ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักที่ตามหา

    ลำดับตอนที่ #21 : ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งหวั่นไหว (ต่อ)

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 61


    ******เราขับรถออกจากกรุงเทพโดยใช้ทางด่วนมุ่งตรงไปยังหัวหิน บรรยากาศในรถเงียบสนิทไม่มีบทสนทนาใดๆ   ยังดีที่ยังมีเสียงเพลงที่เขาเปิดไว้ ก็จะให้พูดอะไรใครจะไปทำได้อย่างเขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ฉันเป็นผู้ถูกกระทำนี่จะให้ทำหน้าเป็นทองไม่รู้ร้อนเหมือนเขาได้ยังไง

    “ตึ้ง ตึ้ง” เสียงไลน์จากโทรศัพท์มือถือของฉันดังขึ้นมาสยบความเงียบบนรถ ฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านก็พบว่าเป็นข้อความจากพี่คชา

    “ฤทัยพุ่งนี้คุณจิ่งหยูวต้องไปร่วมงานฉลองครบรอบ 10 ปีของนิตสารอลิส พี่จะให้คนส่งชุดไปให้ที่โรงแรมแล้วพี่จะส่งรถไปรับตอนหกโมงเย็นนะ” ทันทีที่ฉันอ่านข้อความจบฉันก็หันไปบอกเขา

    “พรุ่งนี้คุณต้องไปร่วมงานฉลองครบรอบ 10 ปี ของนิตยสารอลิส บริษัทจะส่งรถมารับคุณตอนหกโมงเย็น” ทันทีที่ฉันพูดจบเขาก็หันมาสั่งฉัน

    “ต่อสายคุณคชาให้ผม” ฉันรีบกดต่อสายพี่คชาให้เขาทันที เพราะคิดว่าเขาคงมีเรื่องที่ต้องซักถามพี่คชาเรื่องงานอีก

    “คุณคชาผมต้องการให้ฤทัยไปด้วยเพราะเขาต้องคอยดูแลผม” พูดจบเขาก็ยื่นโทรศัพท์ส่งให้ฉันคุยกับพี่คชาต่อ

    “ฤทัยพี่จะให้คนส่งชุดไปให้ฤทัยด้วยนะ คุณจิ่งหยูวเขาจะให้ฤทัยไปคอยดูแลเขาด้วย”

    “แต่พี่คชาค่ะ” ยังไม่ทันที่ฉันจะปฏิเสธพี่คชาก็พูดขัดขึ้นมาก่อน

    “ฤทัยก็รู้ถ้าเขาต้องการให้ฤทัยไปฤทัยก็ต้องไป  เพราะมันเป็นหน้าที่ของฤทัยที่ต้องคอยไปดูแลเขา”

    “แต่” ฉันพยายามจะคัดค้านอีก

    “ไม่มีแต่ พรุ่งนี้พี่จะให้คนส่งชุดไปไปให้พร้อมชุดของคุณจิ่งหยูว อ้อพี่จะให้ช่างแต่งหน้าไปแต่งหน้าให้ที่โรงแรมเลย รถจะไปรับหน้าโรงแรมตอนหกโมงเย็น” พูดจบพี่คชาก็วางสายทันที  หลังจากวางสายจากพี่คชาฉันก็หันควับไปถามคนเจ้าปัญหาทันที

    “ทำไมคุณต้องให้ฉันไปกับคุณด้วย”

    “อ้าวผมนึกว่าคุณอยากไปซะอีก จะได้ไปเจอไอ้หน้าตี๋นั่น”

    “ฉันไม่อยากไปกับคุณ” ฉันเริ่มทำเสียงแข็งเมื่อได้ยินคำพูดประชดประชันจากเขา

    “แต่คุณก็ต้องไป เพราะคุณมีหน้าที่ดูแลผม” เขาอ้างเหตุผลเดิมที่ฉันไม่มีทางปฏิเสธได้เลย เป็นเหตุผลที่ฉันต้องยอมทุกครั้ง ฉันไม่พูดต่อปากต่อคำกับเขาอีกได้แต่นั่งนิ่งเงียบไปตลอดทางจนถึงชายหาดหัวหิน เขาเลี้ยวรถหาที่จอดและพาฉันเดินเข้าไปในร้านอาหารที่อยู่ติดกับชายหาด

