ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 13: จุดเริ่มต้นของความรัก
Ragnarok: the power of zodiac gems
  Chapter 13: จุดเริ่มต้นของความรัก
  “แม่คะ! พี่คะ! “ เสียงร้องไห้กระซิกของเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ดังขึ้นในเงามืดสลัว เด็กชายอาร์คในวัย8ขวบเดินเข้าไปหาและสวดกอดเด็กหญิงไว้แนบอกเพื่อปลอบประโลม “ฉึก!” Katarอาวุธสังหารของเหล่านักฆ่าแทงทะลุร่างของเขาเลือดสดๆไหลทะลัก เด็กหญิงในอ้อมกอดกลายเป็นนักฆ่าสาวผู้ที่มีสีหน้าและแววตาไร้อารมณ์
  “อ๊ากกกกก!!!” จอมเวทย์หนุ่มร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาในความมืดของห้องๆหนึ่ง ชายหนุ่มหอบโยนเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นไปทั่วทั้งลำตัวและใบหน้า “ยังเช้ามืดอยู่เลย” เสียงของโจเซฟินดังขึ้นจากมุมห้องหญิงสาวเดินช้าๆพร้อมอ้าปากหาวอึกใหญ่ “ที่นี่ที่ไหน” จอมเวทย์หนุ่มมองไปรอบตัวพบว่าเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นตา เอ๊นกิกับนกคู่ใจนั่งหลับบนเก้าอี้ตัวหนึ่งส่วนซิกฟรีดนอนอยู่ข้างตัวเขาโดยมีที่ว่างเหลือเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นในอีกด้านข้างตัวเขาซึ่งไม่พอสำหรับพรานหนุ่มจากPayon “โรงแรมแห่งหนึ่งใน Morrocน่ะ” หญิงสาวไขข้อข้องใจเธอทิ้งร่างลงบนเตียงซึ่งมีที่ว่างอันน้อยนิดนั้น “นอนให้พอเถอะนะ! เธอเหนื่อยมามากแล้ว” โจเซฟินพูดพลางผลักแผ่นอกอันเปลือยเปล่าที่เปียกโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อให้ล้มลงบนเตียงก่อนที่เธอจะเดินช้าๆกลับไปยังตำแหน่งของเธอ อาร์คหลับตาลงอย่างว่าง่าย
  อาร์คตื่นขึ้นมาอีกครั้งราว 10 โมงเช้าพบว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในห้องเลย เขาลุกขึ้นหยิบเสื้อและผ้าคลุมที่พาดอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่งมาสวมใส่ พลันนักปราชญ์สาวก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมข้าวต้มร้อนๆ “จะไปไหนน่ะ” โจเซฟินถามอย่างประหลาดใจพร้อมกับวางถาดอาหารลงบนโต๊ะ “จะไปหาคุณทวด” “โธ่! อาร์ค ! พักผ่อนซักวันได้ไหม!” โจเซฟินตัดพ้อเธออยากให้ชายหนุ่มได้ปล่อยวางความคิดบ้าง “แต่...” ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากของชายหนุ่มเพราะหญิงสาวตักข้าวต้มยัดปากเขาก่อนที่เขาจะได้พูดต่อ “เธอไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น! ฉันให้เอ็นกิกับซิกฟรีดไปแทนเธอแล้ว” โจเซฟินบอกกับเขาพลางตักข้าวต้มอีกช้อน “วันนี้ฉันจะดูแลเธอเอง” อาร์คตื้นตันกับคำพูดของเธอเขาตักข้าวกินอย่างไม่ขัดขืน ความอบอุ่นที่แปลกประหลาดก่อตัวขึ้นในใจหลังจากที่ห่างหายไปนับ 10 ปี
