ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7] MATHAYOMมัธยม | MarkBam

    ลำดับตอนที่ #2 : มาร์คแบมมัธยม 1: น้ อ ง / พี่ ร หั ส

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.พ. 58


    มาร์คแบมมัธยม 1: น้ อ ง / พี่  ร หั ส

     

     

     

                “ไอ้มาร์คแม่งไปไหนว่ะแสรด”

     

                “อยู่ห้องชมรมมั้ง”

     

                จูเนียร์ตอบแจ็คสันออกไปแบบไม่คิดอะไรมากมาย โอ๊ยยย!!แล้วจะคิดให้มันปวดหัวทำไมหล่ะ อย่างไอ้มาร์คเนี้ยนะจะโดดรั่วโรงเรียนแล้วไปเดินห้างพ่อตัวเอง ไม่มีทาง นั้นแม่งเป็นความคิดที่โคตรเห่ยอ่ะ

     

                “ป๋า อยากนั่งแล้วอ่ะ”

     

                ยูคยอมชี้ไปที่ม้านั่งใต้ต้นไม้พร้อมกับทำหน้าอ้อน น่ารักตายห่าแหละมึงอ่ะ ม.4เสือกสูงเท่าเด็กมหาลัย สัดเอ๊ยเตี้ยแล้วพาลเลยกู

     

                “เออๆๆๆ”

     

                คนขี้โวยวายตอบออกไปอย่างรำคาญ เดินมาจะสองชั่วโมงล่ะยังหาอิน้องรหัสแจ็คสันไม่เจอเลยเนี้ย ไปตายห่าที่ไหนจินยองจะตรัสรู้มั้ยบอกที!!!

     

                “ยูคยอม มึงไม่ได้เข้าห้องเรียนรึไง มึงน่าจะจำหน้าใครสักคนได้นะ”

     

                แจ็คสันถามน้องรหัสเพื่อนตัวเองแบบต้องการคำตอบเพราะนี้ประโยคคำถามไม่ใช่ประโยคพูดลอยๆ

     

                “เข้าดิฮยอง จำหน้าได้แต่น้องรหัสเฮียมาร์คอ่ะ”

     

                “ห้ะ..? มึงรู้ทำไมมึงไม่บอกเฮียมึงว๊า”

     

                จูเนียร์โบกกระบาลยูคยอมไปหนึ่งทีให้กับความสะเพร่าของมัน รู้ว่าเป็นใครเสือกไม่บอกไอ้มาร์คอีกนะห่า เดี๋ยวสักพักก็มาบ่นให้กูว่าน้องรหัสแม่งหน้าตาเป็นยังไง ทำไมไม่ไปหามัน ฟัคคคมึงนั่นแหละควรตามหาน้องเขา-..-

     

                “แล้วยองแจน้องรหัสกูล๊า”

     

                 แจ็คสันแทบจะงอแงปาไปสองชั่วโมงล่ะยังหาน้องรหัสไม่เจอ การหาน้องรหัสครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมเหมือนกัน หากหาน้องรหัสไม่เจอภายในวันนี้ แล้ววันพรุ่งนี้จะต้องรับน้องช้ะ?ก็จะถูกทำโทษโดยเพื่อนในห้อง แต่ไม่ได้โดยคนเดียวนะจร๊ะ อิน้องรหัสก็จะโดยไปด้วยคร๊า แต่ก็ดีจะได้ไม่Alone

     

                “ขอโทษนะครับ”

     

                อยู่ๆก็มีเด็กใส่แว่นหน้าเอ๋อๆเดินกล้าๆกลัวๆเข้ามายังกลุ่มเด็กผู้ชายสามคนที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ทั้งสามคนเลิกคิ้วให้กับผู้มาเยือนใหม่พร้อมกัน

     

                “พวกพี่.. เอ่อ.. รู้จักพี่ที่เลขที่ 14 ห้องม.5/2 ป้ะครับ”

     

                “...”

     

                แจ็คสันหันหน้ามามองยูคยอมและจูเนียร์สลับกันช้าๆแบบอึ้งๆ ด..เดี๋ยวนะ

     

                “คนที่ชื่อ แจ็คสัน หวัง หน่ะครับ ชื่อแปลกๆคล้ายๆกับหวังคงที่เป็นลิงเลย”

     

                “....................”

     

                ยูคยอมมองหน้าแจ็คสันที่ตอนนี้ถ้าไรท์ใส่เอฟเฟ็คหล่ะก็จะเห็นควันขาวๆออกที่หูทั้งสองข้างของเขาแน่ๆ จูเนียร์กับยูคยอมได้แต่กลั้นหัวเราะกับคำพูดของไอ้เด็กเนิร์ดนี่

     

     

                ไม่.. ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยย

     

     

                “กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 5555555555555555

     

                “5555555555555555 หวังคงๆๆๆ”

     

                ทั้งจูเนียร์และยูคยอมกลั้นขำไม่อยู่ลงไปนอนกุมท้องอยู่พื้นหญ้าพร้อมกับชี้หน้าเพื่อนเหมือนกับว่าสิ่งที่เด็กเนิร์ดนั้นพูดมันเป๊ะทุกอย่าง แต่ตอนนี้คนที่ถูกหัวเราะเยอะเลือดคงจะขึ้นหน้าอย่างเต็มพิกัดและพร้อมจะระเบิดตู้มกลายเป็นโกโก้ครั้นซ์ได้ทุกเมื่อ แต่ดูเหมือว่าไอ้เด็กหน้าเอ๋อนั่นก็ยังคงทำหน้าเอ๋อเข้าไปอีกเพราะไม่เข้าใจว่าพวกพี่เขาจะต้องขำอะไรขนาดนั้น

     

