ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความทรงจำแห่งสายลมหนาว

    ลำดับตอนที่ #11 : คำมั่นขององครักษ์

    • อัปเดตล่าสุด 23 มิ.ย. 50


     

    ดวงตาสีม่วงค่อยๆ ปรือขึ้นมองรอบๆ  ชายหนุ่มนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผล  กัดริมฝีปากจนห้อเลือด  เจ็บใจนักที่ไม่สามารถทำงานได้ลุล่วง  เขาปล่อยให้เจ้าหญิงรัชทายาทหลุดรอดไปจนได้  แถมยังโดนต่อว่าเรื่องที่ทำเกินคำสั่ง  เกือบฆ่าคนที่หลานสาวของเสนาบดีลาเปชชอบไปแล้ว
    เขาเป็นคนที่ข้ารัก  ท่านยังจะฆ่าเขาอีก  ข้าอยากฆ่าท่านนักโทรล
    มูลา  หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีแดงอิฐว่าไว้อย่างนั้น
    เขารักเรวิล  และจะไม่มีวันให้ใครได้ครอบครองนางเด็ดขาด  ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นหญิงหรือชาย  กษัตรีหรือสามัญชน!
    ชายหนุ่มกำดาบที่คาดอยู่ข้างลำตัวแน่น  ดาบเงาจันทราค่อยๆ กลืนกินจิตใจจนมืดมิด  แสงสว่างที่ริบหรี่ดับแสงลงทีละน้อยเมื่อกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งทั้งกายใจของผู้ครอบครอง  และเมื่อดาบกลืนกินจิตใจจนหมด  ผู้ครอบครองก็จะกลายเป็นปิศาจกระหายเลือด  หมดสิ้นซึ่งความเป็นมนุษย์โดยสิ้นเชิง
     
    ดวงพักตร์สดใส  บัดนี้เศร้าหมองจนสหายที่อยู่ข้างพระวรกายอดสะท้อนใจไปด้วยไม่ได้  พระธิดาองค์น้อยทรงกรรแสงไม่หยุดตั้งแต่ทราบข่าวเรื่องการสวรรคตของผู้เป็นชนกชนนี  พระเนตรสีทองคลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำ  มือเรียวจึงยื่นไปเช็ดน้ำพระเนตรที่อาบพระปรางใส
    อย่ากรรแสงอีกเลยพ่ะย่ะค่ะ
    เรวิล...เราจะทำอย่างไรดี  เราจะทำอย่างไรดี ธิดาองค์เดียวแห่งทราเวลใคว่คว้าหาอุ้งมืออุ่นของสหายสนิท  ที่จะหวังพึ่งพิงได้เพียงคนเดียว
    พระองค์ต้องทรงเข้มแข็งไว้นะพ่ะย่ะค่ะ  กระหม่อมจะยืนอยู่ข้างประองค์เอง
    เจ้าอย่าทิ้งเราไปไหนนะ
    พ่ะย่ะค่ะ  หัวใจของกระหม่อมจะอยู่กับพระองค์ตลอดไป
    นับตั้งแต่นั้นมา  หัวใจดวงน้อยของเด็กหญิงตัวเล็กที่ต้องปลอบแปลงเป็นชายก็ถวายให้ผู้เป็นนายเหนือหัวมาตลอด  ร่างกายบอบบางถูกฝึกหนักด้วยคำขอร้องของเธอเอง  จนเด็กตัวเล็กแข็งแกร่งขึ้นมาตามลำดับ  เรวิลฝึกซ้อมหนัก  ทั้งดาบ  มีดสั้น  ธนู  พลอง  ทวน  และการต่อสู้มือเปล่า  ตลอดจนศึกษาวิชาการเมืองการปกครอง  ศาสตร์ของเวทมนตร์  ทุกอย่างที่เธอคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อองค์หญิงที่เธอปฏิญาณว่าจะมอบชีวิตให้
    เด็กน้อยวัยสิบสองปี  ทอดตามองจดหมายที่ลงตราประทับโรงเรียนการทหารสุลามาร์ที่บิดายื่นให้  เนื้อความในจดหมายเชิญเธอไปเข้าศึกษาต่อ  ดวงตาสีน้ำทะเลเหลือบมองเสนาบดีรัชเชลอย่างสับสน
    ลูกต้องไป ชายหนุ่มเอ่ยเรียบๆ
    ทะ  ทำไม เรวิลถามเสียงค่อย  เธอไม่เคยอยากจากบ้าน  จากพ่อ  และที่สำคัญ  จากองค์หญิงเจมีไนไปไกลๆ เลยสักครั้ง  และนับตั้งแต่เธอเกิดมา  เธอก็ยังไม่เคยออกนอกแคว้นเลยด้วยซ้ำ
    ลูกขอให้พ่อซ้อมหนักให้ลูกเพื่ออะไรล่ะ
    เพราะลูกอยากเก่งขึ้นน่ะสิคะ  ลูกอยากทำให้แคว้นของเราเจริญก้าวหน้า  ทำเพื่อตระกูลของเรา  และ...เพื่อปกป้ององค์หญิง
    แต่สิ่งที่พ่ออยากให้เจ้าทำมิใช่แค่นั้น  พ่ออยากให้เจ้าทำทุกอย่างเพื่อให้องค์หญิงได้ขึ้นครองราชย์อย่างสมบูรณ์  ดูแลพระองค์ให้เป็นจักรพรรดินีที่ดีให้ได้
    เพราะอย่างนั้นลูกถึงต้องไป? 
    ใช่  เวลาที่เจ้าไปอยู่ที่นั่น  เจ้าจะได้รู้ว่าต่างแคว้นมองเราเช่นไร  แต่ละแคว้นเป็นเช่นไร  และเราจะสามารถเก็บเกี่ยวอะไรได้บ้างจากสิ่งเหล่านั้น 
    เจ้าของดวงตาสีน้ำทะเลสบตากับผู้เป็นพ่อ  ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าพ่อของเธอมองอะไรอยู่  รู้แล้วว่าภายใต้ดวงตาอันสุขุมนุ่มลึกนั้นมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง
    ค่ะ  ลูกจะไป
     
