ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11: ในโบราณสถาน สฟิงค์
Ragnarok: the power of zodiac gems
  Chapter 11: ในโบราณสถาน สฟิงค์
  ทางด้านใต้ของพีระมิดไม่ไกลนักเป็นที่ตั้งของอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของMorrocนั้นคือสฟิงค์ สถาปัตยกรรมโบราณจากหินทรายรูปสัตว์ในเทพนิยายที่มีลำตัวเป็นสิงห์แต่ศีรษะมนุษย์บริเวณช่องอกนั้นถูกเจาะให้เป็นประตูเข้าไปได้ แต่เป็นประตูที่จะเปิดไปสู่หนทางที่ลึกลับ ชายหนุ่มทั้งสามได้เดินทางจากพีระมิดมายังเบื้องหน้าของสถานที่แห่งนี้ “เราต้องเอาเจ้าเป็ดนี่ไว้ที่นี่” โรฟาสั่งเฉียบขาดแต่ซิกฟรีดดูไม่อยากจะยินยอมเพียงแต่เขาก็จำเป็นต้องลงจากหลังของมัน “เจ้าคอยข้าอยู่แถวนี่นะ กรานี่” อัศวินหนุ่มกระซิบเบาๆนก Pecepecoสงบนิ่งยอมรับฟัง ก่อนที่จะวิ่งหลบออกไปแต่ก็อยู่ไม่ห่างจากสฟิงค์มากนัก “เราไปกันเถอะ”อาร์คร้องชวนทุกคนพลางก้าวนำเข้าไปสู่สถานที่อันน่ากลัว
  ภายในสฟิงค์นั้นคล้ายกับทางเดินในพีระมิดที่คดเคี้ยวเพียงแต่ที่นี่นั้นไม่มีกับดักอันตรายซ่อนอยู่มากนัก โรฟาอันธพาลผู้ชำนาญทางเดินลัดเลาะนำทั้งสองไปเรื่อยๆ “แครก! แครก!” เสียงของคนแบกของหนักระคนกับเสียงร้องโหยหวนสะท้อนดังก้องพร้อมกับเสียงของโซ่ที่ลากไปกับพื้นหิน “ข้าว่าไม่ดีแล้วล่ะ!” โรฟาเอ่ยเบาๆพลางชักมีด Damascus ของตนออกจากเอว ท่าทางเช่นนั้นทำให้ซิกฟรีดกระชับดาบในมือตามทันที เมื่อทั้งหมดเดินเลี้ยวที่บริเวณมุมทางเดินนั้น พวกเขาได้เห็นจับกังปีศาจZerom ซึ่งมีโซ่ล่ามขาทั้งสอง กำลังแบกหินก้อนใหญ่และหนักอึ้งไว้บนหลัง อีกทั้งยังมีปีศาจผู้แบกโลง Requiem ซึ่งแต่เดิมนั้นพวกเขาเป็นมนุษย์ผู้ลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ หลงผิดเข้ามาในสฟิงค์เพื่อหาสมบัติ แต่พวกเขานั้นก็ถูกอำนาจของPharaohสาบให้เป็นกรรมกรอสูรไม่มีอายุขัย ได้แต่เดินวนเวียนรับใช้สถานที่แห่งนี้มิอาจไปไหนได้ พวกมันเดินลากขาร้องโหยหวนด้วยความทรมาณและเหนื่อยอ่อนตรงเข้ามาหาผู้บุกรุกทั้ง3 หินและโลงที่หนักอึ้งนั้นถูกเหวี่ยงราวกับเป็นเพียงก้อนโฟมที่แสนเบากระแทกตรงพื้นที่ที่โรฟาเคยยืนอยู่ อันธพาลหนุ่มสามารถสไลด์หลบพ้นไปได้อย่างรวดเร็วมีดนั้นมือกระชับในท่าที่ถนัดที่สุด “ข้าจะปลดปล่อยพวกเจ้าเอง” โรฟาและซิกฟรีดวิ่งเข้าใส่ZeromและRequiem ทันที
