ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6: นครซากุระ Amutsu
Ragnarok: the power of zodiac gems
Chapter 6: นครซากุระ Amutsu
"ดูท่าจะซ่อมหนัก!" อาร์คพูดทีเล่นทีจริง ความเสียหายที่Albertaมากเกินกว่าที่จะบูรณะให้เสร็จในเร็ววัน "แล้วจะไปAmutsuได้ไหมเนี่ย" จอมเวทย์หนุ่มหันมาถามปราชญ์สาว ซึ่งร้อนใจไม่แพ้กัน ทุกคนมองหน้ากันพร้อมถอนหายใจ "ถ้าเดินทางไม่ได้งานเราก็ไม่เสร็จ" ซิกฟรีดลงมาจากหลังPecopecoกรานี่สีหน้าของเขาแสดงความไม่สบายใจอย่างมากเช่นกัน "ทางนี้พวกเราจะจัดการเอง" พญาเสือEddga เอ่ยปากเขาคำรามเสียงดังสนั่นฝูงหมีBigfootก็ปรากฏขึ้นหน้าประตูเมือง "ทางนู้นมีเรืออยู่หนึ่งลำ! พวกท่านลองไปเจรจาดูเถอะ" Moonlight Flower บอกกับทุกคนเมื่อเธอมองเห็นเรือที่ไม่ได้รับความเสียหายกำลังเทียบท่า "เอ็นกิ! เจ้าก็ไปกับพวกเขาด้วย" นางพญาจิ้งจอกสั่ง พรานหนุ่มโค้งรับอย่างไม่เต็มใจนัก ใจจริงนั้นเขายังคงอยากอยู่ดูแลบุคคลที่เลี้ยงดูเด็กกำพร้าอย่างเขามาตั้งแต่จำความไม่ได้เสียมากกว่าที่จะต้องออกไปผจญภัยข้างนอก "พรานน้อยเอ๋ย! ข้าจะจัดการเรื่องแม่ของเจ้าเอง" พญาเสือEddgaเดินมายืนเคียงข้างMoonlight Flower ด้วยคำพูดที่เป็นดั่งคำมั่นสัญญานี้ทำให้เอ็นกิวางใจ "ฝากท่านหญิงด้วย" "ข้าก็เช่นกัน! ฝากจัสติสลูกชายข้าด้วย เขาก็มีชะตากรรมไม่ต่างจากเจ้านัก" เอ็นกิและEddgaร่ำลา ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน
"โชคดีจัง!" โจเซฟินอุทานเบาๆบนดาดฟ้าเรือที่กำลังแล่นมุ่งสู่เมืองแห่งซากุระบาน Amutsu ลมทะเลพัดเบาๆทำให้ผมสั้นสีเขียวของเธอปลิวไปกับสายลมอย่างที่เธอชอบ "ถ้าลมดีแบบนี้เราคงไปถึง Amutsuได้เร็ว" พรานหนุ่มเอ็นกิบอกกับหญิงสาว ใบหน้าของเขามีแววแห่งความกังวลเป็นห่วงหลงเหลืออยู่ มือของเขาควานในกระเป๋ากางเกงจนไปสะดุดกับจดหมายที่ท่านผู้เฒ่าแห่งGeffenฝากไว้ "คุณโจเซฟินครับ!" เอ็นกิเรียกปราชญ์สาว จนหญิงสาวเลิกคิ้ว "ไม่ทราบว่าคุณเห็นคุณอาร์ครึเปล่าครับ"พรานหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เก้อเขิน นอกจากนางพญาจิ้งจอกMoonlight เขาไม่เคยได้พูดคุยกับหญิงสาวคนใดโดยที่ไม่ได้อยู่ในระหว่างการต่อสู้เลย ปราชญ์สาวยิ้มขันๆเมื่อเห็นท่าที "คงจะในห้องมั้งคะ!" เธอตอบพร้อมรอยยิ้มจนชายหนุ่มรีบผละไปทันทีด้วยความเขินอาย
