ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลุ้นรักสลับขั้ว นางมารร้ายกับเจ้าชายปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #3 : อยากให้โลกสงบสุข...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 46
      0
      1 มิ.ย. 49



    "ขี้โกง เธอเล่นฉันทีเผลอ" วายุค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้น เอ๊ะ ว่าแต่ทำไมถึงฟื้นตัวเร็วจังอ่ะ =_= ก่อนจะพ่นเลือดออกจากปาก แล้วขยับคางของตัวเองขึ้นลง อึ๋ย บรรยายเองก็สยดสยองเองแฮะ

     ฉันได้ยินเสียงพึมพำของฝูงนินทา หา...ใครว่าอะไรฉันนะ โรคจิต ซาดิสม์ ไม่มีไม่มี๊ฉันแค่มีอารมณ์รุนแรงนิดหน่อยเท่านั้นเอง...

     "เธอต้องตายวันนี้แหละ!!!!" อีตาบ้าตวาดก้องด้วยความโกรธจัด ฉันได้แต่จะหมุนตัวแล้วคิดจะวิ่งหนีเข้าห้องเรียน ในขณะที่ถูกกวดมาทางด้านหลัง ลมร้อนของตอนเที่ยงมันช่างร้อนราวกับอยู่ในพายุไต้ฝุ่นซะจริง ๆ (ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยอยู่อ่ะนะ)

     ฉันตะโกนบอก "ฝากไว้ก่อนได้มั้ย ฝากไว้ก่อน!!!"

    "ถ้าเธอจะถูกฆ่า ยังมีหน้ามารับฝากมั้ย!!" อีตานี่ตะโกนไล่หลังฉันทันทีทันควัน ฉันก็ได้แต่วิ่งหนีสุดแรงเกิด โอ้ย ลืมไป

    ว่าฉันไม่เคยวิ่งชนะวายุเลยซักครั้งเดียว T_T  ฉันสูง 163 นะ ส่วนวายุน่าจะสูงซัก 180 สูงพอ ๆ กับวอนท์เขานั่นแหละ เพราะฉะนั้นช่วงขาก็ต้องยาวกว่าฉันเป็นธรรมดา

    "หยุด...หยุดนะหยุด นี่ผู้หญิงนะ!!" ฉันพยายามต่อรองโดยไม่หันหน้ากลับไปมอง จากนั้นก็ได้ยินเสียงโกโก้ผสมนมกำลังเดือดจัด

    "แล้วมีผู้หญิงที่ไหนกระโดดเตะเสยคางผู้ชายได้บ้างเล่า!!!"

    ก็ฉันนี่ไง TT_TTv

    "คอยดูนะ ถ้าฉันจับเธอได้ ฉันจะเอาเธอไปส่งสถาบันทางวิทยาศาสตร์ให้ตัดสินกันไปเลย แต่ฉันว่าผลคงออกมาเป็นเพศพิเศษ ไม่ใช่ทั้งหญิง ทั้งชายแล้วก็กระเทย!!"

    อ๊ากกกก อีตาบ้านิ ....มันจะมากเกินไปแล้วนะโว้ยยย!!!!!!

    "แล้วอย่างนายมันก็ดีตายล่ะ" ฉันหอบด้วยความเหนื่อย ความรู้สึกโมโหเข้าครอบงำเต็มที่ นี่ฉันหมดเวลาพักเที่ยงไปกับเรื่องอะไรกันแน่ล่ะเนี่ย โอ้ว ใกล้ถึงห้องของฉันแล้วนี่หน่า อีกนิดเดียว ฉันหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับซาตานหน้าหล่อซึ่งก็ชะลอฝีเท้าตามเมื่อเห็นฉันหยุด สงสัยคงจะเหนื่อยเหมือนกันล่ะสิ -_-

    ฉันค่อย ๆ ก้าวถอยหลังไปเรื่อย ๆ

    "เธอจะขออะไรก่อนตายมั้ย อัยย์" ร่างสูงตรงหน้า ยกมือขึ้นมาหักดับกร๊อบ ๆ

    -_-' ฉันก้มหน้าตอบเสียงอ่อย  "ขอให้โลกสงบสุข"

    "เธอได้ตามคำขอแน่ ถ้าเธอตายรับรองโลกจะสงบสุขขึ้นเยอะ!!!"