  “ตัวเล็กแค่นั้นไปเอาแรงจากไหนมาเยอะแยะ” ซิกฟรีดหอบในขณะที่เขาและโรฟาจัดการกับZeromตัวสุดท้ายได้สำเร็จ ทั้งหมดเดินต่อไปอย่างรีบร้อนพลันได้ยินเสียงกรนของบางสิ่ง “เงียบๆนะ” อันธพาลหนุ่มกระซิบเบาๆเขาเดินย่องตัดหน้าสุนัขปีศาจสีดำอย่างเงียบสนิท แต่การเดินแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับอัศวินที่สวมเกราะหนาและแข็งแรงอย่างซิกฟรีด เสียงรองเท้าเหล็กกระทบแผ่นหินแม้จะเบามากแต่ก็ทำให้สุนัขปีศาจ Matyr ตื่นจากนิทราและวิ่งเข้าใส่ทันที “Fire Wall!” กำแพงไฟตั้งขวางไว้ แต่สุนัขปีศาจกลับหวังที่จะฝ่ามาให้ได้ เพียงแต่ร่างกายนั้นไม่อำนวย สุนัขอสูรส่งเสียงร้องโหยหวนดังสนั่น “ตายละหว่า!” โรฟาอุทาน
  เสียงเห่าหอนของMatyr ดังระงมไปทั่วทั้งชั้น เรียกให้ฝูงสุนัขสีดำนั้นพุ่งกระโจนเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง “Fire Wall!” กำแพงไฟตั้งขวางอีกครั้งแต่ก็มิอาจต้านทานฝูงMatyrทั้งฝูงได้ไหว หลายตัวมีเพียงแค่แผลไฟลวกเท่านั้น และยังคงจู่โจมเข้ามาด้วยความเร็วสูง โดยมีDrainliarค้างคาวสีแดงเข้าร่วมวงด้วยอย่างกระหายเลือด “ซิก! โรฟา! หลบ!” อาร์คตะโกนเขาร่ายเวทย์อีกครั้ง คลื่นไอเย็นแผ่ซ่านไปทั่วพื้นที่ “อาณาเขตเยือกแข็ง Frost Nova” ไอเย็นหล่อหลอมแช่ทุกสิ่งอยู่ภายในก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ “รีบไปก่อนที่น้ำแข็งจะละลาย” อาร์คเร่ง ทั้งสามจึงรีบวิ่งไปยัชั้นถัดไปทันทีโดยไม่ให้เสียเวลา
  “มีแขกมารึ” Amon Ra เอ่ยถามองค์Pharaoh โดยแท้จริงแล้วทั้งสองเป็นพี่น้องกันมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแม้สิ้นชีพไปแล้ว “เจ้าไปยังที่ของเจ้าได้แล้ว ข้าจะขอดูความทนของพวกหนูสกปรกนี่หน่อย” Pharaoh สั่งการ Amon Ra บนบัลลังก์จึงหายตัวจากไปแต่ดี อดีตองค์ราชาหัวเราะลั่นด้วยความทะนงในอำนาจที่จะกลับมาในมือของเขา
