ตอนที่ 27 : Unexpected EP.24 - You are the One (END)
โรงพยาบาล
เฮ้อ!
เฮ้ออออ!
เฮ้อออออออ!
เฮ้…
“ปริ้น จะถอนหายใจใส่หน้าพี่อีกนานไหมเนี่ย!”เสียงบ่นจากคนที่นั่งปอกแอปเปิ้ลอยู่บนเตียงคนไข้ของฉันเอ็ดขึ้นเบาๆ หลังจากที่ฉันเริ่มมีปฏิกิริยาอาการเบื่อโรงพยาบาลหลังจากนอนมาคืนนึงเต็มๆแล้ว
พี่ท็อปก็เวอร์อะ…ให้ฉันนอนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนี้มาทั้งวันแล้วหลังจากเหตุการณ์ที่ไอ้พวกบ้านั่นจับตัวฉันกับยัยนิวไป ความจริงแค่มาตรวจให้สบายใจรู้ผลก็กลับแค่นั้นก็จบ แต่พี่ปีย์กับพี่ท็อปนะสิ เล่นให้ฉันกับยัยนิวนอนโนงพยาบาลจับเจ่าไม่มีอะไรจะทำทั้งวัน แถมยังแยกห้องอีกด้วยคำพูดที่ว่า
‘พี่จะได้ดูแลเราอย่างใกล้ชิด’ของผู้ชายทั้งสองคนนี้!
“ปริ้นอยากกลับคอนโดแล้วนี้ ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ให้พ่อกับแม่ไปบอกคุณหมอไว้แล้วด้วย เขาไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย มีแต่พี่ท็อปนั้นละที่ไม่ให้กลับ”ก็อย่างที่ว่าเลยค่ะคุณ เมื่อเช้าพ่อแม่ฉันมาเยี่ยมหลังพี่ท็อปโทรไปบอก แล้วฉันก็ให้ท่าทั้งสองไปคุยเรื่องอาการสรุปคือฉันปกติไม่เป็นอะไร แค่อาการตกใจเฉยๆ แต่ไม่รู้ทำไมพี่ท็อปไม่ย๊อมไม่ยอมให้ฉันกลับห้องสักที บอกว่าให้รออกพร้อมยัยนิวที่รอคุณหมอตรวตอนหกโมงครึ่ง
คือยัยนิวเป็นโรคความดันต่ำตั้งแต่เด็กๆ เวลามีอะไรที่ทำให้สะเทือนหรือตกใจอาการหนักเพราะเลือดลมไปปกติ คุณหมอเลยกลัวว่าจะกลับไปช็อคที่คอนโด
“ก็บอกแล้วไงว่ารอกลับพร้อมนิวเยียร์อีกแค่ครึ่งชั่วโมงคุณหมอก็มาตรวจแล้ว อดทนหน่อยสิ!”
“ทำไมต้องดุ ตั้งแต่ปริ้นเข้าโรงพยาบาลพี่ท็อปดุขึ้นรู้ตัวไหม”
“เอ้า กินซะ พูดเยอะไม่คอแห้งบ้างหรือไง…”ดูตาคนนี้สิ ฉันพูดอยู่ก็เอาแก้วน้ำส้มวิตามินแท้100% ยื่นมาจะกระแทกหน้าอยู่แล้ว ถ้าไม่บอกไม่รู้เลยนะว่าพี่ท็อปจะกล้าทำแบบนี้
ตั้งแต่ฉันเข้าโรงพยาบาลเขาไม่ปล่อยฉันคลาดสายตาแม้แต่วิเดียว ทำอะไรก็ต้องขออนุญาต แล้วอีกอย่างเลยนะคุมฉันแจยังกับนักโทษ แถมชอบทำเสียงดุให้ฉันหงุดหงิดเล่นอีก
“น่าเบื่อนิ ปริ้นขอไปดูนิวเยียร์ได้ไหม…”
“ไม่ ไม่ได้!”ฉันยังไม่ทันจะอ้าปากขอไปนั่งเล่น นั่งคุยกับยัยนิวจบ พี่ท็อปก็ตอบมาเร็วจนน่าสงสัยเชียว
“ทำไม…ปริ้นแค่จะไปหานิวทำไมไม่ได้?”
“ก็…ไอ้ปีย์มันดูน้องนิวอยู่คงไม่อยากให้ใครไปรบกวนไง ถ้าน้องนิวอยากมาไอ้ปีย์คงพามาแล้ว!”
ฉันกอดอกจ้องพี่ท็อปอยู่พักใหญ่ แปลก…พี่ท็อปแปลกจริงๆ
“เอ่อ อ่านนิยายไหม เห็นชอบอ่านออนไลน์พี่เอาแท็ปเลตมา”
“ไม่เอา ไม่มีอารมณ์ อยากกลับห้อง!”
