คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 ถูกขายซะแล้ว
ตอนที่ 2 ถูกขายซะแล้ว
“ อย่าคิดมากเลยน้าคุณติน เรื่องนี้ถือว่าเป็นโชคดีนะเนี่ย ได้ลูกเขยรวยๆ แบบนี้ใครๆ ก็อยากได้ “
เสียงตบไหล่ป้าบๆ กับบทสนทนาที่รื่นหูยังคงดังขึ้นอยู่ตลอดเวลาที่ลานกว้างหน้าบ้าน สำหรับคนในหมู่บ้านหลายๆ คนมันเป็นเรื่องดี แต่สำหรับตะวันและครอบครัวแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดที่พวกเขาอยากจะพบเลยทีเดียว
“ ตะวัน เปลี่ยนใจยังทันนะลูก “ เสียงของผู้เป็นแม่ยังคงอ่อนโยนเสมอในขณะที่กำลังโอบกอดร่างบาง ของตะวันเอาไว้
“ พี่ตะวัน...ซันขอโทษนะ เพราะซันคนเดียวพี่ถึงต้องมาเดือดร้อนแบบนี้ “ น้องชายคนเดียวของตะวันพูดขึ้นบ้าง เพราะรู้สึกผิดที่ตนเองเป็นตัวการให้พี่สาวต้องรับเคราะห์
“ เฮ้อ! เพราะพี่ดันไปตั๊นหน้าหมอนั่นต่างหาก นายไม่ผิดหรอกนะซัน “ ตะวันที่ไม่สนใจอะไรนอกจากถอนหายใจกำลังฟลุบหน้าไปกับโต๊ะด้วยท่าทางเหนื่อยๆ เมื่อเห็นสภาพตะวันเป็นแบบนี้ทั้งแม่และน้องชายต่างก็พูดไม่ออก
ผ่านมาสองอาทิตย์ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง หลังจากที่เสนอข้อตกลงบ้าๆ ออกมาและทิ้งเวลาหนึ่งอาทิตย์เอาไว้ให้พวกชาวบ้านและครอบครัวของตะวันได้ตัดสินใจ ผู้ชายเจ้าเล่ห์คนนั้นก็หายตัวไปทันที
ข้อตกลงที่หยิบเอาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านมาแลกกับอิสระของตะวันลูกสาวของพ่อติน ทำให้พวกเขาทั้งหมดยากจะตัดสินใจได้ แต่ทว่าไม่ว่ายังไงทางออกมันย่อมมีอยู่ในใจของทุกคนเสมอ ตะวันรู้ตั้งแต่นาทีแรกที่ผู้ชายคนนั่นเอ่ยปาก คนเพียงคนเดียวแลกกับความเป็นอยู่ปกติของคนทั้งหมู่บ้าน แบบนี้ใครล่ะจะไม่ยอม ถ้าหากมีใครสักคนกล้าขัดค้านละก็วันนี้พ่อของเธอก็คงไม่ต้องมานั่งฟังคำเยินยอปลอบใจอย่างนี้แน่
ข้อตกลงที่ว่าด้วยการให้ตะวันไปหมั้นกับเขานั้นที่จริงแล้วเป็นข้ออ้าง ในท้ายที่สุดของสัญญาที่ชายหนุ่มคิดขึ้นมานั่นระบุไว้ชัดเจนเลยว่า พ่อของตะวันต้องขายที่ดินให้เขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นถ้าอยากจะให้ตะวันเป็นอิสระ ‘ช่างเป็นข้อตกลงที่น่ารังเกลียดที่สุด’ ยิ่งคิดแบบนั้นตะวันก็ยิ่งแค้นใจผู้ชายเจ้าเล่ห์คนนั้นมากขึ้น
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
ประตูห้องที่ถูกเคาะเบาๆ เปิดออกอย่างช้าๆ สีหน้าที่ไม่ค่อยสู่ดีนักของพ่อตินเดินเข้ามาในห้อง ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากบอกลูกสาวที่รักยิ่งอย่างสลดใจ