จอมเวทย์หนุ่มหลับพักผ่อนอยู่ในห้อง ฝันร้ายเมื่อสิบปีก่อนยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่เสมอมา เขาครวญครางด้วยความทรมานก่อนที่จะระเบิดเสียงร้องออกมาดังๆ "อ๊ากกกกก!!!" "คุณอาร์ค! " พรานหนุ่มเปิดประตูเข้าไปทันทีด้วยความตกใจ ในขณะที่อาร์คสะดุ้งตื่นสุดตัว อย่างเหนื่อยหอบ เหงื่อเม็ดโตปรากฏไปทั่วใบหน้า "ม ไม่ ไม่มีอะไร ค แค่ฝันร้าย เท่านั้นเอง" อาร์คตอบการหายใจของเขายังไม่คงที่ "ผมนำจดหมายมาให้" "จากคุณทวดรึ" แทนคำตอบเอ็นกิพยักหน้ารับ จอมเวทย์หนุ่มแกะซองอ่านอย่างระมัดระวังในขณะที่หนุ่มกำลังออกไปจากห้อง "จงไปตามหาครอบครองอัญมณีให้ครบทั้ง 12 คน แล้วพาทุกคนมาหาทวด" ชายหนุ่มอ่านข้อความที่ปรากฏในจดหมายดังกล่าวอีกครั้งเบาๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ คำพูดของอสูรBaphomet ดังก้องในหัว "พี่ต้องตามหาน้องให้พบ โรเชล"ชายหนุ่มพึมพำเบาๆกับตัวเอง
"เขาเป็นอะไรรึเปล่า ? ร้องซะลั่นเชียว" นายช่างไฟโรถามเอ็นกิ หน้าของเขาซีดเซียวจากอาการเมาเรือ "คุณยังดูน่าเป็นห่วงมากกว่าเขาอีกนะครับ" พรานหนุ่มพูดยิ้มๆ เหยี่ยวปีกสวยของเขาร้องรับอารมณ์ขันของนาย"ฉันก็ว่าอย่างนั้นนะ"ซิกฟรีดและจัสติสเอ่ยขึ้น ในขณะที่ไฟโรหันหลังวิ่งไปอาเจียนที่กราบเรือ "เรายังไม่รู้จักกันเป็นทางการเลยนะ" ซิกฟรีดเริ่มพูด พร้อมๆกับที่ปราชญ์สาวโจเซฟินเดินเข้ามาสมทบ อัญมณีทั้งห้าทอแสงประกายสวย "ผมชื่อ ซิกฟรีด อาเธอร์ อัศวินอิสระไม่สังกัดราชวงศ์" อัศวินหนุ่มโค้งคำนับอย่างมีมารยาท "ผมชื่อไฟโร ฟลาวาส นายช่างใหญ่ของAlberta" นายช่างหนุ่มแนะนำตัวบ้าง ใบหน้าของเขายังคงซีดเซียว "ผมจัสติส บุตรบุญธรรมของท่านEddga แห่งป่าชานเมืองPayon" ภิกษุหนุ่มแนะนำตัวผ้าคลุมของเขาโบกสะบัดเบาๆเมื่อต้องลม "ผมเอ็นกิบุตรแห่งนางพญาจิ้งจอกMoonlight Flower จากPayon " พรานหนุ่มดีดนิ้ว เหยี่ยวคู่ใจบินมาเกาะบนบ่าของเขา " นี่คือคู่หูของผม เซฟเฟอร์" เหยี่ยวร้องทักทายทุกคนด้วยเสียงที่ใสกังวาลราวกับสามารถฟังภาษามนุษย์ได้ "ทีของข้าซินะ " เสียงลึกลับดังขึ้น เงาของโจเซฟินกลายเป็นร่างของนักดาบผู้ลือชื่อ "Doppelganger" ซิกฟรีดอุทานเมื่อเห็นร่างที่แท้จริงของสหายที่ร่วมศึกเมื่อครู่อย่างชัดเจน มือของเขากระชับดาบของเอวโดยสัญชาตญาณ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ " โจเซฟินพูดเบาๆแล้วปรามพี่ชายของตนเมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางของอัศวินหนุ่ม "ฉันชื่อโจเซฟิน มิเนอร์วา และนี่ พี่ชายของฉัน โจเซฟ ส่วนจอมเวทย์คนนั้นคือ อาร์ค เวนเดล" "บุคคลเดียวที่รอดจากBaphometเมื่อ 10 ปีก่อนรึ" จัสติสเป็นฝ่ายอุทานออกมา สีหน้าของเขาเริ่มจางลงเป็นเคร่งขรึม "ผมเริ่มสังหรณ์ไม่ดี" ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ จนราวกับเป็นคำพูดติดปาก
