คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : V. Lover ~1
Fic singular เรื่องใหม่ของ Sincere over ชี้แจงก่อนว่า... เป็นคนที่แต่งแนวหวาน ๆ ไม่เป็น ถ้าใครเบื่อหรือไม่ใช่แนวก็ กด ปิด ได้เลยจ้าไม่ว่ากัน...และขอบคุณทุกคนที่จะติดตามอ่านและคอมเมนท์ให้ชื่นใจและเป็นกำลังใจในการแต่งตอนต่อไปค่ะ ^^
ลำธารน้ำใสแจ๋ว จนเห็นปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมา..โขดหินที่โผล่พ้นน้ำที่กำลังไหลเอื่อย ๆ เหมือนไม่รีบร้อนอะไร ระดับน้ำไม่มากพอที่จะลงไปแหวกว่ายให้หายร้อน แต่เค่เห็นธรรมชาติรอบ ๆ ก็รู้สึกว่าอุณหภูมิมันเหมาะสมที่จะพักผ่อน....ผมนั่งหย่อนขาลงจากสะพานไม้ที่สร้างยื่นลงไปในลำธาร...มองต้นขนุนที่อยู่ริมฝั่งที่ผลมันหย่อนลงจากกิ่งสาขาใหญ่อีกไม่นานก็คงตัดลงไปรับประทานได้... ดอกโสนที่เหลืองอร่ามอยู่ข้างๆ ริมน้ำดูสวยงาม...
....บ้านสวน...ที่เคยอยู่มาตั้งแต่เด็ก..แต่พรุ่งนี้ผมต้องจากที่นี่ไป...และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมาอีก....
“คิดอะไรอยู่...พี่ทำให้ซินลำบากใจรึ่เปล่า..”
“ทำไมพี่ซีคิดอย่างนั้นละครับ” ผมหันมองคนที่เดินเหยียบสะพานไม้เข้ามานั่งข้างๆ ผม...ก่อนจะมองหน้าท้องที่โย้ออกมาเพราะมีอีกคนที่อยู่ในนั้น...หลานของผม...
“พี่ขอโทษนะ”
“ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ...ซินก็อยากให้หลานซินมีพ่อนะครับ..ไม่ต้องกลัวหรอก..ซินจะดูแลพี่ซีกับหลานเอง ไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเด็ดขาด” ผมจับมือบางมาจับไว้ก่อนจะบีบมือพี่สาวเบาๆ พี่ซีหันมายิ้มก่อนจะดึงมือตัวเองออกแล้วยกขึ้นลูบกลุ่มผมที่ยาวถึงกลางหลังเบาๆ
“พี่เชื่อว่าซินทำได้...มันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่เราคิดก็ได้...ขอบใจนะ..ชิวิตพี่ไม่มีใครแล้วนอกจากซินกับลูก”
“.............” ส่งยิ้มให้คนที่ยิ้มให้ผู้หญิงที่ผมรักที่สุด...พวกเรามีกันแค่สองคน โดยที่พี่ซีทำงานเป็นพนักงานบริษัทฯ เล็ก ๆ ในตัวเมืองที่เราอยู่ส่งเสียผมจนเรียนจบมหาวิทยาลัย...พ่อกับแม่แยกทางกัน ต่างคนต่างมีครอบครัวใหม่ซึ่งตอนแรกจะแยกผมกับพี่สาวแต่พี่ซีบอกว่าจะดูแลผมเอง...ตอนนี้เลยเหมือนกับมีกันแค่สองคน...แต่พวกท่านก็มีติดต่อมาบ้าง..จนกระทั่ง เมื่อไม่กี่เดือนก่อนพี่ซี ร่างกายผิดปกติ..ผมบังคับไปหาหมอโดยที่พี่ซีไม่ยินยอมเหมือนกับรู้อะไรอยู่แล้ว จนกระทั่งยอมบอกกับผมว่า...ท้อง...โดยที่พ่อเด็ก..เป็นเพื่อนของเจ้านาย..ผมก็ไม่รู้ลายละเอียดมากไปกว่านี้..แต่รู้ว่าเขาดีกับพี่ซี..และดูท่าแล้วพี่สาวผมก็รักเขา...พึ่งมารู้ทีหลังว่าเขามีครอบครัวแลมีหน้ามีตาพอสมควร...เรื่องนี้ทำให้พี่สาวผมแทบจะบ้า แต่ก็เพราะรักถึงได้ยอมอะไรหลายๆ อย่าง....
