ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : SF บันทึกรักในความทรงจำ ตอน 7 เจ็บทั้งใจ เจ็บทั้งกาย ทรมาณสุดๆ100%
ตั้งแต่ที่คนตัวเล็กวิ่งหนีเค้าออกมา เค้าก็ไม่รู้ว่าตัวเล็กไปอยู่ไหน หรือว่าไปอยู่กับต้น เค้าต้องไปถามให้รู้เรื่อง
"ต้น คชาอยู่ไหน" เต๋าเดินเข้ามาเรียกต้นเสียงดัง
"แกจะเรียกเสียงดังทำไมว่ะอยู่กันแค่นี้" ต้นบ่นขึ้นเพราะตกใจ
"ต้น เมื่อกี้คชามาหาแกรึเปล่า แกรู้มั้ยคชาอยู่ไหน" ยิ่งถามก็ยิ่งเสียงดัง
"ไม่ได้มาหา แต่ส่งข้อความมาแทนว่าจะไปร้านพี่อ้น กลับช้าหน่อย พวกแกทะเลาะกันหรอ" ต้นถามเพราะดูจากสีหน้าของเต๋า ก็รู้ว่าต้องมีเรื่อง
"ยังไม่ได้ทะเลาะกัน แต่คชาเข้าใจผิดเรา เรื่องเอิง" คนตัวโตมีสีหน้าที่ดูกังวลมาก
"เราบอกแล้วว่าให้เคลียร์ ให้แกเคลียร์" ต้นขึ้นเสียงกับเพื่อนรัก แกทำน้องชั้นเจ็บนะ
"คชาเข้าใจผิด ตอนนั้นเราไปบอกให้เอิงตัดใจ แต่คชาก็ไม่ฟัง ฮึก...ฮือ" คราวนี้คนตัวโตถึงกับร้องไห้ออกมา
"โอเค เราเข้าใจและเราจะช่วยพูดกับชาเอง ไปร้านพี่อ้นกัน" เมื่อต้นพูดจบก็ดึงมือเต๋าไปหาคชาที่ร้านพี่อ้นทันที
"พี่อ้น ชาขอบคุณมากนะครับที่ทำให้ชาสบายใจ ชาไปก่อนนะครับ แล้วเจอกันอี" คชาเดินออกจากร้านพี่อ้นไปได้สักพักนึง ต้นก็เปิดประตูเข้าร้านมาอย่างรีบร้อน
"พี่อ้น คชาหละครับ" ต้นถามอย่างรวดเร็วจนพี่อ้นจับสังเกตุได้ว่า สองพี่น้องนี่ต้องมีปัญหากันแน่เลย
"คชากลับออกไปได้สักพักแล้วหละ ต้นทะเลาะกับน้องหรอ" ต้นถึงกับชะงักพี่อ้นรู้พี่อ้นเดาออก เมื่อกี้คชาต้องมาระบายแน่ๆ เค้ามีความคิดดีๆและ ถ้าเล่าให้พี่อ้นฟัง พี่เค้าต้องช่วยพูดกับคชาได้แน่
"ผมกับคชาไม่ได้ทะเลาะกัน แต่เป็นเจ้านี้ต่างหากที่ทำให้คชาเป็นแบบนี้" ต้นชี้ไปที่ตัวการ
"แฟนคชาสินะ แล้วมีอะไรเล่ามาสิเพื่อพี่จะช่วยได้" แค่มองอ้นก็รู้แล้วสีหน้าของคนนี้ก้เพิ่งผ่านการร้องไห้มาเหมือนคชาเมื่อตะกี้นี้เลย ไม่บอกก็รู้
"พี่อ้น....เหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้" ต้นเรียกพี่อ้นเสียงดัง รู้อีกแล้วพี่เค้าต้องมีเวทย์มนต์อ่านใจคนแน่ๆเลย หลังจากนั้นต้นก้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง
"ต้น พี่เข้าใจและ พี่ขอสอนอะไรอย่างนึงได้มั้ยความรักของคนเราหน่ะมันไม่ได้จะสวยงามเสมอไปหรอกนะ แต่ถ้าพวกเธอเอาชนะมันไปได้ ก็ถือว่าเป็นคู่แท้กัน สิ่งสำคัญสำหรับตอนนี้คือ ใช้สติแก้ปัญหา" อ้นพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แล้วก็หันไปเตือนสติของเต่า จนตอนนี้เต๋าหยุดร้องไห้แล้ว
"ครับพี่ ผมคิดถูกที่มาพึ่งพี่" ต้นยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบที่ได้รับ