“ทำไมงอแงกลับห้องจังนะ เดี๋ยวก็ได้กลับแล้ว อดทนหน่อยสิ!”พี่ท็อปพูดจบก็ลูบผมฉันอ่อนโยนเหมือนเป็นการง้อฉันที่ไม่ยอมให้กลับสักที
แล้วเวลาก็ล่วงเลยไปนานพอที่ทำให้ฉันหลับไปได้ตื่นนึง เพราะเสียงถุงพลาสติกที่พี่ท็อปถือมาเลยทำให้ฉันสะดุ้งตื่น
“กลับห้องได้แล้วยัยขี้เซา บ่นอยากกลับทำไมหลับซะนานเลย”
“กี่โมงแล้วอะ”ฉันขยี้ตาพล่างลุกตัวจากตียง รู้แค่ว่าข้างนอกมันมืดแล้วนะ แต่ไม่แน่ใจว่ากี่โมง
“จะสองทุ่มแล้ว ปริ้นหลับอยู่พี่เลยไม่กล้าปลุก นิวเยียร์เลยกลับไปแล้ว”
“ห้ะ!!!!”จากที่งัวเงียฉันก็รีบลืมตาตื่นมาดูเวลา ที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะดึกขนาดนี้แล้วให้ตาย!
ยัยนิว ยัยเพื่อนบ้า ฉันอุส่ารอออกโรงพยบาลพร้อมแกกลับหนีกันไปก่อน ชิ! ถึงหอละน่าดู
“เชิญครับ”พี่ท็อปพูดในขณะที่เปิดประตูหลังจากขับรถมาถึงคอนโด พอได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วฉันก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างบอกไม่ถูก นี่ถ้าให้ไปวิ่งรอบสนามสามรอบฉันยังไหวเลยนะ ฮาๆ
“ขอบคุณนะคนขับรถสุดหล่อ อะทริป ฟอดดดด!”ฉันหันไปจุ๊บแก้มพี่ท็อปทันทีที่เขาปิดประตูแล้วเดินมาประคองฉันพร้อมสัมภาระ
“หะเห้ย…”
“นี่…จะขึ้นไหมห้องอะ?”ฉันทำสีหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการแอบจุ๊บแก้มพี่ท็อปเมื่อกี้ แต่เชื่อไหมว่าพี่ท้อปยื่นขาดสติเหมือนโดนสาปไว้อยู่ที่เดินไม่ไหวติง
“เมื่อกี้ทำไรอะ?”
“หอมแก้มไง!”ฉันข่มความเขินอายไว้ ก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้กดลิฟต์
ฟอดดดดดดดดดดดดดด O//O
“พี่ท็อป!!”
“ไม่ได้ดิ เสียดุลการค้าหมด ต้องหอมคืน^^”
ปิ้งค์!
“คนบ้า!”ฉันรีบเดินเข้าลิฟต์แล้วหนีไปสุดลิฟต์ที่มีคนบ้าเดินตามมาข้างๆ พร้อมกับดึงแขนฉันไปจับ มีอารมณ์มาสวีทอะไรกันตรงนี้ก็ไม่เข้าใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เล่นตีหน้ายักษ์ใส่ทั้งวัน เจอฉันหอมไปฟอดเดียว กลับมาทะเล้นเหมือนเดิมเลยดูสิ
“เป็นอะไรทำไมไม่เปิดห้อง”
“พี่ถือของเยอะขนาดนี้จะเปิดได้ไงอะ เปิดให้หน่อยสิ^^”
“แต่ว่ามืออีกข้าง…”
“โอ้ย…มือข้างนี้อยู่ดีๆก็เจ็บตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว สงสัยจะถือของหนักมั้ง”พี่ท็อปทำให้ฉันหรี่ตามองเขาที่ทำสำออยอยู่หน้าห้อง ก็จะไม่ให้สงสัยได้ยังไงในเมื่อท่าทางวันนี้แปลกๆมาทั้งวัน แล้วไหนจะลีลาอีกทั้งที่มืออีกข้างก็ว่างไม่ยอมเปิดประตูเข้าห้องไปสักที
“เปิดก็เปิด…”
แกรก…
โป้ง โป้ง โป้ง
“เซอร์ไพรส์…ยินดีกลับสู่คอนโดจ้าน้องปริ้น!”
