คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ★....ยาเม็ดที่หนึ่ง - จุดเริ่มต้นของทุกอย่าง....★
REMEMBER ME
กาลครั้งหนึ่ง ผมสะดุด รัก จนความจำเสื่อม
“อะไรนะ!!! นี่พ่อหมายความว่ายังไงเนี่ย!!”
ผมตะโกนใส่พ่อตัวเองอย่างเหลืออด กำหมัดแน่นข้างลำตัว ยิ่งพอเห็นผู้ชายชุดสีดำทั้งชุดอยู่หลังพ่อแล้วผมยิ่งโมโหมากกว่าเดิม
“มันจะเป็นแบคฮยอน ลูกก็รู้ว่าถูกลอบทำร้ายมาหลายรอบแล้ว มีบอร์ดี้การ์ดไว้ก็ไม่เสียหายหรอกน่า”
“แล้วพ่อไม่มีปัญญาหาบอดี้การ์ดที่มันขาวกว่านี้รึไง นี่อะไร ตัวก็ดำยิ่งมาใส่ชุดดำอีก แล้วผมจะไปมองเห็นอะไร!!”
“แบคฮยอน!!”
พ่อผมตะคอกกลับมา นั่นหมายความว่าท่านคงโกรธจรองๆแล้ว แต่มีหรือที่ผมจะสนใจ!
“ทำไม!! ผมก็แบคฮยอนนี่แหละ!!”
“บยอนแบคฮยอน!! นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันอุตส่าห่วงแก อุตส่าไปจ้างคนแพงๆมาช่วยคุ้มกะละหัวแก แต่แกทำกับพ่อแกแบบนี้เหรอ!!”
“แล้วถามมั้ยว่าผมต้องการมันรึเปล่า!!”
“แบคฮยอน!!”
“เออ ! เรียกอะไรหลายรอบกลัวลืมชื่อรึไง!!”
ผมตัดสินใจตะคอกใส่พ่อตัวเองอีกครั้ง แล้ววิ่งออกจากบ้านโดยไม่สนใจพ่อที่ตะโกนไล่หลังผมมาอีกเลย.. อ่อใช่…ผมบยอน แบคฮยอน ลูกเจ้าของธุระกิจอัญมณีรายใหญ่ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ต้องสนใจหรอก ผมไม่อยากนับคนแบบนั้นเป็นพ่อ!
คุณคงจะคิดว่าผมเลวมากสินะที่พูดแบบนั้นกับพ่อ พ่อทำกับผมเลวร้ายอว่านี้อีก! ตั้งแต่แม่ผมตาย พ่อก็แต่งงานใหม่ทั้งๆที่ไม่คุยเรื่องนี้กับผมแม้แต่คำเดียว แค่การที่ยัยสารเลวนั่นเดินอยู่ในบ้านผมก็แทบจะบ้าตายแล้ว ตอนนี้พ่อยังจ้างบอดี้การ์ดมาคุ้มครองผม เหตุผลเพราะว่าช่วงนี้พ่อกำลังทำธุรกิจใหญ่ แล้วมีคู่แข่งจ้องจะทำร้ายเรา เหอะ! ทำแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการเอากรงมาครอบผมไว้เลย
และตอนนี้บยอนแบคฮยอนอย่างผมก็งอนพ่อ และกำลังหนีออกจากบ้านอยู่น่ะ…
“หวา…แย่จัง”
ผมเดินทอดน่องไปซักพัก ฝนเจ้ากรรมก็ดันตกลงมาซะได้ ผมรีบวิ่งไปหลบที่ป้ายรถเมไกล้ๆกะว่าจะรอให้ฝนหยุดตกซะก่อนแล้วค่อยไปตามแนวทางของเด็กหนีออกจากบ้าน(?) ผมรอมันหยุดตกตั้งแต่ตอนบ่ายแก่ๆ จนตอนนี้มันทุ่มกว่าแล้ว เม็ดน้ำเย็นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ซ้ำดูเหมือนจะยาวนานไปอีกหลายชั่วโมง นั่นทำให้ผมถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย! ร่มผมก็ไม่มีอ่ะ
“น้องสาว นั่งอะไรตรงนี้ครับ?”