    แต่เธอคิดผิดว่าองค์หญิงน้อยของเธอจะเข้าใจในสิ่งที่เธอเข้าใจ  เมื่อพระองค์ไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจ  ยังทรงโวยวายเป็นการใหญ่  กล่าวหาว่าเรวิลจะทิ้งพระองค์เสียเฉยๆ
    เจ้าใจร้าย  เรวิล  เรนเดล  เจ้าเป็นคนใจร้ายที่สุดเท่าที่เราเคยพบมาเลย สุรเสียงน้อยพระทัยดังเข้ากระทบโสตของสหายวัยเยาว์  เธอจึงทำอะไรไม่ได้  นอกจากเอ่ยด้วยเสียงที่เด็ดขาดและหน้าตาที่เคร่งขรึม
    ต่อให้องค์หญิงทรงห้ามหรือจะตัดหัวกระหม่อม  กระหม่อมก็ต้องไป
    อย่าคิดว่าเราไม่กล้านะเรวิล!’ 
    กระหม่อมก็คิดว่าพระองค์ไม่กล้า ใบหน้าของเด็กน้อยไร้แววของการพูดเล่น  ดวงเนตรสีน้ำทะเลมองตอบพระเนตรสีอำพัน
    เฮ้อ...เจ้าจะไปทำไมกันเรวิล  แล้วใครจะอยู่เล่นกับเราล่ะ เจ้าหญิงน้อยตรัสเสียงอ่อนล้าเหมือนยอมแพ้  นัยนาสีทองสว่างหม่นหมองเสียจนเรวิลใจเสีย
    กระหม่อมสัญญาว่าจะกลับมาให้เร็วที่สุด  อืมม์...เอางี้  กระหม่อมจะเขียนจดหมายถึงพระองค์ทุกวันเลย เด็กน้อยเอ่ยอย่างอ่อนโยนกับผู้อ่อนเยาว์กว่า  
    เจ้าต้องสัญญากับเรา  ว่าเจ้าจะคิดถึงเราตลอดเวลา  ห้ามลืมเราเด็ดขาดเลยเข้าใจไหม
    พ่ะย่ะค่ะ  กระหม่อมสัญญา
    เรวิลให้คำมั่น  จนแม้กระทั่งกาลเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน  แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอลืมเลือนคำพูดในวันนั้นเลยแม้แต่คำเดียว
     
