ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความทรงจำแห่งสายลมหนาว

    ลำดับตอนที่ #2 : Return To Trawel

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ย. 49


      “หม่อมฉันไม่เห็นด้วย...” พระสุรเสียงใสชัดเจนแสดงถึงความเชื่อมั่นในพระองค์เองอย่างสูง “ที่เราจะสั่งของฟุ่มเฟือยเหล่านั้นมากมายเกินความจำเป็น  ทั้งๆ ที่ตอนนี่ทางการคลังของเรากำลังมีปัญหา  หลานว่าเอาเงินไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กับประชาราช  แทนที่จะเอามาซื้อของไร้ความจำเป็นเพื่อโอ้อวดใครต่อใครดีกว่ามั้ยเพคะ” ดวงพระเนตรสีทองสะท้อนสีพระพักตร์ขุ้นแค้นที่ปิดได้ไม่มิด  ของผู้สเร็จราชการอาร์ลี  พระเนตรสีแดงราวกับมีไฟลุก  พุ่งตรงมาที่เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งทราเวล
      เจ้าหญิงเจมีไนเองก็ทรงสบพระเนตรตอบอย่างไม่หวั่นเกรงเช่นกัน
      “งั้นอาขอตัวก่อนนะ  เห็นทีคงต้องไปหาอะไรทำที่เป็นประโยชน์อย่างที่หลานว่านั้นแหละ” ผู้สำเร็จราชการตรัสแดกดัน  ก่อนจะสาวพระบาทออกไปจากห้องทรงพระอักษรอย่างรวดเร็ว
      แต่เจ้าของพระเนตรสีทองกลับยิ้มอย่างมีชัย  เบื้องหลังโต๊ะทรงพระอักษรตัวใหญ่  ก่อนก้มพระพักตร์ลงอ่านฎีกาปึกใหญ่อีกครั้ง
      อีกเพียงไม่นาน  เจ้าหญิงรัชทายาทก็จะครบ 18 ชัญษาแล้ว  ตลอด 10 ปีที่ผ่านมามีเรื่องราวมากมายที่ต้องเรียนรู้  และก็ทรงทำได้ดีชนิดดีเยี่ยมด้วย  เป็นที่คาดกันว่าจะต้องทรงดำรงตำแหน่งจักรพรรดินีได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด  ซึ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่เจ้าชายอาร์ลีทรงเกรงกลัวที่สุดเช่นกัน
      พอคล้อยหลังท่านผู้สำเร็จราชการ  มหาดเล็กก็ขานชื่อเสนาบดีวัง กัสเกล อานิลเข้าเฝ้า  และคงจะเป็นเรื่องหมายกำหนดการของพิธีราชาพิเษก ที่จะมีในอีก 5 เดือนข้างหน้าอย่างเช่นเคย
      “เข้ามาสิท่านกัสเกล” เจ้าหญิงเจมีไนตรัส  ร่างแก่ๆ ใกล้เกษียนของท่านเสนาบดีกรมวังจึงค่อยก้าวข้ามพระทวารมา
      เสนาบดีกัสเกลถวายคำนับแด่องค์เจ้าหญิง  ก่อนองค์หญิงจะผายมือให้นั่งลงตรงเก้าอี้เบื้องหน้า
      “ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ”
      “เรื่องพิธีการ ไปถึงไหนแล้วล่ะ”
      “ใกล้จะเรียบร้อยแล้วพะย่ะค่ะ  ขาดอยู่ฝ่ายจัดเลี้ยงพะย่ะค่ะ” เสนาฯเฒ่าทูลตอบ
      “หืม...ทำไมล่ะ?” เจ้าหญิงเจมีไนเลิกพระขนงอย่างสงสัย
      “คือ...ยังตกลงกันไม่ได้เลยพะย่ะค่ะ  ว่าจะจัดงานเลี้ยงไปในแบบไหนดี  แล้วจะเชิญแขกจากไหนมาบ้าง” กัสเกลขมวดคิ้วด้วยความกังวล จนเจ้าหญิงเกือบกลั้นสรวลไว้ไม่ไหว
      “จะจัดแบบไหนก็จัดเถอะ  เอาเป็นว่าให้มันเรียบง่าย  ไม่ต้องสิ้นเปลืองเป็นพอ” เจ้าหญิงรับสั่งอย่างไม่ใส่พระทัย
      “แต่ว่า...”
      แต่ว่าอะไรอีกล่ะ  ในเมื่อพวกท่านตกลงกันไม่ได้เราก็จะเป็นฝ่ายคิดเอง  สรุป...จัดให้เรียบง่ายที่สุดไม่ต้องหรูหรามากมาย  จะได้ประหยัดงบประมาณลง  แล้วยังไงท่านก็นำเรื่องนี้ไปปรึกษาท่านเสนาบดีคลังดูนะ”
      “แต่ว่าถ้าลดงบประมาณลง  งานพิธีเองก็ต้องลดสัดส่วนลง  จะเป็นการไม่สมพระเกียตินะพะย่ะค่ะ อีกทั้งยังไม่มีกษัตริย์พระองค์ไหนทรงกระทำ”
      “เกียติของเรากับความเป็นอยู่ของราษฎรอย่างไหนสำคัญกว่า!” พระสุรเสียงเริ่มเข้มขึ้น “จะให้เรานั่งเสวยสุขแล้วปล่อยให้ประชาขนของตัวเองอดอยากอย่างนั้นรึ!...เอาล่ะ  ท่านไปทำตามที่เราบอกก็แล้วกัน”
      “พะย่ะค่ะ” ท่านเสนาบดีเหงื่อตก  ก่อนจะรับคำเสียงอ่อยจนแทบไม่ได้ยิน
      “ไปได้แล้ว  เราจะทำงานต่อ”
      “พะย่ะค่ะ  กระหม่อมทูลลา”

