คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ผู้ชายยอดสุภาพบุรุษ ^_^v (ซะที่ไหน?)
สายตาอันคมกริบของฉันกำลังจะหันไปทางต้นเสียง แต่ก็ต้องชะงักเพราะรู้สึกว่ามีมือเล็ก ๆ มาจับฉันไว้ซะก่อน
"นี่ ๆ น้องเขาสลบไปแล้ว ปล่อยน้องเขาไปเถอะนะ นะคะ ถือว่าฉันขอ" เสียงมะนาวผสมน้ำผึ้งดังข้างหูฉันอีกครั้ง เฮอะ...คราวนี้รอดไปได้นะไอ้หนู ฉันค่อย ๆ ปล่อยมือออกจากน้องเขาจากนั้นก็มีเด็กผู้ชายท่าทางเรียบร้อยมาช่วยพยุงแล้วก็พยักหน้าขอโทษฉันพลางบอกว่าไอ้นี่เพิ่งจะย้ายมาใหม่เลยไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร เฮอะ...ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ทำไมน้อง ๆ ไม่ห้ามเขาไว้ก่อนจะถึงตัวพี่ล่ะเนี่ย
เสียงกรี้ดกร๊าดที่แว่วมาก็ยังคงดังแบบทวีขึ้นเรื่อย ๆ อีตาวอนท์นะอีตาวอน์อะไรมันจะฮอทขนาดนั้น...
"พี่วอนท์ ช่างมีจิตใจที่ดีจริง ๆ นะคะ"
"จริงด้วยค่ะพี่ หนูไม่เคยเห็นใครที่เป็นอย่างพี่เลยซักคน"
ฉันแทบจะอาเจียนกับเสียงของเด็กสาวรุ่นน้อง ส่วนอีตาคนที่ชื่อวอนท์ น่ะหรอก ถึงตอนนี้ไม่อยากจะเห็นซักแค่ไหน อีตานี่ก็มาอยู่ในรัศมีสายตาของฉันอยู่ดี
เอ้อ ฉันอยู่ ม. 5 คนละห้องกับเขานะ แต่ แหม จะไม่ให้รู้จักได้ไง ชื่อเสียงของหมอนี่มันดังกระฉ่อนซะขนาดนั้น พอได้ยินคนรอบข้างชม พี่วอนท์อย่างนู้นพี่วอนท์อย่างนี้ไม่หยุดหย่อน พอฉันได้ยินบ่อย ๆ มันก็เลยพลอยเซ็งกบาลตามไปซะงั้น (มันช่างต่างกับตัวฉันซะจริงที่มีแต่คนจะสาปแช่งซะมากกว่า)
แน่ะ เดินมานู่นแล้ว คนอะไรกัน หน้าตาจะหล่ออย่างกับเทพบุตรมาจุติได้ขนาดนั้น ไหนจะตาโตพริ้มสวย ขนตางอนยาว คิ้วเข้มเรียวงาม ผิวขาวอมชมพูอย่างกับผู้หญิง จมูกโด่งเป็นสัน รวมกับโครงหน้าเกลี้ยงที่รับกับอวัยวะประดับหน้าทุกอย่างได้อย่างไม่มีที่ติ หุ่นก็ดีตัวก็สูงชะรูดโดดเด่นเป็นสง่า ตอนที่ฉันเจออีตานี่ครั้งแรกก็ต้องพูดเหมือนกับทุกคนที่ได้เห็นนั่นแหละว่าอีตานี่
มันกินอะไรมาเกิดกันเนี่ย!!
