คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6
“ ไปได้แล้วเจ้าเหนือ” ท่านนายพลเอ่ยไล่ลูกชายที่ยังยืนเกาะ มารตีไม่ปล่อยสั่งโน่น นี้จนท่านลำคาญ วิวิทมองหน้าหวานที่เขาเห็นแล้วแสนจะชื่นใจเป็นครั้งสุดท้าย
“เจ้าตี้ เดี๋ยวเดือนหน้าพี่จะกลับมานะอย่าดื้อกับท่านหญิง” ก้มหอมแก้มใสต่อหน้าท่านหญิงดังฟอด จนท่านหันมาทำตาเขียวใส่ ก่อนที่จะขับรถ เอสยูวีสีดำ คันใหญ่ออกไปมุ่งหน้าสู่ ปางไม้อริทราช
“ไปได้เสียที เจ้าเหนือไม่งั้นเจ้าตี้ช้ำหมดแน่” ท่านหญิงบ่นกับท่านนายพลเบา ๆ และมองมารตีที่ทำหน้าเศร้าสร้อยจนท่านสงสาร
หลังจากที่วิวิทไปได้ไม่ถึงวันก็โทรกลับมาสั่งโน่นนี่จะคุยกับมารตีให้ใด้ทั้งทีเธอบอกไปแล้วว่ามารตีกลับบ้านไปแล้ว เจ้าตัวดีบ่นแป๋บ ๆ ก็วางสายไป
วิวิทได้รับการต้อนรับอย่างดีจากทุกคนที่เป็นคนงานที่นั่น เพราะว่าท่านนายพล และท่านหญิงคอยดุแลคนงานในเรื่องต่าง ๆ อย่างดีจนเป็นที่รักของคนที่ปางไม้ ถ้าอยากเรียกต่อแล้วไปมีเงินท่านก็ส่งเสียให้ แต่ว่าต้องกลับมาทำงานที่นี่ และทุกคนก็ทำด้วยความเต็มใจ ชยุตหัวหน้าคนงานส่งลูกสาวที่เพิ่งเรียนจบ อย่าง วริน มาคอยดูแลอาหารและที่อยู่ให้กับชายหนุ่ม ซึ่งเหมือนว่าเธอจะดูเต็มใจเป็นอย่างมากกับงานในครั้งนี้
“นายค่ะ พ่อให้มาตามไปดูงานที่สำนักงานค่ะ เห็นว่าลูกค้าคืนสินค้า” วรินพาร่างสะโองสะอง เต็มไปด้วยส่วนเว้า ส่วนโค้งในชุดผ้าซิ่นมาตามชายหนุ่มที่กำลังวิเคราะห์ลายไม้แต่ละอย่างที่คนงานนำมาให้ดู เพราะอากาศร้อน ทำให้เหงื่อใหลจนแนบเสื้อยืดไปกลับลำตัวที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม จนทำให้ วรินกลืนน้ำลายอย่างลำบาก
“ครับ เดี๋ยวไป” วิวิทมองหญิงสาวที่ยืนหน้าแดง และมองเขาอย่างมีจริตซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรไม่ช้าวิวิทก็ สามารถเคลียล์ลูกค้าได้อย่างหวุดหวิด ทำให้เป็นที่ชื่นชมของคนงาน
“เจ้าตี้ พี่โทรมาไม่อยากจะโทรกลับนะ” วิวิทตัดพ้อต่อว่ามารตีมาตามสายเพราะว่านาน ๆ ถึงทีเจ้าตี้ถึงจะว่างมารับโทรศัพท์
“ขอโทษค่ะพี่เหนือ ตี้ต้องไปโรงเรียนนะกลับมาต้องช่วยยายทำขนมอีก กว่าจะเสร็จตี้ก็นอนแล้ว” ปากจิ้มลิ้มอธิบายความยาวเพราะกล้วว่าเจ้าของเสียงเข้มจะโกรธที่เธอไม่ค่อยจะรับสายของเขาเท่าไหร่นัก
