ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักที่ตามหา

    ลำดับตอนที่ #28 : เสียง...(หัวใจ)...ที่เปลี่ยน

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 61


    “ตื่นได้แล้วคุณ” เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างๆหู ทำให้ฉันค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นใบหน้าของจิ่งหยูวที่กำลังมองฉันเป็นภาพเบลอๆลอยอยู่ตรงหน้าจนฉันนึกว่าตัวเองฝันไป ฉันนึกทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืนก่อนที่ฉันจะได้สติพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น แล้วกวาดตามองไปบนเตียงที่ยังคงหลงเหลือล่องลอยจากเหตุการณ์เมื่อคืนเมื่อนึกลำดับเหตุการณ์ทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ฉันจึงใช้มือรวบผ้าห่มมาหุ้มพันรอบตัวไว้เพื่อจะลุกขึ้นไปอาบน้ำและแต่งตัว ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากฉันแม้แต่คำเดียว แต่ยังไม่ทันที่จะขยับเขาก็รั้งตัวฉันเขาไปกอดไว้แน่นก่อนที่จะพูดกับฉัน

    “คุณโกรธผมเหรอ” แต่ฉันก็ยังคงนิ่งเงียบไม่ยอมตอบอะไร แต่ลึกๆในใจแล้วฉันไม่ได้โกรธเขาแต่กลับโกรธตัวเองที่ยอมปล่อยใจให้กับเขา จิ่งหยูวยังคงกอดฉันไว้อยู่อย่างนั้น จนฉันต้องใช้มือผลักยันอกกว้างของเขาเพื่อให้เขาปล่อยฉัน แต่เขากลับยิ่งกอดฉันแน่นขึ้นไปอีกจนฉันเริ่มดิ้นขลุกขลักทั้งที่อยู่ในอ้อมกอดเขา

    “ปล่อยฉัน”  ฉันจ้องหน้าเขาด้วยสายตาที่เย็นชา แต่คนถูกจ้องกลับไม่สะทกสะท้าน ยังคงกอดฉันไว้ไม่ยอมปล่อย

    “ไม่ปล่อย คุณเป็นของผมแล้ว”  เขาพูดแสดงความเป็นเจ้าของในตัวฉัน จนทำให้ฉันต้องเริ่มตอบโต้เพื่อกู้ศักดิ์ศรีของตัวเอง

    “คุณอย่าคิดว่าได้ฉันแค่ครั้งเดียวแล้วจะมาจับจองเป็นเจ้าของฉันได้ ฉันไม่ใช่สิ่งของที่ใครอยากจะทำอะไรจะตั้งไว้ตรงไหนก้อได้ เรื่องเมื่อคืนนี้ฉันจะถือว่ามันเป็นประสบการณ์มันไม่ได้มีความหมายอะไรกับฉัน ขอให้คุณเข้าใจไว้ด้วย” 

    “แต่ผมว่าประสบการณ์ที่ผมให้คุณมันน่าจะดีกว่าผู้ชายทุกคนของคุณนะ” คำพูดของจิ่งหยูวทำให้ฉันกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เพราะสิ่งที่เขาพูดมันเป็นการดูถูกฉันอย่างร้ายกาจ นี่เขาไม่รู้จริงๆหรือไงว่าเค้าเป็นผู้ชายคนแรกของฉัน  และมันก็ทำให้ตอบเขากลับไปด้วยความโกรธ

    “แต่ฉันว่านายยังอ่อนประสบการณ์กว่าผู้ชายทุกคนของฉันนะ” คำพูดของฉันทำให้จิ่งหยูวมองหน้าฉันเขม็ง

    “ผมคงออมมือให้คุณมากไป แต่เชื่อเถอะครั้งนี้คุณจะไม่พูดแบบนั้นแน่” พูดจบเขาก็กดปากลงจูบฉันแล้วทุกย่างก็เริ่มต้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ยอมออมมืออย่างที่เขาพูดจริงๆ  จากความรุนแรงกลายเป็นความอ่อนโยนจนทุกอย่างสิ้นสุดลง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นแต่งตัวแล้วกลับห้องไป ปล่อยให้ฉันนอนหลับอยู่บนเตียงอยู่อย่างนั้น

                เช้าวันนี้ฉันยังคงลงมากินอาหารเช้ากับเขาตามปกติ สำหรับฉันในตอนนี้ถึงจะไม่อยากเจอหน้าเขาแค่ไหนแต่ฉันก็ต้องฝืนใจตัวเองเพราะฉันต้องรักษาหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย บรรยากาศในโต๊ะอาหารเงียบสนิท จะว่าแต่  จะพูดคุยกันเลยแม้แต่หน้าเขาตอนนี้ฉันยังไม่กล้ามองเลย จิ่งหยูวนั่งมองฉันเขี่ยข้าวในจานอยู่สักพักจนเขาต้องเป็นฝ่ายพูดกับฉันก่อน

    “ทำไมไม่กินข้าว กับข้าวไม่อร่อยเหรอ” เขาถามฉันด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย สำหรับเขาเขาดูปกติทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ตอบคำถามของเขา ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปากถามอะไรฉันอีกแฟนตัวจริงของเขาเดินเข้ามาซะก่อน

