ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    【EXO fic】:: Be My Honey! ❤

    ลำดับตอนที่ #10 : ★ หึง งอน

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 57


    BE MY HONEY

    exo - Chanbaek




    เช้าวันนี้แสนสดใส  ผมเอื้อมมือไปเขย่าตัวคนข้างๆ  ร่างสูงงัวเงียเล็กน้อยก่อนจะยอมลุกขึ้นอุ้มผมตรงไปยังห้องน้ำ  ผมไม่รู้นะว่าทำไมต้องทำแบบนี้  แต่ผมว่ามันก็สบายดี(ขี้เกียจเดิน -..-)

     

    แปรงสีฟันสองอันวางคู่กันมาเนิ่นนานแต่ไม่มีเลยซักครั้งที่จะมองเห็นความหมายของมัน  ผมบีบยาสีฟันใส่แปรงให้เขาก่อนที่เราจะเริ่มแปรงฟัน ล้างหน้า อาบน้ำ ตามปกติอย่างคนทั่วๆไป

     

    สวัสดี  จำกันได้ใหม?  ผมเองแพคฮยอน ส่วนคนที่ผมกำลังติดกระดุมเสื้อให้อยู่นี่ก็คือชานยอล ไอ้เอ๋อของผมไง   

    หลายคนอาจจะสงสัยว่าไอ้เอ๋อไหน

     

    ใช่แล้วไอ้เอ๋อคนนั้นหล่ะ 

    คนที่ฟันเยอะๆ หัวหยิกๆ  ตาโตๆ คอยาวๆ สูงเก้งก้างเหมือนยีราฟ ยิ้มและหัวเราะเหมือนคนปัญญาอ่อน แล้วก็สระผมตัวเองไม่เป็น

     

    ฟังดูเหมือนมันไม่ใช่คน -_-;;

     

     

     

    หลายวันหลังจากเราไปที่ม่านรูดนั่น  เรากลับมาใช้ชีวิตที่ต่างจากปกติเล็กน้อย ผมกับชานยอลยังถูกมองว่าเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แต่ลึกๆแล้วไม่ใช่ ผมเป็นคนขอร้องให้ชานยอลปิดเรื่องที่เราคบกันเอาไว้อย่างลับๆเสียก่อน

     

    ถามว่าทำไม….ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน 

    กลัวมั้ง  กลัวถูกมองไม่ดี

    คิดดูสิ ผมก็ผู้ชายมันก็ผู้ชาย น่าอายออก..

     

     

    เหม่ออะไร..ติดผิดแล้วนั่นน่ะ

     

     

    ชานยอลเอ็ดเข้าเมื่อผมติดกระดุมเลื่อนไป  ร่างสูงลูบหัวผมเบาๆก่อนหอมแก้มผมจนเกิดเสียงดังฟอด!

     

     

    อย่าเยอะๆ

     

    ผมว่าเมื่ออีกคนไม่หยุบแค่หอมแก้ม มือสองข้างของเขาเริ่มจะยุ่งกับปมผ้าเช็ดตัวของผม ริมฝีปากก็ไกล้จะสัมผัสกันอยู่แล้ว

     

    ก็อยากเยอะ ^^”

     

     

    เดี๋ยวเจอๆ -*-”

     

    ผมจิ้มเข้าที่แผงอกกว้าง  ไล่เขาไปสตาร์ทรถ ก่อนจะเริ่มแต่งตัวของตัวเองบ้าง

     

    ผมกับชานยอลเป็นแบบนี้กันได้พักนึงเล้วตั้งแต่วันที่ไปม่านรูดนั่น  ถึงแม้คืนนั้นเราจะไม่ได้ทำอะไรเพียงแค่นอนกอดกัน แต่ทุกความรู้สึกของเราก็ได้ถ่ายทอดสู่กันและกันไปแล้ว

     

    ตอนนี้ผมรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า..รักไอ้เพื่อนบ้าเข้าแล้ว

