ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักที่ตามหา

    ลำดับตอนที่ #17 : อย่าล้อเล่นกับความรัก

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 61


    *******หลังจากกินข้าวเสร็จฉันกับจิ่งหยูวก็เตรียมตัวออกเดินทางกลับกรุงเทพตามที่พี่คชาสั่งไว้ เราร่ำลาคุณป้ากับคุณลุงก่อนเดินทางกลับ

    “แล้วมาเยี่ยมป้าอีกนะลูก” คุณป้าพูดกับจิ่งหยูว พร้อมโอบกอดเขาไว้ จิ่งหยูวไม่ลืมที่จะกอดคุณป้าเช่นกัน จิ่งหยูว  ที่ฉันเห็นในตอนนี้เขาดูอบอุ่น น่ารัก อย่างที่คุณป้าท่านบอกไว้จริงๆ

    “มารอบหน้าพาแม่หนูคนนี้มาหาลุงอีกนะ”

    “ครับ” จิ่งหยูวรับคำแล้วหันมากอดคุณลุงเพื่อเป็นการร่ำลา แล้วจึงเดินไปที่รถ ระหว่างที่เราเดินไปที่รถ ฉันเห็นเขาหันหลังกลับไปมองคุณลุง และคุณป้า ด้วยสายตาห่วงหาอาทร จริงๆแล้วผู้ชายคนนี้ก็มีโมเม้น   ที่อบอุ่นน่ารักเหมือนกัน

    ใช้เวลาประมานสามชั่วโมงเราก้อเดินทางกลับมาถึงโรงแรมที่พัก นี่ถ้าไม่แวะกินข้าวและโดนแฟนขลับเขาชักกะเย่อขอลายเซ็น ขอถ่ายรูป ฉันว่าคงจะถึงเร็วกว่านี้เพราะพ่อเจ้าประคุณไม่รู้ว่าขับรถหรือขับเครื่องบิน จนทำให้ฉันนี่นั่งลุ้นมาตลอดทาง เมื่อถึงโรงแรมปั๊บเขาก้อทิ้งคราบผู้ชายอบอุ่น กลับมาเป็นจิ่งหยูวผู้หยิ่งจองหอง มาดเยอะเหมือนเดิม

    “นี่คุณแล้วคิวถ่ายแบบของผมกี่โมง” เขาถามฉันระหว่างอยู่บนลิฟท์

    “หกโมงเย็น”

    “งั้นเดี๋ยวสี่โมงคุณมาเตือนผมอีกทีแล้วกัน” เขาพูดเสร็จก็เดินนำหน้าฉันออกจากลิฟท์ไปพักผ่อนที่ห้องเพื่อรอเวลาตามที่นัดหมายกับฉันไว้

                ฉันเดินมายืนกดกริ่งอยู่หน้าห้องเขาก่อนเวลานัดหนึ่งชั่วโมงเพราะต้องเผื่อเวลารถติด กลัวว่าจะไปไม่ทันเวลานัด ก็คุณชายเขาอยากขับรถไปเอง ฉันกดกริ่งไม่นานจิ่งหยูวก็เปิดประตูออกมาแต่งตัวเรียบร้อย อืมมม  อย่างน้อยเขาก้อยังรู้จักรักษาเวลาฉันนึกว่าจะต้องมานั่งรอเขาซะแล้ว ฉันยืนมองหน้าเขาอย่างนั้นจนคนที่ถูกมองต้องเป็นฝ่ายเอ่ยชวน

    “จะไปกันได้หรือยังหละคุณ มองผมอยู่ได้ มองผมนานๆระวังตกหลุมรักผมนะ” ฉันทำตาเขียวใส่เขาทันทีที่ได้ยินคำพูดที่หลงตัวเองของเขา

    “ไม่มีทาง ฉันไม่มีทางตกหลุมรักคนอย่างคุณ ที่ฉันมองคุณเพราะแปลกใจที่คุณก็ยังรู้จักรักษาเวลานัดฉันนึกว่าจะต้องมายืนรอคุณต่างหาก”