    หญิงสาวพาเรือนร่างเปลือยเปล่าลุกขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำ  มือเรียวบางหยิบชุดราชองค์ชายสีม่วงเข้มขึ้นมาสวมใส่  หากแต่นัยน์ตาสีฟ้านั้นกลับหม่นหมองราวกับมีเรื่องทุกข์ใจแสนสาหัส  เรวิลสะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดที่จะพาให้เศร้า  ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ
    ทันทีที่เธอก้าวออกมา  เสียงเคาะประตูไม้แผ่วเบาอย่างมีมารยาทก็ดังขึ้น
    เข้ามา เรวิลสั่งขณะที่ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมสีชาของตนเอง
    มีแขกมาขอพบคุณชายค่ะ สาวใช้พาตัวเองแทรกเข้ามาจากประตู  ก่อนเอ่ยอย่างเกรงๆ  เพราะหลังจากกลับมาจากการพาองค์หญิงรัชทายาทไปรักษา  คุณชายคนนี้ก็ดูอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ประเดี๋ยวก็ซึมเศร้า  ประเดี๋ยวก็โมโหร้าย  จนเป็นที่กลัวเกรงของบรรดาคนรับใช้ในคฤหาสน์มากกว่าตอนแรกที่ค่อนข้างเห่อ  เนื่องจากความหน้าตาดี
    ใคร?คุณชายเลิกคิ้วสูง
    ท่านหญิงมูลา  โดเรก้าค่ะ พูดจบก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว  ด้วยความกลัวนัยน์ตาสีน้ำทะเลที่ดูขวางๆ นั่น
     