“ จ้า จ้า คนขยันเดี๋ยวอาทิยต์หน้าพี่จะกลับแล้วนะอยากได้อะไรเปล่า”
“ ไม่ค่ะ เอ๋ถ้าเป็นสตอเบอร์รี่ลูกโต ๆ ก็ดีน่า”แหมก็อยู่ที่เชียงใหม่นี่น่า อากาศแบบนั้นคงมีเจ้าลูกสีแดงที่เธอชอบอยู่มั่ง วิวิทหัวเราะชื่นใจที่ได้ยินเสียงหวานที่ดังมาตามสาย ทั้งสองคุยกันอีกสอง สามประโยคก็วางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มติดปาก
“ว่าไงคุยอะไรกับเจ้าตัวดี” ท่านหญิงที่กำลังจะเดินขึ้นห้องทักทาย คนตัวบางที่กำลังจะใส่รองเท้ากลับบ้าน มารตียกมือไหว้ท่านหญิงอย่างเรียบร้อย
“พอดีพี่เหนือถามว่า อยากได้อะไรไหมเพราะว่าอาทิยต์หน้าจะกลับแล้วค่ะ” ท่านหยิงพยักหน้าจะกล่าวราตรีสวัสดิ์กับมารตี และมองคนตัวบางเดินไปจนถึงรั้วแล้วท่านหญิงจึงกลับเข้าบ้าน
ร่างสูงของวิวิทที่คุมงานการตัดไม้อย่างคร่ำเคร่งจนเป็นที่ชื่นชมของคนงานรุ่นใหญ่ที่คนหนุ่มวิสัยไกลอย่างวิวิทมาทำงานทั้งที่เจ้าตัวก้ไม่ได้จบเมืองนอก เมืองอย่างคนอื่น แต่มันสมองของวิวิทนั้นไม่เป็นรองใครเลยจริง ๆ เผลออาจจะดีกว่าพวกคุณนายชาวเหนือทั้งหลายที่ส่งลูกไปเมืองนอกเสียด้วยซ้ำ
“นายค่ะเห็นพ่อว่าจะไป กรุงเทพเหรอค่ะ” วรินพาตัวเองเดินลุยหญ้ามาถามวิวิทถึงในเขตตัดไม้ใหญ่เพราะว่าต้องการไปเห็นหน้าคนที่ใคร ๆ ก็ล่ำลือว่าเป็นว่าทีลูกสะใภ้ของท่านหญิงแห่งวัง อริทราช และเธอก็มั่นใจว่าจะนำมันมาเป็นของเธอให้ได้
“ใช่มีอะไรหรือเปล่า ริน” ร่างสูงที่เต็มไปด้วยเหงื่อหันไปถามเจ้าของเสียงที่พยายามทำให้หวาน แต่คงจะไม่มีเสียงใหนจะเพราะไปกว่ามารตีอีกแล้ว
“อ้อ พอดีว่ารินจะติดรถไปด้วยค่ะ”
“ได้ซิ ไปพักด้วยกันก็ได้” วิวิทตอบอย่างเต็มใจเพราะว่าที่ผ่านมาวรินก็ช่วยงานเขาหลายอย่าง เรื่องแค่นี้สบายมาก ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของตัวเองเลยไม่ทันคิดว่าผู้หยิงตรงหน้าต้องการอะไรที่มากกว่านั้น วรินยิ้มอย่างพอใจ ที่แผนขั้นแรกกำลังเดินทางไปได้ด้วยดี ที่นี้ก็เหลือแต่ทำให้ท่านหญิงโปรดปราน หล่อนทราบมาว่าท่านหญิงชอบคนที่เป็นการบ้าน งานเรือน เธอจะเขี่ยว่าที่ลูกสะใภ้ให้กระเด็นเลยคอยดู!