จากปากคำของบรรดาคนที่เดินตามต้อย ๆ คงจะรู้แล้วใช่มั้ยล่ะคะ กับคำที่ว่า พี่วอนท์ที่แสนจะดีเลิศประเสริฐศรี แต่ก็สมกับนิสัยเขาล่ะ
ก็ฉายา พ่อพระแห่งแคร์เรียยังไงล่ะ
ก็ดูอีตานี่มันทำสิ คุณ ๆ กรุณาสังเกตนกตัวน้อยบาดเจ็บที่อยู่ในมือที่รองโอบรับทั้งสองข้างของเขาให้ดี ๆ มันช่างน่ารักและน่าถะนุถนอม (แหวะ) กับหน้าตาที่แสนจะซื่อกลัวว่านกที่อยู่ในมือจะตาย แต่ฉันก็สงสัยอยู่อย่าง ว่าหมอนี่ไปเก็บนกตัวนี่มาได้ยังไงกัน
"วอนท์คะ ปฐมพยาบาลมันหรือยังคะ"
อ่าวเฮ้ย... o_0 เพื่อนสาวของฉันไปโผล่ในจุดที่หมอนั่นยืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ บรรดาแฟนคลับที่ลุมล้อมก็ได้แต่ถอยกรูดไปอยู่ด้านหลังแทน
"อ้าว...ฟ้ามาพอดีเลย ผมได้แต่เก็บมันมาแบบนี้ล่ะครับ กำลังคิดหนักอยู่ว่าจะทำยังไง..."
เสียงของเขาเวลาพูดช่างทุ้มและนุ่มนวลราวกับกาแฟคาปูชิโน แล้วก็บลา ๆ เพื่อนของฉัน กับอีตาวอนท์ กำลังยืนคุยกันพร้อมกับส่งสายตาสงสารไปให้เจ้านกตัวน้อย ไม่รู้ว่าแกจะโชคดีหรือว่าโชคร้ายนะเนี่ย ที่ไอ้คนสองคนเอาแต่สลับมองแกกับคุยกันไปด้วยในตัวไม่ยอมพาไปทำแผลซักที ฮ่ะ ๆ แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับฉันล่ะนะ
ที่จะเกี่ยวก็คือเพื่อนของฉันเจ้าของเสียงใสมะนาวผสมน้ำผึ้งไงล่ะ เธอชื้อฟ้าค่ะ ฟ้า น่าจะย่อมาจากคำว่านางฟ้า มากกว่าท้องฟ้านะ ก็เจ้าตัวน่ะ ทั้งแสนสุภาพใจดี อ่อนน้อมถ่อมตน อ่อนไหว ขี้สงสาร ฉันยังสงสัยอยู่ว่าถึงจะอยู่ห้องเดียวกันแต่ก็มาเพื่อนของฉันได้ยังไง กับคนที่กิริยาท่าทางแตกต่างจากฉันไปหมดทุกอย่างแบบนี้เนี่ย เอ้อ ไม่ใช่แค่นิสัยที่เหมือนกับนางฟ้าเท่านั้นนะคะ หน้าตาก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเล้ย ตาโตสวย จมูกเล็ก ๆ รับกับคิ้วเรียว ๆ ริมฝีปากบางอมชมพู กับผิวสีขาวแสนละเอียด ผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนยาวปกต้นคอ ดูช่างบอบบางและน่าถนุถนอม เหอๆ ฉันรับรองได้เลยว่า โคตะระสวย!!
เอ้อ แล้วจะไม่น่าแปลกใจได้ไง ที่ตอนแรกมีคนรุมอีตาวอนท์อยู่ดี ๆ พอเพื่อนของฉันเข้าไปเท่านั้นแหละ แฟนคลับที่รุมล้อมแตกฮือไปหลบอยู่ด้านหลังอีตาวอนท์แทน เพราะไม่มีใครกล้ามาเทียบรัศมีของคุณเธอ เพื่อนของฉันได้เลยยังไงล่ะคะ แน่นอน
เธอมีฉายา ว่า...แม่พระแห่งแคร์เรีย นั่นเอง
หึหึ แม่พระ กับพ่อพระมาเจอกันก็เข้าอีหรอบนี้ คุณรู้สึกถึงรัศมีที่เปล่งประกายระยับระยับจับตาที่ออกมาจากทั้งคู่มั้ยล่ะ มันช่างน่า...น่าเลื่อมใส 55555+ =_='''
"ดีครับอัยย์"
ฉันที่กำลังจะถอยหลบก็ได้แต่ฉีกยิ้มแห้ง ๆ ให้กับพ่อเทพบุตรที่อุตส่าห์ทักฉัน ความจริงแล้วฉันก็แอบชอบเขานิด ๆ นะ ถ้าไม่ติดตรงที่แฟนคลับล้นหลามแบบนี้คงจะดีไม่ใช่น้อยเลย
"เห็นว่าไปมีเรื่องตอนเช้า อัยย์เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ"
สิ้นเสียงทุ้ม ๆ นุ่มๆ ราวกับกาแฟคาปูชิโนกับคำถามของอีตาวอนท์ เสียงซุบซิบนินทาก็ดังขึ้นอีกเป็นระรอกสอง คงจะคิดว่าวอนท์น่ะห่วงคนผิดเสียแล้วล่ะมั้ง ส่วนฉันก็ได้แต่ฉีกยิ้ม แห้ง ๆ กลับไปเช่นเคย สู้สายตาของพ่อพระและแม่พระที่กำลังเปล่งประกาย m(-_-)m m(_ _)m
"ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ ว่าแต่เป็นห่วงนกในมือ..."
ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ คราวนี้ฉันได้ยินเสียงโครมคราม ราวกับภูเขาหิมาลัยจะถล่ม(ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยได้ยิน) กับเสียงโหยหวนชวนตายอนาถดังมาอีกทาง (โรงเรียนนี้มันอะไรกันฟะ -_-) ฉันหันขวับไปตามต้นเสียงก่อนจะปล่อยถอนหายใจรอบที่หลายร้อยของวันนี้ อย่างไม่ต้องสงสัยเลยเพราะว่ามีคน ๆ หนึ่งยื่นหน้าเข้ม ๆ ออกมาจากเหล่านักเลงโตประจำโรงเรียน เฮ้อ โรงเรียนของฉันมันเป็นโรงเรียนเอกชนนะเนี่ย ทำไมยังมีคนที่ท่าทางเหมือนกับนักเลงแบบนี้อยู่ในโรงเรียนนี้ได้ (แหม พูดอย่างกับฉันไม่เป็นเลยเนอะ)
"ฟ้าจ๋าา" อีตาหน้าเข้มที่มาใหม่ พร้อมด้วยลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งรีบวิ่งไปยังจุดที่พ่อพระกับแม่พระยืนอยู่ คนถูกเรียกหันหน้าไปทางต้นเสียง คนเรียกมาด้วยใบหน้าที่แสนจะผ่านโลกมาอย่างโชกโชน ก็อีตานี่ดันตัวสูง ตาคม คิ้วเข้ม และหล่อน้อยเสียเมื่อไหร่กันล่ะ ฉันว่าถ้าหากอีตานี่ได้ส่วนของวอนท์ไปซักห้าส่วนคงจะดีไม่ใช่น้อยเลย ถึงตอนนี้อีตานักเลงโตนี่จะป๊อบอยู่แล้วก็ตามอ่ะนะ
"มีอะไรคะวายุ" ฟ้าส่งเสียงใสทัก ส่วนอีตาชอบส่งเสียงดังที่ชื่อวายุแถมยังทำตัวเหมือนกับพายุโทนาโด(สมกับชื่อเจ้าตัว) นี่น่ะเหรอ พยายามเก็กหน้าหล่อ(ฉันว่ามันไม่ต้องเก็กมันจะหล่อซะกว่า) เขาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยพอน่ารัก แววตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาสะท้อนเห็นแสงของพระอาทิตย์ที่จะสดใส
"คืองี้ครับ ฟ้ากินข้าวหรือยัง ผมจะมาเชิญฟ้าไปกินข้าวด้วยน่ะ"
ฉันแทบจะขย้อนของที่กินเข้าไปออกมาจากในกระเพาะ กับน้ำเสียงที่พยายามทำให้หล่อ แต่ฉันว่ามันไม่พยายามเสียงมันก็ดีอยู่แล้วอ่ะนะ เพราะเสียงธรรมดาของอีตานี่เหมือนกับโกโก้ใส่นมเลย ^^
"เอ่อ..." ฟ้ากำลังจะอ้าปากตอบ แต่ว่าอีตาวายุมันดันหันไปตวาดใครบางคนที่เดินชนมันที่ด้านหลัง จะเป็นใครไปล่ะก็ฉันเองนี่แหละ ฮี่ๆ ^_^v
"เฮ้ย ใครวะ บังอาจมาชนฉัน เดี๋ยวตาย!!"
