ตอนที่ 4 : BOY IN A JAR :: Take your shirt off
BOY IN A JAR
MARK x BAMBAM
#FICJARMB
CHAPTER
- 4 -
( Take your shirt off )
“แบมแบม”
เงียบ...
“แบมแบม ได้ยินไหม”
“...”
เสียงทุ้มขานเรียกชื่อของคนตัวเล็กที่เกือบกลายเป็นอาหารปลาคาร์ฟเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เป็นรอบที่ห้าหรือหกได้ แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆกลับมาจากอีกคนที่หลังจากมาร์คเปิดกระเป๋าเป้ของตัวเองออกก็เอาแต่นั่งก้มหน้านิ่งไม่ตอบรับอะไรมาร์คเลยสักอย่าง ไม่รู้ว่าเครื่องช็อตไปแล้วหรือยังไง
“เป็นอะไร” มาร์คลองเปลี่ยนเป็นคำถามดูบ้าง แต่มันก็เงียบไม่มีอะไรตอบกลับมาเหมือนเดิมจนได้ยินเสียงถอนหายใจแรงๆของมาร์คดังออกมาแทน
“อันที่จริงมันควรเป็นฉันมากกว่าไหมล่ะที่ต้องไม่พอใจน่ะ” มาร์คพึมพำเบาๆกับตัวเองก่อนจะลุกขึ้นยืนท้าวสะเอวมองไปตรงบริเวณตู้ที่ก่อนหน้านี้มันเคยมีโหลใบใหญ่ตั้งอยู่ แต่ในตอนนี้มันกลับโล่งไม่มีอะไรวางอยู่แล้วเพราะว่าเจ้าโหลนั้นมันตกลงมาแตกกระจายกลายเป็นภาระชิ้นใหญ่ให้มาร์คต้องเก็บกวาดอยู่ที่พื้นนั่นไง
“...ฮึก”
“...” แต่ทว่าเสียงสะอื้นเล็กๆที่ดังมาจากด้านหลังก็ทำให้มาร์คอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง เห็นว่ามือเล็กๆนั่นพยายามไล่เช็ดหยดน้ำใสบนแก้มทั้งสองข้างเหมือนเด็กเล็กที่แอบร้องไห้แต่ไม่อยากให้ใครเห็น และเหมือนว่ายิ่งแบมแบมพยายามจะกลั้นสะอื้นน้ำตาก็ยิ่งพร่างพรูออกมาเสียจนดูน่าสงสาร
“ชู่ว...”
สุดท้ายมาร์คก็อดไม่ได้ที่จะลงไปนั่งยองๆข้างโต๊ะเพื่อดูอาการคนเสียขวัญ เพราะอันที่จริงแล้วถ้าจะหาต้นตอความผิดทั้งหมดมันก็คงมาจากตัวเขาเองที่เผลอเลอทิ้งแบมแบมเอาไว้ในห้องเพียงลำพัง ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะแกล้งแต่อย่างใด มันเป็นเพราะมาร์ครีบเกินไปเสียจนเกือบทำให้ชีวิตน้อยๆตรงหน้านี้หายไปซะแล้ว...
“มาร์ค...” แบมแบมครางฮือในลำคอเมื่อรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิอุ่นๆจากก้านนิ้วยาวของอีกคนที่ค่อยๆแตะปาดลงบนผิวแก้มเนียนเปรอะเปื้อนทั้งคราบน้ำตาและคราบขะมุกขะมอมต่างๆเหมือนต้องการจะปลอบใจ
“ไม่เป็นไร ฉันผิดเอง” เพื่อไม่ให้แบมแบมคิดมากไปกว่านี้ชายหนุ่มก็ตัดสินใจที่จะรับความผิดเอาไว้ทั้งหมดแทน เพราะเอาจริงๆคนตัวเล็กเองก็ไม่ผิดที่อยากจะหนีออกไปในเมื่อการมาอยู่ที่นี่นั้นมันไม่ใช่ความสมัครใจของแบมแบมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อันนี้มาร์คก็เข้าใจล่ะนะ
“อยากกลับบ้าน...”
