ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Soul mate ? รับรักได้มั้ย.. ยัยเนื้อคู่!

    ลำดับตอนที่ #4 : . chapter 1 - ฌารินน์ตา อพาร์ทเมนต์ (75%)

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 56


     

    บทที่ 1

    78 ฌารินน์ตา อพาร์ทเมนต์

     

     

    มือสองข้างจับแฮนด์จักรยานคันสีแดงให้กระชับแน่น สายตามุ่งมั่นลุกโชนมองตรงไปข้างหน้า สองขาออกแรงปั่นสุดฤทธิ์ อาห์ อีกนิดเดียว นี้ดเดียว! ฉันก็จะตามรถแท็กซี่ทัน! วะฮ้า ถือว่านี่เป็นโชคดีของฉันนะ ที่ไอ้แท็กซี่มาหยุดจอดตรงหน้าไฟแดงทันที >_<

     

    ฉันปั่นจักรยานเทียบข้างรถแท็กซี่ ตาสองข้างของฉันเพ่งมองผ่านฟิล์มกรองแสงของรถ แล้วก็ปะเข้าให้กับไอ้หน้าหล่อปากหมาเข้าพอดี!

     

    มันหันมาสบตาฉัน ก่อนจะเบิกตากว้างทำหน้าตกใจ

     

    ส่วนฉันรีบทิ้งรถจักรยาน ถลาเข้าไปทุบกระจกรถแท็กซี่รัวๆ ทันที

     

    เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะเว้ยยย!!”

     

    ปังๆๆ

     

    เหมือนเขาจะพูดอะไรกับฉันสักอย่างที่ฉันฟังไม่ได้ยิน เพราะเสียงของเขาถูกกั้นจากประตูรถ แต่ฉันอ่านปากของเขาได้ประมาณว่า หล่อนบ้ารึเปล่าน่ะหา!’

     

    แกสิบ้า!! เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!!!” ฉันทุบกระจกแรงๆ 

     

    ตอนนี้สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว แต่ฉันยังคงทุบกระจกรถไม่หยุด ปากก็ก่นด่าให้เขาเปิดประตูซะที ฉันใช้สายตาขู่โชเฟอร์จนโชเฟอร์ไม่กล้าออกตัวรถ เป็นผลให้รถที่ตามมาข้างหลังบีบแตรไล่ แต่ฉันไม่สน! ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้เอากระเป๋าเดินทางคืนฉันก็ไม่มีทางปล่อยแท็กซี่คันนี้ไปเด็ดขาด!

     

    ปรี๊นๆๆ!

     

    เอ็งจะบีบแตรหาบรรพบุรุษฝ่ายแม่เอ็งหรอวะ หา! =_=’

     

    ฉันเริ่มพาลด่าเสียงแตรหนวกหูนั่นในใจ อารมณ์เริ่มเดือดขึ้นเรื่อยๆ และจังหวะที่ฉันกำลังจะตัดสินใจใช้เท้าถีบแทนการทุบกระจกนั่นเอง เขาก็เปิดประตูก่อนพอดี

     

    ทำอะไรของป้าวะเนี่ย!”

     

    เตะหมา!”

     

    ผัวะ!

     

    โอ๊ย!! นี่ป้าเตะฉันหรอ!”

     

    แล้วคิดว่าฉันหอมแก้มนายอยู่รึไงเล่า ถามอะไรไม่คิด โง๊โง่!” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย ส่วนมันถลึงตาใส่แต่ไม่กล้าลงไม้ลงมือ เพราะมันคงเห็นฉันเป็นผู้หญิง กร๊ากกกกก สะใจชะมัด!!

     

    เอากระเป๋าเดินทางฉันคืนมานะ!”

     

    กระเป๋าอะไรวะเขาตอบด้วยน้ำเสียงงงๆ

     

    นายแย่งแท็กซี่ฉัน และกระเป๋าเดินทางของฉันก็อยู่ในกระโปรงหลังรถฉันพยายามระงับอารมณ์พลางกอดอกมอง แต่อิตานี่ก็แค่ทำหน้ากวนตีนใส่ พร้อมตอบด้วยน้ำเสียงไม่รู้สึกรู้สา

     

    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?

