ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oh my love hyukja -_o

    ลำดับตอนที่ #2 : teukhyuk P.1 คนในกระจก

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 57


    คนในกระจก


     





    เธอนะดูออกเหรอ ว่าฉันกำลังมีปัญหา
    คล้ายๆ คนความรักเข้าตา ดูจะเพ้อๆ ยังไง
    เธอว่าฉันอินเลิฟ...ใจฉันลอยไปอยู่ที่ใคร
    ถามทำไมหรือเธออยากจะช่วยกัน





    ห้องซ้อมเต้น มหาวิทยาลัย sm


    ร่างน้อยที่นั่งเหม่ออยู่หน้ากระจกทำให้ผู้พบเห็นต่างชื่นชมกับความน่ารัก
    กลีบปากอิ่มยิ้มหวานน้อยๆอย่างมีความสุข ทำเอาคนที่แอบมองอยู่แทบละลาย


    “น้องฮยอกแจคร๊าบ อย่ายิ้มบ่อยสิพี่จะละลายแล้ว”บรรดาคนที่อยู่หน้าห้องซ้อมเพ้อออกมา  

    “น้องฮยอกของพี่จะน่ารักไปไหนคร๊าบ”
     
    แต่บรรดาเสียงต่างๆไม่ได้เข้าหูคนตัวเล็กซักนิด


    “น้องฮยอกเป็นอะไรรึเปล่า”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ทำให้ร่างน้อยถึงกับสะดุ้ง ดวงตากลมโตเงยหน้ามองคนพูด ใบหน้าหล่อที่มองกี่ครั้งก็ใจเต้น ทำให้ดวงหน้าหวานแดงระเรื่อ


    “ป..เปล่าฮะ..พี่อีทึกมีอะไรรึเปล่า”


    “ไปซ้อมเต้นแล้วนะครับ”ว่าแล้วยื่นมือมาให้คนตัวเล็กจับ ฮยอกแจลังเลอยู่นิดๆ ก่อนจะยื่นมือน้อยออกไปหาร่างสูง


    ทำไมมือนิ่มอย่างนี้นะตัวเล็ก


    เสียงดนตรีที่ดังขึ้นทำให้สองร่างออกเคลื่อนไหวไปตามจังหวะ
    ร่างสองร่างที่แนบชิดกันราวภาพวาดที่งดงาม ยามที่ร่างเล็กเคลื่อนไหวช่างงดงามจนทำให้คนมองละสายไม่ได้

    รวมทั้งคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างๆ
     







    หลังซ้อมเสร็จ



    ร่างน้อยยืนหอบหายใจอย่างเหนื่อยหอบ แต่รอยยิ้มหวานยังประดับใบหน้า มือเล็กจัดการผูกชายเสื้อขึ้นทำให้เห็นเอวบางๆ และหน้าท้องเนียนสวย ผิวขาวๆที่ตอนนี้ขึ้นสีชมพูระเรื่อเนื่องจากอุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้นทำให้คนมองแทบขาดใจ


    “เอ่อ.......น้องฮยอกครับ”


    “ฮะ” เสียงหวานตอบรับพร้อมกับเอียงคอน้อยๆ


    โอ๊ยจะน่ารักไปไหนครับ เดี๋ยวจับกดกลางห้องเลย

    “พี่ว่าน้องฮยอกเอาเสื้อลงดีกว่าไหม” เก็บไว้ให้พี่ดูคนเดียวได้ม้ายยยยยยยยยยยยย


    “ทำไมละฮะ”


    “พี่ว่ามัน.....มัน....ช่างมันเถอะ”
     







    วันต่อมา


    คนตัวเล็กที่ดูว้าวุ่น ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แถมเพ้อบ่อยๆทำให้อีทึกสงสัยไปใหญ่ เป็นอะไรนะ


    “น้องฮยอกแจเป็นอะไรนะ” เสียงเปรยเบาๆจากฮีชอลเรียกเอาสติของอีทึกกลับมา


    “ไม่รู้ว่ะ”

    “แต่ท่าทางนี้มันคุ้นๆนะ...เหมือน...เหมือนแกเลย”


    “ฮะ..เหมือนฉัน”


    “เออ เหมือนแก..แกกำลังตกหลุมรักน้องเค้าไม่ใช่รึไง”


