ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลุ้นรักสลับขั้ว นางมารร้ายกับเจ้าชายปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #4 : เลือดสาด ณ ห้องพยาบาล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 42
      0
      2 มิ.ย. 49

    ทุกคนกำลังคิดอะไรกันอยู่น้า

    คิดว่าฉัน นิสัยเปลี่ยนไปจากเดิมหรอ

    หรือคิดว่าฉันกำลังความจำเสื่อม

    หึหึ...หุหุ....ฮะๆๆๆ ซะเมื่อไหร่กันล่ะ ^0^ กร๊ากกกกกกกก

     ฉันพยายามสะกดกลั้นอารมณ์เต็มที่เมื่อฟ้าทำท่าหมดแรงขึ้นมาดื้อ ๆ ก่อนที่ฉันจะบอกความจริง อีตาวายุก็เอ่ยขึ้นมาก่อน

     "อาจจะดีก็ได้นะ แบบนี้ค่อยดูเป็นผู้หญิงขึ้นมาหน่อย"

    "ครูเห็นด้วย อย่างน้อยโรงเรียนคงสงบขึ้นเป็นกอง" นี่คือเสียงของอาจารย์ห้องพยาบาล --*-- อาจารย์เห็นลูกศิษย์เปลี่ยนไปขนาดนี้ยังเห็นดีเห็นงามด้วยเลยหรอค้า ชิชิ...

    "ถึงแม้ว่า อัยย์เขาจะนิสัยไม่ค่อยดี เลือดร้อน เจ้าอารมณ์ แต่ก็ยังเป็นอัยย์นะคะ" ฟ้าเอ่ยขัดขึ้น แต่เหตุผลที่โต้แย้งมันทะแ ม่ง ๆ แฮะ -_-''

    "ผมว่าแบบเดิมดีกว่านะครับ ดูสดใสดี" นี่คือเสียงของวอนท์ ^^ ค่อยยังชั่วหน่อย อย่างน้อยก็ยังมีหนึ่งคนที่เข้าข้างฉัน (ส่วนฟ้านี่เข้าข้างกันหรือเปล่าหว่า?)

    จากนั้นวอนท์เขาหันไปคุยกับอาจารย์เรื่องนกที่ฝากเอาไว้เมื่อตอนเที่ยง แล้วเดินหายไปอีกทางนึง อะไรกันว้า -__- นี่ไม่เป็นห่วงฉันที่ความจำเสื่อมกันเลยเหรอไง

    และที่สำคัญเลยนะ

    ไม่เห็นมีใครเสียใจที่ฉันความจำเสื่อมเลยง่ะ -[]-'''' ความจริงต้องร้องไห้ด้วยนะ แล้วบอกว่า อัยย์คนเดิมได้โปรดกลับมาเถอะ พลิสสส มันต้องเป็นแบบนั้นเซ่~

    ฉันมองฟ้าที่ยังคงเถียงอีตาวายุเรื่องความทรงจำของฉันอย่างออกรส ดูคำพูดที่อีตานี่พูดแต่ละคำดิ

    "เลือดร้อน(จึก) เจ้าอารมณ์(ฉึก) โหด(ปึก) โรคจิต(อึก) แถมซาดิสม์แบบนี้ดีตรงไหนกัน" เสียงเข้ม ๆ เอ่ยต่อนั่นทำให้ฉันที่นั่งอยู่ที่เตียงเริ่มจะเดือดปุด ๆ เส้นสมองเริ่มขยับ เนื่องจากโดนลูกธนูที่มองไม่เห็นปักใส่ตัวไปหลายดอก ก่อนจะหยิบสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด ก็คือแก้วน้ำที่อาจารย์เอามาให้กินยา ขว้างไปยังคนปากดีแทบจะทันที !!!!

    ชะอุ้ยลืมตัว =m=

    แต่ผิดคาดตรงที่แก้วมันไม่ยอมแตก (อือหือ ห้องพยาบาลใช้ของดีแฮะ) แต่หัวคนนี่สิไม่แน่ =_=

    ฟ้าร้องเสียงหลงด้วยความตกอกตกใจ ส่วนคนที่ถูกแก้วปาหัวจนหน้าหงายก็หมุนศีรษะให้กลับมาเหมือนเดิมพร้อมกับรอยปูดที่หน้าผาก ฮ่าๆๆๆ

    ฉันก็เลยฉีกยิ้มแห้ง ๆ ให้ไปเป็นของขวัญตบท้าย ^_^"

