ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : sf way of life 1
"ผู้ชนะประจำสัปดาห์นี้ระหว่างdream girls-shinee กับ leehai-rose ได้แก่ shinee ยินดีด้วยครับ"
พวกเราชนะหรอ โอ้ว ไม่หน้าเชื่อ ทั้ง5หนุ่มยังคงยืนงงอยู่ จนกระทั่งพิธิธีกรนำรางวัลแล้วก็ช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี คีย์ที่ถือไมค์อยู่ในมือยกขึ้นมากล่าวขอบคุณ
"ขอบคุณที่สนับสนุนพวกเราตลอดมาครับ ขอบคุณพี่ผู้จัดการ ทีีมงานที่ทำงานกับเราทุกคน ขอบคุณพี่ๆโปรดิวเซอร์ที่ช่วยแต่งเพลงดีให้พวกเรา/ ขอบคุณท่านประธาร / ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ และผู้มีพระคุณครับ ขอบคุณครับ" คีย์และอนยูต่างแสดงความในใจกับการที่ได้รับรางวัลนี้ ส่วนคนที่เหลือก็ยิ้มดีใจจนพูดไม่ออก
"หึหึ น่าภูมิใจจัง ที่เธอขอบคุณฉันพ่อหนุ่มน้อย มันยังคุ้มที่จะลงทุนกับพวกเธอ" หญิงวัยกลางคนยกยิ้ม ก่อนที่จะปิดทีวี เค้าเดินออกจากห้องทำงานส่วนตัวลงมายังห้องพักศิลปิน เพื่อมาเยี่ยมidolเด็กๆหลายคน จนกระทั่งเธอพบกับคนที่ต้องการ "ดีใจกับรางวัลด้วยหละ พ่อหนุ่มน้อย ไว้เราเจอกันนะ" คำพูดสุดท้ายของเธอลงไปกระซิบที่ข้างหูอย่างแผวเบา เด็กหนุ่มถึงกับหน้าเสียในทันที แล้วเธอก็เดินจากไป ทิ้งให้เด็กคนนั้นยืนตัวสั้นท่ามกลางสายตาจับจ้องของคนในวง
+++++++++++++++++++++++++++++++
"สวัสดีครับวันนี้รายการของเรามีแขกรับเชิญสุดพิเศษมาร่วมรายการด้วย เชิญพบกับวงshinee"
พิธีกรก็ได้แนะนำแขกรับเชิญที่เหลือนอกจาวงshinee พวกเค้าก็พูดคุยกันไปในแต่หละหัวข้อ คนอื่นๆก็เล่าเรื่องของตัวเองในแต่ละหัวข้อ มีทั้งตลกและก็ซึ้ง จนกระทั่งพิธีกรได้ถามคำถามขึ้นเป็นหัวข้อฉายา คนแรกที่โดนถามคือหนุ่มอนยู
"ช่วงคำถามต่อไปเกี่ยวกับฉายาครับ อนยูครับ"
"เน่.."