“ฉันจะดูแลเธอและพี่สาวเอง...”
วันที่ผู้ชายคนนั้นมาที่บ้าน..ผู้ชายมีอายุแต่รูปร่างหน้าตายังดูดีจนไม่น่าเชื่อว่าอายุจะขนาดนั้น..รถราคาแพงที่เข้ามาจอดหน้าบ้านไม้สองชั้นของพวกเรา มันชั่งไม่สมกันซักนิด...
“คุณมั่นใจแค่ไหนว่าจะดูแลพี่สาวผมได้..ในเมื่อคุณก็มีครอบครัวอยู่แล้ว”
“ผมจะทำให้ดีที่สุด ในฐานะสามีและพ่อของลูก”
ผมไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้...เหมือนไม่มีศักดิ์ศรีที่ยอมที่จะไปอยู่ตรงนั้น ทั้งที่รู้ว่าที่นั่นมีอีกครอบครัวของเขาอยู่แล้ว...... ผมไม่ยอมให้หลานเป็นเด็กกำพร้าพ่อเหมือนผมแน่ๆ เพราะรู้ว่าการที่ครอบครัวแตกแยกมันรู้สึกยังไง...อย่างน้อยๆ ก็อยากที่จะเรียกร้องสิทธิที่พี่สาวและหลานของผมควรจะได้...และผมเองจะเป็นคนปกป้องพี่สาวและหลานชายเอง
“ขอบคุณมาก...เก่งนะตัวแค่เนี๊ยะ”
“แน่นอนครับ...” เอนหัวไปพิงไหล่เล็กของพี่สาว ก่อนจะหลับตาลงซึมซับบรรยากาศรอบตัวให้มากที่สุด...ผมคิดว่าซักวันคงต้องออกมาถ้าพี่สาวผมอยู่ได้...อย่างไม่ร้อนใจและมีความสุข....
*****************************
ผมจ้องมองบ้านหลังโตโอ่อ่าตรงหน้า...บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่..ตรงสวนกว้างหน้าบ้านมีน้ำพุที่พุ่งออกจากปากรูปปั้นปลาสีทองบริเวณบ้านกว้างจนยืนตรงนี้มองไม่ทั่วว่ามีอะไรบ้าง.....ผมสูดลมหายใจเข้าจนสุดก่อนจะค่อยๆ ผ่อนออกมา..เกิดจะมากลัวอะไรตอนนี้..มาถึงขนาดนี้แล้ว คงจะถอยไม่ได้...
“พี่ซี..ลงไปเถอะครับ” ผมบอกพี่สาวที่นั่งข้างคนขับ ที่วันนี้คุณนนท์หรือพี่เขยผมขับรถไปรับ และตอนนี้กำลังยืนคุยกับคนที่วิ่งมาเปิดประตูอยู่ข้างรถ
“มันดีแล้วเหรอซิน...”
“พี่ซีต้องเข้มแข็งนะครับ...พี่คงไม่อยากเห็นลูกพี่อยู่อย่างกำพร้าพ่อ..อย่างพวกเรา” พี่ซีนิ่งไปก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวหยิบกระเป๋า...พร้อมกับหันมามองผม..
“นั่นน่ะสิเนอะ..เราก็อยู่ของเรา..” ผมรู้ว่าพี่สาวกลัว..แต่ก็ตั้งใจจะเข้มแข็ง พี่ซียอมมาไม่ใช่แค่ผมขอร้องหรืออยากมีสิทธิแต่เพราะรักคุณนนท์เลยยอมที่จะเป็นอะไรก็ได้เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ๆ และสงสารลูกในท้องตัวเอง...
“ลงมาเถอะซี..ผมจะให้คนเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องให้” คุณนนท์ก้มลงมาพูด ก่อนจะจับมือพี่สาวผมบีบเบาๆ เมื่อเห็นพี่ซีนิ่งไป...
“.............” ผมลงจากรถพร้อมกระเป๋าสะพาย ส่วนกระเป๋าเสื้อผ้าของผมกับพี่ซีมีคนกำลังหิ้วรออยู่....