และเมื่อมาถึงก็ทราบว่าเธอคิดผิดเป็นอย่างมากเนื่องจากท่านหญิงไม่ให้ความสนใจเธอเลยแม้แต่เพียงนิด แถมยังให้เธอไปนอนที่เรือนรับรอง วรินที่เห็นความใหญ่โตของคฤหาสค์ก็ยิ่งอยากที่จะเป็นเจ้าของวิวิทมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านั้น
ร่างสูงของผู้ที่มาใหม่นั้นก้คอยวนเวียนอยู่ที่หน้าประตูรั้วข้างบ้าน เพราะไกล้ถึงเวลาที่มารตีจะมาถึงแล้ว วิวิทตัดสินใจเปิดรั้วเล็ก ๆ เข้าไปนั่งรอที่ริมสระบัวที่บัดนี้เหลือเพียงแค่ใบเขียว ๆ เท่านั้น
“โธ่พ่อคุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” ยายแป้นที่กลับมาจากตลาดเพื่อซื้อของทำขนม เดินมาลูบเนื้อลูบตัวของร่างสูงที่ตัวเองเห็นมาแต่เล็ก แต่น้อย
“ เพิ่งมาครับ ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย” เพราะหัวใจลอยมาที่นี่ตั้งแต่ขึ้นรถ ตัวก็เลยต้องรีบตามมา
“รอเจ้าตี้เหรอค่ะคุณเหนือ” ดวงหน้าคมเข้มพยักหน้าตอบ และถามสาระทุกข์ สุขดิบกับยายแป้นก็ทราบว่าตอนนี้ยายแป้นไม่ต้องไปขายของที่ตลาดแล้วเพราะเจ้าใหญ่มารับไปขายให้ถึงที่
“ยาย ๆ ยายจ๋า” วิวิทหันไปตามเสียงทันที่ เพราะจำได้ว่าเป็นเสียงของใคร มารตีเกือบสะดุดเมื่อพบว่าร่างสูงที่เธอกำลังคิดถึงมานั่งรอเธอยู่ก่อนแล้ว มารตียิ้มใส่หน้าวิวิทและขอตัวไปอาบน้ำ ด้านวิวิทก็ปักหลักรอวิวิทอยู่ที่เดิมเพื่อที่จะเดินไปหาท่านหญิงด้วยกัน
ร่างสูงตัดสินนอนเหยีดยาวบนเสื่อที่นำมาปู แดดร่มลมตก ประกอบกลิ่นที่สดชื่นของน้ำและดินทำให้ตาสีสนิทดุปิดลงอย่างช้า ๆ ในขณะที่คอยคนตัวบางของเขาอยู่นั่นเอง และรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่ได้กลิ่นหอมที่เป็นกลิ่นประจำตัวของมารตีตาสีสนิมเปิดขึ้นอย่างช้า ๆ
“ เจ้าตี้ไปนานจัง พี่คอยจนหลับแล้วนะ” วิวิทพาค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเสื่อด้วยความเมื่อยขบ แต่พอเห็นคนตัวบางในชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนแล้วก็หายง่วงเป็นปริดทิ้ง ตอนนี้เหลือเพียงแต่อารมณ์อยากจะอ้อนเธอเท่านั้นเอง
“ เจ้าตี้ พี่ปวดหัวจังเลยต้องเป็นเพราะพี่ขับรถนานแน่เลย” วิวิทโอดควรญ และพาศีรษะของตัวเองไปล้มนอนที่ตักนุ่มของมารตี และพลิกหน้าเข้าหาท้องนิ่ม ๆ สูดหายใจเอากลิ่มหอมที่ตัวเองแสนจะคิดถึงเข้าเต็มปอด ลมหายใจร้อน ๆ ของคนร่างใหญ่ทำเอาเจ้าของตักรู้สึกเหมือนมีคนเอาผ้าร้อน ๆ มาโปะที่หน้าอย่างไรอย่างงั้น พาลให้ทำอะไรไม่ถูก แต่ด้วยความที่ไกล้ชิดกันมาแต่เล็กเลยไม่ทำให้มารตีนั้นคิดไปไกล ผิดกับคนร่างยักษ์ที่คิดไปไกลจนเกินจะกู้
“ พี่เหนือตี้หนักนะ ใหนว่าจะไปหาท่านหญิงไงค่ะ” มารตีพยายามดันศีรษะใหญ่ออกจากตักของตัวเอง เพราะกลัวว่ายายจะมาเห็น วิวิทเงยหน้ามองและเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้า คายไม่ออกเลยจำใจลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจนัก ในขณะที่เดินกลับคฤหาสค์มือใหญ่ก็ไม่ปล่อยมือเล็กออกจากการเกาะกุมเลย