"หลายคนหมอบตำแหน่งให้คุณเป็นถึงเต้าหู้ผู้บริสุทธิ์ พวกคุณในวงรู้สึกยังไงกับฉายานี้ของเค้าครับ"
" ผมคิดว่าฮยองเค้าได้ฉายานี้จากแฟนคลับ เพราะภาพลักษณ์ของเค้า เป็นคนที่ดูอบอุ่น รอยยิ้มที่ดูสดใสน่ารัก/ใช่ครับ ฮยองยังดูเป็นผู้นำอีกด้วย" จงฮยอนกับมินโฮพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ซึ้งมันก็เป็นเรื่องจริง
"แล้วคุณอนยูหละครับคิดว่าไง"
"ผมรู้สึกแปลกๆนิดหน่อยครับ ผมว่าผมน่าจะเหมาะกับเต้าหู้จิ้มซีอิ้วดำมากกว่า555" ใบหน้าและรอยยิ้มที่สดใสผิดกับดวงตาหวานที่ระเรื่อด้วยหยาดน้ำตาเมื่อพูดถึงฉายาของตัวเองราวกลับว่าเป็นเรื่องตลก แต่ใครจะรู้หละว่าอนยูผู้นี้กำลังร้องไห้อยูข้างในใจ แต่เค้าไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้จึงต้องเก็บมันไว้คนเดียว
ทุกคนหัวเราะไปกับคำพูดของอนยู เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกจริงๆ ผิดกับรอยยิ้มที่หม่นลงของ อีทึกหัวหน้าวงsj เพราะเค้ามองเห็นความรู้สึกในตาที่แท้จริงของอนยู เค้าอยากบอกน้องกลางรายการว่ามารายการวาไรตี้ไม่ควรพูดเรื่องที่แท้งใจตัวเอง ไม่ใช่ทุกคนที่จะดูไม่ออกว่าอันไหนจริงอันไหนฝืน
"อ่ามุขนี้คุณอนยูผ่านครับ เป็นเรื่องราวที่ตลกๆดีนะครับ5555"พิธีกรดำเนินรายการต่อไป้
"ในวงของพวกคุณใครทำอาหารเก่งและขี้บ้นที่สุดครับ" คำตอบที่ทำให้คังโฮดงสุดช็อก
"คีย์กุนทำอาหารเก่งครับโดยเฉพาะสปาเก็ตตี้ เค้าเคยไปออกรายการไอดอลขาขึ้นด้วยนะครับ ตอนที่เค้าไปเรียนทำอาหารและได้ใบประกาศเชฟ"มินโฮกล่าว
"แต่ฮยองเค้าไม่ค่อยเก็บครับ แล้วคนที่คอยตามเก็บและบ่นมากที่สุดก็พี่มินโฮครับ" แทมินเริ่มแฉแล้วก็หัวเราะเบาๆ
"นี่..."ออมม่าคีย์หันไปตีน้องเล็กทันที แล้วก็เริ่มแฉน้องบ้าง"แทมินเป็นคนที่ลืมของง่ายมากครับ ชอบทำของหายแล้วก็หกล้มอยู่บ่อยๆพอกับพี่อนยูครับ ฉันเตือนนายแล้วนะถ้าทำของหายอีก เลิกหามันซะเถอะ" คีย์ไม่ลืมที่จะพาดผิงไปถึงพ่อบ้านอนยู ทำเอาทุกคนในห้องส่งหัวเราะกันรอบใหญ่อีกครั้ง กับความขี้ลืมของมักเน่ ตลอดรายการอนยูก็หาจังหวะพูดบ้างแต่ก็น้อย เค้าได้แต่ยิ้มแล้วก็หัวเราะอย่างเดียวกับเรื่องที่น้องเอาพูดกัน
หลังจากที่เลิกอัดรายการนี่ก็เป็นเวลา4ทุ่มแล้ว พวกเค้าเดินลงมาจากสถานีเพื่อขึ้นรถกลับหอ เพราะพวกเค้าไม่ต้องไปที่ไหนต่อแล้ว เมื่อกี้เหมือนลมเย็นๆเดินผ่านอนยู เค้ารู้สึกสั้นอย่างบอกไม่ถูกเหมือนว่ากำลังจะเจอรลางร้ายบางอย่าง จนแทมินสังเกตได้และเดินมาจับมือของพี่ใหญ่ให้เดินไปพร้อมกับน้องเล็ก เสียงของมินโฮกับคีย์ก็ทะเลาะกันเป็นประจำ โดยมีจงฮยอนคอยห้าม บางครั้งก็เป็นจงฮยอนกับมินโฮที่ตีกันบ้างตามภาษา พลันสายตาของจงฮยอนไปสะดุดกับคุณน้าคนนึงซึ่งเค้าจำได้ว่าเป็นบรรณาธิการข่าวของสถานีนี้