                “กูว่ามึงต้องมีรอยช้ำบนหน้าเป็นของขวัญเปิดเทอมแน่ๆเลยว่ะ”

     

                แจ็คสันลุดขึ้นกำคอเสื้อนักเรียนของเด็กเนิร์ดอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนถูกกระทำปรับตัวแทบไม่ทัน กระเป๋าใบเล็กที่สะพายข้างไว้หล่นลงพื้น หนุ่มเนิร์ดใช้นิ้วเรียวดันแว่นหนาก่อนจะมองหน้าแจ็คสันอย่างไร้เดียงสา

     

                “พี่ฮ่ะ..ปล่อยผมเถอะ แม่ผมอุตส่าห์รีดเสื้อให้ มันยับหมดแล้วฮ่ะ”

     

                ไอ้เหี้ยยย!! คำพูดซื่อบื้อๆพวกนี้คือมึงกำลังกวนตีนกูช้ะ!!

     

                “ไอ้น้องรหัสเวรรร!!

     

     

     

     

                ร่างหนาบนโซฟาขนาดใหญ่นอนจิ้มแท็บเล็ตของตัวเองอย่างสนุกสนานด้วยสีหน้าน่าเบื่อสุดๆ ให้ตายเถอะนี่ก็ปาไปเที่ยงวันแล้วยังไม่มีเด็กผู้ชายคนไหนเดินเข้ามาถามเขาว่าใช่พี่รหัสนามว่ามาร์คคึสุดหล่อรึป่าวครับเลยสักคน

     

                Rrrrrrrrrrr

     

                โทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่โต๊ะข้างๆโซฟาดังขึ้น มาร์คมองไปแบบเอือมๆก่อนจะลุกขึ้นเดินไปรับโทรศัพท์นั่น

     

                “ครับ ?”

     

                ( สวัสดีครับ ใช่เบอร์มาร์ครึป่าว )

     

                “เอ่อ.. พี่เจบีหรอ”

     

                ( เออมึง.. เห็นไอ้เชี่ยเนียร์มั้ย )

     

                “พี่มีเบอร์มันอยู่หนิ”

     

                ( มันรับแล้วกูจะโทรมาหามึงมั้ยครับ? )

     

                “มันหาน้องรหัสให้ไอ้แจ็คอยู่ ทำไม?”

     

                ( กูจะเรียกมันมาคุยเรื่องงานที่จะจัดอาทิตย์หน้า )

     

                “งานไรว่ะ พี่แม่งต้องไปร้องเพลงกับไอ้เนียร์อีกหรอ?”

     

                ( เออดิว่ะ ถ้าเจอมันแล้วฝากบอกให้มันมาหาพี่ที่ห้องซ้อมด้วย เคนะ บรั๊ยส์ )

     

                มาร์คเอาโทรศัพท์ออกจากหูแล้วมองดูเบอร์ที่พี่เจบีโทรมา.. ซิมใหม่อีกล่ะ แม่งเปลี่ยนเบอร์เกือบทุกเดือน ชื่อพี่มันแม่งเต็มเครื่องแล้ว -...-

     

                กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

     

                เสียงกริ่งของโรงเรียนดังขึ้นเพื่อบอกว่านี่คือเวลาพักของนักเรียนแล้ว มาร์คเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบกระเป๋านักเรียนแล้วเดินออกจากห้องชมรม

     

                มาร์คเดินสะพายกระเป๋าเพียงข้างเดี๋ยวแล้วเดินแบบเท่ๆ แต่ก็ต้องสดุดความเท่ไว้เมื่อมีเด็กคนนึงเดินมาชนจนตัวมาร์คแทบจะล้ม แต่ก็ถูกดึงไว้โดยเด็กที่ชนเขานั่นแหละ

     

                “เฮ้ยยย”

     

                เด็กคนนั้นอุทานออกมาพร้อมกับขว้าเอวมาร์คไว้ ทั้งสองคนตัวหมุนไปเลยทีเดียว แต่ก็มาจบด้วยท่าในละครคือเด็กคนนั้นรับมาร์คไว้โดยการโอบเอวมาร์คส่วนมาร์คก็เกาะคอเด็กคนนั้นด้วยหน้าเหว๋อๆทั้งคู่เผลอเลื่อนสายตามามองกันเพียงแค่ 3 วิ เรียกเสียงกรี๊ดได้ดังเลยทีเดียว

     

                “นี่มันฉากได้กันในละครเลยนะเว้ย”

     

                “เชี่ยแล้วไงพี่มาร์คกู”

     

                เสียงซุบซิบที่ดังอ้อมหัวมาร์คเรียกสติมาร์คได้เป็นอย่างดี เขาเอนตัวยืนตรงแล้วพลักไอ้เด็กนั่นออกก่อนจะปัดเสื้อของตัวเองและสำรวจสิ่งของ

     

                 “โทษทีพี่ พี่ไม่เป็นไรใช่ป้ะคับ”

     

                “เออๆ”

     

                 “เจ็บไหล่ป้ะ เมื่อกี้แบมเดินชนแรงไปรึป่าว”

     

                “อย่า! อย่าเข้ามา ฉันไม่เป็นอะไร”

     

                ร่างหนาตอบออกไปอย่างระแวงๆเมื่อเด็กผมฟ้าเดินเข้ามาทำท่าจะปัดเสื้อให้ ทำไมเขาต้องห้ามให้ไอ้เด็กนี้ไม่ให้เข้าใกล้เขาด้วย โถ่เว้ย!ภาพเมื่อกี้มันควรจะเป็นมาร์คซ่ะมากกว่าที่เป็นคนขว้าเอวไว้ไม่ใช่ไอ้เด็กนั่น

     

                มาร์คเงยหน้าขึ้นมามองเด็กที่เดินชนเขาอย่างละเอียด พิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูกนิดๆก่อนจะถอยหนีแล้วเดินตรงไปยังโรงอาหาร

     

                “อะไรของพี่แกว่ะ..”