     

     

    ชานยอลเองก็ไม่ได้แตกต่างกัน

    เวลากว่าสัปดาห์ ในตอนเช้าผมจะเป็นคนปลุกชานยอล บางครั้งเขาอุ้มผมมาที่ห้องน้ำเมื่อเห็นผมง่วงจนตาแทบปิด เรายังคงอาบน้ำ  ทานเข้า และนอนด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน แต่ความรู้สึกที่มีต่อกันมันต่างออกไป  ผมรู้สึกขัดเขินทุกครั้งที่หันไปหาเขาแล้วเห็นว่าเขามองผมอยู่ก่อนแล้ว  รู้สึกหวั่นไหวทุกครั้งที่เราสกินชิพกัน แม้เพียงเล็กน้อยอย่างกอด ใจผมก็เต้นเร็วเหมือนคนที่วิ่งมาราธอน

     

    นี่คือความรู้สึกรักแบบวัยรุ่น   ซึ่งผมพึ่งจะเคยสัมผัสมันเป็นครั้งแรก..

     

     

     

     

    เอ้อยอล..กูมีเรื่องจะคุยด้วย

     

    ผมเปิดประเด็นเมื่อรถของเราติดไฟแดง  

    ถามจริงนะ ใครเป็นคนคิดอัตราส่วนไฟเขียวไฟแดง  ไฟแดง 3 นาที ไฟเขียว 40 วิ  กะให้บินเอาใช่มั้ยถึงจะทัน  นี่ติดไฟแดงมาสองรอบแล้วไม่อยากบ่น  -_-*

     

     

    อื้อ..ว่ามา

     

     

    คือมันมีคนมาจีบกูอ่ะแล้ว..ก็แบบ

     

    มันเป็นใคร!!!!!”

     

    ผมสะดุ้งเฮือก  ชานยอลดูท่าทางโมโหมาก  เขาเอามือทุบกับพวงมาลัยแรงๆเหมือนคนบ้า

    ร่างสูงหลุดคอนโทรลไปพักนึง  ก่อนจะพยายามทำหน้านิ่งเหมือนเดิมแม้ว่ามันจะไม่ทันแล้ว

     ฮ่าๆ  ขำชะมัด

     

    เด็กคณะมึงอ่ะ  ลู่ๆเลี่ยๆอะไรซักอย่าง

     

    นานแค่ไหนแล้วทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่องเลย -_-*****”

     

    อีกครั้งกับการหลุดคอนโทรลของชานยอล

    ไอ้บ้านี่หึงเปลี่ยนเป็นคนละคนเชียวนะ  ฮ่าๆ

     

    ก็..ตั้งแต่กูไปรอมึงใต้คณะวันนู้นนนนนนนนนนอ่ะ

     

    กูจะฆ่ามัน -_-****”

     

    เฮ้ยๆๆๆ  ใจเย้นนน >O<”

     

    บางครั้งก็น่ากลัวนะเนี่ย -_-;;

     

     

    เย็นได้ป่ะละเนี่ย =_=”

     

    ชานยอลทำท่าเหมือนจะบ้าตายเอาให้ได้

    ไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้เลย  อยากถ่ายรูปเก็บไว้จัง  เหมือนเด็กที่กลัวพ่อแม่ไม่รักอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

     

    เอาน่า..ไม่ร้ายแรงหรอก   กูแค่อยากบอกไว้เฉยๆอ่ะ

     

    จะทิ้งกูว่างั้น  สวยเลือกได้ว่างั้น

     

    โหยไอ้หยอยยย  ไอ้ขี้ใจน้อยยย  ถ้ากูทิ้งมึงแล้วใครจะเอามึงทีนี้ -_-”

     

    อีกอย่าง  กูอ่ะหล่อ

    ความสวยไม่สามารถเทียบชั้นกูได้  (ว่าไปนั่น)

     

    ไม่มีใครเอากูเอาเองก็ได้  กูมีดุ้น กูไม่แคร์ -3-”

     

    “=______________=  มึงจะเอาฮาไปไหน  เออ  แค่บอกไว้ แต่อย่าไปทำน้องเขาล่ะมึง โอเค้?