“ ตะวัน...พวกนั่นมากันแล้วลูก “ ความคิดของตะวันถูกต้อง พ่อของเธอเข้ามาบอกว่าไอ้ผู้ชายเจ้าเล่ห์คนนั่นมาแล้ว
“ งั้นก็ไปดูหน้าไอ้วายร้ายนั่นกัน! “ ซันพูดขึ้นอย่างโกธรแค้นก่อนจะเดินออกไปจากห้องเป็นคนแรก และจากนั่นแม่ของตะวันก็รีบวิ่งตามไปห้ามซันอย่างรวดเร็ว
“ บอกพ่อได้นะ ถ้าหนูไม่ต้องการทำแบบนี้ “ พ่อตินมองหน้าลูกสาวอย่างห่วงใย สายตาของผู้เป็นพ่อได้แต่มองลูกสาวอย่างขอโทษ เหตุผลที่เขายอมให้ตะวันหมั้นกับผู้ชายที่ใครๆ ก็ไม่รู้จักคนนี้ มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ ทำไมถึงไม่ฟ้องกลับคำถามของคนที่รู้กฏหมายในหมู่บ้านพากันถามเขา พ่อตินได้แต่ตอบว่ามันเป็นเรื่องยุ่งยาก และฝ่ายนู้นเห็นชัดๆ ว่าเป็นพวกคนรวยฟ้องไปก็แพ้ แต่มันไม่ใช่ความจริง เบื้องหลังของคนทั้งคู่ต่างหาก เบื้องหลังของตัวพ่อตินเองและเบื้องหลังของชายหนุ่มที่กำลังจะมาเป็นคู่หมั้นของลูกสาวเขา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
“ ไม่เป็นไรค่ะพ่อ พวกเราทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว “ ตะวันยิ้มให้พ่อของเธออย่างเด็ดเดี่ยว เธอกอดพ่อของเธออีกครั้งก่อนจะก้าวข้ามความเสียใจของตัวเองและเดินออกจากห้องไปเผชิญหน้ากับ...เขา
กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนอยู่ที่ลานกว้างหน้าบ้านของตะวัน ชายหนุ่มคนเดิมที่ตะวันแน่ใจแล้วว่ารู้จักตัวตนของเขาดีนั่นอยู่ในชุดสูทสีขาว ความโดดเด่นของผู้ชายคนนี้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของใครหลายๆ คนในทันทีที่เขาก้าวเท้ามาถึง ด้วยรูปร่างสูงใหญ่และความหล่อเหลาที่เขามี ทำให้ใครหลายๆ คนพากันมองไปที่เขาอย่างชื่นชม ทุกสายตาของคนในหมู่บ้านต่างจับจ้องไปที่ชายแปลกหน้าโดยลืมไปแล้วว่า เขาได้มาสร้างความวุ่นวายอะไรเอาไว้ที่นี้ แต่ท่ามกลางผู้คนมากมายก็ยังมีอีกหนึ่งสายตาที่ไม่ได้แสดงความชื่นชมกับความงามแต่เปลื้อกนอกของเขา ตะวันกำลังจ้องมองชายที่มาทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของเธอด้วยความแค้นเคือง
ใบหน้าคมคายของชายหนุ่มเงยขึ้นมาสบตากับตะวันที่ยืนอยู่บนชั้นสองของตัวบ้าน เขานิ่งไปพักใหญ่ที่ได้เห็นตะวันในชุดผ้าไหมสีครีมอ่อนๆ ภาพของตะวันที่แต่งตัวในชุดไทยประยุกต์เกล้ามวยผมและแต่งหน้าบางๆ ทำให้ชายหนุ่มถึงกับนิ่งอึ้งราวกับต้องมนต์สะกด แต่เมื่อเขาคิดได้ว่าสายตาของตะวันดูจะไม่เป็นมิตรนัก ชายหนุ่มก็แกล้งยิ้มมุมปากออกมา เพื่อยัวว่าที่คู่หมั้นของตัวเองให้โกธรเล่น และได้ผลตะวันกำหมัดแน่นอย่างโกธรจัด ก่อนจะสะบัดหน้าเดินผ่านเขาและเข้าไปยังลานใต้ถุนบ้าน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานหมั้นในครั้งนี้ทันที
