ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ต่างกันนักรักวุ่น ๆ

    ลำดับตอนที่ #2 : สานสัมพันธ์

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 60


    การถ่ายหนังก้อยังดำเนินต่อไป ฉากที่จะถ่ายเป็นฉากที่กลุ่มพระเอกซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่น ม.ปลาย  พากลุ่มแฟนสาวไปเที่ยวที่สยามสแควร์ ใช่เราถ่ายฉากนี้กันที่สยามสแควร์ ซึ่งเป็นศูนย์ของเด็กวัยรุ่น

    “กรี๊ด..กรี๊ด..กรีด๊” โอ้แม่จ้าว เสียงของเด็กผู้หญิงวัยรุ่นกรี๊ดสนั่นไปทั้งสยามสแควร์ เมื่อเห็นพระเอกหน้ามน “ปุณณ์” เดินออกมา  เพื่อเข้าฉาก

    ชายหนุ่มโบกมือ พร้อมยิ้มหวาน ให้แฟนขลับ เป็นพิธีก่อนจะเข้าฉาก

    การถ่ายทำดำเนินต่อไปจนเสร็จก้อปาเข้าไปสองทุ่มแล้ว ฉันกับทีมงานรับสาละวนเก็บของเพื่อถ่ายทำต่อไปวันพรุ่งนี้

    “ลมหนาวกลับยังไง” พี่แนนถามด้วยความเป็นห่วง

    “เดี๋ยวกลับแท็กซี่ค่ะพี่แนน” 

    “โอ เค กลับดี ดีนะ พรุ่งนี้เจอกันที่สตู”

    “ค่ะพี่” ฉันตอบพี่แนน พร้อมทั้งยกมือไหว้อย่างเคารพ และเดินต่อไปเรียกแท็กซี่

    ฉันเดินไปคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่ความคิดเจ้ากรรมดันไปคิดถึง “ปุณณ์” ตอนที่ช่วยฉันไว้ไม่ให้สะดุดล้ม

    ริมฝีปากแดงละเรื่อ โดยไม่ต้องแต่งเติม ใบหน้าเรียวรูปไข่ คิ้วเข้ม ขนตายาวที่ทำให้ดวงตามคู่นั้นดูน่าค้นหา โอ๊ยมันติดตาฉันจัง

    และความคิดวูบหนึ่งก้อผลุดขึ้นมา “ไม่นะ ไม่นะ เค้าเด็กกว่าฉันตั้ง สี่ปีเชียวนะ”

    สิ้นความคิด ก้อรู้สึกเหมือนจะคนบีบแตรอยู่ด้านหลัง “ปี้น ..ปี้น”

    ฉันหันหลังกลับไปมองช้า ๆ รถโตโยต้า ฟอจูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนตองเก้า

    ฉันชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างไม่แน่ใจว่าเจ้าของรถเรียกฉันหรือป่าว

    กระจกรถค่อย ๆ เลื่อนลง พร้อมทั้งมีเสียงตะโกนออกมา “ผมไปส่งมั๊ย”

    ฉันค่อย ๆ ก้าวเดินไปตามเสียงนั้น และไปหยุดยืนอยู่ที่รถคันดังกล่าว

    “ไม่เป็นไรค่ะ กลับเองได้ ขอบคุณ”  ฉันตอบกลับอย่างไม่ค่อยมีไม่ตรีเท่าไหร่ แต่ก้อต้องรักษามารยาท

    “ขึ้นมาเถอะ เดี๋ยวคนก้อมากันทั้งสยามหรอก  เดี๋ยวถ้าพรุ่งนี้ผมไปถ่ายต่อไม่ได้ ผมโทษคุณนะที่ปล่อยให้แฟนขลับเข้ามา               ชักกะเย้อผม”  เหตุผลของเขาแกมบังคับ ฉันกกวาดตามองไปรอบ ๆ จริงอย่างที่เขาว่าวัยรุ่นทั้งสยามเริ่มวิ่งแห่มาที่รถของเขา         ฉันรีบกระโดดขึ้นรถเค้าทันทีโดยไม่รั้งรอ ด้วยเหตุผลที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของเขา และก้อกลัวถูกพี่แนนตำหนิด้วย

    เขารีบสตาร์ทรถออกด้วยความเร็วระหว่างทางบรรยากาศในรถเงียบถึง เงียบมาก ไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้น เขาเอื้อมมือเปิดวิทยุพร้อมทั้งปรับเสียงเพลงคลอเบา ๆ 

    ฉันไม่เคยจะรู้หัวใจตัวเอง

    แล้วเมื่อไหร่จะตอบตัวเองได้สักที

    ว่าคนๆ ไหนที่ต้องการ ใช่เธอคนนี้

    หรือว่าอาจจะเป็นเขา อยากรู้ว่าเธอคือใคร

    อยากจะรักใครเป็นเพียงสักคน เป็นเธอจะได้ไหม

    อยากจะรักบางคนหมดหัวใจ จะใช่เธอเปล่า

    “ใช่เลยเพลงนี้ฉันชอบมาก” เพลงอยากรู้หัวใจตัวเองที่ชอบเพลงนี้ก้อเพราะเนื้อหาโดนใจฉันเป๊ะ

