีไน  แล้วหันไปสั่งการกับนายทหารที่เหลือว่าให้เร่งเดินทาง
    ...บททดสอบแรกของการเป็นจักรพรรดินีงั้นรึ...
    รีบไปเถอะไวโอลิน รับสั่งกับอาชาสีขาว  ก่อนที่มันจะส่งเสียงรับในลำคอ  แล้วเพิ่มความเร็วในการวิ่งให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
      หุบเขาหิมะทลาย
    หุบเขาที่เป็นจุดอันตรายที่สุดในแคว้นทราเวล  เส้นทางที่น้อยคนนักจะผ่านมา  เพราะไม่มีใครแน่ใจว่าหิมะบนภูเขาสูง  จะเกิดถล่มลงมาเมื่อไหร่...ที่สำคัญ  ที่แห่งนี้มันเคยพรากบุคคลที่สำคัญที่สุดของแคว้นนี้ไปแล้ว
    ราชาและราชินีพระองค์ก่อนของแคว้นทราเวล  พระชนกพระชนนีของเจ้าหญิงรัชทายาทเจมีไน
    เร่งมือเข้า เสียงสั่งการของชายหนุ่มนายหนึ่งดังขึ้นเป็นระยะบนยอดเขาสุดอันตราย  ผืนดินที่เคยเงียบสงบจะไม่สงบอีกต่อไป  ถ้าคนกลุ่มนี้ทำงานได้สำเร็จตามที่ได้วางแผนไว้

    ขบวนเสด็จขององค์หญิงรัชทายาทเจมีไนแห่งทราเวลได้เดินทางมาเกือบถึงครึ่งทางแล้วในเวลาครึ่งค่อนวัน  เนื่องจากไม่ได้หยุดพักเลยสักนิด  ทำให้การเดินทางรวดเร็วกว่าที่สมควรจะเป็นอยู่มากมายทีเดียว
    ฝ่าบาท เสนาบดีรัชเชลกระตุกบังเหียนอาชาของตนเขามาใกล้
    หืม?
    ทรงพักก่อนเถอะพะย่ะค่ะ  แม้ว่าไวโอลินจะเดินทางได้โดยไม่ต้องหยุดพักก็จริง  แต่ม้าของพวกทหารทีเหลือคงจะเดินทางต่อไปไม่ไหวแน่พะย่ะค่ะ ท่านเสนาฯ หนุ่มกราบทูล
    นั่นสิ ตรัสพลางเหลือบมองไปรอบๆ ม้าสีหิมะขององค์เองเดินนำออกมาแทบจะอยู่แถวหน้าของขบวน  เมื่อม้าของนายทหารนายอื่นๆ หมดแรง  เดินกันอย่างละห้อยละเหี่ยเต็มทน
    ทุกคนหยุดพักได้ สุรเสียงใสตรัสสั่งผู้ตามเสด็จทั้งหมด  จนมีบางคนลอบถอนหายใจเสียด้วยซ้ำ
    ขอโทษทีนะ  เราลืมนึกไปเลย พระโอษฐ์บางเอื้อนเอ่ยกล่าวคำขอโทษอย่างไม่กลัวเสียพระพักตร์  ขณะที่เสด็จลงมาจากม้าทรงเรียบร้อยแล้ว
    หามิได้พะย่ะค่ะ ผู้ตามเสด็จทั้งหมดทรุดลงคุกเข่าก้มหน้านิ่งกับพื้น  ด้วยความนึกไม่ถึงว่าอย่างเจ้าหญิงรัชทายาทผู้สูงศักดิ์จะมากล่าวคำขอโทษกับผู้ที่ต่ำศักดิ์กว่า
    พักกันตามสบายก็แล้วกัน  อีกครึ่งชั่วโมงเราจะเริ่มเดินทางกันอีกครั้ง
    ท่านเสนาบดีรัชเชลลอบมององค์เจ้าหญิงเจมีไนอย่างพึงพอใจ...ผู้นำที่ดี  ย่อมกล้าที่จะยอมรับความผิดที่ตัวเองกระทำได้อย่างกล้าหาญ...ถือว่าทรงสอบผ่านในข้อแรก  เห็นทีจะต้องรอดูในบททดสอบต่อไป
    นกพิราบสื่อสารบินถลาลงมาเกาะกับท่อนแขนของท่านเสนาบดีกลาโหม  เขารีบทำการแกะกระดาษชิ้นเล็กที่ผูกให้กับขาเล็กๆ ของมันทันที
    เมืองหน้าด่านรายงานมาพะย่ะค่ะ ชายหนุ่มรีบกราบทูล
    ว่าไง?