เรือเข้าเทียบท่า ท่ามกลางกลีบดอกซากุระสีชมพูอ่อนสวยที่กำลังปลิวไปกับสายลมเบาๆ บรรยากาศของเมืองสงบและร่มรื่นมาก ทางตอนเหนือมีปราสาทหลังใหญ่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า โดยมีเสียงพิณบรรเลงเพลงดังแว่วมาจากปราสาทหลังโต ราวกับ กำลังต้อนรับแขกผู้มาเยือน "ถึงแล้วล่ะ" โจเซฟินออกมาจากเรือด้วยความตื่นเต้น เสียงเพลงยังคงดังก้องกังวานอย่างไพเราะ งดงาม และผ่อนคลาย "Purity of Your Smile" อาร์คเอ่ยเบาๆ เขาเริ่มระบายยิ้มบนใบหน้า ท่วงทำนองเพลงที่แสนอบอุ่น ทำให้เขาสงบจากความคิดที่ว้าวุ่น
ภายในปราสาทที่กว้างใหญ่ หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งดีดพิณด้วยท่าทางที่สง่างามท่ามกลางเหล่าซามูไร "มีแขกมาเยือน ท่านหญิง" ซาทูไรนายหนึ่งเปิดโซะจิ(ประตูกระดาษ) เข้ามาแจ้งข่าว ทุกคนในห้องหันควับมามองผู้เข้ามาแจ้งข่าวด้วยสายตาที่ราวกับสั่งสอนว่าไร้มารยาท แต่หญิงสาวยังคงดีดพิณอย่างสงบ "ผมไปต้อนรับเอง คุณหนูฮิคาริ" ซามูไรที่นั่งใกล้หญิงสาวมากที่สุดเอ่ยขึ้น เขากราบหญิงสูงศักดิ์เบื้องหน้าด้วย ความนอบน้อม หญิงสาวหยุดบรรเลงแทบทันที "ฉันกับท่านพ่อจะออกไปด้วย" เธอเอ่ยด้วยเสียงที่อ่อนโยน
"เมืองนี้สวยจังเลย" โจเซฟินอุทาน เธอโผเข้าไปหาต้นซากุระที่กำลังออกดอกสวยอย่างตื่นเต้น "ต้นซากุระต้นนั้นเป็นตำนานของเรา" เสียงอันทรงอำนาจดังขึ้น ผู้มาเยือนทั้งหก มองไปยังต้นเสียงนั้นทันที สิ่งที่พวกเขาได้พบคือ บุคคลแปลกหน้าสามคน ชายสองหญิงหนึ่ง ท่าทางสง่างามและสูงศักดิ์ทั้งสามคน "ยินดีต้อนรับสู่ Amutsu" ชายสูงวัยที่สุดกล่าวทักทาย "ข้าคือ อิชิดะ เป็นผู้ครอบครองเมืองนี้ นี่คือลูกสาวข้า ฮิคาริ ละลูกชายบุญธรรมของข้า ยางามิ " ท่านเจ้าเมืองแนะนำตัวด้วยไมตรีจิต พลันอัญมณีทั้งห้าก็ส่องสงเป็นประกาย "พวกท่านคือคนกลุ่มนั้นซินะ" หญิงสาวเอ่ยเบาๆ แหวนนิลกาฬ(Sapphire) ส่องสงสีน้ำเงินเช่นกัน "ถ้าเช่นนั้น เราคงพ้นปัญหาเสียที" ท่านเจ้าเมืองอุทานด้วยความดีใจ ท่ามกลางความงุนงงของแขกทั้งหก กับกลีบดอกซากุระที่ร่วงหล่นและปลิวไปกับสายลม