    “ก้อดีแล้วหละ เพราะผู้หญิงอย่างคุณก้อไม่ใช่สเป็คผม ผมกลัวคุณจะร้องให้ขี้มูกโป่งเพราะผิดหวังที่ผมไม่สนใจหึ หึ” พูดเสร็จเขาก้อเดินนำหน้าไปที่รถ โดยไม่สนใจเลยว่าฉันจะหัวเสียกับคำพูดของเขาแค่ไหน

    ระหว่างขับรถไปยังจุดนัดหมายรถของเราก็มาติดสัญญาณไฟแดงที่ต้องทำให้ยุดรอรถเพื่อรอสัญญาณไฟเขียว     เราจอดรถอยู่ข้างๆ รถเมล์ ระเก๋ง และรถอีกมากมายที่กำลังรอสัญญาณไฟเขียวเช่นกัน

    “กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด จิ่งหยูว จิ่งหยูว” เสียงกรี๊ดของกลุ่มเด็กสาวบนรถเมล์ดังสนั่นเมื่อพวกเธอเห็นดาราขวัญใจ ทุกคนแย่งกันกรูมาที่หน้าต่างของรถเมล์คันนั้น แต่สิ่งที่เขาทำทำให้ฉันตกใจยิ่งกว่าเสียงกรี๊ดของพวกเด็กสาว ก็คือเขากดสวิทซ์เปิดประทุนรถหรูคู่ใจ จนทำให้ฉันต้องดึงมือไม่ให้เขาทำแบบั้น

    “นายทำอะไรหนะ นี่นายจะบ้าเหรอ เดี๋ยวคนก็แห่กันมาหรอก” เขาไม่สนใจคำพูดของฉันเลย แต่กลับยืนขึ้นจาก เบาะนั่ง แล้วโบกมือยิ้มหวานให้กับแฟนขลับของเขา ทุกคนที่อยู่บนรถเมล์หยิบมือถือออกมาถ่ายรูปเขาและที่สำคัญก็มีรูปฉันติดไปด้วย ตาย ตายแน่ ตามฤทัย สงสัยฉันจะต้องโดนบริษัทไล่ออกแหงๆ ที่ปล่อยให้เขาทำแบบนี้ ไม่ตายก้อเลี้ยงไม่โตแน่เรา

    ฉันพยายามฉุดให้เขานั่งลง และมันก็เป็นจังหวะที่สัญญาณไฟเขียวพอดี ไม่งั้นผู้คนต้องแห่กันมาที่รถเขาแน่ๆ

    จิ่งหยูวกดสวิทซ์ปิดประทุนรถเมื่อรถออกตัว

    “นี่คุณจะบ้าแล้วหรือไง คุณกำลังจะทำให้ฉันเดือดร้อนอยู่นะ เสร็จงานนี้ฉันจะไปบอกกับท่านประธานให้เปลี่ยนคนอื่นมาดูแลคุณ” ฉันพูดเสียงแข็งด้วยความโมโห แต่อีกฝ่ายดูจะไม่สะทกสะท้านอะไรแถมยังหันมาตอบกลับฉันแบบหน้าตาเฉย

    “คุณก็ลองดูว่าคุณจะทำแบบที่คุณพูดได้หรือป่าว แต่ผมว่าคุณคงต้องดูแลผมต่อไป คุณก้อรู้ว่าบริษัทให้ความสำคัญกับผมแค่ไหน เรียกได้ว่าผมชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นเลยก้อว่าได้ คุณก้อรู้ไม่ใช่เหรอ”

    คำพูดของเขาทำให้ฉันจ้องหน้าเขาเขม็ง ทำอะไรไม่ถูกโกรธก็โกรธแต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้เลย มันก็จริงอย่างที่เขาพูดบริษัทให้ความสำคัญกับเขามาก แม้ฉันจะเคยปฏิเสธไม่อยากจะมาดูแลเขาแค่ไหนแต่ก้อยังขัดท่านประธานไม่ได้เลย ฉันหยุดพูดนั่งนิ่งไปตลอดทางก้อไม่รู้จะทำยังไงกับความดื้อดึงเอาแต่ใจของเขา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×