เวลาช่วงเช้าของวันหมดไปกับการเลี้ยงแขกซึ่งก็มีแต่คนในหมู่บ้านของตะวันเท่านั้น ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายขอหมั้นแต่นอกจากของหมั้น กับเหล่าผู้ชายสวมชุดดำที่ตะวันมองออกว่าพวกนั้นคือบอดี้การ์ดแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้พาญาติฝ่ายไหนของเขามาร่วมงานด้วยสักคน ถึงแม้ว่างานหมั้นครั้งนี้จะแปลกไปเพราะขาดญาติของฝ่ายชาย แต่ทุกคนในหมู่บ้านกลับไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้กันเลย นั้นก็เพราะพวกเขาทุกคนกำลังสนใจของหมั้นที่ตะวันได้รับมากกว่า
เงินสดสี่ล้านบาทถูกวางในพานสวยหรู พร้อมๆ กับชุดเครื่องเพชรมูลค่าหลายล้านที่วางเคียงคู่อยู่ใกล้ๆ และถ้าจะนับทั้งหมดคงต้องรวมแหวนเพชรที่ตอนนี้ไปปรากฏอยู่บนนิ้วมือของคนที่ไม่ต้องการมันเลยอย่างตะวัน
ในที่สุดงานทุกอย่างก็จบลงแขกเหรื่อทั้งหลายพากันถยอยกลับหลังจากที่รัปทานอาหารที่ส่งมาจากภัตรตาคารสุดหรูที่ฝ่ายชายหามาไปจนเกลี้ยง
‘จบซะที’
ตะวันคิดอย่างเหนื่อยอ่อนหลังจากที่ต้องมานั่งหน้าหงิกอยู่ข้างๆ ผู้ชายที่เธอไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับเขาเลย นอกจากนิสัยเห็นแก่ตัวและคิดว่าเงินเป็นพระเจ้าของเขา
“ เธอยังเรียนอยู่นี่ ปีอะไรล่ะ “ ในจังหวะที่ตะวันกำลังยืนดูรูปอยู่ในห้องนอนของตัวเอง เสียงของแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ทำเอาตะวันสะดุ้งสุดตัว
“ นายเข้ามาทำอะไรในนี้ ออกไปนะ! “ ทันทีที่หันมาเจอผู้ชายจอมเจ้าเล่ห์ที่เธอโคตรจะเกลียดขี้หน้า ตะวันก็ตวาดไล่เขาออกมาอย่างไม่เกรงใจ
“ จุ๊ๆ เรามีพันธะสัญญากันนะสาวน้อย คิดดีๆ เธอน่ะตกเป็นรองอยู่รู้ตัวรึเปล่า “ ชายหนุ่มถือวิสาสะเดินเข้าไปนั่งบนเตียงของตะวันหน้าตาเฉย ก่อนจะมองสำรวจห้องนอนของตะวันอย่างสนใจ
“ นี่นายจะบ้าเรอะ! ให้ตายซิออกไปจากห้องฉันนะ! “ ท่าทีที่ไม่สนใจเสียงเรียกร้องของตะวันที่ชายหนุ่มแสดง ทำให้ตะวันโกธรจัดจนอยากจะเอามีดมาเสียบคนตรงหน้าให้รู้แล้วรู้รอด ตะวันเดินเข้าไปจับแขนของผู้ชายเจ้าเล่ห์ที่นั่งอยู่บนเตียงของเธอเพื่อหวังจะลากเขาออกจากห้องนี่
ควับ!