Chapter 6: นครซากุระ Amutsu
"ดูท่าจะซ่อมหนัก!" อาร์คพูดทีเล่นทีจริง ความเสียหายที่Albertaมากเกินกว่าที่จะบูรณะให้เสร็จในเร็ววัน "แล้วจะไปAmutsuได้ไหมเนี่ย" จอมเวทย์หนุ่มหันมาถามปราชญ์สาว ซึ่งร้อนใจไม่แพ้กัน ทุกคนมองหน้ากันพร้อมถอนหายใจ "ถ้าเดินทางไม่ได้งานเราก็ไม่เสร็จ" ซิกฟรีดลงมาจากหลังPecopecoกรานี่สีหน้าของเขาแสดงความไม่สบายใจอย่างมากเช่นกัน "ทางนี้พวกเราจะจัดการเอง" พญาเสือEddga เอ่ยปากเขาคำรามเสียงดังสนั่นฝูงหมีBigfootก็ปรากฏขึ้นหน้าประตูเมือง "ทางนู้นมีเรืออยู่หนึ่งลำ! พวกท่านลองไปเจรจาดูเถอะ" Moonlight Flower บอกกับทุกคนเมื่อเธอมองเห็นเรือที่ไม่ได้รับความเสียหายกำลังเทียบท่า "เอ็นกิ! เจ้าก็ไปกับพวกเขาด้วย" นางพญาจิ้งจอกสั่ง พรานหนุ่มโค้งรับอย่างไม่เต็มใจนัก ใจจริงนั้นเขายังคงอยากอยู่ดูแลบุคคลที่เลี้ยงดูเด็กกำพร้าอย่างเขามาตั้งแต่จำความไม่ได้เสียมากกว่าที่จะต้องออกไปผจญภัยข้างนอก "พรานน้อยเอ๋ย! ข้าจะจัดการเรื่องแม่ของเจ้าเอง" พญาเสือEddgaเดินมายืนเคียงข้างMoonlight Flower ด้วยคำพูดที่เป็นดั่งคำมั่นสัญญานี้ทำให้เอ็นกิวางใจ "ฝากท่านหญิงด้วย" "ข้าก็เช่นกัน! ฝากจัสติสลูกชายข้าด้วย เขาก็มีชะตากรรมไม่ต่างจากเจ้านัก" เอ็นกิและEddgaร่ำลา ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน
"โชคดีจัง!" โจเซฟินอุทานเบาๆบนดาดฟ้าเรือที่กำลังแล่นมุ่งสู่เมืองแห่งซากุระบาน Amutsu ลมทะเลพัดเบาๆทำให้ผมสั้นสีเขียวของเธอปลิวไปกับสายลมอย่างที่เธอชอบ "ถ้าลมดีแบบนี้เราคงไปถึง Amutsuได้เร็ว" พรานหนุ่มเอ็นกิบอกกับหญิงสาว ใบหน้าของเขามีแววแห่งความกังวลเป็นห่วงหลงเหลืออยู่ มือของเขาควานในกระเป๋ากางเกงจนไปสะดุดกับจดหมายที่ท่านผู้เฒ่าแห่งGeffenฝากไว้ "คุณโจเซฟินครับ!" เอ็นกิเรียกปราชญ์สาว จนหญิงสาวเลิกคิ้ว "ไม่ทราบว่าคุณเห็นคุณอาร์ครึเปล่าครับ"พรานหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เก้อเขิน นอกจากนางพญาจิ้งจอกMoonlight เขาไม่เคยได้พูดคุยกับหญิงสาวคนใดโดยที่ไม่ได้อยู่ในระหว่างการต่อสู้เลย ปราชญ์สาวยิ้มขันๆเมื่อเห็นท่าที "คงจะในห้องมั้งคะ!" เธอตอบพร้อมรอยยิ้มจนชายหนุ่มรีบผละไปทันทีด้วยความเขินอาย