"ใครจะตาย แค่ชนนิดเดียวถึงตายเลยเหรอไง!!" ฉันตวาดกลับ แหม ๆ จะให้อีตานี่มาด่าฉันฝ่ายเดียวได้ยังไง พอวายุเห็นฉันเท่านั้นแหละก็ทำท่าเหมือนกับมีใครมาขุดท่อระบายน้ำเอาไว้ไกล้ ๆ -__- ฉันไม่ใช่สิ่งหมักหมมนะยะ
"เอ๊ะเธอ ยัยปากมากนี่มันหาเรื่องนี่หว่า ขอโทษฉันมาซะดี ๆ"
ฉันส่งเสียงขึ้นจมูก "เฮอะ ขอโทษให้โง่ และพอดีฉันไม่ใช่ควาย"
"ยัย...ยัย" คนตรงหน้าฉันทำท่าจะเถียงไม่ออกได้แต่ยืนชี้หน้าฉัน และฉันก็แอ่นอกรับซะด้วย "ยัยปากชะนี!!"
"ว่ะ...ว่าไงนะ!" ฉันเริ่มขึ้นเสียงสูง ชะมดใช่มะ -_- "ถ้าฉันปากชะมด อย่างนายมันก็เรียกว่าปากทุเรียนนั่นแหละ...ทุเรียนหมอนทองซะด้วย!!!"
"ชะนีต่างหากโว้ยย!"
คนตรงหน้าฉันทำท่าไม่พอใจ เขาพยายามคิดจะหาคำด่าที่เจ็บแสบกว่ามาด่าฉัน แต่ก็ดันถูกเสียงใส ๆ ของคุณนางฟ้าดังแทรกเข้ามาซะก่อน
"พอเลย ทั้งวายุ ทั้งอัยย์นั่นแหละ!"
ทั้งฉันทั้งอีตานี่ก็เลยชะงักด้วยกันทั้งคู่ ก่อนจะส่งสายตาให้มันต่อสู้กันเอง
"แม้แต่สายตาก็ห้าม" ฟ้าส่งเสียงเสียงบอก "วายุคะ ...ฟ้ากินข้าวกับอัยย์แล้วล่ะ วายุไปกินคนเดียวเถอะนะ"
ฉันเห็นอีตาวายึทำหน้าละเหี่ยใจกับคำโกหกคำโตของฟ้าเพื่อนฉัน(จะได้กินที่ไหนล่ะ ฉันพังโต๊ะราบไปแล้ว) ส่วนวอนท์ พ่อพระก็ยังอุ้มลูกนกบาดเจ็บ(ที่ไม่มีใครคิดจะพาไปทำแผล) ไว้อย่างนั้นราวกับเป็นคนที่ถูกลืม
"อ้าววอนท์ อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทันเห็น"
ฉันว่าอีตาวายุมันต้องตาถั่วขนานหนักเป็นแน่ -_- ฉันรู้ว่าหมอนี่ก็ถามไปอย่างนั้นเองแหละ วอนท์อยู่ห้องเดียวกับวายุเขานะ ถึงได้รู้จักกัน
"ก่อนที่นายจะมาแป๊บเดียว" วอนท์ตอบกลับไปอย่างใจเย็น เฮอะ แต่นี่ก็ทำให้ฉันหมดความอดทนแล้วนะ
"เออนี่ วอนท์ นายไม่รีบพานกตัวนั้นไปทำแผลเดี๋ยวมันก็ตายซะก่อนหรอก" ฉันเตือน
"เฮอะ นางมารอย่างเธอเนี่ยนะ ฉันว่าแนะนำไอ้วอนท์ให้เอาไปย่างไฟกินซะดีกว่า" อีตาวายุเหวใส่ฉันอีกรอบ นั่นทำให้ฉันต้องตวัดสายตากลับไป
"อย่ามาพูดดี แล้วซาตานแห่งแคร์เรียอย่างนายล่ะ ไม่แนะให้วอนท์เขาไปลงนรกเลยเหรอไง"
"เฮอะก็ยังดีกว่าเธอ...จุดมุ่งหมายมันไม่ชอบมาพากล"