     

                เด็กหนุ่มยืนเกาหัวตัวเองแบบงงๆ ตั้งแต่ออกจากท้องแม่มาไม่เคยเจอคนที่หยิ่งขนาดนี้มาก่อนเลยให้ตายเถอะ

     

               

     

     

                “ไอ้เด็กนั่นมันไม่มีตารึไง น่าอายชะมัด”

     

                มาร์คอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆกับถภาพตอนนั้นมันยังคงติดตา ถ้าเราไม่เผลอสตากับกูจะไม่คิดมากเลยไอ้เหี้ยยยย นี่คือระ?กูเป็นเกย์หรอศัษ แต่อยู่ๆก็มีประโยคนึงลอยขึ้นมาบนหัว

     

                เจ็บไหล่ป้ะ เมื่อกี้แบมเดินชนแรงไปรึป่าว

     

              ‘แบมเดินชนแรงไปรึป่าว

     

              ‘แบมเดินชน..

     

              แบม

     

              ไม่ใช่ม้างงงงง ไอ้เด็กนั่นอาจจะชื่อ แบมบู ไม่ก็ แบ่มแบ้มแบ๊มมม ก็ได้ใครจะไปรู้ -...-

     

                “อ่าวเฮีย!!

     

                เรียกเฮียแบบนี้ มีคนเดียวเท่านั้นแหละที่พูด .......ไอ้ยูคยอม

     

                “?”

     

                มาร์คหันไปเลิกคิ้วให้น้องรหัสเพื่อนตัวเองทันทีที่โดนเรียกชื่อ ยูคยอมวิ่งเข้ามาคนเดียว หน้าแปลกเพราะว่าก่อนหน้านี้ที่จะแยกกัน ยูคยอมก็อยู่กับไอ้เชี่ยแจ็คกับเนียร์นี่หว่า

     

                “หาข้าวกินหรอเฮีย กินด้วยคนนะ”

     

                “แล้วป๋ามึงอ่ะ”

     

                “อยู่กับแจ็คสันฮยองแล้วก็ยองแจ”

     

                “ยองแจ? น้องรหัสไอ้แจ็คหน่ะหรอ”

     

                ยูคยอมไม่ตอบเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้นก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะว่างแล้วพูดกับมาร์คว่า “เฮียไปหาของกินเลย เดี๋ยวเฝ้าโต๊ะให้ เฮียมาแล้วผมค่อยไป”

     

                มาร์ควางกระเป๋าไว้โต๊ะแล้วเดินไปร้านข้าวมันไก่ใกล้ๆ

     

                “ไก่ทอดหนึ่ง/ไก่ทอดหนึ่งครับ”

     

                เสียงผู้ชายอีกคนนึงดังขึ้นพร้อมกับที่มาร์คสั่ง มาร์คมองไปยังต้นกำเนิดเสียงก่อนจะเบิดตากว้าง

     

                “อ้าวพี่!”

     

                “ไก่ทอดได้แล้วจ๊ะ”

     

                แม่ค้ายื่นจานข้าวมันไก่มาให้สองจาน มาร์คแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินหยิบบัตรยื่นให้แม่ค้า ก่อนแม่ค้าจะรูดบัตรแล้วส่งคืนมาร์ค

     

                ทางโรงเรียนจะให้นักเรียนทุกคนทำบัตรโรงอาหารไว้คนล่ะใบ เมื่อเงินในบัตรนั้นหมดนักเรียนสามารถเติมได้จากตู้เติมเงินโทรศัพท์ทั่วไปที่ทางโรงเรียนจัดให้ เมื่อขึ้นม.4มานักเรียนทุกคนจะได้ทำบัตรโรงอาหารฟรี แต่ถ้าทำหายแล้วยทำใหม่จะคิดค่าบัตร 1000 วอน

     

                มาร์คหยิบจานข้าวมันไก่แล้วเดินออกมาที่โต๊ะน้ำจิ้ม

     

                “เอ่อ.. ป้าครับ ถ้าไม่มีบัตรหล่ะฮ่ะ”

     

                “ไม่ได้จ๊ะหนู ป้าไม่รับเงินสดนะจ๊ะ ถึงรับก็ไม่มีเงินทอนหรอก”

     

                “อ่า.. พี่ครับ! พี่!

     

                เด็กหนุ่มหันมาหาชายร่างหนากว่าพร้อมกับตะโกนเรียกสรรพนามที่ตัวเองเคยเรียก ช่วยไม่ได้หนิไม่รู้จักชื่อนี่นา

     

                มาร์คหันมามองเพราะเสียงนี้ดูเหมือนว่าตั้งใจจะเรียกเขา เขาใช้นิ้วชี้หน้าตัวเองเพื่อต้องการจะสื่อว่ากูเนี๊ยนะ

     

                “แฮ่ะๆ ผมขอยื่มบัตรพี่หน่อยได้มั้ยครับ..”

     

                “...”

