คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทเริ่มต้น
บทเริ่มต้น : ความฝัน
โรงเรียนแห่งหนึ่ง ณ ห้องเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1
“วันนี้ครูจะให้นักเรียนทุกคนบอกสิ่งที่อยากจะเป็นในอนาคตนะคะ”คุณครูสาวสวยพูดก่อนที่จะเดินไปวางหนังสือที่หอบมาลงกับโต๊ะของครูที่ตั้งไว้ทางริมห้อง มันเป็นมุมที่เมื่อครูนั่งแล้วสามารถมองเห็นนักเรียนได้ทั้งห้องหากไม่มีนักเรียนตัวสูงปรี๊ดมานั่งบังวิสัยทัศน์ของพวกเขา
“คนเราควรที่จะมีความฝันหรือเป้าหมายในชีวิตเพื่อจะได้มีความมุ่งมั่นที่จะทำมันให้สำเร็จ ถึงแม้จริงๆครูก็ไม่ค่อยอยากจะมาเป็นครูเท่าไหร่ก็ตามทีเถอะนะ”เธอพูดบ่นๆพลางถอนใจ
“เอาเถอะมาเริ่มเลยดีกว่า...เริ่มจากคนซ้ายสุดเลยละกันนะคะ”เธอชี้ไปที่เด็กผู้หญิงทางริมซ้ายของห้อง เด็กหญิงสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
“หน..หนูอยากเป็นนักแสดงค่ะ”เธอก้มหน้า แสดงท่าทีบ่งบอกได้เลยว่ากำลังเขินแบบสุดขีดเลย เมื่อเธอพูดจบก็เกิดเสียงหัวเราะจากพวกเด็กเกรียนหลังห้อง นั่นคงเป็นเพราะเธอนั้นหน้าตาไม่ค่อยดีและไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่นัก
“หลังห้องน่ะเงียบๆกันหน่อย หัดเกรงใจเพื่อนบ้างสิ”ครูทำหน้าตาน่ากลัวเหมือนฆาตกรในหนังชี้ไม้ไปที่เหล่าเด็กเกรียนหลังห้อง พวกนั้นจึงนิ่งไป
“เอาเถอะ...คนเราก็มีความฝันของเราล่ะนะ ถ้าเธออยากเป็นนักแสดงก็ต้องมีความมั่นใจมากกว่านี้นะคะ นี่แค่ยืนตอบคำถามของครูก็ไม่ค่อยกล้าแล้ว ถ้าเกิดได้เป็นจริงๆล่ะก็เราต้องอยู่ต่อหน้าคนมากกว่านี้หลายเท่าเลยนะ นั่งลงได้ค่ะ...คนต่อไปเลย”เด็กผู้ชายคนข้างๆลุกขึ้น
“ผมอยากเป็นหมอครับ”เขาตอบอย่างมั่นใจ ปราศจากความกลัวต่างจากเด็กหญิงคนเมื่อกี้
“เหตุผลล่ะ”
“เพราะผมอยากช่วยรักษาคนอื่นแล้วก็เป็นอาชีพที่ได้เงินดีด้วยครับ พ่อแม่ผมก็อยากให้ผมเป็นด้วย”เด็กชายตอบ มันเป็นคำตอบระดับ“โครตเบสิค”สำหรับเด็กที่อยากเป็นหมอ
“อ๋อจ่ะๆนั่งลงได้ คนต่อไป”เด็กผู้ชายคนถัดไปลุกขึ้น
“ผมอยากเป็นนายกครับ”เขาตอบแบบติดตลก คราวนี้ไม่ใช่แค่พวกเด็กข้างหลัง แต่เกิดเสียงฮาจากทั่วทุกมุมห้องเลย ถ้ามดที่เดินอยู่หลังห้องมันฟังเข้าใจมันก็คงขำไปด้วยแล้ว..