    การจลาจลกลุ่มเล็กเพิ่มจำนวนขึ้นหลายเท่าเลยพะย่ะค่ะ  จนบัดนี้กำลังพลของหม่อมฉันก็ต้านไม่อยู่  และพยายามบุกรุกเข้าไปในพระตำหนักเล็กพะย่ะค่ะ
    ความกังวลฉายชัดอยู่บนพระพักตร์งาม  พระตำหนักที่กล่าวถึง  หมายถึงตำหนักที่พระชนกทรงโปรดไปพักอยู่บ่อยๆ  เพราะความเงียบสงบและธรรมชาติที่ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน  พระองค์ไม่อยากให้สถานที่ที่มีความทรงจำดีๆ ของเสด็จพ่อต้องเสียหายหรือเป็นอะไรไป
    ด้วยเหตุนี้ เจ้าหญิงรัชทายาทถึงต้องไปไกล่เกลี่ยด้วยองค์เอง
    องค์หญิง...
    เอ่อ...เราจะเอาอาหารไปให้ไวโอลินหน่อย  เราฝากท่านดูแลทหารด้วยก็แล้วกัน ทรงตัดบทก่อนที่รัชเชลจะทันได้พูดอะไร  สาวพระบาทไปทางม้าทรงสีขาวที่ยืนนิ่งรอเจ้านายอยู่
    ชายหนุ่มที่มองตามก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ  รู้สึกสงสารองค์หญิงองค์นี้จับใจ  ตั้งแต่เล็กจนโตมิเคยได้ทำอะไรตามพระทัยองค์เอง  ทุกอย่างที่กระทำก็ย่อมด้วยหน้าที่  แถมยังต้องสูญเสียพระชนกกับพระชนนีไปตั้งแต่ครั้งทรงเยาว์อีก
    แต่แน่นอน  เส้นทางที่จะขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของปวงชนนั้นย่อมไม่ได้มาง่ายๆ  รากฐาน เป็นส่วนสำคัญที่สุด  ซึ่งเขาได้ฝากหน้าที่นี้ไว้ให้คนๆ หนึ่งแล้ว
    ...เจ้าหญิงรอเจ้าอยู่นะเรวิล...

    เรวิลหยุดพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง  ตอนนี้เธอเข้าเขตทราเวลมาแล้ว  จึงตัดสินใจให้คาริเน็ตม้าสีดำสนิทของเธอได้พักกินหญ้าบ้าง  เพราะวิ่งด้วยความเร็วสูงมาหลายวันติดต่อกันแล้ว
    ขณะที่แกะห่อข้าว  ใจก็หวนนึกไปถึงคำพูดของผู้เป็นบิดา
    เจ้าต้องช่วยให้องค์หญิงได้ขึ้นครองราชย์นะเรวิล  มันคือหน้าที่ของเจ้า
    คำพูดนี้เปรียบเหมือนคำสั่ง  เธอถึงต้องปลอมตัวเป็นชาย  เพื่อคอยคุ้มครอง  ช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม  ผู้ที่ขึ้นครองบัลลังก์จักรพรรดิต้องเป็นเจ้าหญิงเจมีไนเท่านั้น
    มันไม่ใช่แค่หน้าที่ที่ต้องกระทำท่านพ่อ  มันเป็นสิ่งที่ข้าจะทำต่างหาก แววตาสีน้ำทะเลยังคงมีแววมุ่งมั่นไม่แปรเปลี่ยนดังเช่นเคยมีมาในอดีต
    เรวิลใช้เวลาอย่างรวดเร็วเพื่อกินข้าวในห่อให้หมด  ขึ้นรถม้าสั่งคาริเน็ตพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง

    ออกเดินทางได้ รับสั่งหลังจากทั้งม้าทั้งทหารได้พักกันครึ่งชั่วโมงไปแล้ว
    ขบวนเสด็จของเจ้าหญิงรัชทายาทเคลื่อนออกไปมุ่งหน้าสู่เมืองหน้าด่าน  เพื่อรุดไปไกล่เกลี่ยเหตุการณ์จลาจลให้เร็วที่สุด  ก่อนที่จะมีการสูญเสียเกิดขึ้น
    โดยไม่มีใครสังเกตเลยว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีนี้
    บางสิ่งที่ผู้ก่อการร้ายเริ่มต้นแผนการ...
