Title: Strawberries and cigarettes Pairing: Hyunbin x Minhyun
Genre: ?
Rate: PG 15+ (?)
Note: JLV Strawberry Menthol บุหรี่ที่มีทั้งความหวานจากสตรอว์เบอร์รี่และความสดชื่นจากเมนทอล
Note 2: มาช่วยกันสวดมนต์ไม่ให้โดนแบนด้วยนะคะ แง้
น่าเบื่อ..
น่าเบื่อที่สุด!
มินฮยอนไม่เคยเข้าใจพ่อกับแม่ที่ชอบมางานเลี้ยงสังคมแสนน่าเบื่อแบบนี้
เปิดเพลงเก่าๆ แก่ๆฟังแล้วชวนง่วง อาหารก็จัดมาอย่างละนิดอย่างละหน่อย ไม่พอแม้แต่แมวดม ผู้คนต่างพูดจาน่าเวียนหัว แม้จะยิ้มให้กัน พูดคุยกันราวกับเป็นมิตรรักกันดี หากแต่คำพูดแต่ละคำกลับเอ่ยเกทับ เชือดเฉือนกันยิ่งกว่ามีด
แล้วไอ้อาการหัวเราะออกมาทั้งที่ไม่มีอะไรน่าขำน่ะ ดูแล้วมันโคตรตลกเลยหล่ะ
มินฮยอนทนความอึดอัดอยู่ในงานได้ไม่ถึงยี่สิบนาที เขาจึงเอ่ยบอกกับมารดาว่า ปวดหัว ขอออกมาสูดอากาศข้างนอก ท่านหัวเราะออกมาเล็กน้อย เมื่อเห็นสีหน้าของเขา ท่านคงรู้ว่านั่นเป็นแค่ข้ออ้าง แต่ก็พยักหน้าตกลง
มินฮยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเดินออกมายังชั้นดาดฟ้าของสถานที่จัดงาน มือขาวปลดกระดุมสูทตัวนอกออก ก่อนควานหาลูกอมรสสตรอว์เบอร์รี่ที่แสนโปรดปราน
อยากได้ความหวานจากลูกอมมาแก้เซ็งเป็นบ้า!
มินฮยอนเท้าแขนกับระเบียง หลังจากแกะลูกอมรสโปรดเข้าปากทีเดียวสองเม็ด พลางมองไปตรงหน้าที่มีแสงไฟระยิบระยับจากตึกรามบ้านช่อง นับเป็นภาพที่สวยงามคล้ายกับแสงดาวที่สวยงามบนท้องฟ้า
“น่าเบื่อนะว่าไหม”
เสียงทุ้มใหญ่ของผู้มาใหม่ดังขึ้นไม่ไกลจากเขานัก มินฮยอนไม่ได้หันไปตามเสียงในทันที เขาเพียงปรายตามองอีกฝ่ายเพียงครู่แล้วกลับมาวางสายตาที่วิวข้างหน้าอีกครั้ง
ผู้ชายข้างๆนั้นตัวสูงเอาเสียมากๆ จนคนที่สูงร้อยแปดสิบแบบมินฮยอนแอบเบะปาก แถมเขายังดูดีมากในชุดสูทกับกางเกงยีนส์สีดำที่ดูไม่เป็นทางการแต่กลับดูดีเมื่ออยู่บนตัวของชายหนุ่ม ไหนทรงผมเหมือนไม่ได้ตั้งใจเซ็ต(แต่มินฮยอนมั่นใจว่าเซ็ตมาแน่ๆ) อีกอย่าง หมอนี่ก็หล่อและมีสเน่ห์เอามากๆ
ให้ตาย นี่เขาหลุดมาจากนิตยาสารเล่มไหนเนี่ย!