“คุณนนท์คะ.. แล้วซินนอนที่ไหนคะ”
“ผมให้คนปัดกวาดเรือนรับรองในสวนหลังบ้านไว้...เอ่อ..หวังว่า”
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ได้” ผมรีบตัดบทเมื่อเห็นพี่สาวทำหน้าเจื่อนไป...ผมไม่เป็นไร จะให้อยู่ที่ไหนก็ได้ ผมรู้ดีว่าเรามาอยู่นี่ในฐานะอะไร...คนที่สบายต้องเป็นพี่สาวกับหลาน...ไม่ใช่ตัวผม...
“งั้นซีไปนอนกับน้องนะคะ...”
“อย่าเลยครับพี่ซี..ไปนอนห้องที่คุณนนท์จัดให้เถอะ...” คุณนนท์รีบพยักหน้ารับคำผมก่อนส่งสัญญาณให้คนที่ถือกระเป๋านำทางผมไป....แล้วตัวเองก็พยุงพี่สาวผมเข้าไปในบ้าน...หวังว่าทุกอย่างจะดี..
ผมเดินอ้อมบ้านหลังใหญ่เข้าไปบริเวณสวนหลังบ้าน เนื้อที่กว้างจริงๆ เดินตามแผ่นอิฐที่ปูฝังดินไว้ตามคนที่หิ้วกระเป๋าไปเรื่อยๆ มองไปข้างหน้าเห็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูงจากพื้นนิดหน่อยโดยมีบันไดขึ้นแค่สองขั้น...มีระเบียงข้างหน้าบ้านโดยมีรั้วไม้ตรงระเบียง...ประตูกระจกเลื่อนมีม่านสีขาวอยู่ข้างใน
...ก็ไม่ได้เลวร้ายเลย..เพราะมันดูดีกว่าที่ผมเคยอยู่..แต่มันก็คงไม่มีความสุขเท่าแน่ๆ
“คนนี้เหรอ..อืม ...ไม่ใช่มั้ง ไหนว่าท้องไง..” ผมหันมองผู้หญิงสองคนที่กำลังตัดกิ่งและเก็บดอกกุหลาบสีแดงสดที่ปลูกเยื้องจากบ้านหลังนั้นไปเล็กน้อย กำลังสนทนากัน หัวข้อคงเป็นพี่สาวผมแน่ ๆ
“ท้องสาวไงเธอ คงมองไม่เห็น....หน้าด้านเนอะ..รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ ก็ดี๊ดี หาผู้ชายโสด ๆ รวย ๆ ได้อีกเยอะ ไม่น่าจะมาเป็นเมียน้อยบ้านนี้เลย”
“คนใช้บ้านนี้เขาใช้ปากตัดกิ่งเหรอครับ...” หยุดยืนมองพวกที่ซุบซิบเสียงดังเกินไป ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้จนพวกนั้นทำหน้างงๆ แล้วทักทายให้สมกับที่บังอาจมานินทาพี่สาวผม... หน้าด้านงั้นเหรอ..คำนี้ยอมให้ใช้กับผมได้..แต่อย่าว่าร้ายพี่ซีเด็ดขาด
“...ผู้ชาย...ใครน่ะเธอ..หรือคนใหม่ของนายท่านอีกคน..”
“...บ้าเหรอนายท่านจะเปลี่ยนรสนิยมแล้วเหรอ..”
“ขอบคุณครับ..เดี๋ยวผมยกเข้าไปเอง...ถ้าพี่ว่างรบกวนช่วยไล่มดไล่แมงแถวนี้ด้วยนะครับ..เสียงมันน่ารำคาญ ถ้ามันยังไม่หยุด ผมจะเอายามาฉีดให้ไม่ได้ผุดได้เกิด..” พูดแล้วจงใจมองไปหาสองคนที่ทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็รีบก้มหน้าก้มตาเก็บดอกกุหลาบต่อ ไม่พูดอะไรอีก....
เลื่อนประตูกระจกออก ก่อนจะลากกระเป๋าเข้าไปด้านใน...บ้านคงถูกทำความสะอาดและจัดอุปกรณ์ตกแต่งมาใส่...เป็นบ้านที่ไม่ค่อยได้ใช้ละมั้ง แต่ก็ช่างเถอะ....จับม่านที่ปลิวอยู่เพราะลมตีเข้าทางประตูที่ผมเลื่อนออกเมื่อครู่ ก่อนจะรวบแล้วมัดไว้ด้านข้างปล่อยให้แสงเที่ยงๆ อย่างนี้สาดเข้ามาในบ้าน....ลากกระเป๋าไปหยุดยืนอยู่หน้าห้อง ๆ นึง คงจะเป็นห้องนอน ก่อนจะผลักเข้าไปเบาๆ ....ห้องนอนจริงๆ ด้วย มีเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า และชั้นวางทีวีรวมถึงทีวีจอใหญ่ที่ตั้งอยู่ แอร์ในห้องเหมือนถูกเปิดรอไว้แล้ว...
