ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ragnarok Fan Fiction :The power of zodiac gems

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8: วงกตทาทามิ และวิหารใต้ดิน

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 48


    Ragnarok: the power of zodiac gems

       Chapter 8: วงกตทาทามิ และวิหารใต้ดิน

       ทั้งหมดวิ่งออกจากห้องรับรองโดยมี ซิกฟรีด , นักรบเงา Doppelganger และนักรบศักดิ์สิทธิ์ ยางามิ คอยเปิดทาง เป้าหมายอยู่ที่ชั้นบนสุดของปราสาท “ขึ้นบันไดนี้ล่ะค่ะ” นักบวชหญิง ฮิคาริ ตะโกนบอกเส้นทาง ทุกคนจึงรีบไต่บันไดขึ้นไปทันที ท่ามกลางความชุลมุนของกองทำมอนสเตอร์

       “ที่นี่เป็นเขาวงกต! ระวังกันด้วย” ยางามิรวบรัดเมื่อทุกคนขึ้นจนถึงชั้นบนสุด  ทุกคนเดินอย่างระมัดระวังโดยมีทหารบางส่วนที่โชกุนแห่งAmutsu ส่งตามมานั้นคอยนำทาง เพราะที่นี่เป็นทางวงกตที่มีทหารหลงทางจนเสียชีวิตมานักต่อนัก ประตูที่เห็นมิได้เป็นประตูและกำแพงที่เห็นมิได้เป็นกำแพง เป็นนิยายง่ายๆที่บอกถึงทางวงกต ทาทามิ(เสื่อไผ่) ได้เป็นอย่างดี หากไม่ชำนาญทางคงหลงอย่างแน่นอน “คุณหนูครับ!” ทหารคนหนึ่งร้องเรียก ยางามิจึงออกไปดูทันที สิ่งที่เห็นคือหญิงสาวผมยาวสลวยสวมกิโมโนสีม่วงเข้ม ค่อยๆเดินช้าๆอ่างพินอบพิเทา “มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” ทหารนายหนึ่งเดินเข้าไปหาโดยไม่ทันได้ฟังเสียงเตือนของยางามิ “เจ้าบ้า! ใครจะขึ้นมาบนนี้ได้” สายไปเสียแล้ว นายทหารผู้ใจดีถูกมืออีกข้างที่ซ่อนอยู่หลังเรือนผมสลวยสีดำสนิทนั้น กระชากร่างไปเบื้องหลัง  เลือดสดๆสาดกระจายเคล้ากับเสียงร้องโหยหวนของทหารนายนั้น  “นางปีศาจสองหน้า Miyabi Ningyo ซินะ” ยางามิดึงโล่ห์ขึ้นตั้งในระดับใบหน้า ก่อนจะพุ่งกระแทกปีสาวจนกระเด็น “ข้าขอโทษนะ! ที่ไม่ระวังพอ” นักรบหนุ่มพึมพำเบาๆเมื่อเขาเหยียบร่างที่นอนสงบนิ่งกลางกองเลือดของทหารผู้น่าสงสาร ทักษะ ’Shield Charge’เมื่อครู่ทำให้ปีศาจสาวมึนงง “Holy Cross” ดาบTsurugiในมือ ตวัดเป็นกางเขนพลันเกิดแสงจากพลังศักดิ์สิทธิ์ ทำร้ายนางปีศาจ Miyabi Ningyo จนร้องลั่น ร่างของนางทรุดลงและสลายไปทิ้งเพียงเศษโครงกระดูกที่มีผมสีดำสวยนั้นอยู่เต็มในชุดกิมิโนที่มิอาจจะขยับได้เองเอาไว้

       “ไม่ได้มีตัวเดียวแน่” จัสติสและไฟโรพูดขึ้นพร้อมกันพวกเขาตั้งท่าป้องกันเต็มที่ “ปัง!” เสียงปืนคาบศิลาดังขึ้น ทหารนายหนึ่งล้มลง เขาถูกยิงกลางศรีษะอย่างลึกลับ “ปัง!” เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ทหารอีกนายก็ล้มลง “Pneuma””Safety Wall” เวทย์ป้องกันการโจมตีทั้งม่านลม และกำแพงวิญญาณถูกกางขึ้น แต่เสียงปืนยังคงดังอย่างต่อเนื่อง “ทุกคนอยู่หลังข้าเอาไว้” ยางามิตะโกนบอกจากกำแพงวิญญาณ เขากระชับโล่ห์ในมือ “Defender” นักรบหนุ่มเรียกทักษะการป้องกันการโจมตีระยะไกล จึงทำให้กระสุนปืนที่ยิงมานั้นสร้างความเสียหายได้น้อยนัก อีกทั้งนักบวชฮิคาริร่ายประสิทธิ์พรเพิ่มพลังป้องกัน ‘Angelus’ ทำให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นน้อยยิ่งขึ้น  “ถ้าหาต้นตอเจอนะ” นักรบหนุ่มพึมพำ แววตาที่เย็นเยียบนั้นเริ่มมองเห็นเปลวไฟแห่งความโกรษ