สาบานว่าทั้งหมดนี้ มินฮยอนแค่ปรายตามองเท่านั้น
“ครับ”
มินฮยอนตอบ เขาได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากอีกฝ่ายอย่างไม่ทราบสาเหตุและมินฮยอนก็ไม่คิดเอ่ยถาม
เราเงียบกันอยู่อย่างนั้น ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาหรือไม่แม้แต่เอ่ยแนะนำตัวกันและกัน
จนกระทั่งมินฮยอนได้ยินเสียง ‘กริ๊ง’ ไม่ใช่เสียงจากเขาแน่นอน ก็คงเป็นไปไม่ได้นอกจากผู้ชายอีกคนที่ยืนห่างจากมินฮยอนไปไม่มากนัก
มินฮยอนหันขวับไปมอง เสียงที่เขาได้ยินเป็นเสียงเปิดซิปโปจากคนข้างๆ มินฮยอนขมวดคิ้วไม่ชอบใจ เมื่อเห็นอีกคนกำลังจ่อซิปโปสีทองสุดสวยไปยังมวนสีขาวที่ตนคาบอยู่ ชายหนุ่มตัวสูงคงรับรู้ได้ถึงสายตาไม่พอใจจากเขาจึงชะงักไป
ดวงตาเรียวเล็กแต่คมกริบเหลือบมองเขาทั้งที่ยังคาบมวนสีขาวไว้ที่ปากอวบอิ่ม เขายิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์อย่างเปิดเผยเหมือนกับพวกตัวร้ายในละคร
ซึ่งมินฮยอนไม่ชอบมันเอาซะเลย
มินฮยอนคิดว่าหมอนี่กำลังกวนประสาทเขา
“ไม่ชอบหรือ”
“ครับ”
มินฮยอนตอบกลับอย่างไม่ลังเล ชายหนุ่มข้างๆหัวเราะออกเสียง จนมินฮยอนขมวดคิ้วไม่พอใจมากกว่าเดิม ยกแขนเรียวกอดอกมองอีกฝ่ายอย่างขัดใจ
“มีปัญหาหรือครับ” มินฮยอนถาม
เขาไม่ตอบ
แต่กลับก้าวเท้ามาหามินฮยอนทีละก้าวพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้ใจสั่นอย่างห้ามไม่ได้
เขาถอยหลังหนีอัตโนมัติ
จนตัวติดกับราวระเบียง
ชายหนุ่มตรงหน้าส่งเสียง ‘หึ’ ในลำคอ ก่อนยกมือขึ้นวางที่ราวระเบียงกันตัวเขาไว้
หมดทางหนี
เขาค่อยๆโน้มตัวลงมา และจ้องมินฮยอนตาไม่กระพริบ ลิ้นสีชมพูของคนตัวสูงแลบเลียปากของตัวเองพร้อมกับแสยะยิ้ม
มินฮยอนเห็นภาพทั้งหมดนั้น เพราะเขาเองก็กำลังจ้องอีกฝ่ายไม่วางตาเช่นกัน
สุดท้ายเป็นมินฮยอนเองที่ทนสายตานั้นไม่ไหวจนเบือนหน้าหนี
สายตาที่จ้องราวกับจะกลืนกินเขาไปทั้งตัว
“จุดบุหรี่ให้หน่อยสิ”
เสียงทุ้มใหญ่แสนเซ็กซี่กระซิบที่ข้างหูเขา มินฮยอนกัดปากแน่นพยายามไม่หันไป ไม่อย่างนั้นส่วนใดส่วนนึงบนใบหน้าเราคงได้โดนกันแน่ เพราะหมอนั่นไม่ยอมเอาหน้าหล่อๆออกไปจากใบหน้าเขาเสียที
มินฮยอนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ จู่ๆก็หาเสียงตัวเองไม่เจอเสียอย่างนั้น และเหมือนคนตรงหน้าจะรู้ เขาค่อยๆขยับตัวเข้ามาใกล้จนมือเล็กต้องดันอกแกร่งเอาไว้
หัวใจดวงน้อยของมินฮยอนเกือบหยุดเต้นเมื่อจมูกโด่งสวยของอีกฝ่ายแตะเฉียดเข้าที่ต้นคอเขา ได้ยินเสียงสูดดมเบาๆ ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า
“ไปนั่งรถเล่นกันไหมครับ”
*
มินฮยอนเหม่อมองไปข้างหน้า ผมที่เซ็ตมาอย่างดีนั้นถูกขยี้จนยุ่งเหยิงไปหมด เขาเคาะหัวตัวเองอยู่หลายทีจนรู้สึกเจ็บจึงหยุดการกระทำนั้น
เขานั่งที่ล็อบบี้โรงแรมของสถานที่จัดงานมาราวๆยี่สิบนาทีได้แล้ว หลังจากที่เดินกลับเข้าไปในงานเพื่อบอกพ่อกับแม่ว่าปวดหัว(มินฮยอนอ้างว่าปวดหัวจริงๆไม่ได้หลีกเลี่ยงงาน ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ปวดหัวจริงๆนั่นแหละ)
แม่ของมินฮยอนจึงบอกให้เขากลับบ้านไปพักผ่อน โดยจะให้คนขับรถไปส่ง มินฮยอนรีบปฏิเสธไป เอ่ยบอก จะกลับเองเพราะไม่อยากให้คนขับรถไปๆกลับๆ แล้วร่างเพรียวก็ก้าวเท้าออกจากงานมานั่งอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมแห่งนี้
มินฮยอนมองไปหน้าล็อบบี้อีกครั้ง ถอนหายใจเฮือกใหญ่ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เมื่อไม่สามารถหาเหตุผลที่ทำให้เขาโกหกพ่อแม่เพื่อจะออกไปนั่งรถเล่นตามคำเชิญชวนของผู้ชายที่เพิ่งเจอได้ไม่กี่นาที
ผู้ชายคนนั้นอันตรายที่สุด
และเขาเองก็ใจง่ายเป็นบ้า
ทั้งที่รู้ว่าไปกับเขาแล้วจะเจออะไร
มินฮยอนเป่าทางปากเพื่อไล่ความตื่นเต้น ลุกขึ้นขยับสูท จัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทาง เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย พยายามตีสีหน้าให้นิ่งที่สุด มองออกไปหน้าล็อบบี้ แล้วแอบเบะปากเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มตัวสูงคนนั้นกำลังยืนล้วงกระเป๋า พิงรถคันหรูและพ่นควันออกจากปากพร้อมกับยิ้มมุมปากมาให้
หมอนั่นยืนสูบบุหรี่อยู่ก่อนที่เขาจะลงมาที่ล็อบบี้เสียอีก
*
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคุณ” ควอนฮยอนบินเอ่ยบอกเขาขำๆ
แต่มินฮยอนไม่ขำด้วยสักนิด!!