“ก็ดีนี่คะ ไม่เห็นต้องขำเลย”เธอยิ้มเล็กน้อยพยายามกลั้นขำไม่ให้หลุดออกมา กลัวว่าจะทำให้เด็กชายคนนั้นเสียความรู้สึก
“เหตุผลล่ะ”
“ผมอยากจะแก้กฎหมายใหม่ ถ้าครูคนไหนสั่งการบ้านนักเรียนให้โดนประหารชีวิต”เขาทำหน้าจริงจัง คราวนี้มีเสียงเฮมาจากเหล่าเด็กเกรียนหลังห้อง
“แหม..เธอนี่นะ”หลังจากนั้นนักเรียนในห้องก็แนะนำตัวไปเรื่อยๆเกิดเสียงเฮบ้างเสียงหัวเราะบ้างในห้องเรียน จนเกือบหมดแล้ว จนถึงเด็กชายที่นั่งอยู่เกือบหลังสุดของห้องเรียน
“ถึงตาเธอแล้ว..ลุกขึ้นสิ”เด็กหนุ่มลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมทุกวางมือที่โต๊ะอย่างแรงทำให้เกิดเสียงดังไปทั่วห้อง
“ผมอยากสร้างเกมที่คนสามารถเข้าไปเล่นได้จริงๆครับ!!”เขาตอบด้วยเสียงดังอย่างมั่นใจ ห้องเรียนถูกความเงียบครอบงำ ทุกคนตกอยู่ในอาการ “เงิบ” ไปพักหนึ่ง
“เธอคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ทำกันได้ง่ายๆขนาดนั้นเลยรึไงจ๊ะ”
“เพราะมันไม่ง่ายน่ะสิครับผมถึงอยากจะทำ ผมอยากลองสัมผัสถึงสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ในโลกนี้ อยากมองคนอื่นในมุมมองใหม่ อยากลองมีพลังพิเศษแบบที่ไม่ใช่แค่เห็นในจอดูน่ะครับ ผมจะทำให้ได้”เด็กชายคนนั้นตอบอยากมั่นใจ เด็กชายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความฝัน เขาทำให้ครูที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นต้องทึ่งกับความคิดของเขา
“ครูเชื่อแล้วล่ะจ่ะว่าเธอคิดจะทำมันจริงๆขอให้เธอทำให้สำเร็จในสักวันหนึ่งนะ”
พักกลางวัน
“ปราชญ์ นี่เธอคิดจะทำจริงๆหรอ มันเป็นไปไม่ได้หรอกน่า”เด็กหญิงคนหนึ่งถามเด็กชาย
“มันต้องเป็นไปได้สิ ฟ้า ไม่เชื่อเราหรอ”
“ก็แหงน่ะสิ ปราชญ์ก็ไม่ได้เรียนเก่งอะไรเลย คิดว่าจะทำอะไรแบบนั้นได้งั้นเหรอ”ในหัวของฟ้าตอนนี้คงมีแต่คำว่า “เป็นไปไม่ได้สำหรับความคิดของปราชญ์”
“ก็บอกว่าทำได้ก็ทำได้สิ คอยดูละกันล่ะ เราจะทำให้ฟ้าต้องอึ้งไปเลยล่ะ...”
“เอางี้มั้ยล่ะถ้าปราชญ์ทำได้นะ ฟ้าจะยอมเป็นแฟนกับปราชญ์เลยล่ะ...ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ”ฟ้ายิ้มให้ก่อนเดินจากไป
13ปีต่อมา
โลกได้เข้าสู่ยุคที่ใกล้เข้าสู่จุดสูงสุดของเทคโนโลยี เทคโนโลยีที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่น่าเชื่อมันทำให้บางสิ่งที่เป็นไปไม่ได้กลับเป็นไปได้
แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อยิ่งนั้นคือทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นมาจากพวกเขา....
“นี่...ตื่นได้แล้ว”หญิงสาว หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเตียงนอนสีฟ้าลายบัซ ไลทเยียร์ที่ชายหนุ่มกำลังนอนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ชวนให้นึกว่าฝันถึงเรื่องอะไรอยู่
แต่มันก็ชวนให้หญิงสาวโมโหเพราะนี่เป็นรอบที่สามแล้วที่เธอมาปลุกเขาแต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับราวกับว่าเธอกำลังยืนเรียกศพคนตายให้ลุกขึ้นมาเต้นแอโรบิคก็ว่าได้ แต่ก็เขาก็คงเป็นศพได้อีกไม่ถึงนาที เพราะคราวนี้หญิงสาวได้หิ้วอาวุธไม้ตายมาด้วย...