“เฮ่อ!!..” ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะนั่งลงบนเตียงนุ่ม....มองออกไปนอกกระจกที่ถ้ามองจากตรงนี้จะเห็นตัวบ้านหลังใหญ่ค่อนข้างชัดเพราะไม่มีกิ่งไม้บดบัง...มองเหม่อคิดอะไรเรื่อย ๆ รวมถึงคิดว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นรึ่เปล่า..แต่สายตาก็ไปสะดุดกับคนที่เดินออกมาที่ระบียงชั้นสองของบ้านหลังนั้น....ผมมองไม่ชัดว่าหน้าตาเป็นยังไง..แต่ที่ทำให้สะดุดคือเหมือนกับคน ๆ นั้นกำลังมองผมอยู่เหมือนกัน...ผมเพ่งมองอย่างไม่ตั้งใจแค่อยากรู้ว่าเขามองผมรึเปล่า... แต่ไม่ทันจะรู้เขาก็เดินหายเข้าไปในบ้านเหมือนเดิม....หรือผมอาจจะคิดไปเอง....
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” ผมเงยหน้าก่อนจะมองไปด้านหลัง หลังจากที่กำลังวางต้นกระบองเพชรต้นเล็ก ๆ บนขอบระเบียงไม้...แวะซื้อกับพี่ซีเมื่อวาน เอามาเลี้ยงไว้เล่นๆ แก้เหงา...
“ไม่มีอะไร...ขอบคุณมากครับ” หันไปตอบคำถามผู้ชายตัวสูง...ผมคงไม่ต้องเดาว่าเป็นใครเพราะหน้าตาถอดแบบคุณนนท์มาไม่ผิดเพี้ยน แต่หล่อและคมกว่าคงเพราะยังหนุ่มแน่น...
“คุณคงเป็นน้องชายของคุณซีใช่มั๊ยครับ...ผมนท..เป็นลูกชายคนโตของบ้านนี้...มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะครับ”
“เอ่อ...ขอบคุณครับ..” ผมอึกอัก..ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มให้คนที่อาสาตัวเอง...รอยยิ้มและท่าทางไม่ได้บ่งบอกว่ารังเกียจ แต่กลับแสดงความจริงใจออกมาได้อย่างน่าทึ่ง....ขอให้เป็นอย่างนี้กันทุกคนได้ไหม...พี่สาวผมคงจะมีความสุข..
“คุณซิน...ใช่มั้ยครับ..คงเป็นน้องผมแน่ๆ เรียกผมพี่นทก็ได้”
“....ขอบคุณมากครับ...พี่นท..” ส่งยิ้มก่อนจะเช็ดมือกับผ้าสีขาวในมือที่พาดไว้ตรงราวระเบียง....ผู้ชายตรงหน้าดูอบอุ่นและไม่มีท่าทีว่าจะเข้ามาว่าร้ายอะไร ทำให้ผมเบาใจไปได้หลังจากที่ตอนแรกยังแอบคิดว่าจะเจออะไรต้อนรับวันแรกหรือเปล่า.....
“อยู่ได้ไหมครับ...บ้านหลังนี้น้องชายผมมันหวงมากนะ ตอนที่มันรู้ว่าคุณพ่อยกให้คุณอยู่ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่มันก็ขัดคุณพ่อไม่ได้หรอก”
“น้องชายคุณ...แล้วมันจะดีเหรอครับ ให้ผมไปอยู่รวมกับพวกคนใช้ก็ได้...มาอยู่นี่ผมก็ไม่อยากจะมีปัญหากับใคร” มองหน้าหล่อคมของผู้ชายตรงหน้า พร้อมกับบอกสิ่งที่มันจะดีกว่าการที่ต้องมามีปัญหากับน้องชายของเขา
“อยู่ไปเถอะ คุณพ่ออนุญาตแล้ว...แล้วถ้าใครมามีปัญหากับเรา บอกพี่ได้ พี่จัดการให้....นัทมันคงไม่สนใจแล้วล่ะเพราะคอนโดคุณพ่อซื้อให้ก็มีตั้งหลายที่...อย่าคิดมากเลยนะ”
“เอ่อ...ครับ” ผมชะงักไปทันทีที่อีกคนเอื้อมมือขึ้นมาลูบหัวผม....ก่อนนะส่งยิ้มให้เหมือนกับการที่ตัวเองทำมันเป็นเรื่องปกติของคนที่พึ่งรู้จักกันเขาทำกัน....