    “แล้วน้องเค้าตกหลุมรักใครล่ะ”


    “ฉันจะไปรู้หรอ” ฮีชอลตอบหน้าตาย


    “ฉันจะทำไงดีวะเนี้ย” อีทึกพูดอย่างกลุ้มใจ แค่นี้คู่แข่งก็เยอะอยู่แล้ว ไหนจะไอ้ชีวอน ไอ้ฮันกยอง ไอ้คยูฮยอนอีก กลุ้มโว๊ยยยยยยยยยย

    “แกก็รีบทำคะแนนดิ ช้าหมาคาบไปแดกนะเว้ย”
     
     





    หลังซ้อมเสร็จ


    ร่างน้อยที่ดูใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทำให้อีทึกหมดความอดทน


    “น้องฮยอกเป็นอะไรครับ”


    “ม..ไม่มีอะไรฮะ”


    “แน่นะ มีอะไรให้พี่ช่วยรึเปล่า”


    “.........................................”


    “น้องฮยอกกำลังตกหลุมรักใช่ไหม”


    “พ..พี่รู้ได้ไง”คนตัวเล็กพูดอย่างตกใจ


    “ใครน้าาาาาา บอกพี่ได้ไหม” ถามทั้งที่ไม่อยากรู้ ไม่อยากรู้ซักนิด


    “ฮยอก..ฮยอกรักคนคนนึงแต่เค้าไม่รู้ฮะ..ฮยอกจะทำไงดี” ร่างเล็กที่พูดอย่างไม่มั่น
    ใจ ท่าทางที่เขินอายนั่นอีก บีบหัวใจคนฟังอย่างไม่รู้ตัว น้องฮยอกครับทำไมพี่เจ็บอย่างนี้ล่ะ


    “บอกเค้าสิครับ”บอกพร้อมกับยิ้มให้ ทั้งที่ข้างในเจ็บจนแทบหายใจไม่ออก


    “แล้ว..ถ้าเค้าไม่ได้รักฮยอกละฮะ”


    “เราก็ได้บอกเค้าไง”


    “...........ฮะพรุ่งนี้ฮยอกจะบอกเค้า”
     














    ถ้าอย่างนั้น ก็มีบางอย่างต้องขอวาน เธอสักหน่อย
    ฝากคำๆ นึงไปบอกใครหน่อยได้ไหม




    วันต่อมา


    หลังซ้อมเสร็จฮยอกแจก็มาหาอีทึก


    “พี่อีทึกฮะ.........ฮยอกฝากนี่ไปให้เค้าทีนะฮะ”เสียงเล็กที่คนน่ารักเอ่ยพร้อมกับยื่นจดหมายสีชมพูมาให้ทำเอาอีทึกหายใจแทบไม่ออก      จะทำให้พี่เจ็บไปถึงไหนครับ


    “ใครล่ะพี่จะได้เอาไปให้”


    “พี่อีทึกกลับบ้านก่อนเถอะฮะเดี๋ยวฮยอกโทรบอก” พูดจบร่างเล็กๆก็วิ่งดุ๊กดิ๊กจากไปด้วยความเขิน


    “หึ...........อกหักจริงๆแล้วซินะ” เอ่ยพร้อมกับน้ำตาแห่งความเสียใจที่หยดลงมา
     















    แค่หนึ่งคำนี้ ช่วยฟังดีๆ ให้ขึ้นใจ
    กลับบ้านไปนะ ว่างตอนไหน
    ช่วยไปที่หน้ากระจกเงา เธอจะพบคนนั้น
    คนที่ฉันต้องการ ต้องการที่จะบอกเขา
    ฝากบอกเพียงเบาๆ ฉันรักเขาคนนั้น หมดหัวใจ



    อีทึกกลับมายังคอนโดด้วยสภาพที่ห่อเหี่ยว


    ร่างหนาที่นอนอยู่บนเตียงหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน ดวงตาคมมีน้ำใสไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้

    “ครืดดดดดดดดด    ครืดดดดดดดด” เสียงโทรศัพท์ที่ถูกตั้งระรบสั่นไว้ดังขึ้น ทำให้อีทึกล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา ก่อนจะมองหน้าจอ