“นี่ปราชญ์ ถ้าปราชญ์ไม่ลุกขึ้นภายในสามสิบวินาที ฟ้าจะเอาน้ำร้อนสาดใส่เลยนะ เพิ่งจะเดือดเมื่อกี้เลยด้วย !!” หญิงสาวตะโกนเรียกเป็นครั้งสุดท้าย แต่ศพก็ยังคงเป็นศพ ชายหนุ่มยังนอนยิ้มอย่างสบายใจไม่รับรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาเลย
“เฮ้อ ไม่ไหวจริงๆเลยดันต้องมาเป็นแฟนกับคนแบบนี้ได้...ฟ้าจะเริ่มนับแล้วนะ 1...2...3... , ...30” ชายหนุ่มยังคงไม่มีท่าทีตอบสนอง หญิงสาวจึงยกหม้อที่เธอต้มน้ำไว้สาดไปที่ชายหนุ่มเพื่อชุบชีวิตเขาขึ้นมา
ซ่า~ เสียงเกิดจากการที่น้ำร้อนกระทบกับร่างของศพเข้าเต็มๆ ทำให้ศพเกิดฟื้นคืนชีพดั่งเวทมนตร์ ชายหนุ่มลุกขึ้นมาแล้วล้มลงไปนอนร้องอยู่บนเตียงอีกรอบ
“ใจร้ายจังนะฟ้า เราขอนอนต่ออีกหน่อยก็ไม่ได้ วันนี้ก็ไม่ได้ไปไหนนี่นา แถมสาดน้ำร้อนมาตั้งครึ่งหม้อแหน่ะ”ปราชญ์ลุกขึ้นมานั่งบ่นบนเตียงนอนที่ตอนนี้เปียกซกไปด้วยน้ำ
“โถ่ นี่มันแปดโมงแล้วนะปราชญ์ยังไงก็หัดตื่นให้มันเร็วๆบ้างเถอะ คราวหน้าถ้าต้องให้เรียกแบบนี้อีกฟ้าจะสาดให้หมดหม้อเลยนะ”เธอทำท่าจะสาดน้ำที่เหลือใส่ ทำให้ปราชญ์ต้องรีบลุกขึ้นจากเตียง
“ครับๆ แหมโหดยิ่งกว่าแม่เราอีกนะเนี่ย เดี๋ยวขอเข้าไปเช็คระบบก่อนนะว่ามีปัญหาอะไรมั้ย เดี๋ยวเราลงไปล้างจานให้”
“จ้าๆ เร็วๆหน่อยก็แล้วกันนะ”ฟ้าเดินออกไปจากห้องก่อนจะลงไปทำงานบ้านที่ชั้นล่างต่อ
ปราชญ์เดินไปที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยหนังสือที่กระจัดจายอยู่ บ่งบอกได้ว่าไม่ได้ทำความสะอาดมาหลายวันแล้ว บนโต๊ะมีสิ่งของบางอย่างรูปร่างคล้ายหมวกกันน็อค แต่คงไม่น่ามีไว้ใส่ปกปิดหน้าตาเวลาไปปล้นธนาคาร เพราะมันมีสายUSBต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ที่โต๊ะข้างๆ
เขานั่งลงบนเก้าอี้สวมหมวกแล้วคลิกอะไรบางอย่างในคอมพิวเตอร์แล้วเขาก็หลับตาลงเครื่องที่สวมหัวของเขาก็อยู่ก็มีสัญญาณไฟสีเขียวเล็กๆแสดงขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเครื่องได้เริ่มทำงานแล้ว...
เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง สถานที่นั้นกลับไม่ใช่ห้องนอนของเขาแต่เขากำลังยืนอยู่หน้าตึกที่สูงจนไม่สามารถเห็นยอดของตึกแห่งนั้นได้เลย เขาเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูของตึกสูงนั้น ประตูก็เลื่อนออก ตึกนี้เป็นตึกที่มีความหรูหราและทันสมัยอย่างมาก ชายคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นพนักงานต้อนรับในตึกเดินเข้ามาหาเขา
“สวัสดีครับคุณปราชญ์ตั้งแต่เมื่อคืนถึงขณะนี้ทางเรายังไม่พบปัญหาของระบบเลยครับ”เขาโค้งกล่าวทักทาย เขามีท่าทีที่เคารพปราชญ์เป็นอย่างมากทั้งๆที่ดูๆแล้วปราชญ์น่าจะอายุน้อยกว่าเขาอีก
“อ่าสวัสดีครับคุณชัย ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้นะครับ”
“แหม จะให้ผมทำอย่างนั้นก็ยังไงล่ะครับคุณเป็นถึงผู้สร้างระบบทุกอย่างในโลกเสมือนแห่งนี้ ถ้าไม่มีคุณซักคนคงไม่มีที่นี่หรอกครับ”ชัยพูดยกย่องเกินจริงราวกับว่าถ้าขาดปราชญ์เขาจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้
“ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้งครับ ผมก็ไม่ได้ให้เงินเดือนคุณเยอะกว่าที่อื่นเขาจ้างกันเลย... แล้วนี่วิทย์มารึยังครับ”
“เขาอยู่ที่ห้องของคุณน่ะครับ”
“อ่าขอบคุณครับ”ปราชญ์ยกมือขึ้นไหว้ก่อนจะเดินขึ้นไปที่ลิฟต์ เขากดลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้น 66 ประตูลิฟต์ก็ปิดลง ลิฟท์เครื่องที่ด้วยความเร็วสูงจนไม่รู้สึกว่ามันเคลื่อนที่เลยด้วยซ้ำ...
ลิฟต์ขึ้นมาหยุดตรงที่หมายอย่างรวดเร็วและประตูก็เปิดออก ไม่มีวี่แววของใครเลยนอกจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของชั้นนั้น ปราชญ์เดินตรงมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องหนึ่ง เขายกแขนขวาขึ้นมาหมุนลูกบิด เปิดประตูเข้าไป พบชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งดูหนังที่ไม่เหมาะกับเยาวชนอยู่ในห้องอย่างมีความสุขอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ปราชญ์ค่อยๆเดินเข้าไปข้างหลังชายคนนั้นแล้วยกมือขึ้นตบไปที่หัวอย่างแรง
“โอ๊ย เจ็บนะเว้ยไอ้ปราชญ์”ชายหนุ่มผู้รับกรรมร้องด้วยความเจ็บ เขายกมือขึ้นมาจับตรงที่โดนตบไปเมื่อครู่นี้
“ก็ตบให้เจ็บไงไอ้วิทย์ ใครเค้าให้แกมาดูอะไรพวกนี้ในห้องของคนอื่นล่ะ ดีนะที่แกแค่ดูเฉยๆไม่งั้นฉันจะให้แกมาเช็ดโซฟาฉันด้วย”
“กับเพื่อนนี่โหดจังนะครับ กับแฟนตัวเองนี่ไม่กล้าเลยนะครับ คุณ...ปราชญ์”วิทย์แซว เพราะเวลาปราชญ์อยู่กับฟ้า ปราชญ์ไม่กล้าที่จะขัดขืนเลยเพราะกลัวว่าฟ้าจะทำให้ชีวิตที่เค้ามีอยู่สั้นลงไปหลายปี