     

    โอ๊ยยยย ตบเด็กติดคุกกี่ปีวะเนี่ย =[]=!!!!

     

    มีอะไรกันเหรอครับพวกคุณลุงโชเฟอร์เดินหน้าตื่นมาทางพวกฉัน ดูเหมือนแกจะค่อนข้างวิตกพอสมควร แกหันไปค้อมหัวปลกๆ เหมือนจะขอโทษรถที่อยู่ข้างหลังเรา แต่กลับได้เสียงแตรไล่ดังสนั่นกลับมาแทน -_-

     

    ลุง ทำไมลุงทำกับหนูอย่างนี้ หนูเป็นคนโบกแท็กซี่นะลุง ลุงให้เขาแซงคิวหนูได้ยังไง! รู้มั้ยว่ากระเป๋าเดินทางของหนูน่ะอยู่หลังรถ!!” ฉันหันไปตำหนิลุง

     

    ลุงนึกว่าพวกหนูมาด้วยกัน

     

    ลุงใช้อะไรนึกคะ =______=

     

    เสียงแตรไล่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนฉันเริ่มเกรงใจขึ้นมาบ้าง(ควรจะเกรงใจตั้งแต่ได้ยินครั้งแรกแล้วย่ะหล่อน =_=) ลุงเองก็รีบคว้ากุญแจเปิดกระโปรงหลังรถ พร้อมยื่นกระเป๋าเดินทางสองใบให้ฉัน

     

    ครบแล้วใช่มั้ยหนู

     

    ค่ะฉันตอบ

     

    เออ! ฉันจะได้รีบกลับบ้านซะที ต้องมาเสียเวลากับยัยป้านี่น่ารำคาญเป็นบ้า!” ไอ้ผู้ชายเจ้าของนัยน์ตาสีเทาบ่นดังๆโดยตั้งใจให้ฉันได้ยิน

     

    อากิระคนนี้ จะ-ไม่-ทน!!!

     

    ฉันทิ้งกระเป๋าเดินทางลงบนพื้น ถลาเข้าไปเตรียมชกหน้ามันทันที!

     

    หมับ!

     

    ลุง! ปล่อยหนูนะ! ถ้าหนูไม่ได้ชกหน้ามันชาตินี้อย่าเรียกหนูว่าอากิระเลย!!” ฉันพยายามสะบัดจากการเกาะกุมของลุงโชเฟอร์ ลุงไปเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหนเนี่ย สลัดออกยากเป็นบ้า T^T!

     

    เธอชื่ออากิระหรอ ชื่อหรูไม่เหมาะกับหนังหน้าเลยว่ะ ยัยป้าขี้นก -_-!!”

     

    อ๊ากกกกกก =[]=!!!! ฉันจะฆ่ามัน ฆ่ามัน ฆ่ามานนนนน!!!!!

     

    พอเถอะหนู สงสารลุงหน่อย เขาบีบแตรไล่ลุงแล้วจ้า T^T”

     

    ฉันกัดฟันกรอด พยายามระงับอารมณ์ที่เดือดปุดๆ และทำใจไม่มองหน้าไอ้ผู้ชายบ้าคนนี้ เพราะถ้าขืนสบตากับมันเป็นหนที่สองฉันคงควบคุมตัวเองไม่ไหวต้องชกปากมันไปแน่ๆ เสียงแตรไล่จากรถคันข้างหลังเรียกสติให้ฉันกลับมา ฉันจิ๊ปากทำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะเดินลงส้นเท้าหนักๆ ไปหยิบกระเป๋าเดินทางขึ้นมาพลางจูงจักรยานเดินตรงลิ่วออกจากที่ตรงนั้นทันที

     

    ชาตินี้อย่าได้เจอคนอย่างมันอีกเลย สาธุ!!