“ ว้าย! “ สองแขนของชายหนุ่มจับหมับเข้าที่หัวไหล่และพลิกตัวของตะวันลงไปกดเอาไว้บนเตียง ด้วยสภาพที่ไม่เหมาะสมทั้งอายและตกใจจึงทำให้ตะวันร้องออกมา
“ นาย...ปล่อยฉันนะ! “ ตะวันสั่งเสียงเขียวในขณะที่ชายหนุ่มยังคงยิ้มอย่างเป็นต่อ
“ แบบนี้ค่อยสมกับเป็นผู้หญิงหน่อย รู้ไว้นะฉันไม่ชอบให้ใครมาทำร้ายฉันฟรีๆ “ ชายหนุ่มก้มลงไปหอบแก้มสีชมพู่ระเรื่อของตะวันทันทีหลังจากพูดจบ
“ อ่ะ! อย่าน่ะ! นี่! อ้าย! “ แก้มสองข้างของตะวันแดงเรื่อเมื่อถูกผู้ชายเจ้าเล่ห์ตรงหน้าขโมยหอมไปฟอดใหญ่
“ แนะนำตัวกันหน่อยดีมั้ยคุณคู่หมั้นเราสองคนยังไม่รู้จักกันเลยนี่ “ ชายหนุ่มตรงหน้ายิ้มกริ้ม เขายังคงจับตะวันกดเอาไว้อย่างนั้นแถมยังมองเธอด้วยสายตาพึ่งพอใจอีกด้วย
“ ใครเขาอยากรู้จักนายกัน! “ ตะวันตอกกลับเสียงขุ่น ตอนนี้ใบหน้าของตะวันแดงลามไปหมดจนเกือบจะถึงใบหูอยู่แล้ว
“ ตุลาการ อัศวะเดชา จะเรียก การ พี่การ หรือ ‘ที่รัก’ ก็ได้ตามใจ “
“ ไม่เห็นอยากรู้จัก! และฉันก็ไม่มีทางบอกชื่อตัวเองแน่ “
“ ‘ตะวัน’ อาทิตยา รุ่งระวีวงศ์ ยินดีที่ได้รู้จักนะสาวน้อย “ ตุลาการยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อได้เห็นสีหน้าตกตะลึงในยามที่เขาพูดชื่อของเธอออกมา
“ นายรู้ชื่อฉัน! “
“ ไม่เห็นแปลกในงานก็ประกาศอยู่ว่าเธอหมั้นกับใครและฉันหมั้นกับใคร คงมีแต่เธอเท่านั้นล่ะมั้งที่หมั้นทั้งๆ ที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของสามีในอนาคต “ รอยยิ้มของตุลาการสร้างความขุ่นเคืองให้กับตะวันได้เป็นอย่างดี แต่ยิ่งเห็นตะวันโกธรเขามากเท่าไหร่ชายหนุ่มกลับเห็นว่ามันเป็นเรื่องสนุก
“ งานนี้มันก็แค่งานหลอกเด็ก ใครๆ ก็รู้ว่าที่นายทำแบบนี้ก็เพราะหวังที่ดินของพ่อฉัน “ ตะวันตอกกลับเสียงแข็ง และพยายามดิ้นให้หลุดจากมือใหญ่ๆ ของตุลาการที่พันธนาการเธออยู่
“ ใครจะไปรู้อนาคต บางทีเธออาจจะได้ใช้นามสกุลอัศวะเดชาก็เป็นได้ “ รอยยิ้มยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้าของตุลาการ ในขณะที่ตะวันฟิวส์ขาดไปแล้ว
โป๊ก!
