ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักที่ตามหา

    ลำดับตอนที่ #23 : หลอกตัวเอง

    • อัปเดตล่าสุด 21 มิ.ย. 61


    “สวัสดีครับฤทัย” คุณชลธารรีบเดินเข้ามาทักทายเมื่อเห็นฉันเดินเข้ามาในงานกับจิ่งหยูว

    “สวัสดีค่ะคุณชลธาร” ฉันทักทายคุณชลธารพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้

    “วันนี้ฤทัยสวยมากเลยครับ ผมดีใจที่ฤทัยมาร่วมงานด้วย”

    “ขอบคุณค่ะ ฤทัยถือว่าเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานค่ะ” ฉันยืนคุยกับคุณชลธารทั้งที่ยังยืนคล้องแขนกับจิ่งหยูว   อยู่และสายตาที่เขามองฉันกับคุณชลธารเริ่มแสดงออกถึงความไม่พอใจ และตามมาด้วยการพูดตัดบทโดยการขอตัวเพื่อไปเตรียมตัว เพราะคืนนี้จิ่งหยูวต้องขึ้นเวทีเปิดตัวนิตยสารฉบับครบรอบ 10 ปี ที่เขาได้รับเชิญให้เป็นนายแบบขึ้นปก

    “ผมขอตัวไปเตรียมตัวก่อน”

    “เชิญครับ เดี๋ยวผมให้เจ้าหน้าที่พาไปที่นั่งที่จัดเตรียมไว้ให้” คุณชลธารพูดเสร็จก็เรียกเจ้าหน้าที่ให้พาเราไปที่นั่งที่อยู่แถวหน้าสุด ซึ่งจัดเตรียมไว้เฉพาะแขกพิเศษเท่านั้น ฉันยังคงเดินคล้องแขนกับจิ่งหยูวจนไปถึงที่นั่ง นักข่าวก็ยังคงบันทึกภาพเขาอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญก็มีภาพฉันติดไปด้วยอีกเช่นเคย

    “ดีใจหละซิที่ได้เจอหมอนั่น” ทันทีที่นั่งลงจิ่งหยูวก็เริ่มพูดแขวะฉันอีก แต่ครั้งนี้ฉันนั่งนิ่งไม่โต้ตอบอะไรเพราะกลัวว่าจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่อยู่ เพราะยิ่งต่อปากต่อคำกับเขาก็จะกลายเป็นเรื่องอีก และมันก็ได้ผลเขาไม่พูดแขวะฉันอีกเมื่อเห็นฉันนิ่งเงียบไม่ตอบโต้อะไร เมื่อพิธีกรประกาศเข้าสู่พิธีการโดยเชิญคุณชลธารและผู้บริหารของนิตยสารอลิสขึ้นไปบนเวที เพื่อกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานและนักข่าว หลังจากนั้นพิธีกรก็เชิญจิ่งหยูวขึ้นบนเวที เขาลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังกลับไปโบกมือทักทายพร้อมกับร้อยยิ้มกว้างที่เผยให้เห็นเขี้ยวทั้งสองข้างก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวที แขกทุกคนส่งเสียงกรี๊ดกันเกรียวกราวโดยเฉพาะแขกผู้หญิงสาวๆ ก็พ่อเจ้าประคุณหล่อซะขนาดนั้นแถมโปรยยิ้มหวานอีก จะไม่ให้ผู้หญิงกรี๊ดกันได้ยังไง ก็คงมีแต่ฉันนั่นแหละที่นั่งนิ่งไม่ได้แสดงอาการอะไร ทันทีที่เขาพูดจบเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยสายรุ้งและลูกโป่งลงมามากมายเป็นการฉลองที่ยิ่งใหญ่อลังการจริงๆ แสง สีเสียง จัดมาเต็มจนฉันถึงกับตาค้างไปเลยทีเดียว จิ่งหยูวลงมาหาฉันและพาฉันออกไปที่หน้างานเพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายภาพและสัมภาษณ์

    “คุณไปเถอะฉันจะยืนรอคุณอยู่ตรงนี้” ฉันบอกกับจิ่งหยูวให้เขาเข้าไปให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ แต่เขากลับจูงมือฉันไปด้วยและนั่นก็เป็นที่จับตามองของนักข่าวต่างพากันรุมถ่ายรูปฉันกับเขากันยกใหญ่

    “คุณจิ่งหยูวจะเดินทางกลับจีนเมื่อไหร่ครับ” นักข่าวสัมภาษณ์

    “ยังไม่มีกำหนดครับว่าจะอยู่เมืองไทยสักพักเพราะผมไม่ได้กลับมาเมืองไทยนานแล้วก็เลยอยากจะอยู่ให้หายคิดถึงก่อน” จิ่งหยูวตอบ

    “มีอะไรพิเศษที่เมืองไทยหรือเปล่าครับเลยไม่อยากกลับหรือว่าจะติดใจผู้หญิงไทยซะแล้ว” นักข่าวเริ่มสัมภาษณ์ประเด็นที่อาจเบี่ยงเบนมาทางฉัน

    จิ่งหยูวได้แต่ยิ้มไม่ตอบคำถามของนักข่าว แล้วตัดบทด้วยการขอตัวกลับ ปล่อยให้นักข่าวไปตีความเอาเอง ก่อนจะเดินจูงมือพาฉันออกจากงานเพื่อจะเดินทางกลับ ฉันพยายามจะให้เขาปล่อยมือฉันหลายครั้งเพราะกลัวจะเป็นข่าวแต่ก็ไม่เป็นผลเขาดื้อดึงมากกว่าที่ฉันคิด

    “คุณน่าจะตอบคำถามให้ชัดเจนไม่ควรทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น นักข่าวจะไปตีความเอาเองคุณก็จะเสียหาย” ฉันพูดกับเขาขณะที่กำลังนั่งอยู่ในรถเพื่อเดินทางกลับที่พัก

    “คำถามอะไร”

    “ก็ที่นักข่าวถามคุณว่ามีอะไรพิเศษที่เมืองไทยเลยไม่อยากกลับ” ฉันทวนคำถามที่นักข่าวถามเขา

    “จะให้ผมตอบอะไรหรือจะให้ผมตอบว่าผมติดใจผู้หญิงไทย” จิ่งหยูวไม่พูดเปล่าเขาหันมามองหน้าฉันเหมือนกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง และนั่นมันก็ทำให้ฉันไม่กล้าพูดอะไรกับเขาอีก ฉันแอบมองเขาขณะที่เขากำลังขับรถ ภายใต้ท่าทางที่เข่งขรึมนี้ เขากำลังคิดที่จะทำอะไร บางทีเขาก็ดูเย็นชา แต่บางทีก็ดูอ่อนโยน นี่เขาเป็นคนแบบไหนกันแน่ เขากำลังจะเอาชนะฉันอยู่ใช่ไหมทุกอย่างที่เขาแสดงออกกับฉันเป็นเพียงแค่ทำไปเพราะความสนุก เขาจะรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เขาทำให้ฉันสับสนไปหมด เขาทำให้ฉันไม่เข้าใจตัวเอง ทุกครั้งที่เขาจ้องตา ทำไมหัวใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะแบบนี้  และมันก็เป็นคำถามที่ฉันยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้เลย

    “ไม่นะฤทัย เธอไม่ได้คิดอะไรกับเขาทั้งนั้น เธอก็แค่สับสน เธอไม่ได้รักเขา เขาก็แค่คิดว่าเธอเป็นแค่ของเล่นทุกอย่างที่เขาทำเขาไม่ได้คิดจริงจังอะไร” ฉันรีบบอกกับตัวเองเพื่อเป็นการเตือนสติตัวเองไม่ให้คิดอะไรเลยฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×