ตอนที่ 8 : ตอนที่ 2 มาดริด... มหานครในฝัน 60%
เสียงเคาะประตูห้องทำงานที่ดังขึ้น ไม่ได้ทำให้อาเชอร์ละสายตาจากเอกสารตรงหน้าสักนิด เขาจำได้กระทั่งเสียงฝีเท้าของบอดีการ์ดคนสนิทที่ทำงานข้างกายมาตลอดหลายปี
“ดอนครับ ประธานสโมสรฯ ขอเข้าพบครับ” ไมค์รายงานด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เรื่องอะไร?”
“เชิญดอนไปร่วมงานเลี้ยงฉลองแชมป์ลา ลีกา1ครับ”
“อืม... ไปบอกเขาว่าฉันจะไป”
ไมค์รับคำพร้อมกับเดินถอยหลังออกไปจากห้อง แม้จะไม่ได้อนุญาตให้เข้าพบและส่งบัตรเชิญให้ถึงมือ แต่คำตอบรับว่าจะไปร่วมงานเลี้ยงด้วยตัวเองก็เป็นที่น่าพอใจสำหรับประธานสโมสรฯแล้ว
นับเฉพาะสโมสรฟุตบอลทั้งลีกสูงสุดและลีกรองลงมานั้นมีอยู่มากโข การปิดฤดูกาลด้วยแชมป์ลา ลีกา ถือเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของทุกคนในสโมสรเพราะนั่นหมายความถึงผลประโยชน์และเม็ดเงินจำนวนมหาศาล หากนั่นอาจจะยังไม่เพียงพอต่อการปรับปรุงทีมให้มีศักยภาพมากขึ้น
สปอนเซอร์รายใหญ่จะได้ผลตอบแทนเป็นการโปรโมทธุรกิจ สโมสรฯเองก็จะมีเม็ดเงินมากมายเอาไว้ใช้ซื้อตัวนักเตะระดับเวิล์ดคลาสในฤดูกาลหน้า
สองสัปดาห์ต่อมา...
งานเลี้ยงฉลองแชมป์ลา ลีกา ของสโมสรฯ ถูกจัดขึ้นในค่ำคืนหนึ่ง ครั้งนี้ดูเป็นทางการมากกว่างานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชนและแฟนคลับที่จัดขึ้นแล้วในห้องจัดเลี้ยงของสโมสรฯ รายชื่อแขกเหรื่อที่มาร่วมงานจึงคับคั่งไปด้วยนักธุรกิจซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสปอนเซอร์รายน้อย-ใหญ่ของสโมสรฯ ทั้งนั้น
แพรวาซึ่งเข้าทำงานในสโมสรฯ มาแล้วเกือบครึ่งเดือนจึงเป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานเลี้ยง อีกทั้งหัวหน้างานในส่วนนักกายภาพบำบัดยังกำชับมาว่า ต้องไปร่วมงานในครั้งนี้ให้ได้เพราะถือเป็นการให้เกียรติกับสปอนเซอร์ผู้มีอุปการคุณทุกรายของสโมสรฯ
เดรสผ้าไหมแก้ว กระเป๋าประดับคริสตัลระยิบระยับ รองเท้าส้นสูงตลอดจนเครื่องประดับที่ผู้เป็นป้าคะยั้ยคะยอให้ติดกระเป๋ามาด้วยนั้น วันนี้มีโอกาสได้หยิบออกมาใช้และดูเหมือนว่าจะไม่ต้องซื้อหาอะไรเพิ่มเติม ทุกอย่างทุกชิ้นเข้าเซ็ตกันอย่างลงตัว
ไม่บ่อยครั้งนักที่แพรวาจะเรียกใช้บริการแท็กซี่ คงจะดูไม่สะดวกเท่าไหร่นักหากจะแต่งตัวเช่นนี้แล้วใช้บริการรถไฟใต้ดินเช่นเคย ระยะทางจากอพาร์ทเมนต์ถึงโรงแรมแมคคาร์ทนีย์ใช้เวลาเดินทางราวครึ่งชั่วโมง แพรวาหยิบตลับแป้งขึ้นเปิดกระจกสำรวจความเรียบร้อยของตันอีกครั้ง ก่อนจะก้าวลงจากแท็กซี่เข้าไปในโรงแรมสุดหรูซึ่งมีสาขาอยู่ตามมหานครใหญ่ทั่วทุกมุมโลก