นิ้วยาวชะงักเมื่อได้ยินประโยคแผ่วเบาของคนตัวเล็ก มันก็ฟังดูน่าสงสารแหละนะ...แต่จะทำยังไงได้ล่ะ อันที่จริงแล้วควรจะเป็นอิมแจบอมมากกว่าเขาหรือเปล่าที่จะต้องมารับผิดชอบหรือรู้สึกผิดกับประโยคแบบนี้จากปากคนตัวเล็กตรงหน้า
“แบมแบม...อย่าคิดหนีอีก เห็นไหมว่าไปได้ไม่พ้นตึกก็จะไม่รอดแล้ว”
“มันไม่ได้ง่ายอย่างที่นายคิดหรอกนะ”
“...” คนตัวเล็กก้มหน้านิ่งกับคำพูดที่ได้ยินจากมาร์ค รู้ดีว่ามันเป็นความจริงทุกอย่างนั่นล่ะที่มาร์คพูดเพราะว่าเขาเองก็เพิ่งพบเจอมากับตัว...และอันที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้คิดที่จะหนีด้วยในตอนแรกถ้าหากไม่ใช่เพราะว่ามาร์คละเลยกันก่อนแบบนี้
“ก็หิวนี่” เสียงเล็กเถียงขึ้นมาเบาๆเหมือนกลัวว่ามาร์คจะดุอะไรออกมาอีกถ้าหากพูดเสียงดังออกไป
“ฉันซื้อของกินมาให้นายแล้ว” พูดจบมาร์คก็เอื้อมไปหยิบถุงกระดาษสีน้ำตาลที่พื้นข้างตัวขึ้นมาวางบนโต๊ะท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนตัวเล็กในกระเป๋าที่ดูมอมแมมจนดูไม่จืดในตอนนี้ แต่เอาเถอะ...จะเอาของกินให้กินก่อนเป็นการไถ่โทษก็แล้วกัน
“ไม่เอาขนมปังนะ” ถึงแม้จะยอมอ่อนลงแต่เรื่องนี้แบมแบมจำเป็นต้องคัดค้านจริงๆ มาร์คคิดว่าแบมแบมชอบขนมปังพวกนั้นมากหรือไงถึงเอามาให้กินทุกมื้อๆแบบนี้น่ะ ไม่เลยซักนิด...แค่คิดถึงเนื้อครีมแหยะๆนั่นความอยากอาหารของคนตัวเล็กก็ลดไปเกือบครึ่ง
“ทำไม เบื่อแล้วหรอ” มาร์คเลิกคิ้วถามอีกคนก่อนจะเบนสายตาไปยังเจ้าถุงกระดาษตรงหน้าแทน
“ไม่ชอบ”
โอเค จบนะมาร์คต้วน
“เห็นกินตลอด นึกว่าชอบซะอีก” มาร์คพูดไปเหมือนไม่ได้คิดอะไรมากแต่นั่นมันทำให้คนตัวเล็กถึงกับคิ้วกระตุก แอบลอบทำปากขมุบขมิบอยู่คนเดียว จับใจความได้ประมาณว่า ‘แล้วมันมีอย่างอื่นให้แบมแบมเลือกซะที่ไหนกันล่ะ’
“ออกมาจากกระเป๋าก่อน มานั่งกินตรงนี้นี่” ปลายนิ้วชี้แข็งๆของชายหนุ่มเคาะลงบนพื้นกระจกของโต๊ะกาแฟตรงหน้าเป็นเชิงบอกว่าให้แบมแบมออกมานั่งตรงนี้ตามที่บอก
“...”
มือเล็กยันตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วเดินเตาะแตะออกมาตรงตำแหน่งที่มาร์คเอานิ้วจิ้มแบบพอดีเป๊ะๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงแล้วปล่อยขาสั้นๆสองข้างนั้นให้ห้อยลงมาจากขอบโต๊ะแกว่งไปมาเหมือนกับว่าลืมเรื่องน่ากลัวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าไปหมดเสียแล้ว
มาร์คมองคนตรงหน้าที่เปลี่ยนอารมณ์เร็วเสียเหลือเกินอย่างปลงๆ เขาส่ายหัวก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบถุงอาหารที่ตั้งอยู่มาถือไว้เพื่อคุ้ยหาของอย่างอื่นนอกเหนือจากขนมปังที่เขาเพิ่งจะได้รู้ว่าแบมแบมไม่ได้โปรดปรานมันอย่างที่เขาคิด
ใครจะไปรู้ล่ะ ก็เห็นว่ากินจนหมดทุกทีนี่หว่า...
“อันนี้ได้มั้ย”
เป็นโชคดีของแบมแบมหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่ก่อนมาร์คจะกลับมานั้นคุณลูกค้าสาวสวยอย่างคิมจีอาเกิดอยากสร้างความประทับใจให้กับมาร์คอีกครั้งด้วยการซื้อสตรอเบอร์รี่ผลโตสีแดงสดกล่องใหญ่ที่วางขายอยู่ในห้างให้มาร์คเอากลับมากินที่บ้าน และในตอนนี้มันก็กลายเป็นอาหารเพียงอย่างเดียวในถุงที่ไม่ใช่ขนมปังด้วย
“ค...คุณเบอร์รี่!”
