คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [fic] Toptory 'Zeal' Chapter 2
[ZEAL]
fic : TOPTORY
rate : PG-15
Author : Vindice
[[[อย่ามัวแต่ซุ่มอ่าน เม้นบ้างเป็นกำลังใจให้ผู้แต่งนะครับ "( '_')]]]
คำเตือน(?):ไรท์เตอร์เป็นมือใหม่หัดแต่ง ถ้าผิดพลาด พิมพ์ผิด หรืองงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ
“เลือดออกไม่หยุดเลยทำไงดี!”ร่างเล็กแตกตื่นทำอะไรไม่ถูก
ในขณะที่เด็กหนุ่มไม่สามารถหาทางออกได้ ได้แต่นั่งเขย่าตัวร่างสูงอยู่แบบนั้น เจ้าหุ่นยนต์แบร์บริคก็ค่อยๆเดินเข้ามาหาช้าๆแล้วสะกิดไหล่เด็กหนุ่มเบาๆ
‘คุณซึงรีช่วยไปหยิบกล่องพยาบาลในห้องนั้นให้ผมทีสิครับ ถ้าผมเดินไปหยิบเองเจ้านายคงต้องนอนตายอยู่ตรงนี้แน่’คาร์เตอร์ชี้ไปยังห้อง หนึ่งภายในบ้าน ร่างเล็กก็รีบสาวเท้าวิ่งเข้าไปตามที่เจ้าแบร์บริคบอกอย่างเร่งรีบ
เมื่อเปิดประตูเข้ามา ภายในห้องเต็มไปด้วยชั้นวางของที่มีขวดยาเต็มไปหมดคล้ายกับสต๊อกเก็บของหลัง ร้านสะดวกซื้อ ร่างเล็กสอดส่องดวงตาคมไปรอบห้อง “ไม่มี .. ไม่มี” เขาเดินลึกเข้าไปในห้องมองหาตามชั้นยา แต่ก็ไม่พบ จึงรีบวิ่งออกไปหาคาร์เตอร์เพื่อจะสอบถามอีกรอบ ขณะที่กำลังวิ่งออกจากห้องเขาก็หยุดกะทันหันจึงทำให้ล้มโครมลงไปกับพื้น “โอ๊ย!เจ็บ..”เขารีบลุกขึ้นแล้วปัดฝุ่นเสื้อผ้า ก่อนจะหยิบกล่องยาที่วางอยู่ด้านข้างของประตูตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขาไม่ทันสังเกตุเห็นเอง และวิ่งออกมาให้คาร์เตอร์ ที่กำลังนั่งแกะผ้าพันแผลออก เขานั่งลงกับพื้นเฝ้าดูอยู่ไกล้ๆ
‘ถ้าคุณซึงรีกลัว ไม่ต้องมองก็ได้นะครับ’ คาร์เตอร์พูดขณะกำลังทาแอลกอฮอล์ที่แผลเหวอะของชายหนุ่ม
“เอ่อ.. ฮะ” ด้วยความเป็นห่วงผู้มีบุญคุณกับชีวิตของเขา จึงอยากที่จะเฝ้าดูอาการไม่ห่าง แต่เกิดมาก็ไม่เคยดูอะไรแบบนี้มาก่อน จึงเลือกที่จะนั่งข้างๆและหันหลังให้การทำแผลนั่น
‘เจ้านายเขาเป็นคนแบบนี้แหล่ะครับ ชอบทำอะไรด้วยตัวเอง เพราะอยู่คนเดียวมาตลอด’สิ้นสุดคำบอกเล่าของคาร์เตอร์ก็ไม่มีเสียงดังมาจาก หุ่นยนต์แบร์บริคนั่นอีกเลย
.
.
.