  บนชั้นสามของสฟิงค์เส้นทางเริ่มที่จะก่อให้เกิดความสับสนมากขึ้น สุนัขปีศาจสีดำ Matyr ยังคงมีอยู่บ้างประปราย “ทำไมพวกนี้มีเยอะจังเลยเว้ย” โรฟาพูดด้วยน้ำเสียงที่รำคาญ มีดของเขาตวัดปาดคอของสุนัขปีศาจเลือดสดๆที่เหม็นคาวไหลทะลักนองพื้น “อั๊ก!” โรฟาร้องออกมาเมื่อมือของเขาพองเนื่องจากกระทบกับกำแพงไฟที่จู่ๆก็ตั้งดักหน้าเขาเอาไว้ “ผู้บุกรุกต้องถูกกำจัด” เสียงพูดเนิบนาบช้าๆดังแว่วมา หมอผีมนตร์ดำMardukปรากฏขวางทาง คฑาหัวกะโหลกแพะ Wand of Occult ส่องแสงสีม่วงเข้มลอดออกมาจากดังตาลึกโบ๋ทั้งสองข้างนั้น “Fire Bolt!” ศรไฟปรากฏขึ้นกระแทกร่างของซิกฟรีดเต็มแรงความร้อนของไฟทำให้อัศวินหนุ่มต้องกลิ้งกับพื้นเพื่อลดความร้อน อันทำให้เกราะของเขาเป็นสีแดงสด “ชักอยากให้ไฟโรอยู่ที่นี่จังเลย” ซิกฟรีดสบถขณะที่ค่อยๆลุกขึ้นอย่างยากลำบาก “Fire ” “Cold Bolt” ไม่ทันที่จะร่ายเวทย์จบ หอกน้ำแข็งนับสิบก็พุ่งเข้าทิ่มแทงหมอผีเฒ่าผู้รับใช้Pharaoh มันเซเล็กน้อย ในขณะที่คฑาในมืออาร์คยังคงมีเย็นแผ่ซ่าน “แก...”Murdukคำรามลั่น มันไม่คิดว่าจะมีผู้ใช้เวทย์อยู่ในกลุ่มผู้บุกรุก “ยังมีอีกนะ Frost Diver” ไอเย็นพุ่งเข้าใส่หมอผีเฒ่าแต่ก็ติดที่กำแพงไฟได้ขวางเอาไว้ กันคลื่นความเย็นนั้น “Energy Coat” อาร์คสร้างเกราะพลังเวทย์ห่อหุ้มร่างไว้เพื่อเตรียมพร้อมต่อการดวลเวทย์อีกครั้ง “Cold Bolt” “Fire Bolt” จอมเวทย์ทั้งสองร่ายเวทย์ออกมาพร้อมกัน หอกน้ำแข็งทิ่มแทงMurdukและศรเพลิงก็ยิงใส่อาร์คจนล้มลง แม้จะมีม่านพลังเวทย์คุ้มกันแต่ความเสียหายก็เกิดขึ้นไม่น้อยเลย “แก...ต้อง...ตาย...” หมอผีมารมิอาจทนต่อความเจ๊บปวดได้ร่างของมันสลายไปเป็นเศษฝุ่น แต่เบื้องหลังเศษฝุ่นนั้น กองทัพทหารโบราณ Pasana กำลังคอยท่าอยู่ “อะไรเนี่ย!” อาร์คอุทานออกมาเมื่อเห็นทัพปีศาจ “ขอต้อนรับสู่สฟิงค์” เสียงหนึ่งดังขึ้น ร่างสูงระหงยืนเด่น ใบหน้าถูกสวมมทัพด้วยหน้ากากและมงกุฎทรงสูงรูปทรงไม่ต่างจากที่Osirisสวมใส่นัก คือมีศีณษะของงูทำด้วยทองคำประดับอยู่ เพียงแต่ร่างนี้แต่งองค์ทรงเครื่องเต๊มยศมิได้พันด้วยผ้าลินินอย่างOsiris นามของมันคือ Pharaoh คนสุดท้ายผู้โหดเหี้ยม ที่ฟื้นขึ้นมาเพื่อทวงอาณาจักรของตน “ข้าออกมาต้อนรับเจ้าเร็วเกินไปรึเปล่านะ” Pharaoh แค่นเสียงก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
  “ข้ามีของขวัญให้เจ้าด้วยนะ” สิ้นเสียงสั่ง Pasana นายหนึ่งก็พาร่างของอันธพาลชายสองคนในสภาพถูกพันธนาการมาโยนทิ้งเบื้องหน้า Pharaoh โรฟาหน้าขาวซีด สายของเข้าถูกจับได้ อะไรจะเกิดขึ้นตามมา ปัญหาเหล่านี้ประดังในสมองของเขาจนมิอาจรับไหว