งานเลี้ยงในโรงแรมสุดหรูเช่นนี้ทำให้แพรวาอดที่จะประหม่าไม่ได้ เป็นครั้งแรกกระมังที่มีโอกาสได้รู้ว่าสปอนเซอร์ของสโมสรฯนั้น มีมากมายถึงเพียงนี้ ความแวววาวของเครื่องเพชรที่กระทบกับแสงไฟทำให้ดวงตาคู่สวยพร่ามัว แต่ก็พยายามหายใจเข้าลึก ก้มลงมองบัตรเชิญซึ่งมีเลขกำกับที่นั่งเอาไว้ จากนั้นจึงเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆจนได้พบกับนักเตะหนุ่ม ศูนย์หน้าตัวฉกาจของสโมสรฯ
“ว้าว... วันนี้คุณสวยยังกับนางฟ้า” นักเตะหนุ่มเอ่ยพร้อมกวาดสายตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยความชื่นชม
เป็นเรื่องปกติที่นักกายภาพบำบัดอย่างเธอจะรู้จักกับนักเตะของสโมสรทุกคน เพราะระบบการทำงานนั้นไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าจะต้องทำงานกับนักเตะคนใดคนหนึ่งไปตลอด แต่หัวหน้าส่วนกายภาพบำบัดจะเป็นคนจัดแจงตารางให้หมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ
หากนักเตะอีกคนกลับแย้งขึ้นมาเสียก่อน “ผมว่าคุณดูคล้ายตุ๊กตามากกว่า หน้าใสๆแถมยังถักเปียรอบศีรษะอีกด้วย ใครจะเชื่อว่าคุณอายุมากกว่าผมตั้งสามปี”
“คุณยอมรับเองนะคะว่าหน้าแก่กว่าฉัน” คำพูดหยอกเย้านั้นทำให้นักเตะที่ยืนคุยกับเธอสองสามคนหัวเราะร่วน “ความจริงแล้วอยู่ในชุดสูทแบบนี้ก็ดูดี หล่อกว่าตอนอยู่ในชุดนักกีฬาอีกนะคะ”
“งั้นคืนนี้คนสวยก็ต้องคู่กับคนหล่อ เชิญนั่งครับ” ศูนย์หน้าของสโมสรฯ เริ่มแข่งขันกับเพื่อนนักเตะอีกสองคนด้วยการเลื่อนเก้าอี้เชื้อเชิญให้นักกายภาพบำบัดสาวนั่งร่วมโต๊ะ
“เห็นทีจะต้องปฏิเสธนะคะเพราะนัดกับเอมี่เอาไว้แล้ว” แพรวาตอบพลาโชว์การ์ดเชิญซึ่งมีหมายเลขโต๊ะนั่งบอกเอาไว้ให้นักเตะทั้งสามได้ดู “ที่นั่งฉันอยู่โต๊ะสิบสองค่ะ”
จบคำปฏิเสธนั้นก็ทำให้กลุ่มนักเตะผิดหวังไปตามๆกัน แต่ดูเหมือนว่าศูนย์หน้าของทีมจะยังไม่ละความพยายาม “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพอถึงเวลาเปิดฟลอร์ ผมจะเดินไปหาคุณนะครับ”
แพรวาได้แต่ยิ้มและขอตัวเดินไปหาเอมิเลีย ซึ่งนั่งอยู่ในโต๊ะที่ถัดจากนี้ไม่ไกลนัก
“ทางนี้ค่ะ” เอมิเลีย เรียกและชี้นิ้วลงยังเก้าอี้ว่างข้างกาย ให้เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ได้ทรุดตัวนั่ง
แพรวากวาดสายตามองสาวลูกครึ่งไทย-สเปน ด้วยความชื่นชม “ว้าว... สาวน้อยแรกรุ่นกลายเป็นสาวสุดเปรี้ยวก็คืนนี้แหละนะ”
“อย่าแซวกันสิคะ เนี่ยยืมชุดเพื่อนมาใส่นะคะ เรียบร้อยที่สุดก็มีแค่ชุดนี้แหละ” เอมิเลียบอก
แม้จะไม่ได้แต่งหน้าจัดจ้านแต่ด้วยเดรสสั้น แขนกุดสีดำ ทำให้เอมิเลียต้องเลือกเคลือบริมฝีปากด้วยลิปสติกสีแดงกำมะหยี่ เซ็ทผมเป็นคลื่นลอนตามสมัยนิยม และไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตนเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาของนักเตะหนุ่มที่นั่งอยู่ในระนาบเดียวกัน เพียงแค่ถัดจากเธอไปอีกสักสี่โต๊ะเท่านั้น