     

                “สัญญาเลยครับว่าจะคืนเงินให้ พลีสสสสสส*0*

     

                โอ๊ยยยยพี่มาร์คคนหล่ออยากจะตายยย  มาร์คยื่นบัตรให้คนตัวเล็กด้วยหน้าตาเอือมๆ เด็กคนนั้นยิ้มดีใจแล้วหยิบบัตรไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับยื่นให้แม่ค้า เมื่อได้บัตรคืนมาแล้วเด็กคนนั้นก็หยิบบัตรเดินออกมาพร้อมกับจานข้าว

     

                “ขอบคุณมากๆเลยครับ”

     

                เด็กหนุ่มผมสีฟ้าค่อมหัวให้อย่างตั้งใจ มาร์คหยิบบัตรมาจากมือเด็กคนนั้นแล้วเดินไปที่โต๊ะที่ยูคยอมนั่งรออยู่แล้ว แต่ตอนนี้หน่ะหรอ...มีเพียงแค่กระเป๋าของเขาวางอยู่บนโต๊ะเท่านั้นแหละ สงสัยหิวจนรอไม่ไหวแล้วเดินไปหาของกินมั้ง

     

                มาร์คเดินไปที่โต๊ะแล้ววางจานข้าวลงก่อนที่จะนั่งลงไป แต่ก็มีแขกที่ไม่รับเชิญเดินมาแล้ววางจานข้าววางก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเขา

     

                “???”

     

                “ขอนั่งด้วยนะครับ ที่เต็ม อิอิ”

     

                 มาร์คกวาดสายตามองรอบโรงอาหารก็พบว่าที่เต็มจริงๆ มาร์คมองหน้าไอ้เด็กกวนประสาทนี่ เขาไม่อยากพบเจอเด็กคนนี้เลยตั้งแต่ที่เขาเกือบล้มแล้ว!!

     

                “นี่คือวิธีตีสนิทของนายหรอ?”

     

                “ตีสนิท? ไม่หรอกครับแค่อยากรู้จัก”

     

                 “ก็นั่นแหละ”

     

                มาร์คทำเป็นไม่สนใจก้มหน้าตักข้าวเข้าปากอย่างหน้าตาเฉย ส่วนเด็กหนุ่มนั่นก็มีแต่ยิ้มแล้วเอาข้าวเข้าปาก

     

                “ผมแบมแบม พี่ชื่อไรอ่ะ”

     

                “ห้ะ? แบมแบม??”

     

                “อื้ม ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่ชาย”

     

                 คนที่บอกว่าตัวเองชื่อแบมแบมยื่นมือมาข้างหน้าหวังให้คนตรงหน้าจับและแนะนำตัวให้เขารู้จักเช่นกัน

     

                 แต่ปล่าวเลย..

     

                “กินข้าวเงียบๆไปเถอะ”

     

                มาร์คพูดแค่นั้นก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวของตัวเอง ส่วนแบมแบมก็หน้าแตกไปตามสเต็ป มือที่ยื่นไปหวังให้จับตอนนี้ก็เปลี่ยนมาเกาหัวตัวเองแก้เขินไปพลางๆ

     

                “แบมแบมรึป่าว”

     

                เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียกก็พบกับเด็กร่างยักษ์ยืนถือถ้วยก๋วยเตี๋ยวอยู่ เด็กร่างยักษ์ยิ้มให้กับแบมแบมอย่างสนิทสนมก่อนจะยัดตัวนั่งลงข้างๆแบมแบม

     

                “อ้าวยูคยอม หวัดดี”

     

                “เฮียหาน้องรหัสเจอแล้วหรอกหรอ ไปรู้จักกันตอนไหนเนี้ย”

     

                “น้องรหัส?”

     

                แบมแบมหน้านิ่วทันที หาน้องรหัสเจองั้นหรอ งั้นก็แสดงว่านี่คือพี่รหัสของเขางั้นสินะ

     

                 “อ้าว แบมไม่รู้หรอ นี่เฮียมาร์คไง”

     

                มาร์ค... มาร์ค... อ๋อ! มาร์คต้วนพี่รหัสเรานี่หว่า

     

                มาร์คที่ว่าจะไม่สนใจกับสิ่งรอบข้างแล้วกินข้าวอย่างเงียบ แต่ดูเหมือนว่าเขาคงอยู่อย่างสงบๆไม่ได้แล้วหล่ะ  มาร์คเงยหน้าขึ้นมามองน้องรหัสทั้งสองอย่างช่วยไม่ได้

     

                ให้ตายเถอะ!เขาได้น้องรหัสเป็นคนที่ไม่อยากเจอหน้าหรอกหรอเนี้ย

     

                ไม่รู้ทำไมถึงไม่ชอบหน้าไอ้เด็กที่ชื่อแบมแบมนี่ขนาดนั่น คงเป็นเพราะมันทำเราขายหน้ากลางผู้คนแล้วยังมีเสียงซุบซิบเขาเสียๆหายๆอีกต่างหาก

     

                “พี่ชื่อมาร์คนี่เอง เอาเป็นว่าข้าวจานนี่ผมจะคิดว่าพี่เลี้ยงนะครับ”

     

                ยูคยอมดูมีความสุขออกนอกหน้า (ปกติก็ออกนอกหน้าอยู่แล้ว) ทั้งยูคและแบมคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนกับว่าคนที่นั่งแดกข้าวมันไก่ทอดฝั่งตรงข้ามไม่มีตัวตนไปแล้ว

     

                และแล้วช่วงเวลาที่มาร์ครอคอยก็มาถึงคือการที่กินข้าวหมด เพราะกินข้าวหมดมันก็ไม่มีหน้าที่อะไรที่เขาต้องนั่งอยู่โต๊ะนี่อีกต่อไปแล้ว

     

                มาร์คลุกขึ้นถือจานพร้อมกับสะพายกระเป๋า แต่ก็ถูกเบรกไว้โดยน้องรหัสของตัวเอง

     

                “พี่ พรุ่งนี้เลี้ยงข้าวอีกนะ”

     

                “what?