    คนน่ารัก ชื่อที่ปรากฏขึ้นทำให้อีทึกรีบปาดน้ำตา แล้วจึงกดรับ




    “ครับ”เอ่ยอย่างพยายามทำให้เสียงปกติที่สุด


    “พี่อีทึกอยู่ไหนฮะ”เสียงหวานดังมาตามสาย


    “พี่อยู่คอนโดพี่หน่ะ ทำไมหรอ”


    “พี่..เป็นอะไรรึเปล่าเสียงไม่ค่อยดีเลย”คนน่ารักเอ่ยอย่างเป็นห่วง


    “พี่ปวดหัวนิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก”


    “ฮยอกโทรมากวนพี่รึเปล่า”


    “ไม่หรอก...แล้วฮยอกฝากมาให้ใคร พี่จะได้เอาไปให้”


    “พี่อีทึก..........เดินไปหน้ากระจกได้ไหมฮะ”


    ถึงจะไม่เข้าใจ แต่อีทึกก็ทำตามที่อีกคนบอก ร่างสูงเดินไปอยู่หน้ากระจก


    “ครับพี่อยู่หน้ากระจกแล้ว”


    “พี่อีทึกเห็นรึเปล่าฮะ” สิ่งที่คนตัวเล็กบอกทำให้อีทึกงง


    เห็นใคร?????????????????


    “มองเข้าไปในกระจก...นั่นละฮะคนที่ฮยอกฝากพี่เอาจดหมายไปให้ บอกเค้าทีนะฮะ............ว่าฮยอกรักเค้าหมดหัวใจ. ตี๊ดด”พูดเสร็จคนตัวเล็กก็ตัดสายไป


    ร่างสูงที่อยู่หน้ากระจกกำลังอึ้ง....น้องฮยอกแจรักเรา


    “ฮะ..ฮะ ฮ่าๆๆ”อีทึกหัวเราะราวกับคนบ้า ก่อนจะได้สติ แล้วโทรกลับไปหาร่างเล็ก


    แต่ “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”เสียงผู้หญิงที่ดังมาตามสายทำให้อีทึกต้องโทรใหม่แต่ผลก็ยังเป็นเหมือนเดิม


    “พรุ่งนี้.........พี่จะไปบอกรักน้องฮยอกนะ”
     
     

    เมื่อถึงเวลาซ้อม อีทึกก็รีบมาทันทีหลังจากที่เรียนเสร็จ ดวงตาคมกวาดมองหาร่างเล็กที่ทุกวันจะนั่งอยู่หน้ากระจกแต่วันนี้กลับไม่มี


    “ทำไมยังไม่มาอีกนะ”



    ร่างสูงเดินไปเดินมาด้วยความกระวนกระวายจนฮีชอลทนไม่ไหว


    “เป็นอะไรของแกฮะ..ไอ้บ้านี่”


    “ฮีชอลทำไมน้องฮยอกแจยังไม่มาอีก”


    “เค้าอาจจะติดธุระก็ได้น่า”


    “ฉันกลัวมันจะไม่เป็นอย่างนั้นนะซิ”ร่างสูงเอ่ยอย่างใจไม่ดี
     



    หนึ่งชั่วโมงก่อน


    ร่างเล็กๆที่ยืนรอข้ามถนนหลังจากไปซื้อสร้อยเงินที่มีจี้เป็นรูปไก่น้อยน่ารัก


    เมื่อสัญญาณไฟเป็นสีเขียวฮยอกแจรีบเดินทันทีแต่ด้วยความรีบร้อนทำให้สร้อยที่อยู่ในมือน้อยตกลงไป ร่างเล็กก้มลงเก็บสร้อยทำให้ไม่เห็นว่ามีรถที่กำลังฝ่าไฟแดงวิ่งมาด้วยความเร็วสูง


    ปัง! เสียงร่างเล็กกระทบกับรถคันหรูอย่างแล้วกระเด็นออกไป เลือดสีสดค่อยๆไหลออกมาโดยไม่ทีท่าทีว่าจะหยุด ร่างเล็กๆเริ่มหายใจแผ่วเบาลงเรื่อยๆแต่มือน้อยยังกำสร้อยเส้นสวยไว้แน่น


    “ช่วยด้วยคนถูกรถชน” เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นรอบตัวแต่ฮยอกแจเองกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×