มาร์คต้วนรู้สึกว่าตัวเองกำลังวูบโหวงประหลาดๆในอกตอนที่ได้ยินเสียงหวานนั่นตะโกนออกมาพร้อมแววตาระยิบระยับเมื่อเห็นเจ้ากล่องใสใบใหญ่ที่เขาเพิ่งหยิบออกมา และเมื่อรู้สึกตัวอีกที...รอยยิ้มกว้างของมาร์คมันก็ผุดขึ้นมาเต็มแก้มตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ฉันให้หมดเลย ถือเป็นการไถ่โทษที่ฉันทิ้งนายไว้วันนี้” มาร์คแอบเห็นว่าพอเขาพูดจบปากเล็กที่กำลังเผยรอยยิ้มกว้างมันกลับค่อยๆหุบรอยยิ้มลงแล้วเปลี่ยนเป็นเบ้ลงน้อยๆเหมือนจะนึกขึ้นมาได้ว่าโกรธมาร์คอยู่
“...”
“...”
เงียบกันอยู่นานสองนานเพราะพอแบมแบมไม่ตอบมาร์คก็ไม่พูดอะไรต่อเสียทีแถมดวงตาคมคู่นั้นก็ยังเอาแต่จ้องมาที่ใบหน้าเล็กของแบมแบมอย่างไม่ลดละเสียจนคนที่ทำใจกล้ามองประสานสายตากับคนตัวโตในคราแรกนั้นต้องค่อยๆเบนสายตาหลุบลงไปมองหน้าตักของตัวเองแทนด้วยความรู้สึกขัดเขินในอกแปลกๆ
“ว่าไง ตกลงไหม” ใบหน้าคมแกล้งเลื่อนเข้าไปใกล้ก่อนเสียงทุ้มๆนั่นจะถามเย้าออกมาอีกครั้ง
“อื้อ...” เสียงเล็กอ้อมแอ้มตอบในลำคอก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของอีกฝ่ายดังขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นหอมของผลสตรอเบอร์รี่ที่ถูกเปิดออกโดยมาร์คแล้วเลื่อนเอามาวางไว้ด้านข้างของคนตัวเล็กที่หันไปมองพอดี
หวา~ ผลใหญ่มากๆเลยล่ะ คุณเบอร์รี่ในป่าของแบมแบมดูเล็กไปถนัดตาเลย
มือขาวคู่น้อยต้องออกแรงนิดหน่อยในการยกเจ้าผลไม้ลูกโตในกล่องพลาสติกใสข้างตัวขึ้นมาถือวางเอาไว้บนหน้าตักเพื่อทำการลิ้มรส ปากอิ่มงับลงไปตรงกลางผลก่อนจะหลับตาพริ้มเมื่อรสชาติหวานอมเปรี้ยวของผลไม้เมืองหนาวนั้นมันถูกใจเจ้าตัวมาก มากเสียจนแทบจะลืมคุณเบอร์รี่ในป่าไปได้ง่ายๆเลย
มาร์คที่ลอบมองปฏิกิริยาของอีกฝ่ายอยู่ก็แอบยิ้มเมื่อเห็นท่าทางที่ดูเหมือนถูกใจของแบมแบม ดีแล้วล่ะ...เคี้ยวอาหารจนแก้มตูมแบบนี้ยังดูน่ามองกว่าตอนที่เบะปากเป็นตูดเป็ดแล้วน้ำตาหยดแหมะๆแบบเมื่อครู่นี้หลายเท่าตัวเลย
มาร์คนั่งมองอยู่จนกระทั่งสตรอเบอร์รี่ลูกที่สองในมือคู่เล็กนั้นหมดไปคนตัวโตก็ทำท่าลุกขึ้นยืนหันหลังให้แบมแบมจนอีกฝ่ายต้องร้องท้วงเสียงดัง
“มาร์ค ไปไหน!” ปากอิ่มแดงวาววับไปด้วยน้ำจากผลไม้เปล่งเสียงดังออกมาคล้ายกับว่าตกใจเมื่อเห็นคนตัวโตทำท่าเหมือนจะเดินออกไป
ถ้าหายไปแบบเมื่อเช้าอีกก็แย่น่ะสิ
“หืม...” คนถูกเรียกเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อย รีบหันหน้ากลับมามองคนที่มือเปื้อนปากเปื้อนแต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจเพราะยังคงรอฟังคำตอบจากเขาอย่างตั้งใจ
“ก็จะไปเก็บซากที่คนแถวนี้ทำลายข้าวของเอาไว้นั่นไง” พูดพลางแกล้งเสสายตามองไปตรงพื้นหน้าตู้เก็บของที่มีเศษแก้วแตกกระจายอยู่ทั่วบริเวณ
“อ๋อ...”