  หากเลาะทะเลทรายจากมหานคร Morroc ไปทางทิศตะวันตก จะพบกับชายทะเล Kokomo ไม่ไกลนักก็จะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของาณาจักร Rune Midgard นามว่า Comodo สองผู้ใช้เวทย์เดินทางมายังเมืองที่คึกคักนี้ด้วยบริการของ Kafra “เราจะไปที่ไหนก่อนดี” หญิงสาวเอ่ยปากชวนชายหนุ่มที่ยืนเก้ๆกังๆอย่างวางตัวไม่ถูก ก่อนที่จะจูงมือของเขาไปยัง Casinoที่ตั้งอยู่โดดเด่นกลางเมือง ชายหนุ่มหัวใจเต้นแรงไม่ขัดขืน เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
  “โจเซฟิน!” อาร์คร้องเรียกปราชญ์สาว ทั้งสองคนหยุดอยู่ที่โต๊ะพนันตัวหนึ่ง “เรากลับกันเถอะนะ” จอมเวทย์หนุ่มพูดเสียงอ่อย เขารู้สึกไม่ค่อยดีในสถานที่แห่งนี้ มันอึกอัดและหนาแน่นจนเกินไป “ฉันก็ไม่ชอบที่แบบนี้นักหรอก” หญิงสาวสารภาพก่อนที่จะส่งยิ้มกลับมาให้ชายหนุ่ม “แต่ลองอะไรใหม่ๆหน่อยก็คงไม่เลว” หญิงสาวยักไหล่รอยยิ้มของเธอพาให้แก้มของอาร์คแดงอย่างไม่รู้ตัว  ขณะที่โจเซฟินจะวางเงินเดิมพันนั้นเอง มือของอาร์คก็มาจับแขนของเธออย่างรวดเร็วเป็นเชิงห้าม  การสัมผัสแบบนี้เป็นสัมผัสที่หญิงสาวไม่ได้ตั้งตัว ปราชญ์สาวสะดุ้งตกใจ หัวใจของเธอเต้นรัวไม่ต่างจากชายหนุ่ม “ผมไม่ชอบ! ไปกันเถอะนะ” อาร์คเอ่ยปากเบาๆ หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนที่จะรีบเดินจากไปเพื่อปกปิดแก้มที่เริ่มแดงระเรื่อ
  เสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆบนชายหาดที่เงียบสงบไม่คึกคักเหมือนในเมือง ชายหญิงทั้งสองเดินฟังเสียงคลื่นผสมกับลมที่พัดเบาๆทำให้ทั้งสองผ่อนคลายหลายสิ่งที่อยู่ในใจ “โจเซฟิน!” “จ๊ะ!” อาร์คเรียกปราชญ์สาวข้างกาย เธอหันกลับมาตอบด้วยความสดใส “ทำไมคุณถึง...” ”อ๊ะ! ที่นั้นมีโรงละครด้วย เราไปดูกันเถอะ” อาร์คพยายามที่จะเอ่ยปากแต่หญิงสาวกลับฉุดมือเขาไปยังโรงละครที่อยู่ใกล้เคียง น้ำเสียงของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มยอมตามใจ ทั้งคู่จึงเข้าชมการแสดงในโรงละครโรงเล็กนั้นด้วยกัน โดยมีกวี(Bard)และนักเต้น(Dancer) ขับกล่อมร้องบรรเลงเข้าขากันอย่างงดงามจนลืมเวลาที่ย่างเข้าสู่เย็นย่ำ การแสดงจึงจบลงท่ามกลางเสียงปรบมือชื่นชม
  “สนุกจังเลย” โจเซฟินเอ่ยออกมาเมื่ออกจากโรงละคร เธอนั่งลงบนหาดโดยไม่ได้สนใจเม็ดทรายละเอียดบนพื้นแม้แต่น้อยโดยมีชายหนุ่มยืนอยู่เคียงข้างพลางจ้องมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ทำไมคุณถึงดีกับผมนัก” อาร์คถามออกมาเบาๆ ปราชญ์สาวจึงหันไปมองจอมเวทย์หนุ่มด้วยสายตาที่อ่อนหวาน “อาร์ค! เธอทุกข์และเหนื่อยมามากแล้ว ฉันก็อยากจะให้เธอมีความสุขจริงๆจากภายในใจของเธอบ้างไม่ใช่ความสุขหลอกๆที่เธอพยายามแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเธอมี ก็เท่านั้นเอง” หญิงสาวตอบเบาๆ จอมเวทย์อาร์คนั่งลงเคียงข้างเธอ โดยที่ปราชญ์สาวเผลอซบไหล่ของเขา “ทุกทีที่ฉันมองไปที่เธอ ฉันเห็นในใจของเธอเต็มไปด้วยความดำมืด อ้างว้าง โดดเดี่ยว“ หญิงสาวพูดจบแค่นั้นเธอจึงรู้สึกตัว โจเซฟินสะดุ้งพลางขยับร่างของเธอออกห่างทันทีด้วยความอาย แก้มของเธอเริ่มแดงขึ้นอีกครั้ง “ข...