     

                “ข้าวมันไก่อร่อยมากเลยอ่ะ พี่ชอบกินข้าวมันไก่ทอดหรอ สุดยอดเลย! ผมก็ชอบเหมือนกัน”

     

                 “ห้ะ ๆ ๆ เรื่องอะไรกูต้องเลี้ยงข้าวมึงว่ะ”

     

                “เอาเป็นว่าพรุ่งนี้รับน้องหนิ เจอกันนะครับพี่ชาย”

     

                 แบมแบมโบกมือบ๊ายบายให้กับมาร์คที่กำลังเดินออกไปแบบงงๆ ไอ้เด็กคนนี้แม่มร้ายยยย

     

     

     

     

                แสงแดดเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม นี่คือเวลาที่นักเรียนทุกคนสามารถออกจากรั่วโรงเรียนได้หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเลิกเรียน

     

                มาร์คใส่หูฟังเดินออกมาหน้าโรงเรียนตั้งเป้าหมายไว้ที่บ้านขนาดกลางที่ตั้งห่างจากโรงเรียนเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร

     

                ไม่แปลกที่เขาจะเดินไปที่นั้นในระยะทางที่ไกลพอสมควร เพราะในเป็นคล้ายที่จะเรียกว่าแหล่งมั่วสุมของกลุ่มพวกเขาเลยก็ได้

     

                เนื่องจากว่าพ่อแม่ของเราทั้งสามคนมีฐานะอยู่ในขั้นที่บอกว่ารวย ตอนขึ้นม.4มาแรกๆพวกเราขอให้ท่านซื้อบ้านให้เพื่อเป็นที่อาศัยหรือที่นัดพบกัน โดยพวกท่านช่วยกันหยิบยื่นนู้นนี่มาให้ เช่นพ่อของมาร์คซื้อที่ดิน พ่อของแจ็คสันซื้อบ้าน แม่ของจูเนียร์จัดการเรื่องเฟอร์นิเจอร์ แล้วเกือบทุกเย็นเราทั้งสามคนก็จะแวะไปที่นั่น บ้างครั้งก็แวะไปเล่น บางครั้งก็แวะไปนอนค้างเลย

     

                ตั้งแต่พักเที่ยงมาร์คก็ไม่เจอจูเนียร์กับแจ็คสันเลย โทรไปก็ไม่รับไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน แต่ยังไงเย็นนี้ก็คงกลับไปที่บ้านพักอ่ะ

     

                “พี่รหัส!

     

                อยู่ๆก็มีไอ้เด็กหัวฟ้ากระโดดมาดักหน้าเขาไว้ ทำเอามาร์คสะดุ้งไม่น้อยเลย ไอ้เด็กนี่เป็นเจ้ากรรมนายเวรเขาหรอว่าเป็นเงาที่ติดตัวเขาอยู่ตลอดเวลากันแน่

     

                “ย๊าห์! เล่นอะไรห้ะ”

     

                “กลับทางนี้หรอกหรอ ว๊าวทางเดียวกันเลย งั้นขอเดินเป็นเพื่อนเลยล่ะกัน”

     

                “ไม่ได้ขอ”

     

                “แต่ผมให้นะ J

     

                เด็กหนุ่มผมฟ้าพูดออกมาดื้อๆด้วยหน้าตาเฉยๆ เออ!!ทนหน่อยเหอะมาร์ค แค่ 2 ปี แค่ 2 ปี

     

                มาร์คทำเป็นไม่สนใจคนที่อาสาเดินมาเป็นเพื่อน เดินฟังเพลงอย่างสบายใจโดยไม่สนใจรอบข้างเลย

     

                แล้วจู่ๆไอ้เด็กหัวฟ้าก็เอื้อมมือไปหยิบหูฟังของมาร์คมายัดใส่หูตัวเองทันที เล่นเอามาร์คตกใจอีกรอบ

     

                “เพลงมันสนุกมากเลยรึไง ฟังหน่อยดิ”

     

                 แบมแบมยัดหูฟังของพี่รหัสใส่หูอย่างหน้าตาเฉยแล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่เดินไปได้สองสามก้าวหูฟังก็หลุดออกจาหูแบมแบมเพราะว่าเจ้าของหูฟังหยุดเดินเลยทำให้สายหูฟังตึงแล้วหลุดออกจาหูเขา

     

                แบมแบมขมวดคิ้วแล้วเดินมาหยิบหูฟังยัดใส่หูเหมือนเดิมก่อนจะหันมาบอกพี่รหัสของตัวเองให้เร่งฝีเท้า

     

                “เดินสิพี่ หยุดทำไมอ่ะ”

     

                 “...”

     

                “เป็นใบ้รึไงห้ะ ? เป็นโรคกลัวการพูด ? หรือว่าไม่มั่นใจในตัวเอง โอ้ยยยพูดสักทีเถอะ”

     

                “กูไม่เคยแชร์หูฟังให้ใครเลย ไหง๋กลายเป็นมึงคนแรกว่ะ”

     

                “เรื่องบางเรื่องควรจะปลงได้แล้วครับพี่ จะครั้งแรกครั้งสองอะไรก็ช่างเหอะ ช่วยก้ามเท้าด้วยนะครับ ชาตินี้จะถึงบ้านมั้ย?”