“ก็ไม่ได้โป๊อะไรมากมายนะ พี่แค่ไม่เคยได้เห็นเอมี่แต่งตัวแบบนี้เท่าไหร่ เลยอดทักไม่ได้แต่เชื่อเถอะว่าเซ็กซี่ที่สุดแล้ว” แพรวาบอกด้วยความสัตย์จริง
ในช่วงก่อนงานเลี้ยงเริ่มสองสาวจึงมีเวลาคุยกันอยู่พักหนึ่ง แม้เอมิเลียนั้นจะอายุน้อยกว่าแพรวาอยู่หลายปีแต่เข้าทำงานในสโมสรฯ ตั้งแต่ศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยปีสองจนกระทั่งจบการศึกษาได้เข้าทำงานเป็นนักกายภาพบำบัดประจำสโมสรฯ
แม้เพิ่งเรียนจบแต่ด้วยประสบการณ์ที่มีมากกว่า เอมิเลียจึงเป็นคนคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำกับแพรวาในช่วงแรกที่เข้าทำงานในสโมสรฯ อีกทั้งได้รู้ว่าเอมิเลียมีแม่เป็นคนไทยยิ่งทำให้ทั้งคู่คุยกันถูกคอและการเป็นเพื่อนร่วมงานต่างวัยที่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว
‘พี่แพร’ คือคำเรียกขานที่เอมิเลียใช้เสมอแม้ว่าหลังจากนั้นจะตามด้วยภาษาสเปน หลายคนที่ได้ยินได้ฟังนั้นคิดว่าแพรวาชื่อ ‘พี่แพร’ จึงเรียกเช่นนั้นตามเอมิเลีย สุดท้ายต้องมาอธิบายกันว่านั่นคือสรรพนามที่ใช้เรียกคนที่มีอายุมากกว่า หากตอนที่คุยกันเพียงสองคนนั้น เอมิเลียจะขอให้แพรวาพูดคุยกับเธอด้วยภาษาไทยซึ่งไม่ได้ใช้มานานหลายปี
แพรวายินดีเป็นอย่างยิ่งเพราะคิดไปว่าเอมิเลียอยากจะใช้ภาษาไทยในการสื่อสารให้คล่องแคล่วขึ้น แต่แท้จริงแล้วการได้สื่อสารด้วยภาษาไทยนั้นทำให้เอมิเลียคลายความคิดถึงผู้เป็นแม่ ซึ่งจากเธอไปได้หลายปีแล้ว
สองนักกายภาพบำบัดสาวคุยกันอย่างออกรสตามประสาผู้หญิง เอมิเลียเป็นคนชี้ชวนให้ดูบุคคลต่างๆซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสปอนเซอร์ของสโมสรฯทั้งนั้น หากไม่กี่นาทีต่อมาทั้งคู่ต้องลดเสียงพูดคุยกันให้เบาลงจนกระทั่งเงียบกริบตามผู้คนรอบกาย เมื่อแสงสปอร์ตไลท์ส่องไปที่ประตูทางเข้าห้องจัดเลี้ยง
หล่อเหลาอย่างร้ายกาจ ภาพลักษณ์ของเขายังดูเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากกว่าครั้งแรกที่ได้เจอกัน ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นเขาดูเหมาะเจาะลงตัวแต่กลับอันตรายเหลือร้ายในความรู้สึกของแพรวา
ร่างสูงใหญ่ในสูทแบล็กไท เดินควงคู่เข้ามาพร้อมกับสาวหุ่นสะบึม ตามด้วยประธานของสโมสรฯซึ่งยิ้มแย้ม ดูมีความสุข พอใจที่ได้เห็นลูกสาวเดินคล้องแขนดอนอาเชอร์เข้าไปในงานเลี้ยง
“โอ้โห... ดูสีหน้าท่านประธานของเรา ชื่นมื่นยังกับลูกสาวได้แต่งงานกับดอนอาเชอร์ยังไงยังงั้น” แม้จะเป็นเจ้านายที่เคารพแต่เมื่อได้เห็นท่าทางของลูกสาวเจ้านายที่มีโอกาสได้ควงคู่ดอนอาเชอร์แล้ว เอมิเลียก็อดที่จะประชดประชันไม่ได้