"ตอนนี้พี่คิดว่าอย่าเพิ่งเข้าไปเคลียกับคชาเลย ตอนนี้น้องกำลังโกรธ รอให้น้องใจเย็นก่อนละกัน" พี่อ้นบอก หลังจากนั้น ต้นกับเต๋าก็กับบ้านไป
ทางด้านคชาที่เดินมาจนถึงสีแยกที่จะต้องข้ามถนนแล้ว เค้ายืนรอไฟแดงอยู่ในหัวมันว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออกไม่รู้จะทำยังไงดี รถราที่วิ่งผ่านไปมาไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเลย
"พ่อหนุ่ม พ่อหนุม ไฟคนข้ามแล้วลูก ว้าย พ่อหนุ่มเป็นอะไรรึเปล่า ใครก็ได้ช่วยเด็กคนนี้ที" คนตัวเล็กได้ยินเสียงของคุณยายคนนั้น เค้าก็พยายามจะเดินแล้ว แต่ขามันก้าวไม่ออก จนกระทั่งสติดับวูบไปเลย
คุณยายคนนึงตะโกนร้องให้คนช่วย คนเริ่มทะยอยมามุงดู มีคุณป้าคนนึงกดโทรศัพท์โทรเรียกรถพยาบาล
วี่ว่อ วี่ว่อ~~~~~~~~~เสียงของรถพยาบาลดังมาตลอดทาง ภายในรถ นางพยาบาลก็เอาเครื่องช่วยหายใจมาครอบจมูกผู้ป่วยไว้
เตียงที่เข็นลงจากรถพยาบาล รีบเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันที คุณหมอ และนางพยาบาลช่วยกันตรวจเด็กหนุ่มคนนี้
"คุณพยาบาลเดี๋ยวเอาเด็กคนนี้ทำ MIR เลยนะ " ก่อนที่คุณหมอจะสั่ง คุณหมอดูทั้งผลเลือด ความดัน
"ค่ะ" นางพยาบาลตอบรับแล้ว รีบเข็นเตียงคนไข้ไปที่ห้องพักผู้ป่วย รอจนกว่าจะฟื้น สักพักนึงคชาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา เห็นเพดานสีขาวที่ไม่คุ้นตา นี่เค้าอยู่ไหนเนี่ย คิดในใจ
"หนูฟื้นแล้วหรอจ๊ะเดี๋ยวพี่เรียกคุณหมอให้นะจ๊ะ" ก่อนที่พี่พยาบาลจะเดินออกไป คนตัวเล็กก็คว้าขอมือนั้นให้หยุดเิดิน
"พี่ครับผมมาอยู่โรงพยาบาลได้ยังไงครับ" เพียงแค่เห้นชุดที่พี่สาวใส่ก้รู้ได้ทันทีเลยว่าเป็นโรงพยาบาล
"ก็น้องเป็นลมอยู่ที่สีแยก และมีคนโทรมาแจ้งพวกพี่หน่ะ เดี๋ยวพี่ไปตามคุณหมอนะ แล้วเราจะได้ไปทำ MIR กัน พี่ชื่อจอยนะ" พยาบาลสาวหันมายิ้มให้กับคชาแล้วเดินออกไป
ตอนนี้ในใจของคชากำลังรู้สึกกลัว เค้าไม่ได้คิดมาเรื่องคนตัวโตแต่เค้ากำลังคิดมากเรื่องตอนนี้ ทำไมต้องทำ MIR มันคืออะไร เค้าไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย ก็แค่หน้ามึดนิดหน่อยเอง คนตัวเล็กคิดในใจ
"สวัสดีครับ หนุ่มน้อย หมอชื่อเต้นะครับ ตอนนี้หมอจะพาไปตรวจนะไม่ต้องกลัว" หมอพุดอย่างใจดี
"คุณหมอครับ ผมไม่ได้เป็นอะรไมากไม่ต้องตรวจก้ไดนะครับ เดี๋ยวผมต้องรีบกลับบ้านแล้ว ที่บ้านไม่มีคนอยู่
"ไม่ได้หรอกจะ เพราะหมอพบอะไรบางอย่างในตัวหนู ไปเถอะแป๊บเดียว" คุณหมอพยาเกลี่ยกล่อมจนสำเร็จ
