ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ragnarok Fan Fiction :The power of zodiac gems

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 12: วิกฤตแห่งโชคชะตา

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 48


    Ragnarok: the power of zodiac gems

       Chapter 12: วิกฤตแห่งโชคชะตา

    กลุ่มอันธพาลลูกน้องของโรฟาถูก Pharaohจับได้และพามาทิ้งไว้เบื้องหน้าโรฟา ชายทั้งสองถูกพันธนาการอย่างแน่นหนา สมองของโรฟาว้าวุ่นมากจนมิอาจคิดสิ่งใดต่อได้อีก

       ในขณะเดียวกัน เมืองMorroc นั้นเป็นเวลากลางคืนแล้ว แสงไฟที่เปิดตามบ้านเรือนสว่างไสว แม้จะดึกแต่ผู้คนยังคงคึกคัก ดวงจันทร์เต็มดวงทอแสงนวลสวยอยู่บนยอดปราสาทกลางเมือง กลางแสงจันทร์นั้น ปรากฏเงาหญิงสาวคนหนึ่งที่มีผมยาวสลวยมัดเป็นหางม้ายาวปลิวไปตามสายลมบน พร้อมต่างหูที่ทอแสงแดงสดสว่างอย่างน่ากลัว ไม่มีใครสังเกตเห็นหญิงสาวผู้นี้ ผู้ที่จะพาMorrocไปสู่รัตติกาลที่แท้จริง

       “ว่าไงล่ะหลานชาย!” Pharaoh แสยะยิ้ม “ข้าจะมีทางเลือกให้เจ้าสองคน” ขาดคำ Pasanaสองตนก็เดินมาเคียงข้างชายหนุ่มผู้เป็นเชลยทั้งสอง ดาบในมือเงื้อสูงขึ้น “จะยอมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพข้าหรือจะยอมตายในเวลานี้” ข้อเสนอนั้นทำให้บุคคลในที่นั้นต้องสะดุ้งสุดตัว ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สุดท้ายก็คือความตายเพียงแต่ใครจะเป็นผู้หยิบยื่นให้เท่านั้น “ยอมเขาไปเถอะ” โรฟาสั่งเสียงสั่นเครือ ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถบรรยายได้จุกแน่นที่หน้าอก “ถือเป็นคำสั่งสุดท้าย” แต่ว่าเชลยทั้งสองนั้นไม่ยินยอม “ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องตาย! พวกเราไม่อยากจะตายด้วยมือของลูกพี่” คนหนึ่งกล่าวออกมาน้ำตาคลอเบ้าในดวงตาของลูกพี่และลูกน้องทั้งสามคน “พวกเราดีใจที่ได้รู้จักกับลูกพี่ครับ” อีกคนเอ่ยขึ้นบ้างพร้อมรอยยิ้ม รอยยิ้มที่แสนเศร้าผสมน้ำตาที่เริ่มไหลริน “ไม่นะ...” “พวกเราขอยอมตายที่ตรงนี้ ดีกว่าจะต้องไปอยู่กับคนอื่น” เชลยทั้งสองประกาศก้องไม่สนใจคำทัดท้านของโรฟาแม้แต่น้อย ขาดคำประกาศิต คมดาบทั้งสองเล่มก็ตัดคอของชายทั้งสองอย่างรวดเร็ว ศีรษะที่หลุดออกจากบ่ากลิ้งโคโร่ไปแทบเท้าของโรฟา ทั้งสองดวงตาปิดสนิทและสงบ อันธพาลหนุ่มกรีดร้องอย่างเจ๊บปวดในหัวใจ อัญมณีสีเหลืองส่องแสงเรืองรอง “Plagiarism: Frost Nova”

       อาณาเขตเยือกแข็งที่โรฟาได้ขโมยวิชามาจากอาร์คนั้นแช่แข็งกองทหารทั้งหมดไหวเว้นแต่เพียงPharaohผู้โหดเหี้ยมเท่านั้นที่ไม่สะดุ้งหรือสะเทือน อันธพาลหนุ่มหอบโยนและทรุดตัวลงกับพื้นน้ำตาใสๆไหลออกมาอย่างไม่อายใครสองแขนกอดศีรษะที่ไร้วิญญาณไว้แนบอกอย่างอาลัย “โง่จริงๆ” โรฟาพึมพำ “ทำไมตัดสินใจแบบนี้ มันเหมือนข้า...เหมือนข้าสั่งให้พวกเจ้ามาตาย” ชายหนุ่มปล่อยโฮ ช่างเป็นภาพที่ใครเห็นก็ต้องสะเทือนเข้าไปข้างในหัวใจ ภาพในอดีตเมื่อคราวเสียมารดาและน้องสาวแวบเข้าสู่มโนภาพของจอมเวทย์อาร์คอีกครั้ง มือของเขากำคฑาแน่นและเศร้าใจ

