คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : . chapter 0
บทนำ
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นกระเบื้องเคลือบชั้นดีดังเป็นจังหวะ ก่อนที่มันจะกระทบกับพื้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะกลายเป็นวิ่ง และทันทีที่ก้าวเท้าออกนอกเขตสนามบิน สาวเจ้าของหุ่นเพรียวก็แหกปากดังลั่น
“ถึงบ้านแล้ว! ประเทศไทยจ๋า! อากิรักเธอ!!!”
ฉันเงยหน้าขึ้นพลางชูแขนสองแขนขึ้นท้องฟ้าทำท่าเหมือนโอบกอดเมฆ ก่อนจะฉีกยิ้มร่าพลางตะโกนบอกรักประเทศไทยอีกรอบโดยไม่สนใจคนรอบข้างที่หันมามอง ทำไม ใครแคร์ ฉันสวยซะอย่างทำอะไรก็ไม่ผิดอยู่แล้ว เชอะ!
“อายคนอื่นเป็นมั่งมั้ย -_-”
น้ำเสียงไร้อารมณ์ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเสียงของยัยออเรนจ์ หรือที่ฉันเรียกมันว่าส้ม มันเป็นเพื่อนซี้ที่ตามฉันไปเรียนช่วงมัธยมปลายที่เมืองนอกเองแหละ พวกเราเรียนที่เมืองนอกจนจบมัธยมห้า และวันนี้ก็พึ่งกลับมาเรียนต่อมัธยมหกที่ไทย
อย่าถามว่าทำไมฉันไม่เรียนต่อให้จบมัธยมหกเสียตั้งแต่ที่นู่น เพราะเจ้าพ่อตัวดีดันโทรศัพท์เร่งให้ฉันกลับไทยเร็วๆ ประมาณว่ามีเรื่องด่วนอะไรสักอย่าง ไม่ทันให้ฉันตอบตกลง พ่อก็ส่งตั๋วเครื่องบินพร้อมยื่นใบลาออกที่โรงเรียนในเมืองนอกให้เรียบร้อยแล้ว เป็นเหตุให้ฉัน(และยัยส้มที่ติดร่างแหมาด้วย)ต้องมาถึงแผ่นดินเมืองไทยในวันนี้
ฉันล่ะคิดถึงอาหารรสเผ็ดของที่นี่ คิดถึงอากาศร้อนๆ ของที่นี่ คิดถึงรอยยิ้มเป็นมิตรของคนไทย อ๊ายยยย! ประเทศไทยจ๋ามาให้ฉันกอดที!
“เธอกำลังทำอะไรของเธอ”
“ซักผ้ามั้ง! ก็เห็นๆ อยู่ว่าฉันกำลังกอดเสาธง!” ใช่แล้ว ฉันพูดไม่ผิดหรอก -.,- ที่หน้าสนามบินนี่มีเสาธงประเทศไทยอยู่ด้วยล่ะ แม้ว่าการกอดเสานี่จะทำให้ฉันร้อนเป็นบ้าก็เถอะ -_-
“อย่ามัวแต่ยืนทื่อแบบนั้นสิยะยัยส้มเน่า! ถ่ายรูปให้ฉันหน่อยดิ” ฉันว่า พลางเตรียมโพสท่าสวยๆเก๋ๆ แต่ยัยส้มแค่มองมาทางฉันนิ่งๆ
“ฉันร้อนนะส้ม ช่วยถ่ายหน่อยเถอะ =_=”
“-_-”
“เธอฟังภาษาไทยไม่ออกหรอวะ”
“-_-”
“นี่!”
“มีนกพิราบขี้ใส่หัวเธออยู่แน่ะ” ยัยส้มพูดสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวไม่ใส่ใจ ก่อนจะชี้นิ้วไปที่หัวสีทองอร่ามของฉันด้วยสีหน้านิ่งๆ และเพราะอากัปกริยาที่เฉื่อยชาของยัยส้มทำให้ฉันประมวลผลตามไม่ทัน
“เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะส้ม”
และฉันก็เพิ่งรู้ตัวว่ามีของเหลวๆ เหนียวเหนอะหนะเปรอะรดอยู่ที่โคนผม
“มูลนกพิราบ -_-”
“ฮะ! พิราบ!!? ขี้นกพิราบ =[]= !!!!”