คนตัวเล็กขึ้นไปนอนอยู่บนเครื่อแปลก เครื่องที่เค้าเคยเห็นแต่ในละคร ไม่คิดว่าจะได้มานอนเอง คนส่วนใหญ่ที่ได้มานอนบนเครื่องนี้มักจะเป็น โรคร้ายแรงทั้งนั้น แล้วจะไม่ให้เค้ากลัวได้ยังไง พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่ ขอให้ไม่มีอะไรด้วยเถอะ
"เสร็จแล้วหละจ๊ะ ออกไปรอฟังผลกับพี่ก่อนนะ" สักพักนึงคุณหมอก็พาเค้าไปห้องคอมพิวเตอร์ห้องหนึ่ง แล้วเริ่มเล่าผลตรวจให้ฟัง
"หนูจะหมออยากจะเจอผู้ปกครองของหนูหน่ะ พวกท่านควรจะได้รับทราบ" สีหน้าของคุณหมอดูไม่ดีเอามากๆ จากที่ดูผลตรวแล้ว
"คือพวกท่านไปทำงานอยู่กรุงเทพครับ ผมอยู่กับพี่ชาย" คชาไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วงจึงตอบอกไปแบบนี้
"งั้นพี่ชายก็ได้ครับ" คุณหมอไม่รู้ว่าพี่ชายก็อายุพอๆกัน
"วันนี้พี่ของผมไปเรียนพิเศษครับเค้ามาไม่ได้หรอก ตกลงผมเป็นอะไรครับคุณหมอ" คชาอยากรู้ใจจะขาดจะได้เตรียมตัวเตรียมใจ
คุณหมอดูลังเลใจที่จะตอบ เด็กขนาดนี้จะรับรู้เรื่องแบบนี้คนเดียวไหวได้ยังไงกัน แล้วพี่ชายก็ยังอายุพอๆกันอีกจะดูแลกันได้ยังไง แต่สักวันก็ต้องรู้ บอกเลยก็ได้
"หนูป่วยเป็นมะเร็งในสมอง ต้องได้รับการบำบัด" สิ่งที่ได้รับรู้มามาสาหัสกว่าที่คิดจริงๆ ทำมผมต้องเจ็บทั้งใจเจ็บทั้งกายด้วย
"หนูไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วยจริงๆหรอจ๊ะ" ทั้งคุณหมอทั้งพยาบาลรู้สึกทึ่งกับเด็กคนนี้ ได้รับรู้ข่าวร้ายขนาดนี้ แต่ก็ไม่ร้องไห้ออกมาเลย
เค้าไม่รู้จริงๆชีวิตนี้จะเดินต่อไปอย่างไร จะทำอย่างไร คนที่ตอนนี้พึ่งได้ที่สุดก็คือพี่อ้น เค้าต้องหาคนที่ไว้ใจได้และช่วยเค้า เพราะตอนนี้ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่มากมายด้วย
"คุณหมอครับผมมีพี่อีกคนนึงเค้าทำงานแล้วครับเดี่ยวผมจะโทรหาเค้า" คชาบอกหมอ ซึ่งทำให้หมอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
กริ้ง กริ้ง
"คชาโทรมาหาพี่อ้นมีอะไรรึเปล่า หรืออยากเล่าให้พี่ฟังแล้ว" พี่อ้นที่ยังไม่รู้เรื่องก้นึกว่าเป็นเรื่องเมื่อนตอนเย็น ถึงเค้าจะได้ฟังความจริงจากต้นและคนนั้นแล้ว เค้าก็อยากฟังจากปากของคชาด้วย
"พี่อ้น มาหาคชาหน่อยสิ ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดนะ คุณหมอครับจะคุยกับพี่ผมใช่มั้ย นี่ครับ" คชายื่นโทรศัพท์ให้คุณหมอเต้
"คุณอ้นใช่มั้ยครับนี่คุณหมอเต้แผนกสมองนะครับ ผมอยากให้คุณมาอยู่กับน้องของคุณตอนนี้ เพราะหมอมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณครับ"
"น้องผมทราบรึยังครับ" อ้นตกใจมาก แทนที่คชาจะอยู่บ้านกลับไปอยู่ที่โรงพยาบาลได้อย่างไร แล้วต้นไม่รู้หรอ
"น้องคุณทราบแล้วครับ" คุณหมอพูดเสียงอ่อนลง