ขอโทษนะ...ที่ซบไหล่เธอ” ปราชญ์สาวขอโทษเบาๆชายหนุ่มได้แต่มองหญิงสาวซักครู่ก่อนที่จะขยับตัวเข้าไปใกล้ด้วยท่าทางที่เก้อเขินและหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้กัน “ม...ไม่เป็นไร...ขอบใจนะ” อาร์คอ้อมแอ้มตอบเสียงสั่นเครือ สายตาทั้งสองประสานกันโดยหวังจะเห็นความรู้สึกที่อยู่ภายใน ปราชญ์สาวเห็นความเหน็ดเหนื่อยที่จะมีชีวิตอยู่ของจอมเวทย์หนุ่ม และอาร์ดเองก็เป็นแววตาที่เป็นห่วงอยู่ในดวงตากลมใสของโจเซฟิน  ทั้งสองหน้าแดงด้วยความเขินอาย จอมเวทย์หนุ่มจึงเลี่ยงหันไปมองบนท้องฟ้ากว้าง “ผมไม่เคยรู้ว่าท้องฟ้าสวยงามถึงเพียงนี้”ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆ โจเซฟินซบไหล่ของเขาอีกครั้ง “ถ้าทุกวันข้างหน้า สงบและสวยงามอย่างนี้ทุกวัน ก็คงจะดีนะ” \"ใช่! คงจะดีไม่น้อยเลย” หญิงสาวเอ่ยปากเบาๆโดยที่อาร์คนั้นเห็นด้วย ทั้งสองนั่งมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวและพลุไฟ ท่ามกลางเสียงเห่กล่อมจากคลื่นที่ซัดสาด “ผมจะไม่ลืมวันนี้เลย” อาร์คพึมพำเบาๆ  “มีเพียงแค่เรา” อาร์คและโจเซฟินคิดอยู่ภายในใจด้วยกันก่อนจะอิงหลับกันอย่างเป็นสุขบนหาดอันสงบที่มีเสียงคลื่นขับกล่อมและหมู่ดาวบนท้องฟ้าเป็นผู้เฝ้ามองอย่างอ่อนโยน
  Chapter 13: จุดเริ่มต้นของความรัก
  “แม่คะ! พี่คะ! “ เสียงร้องไห้กระซิกของเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ดังขึ้นในเงามืดสลัว เด็กชายอาร์คในวัย8ขวบเดินเข้าไปหาและสวดกอดเด็กหญิงไว้แนบอกเพื่อปลอบประโลม “ฉึก!” Katarอาวุธสังหารของเหล่านักฆ่าแทงทะลุร่างของเขาเลือดสดๆไหลทะลัก เด็กหญิงในอ้อมกอดกลายเป็นนักฆ่าสาวผู้ที่มีสีหน้าและแววตาไร้อารมณ์
  “อ๊ากกกกก!!!” จอมเวทย์หนุ่มร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาในความมืดของห้องๆหนึ่ง ชายหนุ่มหอบโยนเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นไปทั่วทั้งลำตัวและใบหน้า “ยังเช้ามืดอยู่เลย” เสียงของโจเซฟินดังขึ้นจากมุมห้องหญิงสาวเดินช้าๆพร้อมอ้าปากหาวอึกใหญ่ “ที่นี่ที่ไหน” จอมเวทย์หนุ่มมองไปรอบตัวพบว่าเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นตา เอ๊นกิกับนกคู่ใจนั่งหลับบนเก้าอี้ตัวหนึ่งส่วนซิกฟรีดนอนอยู่ข้างตัวเขาโดยมีที่ว่างเหลือเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นในอีกด้านข้างตัวเขาซึ่งไม่พอสำหรับพรานหนุ่มจากPayon “โรงแรมแห่งหนึ่งใน Morrocน่ะ” หญิงสาวไขข้อข้องใจเธอทิ้งร่างลงบนเตียงซึ่งมีที่ว่างอันน้อยนิดนั้น “นอนให้พอเถอะนะ! เธอเหนื่อยมามากแล้ว” โจเซฟินพูดพลางผลักแผ่นอกอันเปลือยเปล่าที่เปียกโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อให้ล้มลงบนเตียงก่อนที่เธอจะเดินช้าๆกลับไปยังตำแหน่งของเธอ อาร์คหลับตาลงอย่างว่าง่าย