     

                “ใครใช้ให้มึงรอล่ะว่ะ ตากกางเกงในไว้รึไงจะรีบไปไหน”

     

                 “ต้องให้ผมชวนทะเลาะก่อนช้ะถึงจะพูดเยอะๆหนิ”

     

                “อะไรของมึงว่ะ ไร้สาระ”

     

                มาร์คทำมือปัดๆแล้วเดินนำหน้าไปโดยไม่สนใจคนที่กำลังเดินตามมา คนตัวเล็กหยิบหูฟังอีกข้างนึงที่มาร์คไม่ได้เสียบใส่หูมายัดใส่หูตัวเองก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินให้เท่ากับพี่รหัสตัวเอง

     

               

     

     

                และแล้วมาร์คก็เดินมาถึงบ้านพักทั้งที่ยังมีแบมแบมเดินตามมาด้วย

     

                “โฮ่ บ้านพี่แม่งหลังใหญ่ชิบหาย”

     

                 “แล้วไหนบ้านมึงว่ะ”

     

                “เดินตรงไปอีกสองหลังก็ใช่แล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีบ้านอยู่ใกล้บ้านพี่รหัส”

     

                “นี่ไม่ใช่บ้านกูหรอก ก็แค่บ้านพักเฉยๆ”

     

                “ก็ไม่ต่างกันอ่ะ”

     

                “มึงก็กลับบ้านได้แล้ว มืดแล้วเนี้ย”

     

                “ไม่เป็นไรผมไม่รีบ”

     

                แบมแบมเดินไปที่รั่วบ้านก่อนจะผลักประตูรั่วเข้าไป “แหง่ะ ไม่ล็อกด้วย” แบมแบมพูดแค่นั้นก็เดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะทันที

     

                “เดี๋ยวๆ กูอนุญาตแล้วหรอ?”

     

                “ปวดฉี่อ่ะ ขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะ”

     

                “แต่ใกล้ถึงบ้านมึ.. เออๆๆ”

     

                มาร์คพูดอะไรไม่ได้เพราะไอ้เด็กนั่นมันวิ่งไปเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว มาร์คได้เพียงแต่เดินเข้าบ้านมาอย่างเงียบๆ ก็เห็นจูเนียร์ ยูคยอม แจ็คสัน แล้วก็ใครอีกคนไม่รู้จัก

     

                “เอ่อ...”

     

                แบมแบมมองหน้าทั้งสี่คนอย่างสงสัย เห้ยเดี๋ยวนะนี่มันบ้านพักพี่มาร์คไม่ใช่อ่อ

     

                “พวกพี่...”

     

                “Hi Bambam!

     

                “แบมแบมที่นั่งข้างหน้าเราหน่ะหรอ เราชื่อยองแจนะ”

     

                ยูคยอมกับคนที่ใส่แว่นหน้าช้ำโบกมือทักทายแบมแบมอย่างเป็นมิตร แล้วเพื่อนทั้งสองคนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

     

                “อ้าวมายฮันนี่ เจอน้องรหัสแล้วหรอจร๊ะ”

     

                แจ็คสันเดินมากอดคอมาร์คพร้อมกับพูดทักทายแบบกวนตีน

     

                 “ปวดเยี่ยวไม่ใช่หรอ ไปเยี่ยวแล้วกลับบ้านดิ”

     

                “ไม่เป็นล่ะ แต่จะอยู่”

     

                แบมแบมยิ้มยิงฟังก่อนจะกระโดดไปนั่งโซฟาข้างๆจูเนียร์และยองแจ มาร์คทำหน้าเอือมกี่รอบแล้วไม่รู้สำหรับวันนี้

     

                “นี่ยองแจ พี่รหัสเป็นใครหรอ”

     

                 “อ่อ เราได้พี่รหัสเป็นแจ็คสันฮยองหล่ะ”

     

                “ถ้างั้นยูคยอมก็มีพี่รหัสเป็นพี่ชายคนนี้ดิ” แบมแบมชี้ไปที่จูเนียร์ที่ตอนนี้นั่งแคะขี้มูกอย่างสบายใจแต่ก็ต้องกลับมาอยู่ในท่ามาดแมนทันทีเมื่อรู้สึกถึงสายตาหลายคู่ที่มองมา

     

                “เนียร์.. มึงได้คุยกับพี่เจบียัง”

     

                “อ่อ.. กูคุยกันแล้ว เจอกันช่วงบ่าย งานเชี่ยไรอีกก็ไม่รู้เนี้ยกูหล่ะเหนื่อย”

     

                มาร์คถอดเสื้อแจ็คเก็ตของโรงเรียนออกแล้วเดินไปที่ครัวก่อนจะเปิดตู้เย็นหยิบนมออกมาแล้วเทใส่แก้ว

     

                “แดกไปก็เท่านั้นแหละมึง กูแม่งแดกมาตั้งแต่เกิด แล้วมึงดูพระเจ้าทำร้ายกูแค่ไหนไอ้เด็กเหี้ยนี่ยังสูงกว่า”

     

                 แจ็คสันโวยวายทันที ดูเหมือนกับว่าเจ้านมจืดนี่คือของต้องห้ามของเขาอย่างแรงเพราะมันคือต้นเหตุของการหยุดสูงของเขาจนทำให้ไอ้เด็กสามตัวที่เป็นน้องรหัสของพวกและของตัวเองเจริญเติบโดเกินหน้าเกินตาเขา

     

                #ไม่เอาไม่แซะความสูงแจ็คสัน

     

                “เรื่องของกูป้ะครับ?”

     

                “-..- กูผิดเองแหละ พวกมึงกลับบ้านไปเลยไป!!

     

                แจ็คสันพูดกับมาร์คก่อนจะหันไปหาน้องรหัสของแต่ละคน #เตี้ยแล้วพาล ตลอดเลยกู

     

                “เอะอะไรก็ไล่ตลอดเลยอ่ะ”

     

                แบมแบมเบ้ปากทำท่างอน ท่าทางจะเป็นเด็กเอาแต่ใจแน่เลยว่ะ ดีนะไม่ใช่น้องรหัสแจ็คสัน ไม่งั้นถ้าแม่งขอบ้านกูคงซื้อบ้านให้มันแล้วมั้ง 

     

                ไอ้เหี้ยแม่งนั้ลล้าก

     

                “กูว่ามึงอย่าทำหน้าอย่างงั้นเหอะ น่าเกลียด”

     

                อยู่ๆเสียงมาร์คก็ขัดจังหวะการทำเอคโย่ของแบมแบมแบบตัดพ้อ น่าเกลียดอะไรหล่ะ เอาตาตุ่มดูเร๊าะ!

