คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ห้องศิลป์
"แอ๊ด ด ด ด" เสียงเปิดประตูของผู้มาเยือนยามเย็นทำให้เด็กสาวที่นั่งแต้มสีรูปภาพหญิงสาวบนขาหยั่งหันมาหาแหล่งกำเนิดเสียงแบบโมโหๆก่อนที่ผู้มาเยือนจะเอ่ยขึ้นว่า "ขิม ไม่กลับบ้านมา3อาทิตย์แล้วนะ พ่อกับแม่เป็นห่วงเรามากเลย รู้รึปล่าว กลับบ้านเถอะนะ ขิม" เสียงทุ้มๆของเด็กหนุ่มผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายของขิม ยิ่งทำให้ขิมโมโหมากขึ้นอีก "ไม่ ขิมไม่กลับบ้านหรอก ขิมว่าขิมกับพี่เชนคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วนะ อยู่ที่บ้านขิมไม่มีความสุข ไม่มีใครรักขิม อยู่ที่นี่โรงเรียนนี่แหละ ขิมมีความสุขกับการลงสีรูปที่สุดแล้ว" ขิมปฏิเสธเสียงกร้าว "แต่..." "ไม่ ไม่มีคำว่าแต่ออกไป ออกไป ไปสิ ไป๊ ไปให้ไกลๆ แล้วบอกพ่อกับแม่ด้วยว่าขิมจะอยู่ที่นี่ต่อให้ตายวิญญาณของขิมก็อยู่ที่นี่" ยิ่งพูดขิมก็ยิงควบคุมตัวเองไม่อยู่คว้าข้าวของรอบๆตัวที่สามารถเอื้อมถึงได้ไปที่ร่างที่ยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู เพล้ง! เสียงกรอบรูปที่กระทบเข้ากับกลางหน้าผากของเชนแล้วกระดอนลงมาบนพื้นเลือดอุ่นๆไหลทะลักลงมาแบบไม่ขาดสาย "ไป ไปเลย ไป๊" ขิมขับใสไล่ส่ง
เชนปิดประตูด้วยมือข้างหนึ่งส่วนอีกข้างหนึ่งอุดปากแผลที่หน้าผากไว้
สามอาทิตย์ที่แล้ว "ขิม ครูคิดว่าเธอเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้ ภาพวาดของเธอสื่ออารมณ์และความรู้สึกได้ดีมาก ครูก็เลยจะฝากภาพนี้ให้เธอช่วยลงสีต่อ" อาจารย์หัวหน้าหมวดศิลปะเรียกตัวขิมไปพบแล้วพูดด้วย "แต่ อาจารย์คะทำไมคนวาดเขาไม่ลงสีให้เรียบร้อยละคะ"ขิมเอ่ย "ฮืมม" อาจารย์ลากเสียงแบบคนกำลังใช้ความคิด "ก็คนวาดเขาลาออกไปตั้งแต่วาดเสร็จ ครูก็เลยเอามาให้เธอลงสีต่อ" แล้วขิมก็ตกลงรับงานนั้น
หลังจากนั้นเป็นต้นมาขิมก็หมกตัวอยู่ในห้อง ศิลปะไม่กิน ไม่นอน ไม่พูดคุยกับใครไม่แม้แต่จะกลับบ้านไม่มีใครสามารถดึงขิมออกจากห้องศิลปะได้เลย ขิมเริ่มลงสีอย่างบ้าคลั่งแต้มสีน้ำตาลอ่อนลงบนนัยน์ตาแต้มสีแดงลงบนริมฝีปากของรูป จากรูปที่มีแต่ลายเส้นงดงามนั้น บัดนี้ได้กลายเป็นรูปวาดที่ดูงดงามแฝงแต่ไปด้วยพิษสง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนสีเดียวกับขิมมีแววกระหายเลือดอยู่ ริมฝีปากสีแดงราวกับว่าผ่านการลิ้มรสเลือดมนุษย์สดๆมาแล้ว รอยยิ้มที่มองแบบผ่านๆหวานหยดย้อยแต่หากพิจารณาแล้วคล้ายแสยะยิ้มอย่างอาฆาต