ก็รถหรูที่ไอ้ตัวสูงเอามาดันดับไปเสียดื้อๆน่ะสิ!
มินฮยอนกอดอกส่งเสียงฮึดฮัดเพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังไม่พอใจ แต่ตรงกันข้ามหมอนี่หัวเราะใส่เขาแล้วเปิดประตูออกไปนอกรถโดยไม่ลืมที่จะเปิดไฟหน้ารถให้ความสว่างไว้
ดวงตาสวยมองไปยังควอนฮยอนบินที่เดินอ้อมมาฝั่งตัวเอง มือใหญ่เคาะกระจกอยู่สองสามทีพร้อมกับกวักมือให้ลงไป
มินฮยอนได้แต่ส่งสายตาไม่พอใจไปให้ควอนฮยอนบินเมื่อเห็นอีกคนเดินไปหน้ารถแล้วดันตัวขึ้นมานั่งไขว่ห้างบนกระโปรงแล้วเคาะมันอีกสองที พร้อมกับยักคิ้วมาให้เขา
หมอนี่กวนประสาทโคตรๆ
เขาจึงต้องจำใจเปิดประตูรถลงมา มองไปรอบๆก็พบว่าน่าจะเป็นสวนสาธารณะที่นึง เพราะตอนขับเข้ามามินฮยอนไม่ได้มองทางเลย เอาแต่ก้มหน้าอย่างเดียว
“โทรตามช่างสิ”
“เวลานี้หรอ”
ฮยอนบินถามกลับแทนที่จะให้คำตอบเขา มินฮยอนกรอกตาแล้วหันหลังให้อีกฝ่าย ได้ยินเสียงหัวเราะมาเนืองๆก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ คิดจะหันไปว่าให้หงอแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อหันมาแล้วหน้าผากชนเข้ากับคางของฮยอนบินอย่างจัง
มินฮยอนตกใจจนเผลอขยับตัวเข้าไปใกล้คนตัวสูงอย่างลืมตัว
“คุณเจ็บไหม ผมขอโทษ”
มือขาวลูบคางคนตัวสูงเบาๆ เอ่ยถามอย่างรู้สึกผิด ฮยอนบินไม่ตอบอะไร แต่มินฮยอนพอเดาได้จากสีหน้าว่าคงจะเจ็บเอามากๆ
และไม่ทันระวังตัวเอวเล็กก็ถูกมือใหญ่ของฮยอนบินจับรวบยกตัวขึ้นนั่งบนฝากระโปรงรถก่อนคนตัวสูงจะแทรกตัวเข้ามาระหว่างขามินฮยอน
“คุณทำบ้าอะไร! หลอกผมเหรอ!”
“หลอกอะไรล่ะ เจ็บจะตาย ปากแตกด้วยเนี่ย”
ฮยอนบินว่าพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แสงไฟหน้ารถทำให้มินฮยอนเห็นว่าร่างสูงนั้นปากแตกจริงๆ
ยังไม่ทันได้เอ่ยขอโทษอีกครั้ง คนที่อยู่ต่ำกว่าก็ประทับริมฝีปากลงมาที่ริมฝีปากมินฮยอนแล้วกัดเบาๆจนเขาสะดุ้ง
มินฮยอนได้รสความเค็มจากเลือดของตัวเอง เขาตีมือลงที่ไหล่แกร่งให้หยุด เมื่อสัมผัสได้ว่าอีกคนกำลังใช้ลิ้นอุ่นเลียและดูดริมฝีปากเขาในจุดที่เพิ่งกัดลงไป
ถึงแม้จะเจ็บแต่กลับรู้สึกดีจนใจสั่น
ฮยอนบินไม่ได้ถอนริมฝีปากในทันที เขาไล่จูบริมฝีปากบาง ดูดดึงอยู่บางคราวก่อนกดจูบหนักๆที่มุมปากแล้วถอนจูบออกมา
คนตัวสูงดันตัวเข้ามาใกล้มินฮยอนมากกว่าเดิม ฮยอนบินซบลงที่ลาดไหล่เขา ใบหน้าหล่อคลอเคลียที่ซอกคอเขาไม่ห่าง
“ลูกอมสตรอว์เบอร์รี่แน่ๆ” อีกคนพึมพำแต่เขากลับได้ยินอย่างชัดเจน
“คุณหวาน คุณหอม ผมชอบ”
ลมหายใจสะดุดเมื่อจมูกสวยของฮยอนบินสูดดมกลิ่นกายใจของมินฮยอนอย่างเปิดเผย
มินฮยอนก็ไม่อยากบอกเลยว่า เขาเองก็ชอบ
มินฮยอนจำได้ว่าตอนที่รอเขา ฮยอนบินสูบบุหรี่ไปสองมวน ปกติแล้วเขาไม่ชอบบุหรี่ค่อนไปทางเกลียดเพราะกลิ่นของมัน แต่น่าแปลกที่ฮยอนบินแทบไม่มีกลิ่นพวกนั้นเลย
กลับกันเขาได้กลิ่นหอมหวานและสดชื่นจากอีกคน
ถ้าหากไม่เห็นกับตาและใกล้กันแค่ลมหายใจเขาคงไม่คิดว่าคนตรงหน้านั้นสูบบุหรี่มา
และถ้าหากไม่ได้จูบกันเมื่อครู่จนได้รสขมของบุหรี่ที่ติดปากเขา
“หยุดดมได้แล้วหน่า เป็นหมาหรือไง”
“คุณด่าคนเพิ่งเจอว่าหมาเลยเหรอ”
“แล้วคุณกัดปากคนเพิ่งเจอแบบนี้หรือไง”
สิ้นเสียงนั้น ทั้งคู่ต่างเงียบไป ก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน
นั่นสิ นี่คือสิ่งที่คนเพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมงทำอย่างนั้นหรือ
“คุณหอมจริงๆนะ ปากคุณก็หวาน”
ฮยอนบินเอ่ยพร้อมกับจูบลงที่ลำคอระหงส์จนมินฮยอนขนลุกไปทั้งตัว แต่อย่างนั้นเขาก็ไม่คิดห้าม
“คุณพร้อมหรือยัง”
เสียงทุ้มใหญ่ที่เริ่มแหบพร่าถามเขา มือใหญ่ค่อยๆถอดสูทของมินฮยอนออก ก่อนจะเลื่อนมือมาปลดเนคไทไปถือไว้ มือเรียวยาวของอีกฝ่ายทำเพียงสะกิดเบาๆที่กระดุมก็หลุดออก แล้วไล่จูบมาตามแนวเสื้อที่เปิดให้เห็นผิวขาวใส
“อ..อือ อะ”
มินฮยอนไม่ได้ตอบรับ แต่เขากำลังส่งเสียงพอใจเมื่อปากอุ่นไล่จูบที่ไหปลาร้าสวยและดูดมันเบาๆ
ใบหน้าหล่อติดสวยของมินฮยอนเชิดขึ้น หลับตาพริ้ม เมื่อฮยอนบินไล่จูบขึ้นมาที่ปลายคางมน
“ผมจะถือว่าคุณตอบรับแล้วนะ”
มือใหญ่ว่าแล้วก่อนจะใช้เนคไทปิดตาสวยไว้ ดึงขาเรียวเข้าเอวตน ก่อนเอ่ยทีเล่นทีจริงจนโดนมือเล็กตีเข้า
“คุณตัวหนักอะ เกาะแน่นๆนะ”
*
เสียงทุ้มต่ำส่งเสียงครางในลำคออย่างพอใจ เมื่อคนใต้ร่างรัดเขาแน่นจนแทบหายใจไม่ออก กระแทกตัวเข้าไปถี่กว่าเดิมเมื่อเห็นภาพคนตัวขาวทีมีเนคไทสีดำปิดตาไว้กำลังส่งเสียงหวานๆออกมา
ใบหน้าสวยที่มีเนคไทปิดไปครึ่งนึงกำลังเชิดหน้า แอ่นตัว เมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน เห็นดังนั้นฮยอนบินก็อดไม่ได้ แกล้งขยับเปลี่ยนจังหวะให้ช้าลง จนมินฮยอนยกมือหวังจะตีเขา แต่เพราะไม่อาจมองเห็น แขนเรียวจึงได้แต่สะบัดไปมาอย่างสะเปะสะปะ
ฮยอนบินจับมือเล็กไว้ แล้วขยับตัวเร็วขึ้นอีกจังหวะ จนรับรู้ได้ถึงความเกร็งจากแรงบีบของร่างเพรียว เห็นแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกสนุก ยกขาเรียวสวยข้างตัวมาพาดบ่าแล้วดันตัวเข้าไปมากกว่าเดิม
“อึก.. อะ ล.. ลึก”
“อ่า”
ฮยอนบินส่งเสียงพอใจครั้งแล้วครั้งเล่ากับร่างกายแสนหอมหวานของมินฮยอน มือใหญ่ลูบไล้ผิวเนียนสวย ฝังจมูกโด่งลงขาเรียว ไล่สูดดมความหอมที่มีอยู่ทุกที่ ทุกสัดส่วนบนร่างกายของคนใต้ร่าง
“หอมอะไรขนาดนี้คนสวย”
ฮยอนบินพูดออกมาราวกับคนไม่มีสติ แล้วกระแทกตัวเข้าไปอีกครั้ง บีบสะโพกกลมกลึงย้ำๆอย่างไม่เบามือ จนมินฮยอนส่งเสียงครางหวานออกมาไม่หยุด ยิ่งมองไปที่คนตัวขาวที่กำลังกัดปาก เชิดหน้า จิกมือลงกับเบาะรถอารมณ์ก็ยิ่งพลุ่งพล่านจนกระแทกตัวเข้าไปซ้ำๆ
ฮยอนบินโน้มตัวเข้าไปมินฮยอนทั้งที่ยังไม่หยุดขยับเอว มือใหญ่ดึงเนคไทออก จู่ๆก็อยากเห็นใบหน้านั้นชัดๆ อยากเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของอีกฝ่าย
และฮยอนบินก็พบว่าตัวเองคิดผิด
ดวงตาสวยที่เต็มไปด้วยอารมณ์เช่นเดียวกับเขาเหลือบมองมา ก่อนจะปิดแน่น เมื่อฮยอนบินขยับตัวเร็วขึ้น ใบหน้าใสขึ้นสีแดงระเรื่อ ผมที่ชื้นเหงื่อ ปากเล็กที่ถูกเขาดูดดึงจนเจ่อกำส่งเสียงหวานทำให้เขาหมดความอดทน กระแทกตัวเข้าไปแรงๆย้ำๆ มินฮยอนกรีดร้องออกมา มือเล็กจิกแขนฮยอนบินจนเลือดซิบก่อนจะปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน
เสียงหอบหายใจดังไปทั่วรถ ฮยอนบินยังคงไม่ถอนตัวจากมินฮยอน จนคนตัวขาวต้องสะกิดอีกคนที่นอนทับเขาให้ดึงตัวออกไปเพราะรู้สึกอึดอัด
ฮยอนบินลุกขึ้นนั่ง มองมินฮยอนอีกครั้งแกล้งกระแทกตัวเข้าไป
“อะ! นี่!”