“ช่างฉันเถอะน่า”ปราชญ์ถอนหายใจ ก่อนจะเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่บนโต๊ะตั้งคอมพิวเตอร์ไว้ เขาเปิดเครื่องและเข้าไปเช็คระบบของเซิร์ฟเวอร์ที่ทำหน้าที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่
“ไม่ต้องทำหรอกน่า ฉันชั้นเช็คแล้วคิดว่าฉันเข้ามาที่ห้องแกเพราะมานั่งเปิดหนังพวกนี้ดูอย่างเดียวรึไง”
“ก็เออน่ะสิ”ปราชญ์ตอบอย่างไม่ใยดีเพื่อนของเขาเลย
“แต่ก็นะ ไม่คิดเลยนะว่าแกจะสร้างอะไรที่สุดยอดแบบนี้ขึ้นมาได้ ฟ้าก็คงอึ้งเหมือนกันแหละที่แค่ไปสัญญาเล่นๆกับแกแต่มันกลับกลายเป็นจริงแบบนี้น่ะ ฮ่าๆ”วิทย์หัวเราะมันทำให้ปราชญ์นึกถึงเรื่องที่ตอนเด็กๆฟ้าได้สัญญากับเขาไว้ว่าหากเค้าทำให้ฝันของเขาเป็นจริงได้ฟ้าจะยอมเป็นแฟนกับเขา
“ไม่ใช่ฉันคนเดียวที่สร้างแต่เป็นพวกเราต่างหากถ้าฉันไม่มีเพื่อนๆก็คงทำไม่ได้หรอก...เรื่องของฟ้าน่ะฉันก็ไม่คิดหรอกว่าเขาจะยอมจริงๆ ไม่คิดเลยนะว่าจะมีคนน่ารักๆแบบนี้มาเป็นแฟนน่ะ”
“น่ารักแต่โครตโหด”วิทย์เสริม
“เอออันนั้นจริง”
“แต่ก็นะ..แกบอกว่าจะทำแค่เกมที่เหมือนเอาตัวเข้าไปเล่นได้ แต่นี่มันเกินไปเยอะแล้วนะเว้ย นี่มันเหมือนสร้างโลกมาอีกโลกเลยนะเนี่ย”สิ่งที่วิทย์พูดนั้นมันไม่ได้เกินจากความจริงเลยเพราะสิ่งที่ปราชญ์ทำนั้นไม่ใช่สร้างเกมแต่เป็นสร้างโลกเสมือนที่สามารถเข้ามาทำอะไรได้หลายอย่างเพียงแค่คิดหรือพูดออกมาเบาๆเท่านั้น สามารถพบเจอเห็นหน้ากันได้แม้อยู่คนละซีกโลก สามารถดูหนังฟังเพลงทำอะไรได้หลายอย่าง เล่นเกมที่สามารถนำตัวเราเข้าไปเล่นไปสวมบทบาทเป็นตัวละครในเกมได้ มีบริษัทที่พัฒนาเกมต่างๆเข้ามาร่วมสร้างเกมใหม่ๆขึ้นมามากมาย แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
“มันก็จริงน่ะนะไอ้พวกนี้ก็เป็นแค่ผลพลอยได้จากการสร้าง “Project R.”เท่านั้นแหละว่าแต่แกได้เข้าไปดูในเกมบ้างมั้ย”
“ก็เข้าไปดูอยู่หรอก..ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ แต่ก็ยังไม่มีผู้เล่นคนไหนมาถึงหอคอย100ชั้นได้เลย นี่ก็ปีกว่าแล้วนะ แกสร้างเกมมาโหดไปมั้ยเนี่ย แถมสร้างUnique Skillมาแบบไม่บอกเงื่อนไขที่จะได้รับด้วยนะ จะสร้างมาทำไมล่ะครับพี่”วิทย์บ่นเพราะความเหนื่อยใจกับเพื่อนของเขา
“ช่างฉันเถอะน่า ฉันต้องไปล้างจานแล้ว เดี๋ยวตายเอา”ปราชญ์ถอนหายใจก่อนที่จะเปิดหน้าต่างคำสั่งขึ้นมาแล้วกดล็อคเอาท์
“ครับ ไอ้คนกลัวเมียเอ้ย”วิทย์ยิ้มอย่างหน่ายใจ
“ม..เมียซะที่ไหนล่ะ เป็นแค่แฟนเฉยๆเว้ย”ปราชญ์พูดก่อนที่ร่างจะหายไป...
ความคิดเห็น