ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Silent Scream In School (SSIS)

    ลำดับตอนที่ #1 : No เนตร

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 52


                                    "นี่ จอย รู้จักพี่ต้นที่เป็นลูกอาจารย์มาลินีมั้ย เมื่อกลางวัน  ส้มได้ยินว่าพี่ต้นเขาตายแล้ว" ส้มกระซิบถามจอยเพื่อนสนิทที่กำลังลอกโจทย์เลขลงสมุด

    "รู้สิ ก็เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอ่ะ พี่เขาขับรถมอเตอร์ไซค์ชนกับรถกระบะ เห็นเขาว่ากันว่าแรงอัดทำไห้ลูกตาหลุดเลยแหละ ตอนนี้ก็ยังหาลูกตาพี่ต้นไม่เจอ แล้ววันนี้เขาก็กำลังจะเผาศพพี่ต้นกัน" จอยตอบพลางทำตัวสั่นหน้าสยดสยอง

     "อ๊ะ จริงหรอ โบราณเขาถือนะ ว่าถ้าเผาศพทั้งๆที่ไม่มีลูกตาอ่ะ แล้วศพอ่ะนะจะออกมาฆ่าทุกคนแล้วคนที่ถูกฆ่าก็จะเป็นวิญญาณร่อนเร่ทรมานตลอดไป" ส้มทำตาโต

    "อะแฮ่ม ส้มกับจอยตรงนั้นน่ะ ลอกโจทย์เสร็จแล้วหรอ" อาจารย์ สุชารส มองลอดแว่นแล้วถามขึ้น

     

                                       เช้าวันต่อมา

    "จอย เมื่อวานพี่เสือบอกว่า ตอนสองทุ่มที่ขับรถกลับบ้านพี่เสือเห็นคนถูกรถชน พี่เสือเขาเล่าว่าตอนที่เขาเห็นน่ะ เขาเห็นว่ามีเงาอะไรก็ไม่รู้วูบๆแวบๆอยู่หลังรถคันที่ชน แล้วรถก็พุ่งตกถนนไป พี่เขาเสียวๆว่าเงานั้นอ่ะนะจะเป็นเงาของพี่ต้น" ส้มเดินหน้าซีดเผือดมาบอกจอย

     "พี่เสือเขาคิดมากไปเองรึปล่าว เขาแต่งเรื่องให้ส้มกลัวเล่นๆมั้ง"จอยพยายามหาเหตุผลมาค้านว่าที่พี่เสือเล่าให้ส้มฟังนั้นอาจไม่เป็นความจริง

    "ไม่มั้ง ปกติพี่เสือเป็นคนไม่โกหกใครอยู่แล้วนี่นา"

    "เออ แล้วเรื่องที่เราคุยกันเมื่อวานน่ะที่ว่า ถ้าผังศพโดยที่ศพไม่มีลูกตา ศพจะออกมาฆ่าทุกคนน่ะ มีทางแก้มั้ย" จอยถามต่อ

     "อืม.. เห็นตอนเด็กๆคุณยายบอกว่าให้เผาลูกตาตามไปควันจะลอยไปบนฟ้าแล้ววิญญาณก็จะถูกปลดปล่อย"

     

                                         คืนนั้น ขณะที่ส้มอยู่บนรถที่กลับจากที่เรียนพิเศษส้มตัดสินใจที่จะถามแม่เรื่องศพที่ไม่มีตา

     "แม่คะ ตอนเด็กๆคุณยายเคยเล่าให้ส้มฟังว่าถ้าศพที่ถูกเผาโดยไม่มีตา จะออกมาฆ่าทุกคนเห็นเป็นเรื่องจริงรึ ปล่าวคะ"

    "อืม... แม่ก็ไม่รู้นะ แต่ตอนเด็กๆยายก็เล่าให้แม่ฟังอย่างนั้นเหมือนกัน" แม่ตอบ สงสัยจะไม่จริงหรอกคุณยายคงจะหลอกให้เรากลัวเล่น ส้มคิด ทันใดนั้นสายตาของส้มก็เหลือบไปพบกับ เงา วูบวาบอยู่หน้ารถ เอี๊ยดดดดด โครม ตึงงงงง      รถคันข้างหน้าทำท่าเหมือนจะหักหลบบางสิ่งบางอย่างแต่ก็ไม่พ้นพุ่งลงคลองข้างทางแทน