     

    เคคร้าบบบ  ฮันนี่ ><”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อีกครั้งที่ผมต้องมานั่งรอมันใต้คณะ  ผมกับชานยอลเลิกไม่ตรงกัน ถ้าไม่อยากเสียตังค์ค่ารถกลับก็ต้องรอกลับกับมัน และผมบังเอิญเป็นคนขี้งกด้วยสิ -..-

     

    ครั้งนี้ที่ใต้คณะไม่มีใครกล้าแซวผมเหมือนเคย  นั่นอาจจะมาจากเกียร์รุ่นวิศวะอันเล็กที่ห้อยคอผมอยู่ ตอนแรกชานยอลมันแทบจะเอาป้ายมาตั้งไว้ข้างผมว่า แฟนกูห้ามยุ่งแต่ผมโวยวายจนมันพับความคิดนั้นเก็บไว้บนหิ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นเอาเกียร์ของมันมาห้อยคอผมแทน

     

    ผมไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าเกียร์นี่มันหมายความว่าอะไรยังไง  รู้แค่ว่าพวกคนที่นั่งอยู่ใต้คณะไม่กล้าแซว ไม่กล้าแซะผม มีเพียงสายตาที่ลอบมองบ้าง  สงสัยเกียร์นี่เจ๋งจริง  ทำไมคณะผมไม่มีแบบนี้บ้างอ่ะ  เช่น บีกเกอร์รุ่น แท่งแก้วคนสารรุ่น คงจะเท่น่าดู  -..-    #ดูมันคิด

     

     

     

    ด้วยความเบื่อหน่าย ผมจึงหยิบโทรศัพทของชานยอลมาเล่น  ที่ได้ทีศัพท์มันมาก็เพราะว่าลืมเอาของตัวเองมา  ชานยอลเลยให้เครื่องนี้ไว้กับผม

     

    โฮ่  ยอลกากว่ะ  แคนดี้เวลแปด กากไปไหน -_-

    ผมเวลทะลุร้อยแล้วไม่อยากคุย -..-

     

     

    แพคฮยอนฮยอง ^___^”

     

     

    ผมจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นจากเกมส์ เมื่อจู่ๆมีคนเข้ามาทัก

    หน้าตาคุ้นๆแฮะไอ้คนนี่  ใช่ไอ้ลู่ๆเลี่ยๆอะไรนั่นไหมนะ?  ผมยิ่งลืมง่ายอยู่

     

    ว่างไหมครับ ขอคุยด้วยได้มั้ย?

     

     

    ผมปั้นหน้ายิ้มออกไปแม้ในใจอยากบ่นแทบตาย

     

    ว่างจ้า ^^”  ---- สิ่งที่พูด

     

    ไม่ว่างเว้ยยยยยยยย  ใครจะไปว่างคุยไร้สาระ  กูจะอัพเวลเว้ยยยยย  ----- สิ่งที่คิด

     

     

    จำผมได้มั้ยครับ?

     

    ได้สิ จะไปลืมได้ยังไงกันล่ะ ^^” ---- สิ่งที่พูด

     

    ใครมันจะไปจำได้วะ คนทั้งมอมีเป็นหมื่นกูจะไปจำหน้ามึงได้ยังไงวะ? ----- สิ่งที่คิด

     

     

    ดีจังเลยที่พี่จำผมได้  ^^   พี่หายหน้าไปนะช่วงนี้  ไม่เห็นเดินมามหาลัยเหมือนเมื่อก่อนเลย  ดอกไม้ผมมันเป็นม้ายหมดแล้วนะ

     

     

    อ๋อออออออออออ!!!!  ไอ้คนที่ชอบวิ่งมาให้ช่อดอกไม้ผมนั่นเอง  จำได้ๆ -..-

    ว่าแต่มันเป็นใครวะ?  #ใหนว่าจำได้

     

     

    พอดีมากับเพื่อนน่ะ

     

    รุ่นพี่ชานยอลน่ะเหรอ?