    แผนการลอบปลงพระชนม์!!!
    ลูกธนูหลายสิบดอกพุ่งมาจากทุกทิศทุกทาง  เหมือนว่าขบวนเสด็จจะตกอยู่ในวงล้อมเสียแล้ว
    คุ้มครององค์หญิง!!” เสนาบดีกลาโหมสั่งเสียงเกรี้ยว  ชักดาบออกมาจากฝักป่ายปัดลูกธนูปลายแหลมไปให้พ้นทาง
    ม้าหลายตัวตื่นตระหนก  พยศขึ้นมาด้วยความตกใจ  วิ่งพล่านไปทั่วจนพื้นหิมะพุ้งกระจาย  ทำให้ดูเหมือนตกอยู่ในวงล้อมยังไม่พอ  แถมยังอยู่ท่ามกลางทะเลหมอกอีก
    เจ้าหญิงรัชทายาทชักดาบเรียวออกมาจากฝักที่บั้นพระองค์(เอว)  ตวัดดาบปัดลูกธนูที่พุ่งตรงมาแทบไม่ทัน  จนได้ยินเสียงเสนาบดีรัชเชลดังขึ้นข้างๆ ว่าให้ระวังองค์เอง  จึงค่อยโล่งพระทัยขึ้นมาหน่อย
    ตามกระหม่อมมาพะย่ะค่ะ เสียงร้อนรนดังขึ้นอีกครั้ง  ไวโอลินจึงค่อยๆ เคลื่อนตามคล้ายๆ ว่าจะถูกจูงไป
    จะไปไหน!!” ร่างในชุดรัดกุมสีดำ  ปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าที่ขณะนี้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเริ่มดีขึ้นแล้ว
    เจ้าเป็นใคร?!!!” รัชเชลตะโกนถามอย่างกราดเกรี้ยว  เขาไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่มีคนมาเหยียบจมูกเขาแบบนี้
    ท่านไม่จำเป็นต้องรู้หรอกท่านเสนาบดีรัชเชล ชายชุดดำยังคงเอ่ยแบบเรียบๆ
    ถอยไป!!!  ข้าจะไม่พูดเป็นครั้งที่สองนะ
    ท่านเสนาบดีรัชเชลพินิจมองศัตรูตรงหน้าด้วยความไม่ประมาท  ด้วยท่วงท่าการยืนม้าที่มั่นคง ช่วงหลังเหยียดตรง บ่งบอกได้ทันทีว่าชายคนนี้ฝีมือในการต่อสู้ไม่ธรรมดาเลย  เผลอๆ อาจจะสูงกว่าเขาด้วยซ้ำไป  เพราะดวงตาสีม่วงที่มองมายังเขาไม่มีหวั่นเกรงเลยแม้แต่นิด  ทั้งๆ ที่ชื่อของรัชเชลเป็นที่กล่าวขวัญกันในนาม  อัศวินเกราะทองแห่งทราเวล  อัศวินที่เก่งกาจที่สุดของรัชการที่แล้ว
    ถ้าคิดว่าท่านสามารถผ่านข้าไปได้ก็ลองดูสิ  ท่านอัศวินเกราะทอง
    เจ้าของนัยน์ตาสีม่วงชักดาบสีดำสนิทออกมาจากฝัก  เหมือนที่ตัวดาบจะลงอักขระมนตร์ดำไว้เสียสัมผัสได้อย่างง่ายดาย
    ดาบที่ดื่มเลือดเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง
    ...ไม่ได้ให้คนใช้มันได้อย่างง่ายๆ
    แต่ต้องแข็งแกร่งพอและชั่วร้ายพอที่จะใช้มัน...