    เรวิลเดินลงมายังห้องรับแขกของคฤหาสน์  ซัน  วอลเรนท์  ที่เบื้องหน้ามีสาวงามไม่เป็นสองรองใครนั่งจิบน้ำชาอยู่อย่างรอคอย  นัยน์ตาสีแดงอิฐมีทั้งความห่วงใย  กังวล  และคิดถึงในเวลาเดียวกัน  แววตาคู่นั้นทำให้ราชองครักษ์เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
    ...นางไม่ได้รักข้า...แต่รักเรวิลที่เป็นราชองครักษ์ต่างหาก...
    เธอรู้ซึ้งดี  ว่าการที่รักผู้อื่นอยู่ฝ่ายเดียว  มันเจ็บปวดแค่ไหน  มันคงไม่ต่างจากมูลาในเวลานี้นักหรอก
    หลานสาวท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายลุกขึ้นส่งยิ้มหวานให้กับองครักษ์  ดวงตาสีแดงอิฐนั้นส่งความจริงใจมาเกินคาด  จนทำให้เรวิลต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา
    ขอโทษที่ทำให้รอ  สบายดีหรือมูลา เรวิลเป็นฝ่ายเอ่ยทักขึ้นก่อนในฐานะเจ้าบ้าน  พลางผายมือให้นั่งตามสบาย
    ค่ะ  สบายดี  พี่เรวิลล่ะค่ะ  เป็นอย่างไรบ้าง  ทราบข่าวจากท่านลุงว่าท่านพาองค์หญิงเสด็จกลับมาแล้ว  แต่ก็ไม่มีโอกาสได้มาเยี่ยมเสียที  ได้ข่าวว่าท่านพี่ได้รับบาดเจ็บด้วย
    ไม่เป็นไรมากหรอก ...แผลทางกายน่ะหายสนิทแล้ว  แต่แผลทางใจนี่  ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็คงสมานไม่ได้
    ท่านพี่ดูไม่สบายใจ...
    เรวิลเลิกคิ้วนิดหน่อย  ประมาณว่า  งั้นหรือ  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา  ปล่อยให้อีกฝ่ายตอบคำถามทางสายตาต่อไป
    ก็ทั้งสีหน้า  และแววตาของท่านพี่มันฟ้อง  ว่าต้องมีเรื่องให้สบายใจแน่ๆ
    พี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอก  แค่ยังเจ็บแผลอยู่นิดหน่อย องครักษ์ตอบเลี่ยงไปอีกทางหนึ่ง  พร้อมกับพยายามทำสีหน้าที่คิดว่าดูดีที่สุด  กลบเกลื่อน
    หญิงสาวก็ได้แต่พยักหน้าอย่างแกนๆ สายตาชวนมองกวาดไปทางสวนด้านหน้าของคฤหาสน์
    สวนของคฤหาสน์  ซัน  วอลเรนท์นี่สวยจังเลยนะคะ  ท่านพี่จะว่าอะไรไหม  หากข้าอยากจะเดินชมดูสักหน่อย
    เรวิลไม่ได้พูดอะไร  นอกจากพยักหน้าแล้วก็พาหญิงสาวผู้เลอโฉมเดินออกมาด้านหน้าของคฤหาสน์  สวนที่เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว  แม่ของเรวิล  คือ  แม่หญิงเทียน่า  เรนเดล  ที่เสียชีวิตไปแล้ว  ได้ออกแบบตกแต่ง  และสรรหาต้นไม้สวยๆ แปลกๆ มาปลูกได้อย่างลงตัว  มีทั้งไม้ดอก  ไม้ประดับ  และถึงแม้ว่านางได้ตายไปแล้ว  สามีที่รักนางยิ่งกว่าสิ่งใด  ได้คงสวนที่นางอันเป็นที่รักได้สร้างไว้ดูต่างหน้าเอาไว้เหมือนเดิม  ไม่มีเปลี่ยนแปลไปจากเดิม
    ท่านหญิงแห่งคฤหาสน์  ซัน  วอลเรนท์  คงจะงามมากสินะคะ  ทั้งรูปงามและแสนฉลาด  ถึงได้สร้างสวนได้งามและน่ารักถึงเพียงนี้ มูลากล่าวชื่นชม  โดยไม่รู้ว่ามันเสียดแทงความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างจัง
     คงอย่างนั้นกระมัง  ตั้งแต่พี่จำความได้  พี่ก็ไม่ได้เห็นหน้าท่านแม่แล้ว...ท่านแม่ของพี่ตายตั้งแต่คลอดพี่แล้ว  ท่านอ่อนแอ  พี่มีโอกาสได้เห็นแค่ภาพวาดของท่านพ่อที่ท่านเก็บไว้ในห้องของท่านเท่านั้นแหละ  ซึ่งนั่นก็เป็นภาพเดียว  และภาพสุดท้ายของท่านแม่เรวิลบอกเล่าด้วยน้ำเสียงเจือเศร้า  นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล  เหม่อมองไปที่แปลงกุหลาบขาวที่บิดาบอกกับเธอว่าท่านแม่รักมันมากที่สุด
    ข้าขอโทษนะคะ  ข้าไม่ควรพูด... มูลาเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด
    ไม่เป็นไรหรอกมูลา  เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว
    หญิงสาวส่ายหน้า  ความรู้สึกผิดยังไม่จางไปจากหัวใจ
    ถึงอย่างไรข้าก็ต้องขอโทษท่านพี่อยู่ดี  ที่พูดจาอะไรไม่คิด
      ตอนนี้  เรวิลคิดว่าเธอไม่ได้คิดว่ามูลาเป็นศัตรูอย่างแต่ก่อน  หากไม่นับว่าหญิงสาวคนนี้เป็นหลานสาวทรงเสน่ห์ของเสนาบดีมหาดไทย  ที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับผู้สำเร็จราชการแทนหรือองค์ชายอาร์ลีแล้วไซร้  เธอคงจะสามารถพูดคุยอย่างเปิดใจกับมูลาได้ตามประสาหญิงสาว  และคงจะรักนางในฐานะน้องสาวคนหนึ่งได้อย่างสนิทใจ  ทว่าเรื่องทั้งหมดนั้นไม่สามารถทำได้  เพราะว่าเธอยังคงต้องทำหน้าที่ราชองครักษ์ที่ต้องรักษาพระชนม์ชีพขององค์หญิงรัชทายาทเหนือสิ่งอื่นใด
    ร่างสูงเดินไปเด็ดดอกไม้กล้วยไม้ป่าสีม่วงอ่อนดอกหนึ่งให้กับมูลา  ริมฝีปากบางแย้มยิ้มอย่างจริงใจกว่าทุกคราว  ทำให้หญิงสาวไม่กล้าสบสายตาสีน้ำทะเลนั่น  ได้แต่เอื้อมมือไปรับอย่างกล้าๆ เกรงๆ  ก้มใบหน้าแทรกเข้ากับเรือนผมสีน้ำตาลเข้ม  ผิดจากบุคลิกอุปนิสัยแต่เดิมโดยสิ้นเชิงที่ออกจะเป็นหญิงสาวที่มั่นในตัวเอง
     
