ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักที่ตามหา

    ลำดับตอนที่ #27 : แค่เพียงเราสองคนก็พอ

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 65


    *******จิ่งหยูวลงมาจากห้องเพื่อมากินอาหารเช้าตามปกติ เขากวาดตามองหาฉันแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของฉัน      จนกระทั่งพนักงานนำกระดาษข้อความที่ฉันฝากเอาไว้มาส่งให้เขา เขารับมันไปอ่านจึงรู้ว่าฉันออกไปข้างนอกเขาจึงถามพนักงานทันที

    “คุณฤทัยออกไปกับใคร”

    “ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าเป็นใคร แต่เห็นเป็นผู้ชายรูปร่างสูง ขาว มารับคุณฤทัยที่หน้าโรงแรมครับ” พนักงานตอบคำถามของจิ่งหยูวตามที่เขาเห็น แต่คำตอบของพนักงานทำให้จิ่งหยูวรู้สึกไม่พอใจที่รู้ว่าฉันออกไปกับผู้ชาย เขายืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะเดินไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหาร เขานั่งเขี่ยข้าวในจานสักพักแล้วจึงลุกออกจากห้องอาหารไปที่ห้องพักผ่อนที่อยู่ชั้นสองของโรงแรม แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวขึ้นลิฟท์เขาก็ต้องหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงหวานคุ้นหูเรียกชื่อเขา

    “จิ่งหยูวค่ะ” (ภาษาจีน) ฟานฟานเดินมาหาเขาและสวมกอดเขาแนบสนิท

    “คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า มาหาผมถึงที่นี่เลย” (ภาษาจีน)

    “ไม่มีธุระมาหาไม่ได้หรือค่ะ” (ภาษาจีน) เธอกวาดตามมองไปรอบๆ ก่อนจะถามจิ่งหยูวต่อ

    “แล้วคนดูแลคุณไปไหนหละค่ะ ปกติไม่เคยจะอยู่ห่างคุณเลย” (ภาษาจีน)

    “ไปธุระข้างนอก” (ภาษาจีน)

    “นี่เวลางานทิ้งงานไปได้ด้วยเหรอค่ะ สงสัยจะเป็นธุระสำคัญถึงได้ทิ้งคุณไว้คนเดียวได้” (ภาษาจีน) คำพูดของเธอทำให้จิ่งหยูวนิ่งไปสักพักก่อนจะพาเธอขึ้นลิฟท์ไปที่ห้องพักผ่อนด้วยกัน

    ******พอมาถึงโรงแรมพี่ชีวินก็เดินเข้ามาส่งฉัน และนั่นก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่จิ่งหยูวกำลังเดินมาส่งฟานฟาน ทำให้เราทั้งคู่เจอกันเข้าพอดี ทันทีที่เขาเห็นพี่ชีวินมากับฉันเขาแสดงสีหน้าไม่พอใจทันที ซึ่งฟานฟานก็สังเกตเห็นได้และมันก็เป็นโอกาสดีที่เธอจะทำให้จิ่งหยูวไม่พอใจฉันมากขึ้น เธอหันไปพูดกับจิ่งหยูวทันที

    “คนดูแลคุณนี่ดีนะค่ะบอกว่าจะไปธุระแต่กลับทิ้งคุณไว้คนเดียวแล้วไปกับแฟน” (ภาษาจีน) หล่อนเน้นคำพูดสุดท้ายและนั่นก็เป็นผลจิ่งหยูวไม่พูดอะไรแต่กลับมองฉันหน้านิ่งแต่สายตาที่มองมาแสดงถึงความไม่พอใจฉันเพิ่มมากขึ้นถ้าวัดได้ตอนนี้คงอยู่ในระดับสิบแล้วหละ ก่อนที่เขาจะออกไปข้างนอกกับฟานฟานเขาก็หันมาบอกกับฉันด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่แววตาที่มองมาที่ฉันมันไม่เรียบเฉยเหมือนสายตาเขาเลย

    “ผมจะออกไปข้างนอก หวังว่ากลับมาคุณคงอยู่เพราะถ้าผมกลับมาแล้วไม่เจอคุณผมจะแจ้งบริษัทว่าคุณละทิ้งหน้าที่” พูดจบเขาก็เดินควงแฟนสาวออกไปหน้าตาเฉย ให้พี่ชีวินหันมาขอโทษฉันทันทีที่ได้ยินคำพูดของจิ่งหยูว

    “พี่ขอโทษฤทัยจริงๆ พี่ไม่น่าทำให้ฤทัยโดนต่อว่าเลย”

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เขาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ เอาแต่ใจตัวเองนึกจะพูดจะทำอะไร ก็ทำเขาไม่เคยสนใจความรู้สึกของคนอื่นหรอกค่ะ”

    “แต่พี่ก็มีส่วนที่ทำให้ฤทัยโดนเขาต่อว่า เพราะพี่เป็นคนชวนฤทัยออกไปข้างนอก”

    “พี่ชีวินอย่าคิดมากเลยค่ะไม่มีอะไรหรอกฤทัยชินแล้ว” ฉันพยายามพูดปลอบพี่ชีวินเพื่อไม่ให้เขาต้องคิดมากและรู้สึกผิดต่อฉัน ก่อนที่ฉันจะขอตัวขึ้นห้องพักและให้พี่ชีวินกลับไป