“มาร์คไม่ต้องหรอก เดี๋ยวแบมแบมจะเก็บเอง”
“...” ไม่มีแววตาล้อเล่นอยู่ในคำพูดแสนแน่วแน่จากคนตัวเล็กที่ในมือกำลังกอดผลไม้สีแดงสดเอาไว้เลยซักนิด เล่นเอามาร์คต้วนอดคิดไม่ได้ว่าแบมแบมน่ะมีระบบความคิดที่ประหลาดๆซ่อนอยู่เยอะพอตัวเลย
“หรอ..”
“มุขตลกดีนี่” มาร์คแกล้งพูดด้วยใบหน้าติดจะเรียบเฉยก่อนจะเดินไปอีกทางเพื่อเตรียมอุปกรณ์เก็บกวาดโดยมีดวงตากลมของแบมแบมมองตามหลังไปด้วยความไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจว่าที่มาร์คพูดน่ะมันหมายความว่าอะไร
ก็แค่บอกว่าแบมแบมจะรับผิดชอบเก็บกวาดเศษแก้วจากโหลที่แตกเอง...มันตลกตรงไหนกัน
“ไอ้ตัวเล็กนี่มันแสบเอาเรื่องแฮะ” เสียงเข้มของอิมแจบอมที่พึมพำออกมาเบาๆหลังวางสายจากเพื่อนรักอย่างมาร์คต้วนเป็นที่เรียบร้อยนั้นทำให้คนร่างบางอีกคนที่นั่งกดมือถืออยู่บนโซฟาต้องหันมามองด้วยความสงสัยในประโยคเมื่อครู่
“มีอะไรหรอ”
จินยองมองตามคนรักที่ทำหน้าตาคล้ายกับว่าจะขำก็ไม่เชิงจะตกใจก็ไม่เชิงด้วยความสงสัยที่เพิ่มขึ้น เมื่อกี้ได้ยินเหมือนกับว่าแจบอมจะกำลังพูดถึงภูติมนุษย์ตัวเล็กจิ๋วที่เจ้าตัวไปจับมาได้จากการเดินป่าครั้งล่าสุดด้วย
ซึ่งจินยองน่ะสนใจเจ้าตัวเล็กนั่นมากๆ ตานี่แทบจะถลนออกมานอกเบ้าเลยทีเดียวในตอนที่ได้เห็นเจ้าตัวจิ๋วนั่นจากอิมแจบอมเป็นครั้งแรก อยากจะจับมาศึกษาทดลองในแล็ปแบบสุดๆ แต่ว่าอิมแจบอมกลับบอกว่าขอให้เขาคอยศึกษาอยู่ห่างๆก็พอเพราะว่าตัวนี้ตนเองตั้งใจจะเอามาให้มาร์คต้วน...แบบนี้ก็มีด้วย
สุดท้ายก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย
“อ๋อ ไอ้ตัวเล็กของมาร์คมันแหกกรงน่ะ...เห็นไอ้มาร์คบอกว่าเกือบโดนแมวที่ตึกมันฟัดตาย” จบประโยคที่ได้ยินจินยองถึงกับต้องยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองด้วยความตกใจ ทำไมมาร์คถึงปล่อยให้เป็นแบบนั้นได้ล่ะ!
“คงจะตกใจน่าดู” จินยองพึมพำออกมาเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ เงียบไปสักพักก่อนที่เจ้าตัวจะพูดโผล่งออกมาเสียงดังเสียจนอิมแจบอมที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเกือบสะดุ้งด้วยความตกใจ
“เดฟ! บอกให้มาร์คแวะมาที่บ้านเราหน่อยสิ...เนียร์อยากเจอเจ้าตัวเล็ก อยากคุยเรื่องเจ้าตัวเล็กกับมาร์คด้วย”
“หืม...ตอนนี้เนี่ยนะ” อิมแจบอมเลิกคิ้วสูงถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่มแล้วนะ แถมบ้านเขากับอพาร์ทเมนต์มาร์คก็ใช่ว่าจะใกล้กันเสียเมื่อไหร่
“หรือเราจะไปหามาร์คดีล่ะ ยังไงดี...เนียร์อยากเจออ่ะ ตอนนี้เลย” น้ำเสียงอ้อนๆนั่นทำให้แจบอมต้องถอนหายใจยาวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเขากลัวหรืออะไรหรอกนะ...แต่จินยองน่ะรู้ดีว่าเขามักจะแพ้ลูกอ้อนแง้วๆแบบนี้ของเจ้าตัวเป็นประจำ
“เดี๋ยวลองโทรถามไอ้มาร์คให้แล้วกัน” สุดท้ายแล้วอิมแจบอมก็พ่ายแพ้ให้กับลูกอ้อนนั่นไปตามคาด จัดการยกหูโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเบอร์โทรเข้าล่าสุดซึ่งเป็นชื่อของมาร์คต้วนแล้วกดโทรออกอย่างไม่รีรอ
.