“ โอ้ย! / อู้ย! “ หน้าผากที่ถูกกระแทกอย่างแรงทำให้ตุลาการและตะวันร้องออกมาแทบจะในทันที ก่อนที่ทั้งคู่ผละจากกันด้วยวิธีพิสดารที่ตะวันคิดขึ้น
“ อ่า...เธอนี่เหนือความขาดหมายจริงๆ “ ตุลาการที่ยกมือคล้ำหน้าผากของตัวเองไปมา หันกลับมากึ่งหัวเราะกึ่งบ่นให้ตะวันที่นอนกลิ้งเอามือกุมหน้าผากอยู่บนเตียงฟัง อย่างนึกขำกับความคิดพิเรนของเธอ
‘เอาหัวโขลกมาได้ นึกว่าหัวตัวเองเป็นเหล็กรึไงนะ เด็กจริงๆ ’
“ ออกไปเลยนายนะ ทุกอย่างจบแล้วต่อไปนี้พวกเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สิ่งที่นายต้องการนายก็ได้แล้ว ฉะนั้นตอนนี้ก็ปล่อยพวกเราให้ดำเนินชีวิตปกติซะที “ หลังจากที่ความเจ็บหายไปตะวันก็ลุกขึ้นจากเตียงและพูดใส่หน้าตุลาการ
แกร๊ง!
กรอบรูปใบหนึ่งตกลงไปข้างเตียงและมันทำให้ตุลาการสนใจมันทันที เพราะรูปภาพที่ใส่อยู่ข้างในดึงดูดความสนใจของชายหนุ่ม
“ ชีวิตปกติของเธอหมายถึงอยู่กับหมอนั่นน่ะเหรอ ถ้าเธอจะจำได้ เราเพิ่งจะหมั้นกันผ่านมายังไม่ถึงวันด้วยซ้ำ! “ บรรยากาศรอบตัวของตุลาการเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้เห็นกรอบรูปที่ตกอยู่ข้างเตียงของตะวัน ตะวันจับสังเกตุอารมณ์ที่เปลี่ยนไปกระทันหันของชายหนุ่มได้
“ อ่ะ! “ หลังจากที่มองตามสายตาของตุลาการที่ยืนเงียบไป ตะวันก็แทบซ๊อกเมื่อตะวันได้เห็นสิ่งที่ตุลาการมองอยู่
รูปถ่ายของเธอเอง....รูปถ่ายของตะวันกับเพื่อนชายของเธอ
“ มันไม่จบแค่นี้แน่...รับรอง “ ตุลาการทิ้งคำพูดสุดท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินผ่านหน้าตะวันและออกจากห้องของเธอไปอย่างเย็นชา
กรอบรูปที่ตกอยู่ข้างเตียงถูกเก็บขึ้นไปแอบไว้ใต้หมอนที่เก่าที่เคยอยู่ ตะวันลูบมือไปมาบนหมอนของตัวเอง ขณะที่ในหัวกำลังนึกถึงผู้ชายสองคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอ
‘เวฟ’ เพื่อนสนิทที่เรียกได้ว่าเป็นคนรู้ใจ และตอนนี้เขาก็กำลังคอยการกลับไปมหาลัยของตะวันอยู่
‘ตุลาการ’ ชายแปลกหน้าที่เข้ามาพังทุกอย่างในชีวิตของเธอ แล้วก็มาทิ้งความรู้สึกแปลกๆ เอาไว้กับเธอเมื่อตอนที่เขาเดินจากไป ‘คุ้นเคย’
“ แล้วกลับมาบ่อยๆ นะลูก “ แม่กำลังโบกมือให้ตะวันในขณะที่เธอกำลังขึ้นรถตู้เพื่อจะเดินทางไปกรุงเทพ
“ ค่า...คราวนี้อาจจะหายไปหลายอาทิตย์หน่อยนะคะ เพราะเรื่องคราวนี้ตะวันเรียนตามเพื่อนไม่ทันแน่ๆ เลย “ ตะวันตอบอย่างปลงๆ เมื่อนึกถึงว่าการกลับมาบ้านคราวนี้เธอต้องเจอกับอะไรบ้าง
‘มีคู่หมั้น! โอ้ว...ช่างเหมือนกับในละครน้ำเน่าเลยแหะ ’
ตะวันรำพึงออกมาเบาๆ ในขณะที่รถตู้คันสีขาววิ่งห่างออกมาจากลานจอดรถมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ด้านหลัง แม่ ซันและก็พ่อยังคงยืนส่งเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