    ...ไม่ธรรมดาแล้วแฮะ
    ท่านเสนาฯ... เจ้าหญิงรัชทายาททอดพระเนตรมองศัตรูตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่นในกลิ่นอายความชั่วร้ายในตัวมัน
    ระวังองค์เองด้วย  พวกมันอาจลอบกัด เสนาฯ หนุ่มพูดแค่นั้นก็ควบม้า  ก้าวเข้าสู่วังวนแห่งการต่อสู้อีกครั้ง
    แม้ว่าแผ่นดินจะร้างสงครามมานาน  แต่ใช่ว่าชายหนุ่มจะปลดระวางตัวเอง  ยังคงฝึกซ่อมฝีมืออยู่สม่ำเสมอเพื่อความไม่ประมาท  รังสีแห่งการฆ่าฟัน  ยังไม่จางหายไปจากดวงตาแน่วแน่ของอัศวินเกราะทองตำนานอีกบทหนึ่งของแคว้นทราเวล
    ทั้งสองฝ่ายดูเชิงกันอยู่ระยะหนึ่ง  ต่างคนต่างควบม้าทิ้งระยะห่างวนเป็นวงกลม  มือหนากระชับดาบในมือแน่น  ดวงตาแต่ละฝ่ายต่างจับจ้องกันจนเรียกได้ว่าไม่มีใครกระพริบตาเลยทีเดียว
    ทั้งคู่พุ่งเข้าหากันราวกับนัดหมาย  ดาบกระทบกันดังเคร้งๆๆ จนเกิดประกายไฟขึ้นเป็นระยะๆ
    เหมือน...กลางคืนกับกลางวัน...
    ถ้าอีกฝ่ายเป็นกลางคืน  เสนาบดีกลาโหมก็เป็นกลางวัน
    ถ้าดาบสีดำของศัตรูเป็นกลางคืน...ดาบสีทองของเขาก็เป็นกลางวัน
    ดาบเงาจันทรา  กับ...ดาบสุริยันสังหาร
    ฉึก!!!
    ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้าที่ขาหลังของม้าทรง  เรียกเลือดสีแดงก่ำซึมออกมาตามขนสีขาวของมันจนได้
    ไวโอลิน!!!!”
    ด้วยความเจ็บปวดปนตกใจ  ไวโอลินจึงตื่นตะบึงไปข้างหน้าอย่างแรง  ดีที่เจ้าหญิงเจมีไนทรงจับบังเหียนไว้อย่างดีจึงไม่ตกลงไป
    เจ้าหญิง!!!” ท่านเสนาฯ ร้องด้วยความตกใจ
    ตามมันไป!” ชายชุดดำหันมาสั่งกับสมุนที่อยู่เบื้องหลัง  เพียงไม่ถึงวินาทีก็ควบม้าหายลับไป
    ...แย่แล้ว  ทางนั้นมันหุบเขาหิมะทลายนี่นา...
    ชายหนุ่มคิดด้วยความตื่นตระหนก  พอดีกับที่เหลือบไปเห็นม้าสีดำพ่วงพีพุ่งเข้ามาพอดี
    เรวิล!!”
    ขอรับท่านพ่อ
    เจ้าหญิงเสด็จไปทางหุบเขาหิมะทลาย
    สนใจอะไรอยู่ท่านเสนาฯ ปลายดาบสีดำพุ่งตรงเข้ามา  ดาบสุริยันสังหารจึงตวัดรับด้วยสัณชาตญาณ
    ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วง  ข้าจะคุ้มครององค์หญิงเอง พูดจบ  เจ้าของม้าสีดำสนิทก็ควบตามเส้นทางเสด็จด้วยความเร็วสูง
    ทางด้านองค์หญิงรัชทายาทเมื่อถูกต้อนมา  ไวโอลินจึงรีบควบมาจนถึงขีดจำกัดของตัวเอง  ในที่สุดก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว  ล้มกองอยู่กับพื้น
    ไวโอลิน!!”