      เจ้าชายอารลีเม้มพระโอฐษ์ด้วยความเจ็บแค้น  ไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้าหักหน้าพระองค์แบบนี้  เพราะรู้ตัวดีว่าผลมันจะตามมาอย่างไร  แต่องค์หญิงองค์เล็กนิดเดียวพระองค์หนึ่ง  กลับทำให้ผู้สำเร็จราชการเสียหน้าได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
      ตั้งแต่ครั้งที่เจ้าหญิงทรงมีพระชนมายุเพียง15 ชัญษา  เจ้าชายอาร์ลีผู้เป็นพระปิตุลาพยายามหาข้ออ้างในการลดกำลังทหาร  ว่ามันจะช่วยให้ค่าใช้จ่ายของกองทัพลง เพราะในเมื่อเมืองหลวงและพระราชวังก็มีทหารเพียงพอแล้ว  แต่องค์หญิงเจมีไนก็ทรงปฏิเสธ โดยโต้ว่า  มีกองโจรหลายเผ่าเข้ามาก่อกวนทางชายแดนอยู่เรื่อยๆ จึงต้องใช้กองกำลังทหารปราบปราม  และถ้าลดจำนวนทหารลง  อาจมีผลทำให้กองโจรทำงานได้ง่ายขึ้นทรงไม่อยากละเลยประชาราษฎรเลยแม้แต่คนเดียว  แม้ว่าพระปิตุลาจะทรงไม่เห็นค่าก็ตาม
      และอีกหลายต่อหลายครั้ง  ที่ถ้ารู้ว่าทรงร้ายกาจขนาดนี้ น่าจะปลงพระชนม์ตั้งแต่ครั้งพระเยาว์ให้เรียบร้อยไปซะ
      แต่ถ้าจะเริ่มตอนนี้มันคงไม่สายไปหรอกนะ  ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะถึงวันราชาพิเษก  คราวนี้จะไม่ยอมปล่อยให้รอดจากเงื้อทพระหัตถ์ไปได้แน่!!

      “เราเหนื่อยจังเลยเอลม่า” เจ้าหญิงรัชทายาทตรัสอย่างเหนื่อยอ่อน “เพิ่งรู้ซึ้งถึงความเหนื่อยยากของเสด็จพ่อก็ตอนนี้แหละ”
      “เพคะ...อดีตองค์ราชา ทรงทนเหนื่อยหนักเพื่อประชาชนทั้งแคว้น  หม่อมฉันดีใจเหลือเกินที่เกิดมาใต้เบื้องยุคลบาท” เอลม่า พระพี่เลี้ยงร่างท้วมทูลด้วยน้ำตาปริ่มๆ
      “แล้วนี่  มีจดหมายถึงเราบ้างรึเปล่า?”
      “จดหมาย...ไม่มีนี่เพคะ  ทรงรอจดหมายใครอยู่เหรอเพคะ”
      “ไม่มีเหรอ...ช่างเถอะ  เราจะอาบน้ำแล้ว” ตรัสด้วยพระเนตรขุ่นมัว  ที่เอลม่าพอจะรู้ว่ามาจากสาเหตุใด
      “เพคะ  เดี๋ยวหม่อมฉันจะไปเตรียมน้ำอุ่นถวาย” ทูลจบก็เดินไปสั่งนางข้าหลวงให้เตรียมเครื่องสรง  แต่ยังไม่วายเหลียวมามองพระพักตร์บึ้งตึงอย่างขัดพระทัยของเจ้าหญิงเจมีไน
      “เฮ้อ...พอไม่เห็นจดหมายของเรวิลทีไรต้องเป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า”