หลังจากที่รถตู้มุ่งหน้าสู่ถนนใหญ่ตะวันก็หลับตาลงและนึกถึงเรื่องในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เป็นดังที่เธอต้องการ หลังจากงานหมั้นในวันนั้นตะวันก็ไม่ได้เห็นหน้าของชายหนุ่มที่ชื่อตุลาการอีกเลย เขาเข้ามาพัวพันกับเธอเพราะต้องการที่ดินของครอบครัวของเธอก็เท่านั้น
“งี่เง่า! นี่ฉันมั่วมานั้งคิดถึงนายทำซากอะไรเนี่ย! “ ตะวันเผลอตัวตะโกนด่าตุลาการเสียงดัง และนั้นก็ทำให้คนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ในรถตู้หันมามองเธอเป็นตาเดียว
“ เอ่อ...แหะๆ ขอโทษด้วยคะ “ ตะวันยิ้มแห้งๆ ก่อนจะควักไอพอตขึ้นมาเสียบหูแล้วหลับหูหลับตาหนีคดีที่ทำตัวเองหน้าแตก
ในที่สุดรถตู้ที่วิ่งมากว่าสองชั่วโมงก็มาถึงที่หมายนั้นก็คือกรุงเทพฯซะที คิวรถตู้ที่เนื่องแน่นไปด้วยคนจากทั่วทุกสารทิศทำให้ตะวันรู้สึกหายใจไม่ค่อยจะออก ตะวันรับกระเป๋าของตัวเองจากคนขับรถตู้ในขณะที่เขาเปิดท้ายและแจกสัมภาระคืนให้แก่ผู้โดยสาร จากนั้นตะวันก็เบียดตัวเดินไปยังทางเท้าเพื่อไปขึ้นรถเมล์ประจำทางเพื่อกลับหอที่เธอเช่าอยู่
หมับ!
“ เฮ้ย! “ ในขณะที่ตะวันกำลังเดินฝ่าฝูงคนเธอก็ถูกใครบางคนคว้าตัวเอาไว้ ตะวันร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ สัมภาระของเธอก็ถูกชายชุดดำกลุ่มหนึ่งลากไปถือ แถมเธอยังโดนพวกนั้นลากตัวไปกับพวกเขาอีกด้วย
“ นี่จะบ้าเหรอ! พวกคุณเป็นใครปล่อยฉันนะ “ ตะวันเริ่มร้องโวยวายในขณะที่คนอื่นๆ พากันหยุดมองเธอ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย เสียงซุบซิบนินทาว่าตะวันโดนพวกชายชุดดำตามมาทวงหนี้ ทำให้คนอื่นๆ พากันคิดว่าพวกเขาไม่ควรจะยุ่ง
“ เฮ้ยบอกให้ปล่อยไง! พวกคุณ...นาย? “ เสียงโวยวายของตะวันเงียบหาย เมื่อตรงหน้าเธอปรากฏตัวการที่สามารถตอบคำถามของเธอได้แล้วในตอนนี้ ผู้ชายที่ตะวันไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีก...
อีตาคู่หมั้นกำมะลอ!
ตะวันจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนพิงรถสปอร์ตสีขาวด้วยความขุ่นเคือง ในขณะที่ชายหนุ่มตรงหน้าเธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรนอกจากสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก ทว่าเพียงแค่เขาปรากฏตัวเขาก็กลายเป็นเป้าสายตาของสาวๆ ที่เดินอยู่ที่นี้ไปจนหมดแล้ว
ตุลาการที่ยืนพิงรถยนต์คันโปรดของตัวเองอยู่ยกมือขึ้นโบกเบาๆ หนึ่งครั้ง และนั้นก็ทำให้บอดี้การ์ดทั้งหมดของเขาปล่อยมือจากตะวันและเดินกลับไปยืนข้างๆ รถสีดำที่จอดขนาบข้างรถของเขาอยู่
“ นาย..หาเรื่องเหรอ! ให้คนมาลากตัวฉันทำไม คิดจะเรียกค่าไถ่เป็นที่ดินจากพ่อฉันเรอะ! “ ตะวันที่โมโหจัดเดินเข้าไปประชิดตัวตุลาการ พร้อมๆ กับว่าเขาไปชุดใหญ่
“ ขึ้นรถซะ “ ตุลาการพูดขึ้นอย่างเย็นชา เขาไม่สนใจท่าทางอึ้งๆ มึนๆ งงๆ ของตะวัน จับตัวเธออุดเข้าไปในรถของเขาทันที
“ เฮ้ย! นายจะลักพาตัวฉันจริงๆ เหรอเนี่ย! “ ตะวันร้องเสียงหลงแต่เธอก็ไม่สามารถเปิดประตูรถหนีได้ เพราะบอร์ดี้การ์ดของตุลาการมายืนขวางประตูรถอยู่
ปัง!