ผมหันขวับเมื่อได้ยินเสียงที่ส่อแววสิบแปดบวกชัดเจน เด็กวัยรุ่นสองสามในเครื่องแบนักเรียนคนจ้องมองผมเขม็ง ดูจากสายตาแล้วสิ่งที่มันคิดคงไม่พ้นขอบเตียงแน่
“น้องสาวบ้านแกสิ ฉันเป็นผู้ชายเว้ย!”
ผมใส่อารมณ์ลงไปอย่างเหลืออดหวังให้พวกมันเลิกยุ่งกับผม แต่ไม่เลย หนำซ้ำมันยังมาล้อมผมที่นั่งอยู่เก้าอี้สำหรับรอรถ อะไรวะ! ทะเลาะกับพ่อยังพอทน นั่งตากฝนยังพอไหว แต่ยังมีเด็กหัวเท่ามะเขือมาทำท่าจะปล้ำแบบนี้ บยอนจะไม่ทนแล้วนะเว้ย!
“เป็นเมียพี่ก็ต้องน้องสาวสิครับ ”
“ไปไกลๆ!!”
“โฮ่ ปากดีแบบนี้ สงสัยจะอึด มีผัวพร้อมกันสามคนคงไม่เป็นปัญหาหรอกเนอะ”
ผมลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับไอ้คนที่พูดวาจาดูหมิ่นผม ก่อนจะปล่อยหมัดเล็กๆแต่ผมมั่นใจว่ามันหนักพอดูลงไปที่ใบหน้าหลุมๆนั่นจนมันเซถลาไปข้างหนึ่ง
“มึง! มึงกล้าดียังไงมาชกกู อย่าอยู่เลยมึง! อั่ก!”
ไอ้ปากหมานั่นทำท่าจะต่อยผมคืนบ้าง น่าเสีนดายที่มันเอาแต่พล่าม ผมเลยใช้โอกาสนั้นชกมันอีกทีจนเซถลาไปหาเพื่อนมัน เลือดแดงๆที่เริ่มไหลจากปากมัน เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าหมัดผมหนักไม่น้อย ก็แน่ล่ะ! ผมอุตส่าร่ำเรียนมาจากครูผู้เชี่ยวชาญ ไอ้เด็กเหลือขอพวกนี้จะมาสู้ได้ยังไง!
“ไอ้พวกโง่ นิ่งอยู่ทำไม! จับมันไว้สิ ถ้าวันนี้มึงไม่ได้กูเป็นผัวก็อย่าเรียกกูว่าพี่กีล ”
ผมยิ้มเยาะเมื่อนังเลงในคราบชุดนักเรียนสั่งเพื่อนๆที่มีอีก 2 คนให้รุมจับผม แถมไอ้พวกโง่นั่นก็ยังทำตามคำสั่งเสียด้วย เห็นทีคราวนี้ผมคงได้อะไรเล่นแก้เซ็งระหว่างรอฝนหยุดตกแล้วล่ะ! J
“มาเป็นเมียกูนี่!”
เด็กคนหนึ่งพุ่งตรงมาหาผมจากด้านซ้าย ในมือของมันถือท่อนเหล็กเล็กที่คาดว่าคงจะหยิบมาจากแถวนี้ตรงเข้ามาฟาดผม แต่ฝีมือมันคงจะกระจอกไป ผมแค่หลบนิดหน่อยทำให้มันฟันพลาด อ้อมไปอยู่ด้านหลังมันก่อนจะฟันมือลงไปที่ท้ายทอยจนร่างคงมันร่วงลงกับพื้น เป็นสัญญาณว่ามันสลบไปแล้วเรียบร้อย
“มึงกล้าทำเพื่อนกูเหรอ!”
เด็กอีกคนพุ่งมาหาผมด้วยมือเปล่า ดูท่ามันคงจะไม่มีรอยหยักในสมองเลยซักนิด เพราะถ้ามันมีมันก็ควรจะเห็นว่าขนาดเพื่อนมันที่มีอาวุธยังทำอะไรผมไม่ได้ แล้วมือเปล่าอย่างมันเนี่ยนะจะสู้กับได้
“อั่ก!”
ว่าแล้วก็จัดการเตะเข้าไปตอนที่มันกำลังวิ่งมา เหวียงหมัดลงที่หน้ามันอีกซักรอบจนมันทรุดลงไปนอนบนพื้นด้วยอาการมึนงง ผมง้างเท้าขึ้น กะจะกระทืบมันให้หายเซ็ง แต่ผมลืมไปว่ายังไม่ไดจัดการไอ้หัวโจก มันอ้อมมาด้านหลังผม จับแขนของผมไปไพล่หลังไว้แล้วบีบไว้แน่น
“ไอ้เหี้ยนี่! ปล่อยกูสิวะ!!”