      ข้าวของทุกอย่างเตรียมขนขึ้นรถม้าอย่างทุลักทุเล  เพราะต้องผ่านกองทัพสาวๆ ของสุมาลาร์ที่มายืนดักร้องห่มร้องไห้ที่เรวิลจะกลับแคว้นบ้านเกิด
      “จะไปจริงๆ เหรอเรวิล” เด็กสาวคนหนึ่งที่เรียนอยู่ห้องเดียวกับเรวิล ถามขึ้นน้ำเสียงเศร้าๆ
      “อืมม์” เรวิลตอบอย่างเคร่งขรึมเช่นทุกคราว  มีแต่คนถามคำถามนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  จนชักเริ่มจะเวียนหัวขึ้นมาตงิดๆ
      “ลืมอะไรหรือเปล่า จะได้ไม่เสียเวลาย้อนมาเอา” เพื่อนคนหนึ่งว่า  ทำให้เรวิลก้มเช็คว่ามีอะไรขาดหายไปหรือไม่
      “ไม่น่าจะมีแล้วนะ   เอ้อ...ฝากนี้ไปส่งด้วยสิ” ร่างสูงยืนจดหมายซองสีฟ้าจ่าหน้าถึงเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งทราเวลให้กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง
      “อะไรกัน  จะกลับอยู่แล้วยังจะต้องส่งอะไรอีก”
      “ไม่ได้หรอก  เหลืออีกตั้งหลายวันกว่าจะเดินทางถึง  เดี๋ยวจะทรงกริ้วเอา”
      “เอ่อๆ แล้วจะส่งให้ก็แล้วกัน  เดินทางดีๆ ล่ะ” เด็กหนุ่มตบบ่าเพื่อนที่คิดว่าเป็นชายเสียเต็มแรง
      เมื่อเช็คสัมพาระที่ขึ้นรถม้าเรียบร้อยแล้ว  ตัวเองก็ขึ้นไปประจำที่คนขับ แต่สาวๆ ที่พากันกรูมาดักที่หน้ารถนี่สิ
      “วะ! ไอ้เรวิลมันจะกลับบ้าน  ไม่ได้ไปตายซะหน่อย  จะเสียใจอะไรกันนักกันหนา” เพื่อนๆ กลุ่มเดียวกับเรวิลรีบเข้ามาแหวกทางให้รถม้าอาชาสีดำสนิทให้เคลื่อนที่ออกไปอย่างสะดวกพลางบ่นตามมาเป็นระยะๆ
      “กรรม! ดันมีเพื่อนหน้าดี  ลำบากจริงๆ”
      “เกิดมาชาติหน้าให้หน้าตาแย่ๆ ไว้นะเรวิล  จะได้ไม่เดือดร้อน”
      เสียงบรรดาเพื่อนๆ ตะโกนไล่หลังมา  ไม่ใช่ว่าเธออยากจะจากพวกเขาไป  แต่เพราะหน้าที่  ความรับผิดชอบ  สัญญาที่ให้ไว้กับคนที่สำคัญที่สุด  ทั้งหมดนี้รออยู่ที่บ้านเกิด  แคว้นทราเวล
      “ได้เวลากลับบ้านเสียที  ใช่มั้ยคาริเน็ต” เรวิลพึมพำออกมาเบาๆ  เจ้าม้าดำก็ดูเหมือนเปล่งเสียงร้องรับคำของเจ้านายเสียด้วย