  Chapter 11: ในโบราณสถาน สฟิงค์
  ทางด้านใต้ของพีระมิดไม่ไกลนักเป็นที่ตั้งของอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของMorrocนั้นคือสฟิงค์ สถาปัตยกรรมโบราณจากหินทรายรูปสัตว์ในเทพนิยายที่มีลำตัวเป็นสิงห์แต่ศีรษะมนุษย์บริเวณช่องอกนั้นถูกเจาะให้เป็นประตูเข้าไปได้ แต่เป็นประตูที่จะเปิดไปสู่หนทางที่ลึกลับ ชายหนุ่มทั้งสามได้เดินทางจากพีระมิดมายังเบื้องหน้าของสถานที่แห่งนี้ “เราต้องเอาเจ้าเป็ดนี่ไว้ที่นี่” โรฟาสั่งเฉียบขาดแต่ซิกฟรีดดูไม่อยากจะยินยอมเพียงแต่เขาก็จำเป็นต้องลงจากหลังของมัน “เจ้าคอยข้าอยู่แถวนี่นะ กรานี่” อัศวินหนุ่มกระซิบเบาๆนก Pecepecoสงบนิ่งยอมรับฟัง ก่อนที่จะวิ่งหลบออกไปแต่ก็อยู่ไม่ห่างจากสฟิงค์มากนัก “เราไปกันเถอะ”อาร์คร้องชวนทุกคนพลางก้าวนำเข้าไปสู่สถานที่อันน่ากลัว
  ภายในสฟิงค์นั้นคล้ายกับทางเดินในพีระมิดที่คดเคี้ยวเพียงแต่ที่นี่นั้นไม่มีกับดักอันตรายซ่อนอยู่มากนัก โรฟาอันธพาลผู้ชำนาญทางเดินลัดเลาะนำทั้งสองไปเรื่อยๆ “แครก! แครก!” เสียงของคนแบกของหนักระคนกับเสียงร้องโหยหวนสะท้อนดังก้องพร้อมกับเสียงของโซ่ที่ลากไปกับพื้นหิน “ข้าว่าไม่ดีแล้วล่ะ!” โรฟาเอ่ยเบาๆพลางชักมีด Damascus ของตนออกจากเอว ท่าทางเช่นนั้นทำให้ซิกฟรีดกระชับดาบในมือตามทันที เมื่อทั้งหมดเดินเลี้ยวที่บริเวณมุมทางเดินนั้น พวกเขาได้เห็นจับกังปีศาจZerom ซึ่งมีโซ่ล่ามขาทั้งสอง กำลังแบกหินก้อนใหญ่และหนักอึ้งไว้บนหลัง อีกทั้งยังมีปีศาจผู้แบกโลง Requiem ซึ่งแต่เดิมนั้นพวกเขาเป็นมนุษย์ผู้ลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ หลงผิดเข้ามาในสฟิงค์เพื่อหาสมบัติ แต่พวกเขานั้นก็ถูกอำนาจของPharaohสาบให้เป็นกรรมกรอสูรไม่มีอายุขัย ได้แต่เดินวนเวียนรับใช้สถานที่แห่งนี้มิอาจไปไหนได้ พวกมันเดินลากขาร้องโหยหวนด้วยความทรมาณและเหนื่อยอ่อนตรงเข้ามาหาผู้บุกรุกทั้ง3 หินและโลงที่หนักอึ้งนั้นถูกเหวี่ยงราวกับเป็นเพียงก้อนโฟมที่แสนเบากระแทกตรงพื้นที่ที่โรฟาเคยยืนอยู่ อันธพาลหนุ่มสามารถสไลด์หลบพ้นไปได้อย่างรวดเร็วมีดนั้นมือกระชับในท่าที่ถนัดที่สุด “ข้าจะปลดปล่อยพวกเจ้าเอง” โรฟาและซิกฟรีดวิ่งเข้าใส่ZeromและRequiem ทันที