มินฮยอนแหวใส่คนข้างบน แต่ดูเขาจะไม่ได้สำนึกเท่าไหร่ แถมยังโน้มตัวไล่จูบตั้งหน้าหน้าท้องไล่ขึ้นมาหน้าอกเขาอีก
ไม่ทันตั้งตัวมินฮยอนก็โดนรวบตัวขึ้นมานั่งบนตักของฮยอนบินทั้งที่ยังมี ‘สิ่งนั้น’ เชื่อมกันอยู่
และในท่านี้ก็ยิ่งทำให้มันดันเข้าตัวมินฮยอนลึกมากกว่าเดิม
ฮยอนบินกระซิบที่ข้างหูเขาอีกครั้ง
“คุณไม่คิดว่าเราควรมีรอบที่สองหรือรอบต่อไปเหรอครับ”
*
มินฮยอนได้แต่นอนมองไปที่หลังคารถโดยมีเสื้อเชิ้ตของฮยอนบินคลุมตัวไว้ ส่วนคนตัวสูงนั่นกำลังสูบบุหรี่อยู่นอกรถ
เขายังคงนอนอยู่หลังรถที่เดิมที่เขากับฮยอนบินเพิ่งทำกิจกรรมกันเสร็จ
คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ โอเค นั่นมันไม่ใช่ครั้งแรกของมินฮยอน เพียงแต่เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉาบฉวยวันไนท์สแตนแบบนี้ ส่วนใหญ่เขาจะทำมันกับคนรัก เลยรู้สึกแปลกอยู่หน่อยๆ
เพราะมันรู้สึกดีเอามากๆ บางทีมันอาจจะมากกว่าตอนที่เขาทำกับคนรักเสียอีก
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะกระจกดังขึ้น ทำให้มินฮยอนดันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะเลื่อนเปิดกระจกรถ
“ผมมีเรื่องสงสัย” ฮยอนบินพูดทั้งที่ไม่มองหน้าเขา
“อืม”
“คุณมีแฟนไหม”
คำถามที่ไม่คาดคิดหลุดมาจากปากของอีกคน ทำให้มินฮยอนเงียบไป
มินฮยอนน่ะ ไม่ได้คบกับใครมาสักสองสามปีได้แล้ว
แล้วถ้าเขาแกล้งตอบไปว่ามีแฟนแล้ว หมอนี่จะทำอย่างไรที่แอบกินกับแฟนชาวบ้านแบบนี้
แค่นึกถึงปฏิกิริยาของควอนฮยอนบินเขาก็หลุดขำแล้ว ตอนทำกันน่ะ คนตัวสูงแกล้งเขาไว้เสียเยอะ ขอเอาคืนเล็กน้อยก็ยังดี แต่ไม่ทันได้เอ่ยตอบ ฮยอนบินก็พูดสวนขึ้นมาเสียก่อน
“คิดนานจังล่ะ ไม่มีแฟนก็บอกว่าไม่มี”
“…”
“อย่าคิดโกหกผมสิ ผมรู้หน่า คงไม่ได้ทำมาสักพักใหญ่แล้วสิ เพราะ ‘ของ’ คุณ มันแน่นเอามากๆเลยล่ะ”
“ไอ้ควอนฮยอนบิน!!!!”
*
“คุณสูบบุหรี่ยี่ห้ออะไร”
มินฮยอนเอ่ยถามในขณะที่ทั้งคู่นอนดูดาวอยู่บนกระโปรงรถของคนตัวสูง ฮยอนบินมองกลับมาอย่างสงสัย ก่อนจะพ่นควันออกจากปากแล้วยกแขนขวาของตัวเองขึ้นมาหนุนอย่างผ่อนคลาย
“ถามทำไม คุณไม่ชอบมันนี่”
“ก็ถามไปงั้น..”