"พอแล้วค่ะ พอแล้ว!!" เสียงมะนาวผสมน้ำผึ้งแบบเดิมแต่เข้มขึ้นเยอะ กำลังตวาดเราสองคน คราวนี้ทั้งฉันทั้งวายุก็เลยออกหน้าสลดด้วยกันทั้งคู่
พอฟ้าเห็นว่าเราสองคนสงบลงแล้วก็เลยหันหน้าไปหาพ่อพระวอนท์ก่อนจะขอตัวพาลูกนกไปทำแผล =_= ชิ ๆ หมั่นไส้อ่ะ หมั่นไส้
ระหว่างที่เพื่อนฉันกับวอนท์กำลังจะเดินไปห้องพยาบาลที่อยู่อีกทาง แต่ฉันไม่ถูกโฉลกกับห้องพยาบาลซะด้วย ไม่ขอตามไปด้วยดีกว่า ส่วนอีตาวายุที่ไม่ตามฟ้าไปห้องพยาบาลด้วยเหตุผลที่เหมือนกับฉันนั่นแหละ
ทั้งฉันและทั้งวายุเคยซัดเด็กนักเรียนโรงเรียนเดียวกันจนสลบหรือไม่ก็บาดเจ็บจนต้องเข้าพยาบาลแล้วด้วยกันทั้งคู่ =_='' แต่วีรกรรมของฉันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นน่ะสิ ห้องพยาบาลมันน้อยไป ต้องเข้าโรงพยาบาลเลยแน่นอนกว่า 5555+ แหม ฉันก็ไม่เคยลงไม้ลงมือถึงขนาดนั้นนะพูดเล่น ๆ (แน่ะ ทำท่าไม่เชื่อ) ถ้าอีตาวายุซาตานแห่งแคร์เรียล่ะก็ว่าไปอย่าง เห็นว่าต้องจองโลงศพกันเลยทีเดียว แหม พวกเราทั้งคู่ดันถูกล่ำลือถึงความโหดที่มีมากพอกัน ฉันอยากจะประท้วงจังว่าฉันไม่โหดขนาดนั้นซักหน่อย
ฉันกับวายุ พอเราสองคนเจอหน้ากันทีไร แทบจะนับครั้งที่คุยกันดี ๆ ได้เลยล่ะ
เอ...จะว่าไป เราสองคนก็ยังไม่เคยคุยกันดี ๆ เลยนิเนอะ
"เราต้องคิดบัญชีกัน" ฉันพูด
"ได้อยู่แล้ว แต่เร็ว ๆ ล่ะ พอดีความจำฉันมันไม่ค่อยดี" อีตาบ้ายักคิ้วอย่างกวนโมโห -*-
"เอ๊อะเหรอ นอกจากจะโง่แล้วความจำยังไม่ดีด้วย เอ๊ะไม่ใช่สิ ก็โง่อยู่แล้วนิเนอะ หุหุ" ฉันตอกกลับไป ดูท่าอีตานี่จะหัวสมองจะเดือดปุด ๆ และเขาก็หมัดค่ะ เงื้อหมัด!! *0*
ก่อนที่มืออันแข็งแรงจะชกเข้าที่ใบหน้าอันสวยงามของฉัน ฉันก็ได้แต่ยกมือซ้ายขึ้นมากันไว้ได้อย่างทันท่วงที
"อะไอ้บ้า...นี่มันผู้หญิงนะ"
"ตรงไหนของเธอที่เป็นผู้หญิงไม่ทราบ" คนตรงหน้าฉันออกแรงกดที่มือขวาเพิ่มขึ้น ถึงแม้แรงของฉันมันจะแรงวัวแรงควายซักแค่ไหนก็ตาม แต่อีตานี่มันก็เป็นผู้ชายแล้วฉันก็เป็นผู้หญิงจะไปต้านทานไหวได้ยังไง