     

                                         "จริงๆนะ ก็ส้มเห็นกับตาของส้มเองเลยว่าพอมีเงาวูบมา รถคันข้างหน้าก็พุ่งลงคลองเลย ส้มว่าเรื่องศพไร้ตาน่ะน่าจะเป็นเรื่องจริงนะ เมื่อไรเขาจะหาลูกตาพี่ต้นเจอนะ สองศพเข้าไปแล้วยังหาไม่เจออีก" เมื่อวานส้มแค่หน้าซีดแต่วันนี้ตัวสั่นด้วยขณะพูดส้มสังเกตเห็นว่าวันนี้จอยดูซีดเซียวแปลกๆ จึงถามขึ้นด้วยเสียงสั่นๆว่า

     " จอยเป็นอะไรหรือปล่าวดูหน้าซีดๆ มีอะไรก็บอกเราได้นะ"

     "ส้ม พะ พะ พี่เจี๊ยบ พี่เจี๊ยบ ตะ ตายแล้ว" จอยกลั้นใจพูดได้แค่นั้นแล้วร้องไห้โฮ"หา พี่เจี๊ยบ ตายแล้วหรอ เป็นอะไรล่ะ" 

    "กะ ก็ พี่เขานั่งรถไปกินข้าวกับแฟนแล้วรถของแฟนก็พุ่งลงคลองไป คงจะเป็นคันที่ส้มเห็นนั่นแหละ" จอยพูดเสียงเบา

    "นี่จอย อยากช่วยให้พี่เจี๊ยบ พ้นจากทรมานมั้ย ถ้าอยากเรามาตามหาลูกตาของพี่ต้นกัน"

    "อืม ขอบใจนะส้ม แต่ว่าส้มจะช่วยพี่เจี๊ยบยังไงล่ะ" จอยสงสัย

    "ก็เมื่อเช้าน่ะ เราได้ยินแม่ค้าข้าวแกงคุยกันว่าดินแถวๆที่พี่ต้นตายน่ะเขาเอาไปผสมปูนสร้างตึงใหม่ข้างร้านขายหลอดไฟ"ส้มตอบจอย

    "งั้นเลิกเรียนเย็นนี้เราไปค้นที่กองทรายที่ก่อสร้างกันนะ" จอยทำเสียงมีความหวัง

                                            3วันต่อมา

     "ส้ม จอยว่าเราเลิกหากันเถอะ พวกก่อสร้างเขาใช้ทรายกันไปหมดแล้วล่ะ ลูกตาของพี่ต้นคงไม่ติดมาหรอกมั้ง" จอยทำเสียงเหนื่อยล้า

    "อืม ยังไงส้มก็ยังอยากช่วยพี่เจี๊ยบอยู่ เดี๋ยวคืนนี้เราลองคิดดูนะว่าลูกตาขอพี่ต้นอาจจะอยู่ที่ไหนได้บ้าง"          คืนนั้น

     ส้มนอนครุ่นคิดว่าลูกตาของพี่ต้นอาจจะอยู่ที่ไหนได้บ้าง ในที่สุดเปลือกตาของส้มก็หนักอึ้งจนปิดสนิทลง ในความฝันของส้ม ส้มมองเห็นลูกตาคู่หนึ่งซึ่งเพราะอะไรดลใจก็เป็นได้จึงทำให้ส้มรู้ว่าลูกตาคู่นั้นเป็นของพี่ต้นทันทีวางอยู่บนกองทรายแล้วช่างก่อสร้างก็ตักทรายนั้นเข้าเครื่องผสมปูน หลังจากนั้นไม่นานช่างก็เอาปูนที่ผสมได้โบกขอบตึก   เหมือนมีแรงอะไรบางอย่างกระตุกลึกๆในช่องท้องของส้ม กระตุกจนเธอสะดุ้งตื่น

    "อืม ที่เราหาลูกตาของพี่ต้นไม่เจอเพราะว่าช่างก่อสร้างเอาลูกตาของพี่ต้นไปโบกปูนงั้นหรอ มีเหตุผลนะ ตอนเช้าลองบอกจอยดู" ส้มพูดกับตัวเอง