"โอ๊ะ สวัสดีครับ"จงฮยอนเป็นต้นหลักในการกล่าวทักทาย เค้าก้มหัวเกือบ90องศาเพราะว่าเป็นผู้ใหญ่มากๆ ทำให้ทุกคนกล่าวทักทายตาม ในระหว่างนั้นอนยูก็กล่าวทักทายโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมามองผู้หญิงคนนั้น มือข้างที่จับกับแทมินก็บีบแน่ขึ้น จนแทมินรู้สึกได้
เมื่อพวกเข้าเดินไปถึงรถอนยูเลือกที่จะเดินเข้าไปนั่งข้างในสุด ตามด้วยแทมิน จงฮยอน มินโฮ คีย์ ส่วนพี่ผู้จัดการก็นั่งหน้ากับคนขับรถ รถเคลื่อนตัวออกมาจากสถานีได้ไม่นาน น้ำตาที่กลั้นไว้พร้อมกับหัวใจที่เหนื่อยล้าก็ได้ปล่อยให้มันไหลออกมา เสียงสะอื้นที่เบามาก เพราะไม่อยาให้น้องๆได้รับรู้ถึงความยากลำบากของเขา มือข้างนึงที่ไม่ได้จับกับแทมินเค้าพยายามที่จะเช็ดน้ำตาที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดไหล
"ฮึก...ฮือ..แทมินพี่ขอบคุณที่นายจับมือพี่ในวันนี้นะ ฮึก...น้องเล็กผู้น่ารัก"เค้าก้มลงไปพูดกับน้องเล็กเบาๆแต่น้องเล็กคงไม่รับรู้เพราะตอนนี้หลับไปแล้ว
ผมกลัวกับผู้หญิงคนนั้น ผมกลัวว่าเค้าจะเป็นจุดเปลี่ยของเรื่องทั้งหมด ผมกลัวเค้าทำร้ายคนอื่นๆในวง ผมกลัวบริษัท สัญญาของผมที่เขียนไว้กับทางต้นสังกัด ผมกลัวว่าวันนั้นผมจะต้องชดใช้ ผมกลัวแม่จะเสียใจ ผมไม่รู้ว่าผมคิดถูกรึเปล่าที่ผมเดินมาทางนี้ ผมไม่รู้อะไรเลยตอนนี้ ผมคงต้องยอมต่อไป เพื่อปกป้องวงของเรา แต่ถ้าวงต้องเกิดอะไรขึ้นเพราะผม ผมก็จะไปรับผิดที่ผมตกเป็นเหยื่อเพียงคนเดียว ผมรู้ว่ามีหลายคนโดนอย่างผม แต่เค้าเลือกที่จะแฉหรือไม่ก็จากไปอย่างเงียบๆตลอดๆการ ถ้ามันถึงจุดสิ้นสุดผมก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกอะไร
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"เจ้าหนุ่ม นายร้องเพลงเพลงเพราะดีนิ สนใจอยากมาเป็นนักร้องมั้ย ถ้าสนใจก็มาหาชั้นตามวันเวลาในนามบัตร ออลืมถามนายชื่ออะไรนะ"
"ผมชือลีจินกีครับ" เด็กหนุ่มก้มหัวให้กับคุณลุงที่ให้นามบัตรกับเค้า ตอนนี้แม่ของเค้ากำลังป่วย และความฝันของเค้าที่อยากจะเป็นนักร้อง
เวลาผ่านไปไม่นานเด็กหนุ่มจึงตัดสินใจไปตามที่นามบัตรของคุณลุงบอกไว้ เพราะความฝันของเค้าคืออยากเป็นนักร้องจะได้ดุแลแม่และครอบครัวได้ เค้าไม่นึกว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นกับตัวเอง
"ไม่นะครับ คุณจะทำอะไรผม ไม่ผมขอร้อง" จินกิเดินถอยหลังไปติดประตู มือบางพยายามแกะประตู แต่ทว่าแกะเท่าไหร่ก้ไม่ออกราวกับว่ามีคนจงใจล็อกจากด้านนอก
"แกอยากเป็นนักร้องไม่ใช่หรอ นี้คือจุดเริ่มต้นของการที่จะอยู่ในวงการนี้นะ" รอยยิ้มที่หิวกระหายปรากฏขึ้นใบหน้าของลุงหื่นคนนั้น
ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย มือหนาจับแขนของอนยูไว้กับประตูแต่มีหรือที่จินกิจะไม่สู้เค้าเตะไปที่เป้าของลุงคนนั้น
"โอ๊ยแกกล้าทำฉันหรอ จะไม่ยอมง่ายใช่มั้ย" ร่างหนาผลักอนยูให้ล้มลงกับพื้น
"อย่าครับ อย่า อื้อ..."