    ชายในชุดรัดกุมควบม้าตามมาถึง  หยุดอยู่เบื้องพระพักตร์ เงื้อดาบขึ้น  และ...
    เคร้ง!!!
    ดาบสีขาวประดับอักขระทองตวัดเพียงครั้งเดียว  ดาบในมือผู้ร้ายก็หักเป็นสองท่อน  ทำให้ศัตรูชะงักไปวูบหนึ่ง
    บังอาจล่วงเกินองค์หญิง  เจ้าก็สมควรตายตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว ร่างเพรียวบนอาชาสีดำสนิทตวัดดาบคู่กายสังหารศัตรูถึงสองคนภายในครั้งเดียว
    เจ้าหญิงรัชทายาทเห็นว่าสบโอกาสจึงรีบวิ่งตรงไปที่ทางแคบๆ เบื้องหน้า  โดยไม่รู้เลยว่า  ข้างบนหุบเขามีคนอยู่เพื่อรอกระทำการในแผนการขั้นสุดท้าย!!
    เจ้าเป็นใคร? มันถามผู้มาใหม่ด้วยเสียงตระหนก
    แต่เจ้าของดาบกลับไม่ตอบ  ก่อนเค้นเสียงเย็นชาตอกกลับพร้อมปักดาบลงบนตัวคนถาม
    ชื่อของข้า  เรวิล  เรนเดล จำไว้เผื่อไปโลกหน้าด้วยแล้วกัน!!”
    องค์หญิง... เรวิลหันไปมองหาเจ้าหญิงเจมีไนเมื่อเหตุการณ์สงบแล้ว  แต่กลับไม่พบแม้เงา
    นัยน์ตาสีน้ำทะเลหันไปทางที่มีรอยเท้าเล็กๆ วิ่งไปก็เริ่มแน่ใจ  รีบห้อตะบึงคาริเน็ตม้าสีดำให้ควบไปด้วยความเร็วสูง  ด้วยเกรงว่าสิ่งที่คิดไว้มันจะเป็นเรื่องจริง 

    ทางด้านเจ้าหญิงเจมีไนเมื่อวิ่งมาได้ระยะพอสมควรก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ  ผืนหิมะสีขาวที่ทรงประทับยืนอยู่ก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของบางสิ่งบางอย่าง  จึงเงยพระพักตร์มองขึ้นไปบนหุบเขาสูง

    ข่าวด่วนจากขบวนเสด็จขอรับท่านเสนาบดี มหาดเล็กนายหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในท้องพระโรงอย่างรวดเร็ว
    อะไร? ท่านเสนาบดีกลาโหมเอยถามพลางคว้าสานส์จากมือของมหาดเล็กมากางอ่าน
    ก่อนที่คิ้วเข้มจะขมวดเข้าหากันจนติด  แววตาสีมรกตตะลึงพรึงเพริดและกังวลอยู่ในที  ก่อนกราบทูลให้เจ้าหญิงพระองค์น้อยรับทราบด้วยเสียงสั่นคลอน
    องค์จักรพรรดิกับมเหสีสิ้นพระชนม์แล้วพะย่ะค่ะ!!!”
    อะไรนะ! เราไม่เชื่อ  เหตุการณ์แบบนี้มันจะเกิดขึ้นได้ยังไง!” เจ้าหญิงน้อยตวาดแหว  พระอัสสุเริ่มคลอหน่วย
    ทรงเดินทางผ่านหุบเขาหิมะทลาย  แต่นึกไม่ถึงว่าหิมะจะถล่มลงมาพะย่ะค่ะ

    ...เราจะตายแบบเดียวกับเสด็จพ่อเสด็จแม่หรือไงนะ...
    เป็นประโยคเดียวที่ทรงดำริขึ้นมาในความคิดคำนึง  เมื่อห้วงเวลาในอดีตกำลังย้อนกลับมาทำร้ายพระองค์เล็กอีกคราหนึ่ง  ดวงเนตรก็จับภาพที่หิมะหนาค่อยๆ เคลื่อนลงมาสู่พระองค์เองด้วยความเร็วสูง

     
     
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×