จอมเวทย์หนุ่มหลับพักผ่อนอยู่ในห้อง ฝันร้ายเมื่อสิบปีก่อนยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่เสมอมา เขาครวญครางด้วยความทรมานก่อนที่จะระเบิดเสียงร้องออกมาดังๆ "อ๊ากกกกก!!!" "คุณอาร์ค! " พรานหนุ่มเปิดประตูเข้าไปทันทีด้วยความตกใจ ในขณะที่อาร์คสะดุ้งตื่นสุดตัว อย่างเหนื่อยหอบ เหงื่อเม็ดโตปรากฏไปทั่วใบหน้า "ม ไม่ ไม่มีอะไร ค แค่ฝันร้าย เท่านั้นเอง" อาร์คตอบการหายใจของเขายังไม่คงที่ "ผมนำจดหมายมาให้" "จากคุณทวดรึ" แทนคำตอบเอ็นกิพยักหน้ารับ จอมเวทย์หนุ่มแกะซองอ่านอย่างระมัดระวังในขณะที่หนุ่มกำลังออกไปจากห้อง "จงไปตามหาครอบครองอัญมณีให้ครบทั้ง 12 คน แล้วพาทุกคนมาหาทวด" ชายหนุ่มอ่านข้อความที่ปรากฏในจดหมายดังกล่าวอีกครั้งเบาๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ คำพูดของอสูรBaphomet ดังก้องในหัว "พี่ต้องตามหาน้องให้พบ โรเชล"ชายหนุ่มพึมพำเบาๆกับตัวเอง
"เขาเป็นอะไรรึเปล่า ? ร้องซะลั่นเชียว" นายช่างไฟโรถามเอ็นกิ หน้าของเขาซีดเซียวจากอาการเมาเรือ "คุณยังดูน่าเป็นห่วงมากกว่าเขาอีกนะครับ" พรานหนุ่มพูดยิ้มๆ เหยี่ยวปีกสวยของเขาร้องรับอารมณ์ขันของนาย"ฉันก็ว่าอย่างนั้นนะ"ซิกฟรีดและจัสติสเอ่ยขึ้น ในขณะที่ไฟโรหันหลังวิ่งไปอาเจียนที่กราบเรือ "เรายังไม่รู้จักกันเป็นทางการเลยนะ" ซิกฟรีดเริ่มพูด พร้อมๆกับที่ปราชญ์สาวโจเซฟินเดินเข้ามาสมทบ อัญมณีทั้งห้าทอแสงประกายสวย "ผมชื่อ ซิกฟรีด อาเธอร์ อัศวินอิสระไม่สังกัดราชวงศ์" อัศวินหนุ่มโค้งคำนับอย่างมีมารยาท "ผมชื่อไฟโร ฟลาวาส นายช่างใหญ่ของAlberta" นายช่างหนุ่มแนะนำตัวบ้าง ใบหน้าของเขายังคงซีดเซียว "ผมจัสติส บุตรบุญธรรมของท่านEddga แห่งป่าชานเมืองPayon" ภิกษุหนุ่มแนะนำตัวผ้าคลุมของเขาโบกสะบัดเบาๆเมื่อต้องลม "ผมเอ็นกิบุตรแห่งนางพญาจิ้งจอกMoonlight Flower จากPayon " พรานหนุ่มดีดนิ้ว เหยี่ยวคู่ใจบินมาเกาะบนบ่าของเขา " นี่คือคู่หูของผม เซฟเฟอร์" เหยี่ยวร้องทักทายทุกคนด้วยเสียงที่ใสกังวาลราวกับสามารถฟังภาษามนุษย์ได้ "ทีของข้าซินะ " เสียงลึกลับดังขึ้น เงาของโจเซฟินกลายเป็นร่างของนักดาบผู้ลือชื่อ "Doppelganger" ซิกฟรีดอุทานเมื่อเห็นร่างที่แท้จริงของสหายที่ร่วมศึกเมื่อครู่อย่างชัดเจน มือของเขากระชับดาบของเอวโดยสัญชาตญาณ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ " โจเซฟินพูดเบาๆแล้วปรามพี่ชายของตนเมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางของอัศวินหนุ่ม "ฉันชื่อโจเซฟิน มิเนอร์วา และนี่ พี่ชายของฉัน โจเซฟ ส่วนจอมเวทย์คนนั้นคือ อาร์ค เวนเดล" "บุคคลเดียวที่รอดจากBaphometเมื่อ 10 ปีก่อนรึ" จัสติสเป็นฝ่ายอุทานออกมา สีหน้าของเขาเริ่มจางลงเป็นเคร่งขรึม "ผมเริ่มสังหรณ์ไม่ดี" ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ จนราวกับเป็นคำพูดติดปาก