    "ยัยบ้า!!!" อีตาวายุกระชากเสียงดังลั่นห้องพยาบาลพร้อมกับรู้แล้วว่านิสัยของฉันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยซักนิดเดียว เขาพร้อมที่จะพุ่งมาที่ฉันแล้วมีหรือที่ฉันจะยอมให้อีตานี่จับได้ง่าย ๆ ฉันก็เลยวิ่งไปหลบอยู่ที่หลังของฟ้าแทน

    "ฟ้าหลีก!!...เอ้ย ชะ ช่วยหลบหน่อยนะครับ" เสียงตอนแรกอือหือตะคอกเชียว ฉันกำลังจะด่าว่าบังอาจมาขึ้นเสียงกับเพื่อนฉัน แต่ก็ต้องหันไปแอบหัวเราะหุหุ แทน เพราะเสียงอ่อย ๆ ลงท้ายที่แสนจะสุภาพ(และหัวปูด ฮ่าๆ)

    โป๊ก!!

    ฉันรู้สึกว่ามีอะไรลอยมาที่หัวของฉันจนต้องนั่งลงเอามือกุมหัว แล้วก็เหลือบมองของที่กลิ้งหลุน ๆ ที่พื้น เฮ้ย! นี่มันกระปุกใส่ยานี่หว่า

    "วายุ นี่ฉันบาดเจ็บอยู่นะ" -V-

    "เจ็บ...เฮอะ ไม่จริงร๊อก ก็เธอออกจะหนังเหนี่ยว เหมือนควายธนู!"

    ฉันกัดฟันกร็อด ฟ้าซึ่งกำลังทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงหน้าฉัน แต่ฉันไม่สนใจแล้วเพราะว่า เลือด...เลือดเหนียว ๆ กำลังไหลย้อยออกมาจากผ้าพันแผลบนหัวฉัน TT_TT

    อ๊ากกก จะเป็นลม ฉันเห็นเลือดคนอื่นน่ะเห็นได้ แต่เลือดของตัวเองนี่สิ...เฮอ ๆ ยอมรับว่าไม่สันทัดจริง ๆ เกิดมาไม่เคยมีใครสร้างแผลให้ฉันได้มากเท่านี้เลย อย่างมากที่สุด ฉันก็เคยทำแค่มีดบาดมือตัวเองตอนพยายามทำอาหารเท่านั้นเอง ...(ครึ่งเซนฯ)

    "วายุ!!! " ฉันตะกุกตะกัก แล้วมองมือตัวเองที่เต็มไปด้วยเลือด คนที่ถูกเรียกหน้าซีดขึ้นมาทันที ส่วนฟ้าเพื่อนฉันร้องว้าย ๆ เสียงแผ่วเบาหน้าซีดเผือกไม่แพ้กัน แถมยังกระวีกระวาดโดยบอกว่าจะตามอาจารย์มาให้

    "ฉะ...ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ"

    "ไม่ได้ตั้งใจเนี่ยนะ" ฉันตะโกนอย่างไม่เชื่อหูกับคำตอบแบบขอไปทีของผู้ชายคนนี้ แต่ก็พยายามจะทำอะไรซักอย่างเพื่อให้เลือดมันหยุด

    "เฮ้ย เธออย่าจับแผลสิ เดี๋ยวมันจะยิ่งเปิด "

    แล้วคนที่ทำให้แผลมันเปิดก่อนน่ะเป็นใครกันล่ะห๊า!!!!!!!!!!  ฉันอยากจะโกนออกมาแบบนี้จริง ๆ แต่ว่าเพราะฤทธิ์เลือดที่ให้เอ่ยคำพูดต่อไปไม่ออก ฉันได้แต่ทะลึ่งลุกพรวดพราดแล้วก็หน้ามืดราวกับตกเหว อีตาวายุก็ได้แต่รีบพยุงตัวฉันทันควัน ฉันจับร่างสูงตรงหน้าเอาไว้มั่น(แขนเสื้ออีตานี่เต็มไปด้วยเลือดของฉันแล้ว) เลือดจากบาดแผล เริ่มไหลหยดไปที่พื้นห้อง...