    ภาพหญิงสาวกับชายหนุ่มร่างโปร่งสูงที่ลอดออกมาจากรั้วของคฤหาสน์ที่ใหญ่โตที่สุดหนึ่งในสองของแคว้นทราเวลนั้นสร้างความรู้สึกบางอย่างที่เสียดแทงพระทัยของคนที่แอบทอดพระเนตรจากรถม้าของสามัญชนเป็นยิ่งนัก  พระนัยนาสีทองอร่ามหม่นแสงเบือนพระพักตร์หลบจากภาพที่ทรงไม่อยากรับรู้
    อากัปกิริยาของเจ้าหญิงเจมีไน  ทำให้องค์ชายที่ประทับนั่งอยู่ข้างๆ ได้แต่แอบถอนพระปัสสาสะด้วยความเหนื่อยพระทัย
    ไหนน้องหญิงบอกว่าจะไม่สนใจเรวิลแล้วอย่างไรล่ะ เจ้าชายเฟียร์  ชาลเล่  จากแคว้นโอเรนถามด้วยความใคร่รู้
    หม่อมฉันก็ไม่ได้คิดจะสนใจนี่เพคะ  ก็แค่หมั่นไส้ ตรัสตอบ  พลางค้อนพระพักตร์บึ้งตึง  เรียกรอยแย้มสรวลจากเจ้าชายได้เป็นอย่างดี
    เจ้าพี่ทรงสรวลทำไมเพคะ  หม่อมฉันน่าขำนักหรือไร เจ้าหญิงน้อยตวัดสุรเสียงเข้มอย่างไม่พอใจ
    ไม่มีอะไร  ก็แค่ขำคนปากแข็ง
    ใครปากแข็งเพคะ องค์หญิงรัชทายาทแห่งทราเวลสะบัดพระพักตร์มามองเจ้าชายต่างแคว้นทันที
    ก็เจ้าน่ะสิน้องหญิง  ปากก็บอกว่าไม่สนใจเขาแล้ว  พาลเกลียดด้วยซ้ำ  กลับมาทำพักตร์บึ้งตึงออกอาการเยี่ยงนี้  มันน่าขำมิใช่หรือไงเล่า
    ออกอาการ  ออกอาการอย่างไรเพคะ  ทรงรับสั่งดีๆ นะ  ไม่เช่นนั้น  เรื่องของเจ้าพี่หม่อมฉันจะไม่ช่วยเลย สุรเสียงข่มขู่  พลางทำพระพักตร์คาดโทษอีกฝ่ายเอาไว้
    ก็ออกอาการหึงหวงน่ะสิ รับสั่งจบก็ทรงพระสรวลคำรบใหญ่  ก่อนตรัสต่อเพราะทอดพระเนตรเห็นพระพักตร์ที่พร้อมจะฆ่าพระองค์ได้ทุกเมื่อ  จากองค์หญิงองค์เล็กองค์นี้ 
    แล้วก็ไม่ต้องเอานาริเซ่มาขู่พี่หรอกนะ  เพราะถึงอย่างไรพี่ก็ไม่ปล่อยน้องสาวของเจ้าไปจากอกพี่เป็นเด็ดขาด...แม้ว่าเจ้าจะสนับสนุนหรือคัดค้านก็ตาม
    แววพระเนตรสีดำสนิทส่องประกายวาววับ  พระหัตถ์หนาปัดปอยผมสีทองแดงออกไปให้ไกลพระพักตร์  ยิ่งขับให้ดวงพักตร์งดงามราวเทพบุตรให้ชัดเจนขึ้น
     
