เด็กๆของคุณครู
เด็กน้อยที่อยู่ห่างไกล ความเจริญ พวกเขาต้องการแค่ความอบอุ่นจาก คนที่คอยสั่งสอนพวกเขา แม้ว่าจะมีเรื่องราวที่ต้องรำเค็ญ ทุกยาก แต่พวกเขา ก็มีความฝัน
ผู้เข้าชมรวม
177
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
พระคุณของครู
ช่วงเช้าในวันหยุด เด็กหลายคนต่างพากันเล่นสนุกสนานอยู่ที่บ้านของตน บางกลุ่มก็ชวนกันไปเที่ยวตามห้วยเพื่อหาจับปลา โดยมีสวิงเป็นเครื่องมือในการหา หยอกล้อกันเล่นในบางคลา ตามประสาเด็กนั่นเอง เด็กชายไม้ในวันหยุดเช่นนี้ เขาต้องไปไร่กับพ่อแม่ ในชนบทเช่นนี้ เด็กที่ใกล้จะโตแล้ว ต้องถูกเกณฑ์ไปทำไร่ด้วย ตอนนี้เป็นฤดูเพราะปลูกชาวไร่เมื่อไถดินเสร็จแล้ว ก็จะนำเมล็ดข้าวมาปลูก ซึ่งชาวไร่จะช่วยเหลือกัน แลกเปลี่ยนกันทำภาษาชาวบ้านว่าเอาแรงกัน และจะได้การต้อนรับอย่างดีจากเจ้าของไร่ คือจะมีอาหารมาเลี้ยงกันที่ไร่
เมื่อถึงเวลาเปิดเรียนไม้และเพื่อนๆ ต่างเดินไปโรงเรียนที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ๑กิโลเมตร ซึ่งเด็กชายไม้นั้นอยู่ ชั้นป
.๑ เสื้อผ้าของพวกเด็กๆ จะมีรอยปะชุน สีซีดจางเพราะถูกใช้จากพี่สู่รุ่นน้อง มาเป็นเวลายาวนาน เมื่อไปถึงโรงเรียน สิ่งแรกที่พวกเขาจะต้องทำคือ การทำความสะอาดห้องเรียนซึ่งอาจารย์ได้จัดวาระให้แล้วในแต่ละวันว่าใครจะได้ทำในวันไหน เป็นการฝึกให้นักเรียนรู้หน้าที่ของตนเองและให้เกิดระเบียบวินัยที่ดี เสร็จแล้วเมื่อถึง เวลาสองโมงเช้าจะได้ยินเสียงตีระฆังดังเม้งๆ นักเรียนทุกคน ตั้งแต่ชั้น ป.๑ถึง ป.๖ จะรีบไปเข้าแถวตามชั้นของตนเองเพื่อเตรียมตัวเคารพธงชาติ โดยมีรุ่นพี่ ป.๖ ชายหญิงชักธงชาติขึ้น ทุกคนต่างๆร้องเพลงชาติพร้อมๆกัน เมื่อจบเพลงชาติแล้ว ธงก็โบกสะบัดพัดไปมาเหมือนกับว่ามันกำลังมีความสุข ที่ได้เห็นนักเรียนรุ่นแล้วรุ่นเล่า ได้เคารพสัญลักษณ์ของชาติตน ซึ่งพวกเขาคงระลึกถึงมันเมื่อกลับมาที่นี้อีกครั้ง ในตอนหนึ่งที่จากไป"
เด็กชายไก่ ทำไมมาสายวันนี้นะ" ครูสมชายถามไก่ที่กำลังเดินมาพร้อมกับสะพายย่ามอันใหญ่ ซึ่งข้างในนั้นมีสมุด หนังสืออยู่เต็ม"
คือผม ในตอนเช้ารีบไปเก็บแตงกวาที่ไร่ครับ" ครูสมชายรู้ดีว่าพ่อ ของไก่ไปขายแรงงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งเขาต้องช่วยแม่ทำงานทุกอย่างที่เด็กน้อยคนหนึ่งพอจะทำได้"
คราวหน้าก็รีบมาให้ทันเพื่อนหน่อยนะ เพราะการเข้าแถวเคารพธงชาติมันสำคัญ ทำให้เราสามัคคีกัน และเธอก็จะไม่ได้เสียการเรียนด้วย เอ้าไปเรียนได้แล้ว"ที่โรงเรียนซำแคนแห่งนี้ มีครูทั้งหมด ๖ คน รวมทั้งครูใหญ่ด้วย มีนักเรียน ๗๙ คน ครูทั้งหมดจะสอนคนละชั้นป