.
.
“ว่าไง” เสียงทุ้มตอบกลับไปไม่ดังนักเมื่อเห็นว่าเป็นอิมแจบอมที่โทรเข้ามาหลังจากเพิ่งวางสายไปได้ไม่ถึงยี่สิบนาที
“หืม..” มาร์คครางรับในลำคอพลางย่นคิ้วเมื่อฟังประโยคที่เพื่อนพูดจบ ดวงตาคู่คมเหลือบต่ำลงมองด้านข้างตัวเองเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมามองกระดานวาดภาพสีขาวตรงหน้าตัวเองอีกครั้ง
“อีกสองสามวันจะพาเข้าไปแล้วกัน”
มาร์คตอบไปก่อนจะได้ยินเสียงครวญครางมาจากคนในสายที่ไม่ใช่อิมแจบอมว่าเสียดายนักเสียดายหนา และมาร์คก็คิดว่าเจ้าของเสียงซึ่งคือจินยองน่าจะเป็นตัวตั้งตัวตีขอให้อิมแจบอมโทรมาอ้อนวอนขอให้เขาพาแบมแบมไปที่บ้านตอนนี้เพียงเพราะว่าอยากเจอ มันใช่เรื่องไหมล่ะไอ้สองคนนี้นี่มันจริงๆเลยให้ตายสิ
“เออ แค่นี้” มาร์ควางมือถือลงบนพื้นข้างๆตัวก่อนจะพรูลมหายใจออกมายาวเหยียดเมื่อพบว่าผลงานที่เขาควรจะเริ่มลงมือทำได้แล้วนั้นมันยังไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่าการร่างภาพเลย บางทีมันอาจจะเป็นเพราะว่าสมาธิของเขาในตอนนี้นั้นมันยังไม่นิ่งพอสำหรับการเริ่มทำงานก็เป็นได้
“...”
“อ๊ะ...คิกๆ พอแล้วน้า~”
มาร์คหลับตาลงช้าๆเมื่อเสียงหัวเราะเล็กๆเหมือนเด็กน้อยกำลังเล่นสนุกเต็มที่ดังมาจากพื้นข้างๆตัวเขาอีกครั้ง และต้นเสียงนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น มันมาจากคนมอมแมมที่หลังจากกินมื้อเย็นเป็นสตรอเบอร์รี่ลูกโตเสร็จก็เอาแต่ตามเขาแจ ขนาดเขาจะมาวาดรูปเจ้าตัวยังอุตส่าห์ขอตามมานั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ
แล้วแบบนี้มาร์คจะไปมีสมาธิทำงานได้ยังไง
“ซนนักนะ”
สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะต้องเอื้อมมือไปกวาดเอาหลอดสีน้ำของตัวเองที่ถูกเจ้าตัวเล็กเล่นซนใช้สองมือบีบออกมาเสียจนเลอะจานสีแถมบางส่วนยังทะลักเปื้อนพื้นด้านนอกมาเก็บรวบรวมไว้ ถึงแม้ว่าบางหลอดมันจะถูกบีบออกมาเล่นจนหมดแล้วก็เถอะ
และก็ไม่ต้องถามถึงสภาพของคนตัวเล็กในตอนนี้เลย เพราะขนาดทั้งจานสีทั้งพื้นห้องเขายังเลอะขนาดนี้แบมแบมเองก็ไม่เหลือเหมือนกัน มือเล็กๆที่เปื้อนสีไล่แปะลงบนพื้นห้องอย่างมีความสุข พอเหงื่ออกก็ยกขึ้นมาปาดหน้าตัวเองโดยไม่รู้ตัวว่าคราบสีมันเปื้อนติดตามแก้มตามตัวเต็มไปหมดแล้ว