ผมทั้งดิ้นทั้งเตะมัน แต่ก็ไม่สามารถหลุดจากมือมันได้ จนไอ้ที่ผมซัดมันหมอบกับพื้นตั้งหลักได้ มันยืนขึ้นมาแล้วใช้เท้าถีบท้องผมแรงๆ
“อ่ะ!”
จุกครับ จุก จุกเป็นที่สุด จุกจนพูดไม่ออก ผมได้แต่ถลึงตามองมันด้วยความเคียดแค้น ในขณะที่มันหักนิ้วกรอบๆเตรียมจะเอาคืนผมอีกรอบ
“อย่าทำแรงนะมึงเดี๋ยวช้ำเอาไม่มัน เหี้ย ตัวโคดหอมสัด”
ไอ้คนที่ล๊อคตัวผมไว้พูดพลางฝังหน้าลงไปที่ซอกคอผม ผมสะบัดหนีอย่างรังเกียจ แต่ก็โดนล๊อคใบหน้าไว้ด้วยมือของมันอีกคน ทำให้ผมไม่อาจหลบหลีกจมูกที่กำลังฝังลงไปที่ต้นคอผม แถมยังกัดผมอีกด้วย ไอ้เวร นี่มึงจะมากไปแล้วนะเว้ย!
“เหี้ย! จับดีๆสิวะ”
ผมยกเท้าขึ้นมาถืบคนที่ล๊อคหน้าผมจนมันเซถอยออกไป ไอ้คนที่ล๊อคตัวผมไว้หัวเราเบาๆ ซึ่งมันดังพอที่ผมจะได้ยิน ทำมาเป็นหัวเราะหึหึ ถ้ามึงหล่อเหมือนการินกูจะไม่ว่ามึงซักคำเลยไอ้หน้าสิว!
“แรงเยอะขนาดนี้ กูว่ามันคงดิ้นได้ตลอดคืน มึงรีบปลุกไอ้ไทเกอร์ เดี๋ยวเอานี่ไปให้นายก่อน ถ้านายไม่เอาเราค่อยเอามาแดกเอง ฮ่าๆๆๆ”
ว่าแล้วมันก็ระเบิดหัวเราะดังลั่น ก่อนที่สติผมจะดับไปเพราะผ้าโปะยาสลบที่ถูกนำมาปิดจมูกผมอย่างจงใจ….
ซ่า ซ่า
ผมเปิดผ้าม่านสีเขียวอ่อนออกดูภายนอก น้ำฝนสีใสๆสาดกระเซ็นทั่วพ้นและบางส่วนเปียกเลอะที่หน้าต่างของผม เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ฝนตกแล้ว
“ให้ตายสิ!”
ผมปิดหนังสือเคมีเล่มใหญ่เสียงดัง บิดขี้เกียจสองสามทีก่อนจะลุกจากโต๊ะ แล้วเปิดม่านออกทุกอันจนทำให้มองเห็นทรรศนียภาพภายนอกที่ตอนนี้ฝนตกแรงอย่างไม่น่าเชื่อ
มีคนบอกผมว่า สายฝนมักจะนำพาหลายสิ่งมาให้เรา และก็รวมถึงผมด้วย แต่ผมก็ไม่รู้ว่าสายฝนพวกนี้จะพาอะไรมาหาผมนอกจากความชื่นและน้ำใสๆชื้นแฉะยามที่มันหยุดลง
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
ตุ้บ
ผมหันมามองขวับเมื่อได้ยินเสียงเหมือนอะไรหนักๆตกที่พื้น หน้าประตูห้องผมมีก้อนอะไรบางอย่างที่หน้าจะเป็นมนุษย์เปียกซกกองอยู่ และก็สามสหายวายวอดยืนกอดอกมองผมด้วยหน้าตาที่ดูภาคภูมิใจ
“นายท่านชานยอลคร้าบบ ผมไปเก็บมาได้ ท่านอยากเอาไว้เล่นด้วยซักคืนมั้ย?”