    *******ฉันขึ้นมาถึงห้องพักแล้วเดินไปเปิดเครื่องเล่นเพลง ก่อนจะทิ้งตัวนอนทอดกายอยู่บนโซฟาในห้องแล้วเผลอหลับไปนานเท่าไรไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงกริ่งจากหน้าห้องดังรัวและนั่นก็คงไม่ใช่ใครนอกจากจิ่งหยูวเพราะคนที่จะมากดกริ่งหน้าห้องของฉันรัวขนาดนี้ก็มีแต่เขาคนเดียว นี่คงจะมาต่อว่าฉันอีกหละซิ ฉันคิดในใจ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู

    “คุณนี่ก็เสน่ห์แรงเหมือนกันนะมีแต่ผู้ชายมารุมกัน แล้วไปธุระถึงไหนกันไปกันแค่สองคนคงไม่ใช่ธุระอย่างว่าหรอกนะ” คำพูดของจิ่งหยูวทำให้ฉันโกรธมากและมันก็ทำให้ฉันพูดโต้ตอบกลับออกไปทันที

    “ถ้าคุณไม่มีธุระอะไร ฉันไม่มีเวลาว่างมาฟังเรื่องไร้สาระหรอกนะ แล้วอันที่จริงมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวฉัน ฉันจะไปทำอะไรกับใครมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ” คำพูดของฉันเหมือนเป็นเชื้อเพลิงที่เข้าไปเติมให้ไฟลุกลามมากขึ้น จิ่งหยูวจ้องหน้าฉันเขม็งแต่ใช่ว่าฉันจะกลัวฉันก็จ้องหน้าเขาตอบเช่นกัน

    “แต่มันเป็นเวลางาน ถ้าคุณจะไปทำพาสทามก็ควรจะนอกเวลางานคุณอย่าลืมว่าบริษัทส่งให้คุณมาดูแลผม” แต่จิ่งหยูวก็ไม่ยอมหยุดเขาเริ่มพูดกระแทกแดกดันฉันอีกจนกลายเป็นการต่อปากต่อคำกันแบบรุนแรงมากขึ้น

    “งั้นก็ได้ ทีหลังฉันจะออกไปนอกเวลางานก็แล้วกันคุณจะได้ไม่ว่าฉันว่าฉันทิ้งงาน”

    “ออกไปหาไอ้หมอนั่น หรือไอ้หน้าตี๋ คุณนี่ก็ไม่เบาเหมือนกันนะเห็นเงียบๆก็ไวไฟเหมือนกัน”

    “ฉันจะออกไปหาใครหรือไปทำอะไรกับใครมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ” ฉันจ้องหน้าจิ่งหยูวเหมือนจะบอกให้เขารู้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน และนั่นก็เป็นคำพูดสุดท้ายที่ฉันพูดออกไป จิ่งหยูวรั้งเอวฉันเข้ามากอดและดันตัวฉันเข้าไปในห้องก่อนจะปิดปากฉันด้วยปากเขาจนสนิท ฉันพยายามผลักดันอกกว้างนั่นแต่ก็ไม่เป็นผลอะไรเขาถาถมร่างกายและระเบิดอารมณ์โกรธทั้งหมดใส่ฉันด้วยจูบที่เร่าร้อนจนทำให้ปากบางรู้สึกแสบแปล๊บด้วยรสจูบที่รุนแรง ลิ้นร้ายซอกซอนเข้าไปในโพรงปากของฉันเหมือนกำลังดูดดื่มความหวานจนฉันสั่นสะท้านไปทั้งตัว  ตอนนี้เรี่ยวแรงที่เคยมีมันไม่รู้หายไปไหนหมดเหมือนกำลังจะขาดใจตายคาอ้อมกอดของเขา จิ่งหยูวอุ้มฉันไปที่โซฟาแล้วค่อยๆปล่อยร่างที่อ่อนแรงของฉันนอนลงก่อนที่เขาจะทับทาบมาอยู่บนตัวฉัน เสื้อผ้าของฉันติดมือเขาออกมาทีละชิ้นจนเหลือเพียงร่างกายที่เปลือยเปล่า นิ้วเรียวยาวสัมผัสไปทั่วเรือนร่างของฉันเหมือนอยากสำรวจทุกอย่างบนร่างกายฉัน เขาจูบฉันเนิ่นนาน ก่อนปลายจมูกโด่งจะซุกไซร้ไปทั่วลำคอและเลื่อนต่ำลงมาถึงเนินอกสวย ตอนนี้ทุกอย่างในสมองฉันมันล่องลอยภาพที่มองเห็นเริ่มละลานตา จิ่งหยูวมองหน้าฉันอีกครั้งก่อนที่เขาจะแทรกตัวครอบครองตัวฉันไว้ได้ทั้งหมด ตอนนี้ฉันไม่มีทางขัดขืนใดๆ ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้านอีกต่อไป เขาซัดแรงโหมเข้ามาหาฉันจนร่างกายฉันแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ในความรุนแรงที่เขามอบให้มันก็แทรกซึมไปด้วยความรู้สึกเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูก ฉันปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามใจต้องการ  ตอนนี้ฉันขอแค่มีเพียงฉันกับเขาเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×