    “ผมหิวแล้ว หาอะไรกินก่อนแล้วกัน” ฉันยกนาฬิกาขึ้นมาดูนี่มันก็ใกล้เที่ยงแล้วอย่าว่าแต่เขาหิวเลยตอนนี้ฉันก็หิวเหมือนกันเพราะเมื่อเช้าฉันแทบไม่ได้กินอะไรเลย แถมท้องเจ้ากรรมดันส่งเสียงร้องเตือนดังจนคนที่มาด้วยได้ยิน  เขาเปิดประตูลงจากรถฉันจึงเปิดประตูลงจากรถเดินตามเข้าไปในร้าน ดีที่คนที่เข้ามากินข้าวในร้านนี้ไม่ค่อยเยอะมากเท่าไหร่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนต่างชาติ แต่ก็มีคนไทยบางกลุ่มที่มองมาที่เขาและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเขากันมือระวิง แต่ดีที่ไม่เกิดเหตุการณ์มะรุมมะตุ้มเกิดขึ้นอย่างมากก็แค่หันมามองทำท่ากรี๊ดกร๊าดและหยิบโทรศัพท์ ขึ้นมาถ่ายรูป พนักงานในร้านพาเราไปนั่งโต๊ะริมซึ่งอยู่ติดกับระเบียงมองเห็นชาดหาดขาวทอดยาว เขาสั่งอาหารทะเลมาสองสามอย่างแล้วก็หันมาถามฉัน

    “คุณจะสั่งอะไรเพิ่มหรือเปล่า”

    “ไม่หละ ที่คุณสั่งมาก็เยอะแล้ว” ฉันตอบเขาเพราะอาหารที่เขาสั่งมาก็เยอะแล้วจริงๆ เราใช้เวลานั่งกินข้าวกันสักพักใหญ่ก็เรียกพนักงานมาเก็บเงินแล้วเดินออกจากร้าน ขณะที่กำลังเดินออกจากร้านแฟนขลับของเขาที่จำเขาได้และมองเขาตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านก็มารุมขอถ่ายรูปกับเขา เสียงแฟนขลับผู้หญิงคนหนึ่งถามเขาด้วยความสงสัย

    “พี่แมวน้อยมากับแฟนหรือค่ะ” คำถามของเด็กสาวคนนั้นทำให้แฟนขลับอีกหลายคนรอฟังคำตอบจากเขาจิ่งหยูวไม่ได้ตอบอะไรเด็กสาวคนนั้น แต่กลับส่งยิ้มมีเลศนัยและหันมามองที่ฉันก่อนที่เขาจะขอตัวพาฉันออกมาจากร้าน ระหว่างอยู่บนรถฉันก็ป้อนคำถามที่ค้างคาในใจตั้งแต่เด็กสาวคนนั้นถามเขา

    “ทำไมคุณไม่ปฏิเสธพวกแฟนขลับไปว่าฉันไม่ใช่แฟนคุณ” จิ่งหยูวไม่ตอบอะไรกับคำถามของฉันเขาหันมามองหน้าฉันแว็บเดียวแล้วก็หันกลับไปขับรถต่อหน้าตาเฉย มันเลยทำให้ฉันไม่อยากจะถามอะไรเขาอีกเพราะถึงถามไปเขาก็คงไม่มีคำตอบเหมือนเดิม เขาขับรถแวะจอดที่ชายหาดแห่งหนึ่งที่มีหาดทรายขาวทอดยาวสุดลูกหูลูกตา น้ำทะเลเป็นสีฟ้าใส  เราเปิดประตูลงจากรถเมื่อรถจอดสนิทบรรยากาศตอนนี้เป็นเวลาแดดร่มลมตกพอดีอากาศกำลังเย็นสบาย ลมทะเลพัดเกรียวคลื่นมากระทบหาดทรายเป็นระลอกคลื่น ฉันยืนมองทะเลและฟังเสียงคลื่นที่ซัดมากระทบกับหายทรายขาวถ้าหากสามารถโยนทิ้งความกังวลและความสับสนต่างๆ ไปกับทะเลได้ตอนนี้ฉันก็อยากทำมันมากที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×