มันถามผมพร้อมทำสายตากรุ่มกริ่ม เดาว่าถ้าผมไม่เอาไว้มันคงเอาไปปู้ยี้ปู้ยำแน่ๆ
“นี่มึงเก็บได้แน่เหรอ บอกกูมาว่ามึงไปลักพาตัวลูกบ้านไหนมา คราวที่แล้ววิ่งหนีตำรวจหัวซุกหัวซุนไม่เข็ดเหรอมึง - -”
ผมตีหน้านิ่งใส่พวกมันที่ดูจะยังไม่สำนึก คิดดูสิ สองเดือนที่แล้วมันไปลักพาตัวลูกสาวบ้านหนึ่งมา พอพ่อเขามาตามหานี่วิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุน ส่วนคนรับหน้าก็เป็นไอ้ปาร์คชานยอลนี่แหละ ดีนะที่พ่อแม่เขาไม่เอาเรื่อง ไม่อย่างนั้นตอนนี้ผมอาจจะนอนกินข้าวแดงที่สถานกักกันเยาวชนก็เป็นได้
“น่าา นายท่านคร้าบ ก็น่ารักๆแบบนี้นั่งคนเดียวที่ป้ายรถเมผมกลัวเหงา เลยหยิบมาด้วยไง โอ้ย นายท่าน TOT”
ผมปาหนังสือแถวนั้นเข้าเป้าที่กลางหน้าผากมันพอดี ไอ้ห่านี่ ความคิดมึงช่างเป็นคนดีเหลือเกิ๊นนน
“พวกมึงใสหัวไปเลยไป คนนี้กูรับไว้ แล้วอย่าไปเอาลูกใครมาอีก ถ้ากูรู้ มึงเละ - -”
ผมขู่เล็กน้อยก่อนจะผายมืออัญเชิญมันออกไปข้างนอก พอพวกมันออกไปผมก็เดินไปหาคนที่นอนสลบเมือดอยู่ที่พื้นห้องอย่างช้าๆ นั่นไง ตัวเปียกซกเชียว
ผมช้อนตัวคนๆนั้นขึ้น แล้วก้าวยาวพาเขาเข้าไปในห้องน้ำ วางร่างเล็กลงในอ่างน้ำ แล้วเปิดน้ำอุ่นๆให้ ดูจากสภาพแล้วพวกนี้คงไปลักพาตัวเขามาจริงๆ แต่ว่า หน้าตาแบบนี้…ผมว่าคุ้นๆนะ
ใครวะ? - -
ผมหยุดความสงสัยในหัว ก่อนจะค่อยๆลงมือถอดเสื้อผ้าของคนตัวเล็กออก สังเกตเห็นรอยช้ำนิดหน่อยตรงท้องของร่างนี้ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิด ไอ้พวกนั้นมันถึงกับลงไม้ลงมือเลยรึไงเนี่ย? โห่ ตัวเล็กๆแบบนี้ยังจะไปทำร้ายเขา เห็นทีผมคงต้องลงโทษมันซักหน่อย
พออาบน้ำจนเสร็จ คนตัวเล็กก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา ด้วยความที่เสื้อผ้าของเขาเปียกไปหมดแล้ว ผมเลยทำตัวเป็นคนดีด้วยการเอาเสื้อยืดยาวๆตัวหนึ่งให้เขาใส่บ้าง เพราะถ้าใส่กางเกงนอนผมเห็นทีจะไม่ได้เพราะเอวต่างกันยาวหลายปีแสง? ก่อนจะช้อนอุ้มร่างนั้นไปวางที่เตียงของผมอีกที จัดท่านอนให้เขาได้นอนอย่างสบายๆแล้วตัวเองก็เข้าไปมุดผ้าห่มผืนเดียวกัน
“อือ..หนาว”
ผมชันตัวขึ้นมามองคนข้างๆที่ละเมอซะเสียงดัง ร่างนั้นสั่นเทิ่มถึงแม้ว่าผมจะห่มผ้าห่มให้แล้ว ผมเลยจับเขาให้เข้ามาชิดผมกว่าเดิม สอดแขนรองใต้คอโอบคนตัวเล็กเข้าไกล้ แล้วแขนอีกข้างก็กอดเอวเขาเอาไว้ให้ทั้งร่างกายแนบกัน ผมได้ยินเสียงครางของเขา ก่อนที่เขาจะหลับไป
หวังว่าความร้อนแรง(?)ของปาร์คชานยอลจะทำให้คุณอุ่นขึ้นได้นะ J
berry
ความคิดเห็น