    ดังแหมะ ๆ อ๊ากกกกก เสียงเลือดหยดมันน่ากลัว T0T

    "ปะ เป็นอะไรมั้ย โธ่โว้ย อาจารย์ไปไหนล่ะ รีบมาซะทีสิ" วายุเริ่มโวยวาย ส่วนฉันหน้าเริ่มซีดขึ้นมาบ้าง(กลัวเลือดตัวเองอ่ะ)

    มะ...ไม่เป็นอะไรฉันต้องไม่เป็นอะไร...ฉันพูดพึมพำกับตัวเอง ส่วนอีตานี่เห็นว่าฉันพึมพำจนฟังไม่ได้ศัพท์ด้วยความที่เห็นเลือดฉันออกมาขนาดนี้ก็เลยต้องก้มหน้าลงมาฟังฉันพูด

    "อะไรนะ เธอว่าอะไรนะอัยย์ จะสั่งเสียเหรอ"

    ไอ้บ้า จะสั่งเสียที่ไหนกันล่ะ... "อ่ะ" ฉันอ้าปาก แต่ก็เปล่งคำพูดออกมาไม่ได้ ทันใดนั้น อีตาวายุก้าวขาถอยหลังเพื่อที่จะพยุงฉันให้ถนัดขึ้น แต่แล้วเจ้าตัวกลับจะหงายไปด้านหลังเพราะดันลื่นเลือดที่หยดลงบนพื้นของฉัน

    อีตานี่จะซุ่มซ่ามไปถึงไหน!!!

    ก่อนที่เราจะล้มไปด้วยกันทั้งคู่ ฉันก็เลยต้องฉุดอีตานี่เอาไว้ทั้ง ๆ เลือดอาบหน้าแบบนั้นแหละ แต่ด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิดมีหรือจะฉุดคนตัวสูงชะรูดแบบนี้เอาไว้ได้ พวกเราก็เลยล้มลงไปกองที่พื้นด้วยกันทั้งคู่ ฉันแทบจะทับกับคนที่อยู่ด้านล่าง ด้วยศีรษะที่ปวดตุบ ๆ ราวกับมีคนตีกลองอยู่ที่หัว แถมยังตามมาด้วยกลิ่นคาวเลือดชวนอาเจียน ฉันพยายามจะยันตัวลุกขึ้นยืน แต่ก็ลื่นลอยเลือดตัวเองจนปากอิ่ม ๆ ของฉันไปจูจุ๊บกับอีตาวายุที่นอนหงายนี่เข้าพอดิบพอดี!!!

    ฉันได้ยินเสียงกรี้ดดังลั่น ไม่แน่ใจเพราะว่ากรี้ดที่ฉันกับวายุกำลังจูบกันท่ามกลางกลิ่นคาวเลือด หรือว่ากรี้ดที่ฉันทำท่าเหมือนกับคนกำลังจะดูดเลือดออกมาจากซานตาน

    หรือว่ายังไงกันแน่.......


    .....................


    "ครูจะพูดกับพวกเธอยังไงดี" อาจารย์ประจำห้องพยาบาลเอามือกอดอก ก่อนจะจ้องมองฉันกับวายุ เวลานี้ล่วงเลยมาจนใกล้จะมืดอยู่แล้ว

    ฉันได้ทำแผลใหม่อีกหนคราวนี้ถ้าหากไม่ไปกระทบกระเทือนมันอีกก็น่าจะไม่เป็นอะไรมาก น่าแปลกทั้งที่เสียเลือดไปไม่ใช่น้อย ๆ แต่ก็กลับมายืนตัวตรงแล้วฟังคำเทศนาของอาจารย์ต่อได้ด้วย ส่วนคนข้างตัวของฉัน ก็ยืนก้มหน้ารับฟังอย่างสงบ พอฉันมองหน้าวายุก็ต้องรีบหันหัวกลับ หน้าขึ้นสีเพราะรู้สึกกลิ่นเลือดยังติดอยู่ที่ริมฝีปากอยู่เลย แฮะ ๆ

    อาจารย์ขยับแว่นตาให้เข้าที่ แหม ฉันลืมไปเลย ความจริงแล้วไม่มีจังหวะให้เล่าต่างหากล่ะ หน้าตาของอาจารย์ห้องพยาบาลเป็นยังไงรู้มั้ยคะ อาจารย์เป็นคนผิวดีจัดว่าสวยทีเดียวล่ะ ส่วนหน้าตาก็ถูกขับให้ดีขึ้นด้วยแว่นตากลม แฮะ อาจารย์คนนี้ออกจะดังไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะ

    เราฟังคำเทศนาของอาจารย์พร้อมกับพยักหน้ารับตามไปด้วย จากนั้นอาจารย์บ่น ๆ อีกสองสามคำ(แน่นอนมันไม่ได้เข้าหูฉันเหมือนประโยคแรกนั้นแหละ)

    และพวกเราก็ถูกปล่อยกลับบ้าน...ฉันก็กลับถึงบ้านด้วยความงง ๆ และก็ยังงงไปอีกนานว่ากลับมาถึงบ้านได้ยังไง (ท่ามกลางความตกใจของทุกคนในครอบครัว) ฟ้าโทร.มาหาฉันว่าอาการเป็นยังไงบ้าง ^_^ โอ้ว สมแล้วที่เป็นแม่พระ แต่ฉันก็ได้แค่คุยสองสามคำว่าไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะ แล้วก็สลบเหมือบไปเลย