    ถ้าเราสองคนตายคงจะสงบสุขกว่าฉันตายคนเดียวนะ =_= ฉันคิด ระหว่างที่อีตานี่พุ่งตัวมาทางฉัน (เอาจริงแหง ๆ) ฉันก็เลยต้องอาศัยจังหวะนี้ล่ะ หาทางหลบโดยการก้าวขาไปทางซ้ายอีกหนึ่งก้าวเพื่อหวังให้ไอ้บ้าวายุจับกบเล่นซะหลาย ๆ ตัว ฮ่ะๆ

    แต่มันก็ผิดคาด

    เพราะอีตาบ้าดันสะดุดเชือกผูกรองเท้าผ้าใบของตัวเอง!!!

    นี่มันจะชั่ว เลว ทำร้ายผู้หญิงได้อย่างไม่อายยังไม่พอ ยังซุ่มซ่ามอีกเหรอเนี่ย !!

    ส่วนเหยื่อแห่งความซุ่มซ่ามไม่ใช่ใคร ก็ฉันเอง TT_TT/

    เมื่อร่างสูงสะดุดเชือกผูกรองเท้า มือก็เลยคว้าได้แต่อากาศ จับกบน่ะจับได้แน่ แต่จับฉันไปด้วยนี่สิ ฉันรู้สึกวูบเหมือนกับมีมือมากระชากที่ร่างกายอย่างแรง จากนั้นก็ได้ยินเสียงของบางอย่างกระทบพื้น หัวสมองกำลังชาได้ที่ ภาพเบื้องหน้าสลึมสลือเหลือเกิน จากนั้น ...ฉันก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย จนถึง...

    ตอนเย็น...


    ........................



    "โธ่...อาจารย์ ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุ" ฉันได้ยินเสียงของใครบางคน ทุ้ม ๆ ราวกับโกโก้ใส่นมพยายามพูดแก้ตัวอะไรบางอย่าง

    "อุบัติเหตุ" คราวนี้เป็นเสียงที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเอ่ยขึ้นเบา ๆ "แต่เด็กคนที่ถูกส่งมาห้องพยาบาลครั้งที่แล้ว เธอก็บอกว่าเป็นอุบัติเหตุนะวายุ"

    ฉันค่อย ๆ ใช้ศอกยันตัวเองขึ้นมานิดหน่อย มองเห็นเป็นภาพเบลอ ๆ ของผู้ชายตัวสูงที่แต่งกายออกจะไม่เรียบร้อย เขาปล่อยกระดุมคอเสื้อออกถึงสองเม็ดอวดกล้ามเนื้อที่หน้าอก กำลังอธิบายอะไรซักอย่างอยู่กับอาจารย์ประจำห้องพยาบาลในชุดกาวน์สีขาว

    "แต่คราวนี้มันเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ นะครับอาจารย์" อีกฝ่ายยังคงยืนกราน พูดไปเท่าไหร่อาจารย์ก็ยังคงขมวดคิ้วอยู่ไม่คลาย เขาก็เลยตัดสินใจทำอะไรซักอย่างโดยการก้มหน้าค้นหาของบางอย่างในกระเป๋า จากนั้นก็ชูขึ้นมา มันคือคัทเตอร์อันใหญ่ เล่นเอาอาจารย์ผงะ

    "ถ้าอาจารย์ไม่เชื่อนะ ผมจะกรีดเลือดสาบานเลยเอ้า"