“เสร็จรึยังฮะคุณคาร์เตอร์”
‘เสร็จแล้วครับ’
ร่างเล็กค่อยๆขยับตัวหมุน หันมาหาชายหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่ด้านหลัง แผลที่แขนถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่มีเลือดซึมออกมาแม้แต่น้อย
‘เดี๋ยวผมขอจัดการกับอุปกรณ์ แล้วก็พวกเศษขยะก่อนนะครับ คุณซึงรีไปอาบน้ำเถอะ ทุกอย่างผมจัดการไว้ให้แล้ว ห้องของคุณอยู่ชั้นบนขึ้นไปแล้วเลี้ยวขวานะครับ’ คาร์เตอร์พูดพลางเดินต้วมเตี้ยมถือกล่องพยาบาลไปเก็บ
“ขอบคุณมากฮะ แล้วคุณท็อปล่ะ”เด็กหนุ่มชี้ไปที่ร่างสูงที่นอนหลับอยู่
‘ปล่อยให้เจ้านายนอนไปแบบนั้นไปเถอะครับ พรมปูพื้นของบ้านเรานุ่มเสียยิ่งกว่าเตียงนอนของเขาอีก’
*
“ดาวสวยจังเลย ทำไมที่อเมริกาไม่มีแบบนี้บ้างนะ”เด็กหนุ่มนั่งดูดาวภายในห้องที่ครึ่งหนึ่ง ของเพดานและฝาผนังเป็นกระจกใสที่สามารถมองออกไปด้านนอกได้อย่างชัดเจน ดวงดาวระยิบระยับเรียงตัวกันกระจัดกระจายอยู่ไม่เป็นที่บนท้องฟ้า ขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินกับวิวสวยด้านนอก เขาก็สังเกตุเห็นว่ามีเงาของคนเดินมาหยุดอยู่ที่น่าประตู เงานั่นยืนนิ่งอยู่แบบนั้น
ทันใดนั้น ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงกรุกกรั่กดังอยู่ที่หน้าประตู เหมือนมันพยายามจะบิดกลอนประตูที่ล๊อคอยู่
กึก!!ๆๆๆๆ เสียงบิดลูกกลอนเริ่มดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ
“บ้านนี้ก็มีแค่เรากับคุณท็อป คุณท็อปอาการแบบนั้นก็คงลุกเดินไม่ไหวแน่ๆ ฮึ่ยย~~” เขาบ่นอู้อี้อยู่ใต้ผ้าห่ม แล้วนอนตัวสั่นด้วยความกลัว “ไอ้คนพวกนั้นมันตามมาฆ่าเราแน่ๆเลย คุณท็อปนอนอยู่ข้างนอกนี่ ป่านนี้ก็คงเป็นศพไปแล้ว T T ให้ตายสิทำไงดี”
ไม่นานนักเสียงนั่นก็หยุด แต่เงาที่ยืนอยู่หน้าประตูกลับยังไม่เดินจากไปไหน
กริ๊ก! เสียงสะเดาะกลอนลูกบิดดังขึ้น ประตูเริ่มเปิดเข้ามาช้าๆ
“เราต้องตายแน่ๆ ทำไงดี.. ไม่สิ เราจะยอมตายง่ายๆแบบนี้ไม่ได้!”หัวสมองอันชาญฉลาดของร่างเล็กเริ่มคิดอะไร ดีๆออกคว้าหยิบโคมไฟที่หัวเตียงแล้วลุกเดินไปที่ประตู
ค่อยๆเดินไป พร้อมสู้! ประตูนั่นเปิดออกช้า นานมากพอที่จะให้เด็กหนุ่มมายืนรออยู่ที่หน้าประตู เขาตั้งท่าพร้อมที่จะฟาดด้ามโคมไฟเข้ากับศัตรูที่อยู่ด้านหน้าเต็มที่แล้ว
ทันทีที่ประตูเปิดจนสุด แสงจากด้านนอกก็แยงตาของร่างเล็กจนต้องหยีตา แต่เงาที่อยู่ตรงหน้าของเขาไม่ใช่คน!! แต่กลายเป็นเหงาของตัวประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายคนแต่มีรูปหน้าเป็นหนู
“แว๊กกกก ผีหนู! อย่าหลอกผมเลย ผมกลัวแล้ว นะโม มโน มะโน เอ้ย นะโม ฮืออ ผมไหว้ล่ะ! เดี๋ยวทำบุญไปให้ T T ”ร่างเล็กล้มลมไปนั่งกับกองพื้นพร้อมกับประนมมือไหว้เงาที่อยู่ตรงหน้าด้วย ความกลัว พูดก็ไม่ค่อยเป็นคำแล้วยังจะสวดมนต์ปะปนไปกับคำพูดนั้นอีก
‘ผมเอง’ เงาที่อยู่ตรงหน้านั้นเดินต้วมเตี้ยมเข้ามาพร้อมกับถือแก้วโกโก้ร้อนมา ‘ผมชงนี่มาให้’
“ก...กะ ฮะ ขอบคุณมากฮะ คุณคาร์เตอร์”ใบหน้าเด็กหนุ่มกำลังขึ้นสี จากการเสียหน้า อายก็อาย เขินก็เขิน กลัวก็ยังกลัวอยู่นิดหน่อย