    พอมารู้สึกตัวทีก็เช้าซะแล้ว ฉันแก้ผ้าพันแผลออกแล้วลองสบัดหัวแรง ๆ ซักที

    โอ้ว หุหุ เลือดไม่ไหลออกมาแล้วแฮะ -_- '' เพราะได้ยาดีจากอาจารย์แหงๆ  แต่วันนี้ตอนเย็นคงต้องไปโรงพยาบาลให้เขาเช็คสมองดูอีกทีดีกว่าเนอะ เพื่อความไม่ประมาท ^_^"  ฉันก็เลยจัดการเอากล่องยาสามัญประจำบ้านมาแปะไว้ที่หัวของตัวเองป้องกันไว้นิดหน่อยพอเป็นพิธี แต่อย่างน้อยฉันก็รู้สึกดีขึ้นเป็นกองเลยล่ะ

    แล้วฉันก็โผล่มาที่สถานีรถไฟฟ้าที่เดิม แถมเวลาเดิมด้วยนะ(เพราะมัวแต่ทำแผล)  -_- ทำไมวันนี้คนน้อยกว่าเมื่อวานแฮะ

    แฮะ คนน้อยก็ยังบ่นเนอะ...^^ ฉันเดินอาด ๆ ไปรอรถไฟเหมือนกับปกติเฉกเช่นทุกวัน แต่ที่ไม่ทุกวันก็คือ

    ไอ้หน้าหลี ซีกอ!!!!

    ฉันเห็นคน  ๆ เดิมที่ฉันเคยใช้กระเป๋าฟาดหน้ามันเข้าให้เมื่อวาน มันมีผ้าพันช่วงลำคอไปจนถึงศีรษะ แต่ก็ยังไม่วายส่งสายตาละลิ้มละเลี้ยมาทางฉันอีกรอบ

    -_- วุ้ย อะไรกันล่ะ นี่ติดใจรสชาติกระเป๋าถือของฉันหรือไงกันยะ...

    "นะ...น้องสาว" มันแบกสังขารอันล่วงโรยของตัวเองมาทางฉัน อี๋!!!

    'อย่างถ้ามีคนแบบตอนเช้าอีกน่ะ ก็บอกให้คนแถวนั้นช่วยก็ได้ ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลย...' ฉันนึกถึงคำพูดของฟ้าขึ้นมาตะหงิด ๆ -_- บอกให้คนแถวนี้ช่วยน่ะเหรอ...

    ฉันมองไปด้านข้าง โอ้ว ผู้คนต่างสลอนเสนอหน้าก้มหลบสายตาของฉันทันควัน!!!  -[]- ฉันชักสงสัยแล้วสิ ว่าถ้าหากฟ้าโดนหลีจะมีคนมาช่วยยัยนี่อย่างที่บอกหรือเปล่า

    "ไปเที่ยวกันมั้ยจ๊ะ"

    อ๊ายยย มันยังไม่เข็ด มันยังไม่เข็ด >0<

    ฉันฟาดกระเป๋าใบเดิมอย่างสุดแรงเกิดไปทางอีตานี่เหมือนเดิมองศาเดิม แต่ดูเหมือนว่าไอ้หน้าหื่นมันจะจับจังหวะของฉันได้ มันยกมือขึ้นมารับอย่างทันท่วงที พอฉันจะดึงกระเป๋าคืน มันก็ดันยื้อฉันเอาไว้

    "ไงเอ่ย...คราวนี้ไม่มีอาวุธแล้วใช่มั้ย"

    อ๊าย ๆ ไอ้บ้ากาม!!! ฉันแสร้งฉีกยิ้มที่คิดว่าดูดีที่สุดให้มัน จากนั้นจึงพยักหน้ารับน้อย ๆ พอเป็นพิธี พอไอ้นี่ฉีกยิ้มสยองส่งมาให้ฉัน ฉันก็เลยใช้ฝ่ามือกระทุ้งกระเป๋า กระเป๋าที่อีตานี่ยื้อเอาไว้ก็เลยกระเด็นไปโดนคอหอยของไอ้หน้าบ้ากามแทน เล่นเอาจุกจนพูดไม่ออก จากนั้นก็ใช้กระเป๋าใบเดิมที่อีตานี่ปล่อยเพราะจุก แล้วสะบัดแรงๆ  จนกระแทกเสยคางให้อีกฝ่ายกลับไปนอนสลบคาทางรถไฟใต้ดินเหมือนเมื่อวาน