    "มะ...ไม่ต้องก็ได้วายุ เฮ้ย เธออย่ากดคัทเตอร์ลงไปนะ!!! ครูเชื่อแล้ว ๆ "

    ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก (ทั้งของอาจารย์แล้วก็ของลูกศิษย์) จากนั้นจู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนศีรษะถูกกระชากและโคลงเคลงจนทำให้ต้องเอนหลังพิงที่หัวเตียงแทนก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ จากนั้นฉันก็หันเหสายตามองมาที่รอบ ๆ ตัว ฉันกำลังนอนอยู่ในห้องพยาบาล อากาศภายในเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศที่ติดอยู่ภายใน
     
    "ตื่นแล้วเหรอ" ร่างสูง ที่มีดวงหน้าหล่อเหลาคมคายแสนคุ้นเคยแต่กลับอาฆาตอย่างประหลาด เดินเข้ามาหาฉัน ไม่ต้องรอให้ฉันบอกว่าตื่นแล้ว เขาก็พูดขึ้นมาอีก "นี่บ่ายสี่โมงแล้วนะ คาบโฮมรูมหมดไปแล้ว เธออยากกินน้ำมั้ย รู้สึกปวดหัวหรือเปล่า ตอนนี้ยังเจ็บอยู่มั้ย"

    ร่างสูงปล่อยคำถามออกมาเป็นชุด ๆ จนฉันจับประโยคยาวเหยียดไม่ออกได้แต่ตอบคำถามที่เป็นคำถามแรกแทน

    "อืม...หิวน้ำน่ะ"

    พูดจบ เขาก็รีบกุลีกุจอ ไปหาน้ำทันที ฉันดื่มน้ำเรียบร้อย เขาก็ยังอุตส่าห์อยู่รอเก็บแก้ว ฉันเริ่มขมวดคิ้วอย่างสงสัย "ขอบใจสำหรับน้ำนะคะ วายุ"

    คนตรงหน้าฉันสะดุ้งเฮือกก่อนจะกระตุกยิ้มแล้วก้าวถอยหลัง "มะ...ไม่เป็นไร ว่าแต่ฉันเห็นเธอพูดขอบอกขอบใจคนอื่นเป็นก็คราวนี้" ฉันเอียงคอ แต่คนตรงหน้าก็เอ่ยขึ้นมาอีก "เอ้อ...เดี๋ยวฉันจะไปตามฟ้ามาให้นะ สงสัยคงจะเลิกเรียนแล้วล่ะ วันนี้ห้องฉันปล่อยก่อนห้องเธออ่ะนะ"

    ฟ้า...เหรอ...ฉันขยับกายเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินหนี "เฮ้ นาย...เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน นี่มันเกิดอะไรขึ้น"

    คนตรงหน้าก็เลยชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับมาสบตากับฉัน "เอ่อ...เธอล้มหัวฟาดพื้นนิดหน่อย" ร่างสูงพยายามอธิบาย ดวงตาสีน้ำตาลคมคู่สวยของเขาออกจะกระอักกระอ่วนใจ "คือฉันไม่ได้ตั้งใจนะ บอกตามตรงฉันคิดว่าเธอจะตายไปจริง ๆ ซะแล้ว"

    "หัวฟาดพื้น..." ฉันทวนคำเบา ๆ แล้วยกมือขึ้นก็รู้สึกว่ามีผ้าพันแผลฟืนใหญ่อยู่บนศีรษะ

    "เกือบไปแล้วนะเรา" อาจารย์ห้องพยาบาลเดินเข้ามาดูฉัน พร้อมกับส่งแก้วน้ำใบใหม่และยาบางอย่างมาให้ฉันทานอีกสองเม็ด พอยาลงไปอยู่ในกระเพาะแล้วรู้สึกดีขึ้นมาทันตาเห็นเลยล่ะ ฉันรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะมองโลกชัดขึ้นก็คราวนี้ เมื่อเวลาผ่านไป อาจารย์ก็เอ่ยขึ้นอีก "ทำคนอื่นเข้าห้องพยาบาลซะจนชิน คราวนี้ตัวเองต้องมานอนที่นี่บ้าง รู้สึกยังไงล่ะ"