แต่ถ้าถามว่าแล้วทำไมมาร์คถึงยอมปล่อยแบมแบมเล่นซนแบบนี้ได้ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเสียงหัวเราะเล็กๆนั่นล่ะมั้งที่ทำให้มาร์คยอมหยวนๆปล่อยคนตัวเล็กเล่นไป ไถ่โทษกับที่ทำให้ร้องไห้เมื่อตอนกลางวัน... แถมนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่มาร์คได้เห็นคนตัวเล็กหัวเราะเต็มแก้มแบบนี้
“เฮ้ๆ!” นั่งมองอีกฝ่ายเล่นก็เพลินดี แต่มันจะมาสะดุดเอาก็ตอนที่แบมแบมใช้มือเล็กของตัวเองละเลงสีที่บีบลงไปมารวมกันบนหลุมสีแล้วทำท่าเหมือนจะเอาหน้าเล็กๆนั่นจุ่มลงไปด้วยความสนุกเกินเหตุนั่นล่ะมาร์คจึงต้องใช้นิ้วชี้เกี่ยวคอเสื้อสีมิ้นต์ของอีกคนรั้งเอาไว้ก่อนที่จะได้วุ่นวายกันอีกระลอก
“สีน้ำเขาเอาไว้ใช้พู่กันจุ่ม ไม่ใช่เอาหัวตัวเองจุ่มลงไป” เสียงทุ้มที่ดังมาจากด้านหลังทำให้แบมแบมต้องหันไปมองด้วยความสงสัยที่ปรากฏอย่างชัดเจนบนใบหน้าน้อยๆ
“พู่กันอะไรหรอ” มาร์คจ้องอีกฝ่ายนิ่งๆก่อนฝ่ามือใหญ่จะเอื้อมไปหยิบพู่กันเบอร์เล็กที่อยู่ใกล้มือตัวเองที่สุดออกมาให้คนขี้สงสัยได้กระจ่างชัด
“อันนี้เขาเรียกว่าพู่กัน เอาไว้จุ่มสีแล้วมาระบายลงไปบนแผ่นขาวๆนี่ที่มนุษย์ทั่วไปเขาเรียกมันว่ากระดาษ” อธิบายห้วนๆแต่แบมแบมก็ตั้งใจฟังพยักหน้ารับพลางมองไปตามอุปกรณ์ที่มาร์คกำลังบอกชื่อเรียกของมันให้ฟังอย่างตั้งใจ
“และมันก็ไม่ใช่ของที่จะเอามาเล่นสนุกหรอกนะ...ลุกขึ้น”
“...” มาร์คสั่งให้ลุกแบมแบมก็ลุกขึ้นแบบงงๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันแหละว่ามาร์คจะทำอะไร
“ถอดเสื้อ” มาร์คแกล้งสั่งเสียงเข้มพลางแอบซ่อนรอยยิ้มไว้มุมปากจนคนตัวเล็กที่มัวแต่ตกใจไม่ทันได้สังเกตเห็น
“ถ...ถอดเสื้อทำไม” ทำไมล่ะ...ทำไมมาร์คถึงจะให้เขาถอดเสื้อออกตอนนี้ หรือว่าเป็นเพราะแบมแบมทำเสื้อเลอะเจ้าสีน้ำพวกนี้คุณมาดามไลลาเลยอยากจะเอาเสื้อคืนงั้นหรอ...
ไม่ได้นะ!
“ก็นายเลอะไปหมดแล้ว”
“ไม่คืน! ให้แล้วก็ห้ามเอาคืนสิ” แบมแบมไม่ผิดนะ ก็คุณมาดามไลลากับมาร์คยกให้เขาแล้วนี่นาจู่ๆจะมาขอคืนแบบนี้ได้ยังไงกัน นิสัยไม่ดีที่สุด
“...”