       ทุกคนเดินอย่างเชื่องช้า เสียงปืนยังคงดังอย่างต่อเนื่อง “ตายล่ะหวา!” ไฟโรอุานขึ้น เบื้องหน้าของเขาคือนางปีศาจสองหน้า Miyabi Ningyo หลายตนดักหน้าอยู่ อีกทั้งยังมีเจ้าของเสียงปืนลึกลับอีกด้วย มันคือโครงกระดูกในชุดนักรบโบราณครั้นที่เมืองAmutsu ติดต่อกับอาณาจักรทางตะวันตกใหม่ๆ ที่เรียกกันว่า กองพล Ancient Firelock อีกกลุ่มใหญ่ “คุณหนู…” ยางามิร้องเรียกหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากเธอเดินนำหน้าออกไป “ฉันจัดการเองได้” ฮิค่ริออกตัวเธอสร้างม่านอากาศนำทางเพื่อป้องกันการโจมตีจากกระสุนปืน “ข้าวิงวอนต่อสรวงสวรรค์ โปรดจงช่วยชำระล้างวิญญาณใน ณ ที่นี่” เธอร่ายเวทย์อ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า กางเขนใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้น “Magnus Exorcismus” กางเขนพลันส่องแสงสว่างจ้า แผดเผาและชำระล้างภูติผีเสียสิ้น “รีบไปกันต่อเถอะค่ะ” หญิงสูงศักดิ์หันมาพูดกับคนอื่นๆ

    “อั๊ก!!!” เสียงร้องดังขึ้น ร่างของนายทหารล้มลงลำคอของเขามีดาวกระจายปักอยู่ “นินจารึ Devotion” ยางามิสบถและใช้ทักษะของการเสียสละโดยยอมรับความเสียหายจากผู้ที่มีออร่าสีขาวโยงอยู่มายังตัวเอง นักรบหนุ่มแผ่ออร่านี้ไปยังทุกคนเพื่อเฝ้าระวังภัย “Ruwach” ดวงไฟสีฟ้าวนรอบร่างของจัสติสเพื่อตรวจจับและเปิดเผยร่างของนินจาที่หลบซ่อนตัวเพื่อลอบทำร้าย “Finger Offensive” ภิกษุหนุ่มปาบอลพลังจิตไปยังผู้แอบแฟงแต่เป้าหมายเบี่ยงหลบได้อย่างหวุดหวิด นินจา Shinobi ชักดาวกระจายออกมาหมายปาใส่โจเซฟินที่ไม่ทันระวังตัว “Stone Curse”หินเวทย์สีแดงสดถูกปาและแตกออกทันทีที่กระทบร่างShinobi เศษหินที่กระจายนั้นขยายใหญ่ขึ้นและผนึกการเคลื่อนไหวของนินจาเอาไว้ “Holy Cross” แสงสว่างรูปกางเขนพุ่งกระแทกนินจาทันที แต่ทว่า ร่างของมันหาตัวไปทิ้งไว้แต่เพียงท่อนไม้แทนตัวขนาดใหญ่เท่านั้น “พวกข้าเหล่านินจา Shinobi จะรอพวกเจ้าที่วิหารใต้ดิน ” เสียงลึกลับดังขึ้นก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบสงบลง

