ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักที่ตามหา

    ลำดับตอนที่ #19 : คู่แข่งที่น่ากลัว (ต่อ)

    • อัปเดตล่าสุด 16 มิ.ย. 61


    “คุณฤทัยจะกลับแล้วหรือครับ” เสียงคุณชลธารเรียกเมื่อเห็นฉันกับจิ่งหยูวกำลังจะกลับเพราะงานได้เสร็จสิ้นแล้ว และนั่นก้อทำให้จิ่งหยูวหันมามองด้วยเช่นกัน

    “ค่ะ จะกลับแล้วค่ะ”

    “เอ่อ คือ ผมจะขอเบอร์โทรศัพท์คุณไว้ได้หรือเปล่าครับ เผื่อมีปัญหาเรื่องงานผมจะได้ติดต่อคุณได้” คุณชลธารพูดพร้อมส่งโทรศัพท์ให้ฉันกดเบอร์

    “เอ่อ ได้ค่ะ” ฉันตอบรับด้วยการรับโทรศัพท์จากเขาและกดเบอร์ของตัวเองใส่ลงไปในแป้นพิมพ์ โดยไม่ได้สังเกตุว่ามีอีกหนึ่งสายตาที่เฝ้ามองอยู่ตลอด

    “งั้นฉันกลับก่อนนะคะ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันค่ะคุณชลธาร” ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะโต้ตอบเจ้าของสายตาที่จับจ้องฉันกับคุณชลธารมาโดยตลอดก็แสดงอาการไม่พอใจโดยการหันหลังรีบจ้ำเดินหนีฉันไปที่รถ จนทำให้ฉันต้องรีบเดินตามไปแทบไม่ทัน

     “ถึงขนาดต้องขอเบอร์โทรกันไว้ ดูเขาจะชอบคุณนะ”  จิ่งหยูวพูดกับฉันขณะที่เขากำลังขับรถกลับโรงแรม    

    “ก็คงงั้นมั้ง” ฉันตอบไปแบบไม่คิดทันที ซึ่งมันก็ทำให้อีกฝ่ายอารมณ์ขึ้น โดยที่ฉันไม่ได้ตั้งใจฉันแค่จะพูดกวนๆ    เขาเล่นก็แค่นั้น

    “งั้นก็ไม่ปฏิเสธว่าชอบไอ้หมอนั่น เห็นเงียบๆแบบนี้ ก็ไวไฟเหมือนกัน เห็นผู้ชายรวยๆ เข้าหน่อยก็อยากที่จะวิ่งเข้าหา” คำพูดของจิ่งหยูวทำให้ฉันโกรธมาก ก็เขาพูดดูถูกฉันซะขนาดนั้นจะให้ไม่โกรธได้ยังไง

    “นี่นายกำลังดูถูกฉันอยู่นะ”

    “หรือว่าไม่จริง อันที่จริงผมก็ทั้งหล่อทั้งรวยกว่าไอ้หมอนั่นตั้งเยอะ คุณไม่คิดจะจับผมบ้างเหรอ” คำพูดของเขาทำให้ระดับความโกรธของฉันยิ่งเพิ่มมากขึ้น แต่ฉันพยายามเก็บอารมณ์ไว้ แล้วหันไปมองหน้าเขา และพูดตอบโต้เขาแบบหน้าตาเฉย

    “ถ้าจะให้ฉันจับระหว่างคุณกับคุณชลธาร ฉันเลือกคุณชลธาร เพราะเขาไม่ใช่แค่หล่อ รวย เขายังสุภาพ และมีมารยาทมากกว่าคุณเยอะ” จิ่งหยูวเลี้ยวรถจอดเข้าข้างทางอย่างกะทันหันทำให้หน้าฉันแทบจะกระแทกกับคอนโซลรถ

    “คุณจอดรถทำไม” จิ่งหยูวไม่ตอบอะไรแต่กลับขยับตัวเข้ามาใกล้ฉันจนฉันรู้สึกกลัวต้องขยับตัวเองออกจนชิดกระจก

    “คุณจะทำอะไร” ฉันเอ่ยถามเขาด้วยความตกใจ ก็นี่มันก็มืดแล้วแถมที่ที่เขาจอดรถมันแทบจะไม่มีรถผ่านมาเลย และยิ่งสายตาที่เขามองฉันมันทำให้ฉันยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก

    “คุณแน่ใจนะว่าจะเลือกไอ้หน้าตี๋นั่น”