       เสียงร้องสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งเมือง เมื่อหมอกพิษเริ่มแพร่กระจายจากจุดเล็กๆคือหินเวทย์มนตร์สีแดงสดอันเป็นตัวกระตุ้นของทักษะ ‘Venom Dust’ “ช...ช่วย...ช่วยข้าด้วย”ชายหนุ่มคนหนึ่งอ้อนวอนต่อหญิงสาวในชุดรัดรูปของนักฆ่า (Assassin) “ทรมาณนักรึ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงที่ชาเย็นอันลอดออกมาจากผ้าที่ปิดปากและจมูกของเธอ “จะช่วยให้สบายละกัน ‘Venom Splasher’ “มือของหญิสาวทาบไปบนร่างของชายผู้เคราะห์ร้าย ต่างหูทับทิมเม็ดโตที่เธอใส่อยู่ข้างเดียวนั้นทอแสงสีแดงสดราวโลหิตพร้อมเปล่งออร่าสีม่วงออกมา พลังบางอ่างไหลเข้าไปในร่างนั้น ร่างของชายหนุ่มระเบิดไม่มีชิ้นดี กลายเป็นแหล่งกระจายพิษไปสู่ผู้อื่นอีกทอด และเกิดเป็นระเบิดพิษลูกโซ่อย่างน่ากลัง หญิงสาวมองสภาพที่เกิดขึ้นด้วยแววตาที่ไร้อารมณ์ ความนึกคิด

       “ในเมืองท่าจะชุลมุนอยู่น้า” Pharaohเอ่ยเสียงเยาะ โรฟาบางสิ่งที่เขากอดไว้แนบอกลงพร้อมชักมีดและพุ่งเข้าใส่ศัตรูเบื้องหน้าทันทีด้วยความโมโหที่รุนแรง แต่ทว่า เม็ดทรายที่อยู่โดยรอบบริเวณรวมตัวกันเป็นมือของมัมมี่ขนาดใหญ่ขวางทางเอาไว้และตบร่างของโรฟาไปกระแทกกับผนัง “อย่าใจร้อน! พ่อหลานชาย!” Pharaohจุ๊ปากพร้อมฉายภาพที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองในขณะนี้ให้เห็นด้วยอำนาจมนตร์ ชายทั้งสามตกตะลึงยิ่งขึ้นเมื่อเห็นหมอกสีม่วงแพร่กระจายเป็นวงกว้างอย่างช้าๆ พร้อมซากศพของชาวเมืองที่ล้มตายเกลื่อนกราด “โรฟา! เรารีบออกไปกันก่อนเถอะ!” อัศวินซิกฟรีดกับอาร์คฉุดร่างของโรฟาออกมาพร้อมทั้งโบกปีกผีเสื้อเบาๆ “ข้าจะล้างแค้นให้ได้! ล้างคอรอไว้ได้เลย” อันธพาลหนุ่มตะโกนก้องด้วยความแค้นก่อนที่จะหายตัวไปด้วยอำนาจของปีกผีเสื้อ มหาPharaohเหยียดยิ้มอย่างไม่แยแส

       หมอกพิษเริ่มกระจายจนเกือบทั่วทั้เมือง โรฟาใช้ความคิดอย่างหนักเคล้ากับเสียงกรีดร้องอย่างทรมาณและเสียงระเบิดของร่างผู้ต้องพิษ “เจ้าอัศวิน! ไปขอความช่วยเหลือจากสมาคมนักฆ่าทางทิศตะวันออกของเมือง! ลำพังข้าเองคงช่วยเหลือได้ไม่มาก เร็วเข้า!” โรฟาสั่งเสียงเครียด ซิกฟรีดรีบชักPecopecoคู่ใจออกไปทันทีด้วยความรวดเร็ว สมองของอันธพาลหนุ่มเต้นด้วยความเครียดอย่างยิ่งยวด เขากำลังจะสูญเสียเมืองที่เขาและ Osiris รักมากไปแล้วหรือ ในขณะที่อาร์ดก็เริ่มส่งโทรจิตติดต่อกับผู้ที่น่าจะมาช่วยเหลือได้ทันที ชายหนุ่มทั้งสองวิ่งหลบไปยังมุมอับของเมืองที่ยังคงปลอดภัยของหมอกพิษ หญิงสาวต้นเหตุนั้นก็กำลังเดินเลี่ยงหลบหนีออกไปเมื่อเสร็จงานที่ได้รับมาจากผู้มีพระคุณ มายังจุดที่โรฟาและอาร์คหลบอยู่พอดี หญิงสาวเร่งรีบที่จะหลบหนีออกไปแต่มิอาจจะพ้นสายตาของโรฟาไปได้

       “จะไปไหนน้องสาว” มีดเล่มหนึ่งจ่อที่ลำคอของนักฆ่าสาว เธอสะดุ้งเล็กน้อยแต่สีหน้ายังคงเรียบเฉย “มันก็เรื่องของฉัน” หญิงสาวตอบเสียงห้วน Katarในมือของเธอตวัดมีดออกไปและฉากถอยออกไป โรฟาปรากฏตัวออกมาประจันหน้ากับเธอ “ทำกันขนาดนี้ คงจะให้หนีออกไปไม่ได้หรอกมั้ง” เขาพูดเสียงเหี้ยม