    “จิ่งหยูว” ฟานฟานเดินเข้ามาในห้องอาหารและเข้ามานั่งเก้าอี้ที่อยู่ติดกับเขาโดยไม่สนใจว่ามีฉันนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยเหมือนกัน เธอออดอ้อนเขาตามสไตล์ของเธอจนฉันต้องเอ่ยปากขอตัวเพราะรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองเป็นส่วนเกินไปแล้ว

    “ฉันอิ่มแล้ว ฉันขอตัวขึ้นห้อง” พูดจบฉันก็ลุกขึ้นขยับเก้าอี้เพื่อจะขึ้นไปห้องพัก จิ่งหยูววางช้อนละจากการกินอาหารทันทีที่ได้ยินฉันพูด จนทำให้คนที่กำลังนั่งข้างๆมองตามการกระทำของเขาด้วยความไม่พอใจ เขาลุกขึ้นยืนเอ่ยทัดทานฉันก่อนที่ฉันจะเดินออกไป

    “เดี๋ยวซิคุณ” แต่ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวขาเดินเข้ามาหาฉันฟานฟานก็ลุกขึ้นยืนแล้วคว้าแขนเขาเอาไว้ซะก่อนจนทำให้จิ่งหยูวต้องหยุดอยู่แค่นั้น ปล่อยให้ฉันเดินออกจากห้องอาหารไปก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับเธอ

    “คุณมีอะไรหรือเปล่าฟานฟาน” (ภาษาจีน)

    “ก็พรุ่งนี้ฉันจะบินกลับแล้ว วันนี้เลยอยากให้คุณพาฉันไปเที่ยวหน่อยนะค่ะ นะค่ะ” (ภาษาจีน) ฟานฟานทำท่า   ออดอ้อนอีกจนจิ่งหยูวต้องยอมทำตามใจเธอ พาเธอไปทุกๆที่ที่เธออยากไปจนสุดท้ายเขาและเธอก็มาจบกันที่สถานบันเทิงยามค่ำคืนย่านทองหล่อ จิ่งหยูวนั่งดื่มเหล้าโดยมีฟานฟานคลอเคลียอยู่ด้วยไม่ห่างแต่เขากลับไม่ได้สนใจอะไรเธอเลยจนทำให้คนที่มาด้วยสังเกตุได้ถึงอาการของเขาที่มันดูจะไม่เหมือนเคย

    “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ” (ภาษาจีน)

    “เปล่า ผมไม่ได้เป็นอะไร” (ภาษาจีน) เขาตอบเธอสั้นๆ ก่อนจะยกแก้วขึ้นมาดื่มต่อ เขานั่งดื่มสักพักก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู

    “กลับเถอะฟานฟาน ดึกมากแล้วพรุ่งนี้คุณต้องเดินทางแต่เช้าไม่ใช่เหรอ” เขาชักชวนเธอแต่ดูว่าอีกฝ่ายยังอิดออดไม่อยากจะกลับ เขาจึงลุกขึ้นแล้วเดินหนีเธอไปเฉยๆ จนทำให้ฟานฟานต้องรีบเดินตามออกไปแทบไม่ทัน จิ่งหยูวขับรถพาเธอมาส่งที่โรงแรมที่พัก แต่เธอกลับต้องการมากกว่านั้นเธอจึงให้เขาขึ้นไปส่งที่ห้องพัก

    “คุณขึ้นไปส่งฉันบนห้องหน่อยซิคะ ฉันมึนหัวเดินไม่ไหวแล้วส่งสัยจะดื่มเยอะไปหน่อย” (ภาษาจีน)หล่อนใช้ข้ออ้างที่ทำให้จิ่งหยูวปฏิเสธไม่ได้ แต่จะว่าไปนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่จิ่งหยูวไปส่งเธอถึงบนห้องเพราะตอนที่อยู่จีนก็มีข่าวซุบซิบกันไปทั่วว่าเขาและเธอมีความสัมพันธ์มากกว่าความเป็นเพื่อนอยู่แล้ว จิ่งหยูวพยุงฟานฟานขึ้นไปบนห้องพัก      แล้วเขาก็ขอตัวกลับแต่จุดประสงค์ของฟานฟานต้องการให้เขาค้างคืนกับเธอคืนนี้ก็เหมือนอย่างเคยๆ ทุกครั้งที่  ฟานฟานกับจิ่งหยูวไปเที่ยวด้วยกันก็จะมาจบกันที่เรื่องบนเตียง เธอยั่วยวนเขาเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันกลับไม่ได้ผล จิ่งหยูวปฏิเสธเธอจนทำให้คนที่พยายามยั่วยวนออกอาการไม่พอใจทันที

    “ฟานฟานผมจะกลับแล้ว” (ภาษาจีน)

    “นี่คุณเป็นอะไรปกติคุณไม่ใช่แบบนี้นี่ หรือข่าวที่เขาลือกันมันจริง” (ภาษาจีน)

    “ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแต่วันนี้ผมไม่มีอารมณ์” (ภาษาจีน) จิ่งหยูวตอบเธอแค่นั้นแล้วก็เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้อีกคนยืนอารมณ์ค้างอยู่อย่างนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×