    เช้าวันต่อมา

    "จอย เมื่อคืนเราฝันว่า ที่เราหาลูกตาของพี่ต้นไม่เจอซักทีเพราะว่าช่างก่อสร้างเอาไปผสมปูนแล้วโบกกับตึกแล้ว"  "อ๊ะ ฝันแบบเดียวกับเราเลย เราว่ามันก็มีเหตุผลนะ เราว่าลูกตาต้องอยู่ในปูนที่ตึกแน่" จอยพูด แต่ประโยคถัดมาจอยกลับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า

    "พี่เจี๊ยบเขามาหาจอยด้วย เขาบอกว่าทรมาณมาก ต้องเร่ร่อนอยู่ ไม่มีที่อาศัย เขาอยากให้เจอลูกตาของพี่ต้นเร็วๆแล้วรีบเผาซะ เขาจะได้ไปสบาย"

     "อืมมมม ตอนเนี้ย เราคิดกันไว้ว่าลูกตาพี่ต้นถูกโบกติดไปกับปูนแล้ว ถ้าจะมีวิธีง่ายที่จะเผาลูกตาพี่ต้นก็คือเราต้องแซะปูนออกมาดูว่าลูกตาพี่ต้นอยู่ที่ไหน แต่ถ้าจะแซะให้หมดก็คงจะปีกว่าๆโน่นแหละ แล้วมีวิธีที่ง่ายกล่านี้มั้ย.... เอ๊ะแต่เอ่อเราคิดออกอีกวิธีแล้วเรารู้ใช่มั้ยล่ะ ว่าลูกตาพี่ต้นอยู่ในตึก เราก็เผาตึกทั้งตึกเลยเป็นไง แค่นี้ลูกตาของพี่ต้นก็ถูกเผา ช่วยพี่เจี๊ยบได้แล้ว" ส้มพูดเร็วปรื๋อ

    "โอเค งั้นเย็นนี้เราไปช่วยพี่เจี๊ยบกัน

                                           เย็นนั้น

    "จอย เอาไฟเช็กมายัง เอามานี่" ส้มกระซิบ ส้มจุดไฟเช็กลงกระดาษที่ถืออยู่ในมือตั้งแต่แรกแล้วโยนลงบนตึก แล้วทำท่าเหมือนจะหันหลังกลับแล้ววิ่งออกไป ทันใดนั้นร้านนั่งที่อยู่บนตึกก็พังทลายลงมาทับร่างของส้มไว้เพราะแรงอัดอีกเหมือนกันที่ทำให้ลูกตาของส้มหลุดออกจากเบ้าตาดังผลั่วะแล้วกลิ้งหลุนๆร่วงน้ำไป

    "กรี๊ดดดดดดดดดด" เสียงกรี๊ดของส้มดังออกมาจากใต้ซากร้าน แสดงถึงพลังชีวิตที่ยังมีอยู่ ไม่ได้ดับสลายไปอย่างที่จอยเข้าใจ จอย ค่อยๆเดินเข้าไปฉุดส้มออกจากกองร้านและจัดแจงหาผ้าพันเบ้าตาของส้มไว้ แล้วพยุงส้มเดินออกจาพื้นที่ก่อสร้างข้ามถนนเพื่อไปโรงพยาบาล ขณะที่ข้ามถนนอยู่นั้นส้มรู้สึกมีความสุขเหมือนกำลังบินอยู่ ใช่แล้วแหละ ส้มกับจอยกำลังบินอยู่ ไม่ใช่ทั้งตัวนะ แต่แค่หัวต่างหาก ตอนที่จอยพาส้มข้างถนนมีรถคันหนึ่งบรรทุกเหล็กบางเฉียบขับผ่านไป และแน่นอนว่าคอของส้มกับจอยอยู่ในรัศมีของเหล็กบางเฉียบด้วยจึงถูกตัดขาดกระเด็นออกไปอย่างรวดเร็ว ร่างของทั้งสองค่อยๆโน้มตัวเอนลงและล้มในที่สุด

    ตึกที่มีลูกตาของต้นก็พังทลายลงมาเพราะความร้อนและตัวตึกยังไม่แข็งแรงดี ควันนั้นลอยขึ้นฟ้าสูงเรื่อยๆ ทุกอย่างหายไปในความมืด ไม่มีวิญญาณต้นอีกต่อไป ไม่มีคนที่เกี่ยวข้องที่ถูกดึงมาต่อไปแล้ว เหลือเพียงความว่างเปล่า...กับความเงียบที่คุณอาจได้ยินเสียงนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×