    “ถึงละ!” ยางามิบอกกับทุกคนเขาหันไปสั่งการทหารทันที “พวกเจ้ารีบไปช่วยท่านเจ้า! ทางนี้ข้าจัดการเอง” สิ้นคำสั่ง ทหารที่รอกชีวิตจึงรีบเคลื่อนลกลับทันที “จุดนี้คือประตูมิติที่จะพาเราไปยังวิหารใต้ดิน” ฮิคาริบอกกับแขกผู้มาเยือนสีหน้ากังวลของเธอปรากฏอย่างเด่นชัด “ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” อาร์คทักขึ้นทำให้ทุกคนชะงัก “วิหารที่ว่าอยู่ลึกลงไปใต้ผิวดินมากไหม” “พอสมควรค่ะ” เมื่อได้ฟังคำตอบอาร์คก็เบาใจสีหน้าของเขาแสดงออกมาอย่างเต็มที่ “จะได้อาละวาดซะที” ชายหนุ่มพึมพำในลำคอ

    เมื่อก้าวผ่านประตู พื้นที่ยืนอยู่มิใช่พื้นเสื่อเช่นในปราสาท หากแต่เป็นพื้นดินที่อับชื้นมืดสลัว “ข้างหน้าคือวิหาร” ยางามิกล่าวสั้นๆพลางนำทุกคนเดินทาง ท่ามกลางความอับชื้นที่เต็มไปด้วยเสียงคางคกร้อง “ระวังคางคกนะคะ! พวกมันมีพิษ” ฮิคาริร้องเตือนยางามิ เธอหมายถึงคางคกพิษ Poison Toad ที่อาศัยอยู่ทั่วไปในที่แห่งนี้ ต่ชายหนุ่มยังคงก้าวเดินต่อไป คนอื่นๆจึงรีบตามไปทันที

    “วิ้ว!!”เสียงลมพัดอู้ผสมกับแสงไฟที่มืดสลัวอันไม่เคยดับและเสียงคางคกร้องระงม นางปีศาจ Miyabi Ningyo ยังคงตามรังควาน อีกทั้งยังคงมีผีดิบกองพลปืนคาบศิลา Ancient Firelock ที่ก่อกวนคณะเดินทางกลุ่มนี้อยู่เรื่อยๆ “ฉับ!” เสียงบางอย่างที่ตัดต้นไผ่อันขึ้นเรียงรายอยู่ไม่มากนักให้ล้มลง ซิกฟรีดชักดาบClaymoreทันที “เคร้ง!” คมดาบของเขากระทบบางอย่างที่แข็งปานใบมีด แต่สิ่งนั้นเป็นเพียงแค่กระดาษ แผ่นบางๆ “กระดาษเหรอ”อัศวินหนุ่มอุทานด้วยความตกใจเมื่อวิญญาณกระดาษ The Paper จู่โจมเขาอย่างรวดเร็ว “บ้าชะมัด” อัศวินหนุ่มสบถเมื่อแถบกระดาษอันคมกริบบาดไหล่ของเขา “รำคาญพวกคางคกจริงๆเลย” ซิกฟรีดบ่นอุบอิบพลางปัดป้องการจู่โจมของกระดาษอันแหลมคม “Heal!” ”Angelus!” ”Kyrie Eleison” ฮิคาริประสาทพรสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นมนตร์รักษา เสริมพลังป้องกัน และเกราะศักดิ์สิทธิ์ “ขอบคุณมากนะครับ! คุณหนู!” ซิกฟรีดตะโกนขอบคุณ เขาเปลี่ยนอาวุธเป็นหอก Lance เล่มโต “Brandish Spear” เขาควงหอกอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นคลื่นพลังโจมตีทุกสิ่งรอบตัวเป็นบริเวณกว้าง ปีศาจกระดาษบาดเจ็บเล็กน้อย มันลอยอยู่เหนือซากคางคกนับสิบตัว “ไม่ตายรึ! Bowling Bash!” เขาเปลี่ยนอาวุธกลับเป็นดาบClaymore อีกครั้งและฟันกระแทก ปีศาจกระดาษจนกระเด็นไปถูกฝูงคางคกเบื้องหลัง The Paperขาดกระจุยทันที “เหนื่อยไม่ใช่เล่น” ซิกฟรีดกัดฟันพลางเดินตามคนอื่นต่อไป