“ไม่เชื่อหรอ เธอจะลองชิมดูก็ได้นะอากิ -_-”
เสียงจิ๊บๆ ของนกพิราบดังขึ้นตอกย้ำ จนฉันต้องรีบถลาออกจากที่ตรงนั้น พลางวิ่งไปหายัยส้ม และพึ่งสังเกตว่ายัยนี่โบกรถแท็กซี่คอยฉันก่อนอยู่แล้ว
ฉันเดินเข้าไปใกล้ แต่ยัยส้มกลับถอยห่าง พลางมองสภาพผมสีทองของฉันด้วยแววตาที่ขยะแขยงเต็มทน
“เธออย่าเข้ามาใกล้ฉันนะอากิ ฉันรังเกียจ”
ยัยเพื่อนไม่รักดี! โฮ TOT!!
“ผ..ผมสวยๆของฉัน ฉันพึ่งย้อมมาเองนะเว้ยย!! ไอ้นกพิราบเฮงซวย ไอ้นกพิราบพ่อแม่ไม่สั่งสอน ไอ้ ไอ้!!!”
“หุบปากและขึ้นรถไปซะ -_-”
“จะให้ฉันขึ้นรถแท็กซี่ไปในสภาพที่หัวเป็นอย่างนี้น่ะหรอ!”
“หรือจะให้ฉันกร้อนผมให้ ก็ดีนะ ฉันพกกรรไกรติดตัวมาพอดี”
“จะบ้าหรอยะ!!!”
“ขึ้น-รถ” ยัยส้มเน่าบอกด้วยน้ำเสียงใกล้หมดความอดทน จนฉันต้องรีบควานหากระดาษทิชชู่ในกระเป๋า พยายามเช็ดขี้นกออกจากหัว หน็อย! คอยดูเถอะไอ้นกบ้า วันหลังฉันจะจับแกมาปิ้งแล้วโยนให้ตะกวดแด๊ก!
ฉันบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะแบกกระเป๋าเดินทางใส่กระโปรงหลังรถ ในจังหวะที่ฉันกำลังจะปิดกระโปรงหลังรถนั่นเอง เสียงของยัยส้มก็ร้องเตือนดังลั่น
“อากิ ระวัง!!!”
เหมือนเสียงห้ามของยัยส้มจะไม่ทันการณ์เพราะผู้ชายร่างสูงถลาเข้ามาหาฉันอย่างรวดเร็วจนฉันตั้งตัวหลบเขาไม่ทัน ส่งผลให้ร่างของเขาชนเข้ากับฉันอย่างเต็มแรง
โครม!
“โอ๊ย!”
จะ...เจ็บชิบอ๋าย!!!!
เพราะเขาร่างใหญ่กว่าฉันมาก ทำให้ฉันล้มลงไปกองกับพื้นเพราะแรงกระแทก จ...เจ็บ! TOT!!
“ยืนขวางทางทำไมวะยัยเซ่อ! ไม่เห็นรึไงว่าคนกำลังรีบ!”
'เอ๊า! ไอ้บ้า! แกนั่นแหละวิ่งมาชนฉัน!!'
ฉันด่าเขาในใจ ก่อนที่ยัยส้มจะค่อยๆช่วยพยุงตัวฉันขึ้น ตอนนี้เองที่ฉันรู้สึกเจ็บแปล๊บที่ส้นเท้า โอ๊ย รู้งี้ไม่น่าใส่ส้นสูงมาเลย T^T! พอฉันทรงตัวได้เท่านั้นแหละ ปากก็เตรียมอ้าด่าเขาทันที
แต่ปากที่อ้าไว้ก็ค้างอยู่อย่างนั้น
ผ...ผู้ชายอะไร! หล่อเป็นบ้า >O<!!!
อ๊าย ดูหน้าหล่อๆนั่นสิ! นัยน์ตาคมสีเทานั่นอีก! ฉันเดาว่าเขาต้องเป็นลูกครึ่งแน่ๆ! ทั้งโครงหน้าที่หล่อเกินเทพบุตร จมูกโด่งๆริมฝีปากน่าจุ๊บ เสียงนุ่มทุ้มเท่ห์ๆที่ฉันฟังเป็นต้องละลาย...
“มองอะไรวะป้า!”
ฮะ หมอนี่เรียกใครป้านะ =_=
“หัวป้าก็หัดสระบ้างนะ ดูดิ๊ ขี้กลากขึ้นแล้วเนี่ย ผู้หญิงอะไรโคตรโสโครก”
“ขี้กลากบ้าอะไร นี่มันขี้นกเว้ย!!” ฉันสวนกลับทันควันด้วยความฉุนปรี๊ด
“หนักกว่าขี้กลากอีก =_= ป้าแม่มซกมก!!”
