ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลุ้นรักสลับขั้ว นางมารร้ายกับเจ้าชายปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #1 : ปากมากนัก ไปลงนรกซะเถอะ!!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 69
      0
      1 มิ.ย. 49






    ปากมากนัก ไปลงนรกซะเถอะ!!!




    เฮ้อ… ถึงแม้ว่าอากาศในสถานีรถไฟใต้ดินมันจะเย็นอยู่ซักหน่อยก็เถอะนะ แต่ว่าจำนวนคนนี่สิ เยอะชะมัด

    ฉันถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยเมื่อเดินชนใครซักคนเพื่อที่จะแทรกตัวเพื่อหาที่ว่าง เวลานี้เป็นเวลาที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในช่วงเช้าเลยล่ะ  ก็ไหนจะเหล่าผู้คนทำงานทั้งหลายแหล่ แถมยังมีเด็กนักเรียนโรงเรียนเดียวกันกับฉันอีกเยอะแยะมากมาย เฮ้อ…ถ้าฉันตื่นเร็วกว่านี้ซักครึ่งชั่วโมงก็ดีสิ…

    เด็กสาวหน้าตาคม ปากอวบอิ่ม มัดรวบผมครึ่งหัวที่ยาวตรงเงางามถึงกลางหลัง เธออยู่ในชุดนักเรียนเสื้อเชิ๊ตแขนสั้น ติดโบว์สีน้ำเงินสลับขาวเส้นใหญ่ ตามด้วยประโปรงสีเดียวกันระดับเดียวกับหัวเข่า ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งนาม เซนต์แคร์เรีย กำลังมองล่อกแล่กไปมา เอ้อ...เธอไม่ใช่ใคร ฉันเองแหละดูท่าทางเรียบร้อยและน่ารักเนอะ หุหุ ^^

    โอเคฉันเจอที่ว่างแล้วล่ะ ค่อยยังชั่วหน่อย ^^

    "นี่น้องสาว...ตอนเช้า ๆ แบบนี้ไปเที่ยวไหนกันมั้ยจ๊ะ"

    อี๋...ไอ้พวกบ้าซีกอ มาตั้งแต่เช้าเชียวเหรอเนี่ย ฉันสะบัดหน้าหนีแล้วก้าวขาไปด้านหน้าหลาย ๆ ก้าวอย่างไม่สนใจ เจ้าบ้านั่นมันก็เลยเดินตามติดฉันมาด้านหลัง

    "ไม่ล่ะค่ะ ฉันต้องไปเรียนหนังสือ" ฉันตอบกลับโดยไม่หันหน้าไปมองอีตาซีกอนี่แม้แต่หัวนิ้วก้อย ส่วนคนอื่น ๆ พอเห็นฉันเป็นแบบนี้ก็ได้แต่ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ เอ๊ะ แต่เป็นเฉพาะคนที่ทำงานแล้วเท่านั้นนะคะ ส่วนเด็กโรงเรียนเดียวกันนี่อีกเรื่อง ยังไงรู้มั้ย พวกเขากำลังก้าวถอยหนีให้อยู่ห่าง ๆ จากตัวฉันเอาไว้น่ะสิคะ

    "โอโห อยากได้ว่าที่นักเรียนดีเด่นหรือไงกัน ว่าไงจ๊ะ ไปเที่ยวกันเถอะ"

    ไอ้บ้านี่!! ฉันพยายามจะระงับอารมณ์เต็มที่ นี่ขนาดไม่อยากจะไปยุ่งกับพวกมันแล้วนะ  อดทนไว้ อดทนไว้…

    "ว่าไงเอ่ย หรือว่ากลัว โหยตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำเชียวนะ"

    โอ้ยสุดจะทน สุดจะทนแล้วโว้ย!! -_-+ เอ๊ะว่าแต่มันว่าอะไรนะ ลูกเจี๋ยบ ลูกเจี๋ยบใช่มะ!!!

    "คนที่จะเป็นลูกเจี๋ยบ มันตัวนายเองต่างหากล่ะ!" ฉันกระชากเสียง ก่อนที่ใครก็ตามกำลังจะคิดว่าฉันกำลังทำอะไร เจ้าคนซีกอยืนหน้าเฉล่มตาลอย อี๋…ก่อนจะหมุนตัวแล้วฟาดอาวุธเอ้ย! กระเป๋าถือสีดำโดยใช้สันกระเป๋าทำหน้าที่ต่างอาวุธเหวี่ยงเข้าไปสุดแรงเกิด

    เสียงผั๊วะตามมา แล้วเสียงกรี้ดจากบรรดาเพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกันดังสนั่นหวั่นไหว ส่วนไอ้คนซีกอน่ะเหรอ นอนแน่นิ่งเลือดออกทางหัว คาทางรถไปใต้ดินไปเรียบร้อยแล้ว ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ (แน่ะยังมีน่ามายิ้มทั้งๆ ที่เลือดออกมาทางหัวอีกแน่ะ)

    "จำเอาไว้" ฉันกำมือชูนิ้วชี้ขึ้นฟ้าพร้อมกับยืดกายไปทางคนซีกอที่นอนสลบเหมือบ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ยินแล้วก็เถอะ "ริมายุ่งกับฉัน นางมารแห่งแคร์เรียมันต้องเจอแบบนี้"



    .........................................