“เก่งเรื่องคิดไปเองเหลือเกินนะนายเนี่ย” มาร์คลอบหัวเราะออกมาก่อนจะใช้กำลังที่มากกว่าเอื้อมไปจับเจ้าตัวเล็กตรงหน้ามาไว้ในกำมือแล้วใช้อีกมือที่ว่างดึงสเวทเตอร์สีมิ้นออกจากทางหัวให้อีกฝ่ายอย่างง่ายดาย เล่นเอาคนที่ถูกทำให้โป๊กะทันหันอย่างแบมแบมทั้งโกรธทั้งอายจนหน้าแดงก่ำไปหมด
แต่ยังไม่ทันจะได้โวยวายอะไรออกไปมาร์คก็ชิงพูดตัดหน้าขึ้นมาเสียก่อนราวกับรู้ทัน
“ไม่ต้องเถียงอะไรทั้งนั้น จะพาไปอาบน้ำ”
ผ้าขนหนูสำหรับไว้เช็ดผมผืนเล็กถูกมาร์คนำเอาพาดบ่าเข้ามาภายในห้องน้ำด้วยไว้สำหรับคนตัวเล็กที่กำลังเปลือยกายนั่งคุกเข่าเอาแขนเล็กๆกอดนิ้วชี้กับนิ้วกลางของเขาเอาไว้แน่นเพราะจะกลัวตกลงไป จนกระทั่งมาร์คเดินมาถึงส่วนของอ่างล้างหน้าที่รูปทรงเป็นเหมือนรางยาวๆ
“ลงไปสิ” โชคดีหน่อยที่ห้องน้ำของมาร์คมีอ่างล้างหน้าซึ่งดูเหมาะเหม็งกับเจ้าตัวเล็กแบบพอดิบพอดีเขาจึงไม่ต้องทุลักทุเลมากนัก มาร์คปล่อยให้คนตัวเล็กลงไปนั่งอยู่บนพื้นอ่างก่อนจะค่อยๆเปิดน้ำให้ไหลลงไปทีละน้อยจนกระทั่งมันพอท่วมครึ่งตัวของแบมแบมแล้วจึงหมุนหัวก๊อกให้ปิดสนิท
“มาร์ค! ดีจัง!” คนถูกปล่อยให้แช่อยู่ในอ่างทำท่าทางดีอกดีใจเสียเหลือเกินที่ได้ลงน้ำ มือเล็กตะกุยไล่ตีน้ำไปทั่วก่อนจะปล่อยรอยยิ้มกว้างกับเสียงหัวเราะเล็กๆออกมาเมื่อหยดน้ำที่เจ้าตัวตีลงไปมันกระเซ็นเปียกเข้าเต็มใบหน้าและเส้นผมสีดำสนิท
“อยู่เฉยๆสิ ถ้าจมน้ำอีกคราวนี้ไม่ช่วยแล้วนะ” มาร์คแกล้งว่าก่อนจะเอื้อมมือลงไปจับไหล่อีกคนให้ตั้งตรง ส่วนอีกมือก็ควานหาฟองน้ำขัดตัวที่สาบานได้ว่าตั้งแต่แทมมี่ซื้อมาให้มาร์คไม่เคยคิดที่จะแตะมันซักครั้งเดียวออกมาค่อยๆบรรจงถูลงไปบนคราบสีน้ำที่เลอะบนใบหน้าและแขนเล็กๆ
มาร์คออกแรงถูไม่มากนักเพราะกลัวว่าถ้าทำรุนแรงแบมแบมจะเจ็บตัวอีก คนตัวโตตั้งใจเช็ดถูคราบเหนียวๆทั้งจากน้ำลายเจ้าคริสตัลบวกกับน้ำจากผลไม้สีแดงที่เจ้าตัวเพิ่งกินเข้าไปจนกระทั่งลืมสังเกตไปเลยว่าเสียงหัวเราะคิกคักของแบมแบมมันเงียบหายไปตั้งแต่ตอนไหน และใบหน้าคมของเขานั้นยื่นเข้ามาใกล้แบมแบมเสียจนเห็นถึงแพรขนตาเล็กๆนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่…
มาร์คอาจจะตอบไม่ได้เพราะไม่รู้ตัว แต่คนที่นั่งจ้องการกระทำของมาร์คอยู่อย่างแบมแบมน่ะ...คงจะบอกได้เป็นช็อตๆเลยล่ะ
“มองหน้าจะหาเรื่องกันหรือไง” ดวงตาคมไม่ได้มองตรงมาที่ใบหน้าเล็กแต่กลับถามคำถามที่ทำให้แบมแบมต้องรีบทำเฉไฉเบนสายตาไปทางอื่นแทนราวกับคนที่ทำความผิดแล้วถูกจับได้
“...”
“ถามไม่ตอบ หยิ่ง” ปลายนิ้วยาวแกล้งจิ้มเข้าไปข้างแก้มของคนที่ทำเป็นอมลมมองนู่นมองนี่ไม่สนใจคำถามของเขาด้วยความหมั่นเขี้ยว
“โอ๊ะ...เจ็บนะ”
“ฮ่าๆ” มาร์คเผยยิ้มกว้างออกมาเสียจนเห็นฟันเขี้ยวคมด้านใน ยิ่งเห็นหน้ามุ่ยๆนั่นก็ยิ่งตลก แกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้กว่าเดิมเสียจนคนถูกแกล้งต้องใช้มือน้อยๆของตัวเองยกขึ้นมาดันคางของอีกฝ่ายไว้ไม่ให้เข้าใกล้ตัวเองมากกว่านี้
“มาร์คทำไมตรงนี้มันทิ่มมือได้ล่ะ” คิ้วเล็กขมวดมุ่นก่อนจะค่อยๆไล้ฝ่ามือไปตามปลายคางของคนตัวโตด้วยความสงสัย รู้สึกเหมือนตรงคางของมาร์คมันมีหนามเล็กๆเต็มไปหมดเลย...