‘กฏของบ้านเรา ห้ามล๊อคประตูห้องนะครับ’
“ขอโทษฮะ ผม ม..ไม่รู้”ร่างเล็กก้มหน้าลงด้วยความสำนึกผิด
‘ไม่เป็นไรครับ ผมรู้ว่าคุณไม่รู้ .. ระบบรักษาความปลอดภัยของบ้านเราหนาแน่นพอนะครับ คุณซึงรีวางใจได้’ เมื่อยื่นถ้วยโกโก้ให้แล้ว คาร์เตอร์ก็เดินต้วมเตี้ยมออกไปแล้วใช้แขนกลที่สามารถยืดยาวออกได้ ดึงประตูให้ปิดลง
“เห้อ~ ตกใจหมดเลย”
*
ฟุดฟิดๆ~ เสียงจมูกสูดดมกลิ่นดังมาจากชายร่างสูงที่นอนอยู่บนพรมปูพื้นสีขาวสุดแสนจะ นุ่มนวล เขาเริ่มค่อยๆลืมตาสู้กับแสงแดดที่ส่องผ่านกำแพงกระจกใสบานใหญ่ด้านหน้าเขา
“อรุณสวัสดิ์ฮะคุณท็อป” เสียงใสๆกล่าวทักทายชายหนุ่มที่เพิ่งตื่น “กาแฟครับ” ร่างเล็กวางแก้วกาแฟร้อนๆลงบนโต๊ะแก้วด้านข้างที่ชายหนุ่มนอนกองอยู่กับพื้น
“อรุณสวัสดิ์ครับซึงรี” พูดพลางเอามือบีบขมับแน่น “โอย ปวดหัวจังเลย”
“เมื่อคืนคุณเสียเลือดเยอะมากเลยนะครับ ดีนะที่คุณคาร์เตอร์ทำแผลให้ ไม่งั้นคุณได้นอนเป็นศพแน่ๆ”
“ผมไม่ตายง่ายๆหรอกน่า” ชายหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ และร้องโอดโอยเบาๆด้วยความเจ็บปวดที่แผล
“นอนหลับสบายมั้ยฮะ”ร่างเล็กกล่าวถามพลางกดรีโมทเปิดทีวีดูข่าวเช้า
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัวซักพัก ไม่นานก็เดินออกมานั่งลงบนโซฟาข้างๆร่างเล็ก เขาสอดส่องสายตามองทั่วร่างของเด็กหนุ่มที่ใส่เสื้อเสื้อตัวเชิร์ตแขนยาวสี ขาวเนื้อบาง กับบ๊อกเซอร์ตัวจิ๋ว
“ไม่ไปใส่เสื้อล่ะฮะคุณท็อป เดี๋ยวเป็นปวดบวมนะ”เด็กหนุ่มพูดโดยไม่หันไปมองร่างเปลือยท่อนบนของชายร่างสูงแม้แต่น้อย
“ทำไม .. เขินหรอครับ เราก็ผู้ชายเหมือนกันนี่ หรือว่านายเป็น...”ชายหนุ่มยื่นหน้าไปไกล้ๆพร้อมกับชี้นิ้วไปที่หน้าที่ขึ้น สีของร่างเล็ก แต่ร่างเล็กก็ขยับหนีไปพร้อมๆกับที่เขาขยับเข้ามา
“ปะ..ปล่าวเป็นนะฮะ ผมแค่” ร่างเล็กเบือนหน้าหนี สีหน้าเริ่มแดงก่ำ พยายามคิดข้อตัว “อ๊ะ!โฆษณาแล้ว ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะ ปวดฉี่จะแย่” ร่างเล็กรีบผละตัวหนีแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยความเร็วแสง
ชายหนุ่มหัวเราะจากท่าทางเขินอายของเด็กหนุ่ม แล้วมองตามไปจนลิบตา“น่ารักจริงๆเด็กคนนี้”
“คาร์เตอร์!!” ชายหนุ่มตะโกนเรียกใครบางคน
ไม่นานก็นักเจ้าหุ่นยนต์แบร์บริคลายเสื้อสูทก็ค่อยๆเดินต้วมเตี้ยมน่ารัก ลงบันไดมาจากชั้นบนของบ้าน แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายร่างสูงที่สายตาจับจ้องอยู่กับทีวีไม่หันหนีไปไหน
“งานเมื่อคืน เรียบร้อยดีใช่มั้ย”
‘เรียบร้อยดีครับเจ้านาย ไม่เป็นข่าวใหญ่โตอะไร แต่ตอนนี้คนของพวกมันเห็นคุณซึงรีอยู่กับเจ้านายแล้ว ทำยังไงดีล่ะครับ’
สีหน้าชายหนุ่มเริ่มดูเป็นกังวล
“ทำยังไงได้ พวกนั้นคงคิดว่าซึงรีต้องเกี่ยวข้องอะไรกับฉันแน่ๆ ต่อไปนี้คงไม่ปลอดภัยสำหรับเขาแล้วล่ะ”
คาร์เตอร์เอียงคอมองชายร่างสูงเล็กน้อย ‘จะให้ส่งคนของเรามาดูแลไหมครับ?’