    “ฉันแน่ใจ” แต่ยังฉันก็ยังไม่วายปากเก่งอีก

    “แต่ผมว่าไอ้หมอนั่นเรื่องบนเตียงคงไม่เก่งเท่าผมหรอก ถ้าคุณลองนอนกับผมคุณอาจเปลี่ยนใจเลยก็ได้” สิ้นประโยคสุดท้ายที่เขาพูด ฉันก็สะกดความโกรธไว้ไม่อยู่อีกต่อไป เงื้อมือตบไปที่ใบหน้าเขาอย่างแรงจนทำให้หน้าขาวมีรอยแดงเห่อขึ้นเป็นรูปนิ้วเรียวของฉัน แต่การตอบกลับของจิ่งหยูวมันรุนแรงมากกว่าการสร้างรอยแดงบนใบหน้าเขา จิ่งหยูวรั้งตัวฉันเข้าไปแนบชิดจนแทบไม่เหลือที่ว่างระหว่างเรา นิ้วเรียวล้อมกรอบบังคับใบหน้าฉันไม่ให้เบี่ยงหนีแล้วประกบริมฝีปากหยักได้รูปบดขยี้จนปากบางของฉันแดงช้ำไปหมด ลิ้นร้ายพยามซอกซอนเข้ามาดูดดื่มความหอมหวาน ของกลิ่นและคราบความหวานของลูกอมที่ฉันเพิ่งอมจนละลายหมดไป ตอนนี้ฉันเหมือนจะขาดใจตายตรงหน้าเขา แต่เหมือนเขาจะยังเหลือความเมตตาให้ฉันบ้าง จิ่งหยูวถอนจูบจากฉันปล่อยให้ฉันได้สูดอากาศเข้าปอด แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่ช่วงเสี้ยววินาทีที่ปล่อยให้ฉันได้ต่อลมหายใจ จิ่งหยูวก็กดริมฝีปากลงมาอีก นิ้วเรียวไต่เลื้อยผ่านเสื้อเข้าไปจนสัมผัสถึงผิวกายอ่อนบาง ฉันพยายามขัดขืนเมื่อรู้ว่าถูกล่วงล้ำจากผู้บุกรุกอย่างอุกอาจ แต่มันก็ยิ่งทำให้ฝ่ายผู้บุกรุกยิ่งได้ใจ เพิ่มระดับการบุกรุกโดยการเลื่อนปากบางมาดึงดูดที่ต้นคอไต่ระดับลงขึ้นมาจนถึงซอกหู และมันก็ได้ผลฉันไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนอีกต่อไป จิ่งหยูวกระซิบข้างๆหูฉันแผ่วเบาๆ

    “คุณยิ่งดิ้นผมยิ่งมีอารมณ์”

    บอกตรงๆตอนนี้ฉันไม่เหลือสติสัมปชัญญะอะไรอีกแล้ว หูมันอื้อไปหมด ความรู้สึกตอนนี้มันล่องลอยเหมือนอยู่ในอากาศ อย่าว่าแต่จะขัดขืนเลยแม้แต่จะหายใจก็ยังลำบาก สำหรับจิ่งหยูวมันเป็นเรื่องไม่ยาก ที่จะทำให้ผู้หญิงที่อ่อนต่อโลกอย่างฉันกลายเป็นแมวน้อยที่ว่านอนสอนง่าย แต่ถึงฉันจะเป็นแมวฉันก็เป็นแมวป่าที่ยังพอจะมีสัญชาตญานการเอาตัวรอดเฮือกสุดท้าย ฉันกดเล็บยาวจิกลงไปที่แขนของเขาอย่างแรง มันได้ผลเขาร้องออกมาด้วยความเจ็บและผละออกจากฉันทันที จังหวะนั้นฉันรีบหันกลับไปพยายามที่จะเปิดประตูรถที่ถูกล๊อคจากฝั่งคนขับทำให้ประตูที่พยายามเปิดเท่าไรก็เปิดไม่ออก จิ่งหยูวรั้งตัวฉันให้มาแนบชิดเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันทำได้เพียงมองตาเขาอย่างอ้อนวอนเมื่อรู้ว่าไม่มีทางหนีเขารอด เขาค่อยๆก้มหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนปลายจมูกเราสัมผัสกัน เพียงแค่ลมหายใจที่เป่ารดมากระทบแก้มใสก็ทำให้ตัวฉันตัวสั่นระรัวอยู่ในอ้อมกอดเขา แต่สุดท้ายไม่รู้อะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจอาจเป็นเพราะความสงสารหรือจิตสำนึก หรืออะไรก็แล้วแต่   เขาค่อยๆ คลายอ้อมกอดที่รัดฉันไว้จนแน่นจนปล่อยฉันออกจากวงแขนแข่งแกร่งนั้น ใช่เขาปล่อยฉัน แล้วหันกลับไปขับรถพาฉันกลับไปที่โรงแรม เราไม่พูดอะไรกันอีกเลยจนถึงโรงแรมฉันรีบเปิดประตูรถและวิ่งไปขึ้นลิฟท์ขึ้นไปบนห้องพักโดยไม่หันหลังกลับไปมองเขา จิ่งหยูวยืนมองฉันวิ่งเข้าไปในโรงแรมก่อนที่เขาจะเดินตามมาขึ้นห้องพักของเขาเช่นกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×