     

                Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

                เสียงโทรศัพท์มาร์คสั่นกระทบกับโต๊ะไม้ทำให้ได้ยินเสียงดังพอสมควร เพื่อไม่ให้รบกวนเพื่อนของเขาเขาเลยรีบรับทันที

     

                “คร๊าบมี๊”

     

                ( ทำไมไม่กลับบ้าน )

     

                “อ๋อ.. ปกติมาร์คก็ไม่กลับอยู่แล้วหนิ”

     

                ( บ้านที่ซื้อให้ใช่ว่าจะให้ไปอยู่ถาวรนะ ไปๆมาๆก็พอ )

     

                “คร้าบบบ เปิดเทอมวันแรกนะมี๊ มานี่วันแรกของการศึกษาปีที่ 5 เลยนะมี๊”

     

                ( แล้วเปิดเทอมวันแรกเป็นไงบ้าง )

     

                “ก็ไม่ดีเท่าไหร่อ่ะ นี่แอบคิดถึงมี๊นะหนิ ฮ่าๆ”

     

                ( คิดถึงแล้วทำไมไม่กลับบ้าน )

     

                “คิดถึงไอ้แจ็คกับไอ้เนียร์มากกว่าไง ฮ่าๆ”

     

                ประโยคนี้ทำเอาแจ็คสันที่ได้ยินถึงกับทำท่าอ้วกทันที ส่วนน้องรหัสทั้งสามคนได้แต่กลั้นหัวเราะกับคำพูดของคนหน้านิ่ง เย็นชาแบบนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีมุมกลัวแม่

     

                ( เดี๋ยวแม่ก็โบกกระบาลให้ อ่ะๆนอนหลับฝันดีนะลูกรัก )

     

                “เช่นกับครับมี๊ จุ๊บๆๆๆ”

     

                มาร์คจุ๊บกับโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะกดวางสายแล้วกลับมาหน้านิ่งเหมือนเดิม โอ้ยยยยให้ตายเถอะแบมแบมกลั้นหัวเราะไม่อยู่แล้ววว

     

                “ฮ่าๆๆๆๆ พี่เป็นลูกแหง่ว่ะ”

     

                “หุบปากเลยมึง”

     

                มาร์คอยากจะเอาหัวตัวเองมุดดินให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปรับรองว่ามาร์คได้โดนล้อยันลูกบวชแน่ๆ แต่แบมแบมยังคงล้อและหัวเราะมาร์คอยู่อย่างงั้น

     

                “แบมแบม!

     

                “ห้ะ! อะไรนะครับ Try again,Please

     

                “แบมแบม!!

     

                มาร์คย้ำชื่อของน้องรหัสตัวเองอีกครั้งนึงเพราะคิดว่าเขาคงไม่ได้ยิน แต่ที่แบมแบมต้องtry againก็เพราะว่าเขารู้สึกดีที่พี่รหัสตัวเองเรียกชื่อของเขาซ่ะเต็มยศขนาดนี้ ตั้งแต่ได้รู้ว่าพี่มาร์คคือพี่รหัสของตัวเองและมาร์คก็รู้ว่าแบมแบมคือน้องรหัสของตัวเอง มาร์คยังไม่เคยเรียกชื่อน้องรหัสตัวเองแบบเต็มๆเลยสักที

     

                “ว้าวววว รู้สึกดีมากๆเลยครับ เรียกบ่อยๆนะ”

     

                หน้าตาน่ารักบวกกับความขี้เล่นของแบมๆมันทำให้ทุกคนอยากมองไม่น้อยเลย รอยยิ้มที่ยิ้มออกมาอย่าเป็นธรรมชาติเป็นอะไรที่โคตรหยุดโลกอ่ะ

     

                “กลับบ้านได้แล้ว นั่นคือสิ่งนายต้องทำนะ” มาร์คพูดกับแบมแบมอย่างเหลืออด เด็กนี่ชักจะกวนประสาทเขาเยอะเกินไปแล้วนะ “จะกลับเองดีๆหรือจะให้หิ้วกลับ”

     

                “หิ้วกลับครับ”

     

                “เอ่อ.. พวกมึงครับ..จีบกันข้ามหัวกูไม่ดีนะรู้ยัง”

     

                จูเนียร์ที่นั่งดูสถานการณ์เงียบๆอยู่นานก็ทนไม่ไหวแล้ว เออครับมนต์รักพี่รหัสตัวร้ายกับน้องรหัสตัวแสบรึไงอิเชี่ยยยย

     

                “จีบเชี่ยไรพี่/จีบเชี่ยไรเนียร์”

     

                 “เชี่ยนี่เข้าหน้ากูเต็มๆ =”=

     

                จูเนียร์ลูบหน้าตัวเองไปมาเพราะคำว่าเชี่ยมันโดนหน้าเขาไปเต็มๆ เอิ่ม..แฉะเลยหน้าจินยอง

     

                “กูว่าอิพวกน้องรหัสเวรทั้งหลายกลับบ้านเรือนพวกมึงไปเถิด”

     

                แจ็คสันที่ดูเหมือนว่าพวกน้องรหัสพวกนี้มันวุ่นวายเขาเสียจริงทั้งๆที่คนที่วุ่นวายหลักๆคงเป็นแบมแบม กูว่าอิเชี่ยยูคแม่งหนักแล้วนะ เจอน้องรหัสไอ้มาร์คเข้าไปไอ้ยูคนี่ขี้ปลวกเลยครับ

     

                “เดินทางกลับอย่างสวัสดิภาพครับยองแจ”