    “Ruwach”จัสติสเสกลูกไฟไปรอบๆตัว มันส่องแสงสีฟ้าเรืองๆเผยให้เห็น เส้นทางเบื้องหน้าและเสียงน้ำที่ไหลรินเบาๆเป็นสัญญาณที่จะบอกให้รู้ว่า พวกเขามาได้ครึ่งทางแล้ว แต่ทว่า ดวงไฟวิญญาณHorongลอยเข้ามาใกล้เรื่อยๆอย่างเชื่องช้า “ผมจัดการเอง” อาร์คเสนอตัวเขาย่ำไปบนแอ่งน้ำใส “Water Ball!” พลังเวทย์สร้างบอลน้ำพุ่งเข้าใส่Horong หลายครั้งจน จนดวงไฟดับสูญ “เท่านี้ก็…อั๊ก!” อาร์คล้มลงกับพื้น ดาวกระจายปักอยู่กลางหลังของเขาท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน  “ทางนั้น!”       จัสติสพุ่งหมัดออกไปทันที สนับมือเหล็กHoraของเขากระทบบางสิ่งจนเป็นประกายไฟ “ข้าจัดการนินจานั่นเอง” ยางามิพุ่งไปหาจัสติสทันที ดาบTsurugi ตวัดฟันShinobiหลายครั้ง แต่นินจาโลกมืดสามารถปัดป้องได้ทั้งหมด “ฮึ่ย! Holy…” “เสร็จข้าล่ะ” นินจาShinobiสบช่อง สวนแทงใส่ยางามิทันที นักรบหนุ่มผงะถอยเล็กน้อยด้วยความตกใจ นินจาไม่รอช้าเขาฉวยโอกาสทันที “Charge Arrow” ธนูลูกหนึ่งแล่นปักกลางอกผู้ประสงค์ร้ายและผลักออกไปเล็กน้อย ร่างของเขากลาเป็นท่อนไม้หนีไป ฮิคาริจึงวิ่งไปหานักรบศักดิ์สิทธิ์ที่ล้มกองกับพื้น “ค…คุณหนู” ยางามิขยับปากด้วยความยากลำบาก เนื้อตัวเริ่มมีจุดสีม่วง “เธอถูกพิษนี่! เดี๋ยวนะ!” นักบวชหญิงร้อนใจมือของเธอปิดปากแผลไว้ “Slow Poison” เวทย์พยุงพิษถูกอาบไล้ไปทั่วร่างของยางามิ “ใครมียาถอนพิษบ้าง!” ฮิคาริร้องหายาจากคนอื่นๆ โจเซฟินจึงออกมาดูอาการ “พิษพวกนี้มาจากคางคก” ปราชญ์สาววินิจฉัยอาการจากความรู้ที่เธอมี เธอมองหาเศษยางจากผิวของซากคางคกพิษที่นอนเกลื่อนพื้น “ฉันจะพยายามนะ” โจเซฟินให้คำมั่นในความเป็นห่วงของคนอื่นเพราะการปรุงยานั้นหากไม่ใช่นักเล่นแร่มักจะมีอันตรายมาก

    “คุณหนู” ยางามิเอ่ยปากด้วยเสียงที่แผ่วเบา แม้จะถูกเวทย์พยุงพิษ แต่พิษร้ายังคงแล่นไปตามกระแสเลือดแม้จะเชื่องช้าก็ตามที “อย่า…ร้อง…ซิครับ” ยางามิฝืนยิ้มน้อยๆ “เธออย่าตายนะ เพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน” ฮิคาริน้ำตาอาบแก้ม ’Slow Poison’และ ‘Heal’ถูกร่ายออกมาอย่างต่อเนื่อง นักรบหนุ่มหน้าเสียเมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสูงศักดิ์เบื้องหน้า “ผ…ผม…” “เสร็จแล้ว” เสียงโจเซฟินตะโกนด้วยความดีใจมือของเธอถือขวดยาที่มีน้ำยาสีเขียวใสที่สกัดจากพิษคางคก “คุณจะเสี่ยงไหม” โจเซฟินหันมาถามฮิคาริและยางามิ แม้เธอจะสามารถสกัดยาได้ด้วยความบังเอิญ แต่การฝืนทำยาที่อันตรายนั้นย่อมมีความเสี่ยงที่จะผิดพลาดสูง แต่นักบวชสาวไม่สนใจ เธอคว้าขวดยาราดลงบนแผลของชายหนุ่มทันที “หากทิ้งไว้จะเสียการ เราต้องเสี่ยง”