แม้สายตาทุกคู่ของคนที่มาร่วมงานเลี้ยงจะจดจ้องอยู่ที่ทั้งสามด้วยความรู้สึกอันหลากหลายแตกต่างกันออกไปนั้น แต่แพรวากลับนิ่งงัน ชาวาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเพราะไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นผู้ชายที่เคยดูหมิ่นศักดิ์เธออีกครั้งหนึ่ง
“ขะ...เขา” ความตกใจอย่างสุดขีดทำให้แพรวากระอึกกระอักจนพูดติดขัด
เอมิเลียหัวเราะร่วนเพราะเป็นเรื่องปกติของสาวๆกระมังที่ได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของดอนอาเชอร์ในครั้งแรกแล้วจะเกิดอาการเช่นนี้ นั่นหมายรวมถึงตัวเธอด้วย
“ผู้ชายคนนั้นที่ท่านประธานดูเกรงใจนั่นใช่ไหมคะ” ถามอย่างไม่ต้องการคำตอบและอธิบายต่อเสร็จสรรพ “ดอนอาเชอร์ค่ะ เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของสโมสรฯ แมคคาร์ทนีย์ที่เห็นอยู่บนเสื้อของสโมสรฯ ก็ดอนอาเชอร์คนนี้ล่ะค่ะเป็นเจ้าของบริษัทในเครือทั้งหมด ทั้งโรงแรมและก็อู่ต่อเรือ”
คุณพระช่วย!... โรงแรมที่เธออยู่นี่คืออาณาบริเวณของเขาอย่างนั้นหรือ
อีกข้อมูลหนึ่งที่เธอเพิ่งจะได้รับรู้ หลังจากสั่งตัวเองไม่ให้คิด ไม่ให้สนใจหรือรับรู้ข่าวสารของมาเฟียไร้มารยาท แต่ดูเหมือนว่าเธอจะหลงอยู่ในอาณาบริเวณของเขาโดยไม่รู้ตัว ขนาดว่าสโมสรฯที่ทำงานยังมีเขาเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่
“ส่วนผู้หญิงที่อยู่ข้างๆนั่น เป็นลูกสาวคนเดียวของท่านประธานค่ะ” เอมิเลียบอกสั้นๆ มองไปยังด้านหน้าเวทีซึ่งพิธีกรกำลังกล่าวเปิดงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่ประธานสโมสรขึ้นไปกล่าวขอบคุณสปอนเซอร์น้อย-ใหญ่ทุกราย จากนั้นจึงมอบโบนัสก้อนโตให้กับนักเตะและทีมสตาฟฟ์โค๊ช ตลอดจนถึงพนักงานที่ได้รับเสียงโหวตในแต่ละแผนกของสโมสรฯ เอมิเลียยังบรรยายข้อมูลของมาเฟียหนุ่มไปเรื่อยๆ
“ไม่ต้องสงสัยนะคะว่าทำไมลูกสาวท่านประธานถึงได้เชิดหน้าจนคอแทบเคล็ดขนาดนั้น ไม่บ่อยครั้งหรอกค่ะที่จะมีโอกาสได้ควงดอนอาเชอร์ออกงานแบบนี้ พอสบโอกาสเลยต้องคว้าเอาไว้ก่อน พรุ่งนี้จะได้เป็นข่าวดังไปทั่วมาดริด”
“พะ..พี่นึกว่าเป็นคู่รักกันซะอีก” แพรวาถาม ทั้งยังแปลกใจตัวเองว่าเพราะเหตุใดจึงมีทั้งความอยากรู้และหวาดหวั่นเกิดขึ้นในจิตใจ
“ไม่หรอกค่ะ ดอนอาเชอร์นี่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนุ่มโสดที่หวงแหนชีวิตโสดจะตายไป เพราะงั้นเลิกคิดไปเลยว่าเขาจะยกเอาผู้หญิงคนไหนขึ้นมาเป็นคู่ควง แต่ก็แปลกว่ามีผู้หญิงมากมายตามตื้อเป็นพรวน อย่างว่าล่ะน้า... หล่อ รวยแถมอันตายครบสูตรเร้าใจ”
จังหวะเดียวกันกับเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องขึ้นเมื่อพิธีการบนเวทีจบลง ประธานสโมสรฯเปิดฟลอร์เต้นรำพร้อมๆกับบริกรเริ่มเสิร์ฟอาหาร
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