      ทันทีที่ทอดพระเนตรเห็นซองจดหมายสีฟ้า  วางที่โต๊ะทรงพระอักษรตั้งสองซอง ดวงเนตรสีทองกระจ่างก็มีแววสดใสขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด  พระหัตถ็เรียวคว้าสาส์นที่เฝ้ารอฉบับแรกไว้อย่างเร็วรี่  ราวกับเกรงว่ามันจะหายไปกับอากาศธาตุหากว่าหยิบช้าไป

    หอสมุดโรงเรียนสุมาลาร์
    ทูลกระหม่อมแก้ว จอมขวัญของปวงราษฎร

      พระอาญามิพ้นเกล้าที่กระหม่อมส่งจดหมายมาช้าเกินกว่าที่ทรงรับสั่งไว้  เพราะเหตุด้วยกระหม่อมมีสอบครั้งสุดท้าย  ข้าพระองค์จะเรียนจบแล้วนะพะย่ะค่ะ  ถ้าการสอบครั้งนี้กระหม่อมทำได้ดีเหมือนคราวที่แล้ว  กระหม่อมก็จะจบก่อนที่กำหนดไว้  เพราะเหตุนี้จึงต้องเร่งอ่านหนังสืออย่างหนัก  กว่ากระหม่อมจะเรียนถึงเกรดนี้ก็ยากลำบากน่าดู  โรงเรียนสุมาลาร์  โรงเรียนที่ดีที่สุดในแถบนี้สอบเข้าว่ายากแล้ว กว่าจะเรียนกว่าจะสอบกลับยากขึ้นอีกหลายเท่าตัวพะย่ะค่ะ
      ข้างนอกร้อนเหลือแสนพะย่ะค่ะ  อากาศที่แคว้นนี้ไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่  ฤดูหนาวที่พระองค์โปรดก็ไม่ค่อยหนาวเหมือนบ้านเรา  คงเพราะเป็นที่ราบสูงและแห้งแล้ง  ไม่เหมือนทราเวลที่หนาวจัด  มีฤดูร้อนแค่แป๊บเดียว  ส่วนหน้าฝนก็ตกพอประมาณ  แต่ไม่ใช่ที่นี่  ไม่ตกเลยพะย่ะค่ะ ถึงจะตกก็ตกน้อยมาก 
      การทหารที่นี่เขาเป๊นระบบดีมากพะย่ะค่ะ  เมื่อสองวันก่อนกระหม่อมได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมการฝึกทหารอาชีพของกองทัพ  ทุกนายเป็นระเบียบดีมาก  กระหม่อมอยากให้พระองค์ทรงอ่านหนังสือตำราการรบที่กระหม่อมส่งไปให้บ้างพะย่ะค่ะ  กระหม่อมอ่านแล้วเป็ฯความรู้ที่ดีจริงๆ
      ช่วงนี้อากาศที่ทราเวลคงเปลี่ยนแปลงบ่อย  เพราะเป็นปลายฝนต้นหนาว  กระหม่อมอยากให้พระองค์ทรงดูแลองค์เองบ้าง  ถ้าเป็นไปได้อย่าโหมราชกิจหนักมากเลยพะย่ะค่ะ  ทรงทราบหรือไม่ ว่ามีคนเป็นห่วงฝ่าบาทมากแค่ไหน

                                                                           ข้าทาสผู้ซื่อสัตย์
                                                                              เรวิล เรนเดล

      “เชอะ! เขียนจดหมายห่วยเหมือนเดิมนะ” พระสุรเสียงกระเง้างอด  แต่ยังแฝงไปด้วยความปลื้มปีติ  ขณะที่วางจดหมายฉบับแรกลง  ทรงหันไปหยิบจดหมายอีกฉบับทันที