“พี่ไปก่อนนะ เพราะมีนัดทานข้าวกับลูกค้าตอนเย็น..ไว้ว่าง ๆ ค่อยคุยกัน หวังว่าซินคงอยากจะคุยกับพี่” ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มที่ดูเทห์สุดๆ ส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินลงจากบ้านไป...ทิ้งให้ผมยืนงง ก่อนจะได้สติรีบเก็บผ้าสีขาวที่หล่นลงจากมือตั้งแต่ถูกลูบหัว....ก็ดีเหมือนกันที่เจอคนแบบนี้ในบ้านหลังนี้...แต่บางอย่างบอกผมว่าไม่ทุกคน....
...อีกแล้ว...ผมรีบหันมองตรงระเบียงที่ก่อนหน้านี้เห็นคนมายืนอยู่ คราวนี้ด้วยแสงสว่างและไม่มีกระจกบังทำให้เห็นหน้าคนที่ยืนอยู่ถึงจะไม่ชัดเจนแต่เค้าโครงรูปร่างก็พอจะเดาว่าคงไม่พ้นเป็นวงศาคณาญาติกับคุณนนท์หรือพี่นท...แต่ทำไมต้องจ้องมาขนาดนั้น...
*********************************
ตอนนี้เกือบสองทุ่มแล้วคุณนนท์ให้คนมาตามผมเพื่อไปกินข้าว...ตั้งใจว่าจะไม่กิน แต่ก็เป็นห่วงพี่ซี ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง เลยตัดสินใจล๊อคบ้านหลังเล็กด้วยกุญแจที่วางไว้ให้บนโต๊ะในห้องตั้งแต่ตอนที่เข้าไปครั้งแรก...บรรยากาศตอนกลางคืนเย็นซะจนต้องลูบแขนตัวเอง เพราะใส่เสื้อยืดสีขาวส่วนกางเกงก็ยังเป็นขาเดฟสีดำตัวที่ใส่มา...ก็ยังไม่ได้อาบน้ำ
“หิวจะแย่...รอแค่คน ๆ เดียวแล้วแถม..”
“ฮึ ฮึ่ม!!!” เดินตามคนที่มาตามเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ แล้วเลี้ยวเข้าในห้อง ๆ นึง ถึงรู้ว่าเป็นห้องอาหารได้ยินเสียงคนบ่นพร้อมกับคุณนนท์ที่ทำเสียงกำหราบจนคน ๆ นั้นเงียบไป... บนโต๊ะจำนวน 7 เก้าอี้ถูกจับจองไปแล้ว 5 ที่... ผมมองพี่ซีที่นั่งทางด้านซ้ายมือของคุณนนท์ที่นั่งหัวโต๊ะ...ส่งยิ้มบางๆ ให้ผม ทำให้ผมต้องยิ้มตอบแล้วเดินไปนั่ง ข้างๆ พี่สาว...ไม่รู้ว่าใครเป็นใครบ้างๆ แต่ก็รู้สึกดีที่พี่สาวผมได้นั่งข้างคุณนนท์...พี่ซีนั่งตรงข้ามกับผู้หญิงมีอายุอีกคนที่เป็นคนพูดตอนที่ผมเดินเข้ามาตอนแรก...ดูท่าทางเย็นชาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ค่อยพอใจ...สายตาผมไปสะดุดกับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่นั่งเก้าสูงกว่าคนอื่น คั่นกลางระหว่างคุณอำพรกับคนตรงข้ามผม.ที่ท่าทางเหมือนจะคุ้นๆ ..ส่วนหนูน้อยกำลังส่งยิ้มหวานให้ผมอยู่ น่าจะประมาณ 2 ขวบได้ ไม่คิดว่าบ้านนี้จะมีเด็กอยู่ด้วย..แต่น่ารักจัง...