เสียงประตูรถทางฝั่งคนขับถูกปิดลงพร้อมๆ กับร่างของตุลาการที่เขามานั่งประจำที่ ตะวันส่งสายตาไม่พอใจไปทางชายหนุ่ม แต่ทว่าตุลาการก็ไม่สนใจ เขาสตาร์ทเครื่องแล้วขับรถออกสู่ถนนใหญ่ทันที
“ นายจะพาฉันไปไหน! นี่! “
คอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสถานที่ที่รถของตุลาการขับมาถึง ตะวันที่นั่งหน้าบูดมาตลอดทาง หันมาทำหน้าเลิ่กลั่ก ในขณะที่ตุลาการกำลังจอดรถอยู่ที่ชั้นใต้ดินของคอนโด
“ นายพาฉันมาที่นี้ทำไม! “ ในขณะที่รถจอดสนิทตะวันก็ถามขึ้นอย่างกังวล ตุลาการยังคงไม่สนใจจะตอบคำถามของเธอแม้แต่น้อย ชายหนุ่มเปิดประตูรถทางฝั่งของเขาแล้วลุกออกไปทันที
“ ลงมา! “ ประตูรถทางฝั่งของตะวันถูกปิดออก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ตะวันรู้สึกไม่อยากจะลงจากรถของคนแปลกหน้าเลย ‘พระเจ้า! ไอ้หมอนี่มันจะทำบ้าอะไรฉันเนี่ย’
ห้องขนาดใหญ่ที่เทียบเท่ากับบ้านหนึ่งหลัง ภายในประกอบไปด้วยห้องนอนสองห้อง ครัวขนาดย่อมๆ สไตล์ฝรั่งแบบในหนัง เปียโน ฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาว ห้องนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยโฮมเทียร์เตอร์ครบชุด และนี่คือภาพที่ปรากฏออกมาในสายตาของตะวัน หลังจากที่ถูกตุลาการลากถูลู่ถูกังขึ้นลิฟท์มา
“ นาย...พาฉัน มาที่นี้ ทำไม? “ หลังจากมองห้องสีขาวขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความทึ่ง ตอนนี้สายตาของตะวันก็กลับมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลาของตุลาการที่ยังยืนจับมือเธออยู่
ฟึ่บ!