อ๊าก! นี่ปากคนหรือปากหมา! หน้าตาหล่อซะอย่างแต่ปากโคตรสกปรก!
“ถอยไปดิ เกะกะว่ะ ยืนขวางทาง!” มันพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะผลักไหล่ฉันจนไปชนกับยัยส้ม และไม่ทันให้ฉันห้ามอะไรได้ทัน ไอ้หมอนี่ก็ขึ้นรถแท็กซี่คันที่ยัยส้มพึ่งโบกเมื่อครู่ทันที!
เฮ้ยยย! ไอ้นี่มันแย่งรถกันหน้าด้านๆเลยเฮ้ย =[]= !!!
ยัยส้มกับฉันกำลังเข้าไปทุบกระจกรถ แต่แท็กซี่ไวเกินคาด มันแล่นฉิวไปอย่างรวดเร็วจนฉันอ้าปากค้าง
กระเป๋าเดินทางของฉันกับยัยส้มอยู่ในนั้น =[]= !!!!!!
กลับมาก๊อนนน!!!!
“ไม่ทันแล้ว รถไปแล้ว” เสียงเรียบๆ พร้อมสัมผัสหนักๆ ที่ไหล่ช่วยตอกย้ำทำให้ฉันอยากร้องไห้ ยัยส้มตบบ่าฉันเบาๆ เรียกสติให้ฉันกลับมา
และพอสติกลับมาเท่านั้นแหละ ฉันก็กรีดร้องดังลั่น
“กร๊าซซซซซซซซซซ ซ ...ค่อกๆๆ ถุย!!! นี่เธอเอาอะไรยัดปากฉันวะยัยส้ม!”
“ส้ม -_-”
“ยัดใส่มาทำแป๊ะอะไร =[]=!”
“เธอแหกปากไง ฉันกลัวคนอื่นจะมองว่าเธอบ้า ก็เลยอาสาช่วยปิดปากให้” ยัยส้มว่าก่อนยักไหล่ไม่ใส่ใจ เธอเดินไปหยิบผลส้มที่ฉันพึ่งถุยออกมาเมื่อครู่ก่อนจะเก็บเข้าใส่กระเป๋าสะพายข้างตัว เอ่อ ทิ้งมันไปก็ได้นะเพื่อนรัก =__= น้ำลายฉันเต็มผลส้มเธอเลยนะจ้ะนั่นน่ะ...
“ตกลงเอาไง” ยัยส้มหันมาถามฉัน ฉันส่ายหน้าอย่างจนปัญญา “ของทุกอย่างทั้งกระเป๋าตังค์ กุญแจบ้าน เสื้อผ้า ทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าเดินทาง”
พวกเราจะกลับบ้านกันยังไงดี T___T
ฉันทรุดนั่งลงบนเก้าอี้หน้าสนามบิน และดีที่ฉันยังจำเลขทะเบียนรถแท็กซี่นั่นได้ คิดจะแจ้งตำรวจก็คิดว่ามันยุ่งยากเกินไป อีกอย่างฉันพึ่งกลับมาบ้านยังไม่อยากมีเรื่องด้วย ยัยส้มนั่งลงข้างๆ ฉันก่อนที่มันจะหาวหวอดๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายัยนี่กำลังจะ ‘หลับ’ ในอีกในไม่ช้า
เพื่อนฉันก็งี้แหละ ไม่เคยแคร์ไม่เคยสนใจว่าสถานการณ์รอบตัวเป็นอย่างไร ที่เธอสนใจก็คือการนอน นอนอย่างเดียว =_=
ฉันกำลังจะอ้าปากปลุกยัยส้มที่กำลังจะหลับ แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นรถจักรยานสีแดงแปร๊ดที่จอดข้างริมฟุตบาทซะก่อน
อืม แท็กซี่พึ่งออกไปเมื่อกี้ และมันก็น่าจะติดไฟแดงตรงถนนหน้าสนามบิน...
...ฉันว่าฉันตามรถแท็กซี่ทันนะ!
ไม่รอช้าฉันลุกพรวดเดินจ้ำอ้าวไปที่รถจักรยานคันนั้นทันที
“เดี๋ยว เธอจะไปไหนน่ะอากิ”
“ไปเอากระเป๋าเดินทางของเรากลับมาไง!”
ความคิดเห็น