.เด็กชายไม้และเพื่อนอีกหลายคน มักไม่ได้มาโรงเรียนเพราะต้องไปนอนไร่กับพ่อแม่ ซึ่งไร่มันไกลจากหมู่บ้านมาก ถ้าจะเทียวไปมาก็เหนื่อย ถึงเวลาเรียนพวกเขาจึงไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ต่างจากเด็กผู้หญิงพวกเธอเรียนได้ดีกว่า และมักจะฟ้องครูเมื่อเด็กผู้ชายหยอกล้อกันเล่น ถึงแม้เด็กๆจะกลัวครูตี แต่ก็มีเรื่องที่ต้องทำให้เด็กชายไม้และเพื่อนถูกครูตีก้นอยู่เป็นประจำ เคล้ง เคล้ง เคล้งๆๆ เมื่อถึงเวลา กินอาหารเที่ยง เด็กๆ ต้องไปรวมตัวกันที่ โรงรับประทานอาหาร ซึ่งแต่ละคนจะเอากระติบข้าวมาด้วย ส่วนเรื่องอาหารนั้นอาจารย์หญิงดารุณีท่านจะพาเด็กๆนักเรียนที่จัดวาระไว้แล้วทุกคน มาทำอาหาร ซึ่งนับเป็นการเรียนทำอาหารไปในตัวก็ว่าได้ เมื่อนักเรียนมาถึงแล้วก็จะนั่งล้อมวงกันเป็นกลุ่ม และยกอาหารมากล่าวคำพิจารณาอาหาร
นับเป็นการทำงานที่ยากมากสำหรับอาจารย์แต่ละท่านที่ต้องมาคอยเอาใจใส่ดูแล เด็กๆ ที่ไม่ใช่ลูกหลานของตนเอง แต่ท่านก็ได้มีเมตตาสั่งสอนพวกเรา ถึงเด็กจะดื้อท่านก็ต้องตี เพื่อฝึกหัดลิงน้อยที่ซุกซนอย่างพวกเรา ถ้าจะมีใครว่า อาจารย์ท่านสอนเพราะเป็นหน้าที่ของท่านหรือเพราะอยากได้เงิน อันนี้มันก็ใช่แต่ธรรมดาอาจารย์ท่านก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตของท่าน แต่ที่สำคัญก็คือวิญญาณแห่งความเอ็นดูของการเป็นครู ท่านมีความตั้งใจที่จะสอนเราให้เป็นคนดี มีความรู้ไว้ใช้ในการดำเนินชีวิต ถ้าจะบรรยายว่าท่านทุกข์มากไหม ที่ทั้งวันต้องนั่งสอนเด็กๆที่ซุกซน จนบางทีท่านก็ท้อแท้ แต่สิ่งที่คอยหล่อเลี้ยงให้ท่านมีกำลังใจก็คือ การเห็นเด็กที่ไร้เดียงสา น่ารักน่าเอ็นดู จนบางทีท่านก็ทึ่งกับเด็กที่มีความสามารถเหล่านี้ บางทีการได้อยู่กับเด็กๆ อาจทำให้ท่านซึมซับกับความสุขซึ่งหาไม่ได้จากผู้ใหญ่ด้วยกัน ที่ในครั้งหนึ่งท่านเองก็คงไม่ต่างจากเด็กเหล่านี้เลย หรือมันอาจเหมือนกับการเลี้ยงลูกของตนเลยทีเดียว ที่ต้องคอยถนุถนอมเป็นอย่างดี และอาจจะดีกว่าลูกของตนเองเสียด้วยซ้ำ เพราะมีเวลาให้ทั้งวัน ส่วนลูกของตนนั้น แค่ดูแลอยู่เฉพาะที่บ้านเท่านั้นเอง
ในช่วงประมาณบ่าย๓โมงเป็นวิชาพละศึกษา อาจารย์ใหญ่นำทีมนักเรียนมาเล่นที่สนาม ท่านเป็นครูนักพัฒนา ในโรงเรียนจะมีการฝึกให้นักเรียนเลี้ยงปลาที่สระมีเล้าไก่อยู่ด้วยกัน ที่ข้างๆสระจะปลูกพืชผักสวนครัวไว้รอบ เพื่อนำน้ำในสระมารดผักได้ง่ายนั่นเอง เสียงความสนุกสนานของนักเรียน ป
เวลาผ่านไปไวเหมือนความฝัน ตอนนี้เด็กชายไม้และเพื่อนๆชายหญิง ต่างก็จบ ป
หลังจากที่ทุกคนถ่ายรูปร่วมกับอาจารย์แล้ว อาจารย์ทุกคนก็ให้คติเตือนใจแก่ลูกศิษย์ นักเรียนทุกคนต่างตั้งใจฟัง เพราะรู้ดีว่ามันอาจเป็นครั้งสุดท้าย ที่พวกเขาจะได้รับฟังการสอนของอาจารย์ ถึงแม้ว่าในอดีตพวกเขาจะซนแค่ไหน
"ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งกินขว้าง...." หลังจากกินอาหารแล้ว ก็จะมีเวรล้างจาร ทำความสะอาดโรงอาหาร พักเที่ยงแล้ว เด็กจะเล่นกันอย่างสนุกสนาน มีฟุตบอลเก่าๆ หนึ่งลูก เล่นกันที่สนามหญ้า แต่วันนี้เด็กนักเรียนต่างดีใจกันยกใหญ่ เมื่อ อาจารย์ประสิทธ์ นำลูกบอลใหม่เอี่ยมมาให้เล่น ท่านมองดูพวกเราเล่นแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข และในการแข่งขันกีฬาท่านก็เป็นผู้ฝึกสอนให้พวกเราเล่น และพวกเราก็ได้รางวัลกันมากมายจากการฝึกของท่านด้วย เมื่อถึงเวลาเรียน ทุกคนต่างเข้าห้อง อาจารย์อาริยาท่านก็คอยนั่งรออยู่ที่ห้อง และก็หัดให้เราได้เขียนอ่านหนังสือ ฝึกปรือความพร้อมที่จะต่อสู้กับสิ่งต่างๆที่พวกเขาจะต้องเจอในอนาคต ซึ่งท่านรู้ดีว่ามันมีสิ่งที่จะคอยทดสอบชีวิตนี้อีกมากมาย .