ตุลาการหยิบหนังสือฉบับหนึ่งโยนลงไปตรงหน้าของตะวัน และเมื่อตะวันมองลงไปที่ปกหนังสือ เธอก็ได้เห็นใบหน้าที่เหมือนกันแป๊ะๆ กับคนที่ยังจับมือเธออยู่มองกลับออกมา
“ ตุลาการ อัศวะเดชา ทายาทเศรษฐีอันดับหนึ่งหรือว่าที่ ‘อัยการ’ อันดับหนึ่งในอนาคต บทสัมภาษณ์ของชายหนุ่มที่เป็นที่จับตามองของสาวๆ ทุกคน พิเศษหน้าสิบสอง “ ตะวันอ่านหน้าปกของหนังสือที่ตุลาการโยนลงมาให้ ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองตัวจริงของคนที่มีรูปถ่ายอยู่บนปกหนังสือนั่นอย่างอึ้งๆ
“ เธอจะอยู่ที่นี้...กับฉัน “ น้ำเสียงของตุลาการยังคงสงบในขณะที่ตะวันลืมตัวจ้องหน้าเขาอย่างตกใจ
“ อะไรนะ! ไม่มีทาง “ ตะวันพูดพร้อมๆ กับพยายามแกะมือของชายหนุ่มที่จับเธอเอาไว้ออก
“ ไม่มีทาง ไม่มีทาง นายบ้าไปแล้ว “ ตะวันสาระวนกับการแกะมือของชายหนุ่มโดยไม่ทันระวังตัว ตุลาการจึงกระชากเธอเข้ามาใกล้พร้อมๆ กอดรัดร่างบางของตะวันเอาไว้แน่น
“ ตอนนี้เธอเป็นคู่หมั้นของฉัน และเธอก็ไม่มีสิทธิ์ทำให้ฉันขายหน้าใครด้วยการไปคบกับผู้ชายคนอื่น “ สิ่งที่ตุลาการพูดทำให้ตะวันที่ดิ้นรนอยู่ในอ้อมกอดของเขาตัวแข็งทื่อ
“ ไม่ว่ามันจะเป็นใคร แต่รู้เอาไว้ฉันจัดการได้แน่ “ ตุลาการบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา และมันก็ทำให้ตะวันหน้าตึงขึ้นมาทันที
“ ไม่ใช่ด้วยเงินของนาย ความรักไม่ได้หายไปหรือได้มาเพราะเงิน “ เมื่อคิดถึงเรื่องที่ตุลาการใช้เงินกว้านซื้อที่แล้วบีบพ่อเธอ ตะวันก็โมโหขึ้นมาทันที คราวนี้ก็คงเหมือนกันคนอย่างเขาคงคิดจะใช้เงินฟาดหัวคนรักของเธอเพื่อเล่นสนุกอีกแน่
คำตอบกลับของตะวันทำให้ตุลาการเหยียดยิ้มเย็นชาให้
“ รักมันงั้นเหรอ ไอ้ผู้ชายที่ชื่อเวฟนั้นน่ะ “
“ นาย! นายรู้จักเขาได้ไง “
ตะวันพูดขึ้นอย่างร้อนรนเมื่อชื่อของคนที่เธอรักออกมาจากปากของคนตรงหน้า ตุลาการยิ้มที่มุมปากก่อนจะก้มลงไปพูดเบาๆ ที่หลังใบหูของตะวัน
“ มีเงินก็เท่ากับเป็นพระเจ้า เธอไม่รู้รึไง “
“ นายไม่มีทางซื้อทุกอย่างได้ด้วยเงิน! “
ตะวันที่ทั้งอายทั้งโมโหกัดฟันตอบพร้อมๆ กับกำหมัดแน่น
“ ยังไม่รู้ตัวอีกรึไง ว่าฉันน่ะซื้อเธอได้แล้ว “
“ อะไรนะ! “
“ ที่เธอต้องมาอยู่ที่นี้ก็เพราะพวกชาวบ้านพวกนั่นเห็นแก่ตัว เธอน่ะถูกพวกชาวบ้านพวกนั้นขายมาให้ฉันแล้ว ยังไม่รู้ตัวอีกรึไง “
คำพูดของตุลาการสะกิดใจของตะวันอย่างรุนแรง เธอคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการเสียสละของเธอ ถ้าคิดแบบนั่นเธอก็จะไม่เจ็บปวด แต่ถ้าเป็นอย่างที่ผู้ชายคนนี้พูด
นี่ฉัน...ถูกขายซะแล้วเหรอ?
>>>>>>>>>>>>>>>>>
อ่านแล้วอ่านอีกได้นะคะ...
นี่เป็นฉบับรีไรท์ค่ะ...
เมนต์ๆ โหวดๆ บ้างนะคะ..
คนเขียนจะได้มีกำลังใจค่ะ...^^
ความคิดเห็น