หลังจากวางสายโทรศัพท์เสร็จ อ้นก็รีบหยิบเสื้อคลุมแล้วรีบขับรถออกจากบ้านเพื่อไปหาคชาทันที เมื่อเดินเข้ามาหาคชาและคุณหมอในห้องตรวจ หมอก็เริ่มเล่าแล้วบอกว่าคชาควรทำอย่างไรบ้างกับอ้น
"คุณอ้นครับ ตอนนี้น้องคุณควรได้รับการบำบัดนะครับ หมอสั่งยาแก้ปวดให้แล้วถ้ามีอาการปวดก็กินมันเข้าไปนะ แต่ทีสำคัญที่สุดหมออยากให้หนูตัดสิ้นใจ" หมอพูดด้วนสีหน้าจริงจัง
"ชาๆต้องบำบัดนะ พี่ขอร้องอย่านิ่งแบบนี้สิ โทรไปบอกคุณพ่อกับคุณแม่เด๊่ยวนี้เลยด้วย เดี๋ยวพี่บอกให้"พี่อ้นดึงโทรศัพท์ของคชากดหาเบอร์พ่อแม่น้องเค้า แต่ก็ถูกมือเล็กห้ามไว้
"พี่อ้นไม่ต้องบอกใครทั้งนั้นแหละครับ รู้กันสองคนพอ ชาไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง" เค้าไม่พร้อมจริงๆ
ทั้งสองคนเดินออกไปรอยาที่ห้องจ่ายยา อ้นมองน้องอย่างไม่เข้าใจ ดูเข้มแข็งเกินไปแล้วไม่ร้องไห้สักหยดเลย
"นายนนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์เชิญรับยาที่ช่องหมายเลข2 ค่ะ" เสียงของเภสัชกรเรียกขึ้น
หลังจากรับยาที่ห้องจ่ายยาเสร็จก็เดินกลับไปหาหมอที่ห้อง
"อย่าลืมทานยาให้ตรงเวลานะแล้วถ้าเป็นไปได้ครั้งหน้าหมออยากพบพ่อกับแม่ของเธอ" คุณหมอบอก ซึ่งเป็นสิ่งที่อ้นเห้นด้วยเป็นอย่างมาก
"หมอครับผมตัดสินใจแล้ว ผม..." สิ่งที่คนตัวเล็กพูดมาทำให้หมอและพี่ชายถอนหายใจเฮือกใหญ่
"คชาตัดสินใจแบบนี้คิดดีแล้วจริงๆหรอ พี่เป็นห่วงนะ" ความดื้อของน้องที่อ้นเอาชนะไม่ได้
"ครับ พี่อ้นผมกลัว กลัวทุกอย่างกลัวไปหมด ผมไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าคนอื่น ในเมื่อผมเลือกจะไปจากเค้า ผมก็จะไม่ทำตัวรั้งเค้าไว้แบบนี้ ผมไม่ชอบให้ใครมาสงสารด้วย" สายตาเรียบนิ่งของน้องชาย ใครก็ไม่สามารถตีความได้
หลังจากที่พี่อ้นส่งหน้าประตูบ้าน ตอนนี้ก้เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว คนตัวเล็กเดินไปอาบน้ำ แล้วแวะเปิดประตูห้องนอนต้นเมื่อเห็นพี่ชายนอนแล้วจึงค่อยๆปิดประตูลงไม่ให้เสียงดัง แล้วเดินไปที่ห้องนอนตัวเอง กว่าจะคมตาให้นอนหลับได้คนตัวเล็กใช้เวลาทำใจตั้งนานเค้าไม่อยากจะเชื่อ เรื่องทุกอย่างที่ได้ยินมาอะไรๆก็เค้าทั้งนั้นเลย เคยคิดว่าครอบครัวของเรามีความสุขแล้วแท้ๆ แต่คนที่เจ็บปวดกลับกลายเป็นตัวเค้าเอง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบลงไปอีกตอนนึงแล้ว ขอโทษนะที่มาอัพช้า ไรเตอร์ทำภาระกิจเสร็จแล้ว
อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วนะเรื่องราวตอนจบอาจจะไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดก็ได้
ลองเดาดู
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น