*
“วันนี้จะทำอะไรกินดีน้า” ซึงรีบ่นพึมพำขณะเดินในตลาดสดริมถนนภายในเมือง เท้าเล็กๆค่อยๆย่ำเดิน ดวงตาคมๆก็ดูสินค้าอาหาร ตามทางไปด้วย มือข้างหนึ่งถือตะกร้าไผ่สานที่แอบจิ๊กมาจากห้องครัวที่บ้านคุณท็อป อีกมือก็เอานิ้วจิ้มริมฝีปาก เขี่ยไปมาเพลินๆ “ลืมถามคุณท็อปไปเลย ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร เบอร์เขาเราก็ไม่ได้ขอไว้ซะด้วยสิ”
ในขณะที่เขากำลังเดินคิดเพลินๆได้ซักพัก เขาก็รู้สึกคล้ายๆกับมีคนจ้องมองอยู่ตลอดเวลา ร่างเล็กเริ่มรู้สึกหวั่นๆในใจ แต่ก็พยายามคิดว่ามันไม่มีอะไร เขาหยุดเดินแล้วมองไปรอบๆ “ความรู้สึกนี่มันอะไรกันนะ”
ผลั่ก!~ ด้วยแรงกระแทก ร่างเล็กๆของเขาล้มลงไปนั่งกับพื้น
“โอ๊ย! นี่คุณ! เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลย เห็นมั้ยว่าคนกำลังยืนอยู่เนี่ย”ร่างเล็กกระหน่ำฝีปากไปด้วยความโกรธ ไม่สนว่าบุคคลด้านหน้าจะเป็นใคร หญิง หรือชาย คนแก่ หรือเด็ก ในเมื่อเขาเป็นคนถูกชนก็ไม่ผิดอยู่แล้ว
“ขอโทษนะค่ะ พอดีฉันกำลังรีบ เจ็บมากมั้ยคะ?” หญิงสาวที่เดินชนกล่าวอย่างสุภาพ แล้วคุกเข่าลงพยายามจะช่วยร่างเล็กให้ลุกขึ้น
แต่ร่างเล็กก็ต้องพูดไม่ออก แล้วกลืนน้ำลายเฮือก เมื่อหญิงสาวล้วงหยิบปืนในกระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาให้เห็นเพียงด้ามจับของปืน
“ไม่ต้องโวยวายนะคะ ลุกแล้วเดินไปตามที่ฉันบอก จะได้ไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อกัน”จากน้ำเสียงหวานเมื่อครู่กลายเป็นน้ำ าเสียงเย็นชาอัมหิต แววตาของหญิงสาวทำให้เด็กหนุ่มกลัวจนพูดไม่ออก “แล้วก็อย่าคิดหนี ไม่งั้นไส้กระจุยแน่”
ซึงรีเดินตัวเกร็งไปตามทางที่หญิงสาวบอก หญิงสาวเดินคุมหลังไปอย่างไร้พิรุธ แต่เด็กหนุ่มเกร็งสั่นอย่างเป็นที่น่าสังเกตุ แต่คนแถวนั้นก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด ไม่นานนักทั้งคู่ก็เดินมาถึงที่ลับตาคน ไกลจากตลาดอยู่พอสมควร ในช่องแคบๆระหว่างตึก หญิงสาวพาให้เขาเดินไปถึงทางตัน เธอผลักร่างเล็กให้ล้มลงกับพื้น แล้วหยิบปืนมาจ่อไปทางเขา
“ถ้ายังไม่อยากตายก็ตอบคำถามฉันมา .. ผลึกอยู่ที่ไหน” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ส่งสายตาอัมหิตน่าหวาดกลัว
“ผลึก? ผลึกอะไร ผมไม่รู้”ร่างเล็กส่ายหัวรัวๆ ภายใต้สภาวะที่กดดันน้ำใสก็เอ่อล้นไหลเป็นทางโดยที่เขาไม่รู้ตัว ดวงตาคมมองออดอ้อนวอนขอชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย “อย่าทำอะไรผมเลยนะ ผมไม่รู้จริงๆ”
“ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้ายนะ ผลึก..ตอนนี้..อยู่ที่ไหน”กดเสียงต่ำลงด้วยความอดทนที่ไกล้จะหมดเต็มที่
“ผมบอกว่าผมไม่รู้ไง ฮ..ฮืออ” เด็กหนุ่มร้องไห้โฮออกมาอย่างน่าสงสาร เขาคุกเข่าอ้อนวอนชีวิต พร้อมกับส่ายหัวปฏิเสธหญิงสาว เธอปลดล๊อคไกลปืนพร้อมแล้วจะเหนี่ยวไกลปลดปล่อยก้อนตะกั่วให้เข้าไปฝังในหัว ของซึงรี
ปัง!!~~~ เสียงลั่นไกลปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
To be continued...
ความคิดเห็น