     







     

    ฉันกลับมาที่สนามบินอีกครั้ง ทิ้งรถจักรยานให้จอดข้างริมฟุตบาทตามเดิม ก่อนจะออกแรงแบกกระเป๋าเดินทางสองใบขึ้นสะพายหลัง เดินมายังจุดที่ฉันคิดว่ายัยส้มน่าจะยังอยู่

     

    และฉันก็เห็นหล่อนนั่งอยู่ท่าเดิม องศาเดิม ไม่มีผิดเพี้ยน

     

    นี่แกนั่งหลับโดยปล่อยให้ฉันไปเสี่ยงตาย(?)ล่าประเป๋าเดินทางคนเดียวงั้นหรอยะ =[]=!!

     

    และยังไม่ทันที่ฉันจะเข้าไปปลุกให้ตื่น ยัยส้มก็ลืมตาปรือๆ ขึ้นมามองฉันซะก่อน

     

    สวัสดี -_-”

     

    สวัสดีด๋อยอะไรเล่า! นี่ฉันอุตส่าห์ไปตามเอากระเป๋าเดินทางจนได้คืนมาเลยเชียวนะ!” ฉันพูดอย่างภูมิใจ

     

    เหรอ เก่งจังเลยนะ

     

    แล้วยัยส้มก็ตบมือแปะๆ สองสามครั้งด้วยใบหน้าเนือยๆ พร้อมหาวหวอดโชว์ลิ้นไก่งามๆ ให้ฉันดู =_=

     

    กลับบ้านเถอะอากิ ฉันง่วงแล้ว

     

    นี่แกจะไม่ถามสักคำเลยหรอว่าฉันได้กระเป๋ามาได้ยังไง =_=^ ถามจริงเถอะ ว่าแกเคยใส่ใจเหตุการณ์อะไรรอบตัวบ้างมั้ย ยัยส้ม! โอ๊ย อากิล่ะเพลีย!!

     

    ตื๊ดด ตื๊ดดด

     

    เสียงสั่นของโทรศัพท์รุ่นยุคดึกดำบรรพ์ดังขึ้น ฉันหยิบมันออกมาจากกระเป๋าเดินทาง ก่อนจะมองหน้าจอและรู้ว่าพ่อเป็นคนโทรเข้ามา อ้อ ก่อนกลับมาไทยพ่อฉันบอกว่ามีเรื่องด่วนจะบอกฉันนี่นา ฉันไม่รอช้ารีบกดรับโทรศัพท์ทันที

     

    ฮัล...

     

    “(แกกลับไทยแล้วใช่มั้ย)” พ่อพูดตัดประโยคฉันซะก่อน ฉันชะงักไปนิดๆ ก่อนจะกรอกเสียงตอบกลับไป

     

    อื้อ อากิกลับไทยแล้ว พ่อกำลังรอต้อนรับอากิอยู่ใช้มั้ยล่า ไม่ต้องบอกก็รู้ >_<”

     

    “(แกไม่ต้องกลับบ้านนะ ไม่มีบ้านให้แกอยู่แล้ว)”

     

    ...ฮะ?อะไรนะ เมื่อกี้ท่านพ่อสุดที่รักของฉันพูดว่าอะไรนะ...?

     

    “(บ้านเราถูกธนาคารยึด)”

     

    อะไรนะพ่อ

     

    “(เพราะหนี้เก่าด้วย ค้างชำระมาหลายเดือนแล้ว เขาก็เลยยึดบ้านเราไป ตอนนี้ไม่มีบ้านอยู่แล้ว)”

     

    หมายความว่า...

     

    “(ลองหาอพาร์ทเมนท์เช่าอยู่ก็แล้วกัน เงินแกก็ยังเหลืออยู่นี่ใช่มั้ย แล้วไม่ต้องออกตามหาฉันนะ แค่นี้แหละ)”

     

    เดี๋ยว....!”

     

    ติ๊ด!

     

    คำพูดของพ่อมันรวดเร็วมากจนฉันตั้งสติรับไม่ทัน อะไรนะ? บ้านถูกยึด?? หนี้เก่า???