    น้องว่าท่านพี่ยังมีเรื่องให้กังวลใจอยู่ดีใช่ไหมคะ น้ำเสียงใสราวระฆังแก้ว  ปลุกหญิงสาวในเครื่องแบบของชายหนุ่มให้ตื่นจากภวังค์
    ปะ  เปล่านี่
    อย่าปิดข้าเลย  ท่านกังวลใจเรื่องเจ้าหญิงเจมีไนอยู่ใช่หรือไม่หญิงสาวไม่อยากอ้อมค้อม  รีบยิงคำถามคาใจอย่างตรงประเด็นทันที  เนื่องจากลอบสังเกตเห็นอาการใจลอยหรือถอนหายใจหนักๆ อย่างผิดปกติ  นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลมองไปยังพระราชวังหลวงแห่งทราเวลบ่อยๆ อย่างลืมตัว
    คือ  ข้าเกรงว่าจะมีคนลอบทำร้ายองค์หญิงอีกน่ะ  ถึงจะผ่านช่วงเวลาวิกฤติมาแล้ว  ใช่จะวางใจได้  พี่ไม่อยากทำหน้าที่บกพร่องอีกเป็นครั้งที่สอง เรวิลสารภาพพร้อมกับถอนหายใจออกมาหนักๆ 
    คงไม่มีอะไรอีกแล้วกระมังคะ  พวกมันคงไม่กล้าลงมือเร็วๆ นี้หรอกค่ะ มูลาเอ่ย  ตีหน้าใสซื่อไม่รู้เรื่องได้อย่างแนบเนียนนัก  
    อาการแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องของมูลา  ทำให้เรวิลแอบกัดฟันแน่น  เอ่ยให้พอสะดุ้ง
    ไม่ว่าอย่างไร  ข้าก็จะไม่ปล่อยให้พวกคนชั่วอย่างพวกมันได้แตะต้ององค์หญิงเป็นครั้งที่สองแน่  หากมันบังอาจมาทำอะไรอีก  ข้านี่แหละ จะกุดหัวพวกมันให้หมด!”
    น้ำเสียงหนักแน่นจริงจังทำให้มูลาวางตัวไม่ถูก  ได้แต่หลบสายตาคมกริบ  แล้วแสร้งทำเป็นเดินนำหน้า  เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความกังวล  กับความรู้สึกบางอย่างที่แล่นผ่านเข้ามาในหัวใจ  ความโกรธเกลียดที่มี  นอกเหนือจากต้องเป็นฝ่ายตกเป็นรองในทุกด้าน  ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องของหัวใจ  ทำให้เพิ่มทวีความเกลียดนั้นให้รุนแรงขึ้นทุกขณะ  และจะไม่มีวันลดทอนความโกรธแค้นนั้นลงได้เลยแม้สักนิดเดียว
    อ่อ  จริงสิ  เร็วๆ นี้กระทรวงกลาโหมจะจัดให้มีการสวนสนาม  เพื่อยอพระเกียรติองค์หญิงเจมีไน  พร้อมทั้งฉลองพระราชสมภพของเจ้าหญิงนาริเซ่  พระราชนิกุลที่องค์หญิงเจมีไนประทานให้จัดด้วย  พี่หวังว่าท่านลุงของเจ้ากับเจ้าจะไปนะ เรวิลเดินตามมาห่างๆ  บอกด้วยกิริยาเรียบๆ
    ไปสิคะ  ท่านพี่เดินอยู่ในขบวนของทหารองครักษ์ด้วยหรือเปล่าคะ 
    เปล่าหรอก  พี่ต้องอารักขาองค์หญิงตามหน้าที่
    คะ  อย่างไรเสียท่านลุงกับท่านพี่ต้องไปแน่นอน ตอบ  พลางส่งยิ้มหวานให้เรวิล  ทว่าในใจกลับรุมร้อนยิ่งนัก  เมื่อได้เห็นแววตาอ่อนโยนจากคนด้านข้างยามที่เอื้อนเอ่ยถึงองค์หญิงรัชทายาท
     