ร่างของอนยูที่ตอนนี้นอนกระสับกระสายไปมา รวมทั้งเสียเพ้อ ออกมาเป็นระยะ ทำให้คนที่นอนอยู่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงรบกวน
"พี่ครับ พี่อนยู พี่ตื่นสิครับ" น้องเล้กทั้งเรียกทั้งเขย่า แต่ร่างของพี่ชายก็ไม่ตื่นมีเพียงมือที่ยกขึ้นมาปัดป้อง คนตัวเล็กที่กึ่งหลับกึ้งตื่นขึ้นมาดูพี่ชาย ไม่รู้จะทำยังไงดี จึกลุกขึ้นไปปลุกจงฮยอนที่นอนอยู่ให้ขึ้นมาช่วย
"แทมินปลุกพี่มีอะไรหรอ" จงฮยอนยังงงอยู่
"พี่ครับพี่ใหญ่เป็นอะไรไม่รู้ นอนกระสับสายแล้วก้ละเมอแปลกๆ ผมนอนไม่หลับ แต่ปลุกแล้วก้ไม่ตื่น แถมยังเอามือมาปัดผมอีก พี่ไปดูกับผมหน่อย" จงฮยอนลุกไปเปิดไฟเพื่อจะได้มองชัด
เฮือก... เป็นจังหวะเดียวกับที่อนยุสะดุ้งตื่นขึ้นมา เหงือผุดเต็มใบหน้า และน้ำตาที่ไหลนอง ทำเอาน้องๆตกใจ
"พี่ครับฝันร้ายหรอ"จงฮยอนเดินไปที่เตียงของอนยู
"ฮึก...ฮือ"ร่างบางโผกอดน้องอย่างอดไม่ได้ที่จะหาที่พึ่ง จงฮยอนกอดตอบพี่ใหญ่โดยมีร่างของน้องเล็กนั่งจับมือให้กำลังใจอยู่
"พี่ครับไม่มีอะไรแล้วนะ พี่แค่ฝันร้าย ไม่ต้องร้องน้าา นอนพักนะครับ พวกผมจะอยุ่เป็นเพื่อนจนกว่าพี่จะหลับ"
"ขอบคุณนะน้องรอง น้องเล็ก พี่แค่ฝันร้ายเฉยๆ ไปนอนเถอะพี่ขอนั่งเงียบๆสักพัก" อนยูเชิงบอกให้น้องไปนอนเพราะพรุ่งนี้มีซ้อมแต่เช้า เพราะตอนเย็นต้องไปออกมิวสิคแบง
น้องเล็กจึงปีนขึ้นไปนอนเตียงชั้นบนของตน ส่วนจงฮยอนก็ลมตัวลงที่เตียงของตัวเองข้างเตียงของพร่ใหญ่ สายตาก้มองด้วยความเป็นห่วง พี่คงเหนือจากงานมากไปเลยเก็บเอาไปฝันร้ายแน่เลย คิดได้ดังนั้นก้เข้าสุ่ห่วงนิทราของตัวเอง
"ไม่ได้ฝันแบบนี้มาซักพักแล้ว มันอะไรกัน"เค้าพึมพำกับตัวเองก่อนจะล้มตัวนอนต่อเช่นกัน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่รู้ว่าจะมีคนเข้ามาติดตามไหม แต่ก็เขียนออกมาจากความรู้สึกที่อยากให้เป็น เรื่งนี้เน้นดราม่าของอนยูและสนองความอยากของไรท์ที่อยากทำเรื่องแบบนี้ ขอให้อ่านให้สนุกนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น