     

    นี่พ่อฉันไปเป็นหนี้เขาอีกแล้วหรอ!

     

    ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ใช้หนี้เก่าได้หมดแล้วพ่อก็ยังไปก่อหนี้เพิ่มขึ้นมาอีก พ่อต้องการอะไรกันแน่ ไม่เข็ดเลยใช่มั้ยนะ! แล้วก็เป็นเหมือนทุกครั้ง ชิ่งหนีไปทิ้งให้ลูกสาวแบกรับภาระตัวคนเดียวทุกที!!

     

    นี่สินะเรื่องด่วนที่พ่อจะบอก

     

    พ่อคงอยากให้ฉันกลับมาทำงานใช้หนี้เหมือนอย่างเคย

     

    เมื่อไหร่พ่อจะเลิกนิสัยแบบนี้กัน

     

    ฉันตัดสินใจกดโทรต่อไปที่ธนาคารเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่พ่อพูดเป็นความจริงหรือพ่อแค่พูดแกล้งฉันเล่นๆ ซึ่งฉันภาวนาให้เป็นอย่างหลัง... แต่เสียงของพนักงานสาวของธนาคารก็ดังตอกย้ำถึงความเป็นจริง

     

    บ้านของฉันถูกยึด

     

    ฉันกดวางสายพลางถอนหายใจเฮือก

     

    ฉันชื่อ อากิ หรือเต็มๆ ก็คือ โชริโนะ อากิระ เป็นสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น พ่อเป็นคนไทย แม่เป็นคนยุ่น ฉันอยู่ที่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนจะย้ายกลับมาอยู่ไทยตอนอายุราวๆ 5-6 ขวบ ตอนนั้นเองที่ฉันได้รู้จักเพื่อนสนิทอย่างยัยส้ม เพราะบ้านของเราอยู่ติดกัน ยัยส้มและฉันถือว่าเป็นคนมีฐานะมีหน้ามีตาในสังคมคนหนึ่ง แต่หลังจากที่แม่ของฉันป่วยล้มเสียชีวิตไป ซึ่งตอนนั้นฉันอยู่ ม.3 พอดี พ่อของฉันก็เริ่มติดเหล้าเมามาย เล่นการพนันจนเป็นหนี้เป็นสิน งานการก็ถูกเขาไล่ออก พ่อกลายเป็นคนตกงาน จมทุกข์อยู่แต่กับความรัก ฉันต้องดิ้นรนเลี้ยงตัวเองตั้งแต่ตอนนั้น และฐานะของเราก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ทรัพย์สินที่เคยมีมากมายก็เอาไปใช้หนี้เขาหมด...

     

    และสมบัติชิ้นสุดท้าย บ้านของฉัน ก็ถูกธนาคารยึดไปแล้ว

     

     เป็นอะไรน่ะอากิ...ยัยส้มถามฉันด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าเธอเป็นห่วงฉันอยู่ ฉันถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะตอบกลับไป

     

    ฉันต้องกลับไปเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเหมือนอย่างเคยแล้วล่ะยัยส้ม

     

    และฉันก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง โดยที่ยัยส้มได้แต่นั่งฟังเงียบๆ มันแสดงการปลอบใจฉันผ่านแววตาตามเคย และส่วนใหญ่เวลามีเรื่องอะไร ยัยส้มจะเป็นคนรับฟังอยู่ฝ่ายเดียว เธอจะปล่อยให้ฉันเล่าระบายออกมาให้หมด ฉันถอนหายใจอีกครั้งอย่างท้อๆ

     

    แล้วเราจะไปอยู่อพาร์ทเมนท์ที่ไหนยัยส้มถามฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย

     

    นี่หมายความว่าเธอจะไปอยู่กับฉันด้วยหรอ!”