    มูลากลับไปแล้วหรือลูก เสียงห้าวดังมาจากเบื้องหลังของเรวิล  ที่กำลังนั่งเช็ดดาบของตัวเองอยู่
    หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียก  วางดาบโฮลี่  ซวอร์ดลง  เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้จึงเอ่ย  น้ำเสียงราบเรียบอย่างเคย
    ค่ะพ่อ
    แล้วหายดีหรือยังล่ะ เสนาบดีรัชเชล  ถามพลางยอบตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ข้างๆ ตัวหญิงสาว
    หายแล้วคะ  ข้างในวังเป็นอย่างไรบ้างคะ  ลูกไม่ได้เข้าวังตั้งหลายวัน
    ก็อย่างนั้นแหละ  ยังไม่มีอะไรเป็นพิเศษ  ถกเถียงเรื่องงบประมาณเหมือนเดิม  เสนาบดีคลังคงไม่ให้งบในการสวนสนามง่ายๆ เหมือนเคยหรอก  เสนาบดีมหาดไทยกับมหาบัญฑิตร่วมวงคัดค้าน  พ่อเองก็ขี้เกียจเถียง  ส่วนการจัดการครั้งนี้ก็แค่ทำตามประเพณี  ไม่ได้จริงจังอะไรมาก  แต่จริงแล้วองค์หญิงก็อยากให้มีเหมือนกัน  เพราะหลังจากผ่านเรื่องวุ่นๆ มาแล้ว  ประชาชนก็ดูจะขวัญเสีย  เลยมีพระประสงค์จะสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชนน่ะ
    แล้วองค์หญิง...เอ่อ...
    ทรงมีพระพาลานามัยแข็งแรงดี รัชเชลตอบ  พลางส่งยิ้มอ่อนๆ ให้ผู้เป็นลูก  นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเจนโลก  มองมาราวกับล่วงรู้ความคิดของผู้เป็นลูก
    พรุ่งนี้ลูกจะเข้าวัง...ลาป่วยมาหลายวัน  ต้องกลับไปทำหน้าที่เสียที เรวิลหลบสายตารู้ทันของบิดา  แสร้งทำเป็นก้มหน้าก้มตาเช็ดดาบ  เลี่ยงไม่ให้ผู้สูงวัยกว่าเห็นใบหน้าแดงระเรื่อของตนเอง
    จะพักอีกสักวันสองวันก็ได้นะลูก  องค์หญิงเองก็ไม่ได้ทรงเรียกลูกให้เข้าเฝ้าด่วนนี่
    ไม่ได้หรอกคะท่านพ่อ  ลูกมีหน้าที่ที่ต้องอารักขาองค์หญิงตามที่ได้ให้สัตย์ปฏิญาณไว้...มันเป็นสัญญาของลูกคะ
    นัยน์ตาสีน้ำทะเลสบกับผู้เป็นพ่อ  เสนาบดีรัชเชลพยักหน้าอย่างเข้าใจ  มือหนาตบบ่าเล็กเบาๆ  เอ่ยด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจอย่างที่สุด
    คำมั่นขององครักษ์สินะ
    ใช่ค่ะ  คำมั่นขององครักษ์
     
     
     
     
     
     
     
     
      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×