    เบื้องพระบรมฉายาลักษณ์
    จอมเจ้าเหนือทราเวล อนาคตจักรพรรดินีผู้ยิ่งใหญ่

      กระหม่อมอยากทูลเป็นอย่างยิ่งว่า  กระหม่อมเรียนจบแล้ว
      ด้วยผลการเรียนที่กระหม่อมได้แนบมาด้วยนี้  ทำให้กระหม่อมจบก่อนเพื่อนร่วมชั้นที่เรียนด้วยกันมาถึงสิบปี  กระหม่อมไม่ได้อยากโอ้อวดแต่อย่างใด  แต่ก็อดดีใจไม่ได้พะย่ะค่ะทั้งดีใจที่เรียบจบ  และได้กลับบ้าน 
      ถึงแม้ว่ากระหม่อมจะอยู่ที่นี่มาเกือบสิบปี  แนนอนว่าย่อมผูกพันเป็นธรรมดา แต่ที่ไหนเลยจะเหมือนบ้านใช้ไหมพะย่ะค่ะ  บ้าน...คำเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่  ที่กระหม่อมพยายามกลับไปหาอย่างสุดความสามารถ  ไม่รู้ว่าป่านนี้ท่านพ่อจะเป็นอย่างไรบ้าง
      พรุ่งนี้เช้า กระหม่อมก็จะเดินทางแล้วพะย่ะค่ะ  ข้าวของเพิ่งเตรียมเสร็จเมื่อครู่นี้  เจ้าคาริเน็ตก็อยากกลับบ้านเต็มแก่  ฝ่าบาททรงจำคาริเน็ตได้ไหมพะย่ะค่ะ  ม้าที่จับมาจากป่า  กระหม่อมจำได้ว่าคราวนั้นพยศมาก  ไม่มีใครกล้าขี่  พวกอัศวินก็พากันหงอไปหมด  เลยทรงมีพระบัญชาให้กระหม่อมไปขี่ดู  แล้วกระหม่อมก็ขี่ได้  เล่นเอาอัศวินพวกนั้นหน้าชากันเป็นแถบ  ทั้งๆ ที่ทรงรู้อยู่แล้วว่าท่านพ่อเสนาบดีของกระหม่อมเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องม้าที่สุด  ก็ยังไปแกล้งหักหน้าท่านอัศวินพวกนั้นเสียยับ
      ใบจบการศึกษาอยู่ในมือของกระหม่อมพะน่ะค่ะ  ลงชื่ออย่างชัดเจนว่า เรวิล เรนเดล  เวลาสิบปีช่างยาวนานเหลือเกิน  กระหม่อมเฝ้านับวันรอคอย  เมื่อไหร่น้าถึงจะได้กระดาษแผ่นเล็กๆ นี่มาเสียที  กระหม่อมรอคอยเพื่อจะได้กลับไปรับใช้อยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาทของพระองค์  รอคอยเพื่อที่จะได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ร่ำเรียนมา  เพื่อช่วยราชกิจของฝ่าบาท  และทำตามสัญญาที่เคยถวายไว้  ถ้าฝ่าบาทยังทรงจำได้

                                                                    จะรับใช้จนกว่าชีวิตจะหาไม่
                                                                              เรวิล เรนเดล

    “เรายอมให้เจ้าไปแล้ว  แต่เจ้าต้องสัญญานะว่าเจ้าจะกลับมา”
    “พะย่ะค่ะ กระหม่อมถวายคำสัตย์”
    “จริงๆ นะ”
    “สัญญาพะย่ะค่ะ”

      คำมั่นที่ยังคงดังก้องอยู่ในพระราชหฤทัย   พระโอฐษ์แย้มสรวลบางเบา  ย้อนหวนไปในคืนวันแห่งอดีต  ที่ใครคนหนึ่งได้เคยบอกไว้  แม้นกาลเวลาจะพรากความเยาว์วัยเหล่านั้นไปจนเกือบหมด  แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังไม่มีวันเลือนหาย  คือเส้นด้ายบางๆ ที่ผูกคนสองคนต่างฐานันดรศักดิ์ให้เกี่ยวกันไว้  ยากที่จะหลุดลอยไปเป็นอื่นได้
      “มีเรื่องให้ทรงสำราญพระราชหฤทัยหรือเพคะ?” เอลม่าที่เดินเข้ามาอย่างแผ่วเบา  เมื่อเห็นเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งทราเวลกำลังแย้มสรวลก็ทักอย่างแผ่วเบาดุจเดียวกัน  แต่แปลกที่คำพูดที่เบาเพียงแค่นี้จะทำให้ทรงตกพระทัยได้
      “ตกใจหมดเลยเอลม่า  ทำไมมาเงียบๆ ล่ะ”
      “อาญามิพ้นเกล้าเพคะ  หม่อมฉันไม่นึกว่าจะทรงหทัยลอยอยู่” เอลม่าว่ายิ้มๆ  เมื่อเห็นจดหมายให้อุ้งหัตถ็
      “ใจลงใจลอยที่ไหนกันเอลม่า  เพ้อเจ้อน่า  เราแค่คิดอะไรเพลินๆ ไปหน่อยเดียว” องค์หญิงตรัสแก้เก้อ  จึงไม่รู้ว่าพระปรางระเรื่อเสียจนออกเป็นสีชมพูแล้ว
      “อ่อนี่เอลม่า  เรวิลจะกลับมาแล้วนะ”
      “เพคะ?  ตั้งอีกครึ่งปีมิใช่หรือเพคะกว่าจะจบหลักสูตรทั้งหมด” เอลม่าถามด้วยความสงสัย
      “ก็ใช่  แต่เจ้าลืมไปรึเปล่า เรวิลธรรมดาซะที่ไหน  ก็ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว  ไม่ว่าอะไรๆ หมอนั่นก็เป็นอันเก่งไปซะหมด”
      “นั่นสินะเพคะ”
      “อ่อจริงด้วย  นี่ไงผลการสอบที่เรวิลส่งมา” เจ้าหญิงตรัสพลางหยิบกระดาษสีครีมขึ้นมาอ่าน
      “หา!!!  ระ...ร้อยคะแนนเต็ม!!!”
      “ไหน...อะไรเพคะ”
      “ก็จะไม่ให้ผ่านได้ไงล่ะ  ก็ได้รอ้ยคะแนนเต็มแบบนี้  สมควรแล้วล่ะที่จบหลักสูตรไวน่ะ” พระเนตรสีทองไล่ไปตามตัวหนังสือในกระดาษ  ทั้งอึ้งทั้งทึ่งในความสามารถของคนๆ นี้