     

    รู้จักด้วยแฮะ

     

    ช่ายย  ^^”

     

     

    เราคุยกันอย่างถูกคอ เด็กคนนี้ขี้เล่นน่าดู หยอดมุกจนผมขำท้องแทบแข็ง

    แต่แล้วความสนุกก็จบลงเมื่อไอ้ขี้หึงเดินลงมาจากคณะ  แล้วปาแฟ้มงานมาที่โต๊ะเรา 

    เฉียดหน้าผากไอ้เด็กนั่นไปนิดเดียว นี่ถ้าโดนนะตายแหงๆ -_-;

     

    มึงปาทำไมเนี่ยหยอย -_-”

     

    ดูดิ  กระดาษปลิวว่อนเชียว

    ลำบากกูเก็บป่ะ =___=

     

    หลุดมือ..”

     

    หรอออ  นี่ถ้ามึงตั้งใจโยนคงแสกกลางหน้าผากไอ้เด็กนั่นสินะ

     

    หวัดดีฮะพี่ชานยอล

     

    ไอ้เด็กนั้นสวัสดีชานยอลด้วยหน้าตายิ้มแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว

    ถ้าผมเป็นมันจะรีบวิ่งเพราะไอ้ยอลมันถือไม้ฉากลงมาด้วย -_-; (มันเอามาจากไหนวะ -_-)

     

    เออ

     

    ร่างสูงตอบแบบห้วนๆ  ไม่แม้แต่ชายตามองเด็กนั่น

    สายตาเข้มๆจ้องผม  นี่ถ้าสายตาฆ่าคนได้  เลือดผมคงไหลนองเต็มพื้น

     

    กูรอที่รถนะ -_-”

     

    เสียงทุ้มพูดอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนเดินหนีไป

    เหลือแต่ไอ้รุ่นน้องผู้โชคร้าย ผม กับเซฮุนและจงอินที่ลงมาพร้อมชานยอล

     

    กูว่าแม่งหึงชัวร์”  ไอ้พี่มืด.

     

    หึงได้ไง  พี่เขาเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”  เด็กดวงซวยนั่น

     

    เด็กอยู่ส่วนเด็ก  อย่ามาเจือก”  ไอ้พี่มืด

     

    “-_-;;;;”  < หน้าตาผม

    ทำไมรู้

    พี่แบคๆๆๆ  พี่สองคนเป็นแค่เพื่อนกันใช่มั้ย????” 

     

    ทำไม  มึงจะจีบดิ”  ไอ้พี่มืด

     

    ผมคุยกับพี่แบค

     

    “-__-*”

     

    โดนไปคนละดอก  เจ็บมั้ยล่ะสัส

    ทำตัวเหมือนเด็ก  ชวนเด็กทะเลาะ  นี่มันคือนิสัยจริงๆของมึงใช่มั้ยพี่มืด =___=

     

     

    กูกลับละ -_-/”

     

    ผมโบกมือบ๊ายบายเมื่อพวกนี้เริ่มปัญญาอ่อนขึ้นเรื่อยๆ  พี่มืดทำท่าจะวางมวยกับเด็กอยู่แล้ว  ถอยดีกว่าผมไม่ชอบการใช้กำลัง อิ๊ๆ

     

    “-_-/”

     

    ไม่รู้ผมตาฝาดไปรึเปล่า ผมเห็นเซฮุนโบกมือบ๊ายบาย -0-!!!!  พรุ่งนี้โลกแตกแหงๆ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×