เรือเข้าเทียบท่า ท่ามกลางกลีบดอกซากุระสีชมพูอ่อนสวยที่กำลังปลิวไปกับสายลมเบาๆ บรรยากาศของเมืองสงบและร่มรื่นมาก ทางตอนเหนือมีปราสาทหลังใหญ่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า โดยมีเสียงพิณบรรเลงเพลงดังแว่วมาจากปราสาทหลังโต ราวกับ กำลังต้อนรับแขกผู้มาเยือน "ถึงแล้วล่ะ" โจเซฟินออกมาจากเรือด้วยความตื่นเต้น เสียงเพลงยังคงดังก้องกังวานอย่างไพเราะ งดงาม และผ่อนคลาย "Purity of Your Smile" อาร์คเอ่ยเบาๆ เขาเริ่มระบายยิ้มบนใบหน้า ท่วงทำนองเพลงที่แสนอบอุ่น ทำให้เขาสงบจากความคิดที่ว้าวุ่น
ภายในปราสาทที่กว้างใหญ่ หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งดีดพิณด้วยท่าทางที่สง่างามท่ามกลางเหล่าซามูไร "มีแขกมาเยือน ท่านหญิง" ซาทูไรนายหนึ่งเปิดโซะจิ(ประตูกระดาษ) เข้ามาแจ้งข่าว ทุกคนในห้องหันควับมามองผู้เข้ามาแจ้งข่าวด้วยสายตาที่ราวกับสั่งสอนว่าไร้มารยาท แต่หญิงสาวยังคงดีดพิณอย่างสงบ "ผมไปต้อนรับเอง คุณหนูฮิคาริ" ซามูไรที่นั่งใกล้หญิงสาวมากที่สุดเอ่ยขึ้น เขากราบหญิงสูงศักดิ์เบื้องหน้าด้วย ความนอบน้อม หญิงสาวหยุดบรรเลงแทบทันที "ฉันกับท่านพ่อจะออกไปด้วย" เธอเอ่ยด้วยเสียงที่อ่อนโยน
"เมืองนี้สวยจังเลย" โจเซฟินอุทาน เธอโผเข้าไปหาต้นซากุระที่กำลังออกดอกสวยอย่างตื่นเต้น "ต้นซากุระต้นนั้นเป็นตำนานของเรา" เสียงอันทรงอำนาจดังขึ้น ผู้มาเยือนทั้งหก มองไปยังต้นเสียงนั้นทันที สิ่งที่พวกเขาได้พบคือ บุคคลแปลกหน้าสามคน ชายสองหญิงหนึ่ง ท่าทางสง่างามและสูงศักดิ์ทั้งสามคน "ยินดีต้อนรับสู่ Amutsu" ชายสูงวัยที่สุดกล่าวทักทาย "ข้าคือ อิชิดะ เป็นผู้ครอบครองเมืองนี้ นี่คือลูกสาวข้า ฮิคาริ ละลูกชายบุญธรรมของข้า ยางามิ " ท่านเจ้าเมืองแนะนำตัวด้วยไมตรีจิต พลันอัญมณีทั้งห้าก็ส่องสงเป็นประกาย "พวกท่านคือคนกลุ่มนั้นซินะ" หญิงสาวเอ่ยเบาๆ แหวนนิลกาฬ(Sapphire) ส่องสงสีน้ำเงินเช่นกัน "ถ้าเช่นนั้น เราคงพ้นปัญหาเสียที" ท่านเจ้าเมืองอุทานด้วยความดีใจ ท่ามกลางความงุนงงของแขกทั้งหก กับกลีบดอกซากุระที่ร่วงหล่นและปลิวไปกับสายลม
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น