    หลังจากราดยาลงไป จุดสีม่วงก็เริ่มจางหาย อาการของยางามิฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว “ต้องพักฟื้นซักนิด” ปราชญ์สาวแนะนำ แต่ยางามิยายามที่จะชันตัวลุกขึ้น “ข้าคิดว่า…ข้ายังไหว” ชาหนุ่มว่า เขาหันหลังเดิน ร่างของเขาโซเซราวกับไม่มีแรง จนนักบวชฮิคาริผวาไปประคอง “พักสักหน่อยเถอะนะ!” “หากเป็นบัญชา…ผมคงต้องทำ” ยางามิค้อมตัว  เขานั่งลงกับพื้นแต่โดดี โดยมีคนอื่นๆระวังภัย แต่ดูเหมือนว่า เหตุการณ์จะสงบลงแล้ว

    ภายในวิหารใต้ดินแสงเทียนสว่างไสว ไปทั่ววิหาร นินจาShinobi หลายคนกำลังคำนับนายจ้างของตนในเงามืด “พวกเจ้าระวังให้ดี! คนพวกนี้ไม่ธรรมดา!” คำสั่งเรียบๆแต่เฉียบขาดถ่ายทอดลงไป เหล่านินจาทั้งหลายหายตัวไปในทันที “เราคงพบกัน! ท่านพี่!” เขาพึมพำในความมืด ร่างของเขานั้นเล็กแต่เงาของเขากลับเหมือนมีเงาซ่อนขนาดใหญ่ที่มีดวงตาที่ไร้แววและแดงฉาน

    สภาพร่างกายของอาร์คและยางามิฟื้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนจึงมุ่งสู่วิหารใต้ดิน ทันทีที่ย่างก้าวเข้าไป จิตสังหารพวยพุ่งรุนรง ชายร่างเล็กคนหนึ่งยืนต้อนรับด้วยชุดสีเทาหม่น ในมือนั้นถือคัมภีร์มหาเวทย์โบราณเล่มโต ฮิคาริหน้าถอดสีทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของชายคนนั้น “ฮ…ฮิ…ฮิเดโอะ” “ยังผมได้อีกเหรอ! ท่านพี่ฮิคาริ!” ชายร่างเล็กแค่นเสียง คัมภีร์เล่มโตถูกกางออก “จงมาอสูรสายลม ผู้พิฆาตคนชั่วช้า เทนงู(Tengu)” ขาดคำ ประตูมิติก็เปิดออก ปีศาจจมูกแดง ผมกระเซิงปรากฏขึ้นจากประตูนั้นหลายตน “ผมจะรอท่านพี่ที่หน้าดาบศักดิ์สิทธิ์” สิ้นเสียงชายร่างเล็กชื่อ ฮิเดโอะก็หายตัวไป โดยไม่ฟังเสียงร้องเรียกของฮิคาริแม้แต่น้อย “แค่ไปถึงที่นั่นก็พอใช่ไหม” อาร์คเหยียดยิ้ม “เดี๋ยวเราต้องคุยกันหน่อยนะคุณหนู” มือของจอมเวทย์สะบัด เขตอาคมที่พื้นส่องแสง “ขออาละวาดหน่อยเถอะ Fire Ball” ลูกบอลไฟยิงออกไปแผดเผาร่างของปีศาจสายลม แม้มิอาจสกัดได้หมดแต่ก็ลดจำนวนได้เยอะเช่นกัน

    “คนอื่นรีบไป! เดี๋ยวผมจะตามไป! โจเซฟิน!” อาร์คร้องสั่งปราชญ์สาว แต่เธอรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องให้เอ่ยคำ “แล้วรีบตามไปนะ” หญิงสาวพูดด้วยความห่วงใยพร้อมๆกับเวทย์ ‘Fire Ball’ ของเธอที่เปิดทาง จอมเวทย์หนุ่มยิ้มแทนคำตอบ แต่เพียงแค่นั้นกำให้เธออุ่นใจขึ้น “ไปกันเถอะ” ไฟโรเร่งคนอื่นๆพลางหวดรถเข็นของเขาอย่างแรงด้วยทักษะ ‘Cart Revolution’ รงกระแทกเปิดเส้นทางแคบๆให้ฝ่าไป “ขอให้ปลอดภัยนะ” อาร์คกล่าวลาในขณะที่Tenguตัวหนึ่งกำลังโบกดาบขนนกเข้าใส่ แต่มันก็ถูกเวทย์ Fire Wall’ ขวางทางไว้ให้ไม่สามารถตามกลุ่มของปราชญ์สาวไปได้ “เช่นกันนะ”โจเซฟินยิ้มตอบก่อนที่เธอจะหันหลังวิ่งจากไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×