    ฮ่าๆๆๆ ฉันหัวเราะอย่างชอบใจ ในขณะที่คนรอบกายฉันถอยห่างฉันออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นรถไฟยังไม่มา...ยังไม่มา อิอิ

    ฉันก็เลยได้เดินสำรวจร่างอัน(เกือบ) ไร้วิญญาณของ คนที่นอนจมกองเลือด(ที่ออกจากปาก) ดูให้แน่ใจว่ายังมีชีวิตพอที่จะมาหลีฉันต่อได้มั้ย -_-+ แฮ่ มันยังไม่สาแก่ใจของฉันแฮะ

    ในจังหวะที่ฉันกำลังยกเท้าหวังจะเหยียบ(หรือกระทืบ) ให้อีตานี่ตายคาเท้าของฉัน...

    @_@ ชะอุ้ย หน้ามืดแฮะ เพราะเลือดที่ออกเมื่อวาน วันนี้ยังไม่พื้นคืนมาแน่ ๆ  เลย

    ฉันเกือบจะเซไปอีกทาง แต่แล้วก็มีมือที่แข็งแรง และดูอบอุ่นมาพยุงฉันเอาไว้ พลางคิดด้วยความสงสัยว่ายังมีใครกล้าเข้ามาใกล้ฉันในระยะสามเมตรอีกหรอเนี่ย

    ฉันขอบคุณเบา ๆ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาหาคนที่ช่วยพยุงฉันเอาไว้

    "วอนท์"

    คนตรงหน้ามีรอยยิ้มสดใสมาให้ เล่นเอาฉันหน้าแดงไปวูบหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ดันตัวเขาออกอย่างสุภาพ

    "อัยย์ออกกำลังกายตั้งแต่เช้าเชียวนะครับ"

    อีตาวอนท์มองไปยังร่างของคนที่นอน(เกือบ)ตาย ฉันก็เลยต้องเรียกความสนใจของเขาให้กลับมาทันควัน "เอ่อ...คือ อีตานี่มัน..."

    วอนท์หัวเราะเบา ๆ โหย ฉันจะอธิบายยังไงดี ไม่ว่าจะเป็นการพูดการจา หรือแม้แต่ตัวหัวเราะน้อย ๆ แบบนี้ดูยังไงก็ยังคงเป็นเทพบุตรในใจของอัยย์คนนี้เสมอ ^^

    "ว่าแต่แผลเป็นไงบ้าง" วอนท์ถามอย่างสุภาพ

    "อืม ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ" ฉันตอบกลับไป ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น เพราะวอนท์กำลังจ้องมองฉันตาไม่กระพริบเลย "เอ๊ะ จริงสิ ทำไมวันนี้วอนท์ไปโรงเรียนสายจัง"

    ฉันถามเบ้ไปอีกทาง วอนท์เขาเลิกคิ้วสูงนิด ๆ พอน่ารักน่าหยิก >_< จากนั้นเขาก็ตอบกลับมาว่าตื่นสาย ฉันทำหน้าเหรอหราว่าไม่เชื่อ เขาก็หัวเราะแล้วบอกเหตุผลว่าตื่นสายจริง ๆ แต่อยู่ทำรายงานจนดึกดื่น โหย คนอะไรนอกจากจะหน้าตาดีแล้วยังมีความรับผิดชอบสูง ซึ่งผิดกับอีตาวายุลิบลับเลย ตานั่นฉันว่าคงจะจ้างให้ใครซักคนทำรายงานให้ พอถึงเวลาก็เอาไปแต่รายงานแล้วให้กำปั้นเป็นค่าจ้างแทนน่ะสิ -_-

    ถ้าหากจะเปรียบล่ะก็ วอนท์เขาคงเหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาว >_< ส่วนวายุก็เหมือนซาตานกลับชาติมาเกิด

    เอ๊ะ แล้วทำไมฉันจะต้องเอาวอนท์ไปเปรียบเทียบกับวายุด้วยนะ เลิกคิด ๆ

    "อัยย์หน้าแดงแน่ะ คิดอะไรอยู่เหรอครับ"

    0.0 ฉันตอบกลับพร้อมกับสลัดหน้า "อ๊ะ เปล่านะ ไม่ได้คิดอะไร"

    ฉันกับวอนท์คุยกันไปในระหว่างอยู่บนรถไฟไต้ดิน แต่เมื่อก้าวเท้าผ่านเข้าไปในโรงเรียน เสียงอะไรบางอย่างก็แล่นเข้าหูของฉันอย่างทันท่วงที!!!!!!!



    โปรดติดตามตอนต่อไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×