    "เอาอีกแล้วนะเธอ นี่ฉันเห็นสด ๆ ร้อน ๆ เลยล่ะ น่ากลัวมาก ๆ อย่างกับพวกคิงคองกลับชาติมาเกิด"

    "โหย อะไรมันจะแรงวัวแรงควายปานนั้น เอ้อ ฉันว่าคนที่เข้าไปหลีก็ไม่รู้อะไรซะเลย น่าสงสารจริงๆ"

    "ไปยุ่งกับนางมารแห่งแคร์เรียก็เป็นแบบนี้ล่ะ ดีนะ ที่รถไฟมาซะก่อนไม่งั้นคน ๆ นั้นได้ตายคาเท้าแน่เลย"

    "ชู่ ๆ เธออย่าพูดดังสิ เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหรอก"

    ได้ยินหมดแล้วล่ะย่ะ…

    ฉันเดินผ่านไปตามทางเดินก็มีแต่คนซุบซิบ ๆ ไปมาตลอดทางตอนพักเที่ยง =_= วุ้ย อะไรข่าวมันจะล่ามาเร็วขนาดนั้น แล้วทำไมสายรถไฟก่อนเวลาเข้าเรียนห้านาทียังมีเด็กโรงเรียนของฉันเยอะแยะถึงขนาดปล่อยข่าวได้ทั่วโรงเรียนภายในเวลาเรียนช่วงเช้าได้ล่ะเนี่ย

    สนใจไปก็เท่านั้น…ว่าแล้วฉันก็หอบเอาอาหารกลางวันจำพวกขนมปังที่ชอบกับนมกล่อง ไปวางแหมะไว้บนโต๊ะในโรงอาหาร ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทาที่มีให้ได้ยินเป็นระยะ ๆ และแน่นอนไม่มีใครกล้านั่งใกล้ฉันซักกะคน ฮ่ะๆ

    "อัยย์คะ"

    ฉันเงยหน้ามองคนที่เรียกฉันซะไพเราะแบบมะนาวผสมน้ำผึ้ง เจ้าของเสียงกำลังขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง แต่พอจะถาม ฉันก็ปั้นหน้าไม่อยากจะคุยซะอย่างนั้น

    "อัยย์คุยกับฉันก่อนได้มั้ยคะ ตอนเช้าวันนี้เธอไปทำอะไรมา"

    ฉันแสร้งดูดนมช็อคโกแลตอย่างใจเย็นให้กับเสียงใส ๆ ตรงหน้า "ก็...ไงดีล่ะ อย่างที่เธอได้ยินมานั่นแหละ"

    ฉันชื่ออัยย์ค่ะ อัยย์ที่จะคล้าย ๆ กับคำว่าหุ่นยนต์มีชีวิตล่ะมั้งนะ แต่ขอบอกเถอะว่าชื่อของฉันน่ะ มันต่างกันราวฟ้ากับเหว อัยย์เป็นหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตจิตใจออกจะทื่อ ๆ ส่วนฉันมันโคตะระเจ้าอารมณ์เลยล่ะ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ

    "ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ" คนตรงหน้าฉันค่อยๆ  นั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวตรงข้ามกับฉันก่อนจะถอนหายใจ ส่วนฉันน่ะเหรอกลับไปดูดนมต่อน่ะสิ จากนั้นก็พยายามเขม่นตาขวางใส่ยัยพวกที่มองฉันอย่างไม่กลัวฉันจะสึกหรอ สลับกับพวกที่ทำมองฉันอย่างหวาดหวั่นและหวาดกลัว ไม่ใช่หวาดกลัวที่หน้าตา แต่หวาดกลัวด้วยนิสัย

    อะไรกัน...ฉันไม่ใช่คนน่ากลัวแบบนั้นซะหน่อย...จริง ๆ นะ ส่วนเรี่ยวแรงพวกนี้ได้มาจากบุพการีที่แสนน่ารักไง หึหึ

    "แล้วจริงหรือเปล่าที่เธอเกือบจะฆ่าคนที่สถานีรถไฟลาดพร้าวน่ะ"

    ฉันยักไหล่ให้กับคำถามที่พูดกันจนหูชา "ความจริงก็กะจะไม่ได้มันเลือดออกขนาดนั้นนะ แต่ไอ้นี่กระดูกมันเปราะ…"

    "อัยย์!!"