ฉันรีบผละออกจากแขนผอม ๆ แต่แข็งแรงของอีตาวายุ แล้วถอยกรูดไปยืนห่าง ๆ ความร้อนจากดวงอาทิตย์ทำให้อากาศแถวนี้ร้อนขึ้นมาก ๆ ส่วนเด็กนักเรียนที่พักกลางวันเวลาเดียวกันต่างลุกขึ้นมายืนดูจากตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง บางคนก็ถึงกับชะเง้อหน้าออกมาจากห้องเรียนแล้วส่งเสียงเจี้ยวจ้าว จนฉันรู้สึกหงุดหงิด วันนี้คงจะเป็นข่าวใหญ่ของโรงเรียนแน่ ที่เห็นนางมารกับซาตานสู้กันแบบนี้ (ถึงแม้ว่าจะสู้กันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็เถอะ)
คนตรงหน้าฉันฉีกยิ้มอย่างกวนโมโห "อ้าว หน้าแดงเชียว หมดแรงแล้วหรอครับ"
ยังไม่ทันที่ฉันจะตอบโต้พริบตาเดียวอีตาวายุก็มายืนอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันตวัดมือแต่อีตานี่ก็ดันมาจับแขนของฉันเอาไว้ ก่อนจะก้มตัวลงมาแล้วยื่นหน้าที่มีสัดส่วนได้รูปเข้าใกล้ใบหน้าของฉัน !!
"ถ้าเป็นผู้หญิงจริง ตอนนี้เธอต้องบอกกับฉันว่า ยอมแพ้แล้วค่ะวายุ ว่าไงพูดได้มั้ย...อัยย์"
ร่างกายของฉันร้อนไปถึงใบหู ด้วยความอึ้งเพราะอีตานี่ดันกระซิบซะแผ่วเบาที่ข้างหูของฉัน ท่ามกลางเสียงตกตะลึงของเด็กนักเรียนรอบ ๆ ข้าง
ฉันทำท่าจะขัดขืน หมอนี่ก็เลยรัดแขนของฉันแน่นขึ้น
"ยะ...ยอม..."
ฉันเลิกเกร็งแขนแล้วกระซิบเสียงแผ่วพอที่จะได้ยินกันสองคน เพียงเท่านั้นอีตาวายุเลิกคิ้วราวกับว่าคราวนี้ฉันยอมแพ้ง่ายเหลือเกิน จากนั้นก็เริ่มยิ้มที่ริมฝีปากสวยก่อนจะค่อย ๆ คลายมือที่จับฉันเอาไว้
"ยอมแพ้...ซะที่ไหนกันล่ะ!!!"
นายชะล่าใจไปซะแล้ววายุ!!!!!!!! *0*+
ฉันใช้เท้าข้างที่ถนัดกระทืบไปที่เท้าของคนตรงหน้าอย่างเต็มแรง ส่งผลให้ฝ่ายตรงข้ามต้องชักเท้าข้างที่เจอฉันเหยียบ(หรือกระทืบ) กลับไปอย่างอัตโนมัติ เสียงฮือฮาดังขึ้นเป็นระรอก และฉันก็ตัดสินใจตวัดขาข้างเดิมตวัดขึ้นฟ้าเสยคางอีตาหน้าหล่อใจโฉดที่กล้าทำอะไรผู้หญิงอย่างฉันคนนี้จนคางกับฟันกระทบกันดังกึกก้องก่อนจะหงายเงิบลงไปนอนเลือดกลบปาก ฮ่ะๆๆๆๆ
โปรดติดตามตอนต่อไป...
![นิยายแฟร์ 2024](https://image.dek-d.com/contentimg/2024/writer/assets/fair/07/reader_850x90.webp)
ความคิดเห็น