    "คะ?" ฉันเอียงคอ พร้อมทำสีหน้าอย่างไม่เข้าใจคำถามของอาจารย์ ทำให้ลูกศิษย์หนุ่มกับอาจารย์หนุ่มต้องหันหน้ามามองกันสลับกับมองหน้าฉัน ว่าสมองของฉันได้รับความกระทบกระเทือนอะไรหรือเปล่า

    เอ...ฉันมีอะไรผิดปกติตรงไหนหรือเปล่านะ

    ยังไม่ทันที่จะมีใครเอ่ยอะไรขึ้นมาอีก ฉันได้ยินเสียงเลื่อนประตูอย่างรวดเร็ว แล้วตามมาด้วยหน้าใส ๆ ของผู้หญิงคนสวยผมสั้นหยักศกเลยติ่งหูที่คุ้นเคยที่โผล่พรวดออกมา ใบหน้าของเธอดูเป็นห่วงฉันมากมาย เธอตรงมาที่ฉันพร้อมกับเอามือลูบ ๆ คลำ ๆ ดูว่าฉันมีตรงไหนที่สึกหรอลงไปบ้างมั้ย

    "เป็นยังไงบ้างครับ" และไม่กี่วินาทีฉันได้ยินเสียงที่เหมือนกับกาแฟคาปูชิโน เป็นเสียงผู้ชายที่หล่อกระชากใจอีกคนก็เดินเข้ามาตาม เขาฉีกยิ้มเป็นมิตรให้ฉัน ฉันก็เลยต้องฉีกยิ้มตอบกลับไป

    "ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ" เสียงของผู้หญิงที่เหมือนกับมะนาวผสมน้ำผึ้ง คนที่เอามือมาลูบหัวฉันบอกด้วยความเป็นห่วงก่อนจะหันหน้าไปหา ร่างสูงที่ยืนคุยกับฉันก่อนหน้า "วายุทำไมไม่บอกฟ้าตั้งแต่เกิดเรื่องล่ะคะ ตรงนั้นน่ะเลือดนองพื้นเต็มไปหมดเลยแถมไม่มีใครกล้าเช็ดด้วย คอยดู ถ้าอัยย์เป็นอะไรไปนะ ฟ้าเอาเรื่องแน่"

    วายุยักไหล่ก่อนจะมองหน้าอาจารย์อีกครั้ง

    "ก็ไม่แน่นะครับฟ้า ภายนอกอาจจะไม่เป็นอะไร"

    "หมายความว่ายังไงคะ อัยย์เป็นอะ...??" จู่ ๆ คนถามก็เงียบเสียงไป ทุกคนก็เลยหันหน้ามามองหน้าฉัน ความเงียบเริ่มเข้ามาปกคลุมห้องพยาบาล ทุกคนต่างนิ่งเงียบจนฉันออกจะสงสัย ฉันเอียงคอหันหน้าไปทางทุกคน

    "ว่าแต่อัยย์นี่ใครหรอคะ จริงสิฉันยังไม่ได้ถามเลยว่า พวกเธอเป็นใคร แต่ขอบคุณนะที่ช่วยฉันไว้"

    สิ้นเสียงของฉัน ฉันนั่งกระพริบตาปริบ ๆ เงยหน้าจ้องมองทุกคน จากนั้นทุกคนก็เลยก็เลยกระพริบตาปริบ ๆ มองหน้ากันสลับไปมา


    "เป็นเรื่องแล้วสิ"
    วายุเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา

    เอ...อะไร เป็นเรื่องกันเหรอ????






    โปรดติดตามตอนต่อไป....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×