       อาวุธของทั้งสองปะทะกันอย่างหนักหน่วงและดุเดือด ประกายไฟที่เกิดของเหล็กเสียดสีกันสว่างเป็นช่วงๆเคล้าเสียง ‘เคร้ง! ‘อันเกิดจากการที่ใบมีดกระทบกัน “Fire…” “อย่ายุ่ง” โรฟาตวาดใส่อาร์ค เขาไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งกับการต่อสู้เพื่อเมืองอันเป็นที่รักของเขา นักฆ่าสาวสบจังหวะเหวี่ยงKatarในมือออกไป โรฟาหลบไปได้อย่างฉิวเฉียด ชายหนุ่มสวนแทงไปแต่หญิงสาวรับได้ทันท่วงทีพร้อมแทงเข่าไปที่ท้องน้อยจนโรฟาทรุดลงไปกับพื้น อาวุธสังหารทิ่มตามลงไปหมายเผด็จศึกแต่ อันธพาลหนุ่มกลิ้งตัวหลุดไปได้หวุดหวิด

       “ได้ยินมาว่า ที่ทำกับชาวเมืองอย่างนี้ มันผิดกฎของนักฆ่าไม่ใช่หรือไร” โรฟากัดฟันถามออกไปพร้อมๆกับพยุงตัวลุกขึ้น “มันก็เรื่องของฉัน” หญิงสาวตอบเสียงห้วนเช่นเคยก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่ม “Hiding!!!” โรฟามุดลงดินอย่างรวดเร็วจนการโจมตีนั้นพลาดไป “Raid!” ร่างของชายหนุ่มกระโดดออกมาจากพื้นอีกครั้งหมายเผด๊จศึก แต่มีดDamascusของเขาพลาดเป้า คมมีดกลับตัดเพียงผ้าที่ปิดบังใบหน้าของหญิงสาวออกไปเท่านั้นแลกกับแผลฉกรรจ์ที่หญิงสาวสวนแทงลงไปบนท่อนแขน ใบหน้าที่สะสวยอันโดนปกปิดไว้ปรากฏขึ้นต่อสายตา อาร์คตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ “ร...โร...โรเชล” จอมเวทย์หนุ่มหลุดปาก นักฆ่าสาวหันไปมองเล็กน้อยทำให้สามารถมองหน้าได้อย่างชัดเจน ใบหน้านั้นยิ่งย้ำความมั่นใจให้แก่อาร์ค หญิงสาวรีบหลบหนีออกนอกเมืองโดยมีจอมเวทย์หนุ่มไล่ตามไป”โรเชลลลล!!!” อาร์คตะโกนเรียกน้องสาวที่เขาตามหามาทั้งชีวิตสติเขาดับวูบลงไปด้วยความเสียใจต่อการกระทำของเธอ

       “พลังใช่ย่อยน่ะเนี่ย!” เอ๊นกิบ่นเบาๆ ปลอกแขนของเขาทอแสงสร้างลมพัดหมอกพิษให้สลายไปเผยให้เห็นความเสียหายที่มีอย่างมากมาย กลุ่มนักฆ่าที่ซิกฟรีดไปขอความช่วยเหลือมานั้น ได้เข้าช่วยผู้รอดชีวิตและปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บทันที ปราชญ์สาวโจเซฟินเดินมาหาอาร์คด้วยความเป็นห่วงแต่จอมเวทย์หนุ่มยังคงไม่ได้สติ “เธอมัดผมม้า หน้าสวยแต่ไร้อารมณ์ ใส่ต่างหูข้างเดียว” โรฟาอธิบายรูปร่างของผู้ที่กระทำการ บาดแผลของเขาได้รับการปฐมพยาบาลอย่างดี ชายหนุ่มคนหนึ่งอันมีรอยสักแสดงความเป็นหัวหน้าสมาคมรับฟังพลางครุ่นคิดก่อนที่จะสบถออกมาอย่างหัวเสีย “ยัยนอกคอก เวนเดล” ชื่อที่เขาสบถออกมานั้นทำให้ปราชญ์สาวหูพึ่งย้อนถามอีกครั้ง เพื่อความมั่นใจ “คุณว่าอะไรนะคะ” “ยัยนอกคอก เวนเดล” หัวหน้าสมาคมนักฆ่าพูดเสียงเข้มอย่างเคร่งเครียด “เธอชื่ออะไรนะคะ” “เวนเดล...โรเชล เวนเดล” ขาดคำ หญิงสาวถึงกับตกตะลึง เธอหันไปมองจอมเวทย์หนุ่มที่ยังไม่ได้สติเพราะแรงshock   “โชคชะตาช่างเล่นตลกเหลือเกิน” ปราชญ์สาวพึมพำ แววตาของเธอมองอาร์คอย่างเห็นใจและเป็นห่วง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×