     

                “บ๊ายบาย...น้องยูคยอมสุดที่รัคคคคคคคคคคคค”

     

                แจ็คสันกับจูเนียร์โบกมือบ๊ายบายน้องรหัสตัวเองแบบไม่ให้ตั้งตัวใดๆก่อนจะจับข้อมือแต่ละคนลากออกไปข้างนอกบ้าน

     

                “บายไรหล่ะป๋า My MOMให้ผมไปอยู่กับป๋าอ่ะ”

     

                 “อ๋ออยู่กับกูหรอ ก็ได้นะ..  ห้ะ!!อยู่กับกู เหยดแหม่”

     

                “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับเจ้าของบ้าน”

     

                “โอ้ยย!! กลับบ้านไปเลยมึง มาร์ค!วันนี้กูคงไม่นอนนี่ว่ะ บายย”

     

                จูเนียร์ลากไอ้น้องรหัสยักษ์ออกจากบ้านไปอย่างทุลักทุเล ส่วนแจ็คสันที่ลากน้องรหัสออกไปตั้งนานแล้วแต่ยังไม่กลับเข้าบ้านเลย สงสัยแม่งต้องมีไปส่งที่บ้านแน่ๆ

     

                “ว๊า ไปกันหมดแล้ว”

     

                “มึงก็ควรไป”

     

                มาร์คชี้ไปที่ประตูบ้านเพื่อบอกว่า มึงควรไปแต่ดูแบมแบมเหมือนไม่อยากกลับบ้านเอามากเลย

     

                “ที่นี่สบายมากเยย”

     

                “ไป..”

     

                “เบาะก็นุ๊มนุ่ม”

     

                “กลับ..”

     

                “แบมอยากนอนนี่อ่ะ”

     

                “กลับบ้าน”

     

                “ที่นี้มีพี่ชายด้วย”

     

                “เดี๋ยวนี้”

     

                “พี่ชายก็หล๊อหล่อ”

     

                “-..-“

     

     

                มึงมาไม้ไหนครับแบมแบมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!

     

               

               

     

     

                สุดท้ายแบมแบมก็มาอยู่ที่หน้าประตูรั่วบ้านพักของมาร์คที่เตรียมจะไล่เขาไปได้ทุกเมื่อที่ต้องการเช่นตอนนี้

     

                “มืดแล้วแบมไม่อยากเดินกลับคนเดียว” พูดเสร็จก็พุ้งเข้าประตูแต่ก็โดนดันหัวโดยพี่รหัสตัวดี แบมแบมอมมะนาวแก้มป่องเหมือนเด็กเอาแต่ใจ แต่มาร์คไม่มีทางหลงลูกไม้บ้าๆบอๆนี่แน่ๆ “มันมืดดด น่ากลัว”

     

                “โอเค..”

     

                “ห้ะ!!พี่มาร์คจะให้ผมนอนนี่หรอ ขอบคุณครับ”

     

                แบมแบมเดินเข้าประตูอีกครั้งด้วยหน้าตาแจ่งใสแต่ก็ต้องถอยกลับมายืนที่เดิมเมื่อมาร์คจิกผมแล้วลากกลับมา

               

                “โอเค.. กูจะไปส่งมึง”

     

                มาร์คเดินออกมาจากรั่วบ้านแล้วหันไปปิดประตูก่อนจะหันมามองหน้าไอ้เด็กกวนประสาทนี่

     

                “ง่า.. แต่ก็ดี ไม่ได้นอนนี่แต่ก็ได้พี่รหัสไปส่งที่บ้าน”

     

                แบมแบมยิ้มแฉ่งเดินไปเรื่อยๆกับหนุ่มร่างหนาที่เป็นพี่รหัสตัวเองอย่างมีความสุขทั้งๆที่คนเดินมาด้วยแทบจะหาความสุขไม่เจอ

     

                “นี่ไง!บ้านแบมเอง”

     

                “เออ เข้าบ้านมึงไปเลย”

     

                 “เข้าไปพักเมื่อยก่อนมั้ย เดินมาตั้งไกล”

     

                “ไกลเชี่ยไร บ้านกูอยู่นั้น บ้านมึงอยู่นี่!

     

                มาร์คชี้ไปที่บ้านตัวเองก่อนจะหันกลับมาชี้บ้านที่แบมๆอยู่ ซึ่งมันอยู่ใกล้กันพอสมควร แค่มีบ้านสองหลังขั้นกลางแค่นั้น

     

                บ้านของแบมๆไม่ได้ใหญ่เท่าบ้านพักของเขาหรอก แต่ก็ไม่ได้เล็กเหมือนรังหนู แต่ถ้าให้ประเมินฐานะล่ะก็อ เด็กคนนี้มีฐานะอยู่ในระดับปานกลาง

     

                “แฮ่ะๆ เดินกลับดีๆนะครับ อย่าสดุดขาตัวเองล้มหน้าจิ้มขี้นะ”

     

                “ไม่ได้โง่”

     

                 มาร์คเดินออกมาได้ไม่กี่ก้าวก็สดุดกับร้องเท้าแตะตัวเองเกือบล้มหน้าจิ้มขี้เหมือนที่ไอ้เด็กเวรนั้นท้วง

     

                “5555 เชื่อแล้วครับว่าไม่ได้โง่ แค่ stupid

     

                “-..................-“

     

                แบมแบมโบกมือลาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินเข้าบ้านไปด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ถ้าใครได้เห็นก็คงยิ้มตาม

     

                แต่ดูเหมือนว่ามาร์คก็เผลอยิ้มตามไปเหมือนกัน

     

                ....

     

     

     

     

     

     

    »Talk«

    ละมุนมั้ยล่ะมึ๊งงงง (?)

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×