     

    อือยัยส้มตอบไม่ใส่ใจ ก่อนจะพูดต่อ ยังไงซะฉันก็ไม่มีที่ไปอยู่แล้วนี่

     

    มันก็ถูกของส้ม จริงๆ แล้วฉันน่ะไปนอนที่บ้านของยัยส้มก็ได้ แต่ติดที่ว่าพ่อและแม่ของส้มไปทำงานที่เมืองนอกพอดี ที่บ้านของมันจึงไม่มีใครอยู่ ตามหลักแล้วถ้าบ้านของฉันไม่ถูกยึดยัยส้มก็จะมานอนค้างที่บ้านฉันรอจนกว่าพ่อแม่ของมันจะกลับมาจากเมืองนอก แต่บ้านของฉันดันถูกยึด ทุกอย่างก็ผิดแผนไปหมด สุดท้ายแล้วก็ต้องมาลงเอยที่อพาร์ทเมนท์จนได้... T_T

     

    อะไรติดอยู่ที่กระเป๋าเดินทางของเธอน่ะอากิ

     

    ฉันเลิกคิ้วขึ้นงงๆ ก่อนจะมองตามนิ้วของยัยส้ม แล้วก็เจอแผ่นโบรชัวร์อะไรสักอย่างที่สอดติดมากับซิปกระเป๋า เอ๊ะ ฉันว่าฉันไม่เคยเห็นโบรชัวร์นี่นี่นา มันติดมาตอนไหนกัน

     

    หรือมันจะเป็นของผู้ชายที่แย่งแท็กซี่ฉัน...?

     

    ฉันสลัดความคิดไร้สาระออก ก่อนจะคลี่โบรชัวร์ปริศนาดูก็ปรากฏว่ามันเป็นโบรชัวร์โฆษณาของอพาร์ทเมนท์ชื่อดังชื่อหนึ่งที่อยู่แถวบ้านฉัน

     

    ‘ 78 Charinnta apartment ’

     

    78 ฌารินน์ตา อพาร์ทเมนท์...

     

                “ฉันว่าอพาร์ทเมนท์นี่ก็เข้าท่านะ เธอว่าไงล่ะอากิ

     

    นี่มันพรหมลิขิตชัดๆ *O* !! ที่มีโบรชัวร์ที่บังเอิญเป็นโบรชัวร์อพาร์ทเมนท์ที่เราต้องการพอดีในตอนนี้น่ะ!

     

    เดี๋ยวอากิ ข้างหลังนั่นเขียนอะไรไว้น่ะ

     

    ฉันขมวดคิ้ว ก่อนจะพลิกโบรชัวร์ไปดูข้างหลัง พยายามแกะลายมือขยุกขยุยเหมือนใช้เท้าเขียน เอ่อ ฉันว่าคนเขียนควรจะไปฝึกคัดลายมือภาษาไทยก่อนนะ แกะรอยแบบนี้เห็นแล้วเพลียชะมัด =_=

     

    อืม... หวัดดีป้าฉันอ่าน พยายามเพ่งมองตัวหนังสือไก่เขี่ย แล้วก็คุ้นกับสำนวนกวนตีนๆ นี่ซะเหลือเกิน ป้าไม่รู้จักฉันหรอก แต่ฉันอะรู้จักป้าดี ไปตามอพาร์ทเมนท์นี้รับรองจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น เชื่อผมเหอะป้า

     

    ฉันอ่านออกเสียงให้ยัยส้มฟัง ก่อนจะอ่านประโยคถัดไป

     

    การที่เราเจอกันไม่ใช่เพราะความบังเอิญหรอกนะ J โชคดีป้าขี้นก!”

     

    ---> [ 75% ] N o w   l o a d i n g . . .

                เดี๋ยวมาต่อนะคะ > ., <

                ขอบคุณสำหรับทุกคำติชมนะคะ #โค้งสี่สิบห้าองศา

                ไรท์มีกำลังใจในการแต่งต่ออีกเพียบเลย TT _ TT

     

                คาดว่าไม่ตอนนี้ก็ตอนหน้าที่พวกนางเอกจะมารวมพล =O= 555555

                ฝากติดตามด้วยนะคะ รักนักอ่านที่สุด จุ๊บบบบบ 





    THE? FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×