    “บ้านคุณอยู่แถวไหน ผมจะได้ไปส่งถูก”  เค้าเหลือบหางตามองที่ฉัน

    “แล้วคุณชื่ออะไรเนี่ย นั่งรถผมมาตั้งนานยังไม่รู้จักชื่อเลย”

    ฉันนั่งนิ่งไม่มีคำตอบใด ๆ

    “ลมหนาว” เสียงเรียกชื่อของอีกฝ่ายทำให้ฉันหันไปมองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ

    “คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังงัย”

    “ก้อได้ยินพี่แนนเรียกชื่อคุณอยู่บ่อย ๆ” เค้าตอบคำถามพร้อมค่อย ๆหันมามองหน้าฉันด้วยรอยยิ้มหวาน ๆ

    “ชื่อคุณแปลกดี แสดงว่าคุณเกิดหน้าหนาวแน่เลย แม่คุณเลยตั้งชื่อนี้ให้”

    ฉันนิ่งเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะตอบออกไป

    “ป่าวหรอก พ่อกับแม่ฉันเลิกกันตั้งแต่ฉันเกิด เมื่อตอนหน้าหนาว แม่ก้อเลยตั้งชื่อนี้ให้ฉัน”คำตอบของฉันทำให้อีกฝ่ายทำสีหน้ารู้สึกผิดกับคำถามของตน

    “ผมขอโทษ” คำพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและเปี่ยมไปด้วยความจริงใจทำให้ฉันไม่รู้สึกโกรธเขาสักนิดที่ถามคำถามนี้

    “ไม่เป็นไรหรอก ฉันชินแล้ว ใคร ๆ ก้อคิดอย่างคุณทั้งนั้น”

    “คุณจอดรถตรงนี้แหละ อีกไม่ไกลก้อถึงบ้านฉันแล้ว”

    เขาชะลอรถเพื่อจอดที่ป้ายรถเมล์ข้างหน้า

    “แน่ใจนะว่ากลับเองได้”

    ฉันหันกลับมาพยักหน้ารับ พร้อมทั้งเอื้อมมือไปเปิดประตูรถทำให้อีกฝ่ายต้องรับปลดล็อคประตู

    “ขอบคุณนะ นายส่งฉันแค่นี้แหละไม่ต้องลงจากรถหรอกเดี๋ยวผู้คนแถวนี้จะแตกตื่นถ้าเห็นคุณเข้าฉันไม่อยากโดน                      แฟนขลับคุณตบนะ ฉันเดินไปไม่ไกลก้อถึงบ้านแล้ว อ้อไม่ใช่สิ ขอบใจนะ ฉันต้องพูดคำนี้ถึงจะถูกต้อง เพราะฉันเป็นรุ่นพี่นาย     ตั้งสี่ปี  และอันที่จริงนายต้องเรียกฉันว่าพี่ด้วยซ้ำ”

     “พี่เหรอ” เค้ามองหน้าฉัน อมยิ้มน้อย แล้วยักคิ้วใส่ฉัน

    “ผมเป็นลูกชายคนเดียวไม่มีพี่ อ้อแล้วอีกอย่างนะ.......”

    “อีกอย่างอะไร”

    “หน้าคุณยังไม่เหมาะจะเป็นพี่ใคร ไหนจะความซุ่มซ่ามอีก”

    “คุณ....”  ฉันรีบปิดประตูรถ ไม่ต่อปากต่อคำใด ๆ กับเขาอีก

    เขายิ้มให้ฉันก่อนจะขยับรถออกพร้อมทั้งยกมือขึ้นมาโบกไปมา

    ฉันเดินเข้าซอยต่อไปอีกไม่ไกลก้อถึงบ้านหลังน้อยที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ และที่มีแต่ฉันคนเดียวเพราะแม่ของฉันเสียไปนานแล้ว      ชีวิตตัวคนเดียวทำให้ฉันรู้สึกเหงาเสมอมา และการที่พ่อกับแม่เลิกกันตั้งแต่ฉันเกิดทำให้ฉันเป็นคนที่โหยหาความรัก               เพราะการที่ฉันไม่มีพ่อฉันจึงต้องการใครสักคน    แต่ฉันก้อยังไม่เจอใครที่คิดว่าใช่สำหรับฉันสักที                                                แม้จะมีหนุ่ม ๆ รุ่นเดียวกันมาขายขนมจีบ ก้อต้องถอยหลังกลับเพราะฉันไม่เคยสนใจใคร

    ****************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×