“เจ้าเหนือ พ่อคิดว่าจะไปค้างกับเจ้าตี้แล้วเสียอีก” ท่านนายพลแซวลูกชายที่ดูเหมือนจะไม่ปล่อยมารตี และไม่แคร์สายตาที่ท่านมองแม้เพียงนิด แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่เป็นตามนั้น วิวิทยิ้มทักทาย ท่านนายพลเล็ก ๆ และพาคนตัวบางเดินเข้าไปในบ้านที่ใหญ่โตโอ่อ่า
มารตีคลานเข่าเข้า ไปหาท่านหญิงกราบที่ตัก ท่านหญิงลูบหัวอย่างเอ๊นดู เรียกสายตาของคนที่นั่งอยู่โซฟาอีกตัวให้หักมาพิจารณาคนมาใหม่อีกครั้ง ร่างบางที่ขาวละมุนไปทั้งตัว ใหนจะดวงหน้าจิ้มลิ้มน่ารักอีก แต่ที่สะดุดตาก็คงเป็นกำไลข้อมือที่ใส่อยู่ นี่เองกำไลที่คนในสกุลนี้ใช้เพื่อจับจองสะใภ้ในสกุล และคนจะเป็นวิวิทแน่นอน เพราะว่าท่านมีบุตรชายเพียงแค่คนเดียว ความอิจฉาของวรินแล่นมาเป็นริ้ว ๆ เมื่อเห็นว่าท่านหญิงเอ็นดู เจ้าของกำไลเพียงใร
“เจ้าตี้ นี่วรินผู้ช่วยของเหนือรู้จักกันไว้นะเวลาเชิญมางานสำคัญจะได้เชิญถูก” ท่านหญิงหันไปแนะนำให้คนตัวบางรู้จักกันหญิงสาวที่อยู่ในชุด กระโปรงสีขาวยาวพริ้ว เผยให้เห็นใหล่กลมกลึง ใบหน้าสวยตามแบบฉบับชาวเหนือ ที่นั่งอยู่ที่โซฟา เพื่อเป็นการบอกสาวอีกคนให้รู้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ในตัวบุตรชายของท่าน
“ สวัสดีจ๊ะ ตี้” วรินหน้าม้านไปนิด และกลับมายิ้มแย้มให้กับมารตีเหมือนกับว่าเธอยินดีที่ได้รู้จักจริง ๆ มารตียิ้มตอบเล็กๆ
“นี่เจ้าเหนือไม่นั่งตักเจ้าตี้เลยล่ะ” ท่านหญิงหมั่นใสที่บุตรชายนั่งเบียดมารตีอยู่ที่พื้นและหยอกล้อ โดยไม่แคร์สายตาของคนที่สอง ที่สาม
“ ถ้าไม่กล้วแบนนั่งไปแล้ว” วิวิทตอบและลูบหัวคนตัวบางอย่างรักใคร่ ทำเอามารตีหันมาทำตาเขียวใส่ อยู่ต่อหน้าท่านหญิงเธอไม่กล้าเถียงเขาหรอก ไม่ช้านมสายก็มาตามให้ทั้งหมดไปทานอาหาร และมารตีก็ขอตัวกลับแต่ว่า คนร่างยักษ์กลับคว้าแขนเรียวขาวไว้
“อะไรกันพี่ยังไม่หายคิดถึงเลยนะ จะกลับแล้ว ทานข้าวกับพี่ก่อน”
“ นะนะ เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่บ้าน” และสุดท้ายเธอก้ต้องทานอาหารกับวิวิทจนได้ ทั้งที่ยายบอกแล้วว่าอย่า กลับไปโดนหนักแน่ ๆ วิวิทคอยบริการทุกคนเต็มที่โดยเฉพราะมารตี ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ โดยมีช่วงหนึ่งที่น้ำซอสเลอะที่มุมปากวิวทก็จัดการเช็ดให้อย่างอ่อนโยน จนมือของวรินที่กำช้อมแน่นแทบเป็นข้อขาว
“น้องตี้สวย ๆ แบบนี้มีแฟนหรือยังจ๊ะ” วรินแกล้งถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว มารตีมองซ้าย มองขวาก่อนจะตัดสินใจตอบ
“ ไม่ค่ะ ตี้เรียนที่โรงเรียนหญิงล้วน”