๖ ทำให้อาจารย์ทุกคนและนักเรียนส่วนมาก มาเล่นกับครูใหญ่และเด็กๆกัน วันนี้เป็นวันที่ทุกคนต่างมีความสุข และสนุกสนาน เผยให้เห็น ความเป็นกันเองระหว่างครูกับนักเรียนอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว.๖ แล้ว มันเป็นสิ่งที่นักเรียนทุกคนใฝ่ฝันกันมาตลอด โดยเฉพาะเทอมสุดท้าย ต่างรอคอยวันนี้ วันที่พวกเขาจะเป็นอิสระไปอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งบางทีใครจะไปรู้ว่า โลกนี้และตัวเราเองจะให้อิสระแก่เราแค่ไหน ซึ่งผู้ใหญ่บางคนรู้ดี และเขาอยากจะกลับไปใช้ชีวิตในวัยเด็กมากแค่ไหน"
พวกเธอจบ ป.๖แล้วจะไปไหนต่อละ" อาจารย์สมชายถามพวกเราก่อนจากโรงเรียน"
หนูจะไปเรียนต่อม.๑ ที่ในอำเภอค่ะครู" เด็กหญิงจอย เด็กน้อยน่ารักตอบอาจารย์ก่อนเพื่อน"
ดีมาก คนที่มีการศึกษาดี พร้อมด้วยมีคุณธรรมนำจิตใจ ย่อมประสบผลสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอน และขอให้พวกเธออย่าท้อแท้ต่ออุปสรรคปัญหาต่างๆ อาจารย์ทุกคนก็ช่วยพวกเธอได้แค่นี้แหละ ในโลกอันกว้างใหญ่นี้ยังมีวิชาความรู้ต่างๆให้เราได้ศึกษาอยู่มากมาย ไม่เฉพาะในโรงเรียนหรอกนะ โชคชะตาของเรา อย่าให้คนอื่นมากำหนดให้จงหาความใฝ่ฝันของเรา แล้วจงเดินไปอย่างมุ่งมั่น และระมัดระวัง เมื่อพวกเธอเหงาท้อแท้หรือหมดกำลังใจ จงระลึกถึง พ่อแม่หรือผู้มีพระคุณของเราที่ท่านไว้ใจและฝากความหวังไว้กับเรา เราจะยอมแพ้ ติดกับความมัวเมาในสิ่งที่ผ่านมาแล้วนั้นหรือ ดูอย่างค่ำคืนสิ ถึงจะมืดแต่ก็ยังมีพระจันทร์ฉายส่อง พร้อมทั้งดวงดาวมากมายระยิบระยับประดับไว้บนท้องฟ้าพาให้สวยงามเลย ธรรมดาย่อมมีสุขและทุกข์ มีมืดมีสว่าง เป็นของคู่กัน ถ้าไม่มีค่ำคืนเราจะเห็นดวงดาวได้อย่างไรใช่ไหม และถึงแม้ความมืดบางทีจะดูน่ากลัวเพราะพายุฝน แต่มันก็ยังมีวันสว่างและซาลงไป ความทุกข์ความเศร้าใจของเราก็ย่อมผ่านพ้นไปได้เหมือนกันแหละนะ"ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงกำลังใจที่คุณครูได้มอบให้ มันเหมือนกับเป็นแสงสว่างที่อยู่ในใจของพวกเราทุกคน
"
ครับ พวกผมจะจดจำคำสั่งสอนของคุณครูเอาไว้ตราบใดที่ยังมีชีวิตครับ"เด็กชายไม้ตอบอย่างกล้าหาญ ทั้งๆที่เขาเป็นคนไม่มั่นใจตนเอง แต่วันนี้เป็นวันที่เขาต้องกล่าว ซึ่งที่จริงเขาอยากร้องไห้ที่ได้จากครูผู้ที่ช่วยเหลือเขา ให้ความรู้และความอบอุ่นแก่เขา ทุกคน แต่แน่ละเราจะเข้มแข็งเข้าไว้ ทุกคนต่างมีความรู้สึกที่ดีอย่างนี้เหมือนกัน และพวกเราจะไม่มีวันลืมโรงเรียนของเรา คุณครูทุกคนของเรา ตลอดจนความรู้สึกดีๆอย่างนี้
ผลงานอื่นๆ ของ ลิ้นปี่ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ลิ้นปี่
ความคิดเห็น