“อือฮึ”
“ปกติแล้วผมไม่ชอบกลิ่นของมัน”
“…”
“แต่กลิ่นบุหรี่ของคุณ… มันก็ไม่ได้แย่”
มินฮยอนได้ยินเสียงหัวเราะของอีกคนแล้วก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา มือขาวยกขึ้นมาอังหน้าตัวเอง พัดไล่ความร้อนออกไป แม้จะไม่ได้ช่วยอะไรก็พอแก้เก้อได้ล่ะ .. มินฮยอนคิดว่านะ
ฮยอนบินพลิกตัวเข้าหาเขา แขนเล็กของอีกคนตั้งชันวางศีรษะไว้บนมือใหญ่ แล้วยิ้มให้เขา
ไม่ใช่ยิ้มเจ้าเล่ห์แบบที่ผ่านมา
แต่เป็นรอยยิ้มแสนอบอุ่น
และรอยยิ้มนั้นกำลังทำให้มินฮยอนใจเต้นแรง
“คุณรู้ไหม ผมชอบรสชาติความหวาน ความสดชื่นจากเจ้านี่มาก ยิ่งหลังจากสูบหมดแล้วรสชาติของมันยังติดอยู่ปลายลิ้นน่ะมันสุดยอดไป จนไม่คิดว่าจะมีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว ”
“…”
“แต่เหมือนผมจะคิดผิด…
รสชาติบุหรี่จากลิ้นผมตอนมันอยู่ในปากหวานๆรสสตรอว์เบอร์รี่ของคุณมันสุดยอดไปเลย”
สิ้นเสียงนั้นควอนฮยอนบินก็ประทับริมฝีปากลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเบื่อ ลิ้นอุ่นเกี่ยวกระหวัดดูดรับความหวานภายในปากหวานของมินฮยอนที่ยังคงเจืออยู่จางๆ
มินฮยอนหลับตารับจูบที่ฮยอนบินมอบให้โดยไม่ขัดขืน
ไม่อยากยอมรับหากแต่ไม่อาจปฏิเสธว่ารสขมจากบุหรี่และลูกอมรสสตรอว์เบอรี่นั้นมันเข้ากันได้อย่างดี
โดยเฉพาะรสขมติดหวานของบุหรี่จากปากควอนฮยอนบินและรสชาติหวานหอมของลูกอมรสสตรอว์เบอร์รี่จากปากฮวังมินฮยอน
*
เช้าแล้ว
ทุกอย่างกำลังจะจบลง
ไม่สิ มันจบลงแล้วต่างหาก
ควอนฮยอนบินประสานมือมินฮยอนเอาไว้แน่น นิ้วเรียวยาวของอีกคนเกลี่ยหลังมือเขาเล่นไปมา
ถ้าพูดให้ถูกเรากำลังประสานมือกัน
เกิดความเงียบในรถ ทั้งเขาและฮยอนบินไม่มีใครคิดจะเอ่ยพูดอะไร แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด
เราทั้งคู่ต่างมองไปข้างหน้า บ้านหลังโตตรงหน้าทำให้มินฮยอนรู้สึกแปลกอย่างไม่สามารถอธิบาย
เขารู้สึกวูบโหวงในอกอย่างแปลกประหลาด
ควอนฮยอนบินขับรถออกมาจากสวนสาธารณะนั้นตอนเกือบรุ่งสาง ที่จริงแล้วรถของคนตัวสูงไม่ได้เสียหรือพังแต่อย่างใด หมอนั่นแค่แกล้งทำเป็นเหมือนรถเสียเท่านั้น
มินฮยอนพอรู้อยู่บ้าง เพราะสถานที่นั้นปลอดคนเกินไป ไม่มีแม้แต่คนหรือรถผ่านไปผ่านมา
ไม่อย่างนั้นเขากับคนข้างๆคงไม่ได้ ‘ทำอะไรๆ’ ได้ตั้งหลายรอบแบบนั้นหรอก
ควอนฮยอนบินน่ะทั้งร้ายและอันตรายเป็นบ้า
“คุณ..”
ควอนฮยอนบินเอ่ยเสียงนิ่งๆ แล้วก็เงียบลงอีกครั้ง ทำให้มินฮยอนละสายตาจากบ้านของตัวเองมามองคนข้างตัวที่ยังคงประสานมือไว้ไม่ปล่อย
“หนาวนะ” คนตัวสูงว่า
“ใส่เสื้อผมไว้ซะสิ”
ฮยอนบินบอกพร้อมกับถอดเสื้อตัวนอกของตัวเองออกแล้วคลุมไหล่ให้เขา
มือใหญ่บรรจงคลุมเสื้อที่มีกลิ่นบุหรี่อยู่จางๆ จัดมันให้เข้าที่ ก่อนนิ่งไป มินฮยอนมองใบหน้าหล่อที่กำลังหลุบตาต่ำทำให้ไม่เห็นว่าอีกคนกำลังแสดงสีหน้าเช่นไร
“ผมไปน..”