วันนี้ "แอ๊ด ด ด"เสียงเปิดประตูเบาๆทำให้ขิมที่นั่งยิ้มเลื่อนลอยจ้องรูปภาพนั้นอย่างหลงใหลถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้นว่า "ขิม บอกพี่แล้วไงว่าขิม ..." "ไม่ใช่เชนเค้าหรอกลูก นี่แม่เอง แม่ขอเข้าไปได้มั้ย" กระแสเสียงของแม่ช่างอ่อนโยน แม่เดินเข้ามาในห้อง "ไหน ขิม พี่เค้าบอกแม่ว่าที่หนูไม่กลับบ้านเพราะติดงานลงสีรูปให้อาจารย์หรอ แม่เป็นห่วงจังเลยกลัวว่าขิมจะเหงา นี่งานขิมหรอแม่ขอจับหน่อยได้มั้ย" ประโยคหลังแม่ทำท่าจะแตะรูปภาพ "ไม่ แม่ อย่ายุ่งกับเค้านะ" ขิมพูดน้ำเสียงกระด้าง แม่อึ้ง เลี้ยงขิมมา15ปีไม่เคยได้ยินเสียงแบบนี้จากขิมมาก่อน "ขิม ขิม คือ แม่ เอ่อ" แม่พูดตะกุกตะกัก ขิมเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เมื่อเห็นแม่มองรูปภาพอย่างหวาดๆ ขิมแสยะยิ้ม ยิ้มเหมือนหญิงสาวในรูปภาพแล้วหัวเราะ หึ หึ หึ หึ หึ หึ หึ หึ หึ หึ หึ หึ ดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ "เธอสวยใช่มั้ยล่ะ เมื่อกี้เธอมาชวนขิมไปอยู่ด้วย พอแม่เดินเข้ามา เธอก็หายไป แม่ทำทุกอย่างของขิมพังหมดเลย ขิมไม่อยากอยู่กับแม่ที่นี่แล้ว ขิมจะไปอยู่กับเธอที่นู่น นั่นไงแม่เห็นมั้ยเธอมาแล้ว เธอมาปลอบใจขิม ขิมป้ายนิ้วชี้ไปแถวๆประตู ที่ว่างเปล่า แล้วยกมีดเหลาดินสอแถวๆนั้นเสียบสวบลงบนซอกคอ เลือดสีแดงฉานไหลทะลัก ล้นปรี่ออกมาจากปากแผล
3 วันต่อมา เชนค่อยๆ เดินเข้ามาแตะรูปที่ขิมทิ้งไว้ในห้องศิลปะ เขมรู้สึกถึงแรงมากมายมหาศาลประเดประดังเข้ามา หญิงสาวที่อยู่ในภาพช่างงดงามสุดจะบรรยาย เชนจดปลายพู่กันลงบนริมฝีปากของรูปนั้น ต่อมาเชนก็ลงสีอย่าง บ้าคลั่งทับสีที่ขิมลงไว้แล้ว 3 สัปดาห์หลังจากนั้น แม่ก็พบร่างไร้ลมหายใจของเชนอยู่บนพื้นของห้องศิลปะโดยที่มีมีดเหลาดินสอเสียบคออยู่
2 วันหลังจากงานศพ แม่ของขิมเดินเข้ามาในห้องศิลปะที่เคยมีร่างไร้ลมหายใจของลูกสาวและลูกชายนอนอยู่ เธอยืนมองรูปนั้นอยู่นาน นานมาก ก่อนจะพบว่าสีที่เชนลงนั้นแตกต่างจากที่ขิมเคยลงไว้ไม่น้อยเลยแต่ก็ยังมีดวงตาที่กระหายเลือดเหมือนกัน และรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะเป็นรอยยิ้มเยาะอย่างอาฆาต ริมฝีปากสีแดงสดคล้ายกับว่าเพิ่งลิ้มรสโลหิตมนุษย์มาไม่นาน แต่ใครจะไปรู้ล่ะริมฝีกปากนั้นอาจผ่านการดื่มโลหิตมนุษย์มาแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้ ใช่มั้ยท่านผู้อ่าน หึ หึ . . .
ความคิดเห็น