  อาร์คตื่นขึ้นมาอีกครั้งราว 10 โมงเช้าพบว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในห้องเลย เขาลุกขึ้นหยิบเสื้อและผ้าคลุมที่พาดอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่งมาสวมใส่ พลันนักปราชญ์สาวก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมข้าวต้มร้อนๆ “จะไปไหนน่ะ” โจเซฟินถามอย่างประหลาดใจพร้อมกับวางถาดอาหารลงบนโต๊ะ “จะไปหาคุณทวด” “โธ่! อาร์ค ! พักผ่อนซักวันได้ไหม!” โจเซฟินตัดพ้อเธออยากให้ชายหนุ่มได้ปล่อยวางความคิดบ้าง “แต่...” ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากของชายหนุ่มเพราะหญิงสาวตักข้าวต้มยัดปากเขาก่อนที่เขาจะได้พูดต่อ “เธอไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น! ฉันให้เอ็นกิกับซิกฟรีดไปแทนเธอแล้ว” โจเซฟินบอกกับเขาพลางตักข้าวต้มอีกช้อน “วันนี้ฉันจะดูแลเธอเอง” อาร์คตื้นตันกับคำพูดของเธอเขาตักข้าวกินอย่างไม่ขัดขืน ความอบอุ่นที่แปลกประหลาดก่อตัวขึ้นในใจหลังจากที่ห่างหายไปนับ 10 ปี
  หากเลาะทะเลทรายจากมหานคร Morroc ไปทางทิศตะวันตก จะพบกับชายทะเล Kokomo ไม่ไกลนักก็จะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของาณาจักร Rune Midgard นามว่า Comodo สองผู้ใช้เวทย์เดินทางมายังเมืองที่คึกคักนี้ด้วยบริการของ Kafra “เราจะไปที่ไหนก่อนดี” หญิงสาวเอ่ยปากชวนชายหนุ่มที่ยืนเก้ๆกังๆอย่างวางตัวไม่ถูก ก่อนที่จะจูงมือของเขาไปยัง Casinoที่ตั้งอยู่โดดเด่นกลางเมือง ชายหนุ่มหัวใจเต้นแรงไม่ขัดขืน เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
  “โจเซฟิน!” อาร์คร้องเรียกปราชญ์สาว ทั้งสองคนหยุดอยู่ที่โต๊ะพนันตัวหนึ่ง “เรากลับกันเถอะนะ” จอมเวทย์หนุ่มพูดเสียงอ่อย เขารู้สึกไม่ค่อยดีในสถานที่แห่งนี้ มันอึกอัดและหนาแน่นจนเกินไป “ฉันก็ไม่ชอบที่แบบนี้นักหรอก” หญิงสาวสารภาพก่อนที่จะส่งยิ้มกลับมาให้ชายหนุ่ม “แต่ลองอะไรใหม่ๆหน่อยก็คงไม่เลว” หญิงสาวยักไหล่รอยยิ้มของเธอพาให้แก้มของอาร์คแดงอย่างไม่รู้ตัว  ขณะที่โจเซฟินจะวางเงินเดิมพันนั้นเอง มือของอาร์คก็มาจับแขนของเธออย่างรวดเร็วเป็นเชิงห้าม  การสัมผัสแบบนี้เป็นสัมผัสที่หญิงสาวไม่ได้ตั้งตัว ปราชญ์สาวสะดุ้งตกใจ หัวใจของเธอเต้นรัวไม่ต่างจากชายหนุ่ม “ผมไม่ชอบ! ไปกันเถอะนะ” อาร์คเอ่ยปากเบาๆ หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนที่จะรีบเดินจากไปเพื่อปกปิดแก้มที่เริ่มแดงระเรื่อ
  เสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆบนชายหาดที่เงียบสงบไม่คึกคักเหมือนในเมือง ชายหญิงทั้งสองเดินฟังเสียงคลื่นผสมกับลมที่พัดเบาๆทำให้ทั้งสองผ่อนคลายหลายสิ่งที่อยู่ในใจ “โจเซฟิน!” “จ๊ะ!” อาร์คเรียกปราชญ์สาวข้างกาย เธอหันกลับมาตอบด้วยความสดใส “ทำไมคุณถึง...” ”อ๊ะ! ที่นั้นมีโรงละครด้วย เราไปดูกันเถอะ” อาร์คพยายามที่จะเอ่ยปากแต่หญิงสาวกลับฉุดมือเขาไปยังโรงละครที่อยู่ใกล้เคียง น้ำเสียงของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มยอมตามใจ ทั้งคู่จึงเข้าชมการแสดงในโรงละครโรงเล็กนั้นด้วยกัน โดยมีกวี(Bard)และนักเต้น(Dancer) ขับกล่อมร้องบรรเลงเข้าขากันอย่างงดงามจนลืมเวลาที่ย่างเข้าสู่เย็นย่ำ การแสดงจึงจบลงท่ามกลางเสียงปรบมือชื่นชม
  “สนุกจังเลย” โจเซฟินเอ่ยออกมาเมื่ออกจากโรงละคร เธอนั่งลงบนหาดโดยไม่ได้สนใจเม็ดทรายละเอียดบนพื้นแม้แต่น้อยโดยมีชายหนุ่มยืนอยู่เคียงข้างพลางจ้องมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ทำไมคุณถึงดีกับผมนัก” อาร์คถามออกมาเบาๆ ปราชญ์สาวจึงหันไปมองจอมเวทย์หนุ่มด้วยสายตาที่อ่อนหวาน “อาร์ค! เธอทุกข์และเหนื่อยมามากแล้ว ฉันก็อยากจะให้เธอมีความสุขจริงๆจากภายในใจของเธอบ้างไม่ใช่ความสุขหลอกๆที่เธอพยายามแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเธอมี ก็เท่านั้นเอง” หญิงสาวตอบเบาๆ จอมเวทย์อาร์คนั่งลงเคียงข้างเธอ โดยที่ปราชญ์สาวเผลอซบไหล่ของเขา “ทุกทีที่ฉันมองไปที่เธอ ฉันเห็นในใจของเธอเต็มไปด้วยความดำมืด อ้างว้าง โดดเดี่ยว“ หญิงสาวพูดจบแค่นั้นเธอจึงรู้สึกตัว โจเซฟินสะดุ้งพลางขยับร่างของเธอออกห่างทันทีด้วยความอาย แก้มของเธอเริ่มแดงขึ้นอีกครั้ง “ข...ขอโทษนะ...ที่ซบไหล่เธอ” ปราชญ์สาวขอโทษเบาๆชายหนุ่มได้แต่มองหญิงสาวซักครู่ก่อนที่จะขยับตัวเข้าไปใกล้ด้วยท่าทางที่เก้อเขินและหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้กัน “ม...ไม่เป็นไร...ขอบใจนะ” อาร์คอ้อมแอ้มตอบเสียงสั่นเครือ สายตาทั้งสองประสานกันโดยหวังจะเห็นความรู้สึกที่อยู่ภายใน ปราชญ์สาวเห็นความเหน็ดเหนื่อยที่จะมีชีวิตอยู่ของจอมเวทย์หนุ่ม และอาร์ดเองก็เป็นแววตาที่เป็นห่วงอยู่ในดวงตากลมใสของโจเซฟิน  ทั้งสองหน้าแดงด้วยความเขินอาย จอมเวทย์หนุ่มจึงเลี่ยงหันไปมองบนท้องฟ้ากว้าง “ผมไม่เคยรู้ว่าท้องฟ้าสวยงามถึงเพียงนี้”ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆ โจเซฟินซบไหล่ของเขาอีกครั้ง “ถ้าทุกวันข้างหน้า สงบและสวยงามอย่างนี้ทุกวัน ก็คงจะดีนะ” \"ใช่! คงจะดีไม่น้อยเลย” หญิงสาวเอ่ยปากเบาๆโดยที่อาร์คนั้นเห็นด้วย ทั้งสองนั่งมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวและพลุไฟ ท่ามกลางเสียงเห่กล่อมจากคลื่นที่ซัดสาด “ผมจะไม่ลืมวันนี้เลย” อาร์คพึมพำเบาๆ  “มีเพียงแค่เรา” อาร์คและโจเซฟินคิดอยู่ภายในใจด้วยกันก่อนจะอิงหลับกันอย่างเป็นสุขบนหาดอันสงบที่มีเสียงคลื่นขับกล่อมและหมู่ดาวบนท้องฟ้าเป็นผู้เฝ้ามองอย่างอ่อนโยน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น