ไม่ทันได้เอ่ยลา คนที่หลุบตาต่ำเมื่อครู่ก็เงยหน้ามาคว้าตัวมินฮยอนเข้าไปฝากรอยจูบอีกครั้ง
คนตัวสูงกดริมฝีปากลงมาแน่นโดยที่ไม่ได้รุกล้ำไปมากกว่านั้น
ฮยอนบินถอนจูบแล้วประทับริมฝีปากที่หน้าผากสวยแทน
“คุณเชื่อในโชคชะตาไหม”
“…”
“ผมเชื่อนะ.. เพราะโชคชะตา ทำให้ผมได้มาพบคุณ”
“…”
“เชื่อเถอะ เราจะต้องได้พบกันอีก”
*
มือบางไล่เปิดหนังสือวรรณกรรมในมือผ่านๆแล้วเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง กระชับเสื้อตัวนอกให้แน่นขึ้นเมื่อลมหนาวพัดเล็ดลอดเข้ามาทางหน้าต่างที่เขาเปิดแง้มไว้
เมื่อรู้สึกหนาวเกินไป มินฮยอนจึงลุกไปเปิดหน้าต่างแล้วกอดตัวเองเบาๆ ฝังจมูกลงบนเสื้อสูทที่ยังพอหลงเหลือกลิ่นบุหรี่ของควอนฮยอนบินอยู่
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆตั้งแต่คืนนั้น
มินฮยอนไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น เขาเพียงมองคนตัวสูงขับรถออกไปจนลับตา
พอเข้ามาในบ้าน มินฮยอนก็โดนพ่อกับแม่ว่าเอาเสียยกใหญ่ คนเป็นพ่อบอกว่าจะกักบริเวณมินฮยอนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เขาเอ่ยขอโทษ ก้มหน้ายอมรับผิดทั้งหมด
ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามินฮยอนก็ได้คิดและทบทวนอะไรหลายอย่างรวมถึงเรื่องราวในคืนนั้น
แต่เขาก็ไม่สามารถหาเหตุผลได้ว่าเพราะเหตุใดมินฮยอนถึงรู้สึกวูบโหวงราวกับมีบางอย่างหายไป
เขาถอนหายใจเบาๆแล้วเดินไปเปิดเพลงฟังเพื่อผ่อนคลาย แกะลูกอมรสสตรอว์เบอร์รี่ที่แสนโปรดปรานเข้าปาก หยิบหนังสือวรรณกรรมที่เขาอ่านมันวนไปประมาณรอบที่ห้าเข้าได้ แล้วเดินไปนอนลงที่เตียงนุ่ม
“อะ!”
มินฮยอนสะดุ้งสุดตัวเมื่อไม่ทันระวังกระดาษบาดเข้าที่นิ้วจนเลือดซึม เขาส่ายหน้าให้ความซุ่มซ่ามของตัวเอง แล้วยกนิ้วมาดูดเลือดในจุดที่โดนบาด
ลิ้นเล็กสัมผัสความเค็มจากเลือดผสมกับความหวานของลูกอมในปากแล้วเบ้หน้าเล็กน้อย มันก็ไม่ได้อร่อย ทำไมควอนฮยอนบินถึงได้ดูดมันราวกับขนมหวานแบบนั้นนะ
เมื่อชื่อใครบางคนเข้ามาในหัว มินฮยอนก็นิ่งไปแล้วถอนหายใจหนักๆ นอนราบกับเตียงแล้วตีขาไล่ความหงุดหงิด
เหลือบมองเสื้อสูทที่ตนเองใส่อยู่ก็ยิ่งหงุดหงิดจนต้องถอดออกมาวางไว้ข้างตัว
หมอนั่นบอกให้เขาเชื่อในโชคชะตา ยังไงเราก็จะได้พบกันอีก..
เชื่อก็บ้าแล้ว!!
มันก็แค่ความสัมพันธ์คืนเดียวกับคนแปลกหน้า!!
แต่ก็อดนึกถึงจูบรสบุหรี่ที่ผสมผสานอย่างลงตัวกับความหวานของลูกอมสตอว์เบอร์รี่ไม่ได้เลย
ควอนฮยอนบินทำให้เขาหงุดหงิด จะทิ้งเสื้อไว้ให้ทำไมก็ไม่รู้!
ก๊อก! ก๊อก!