      มีดสั้นสองเล่มซ้อน  ปักลงบนอกของโจรป่าที่ลอบโจมตีอย่างรวดเร็ว  ดวงตาสีน้ำทะเลมองด้วยความเฉยชา 
      ระหว่างทางของแคว้นทราเวลกับแคว้นสุมาลาร์ตามปกติต้องใช้เวลาในการเดินทางอย่างเร็วที่สุดก็ต้องเป็น 5วันเป้นอย่างนอ้ย  เพราะเนื่องด้วยโจรป่าในเขตนี้ชุกชุมมากเหลือเกิน  นักเดินทางส่วนมากจึงไม่เลือกเดินทางมาในเส้นทางนี้  แม้ว่ามันจะกินเวลามากกว่าก็ตาม
      แต่เรวิลเลือกใช้เส้นทางที่ประหยัดเวลากว่า  แต่ก้ต้องเสี่ยงกับกลุ่มโจรตามแนวป่า  ที่พร้อมจะมาจ๊ะเอ๋ให้ตกใจเล่นทุกเมื่อ
      ที่เธอเลือกใช้เส้นทางนี้ก็เพื่อจะให้ถึงแคว้นทราเวลในเร็ววัน  แต่กลุ่มโจรที่มาอีกสามคนทำให้เธอฮึดฮัดด้วยความรำคาญใจไม่นอ้ย
      “พวกนี้นี่น่ารำคาญ!”
      เรวิลคำราม  ก่อนจะซัดมีดสั้นให้คราชีวิตโจรป่าพวกนี้อย่างไม่แยแส
      “รีบไปกันเถอะ คาริเน็ต” พอหมดสิ้นตัวน่ารำคาญ  เรวิลก็รีบสั่งให้อาชาสีดำสนิทเร่งความเร็วภายในทันที
      คาริเน็ต  มีตัวเมียสีดำเงางามทั้งตัว  นัยน์ตาสีฟ้าชวนพิศวง  สั่งได้โดยไม่ต้องใช้แส้  และภายในโลกนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ขี่มันได้
      หนี่ง  ผู้เป็นเจ้านาย  ที่คอยดูแลตั้งแต่มันยังเด็กและยอมรับในความสามารถด้วยใจจริง
      อีกหนึ่ง  ผู้เป็นจอมขวัญแก้ว  ผู้อยู่เหนือจิตใจของเจ้านาย  เจ้าหญิงเจมีไน  ริเอร่า  แห่งแคว้นทราเวล
      เสียงฝีเท้ามาดังกุบกับ ไปตามทางที่เรี่ยไปด้วยศพของโจรป่า  สี่ขาทะยานไปราวกับไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย  เพราะมันรู้ถึงความปรารถนาของเจ้านาย
      เพื่อเร่งรุดเข้าเฝ้าจอมเจ้าหญิงแห่งทราเวล 

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×