“แต่ว่าคงไม่นานหรอกครับ” วิวิทยิ้มตอบ และมองหน้าวรินเหมือนกับจะบอกว่าเขานี่แหล่ะแฟนของมารตี
“เหนือ เงียบไปเลยเจ้านี้ เจ้าตี้หน้าแดงหมดแล้ว” ท่านนายพลแซวลูกชายที่กำลังทำหน้าระรื่น อย่างหน้าหมั่นใส้
“เจ้าตี้รู้มั้ยว่า กำไลที่ใส่หมายความว่าอะไร” วิวิทถามและดึงร่างอรชรของมารตีมาไกล้ ๆ แสงไฟพร่ามัวตรงข้างรั้วบ้านทำให้มารตีไม่เห็นสีหน้าของคนที่กำลังเลื่อนมือมาเกาะกุมที่เอวบางของตัวเองว่าแวววาวขนาดใหน
“มะ ไม่รู้ค่ะ” มารตีเสียงสั่นเพราะไม่เคยเห็นและสัมผัสกับพี่เหนือที่ดูแปลก ๆ แต่ทำให้หัวใจของเธอเต้นอย่างบ้าคลั่ง มือเล็กยันท้องแข็ง ๆ ไว้เพราะไม่อยากให้ตัวเองอยู่ไกล้เขามากเกินไป
“อยากรู้หรือเปล่า” วิวิทใช้มือด้านหนึ่งเชยคางเล็ก ๆ ด้านหนึ่งเขาอย่างมองตาคนตัวบางที่เขาแสนโหยหา เธอไม่รู้หรอกว่าเขาทรมานกับการที่ต้องอยู่ห่างขนาดใหน
“ หมายความว่า ท่านแม่จองตี้ให้กับพี่แล้ว”
“ว่าไงเจ้าตี้ พี่ขอจองได้มั้ย” สายตาที่หวานเชื่อม และเสียงที่ดังอยู่เหนือศีรษะเกือบทำให้มารตีเป็นลมจนต้องกำชายเสื้อของวิวิทไว้
“ตี้ไม่รู้” วิวิทคิดอยู่แล้วว่าคำตอบต้องเป็นแบบนี้ มือใหญ่เลื่อนลงไปแกะมือขาวที่กำชายเสื้อของเขา และบรรจงจูบปลายนิ้วเล็กที่ละนิ้วอย่างแสนรัก
“งั้นพี่จองและประทับตราแล้วห้ามเปลี่ยนใจนะ” วิวิทจูบที่กลางฝ่ามือแรง ๆ เพื่อเป็นการยืนยัน ด้านมารตีก็งุงงงที่อยู่ ๆ ตัวเองก็ถูกจับจองไปเสียอย่างนั้นด้วยความเป็นดรุณีแรกแย้มเลยไม่ทันเหลี่ยมของนายพรานที่พยายามและต้อนลูกไก่ตัวเล็กเข้ากรง เสร็จแน่เจ้าตี้ของพี่ โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่ามีสายตาที่ฟ่าฟางของยายแป้นมองอยู่ โดยที่มีท่าทางไม่พอใจ ไม่พอใจที่หลานไม่รู้จักเจียมตัว!
“ตี้ไปทำอะไรมาตั้งนานสองนาน” มารตีสะดุ้ง เพราะคิดว่ายายหลับไปแล้ว เอ๋แบบนี้ยายจะเห็นเรากับพี่เหนือหรือเปล่าน้า
“ตี้ยายบอกแล้วว่า อย่าไปยุ่งกับท่านทำไมไม่ฟังบ้าง” ยายแป้นนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้ตัวเก่าข้างห้องนอนของมารตี และมองหลานสาวอย่างผิดหวัง มารตีตัวลีบเหลือนิดเดียวและตั้งใจว่าจะเข้าไปออดอ้อนยายไม่หายโกรธ แต่เธอไม่รู้ว่าเหตุกาณณ์ในวันนี้ไม่เป็นเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา
“มารตี ถ้าเห็นใจยายก็เอากำไลเป็นคืนท่านหญิงซะ” กำไลที่เธอแสนรักเพราะเป็นของขวัญที่ท่านหญิงและท่านนายพลประทานให้ แต่เธอคงต้องเลือกที่จะเอาไปคืน มารตีมองหน้ายายแป้นและพยักหน้าเบา ๆ เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วยายแป้นก็พาร่างอันแก่ชราเข้าห้องนอนไป ทิ้งให้คนหน้าจิ้มลิ้มต้องร้องไห้แบบไม่มีเสียงอยู่แบบนั้น เธอเกลียดเหลือเกิน เกลียดที่เป็นแบบนี้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น