“คุณมินฮยอนคะ มีคนมาขอพบค่ะ”
ไม่ทันได้เอ่ยถาม มินฮยอนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินออกไป
ถ้าหากถอนหายใจออกมาเป็นเงินได้ เขาคงรวยล้นฟ้าแล้ว
“ใครครับ” เอ่ยถามทันทีเมื่อลงมาถึงชั้นล่าง
“ไม่ทราบค่ะ ไม่ค่อยคุ้นหน้าเลย ตอนนี้เขารออยู่หน้าบ้านค่ะ”
มินฮยอนพยักหน้ารับแล้วเดินฝ่าลมหนาวออกไปหน้าบ้าน ทีแรกเขาคิดว่าคนที่ว่าจะรออยู่ในบ้านแล้วจึงไม่ได้เตรียมใส่เสื้อผ้าที่หนากว่านี้มาและเขาก็ไม่ได้ขยันขึ้นไปที่ห้องนอนอีกรอบแน่นอน
มินฮยอนกอดตัวเองแล้ววิ่งออกมาที่หน้าบ้านตามแม่บ้านบอก
เขาก้มหน้า หลับตาแน่นหลบลมหนาวที่พัดมา มินฮยอนตัวแข็งยืนนิ่งกับที่ ไม่ใช่เพราะว่าหนาวจนก้าวขาไม่ออก แต่เป็นเพราะ กลิ่นที่พัดมาตามสายลม
มินฮยอนจำได้
“ให้ตาย”
กลิ่นควันบุหรี่กลิ่นเดียวกับเสื้อสูทที่วางอยู่บนเตียงเขา
“หนาวจะแย่ ทำไมไม่ใส่เสื้ออุ่นๆ”
มินฮยอนจำเสียงได้
น้ำเสียงทุ้มใหญ่แสนน่าฟังแบบนั้น
“จริงๆผมมาหาคุณวันต่อมาเลยนะ แต่แม่บ้านบอกว่าคุณโดนกักบริเวณตั้งหนึ่งสัปดาห์แหน่ะ”
เขาว่าพร้อมถอดเสื้อโควทมาคลุมตัวมินฮยอน มือใหญ่ที่มีถุงมือไหมพรมหุ้มอยู่ดึงมวนสีขาวออกปาก พ่นควันออกมาก่อนจะโยนมันลงพื้น ใช้รองเท้าบูทหนังอย่างดีแล้วขยี้จนแบน เขาถอดถุงมือออกแล้วสวมมันให้มินฮยอน
“ผมบอกคุณแล้ว”
ใช่ เขาบอก
“ให้เชื่อในโชคชะตา”
ควอนฮยอนบิน
“เราจะได้พบกันอีก …
เพราะผมเป็นโชคชะตาของคุณ”
มินฮยอนใจเต้นแรงทำอะไรไม่ถูก ความหนาวที่เพิ่มขึ้นทำให้เขาเผลอกัดฟันพร้อมกับลูกอมสตรอว์เบอร์รี่ในปาก แล้วมันก็ดังเสียจนคนตรงหน้าหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
“ลูกอมสตรอว์เบอร์รี่สินะ”
“…”
“ไปนั่งรถเล่นกันไหมครับ”
FIN
สวัสดีค่ะ ไม่เจอกันมาสักพักแล้วเนอะ
หายไปประมาณเดือนนิดๆ และก็ไม่ได้เขียนบรยายเยอะๆแบบนี้มาสักพัก หากภาษาแปลกๆต้องขออภัยด้วยนะคะ
มาที่ฟิคของเราบ้าง บุหรี่ที่อ้างถึงในเรื่องที่ฮยอนบินสูบก็คือJLV Strawberry Menthol ตามที่อธิบายไปข้างต้น ที่เลือกให้พระเอกเราสูบบุหรี่ตัวนี้เพราะส่วนนึงให้เข้ากับเพลง ฮ่าๆ
จริงๆเราแต่งฟิคนี้ประมาณครึ่งเดือนก่อนแล้วก็หยุดไปเพราะไม่ค่อยว่าง จะสังเกตว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพฟิคเรื่องไหนเลย ต้องขอโทษทุกคนที่ทำให้รอด้วยนะคะ(หมายถึงถ้ามี แง้)
อย่างที่บอกไปว่าเราไม่ได้เขียนบรรยายมาสักพัก ตัวเองอ่านเองยังรู้สึกแปลกอยู่หน่อยๆ ไม่รู้ว่าภาษาที่ใช้ ทุกคนอ่านจะรู้สึกติดขัดหรือไม่ แถมยังมีฉากนั้นมาอีกนิดหน่อย ต้องขอบอกอีกครั้งว่าเราอ่อนกับซีนอย่างว่ามาก ไม่ถนัดจริงๆ ฮือ อาจจะไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ หากทำให้การอ่านติดขัดต้องขออภัยด้วยนะคะ TT
อ่านไปอ่านมา ทำไมถึงรู้สึกว่าไปคล้ายกับ os body นะ TT TT หรือเราคิดมากไปนะ...
ตอนนี้เป็นยังไงฝากคอมเม้นต์ ติ-ชมด้วยนะคะ หรือที่แท็ก #OurStoryบินมิน
ฝากด้วยนะคะ วันนี้ไปแล้วค่ะ ซียู :3
ด้วยรัก from มินฮยอนบินชิปเปอร์ที่มีกัปตันขี้ขิงชื่อฮยอนบินและมินฮยอน
14/12/2018
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
มันดีมากๆ เลยค่ะ
ใจง่าย ฟาดด้วยไม้เรียว
ฉากเมคเลิฟบนรถคือชอบมากๆ ผ้าปิดตาเอ่ย อือหื้อ -..-
คือแบบ ชวนไปนั่งรถเล่นกันเนี่ย ก็คิดดีๆไม่ได้แล้ว แงงงงง
ประโยคอันตรายของควอน ฮยอนบิน
ชอบประโยคนี้มาก ...
บ่งบอกได้ว่าถ้าได้ตกลงใจแล้ว รู้แน่นอนว่าอะไรจะตามมา ฮรุกกกกกกกกก
โอ้ย มันดี มันดีแบบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เราชอบอ่านฟิคที่เวลาอ่านเหมือนจะมีควันฟุ้งๆอะไรแบบนี้มาก
เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ยอมไปกะเค้าเลยนะลูก อยากจะเอาไม้เรียวฟาดซะจริง
ขอบคุณคุณคนเขียนมากนะคะที่แต่งออกมา เราชอบมากจริงๆค่ะ ฮื้อออออออ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 14 ธันวาคม 2561 / 05:32