“ นั่นซิน เป็นน้องชายคุณซี...ซินนี่คุณอำพร เป็นน้องสาวของภรรยาของผม และเนเน่ลูกคนเล็กของผม...และนี่..นัทลูกคนกลาง..รู้จักกันไว้นะ....” ....จ้องผู้ชายที่นั่งตรงข้ามกัน...คุ้นตาจากตอนแรกที่ยังไม่ได้สังเกตเพราะมัวแต่มองพี่สาวกับหนูน้อยเนเน่อยู่.... คนนี้เหรอน้องพี่นท หน้าตาหล่อเหลาและท่าทางเทห์ ๆ ไม่แพ้กัน... แต่แววตาช่างแตกต่างลิบลับ...ท่าทางนิ่ง ๆ ไม่แม้แต่จะหืออือกับการแนะนำของคุณนนท์ในขณะที่ผมยกมือไว้เขา ไม่รู้ว่าจะเป็นพี่หรือเปล่า แต่มันคงเป็นสิ่งที่ควรทำ...ก่อนจะหันไปยิ้มให้สาวน้อยแก้มป่องที่ส่งยิ้มให้ผมไม่หยุด...ไม่น่าเชื่อว่าคุณนนท์จะมีลูกสาวตัวเล็กขนาดนี้
“ พี่ฉาวว ฉวยยจางงค่า” ผมย่นคิ้วกับคำชมของน้องเนเน่...แต่คุณนนท์กลับยิ้มชอบใจ ผิดกับคุณอำพรที่เบะปาก ส่วนคนตรงข้ามผมก็เอาแต่นิ่ง...แววตาไม่ได้บ่งบอกถึงความยินดียินร้ายอะไร...
“ส่วนลูกชายคนโตผม ชื่อนท คงยังไม่กลับจากไปรับรองลูกค้า”
“เขาคงรู้จักกันดีแล้วล่ะครับคุณพ่อ...ขอตัวนะครับ..ผมนัดเพื่อนไว้..” ผมหันมองคุณนนท์ที่พูดถึงพี่นท และเป็นอีกคนที่ยอมพูด แต่กลับเป็นคำพูดที่ดูแปลก ๆ ก่อนที่ร่างสูงที่นั่งตรงข้ามจะลุกออกไป ผมบีบมือพี่สาวใต้โต๊ะเบาๆ เมื่อพี่ซีทำสีหน้าอึดอัดใจ...พี่ซีบีบมือผมคืนเหมือนกลับจะบอกว่า...ไม่เป็นไร...
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จด้วยบรรายากาศตึง ๆ ของยัยคุณป้าอำพรนั่น แต่เต็มไปด้วยรอยยิ้มน่ารัก ๆ ของเนเน่ที่บอกให้คุณนนท์ย้ายเก้าอี้ตัวเองมานั่งข้างผมซะงั้น ทำให้ผมต้องเป็นคนป้อนข้าวหนูน้อยแทนพี่เลี้ยง ก่อนออกมายังงอแงไม่ยอมให้ผมกลับ....จนคุณนนท์ต้องบอกว่าพรุ่งนี้ผมจะเข้าไปเล่นด้วยใหม่ ....แต่ให้พูดจริงๆ บ้านหลังใหญ่หลังนั้นถ้าไม่มีพี่สาวผมอยู่ผมก็ไม่อยากจะย่างกรายเข้าไปซักนิด...รับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วย..การดูแคลน....แต่ตั้งแต่เข้ามาผมยังไม่เห็น ภรรยาของคุณนนท์เลย....หรือไม่เขาอาจจะไม่อยากออกมาเจอพวกเราก็ได้....
“น้องซินครับ”
“พี่นท..” ผมเจอคนที่ยืนอยู่ตรงระเบียง หลังจากที่เดินสูดอากาศในสวนมาเรื่อย ๆ ก็เห็นพี่นทมายืนรออยู่พร้อมกับถุงกระดาษในมือหลายถุง....มองสภาพเสื้อสูทและการแต่งตัวแล้วเหมือนกับยังไม่ได้เข้าบ้าน....
“พอดีลูกค้าเอามาฝากเยอะเลย พี่ก็เลยแบ่งมาไว้ให้ แล้วจะเอาไปฝากคุณซีด้วย...” ผมมองร่างสูง ที่ยื่นถุงกระดาษมาให้...ก่อนจะรับแล้วยิ้มให้...
“ขอบคุณครับ...ขอบคุณที่ดีกับเราพี่น้อง ทั้งที่...” ไม่อยากพูดต่อ...รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ผมกับพี่สาวก็เลือกแล้วว่าจะทำอย่างนี้....