ไม่เจ็บหรือไงกันนะ
“เขาเรียกว่าหนวด ถ้าเกิดว่ามันยาวก็ต้องโกนออกแต่ช่วงนี้ฉันไม่มีเวลา” คนตัวโตตอบไปตามตรงก่อนจะผละใบหน้าออกจากระยะห่างที่เหลือน้อยเต็มทีกับใบหน้าเล็กมาเป็นยืนเหยียดหลังตรงมองอีกฝ่ายแทน
“อ๋อ...ทำไมแบมแบมไม่เห็นมีบ้างเลยน้า” คนตัวเล็กพึมพำอยู่คนเดียวพลางเอียงคอเงยหน้าทำท่าคิดไม่ตก
“อยากลองโกนหนวดให้ฉันไหม”
เพราะหันไปเห็นที่โกนหนวดวางอยู่ในแก้วบนชั้นวางของใกล้มือพอดีเสียงทุ้มเลยแกล้งถามออกไปเพราะนึกสนุกกับท่าทางของคนตัวเล็กในอ่างน้ำนั่น
“หือ...”
“โกนให้ได้หรอ! อยากสิ อยากๆๆ” คนตัวเล็กที่นั่งคุกเข่าอยู่ในน้ำยกสองมือขึ้นมาพนมประกบกันด้วยความตื่นเต้น มองตามมาร์คที่เอื้อมช่วงแขนยาวไปหยิบอุปกรณ์บางอย่างที่แสนจะแปลกตาออกมาด้วยความอยากรู้อยากลอง
“เดี๋ยวพอฉันป้ายครีมพวกนี้ลงไปเสร็จนายก็จับด้ามมันแบบนี้ แล้วก็ลากลงไปแบบนี้...เบาๆด้วยล่ะเข้าใจไหม” มาร์คทั้งอธิบายและสาธิตให้อีกฝ่ายดูก่อนจะปล่อยที่โกนหนวดให้อีกคนเอาไปถือทำความคุ้นเคยในขณะที่ตัวเขากำลังบีบครีมโฟมป้ายตรงบริเวณคางของตัวเองเตรียมพร้อมให้คนตัวเล็กเล่นซนเต็มที่
“เอาล่ะ...เริ่มเลย”
ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะระยะห่างของใบหน้าที่ใกล้กันเกินไป หรือเป็นเพราะความตื่นเต้นของแบมแบมที่จะได้ทดลองโกนหนวดให้มาร์คเป็นครั้งแรกกันแน่ หัวใจดวงน้อยของคนตัวเล็กมันกำลังเต้นรัวและเร็วแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“บ...แบบนี้หรอ”
มือเล็กสั่นน้อยๆตอนที่วางด้านที่เป็นใบมีดโกนลงบนฟองโฟมนุ่มแล้วลากลงมาช้าๆเหมือนอย่างที่มาร์คบอก แต่เพราะความยาวของด้ามที่มันสูงเกือบเท่าตัวของแบมแบมแขนเล็กจึงต้องช่วยกันประคองถึงสองข้างเลยทีเดียว
“อืม..” มาร์คครางรับในลำคอขณะปรือตาลงมองอีกฝ่ายที่ทำสีหน้าจริงจังสุดๆในการโกนหนวดให้เขา
ทำให้ดีล่ะ...มาร์คยังไม่อยากเสียเลือดตอนนี้นะแบมแบม
แฮ่ ขอพื้นที่ให้มาร์คต้วนไถ่บาปหน่อยแล้วกันเนอะ...
-// -
ถ้าชอบก็อย่าลืมคอมเม้นต์ติชม กดเฟบหรือโหวตให้เราด้วยนะคะ
เล็กๆน้อยๆก็เป็นกำลังใจอย่างแรงแล้ว
ขอบคุณทุกคนค่า
แท็กฟิค : #FICJARMB
ติดต่อไรท์เตอร์ TWITTER : @since9397
-
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทำไมมันชั้งน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ลูก
หน้าเเบมตอนโกนหนวดจริงจังน่าดู
เอ็นดูเจ้าภูติมนุษย์สุดๆๆ
ทำไมน่ารักอย่างงี้ล่ะเจ้าหนู
อยากได้
น้ำตาคลอเลยตอนอ่านประโยคที่แบมแบมบอกว่าอยากกลับบ้าน
ทั้งแสบทั้งซนเลยนะ