    =3= เหย๋ยย… "เบาหน่อยสิแม่คุณ เสียงดังไปเจ็ดบ้านแปดบ้านแล้ว"

    "เฮ้อ...ขอร้องล่ะ หน้าตาเธอก็ออกจะเป็นผู้หญิงแต่ช่วยทำนิสัยให้มันเหมือนกับผู้หญิงธรรมดาหน่อยเถอะนะ อย่างถ้ามีคนแบบตอนเช้าอีกน่ะ ก็บอกให้คนแถวนั้นช่วยก็ได้ ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลย... นี่ฟังฉันอยู่หรือเปล่าคะเนี่ย"

    ฉันฟุบลงกับโต๊ะกับคำเทศนาของเพื่อนแล้วเอามือปิดหู ชิชิ... จะให้ฉันเรียกใครล่ะ พอฉันเหงหน้าไปก็มีแต่คนหลบสายตาของฉันหมดนิ -_- + เอ๊ะ หรือว่าตาของฉันมันจะน่ากลัวตามนิสัยไปด้วยกันน้า

    "เธอไม่ต้องมาสนใจฉันหรอกน่า"

    "ใช่แล้วครับ" จู่ ๆ ก็มีน้องผู้ชายใจกล้าคนหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาระหว่างสองเรา เอ้อ เห็นแต่ฉันอธิบายแต่เรื่องของผู้หญิงแต่ความจริงแล้วโรงเรียนเอกชนแห่งนี้เป็นโรงเรียนสหนะคะ แน่นอน มันก็ต้องมีผู้ชายอยู่แล้วน่ะสิ

    "ผมว่า" ไอ้นี่มันพูดต่อ นี่ฉันไปทำอะไรให้ใครเขาเดือนร้อนกันล่ะห๊ะ -*- "คุณพี่นางฟ้าอย่าไปยุ่งกับนางมารเลยจะดีกว่านะครับ ผมว่ามันจะพลอยติดเชื้อ..เชื้ออะไรนั้นคุณพี่น่าจะทราบดี"

    ใช่ฉันรู้ดีเลยล่ะย่ะ เชื้อมือหนักตีนหนักแบบนี้นี่ไง!!!!

    ฉันถีบโต๊ะที่เดิมเคยวางของเลี้ยงชีพอย่างไม่ยั้ง เสียงโต๊ะลอยกระเด็นไปอีกฝั่งอย่างระเนระนาด ฉันลุกขึ้นยืน ส่วนเพื่อนของฉันก็เลยได้แต่ทำหน้าตาจิ้มลิ่มตกอกตกใจ ท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่อยู่ในโรงอาหาร เจ้ารุ่นน้องตัวดีก็ได้แต่ตีหน้าวัวขู่เสือ เอ้อ มันมีแต่เขียนเสือให้วัวกลัวใช่มะ แต่นี่มันไม่ใช่โว้ย!!

    ฉันทำท่ายัวะสุดขีด ส่วนอีตานี่หน้าซีดเป็นไก่ต้มไหว้พระจันทร์แต่ก็ยังตีหน้าด้านสู้สายตา (โหดๆ ) ของฉันสุดฤทธิ์ แหม ต้องยกประกาศนียบัตรพวกใจกล้าประจำปีให้มั้ยเนี่ย เพราะตั้งแต่ที่ฉันมาอยู่ที่นี่ นี่ก็เป็นครั้งที่สองที่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับฉันได้มากขนาดนี้

    "มะ...มันผิดตรงไหนล่ะครับ มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ แล้วผมก็พูดจริง"

    "พูดจริงไม่ผิดไอ้น้อง"

    รู้สึกว่าไอ้ตาน่าจืดมันจะสะดุ้งกับคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของฉันแฮะ -_-^ แต่แล้วคนตรงหน้าก็กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ๆ  ฉันก็เลยสาวเท้ายาวพรวดพราดเข้าประชิดตัวเด็กรุ่นน้องหนุ่มในทันทีทันใด จนไอ้นี่มันตั้งตัวไม่ติด ฉันคว้าคอเสื้อได้เด็กรุ่นน้องคนนี่ที่ตัวยังสูงสู้ฉันไม่ได้เลย แล้วเสียงกรี้ดด้วยความหวาดกลัวก็ดังขึ้น

    "นี่ ๆ อัยย์พอเถอะนะ เดี๋ยวอาจารย์มาจะเป็นเรื่อง" เสียงมะนาวผสมน้ำผึ้งดังข้าง  ๆ หูอีกครั้ง แต่ขีดจำกัดแห่งสติสัมปชัญญะของฉันกำลังจะหมดไปแล้ว!!!

    ฉันเงื้อหมัดหวังจะออกหมัดเต็มที่ โดยไม่ได้มองเลยว่าคนที่ฉันกระชากคอเสื้อที่เป็นรุ่นน้องสลบคามือของฉันไปเรียบร้อยแล้ว...

    "ว้ายยยย!!! กรี้ดๆๆ พี่วอนท์ขาาาาา พี่วอนท์!!"

    เสียงกรี้ดแทนที่จะมาด้วยความหวาดกลัว แต่มันดันกลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงกรี้ดในแบบที่คลั่งนักร้องไปซะงั้น ฉันชะงักกึก ราวกับมีเสียงของนรกที่มาขัดจังหวะบัญชาการจากสวรรค์ของฉัน สายตาพิโรธก็เลยจับจ้องไปยังต้นเสียงแทบจะทันที


    อีตาวอนท์!!!!




    โปรดติดตามตอนต่อไป….

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×