  “ตัวเล็กแค่นั้นไปเอาแรงจากไหนมาเยอะแยะ” ซิกฟรีดหอบในขณะที่เขาและโรฟาจัดการกับZeromตัวสุดท้ายได้สำเร็จ ทั้งหมดเดินต่อไปอย่างรีบร้อนพลันได้ยินเสียงกรนของบางสิ่ง “เงียบๆนะ” อันธพาลหนุ่มกระซิบเบาๆเขาเดินย่องตัดหน้าสุนัขปีศาจสีดำอย่างเงียบสนิท แต่การเดินแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับอัศวินที่สวมเกราะหนาและแข็งแรงอย่างซิกฟรีด เสียงรองเท้าเหล็กกระทบแผ่นหินแม้จะเบามากแต่ก็ทำให้สุนัขปีศาจ Matyr ตื่นจากนิทราและวิ่งเข้าใส่ทันที “Fire Wall!” กำแพงไฟตั้งขวางไว้ แต่สุนัขปีศาจกลับหวังที่จะฝ่ามาให้ได้ เพียงแต่ร่างกายนั้นไม่อำนวย สุนัขอสูรส่งเสียงร้องโหยหวนดังสนั่น “ตายละหว่า!” โรฟาอุทาน
  เสียงเห่าหอนของMatyr ดังระงมไปทั่วทั้งชั้น เรียกให้ฝูงสุนัขสีดำนั้นพุ่งกระโจนเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง “Fire Wall!” กำแพงไฟตั้งขวางอีกครั้งแต่ก็มิอาจต้านทานฝูงMatyrทั้งฝูงได้ไหว หลายตัวมีเพียงแค่แผลไฟลวกเท่านั้น และยังคงจู่โจมเข้ามาด้วยความเร็วสูง โดยมีDrainliarค้างคาวสีแดงเข้าร่วมวงด้วยอย่างกระหายเลือด “ซิก! โรฟา! หลบ!” อาร์คตะโกนเขาร่ายเวทย์อีกครั้ง คลื่นไอเย็นแผ่ซ่านไปทั่วพื้นที่ “อาณาเขตเยือกแข็ง Frost Nova” ไอเย็นหล่อหลอมแช่ทุกสิ่งอยู่ภายในก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ “รีบไปก่อนที่น้ำแข็งจะละลาย” อาร์คเร่ง ทั้งสามจึงรีบวิ่งไปยัชั้นถัดไปทันทีโดยไม่ให้เสียเวลา
  “มีแขกมารึ” Amon Ra เอ่ยถามองค์Pharaoh โดยแท้จริงแล้วทั้งสองเป็นพี่น้องกันมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแม้สิ้นชีพไปแล้ว “เจ้าไปยังที่ของเจ้าได้แล้ว ข้าจะขอดูความทนของพวกหนูสกปรกนี่หน่อย” Pharaoh สั่งการ Amon Ra บนบัลลังก์จึงหายตัวจากไปแต่ดี อดีตองค์ราชาหัวเราะลั่นด้วยความทะนงในอำนาจที่จะกลับมาในมือของเขา
  บนชั้นสามของสฟิงค์เส้นทางเริ่มที่จะก่อให้เกิดความสับสนมากขึ้น สุนัขปีศาจสีดำ Matyr ยังคงมีอยู่บ้างประปราย “ทำไมพวกนี้มีเยอะจังเลยเว้ย” โรฟาพูดด้วยน้ำเสียงที่รำคาญ มีดของเขาตวัดปาดคอของสุนัขปีศาจเลือดสดๆที่เหม็นคาวไหลทะลักนองพื้น “อั๊ก!” โรฟาร้องออกมาเมื่อมือของเขาพองเนื่องจากกระทบกับกำแพงไฟที่จู่ๆก็ตั้งดักหน้าเขาเอาไว้ “ผู้บุกรุกต้องถูกกำจัด” เสียงพูดเนิบนาบช้าๆดังแว่วมา หมอผีมนตร์ดำMardukปรากฏขวางทาง คฑาหัวกะโหลกแพะ Wand of Occult ส่องแสงสีม่วงเข้มลอดออกมาจากดังตาลึกโบ๋ทั้งสองข้างนั้น “Fire Bolt!” ศรไฟปรากฏขึ้นกระแทกร่างของซิกฟรีดเต็มแรงความร้อนของไฟทำให้อัศวินหนุ่มต้องกลิ้งกับพื้นเพื่อลดความร้อน อันทำให้เกราะของเขาเป็นสีแดงสด “ชักอยากให้ไฟโรอยู่ที่นี่จังเลย” ซิกฟรีดสบถขณะที่ค่อยๆลุกขึ้นอย่างยากลำบาก “Fire ” “Cold Bolt” ไม่ทันที่จะร่ายเวทย์จบ หอกน้ำแข็งนับสิบก็พุ่งเข้าทิ่มแทงหมอผีเฒ่าผู้รับใช้Pharaoh มันเซเล็กน้อย ในขณะที่คฑาในมืออาร์คยังคงมีเย็นแผ่ซ่าน “แก...”Murdukคำรามลั่น มันไม่คิดว่าจะมีผู้ใช้เวทย์อยู่ในกลุ่มผู้บุกรุก “ยังมีอีกนะ Frost Diver” ไอเย็นพุ่งเข้าใส่หมอผีเฒ่าแต่ก็ติดที่กำแพงไฟได้ขวางเอาไว้ กันคลื่นความเย็นนั้น “Energy Coat” อาร์คสร้างเกราะพลังเวทย์ห่อหุ้มร่างไว้เพื่อเตรียมพร้อมต่อการดวลเวทย์อีกครั้ง “Cold Bolt” “Fire Bolt” จอมเวทย์ทั้งสองร่ายเวทย์ออกมาพร้อมกัน หอกน้ำแข็งทิ่มแทงMurdukและศรเพลิงก็ยิงใส่อาร์คจนล้มลง แม้จะมีม่านพลังเวทย์คุ้มกันแต่ความเสียหายก็เกิดขึ้นไม่น้อยเลย “แก...ต้อง...ตาย...” หมอผีมารมิอาจทนต่อความเจ๊บปวดได้ร่างของมันสลายไปเป็นเศษฝุ่น แต่เบื้องหลังเศษฝุ่นนั้น กองทัพทหารโบราณ Pasana กำลังคอยท่าอยู่ “อะไรเนี่ย!” อาร์คอุทานออกมาเมื่อเห็นทัพปีศาจ “ขอต้อนรับสู่สฟิงค์” เสียงหนึ่งดังขึ้น ร่างสูงระหงยืนเด่น ใบหน้าถูกสวมมทัพด้วยหน้ากากและมงกุฎทรงสูงรูปทรงไม่ต่างจากที่Osirisสวมใส่นัก คือมีศีณษะของงูทำด้วยทองคำประดับอยู่ เพียงแต่ร่างนี้แต่งองค์ทรงเครื่องเต๊มยศมิได้พันด้วยผ้าลินินอย่างOsiris นามของมันคือ Pharaoh คนสุดท้ายผู้โหดเหี้ยม ที่ฟื้นขึ้นมาเพื่อทวงอาณาจักรของตน “ข้าออกมาต้อนรับเจ้าเร็วเกินไปรึเปล่านะ” Pharaoh แค่นเสียงก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
  “ข้ามีของขวัญให้เจ้าด้วยนะ” สิ้นเสียงสั่ง Pasana นายหนึ่งก็พาร่างของอันธพาลชายสองคนในสภาพถูกพันธนาการมาโยนทิ้งเบื้องหน้า Pharaoh โรฟาหน้าขาวซีด สายของเข้าถูกจับได้ อะไรจะเกิดขึ้นตามมา ปัญหาเหล่านี้ประดังในสมองของเขาจนมิอาจรับไหว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น