“บอกแล้วไงว่าอย่าคิดมาก..เอางี้ไว้พี่ว่างๆ จากงานที่บริษัท..แล้วจะพาไปเที่ยวดีไหม...” มือใหญ่ยกขึ้นมาลูบหัวผมอีกแล้ว...แต่ก็ยอมที่จะส่งยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับ...มีมิตรก็คงดีกว่าศัตรูเป็นไหนๆ...
“อยู่ที่นี่ตามสบาย...ไม่ว่าจะฐานะอะไรก็แล้วแต่..พี่ดีใจนะที่เราได้รู้จักกัน”
“ค..ครับ” ผมขยับหนีมือหนาที่ลูบต่ำลง จากกลุ่มผมลงมาบริเวณข้างแก้ม...พี่นทเหมือนกับได้สติ และยกมือตัวเองออกทันทีที่ผมถอยหนี หน้าหล่อดูเลิ่กลัก..
“ผมจะอยู่ให้สบายใจที่สุด...ยิ่งบ้านนี้มีที่นท คงจะมีแต่ความสุขนะครับ” กลัวอีกคนเก้อ เลยพูดแล้วส่งยิ้มให้เป็นปกติ จนพี่นทยิ้มออก
“งั้นพี่ไปก่อนนะ แล้วเจอกันใหม่” มอมตามคนที่เดินลงจากระเบียงบ้านไป…ก่อนจะหันกลับเพื่อนจะไขประตูเข้าบ้าน....
“อยู่ให้สบายนะครับ...ทั้งพี่ทั้งน้อง...ขอให้มีความสุขกับการมาแย่งที่คนอื่น”
“นัท!!”
“อย่ามาเรียกผมด้วยน้ำเสียงอย่างนั้น...มันดูสนิทกันเกินไป สำหรับคุณกับผม” ผมกลืนน้ำลายลงคอมองคนที่โผล่มาจากเงามืดข้างบ้าน ก่อนจะเดินขึ้นมาหาผมที่ยืนอยู่....ไหนว่าออกไปหาเพื่อน มาดักรอผมเพื่อพูดอย่างนี้หรือไง....
“ขอโทษครับ..คุณนัท..มีอะไรไหมครับ ถ้าไม่มีผมจะเข้าบ้าน”
“เข้าออกเหมือนเป็นบ้านตัวเองเลยนะ....อย่าคิดว่าจะมีสิทธิ...ตราบใดที่ผมยังมีชิวิตอยู่..จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแทนที่คุณแม่เด็ดขาด!! จำไว้!” ข้อมือผมถูกบีบหลังจากที่ถูกรั้งไว้...จากมือใหญ่ของคนที่เดินขึ้นบ้านมา...หน้าหล่อดูเข้มขึง..แววตาก้าวร้าวจนดูน่ากลัว.....แล้วผมก็เจอแล้วสินะ....คนประเภทที่ผมคิดว่าน่าจะมี...แต่ไม่คิดที่จะกลัว...
“ผมกับพี่ซีมาอยู่ที่นี่ ....ไม่ได้จะมาแย่งที่ใคร...แค่มาอยู่ในที่ ๆ ที่คิดว่าเป็นของตัวเอง...ขอโทษที่ทำให้คุณไม่พอใจ..แต่คงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ....เพราะถ้าตราบใดผมยังมีชีวิตอยู่..ก็อย่าคิดจะแตะต้องพี่สาวกับหลานผมเด็ดขาด!” ผมพูดเสียงหนัก ๆ เย็น ๆ กับคนที่กำลังจะก้าวลงจากบ้าน...หลังจากที่ยอมสะบัดข้อมือผมออกจากมือตัวเอง...
“อย่าปากดี ดีกว่าไหม...”
“..ไม่หรอกครับ..ผมพูดไปอย่างที่ผมคิด และจะทำจริงๆ ถ้าเผื่อใครมาล้ำเส้น...แล้วคุณจะรู้ว่าผมไม่ได้ดีแต่ปาก..” พูดแล้วหันตัวกลับก่อนจะไขประตูเข้าห้องไม่สนใจคนที่ยังยืนค้างอยู่ตรงบันได...เอาสิ ถ้าอยากจะลองก็จะได้รู้กัน...ผมจะไม่ระรานใครก่อน แต่ก็อยากมายุ่งกับพวกเรา ไม่งั้นผมก็ไม่สนใจหน้าไหนเหมือนกัน....
ความคิดเห็น