ฉันได้แต่ยืนจับลูกบิดไว้เช่นเดิมหลังจากที่เปิดไปแค่ครึ่งบ้าน สายรุ่งจากพลุกระดาษที่ใช้ดึงวันคริสต์มาส วันปีใหม่ก็เด้งใส่ตัว รวมทั้งสเปรยส์สีนี้อีก แล้วแต่ละคนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็พวกพี่ปีย์ พี่มาร์ช พี่ธันเดอร์ พี่ลิตเติ้ล พี่ตัส พี่ยุนอา ยัยนิวเยียร์
“ทุกคน…^^”ฉันพูดอะไรไม่ออกได้แต่ยืนยิ้มและหันมองพี่ท็อปที่กอดฉันหลังจากถูกเซอร์ไพรส์
“เข้ามาข้างในก่อนยัยปริ้น พี่ๆเข้าเตรียมของกินไว้ให้แกเพียบเลย”
“แล้วแกละนิว ก็ก็อยู่โรงพยาบาลเหมือนฉันนิ?”
“น้องนิวกลับตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วปริ้น แต่ที่ไอ้ท็อปมันโกหกเพราะจะได้เซอร์ไพรส์ปริ้นไง”พี่ปีย์พูดจบก็กอดยัยนิวไว้แน่นแถมหอมหน้ากันโชว์อีก
“พี่ท็อปโกหกปริ้นเหรอ?”
“ก็ลิตเติ้ลบอกนิ บอกว่าผูหญิงชอบเซอร์ไพรส์”
“อ้าวท็อป มาโยนให้เติ้ลได้ไง เติ้ลไม่ไม่ได้บอกนิว่าผู้หญิงทุกคนจะไม่โกรธถ้าหากรู้ความจริง”
“แต่พี่ตัสบอกว่าเติ้ลไม่เคยโกรธ…”
“เห้ยพี่ไม่ได้พูดนะว่าผู้หญิงทุกคนจะไม่โกรธเหมือนเติ้ล”พี่ตัสก็เป็นอีกคนที่มาหลบหลังพี่ลิตเติ้ลหลังจากที่ฉันจ้องอาฆาตจนพี่ท็อปได้แต่ยืนทำหน้าสำนึกผิดที่หน้าประตู
“ใครว่าโกรธละ ล้อเล่น ก็ว่าอยู่ว่าแปลกๆ พี่ท็อปนี่จริงๆเลยนะ^^”จากที่ท้าวเอวมองหาเรื่องพี่ท็อปฉันก็แกล้งฉีกยิ้มออกก่อนที่พี่ๆทุกคนจะขำสีหน้าพี่ท็อปที่ซีดเผือด
“ยังไม่ทันแต่งเลย กลัวเมียซะแหละเพื่อนใครวะ”
“ไอ้มาร์ชปากดี ฉันจะคอยดูแก!”
“อย่างฉันอะนะจะกลัวเมีย ฝันเหอะ จะให้เมียกราบเช้ากราบเย็นเลยคอยดู”
“อ่อเหรอ?”ยังไม่ทันที่พี่มาร์ชจะอวดเบ่งได้นานพี่ยุนอาที่เดินออกมาจากห้องน้ำก็หยิกเข้าที่เอวจนพี่มาร์ชสลดไปกว่าพี่ท็อปซะอีก
“พวกแกนี้แม่ง หนีไปมีเมียหมดเลยวะ ทิ้งฉันโสด ธันเดอร์จะไม่ทน จะหาเมียมั้ง!”พี่ธันเดอร์พูดปุ๊บเสียงเรียกเข้าก็ดังตามทันที
“จ๋า เนี่ยกำลังไป เจอกันนะที่รัก จ้าบาย”
“ไอ้นี่มันสุ่มวะ ใครเป็นผู้หญิงโชคร้ายคนนั้นวะ”
“ไอ้ปีย์อยากกินเลือดก่อนปาร์ตี้ใช่ไหม!!”
“แหม พูดเล่นทำเป็นซีเรียสนะไอ้ธัน ขอให้รักจริงเกินสามวันละกัน ฉันจะฉลองให้โต๊ะใหญ่เลยคอยดู”
“พูดแล้วเอาคืนมะรืนนี้ตายนะเว้ย!”พี่ธนเดอร์พูดท่าทีจริงจังเหมือนว่าเขาจะรักนานเกินกว่าที่พี่ปีย์สบประมาทเอาไว้
“แน่นอน ฉันจะเตรียมเงินรอเลยคอยดู”
“เออ ชัวร์ ฉันไปก่อนนะ อ่อ…น้องปริ้นดีใจด้วยนะที่กลับคอนโด หวังว่าจากนี้จะมีแต่สิ่งดีๆเข้ามานะ^^”
“ขอบคุณค่ะพี่ธันเดอร์”
“เราไปกินกันดีกว่านะ หมดตัวหารไปตัวแหละ^^”ว่าแล้วพวกเราก็ไปปักหลักที่ห้องนั่งเล่นที่ถูกเปลี่ยนเป็นห้องปาร์ตี้ไปหมดแล้ว เครื่องเสียงเพลงของกินเครื่องดื่มต่างจัดเรียงไว้อย่างครบเครื่องไม่บอกก็รู้ว่าจัดกันตั้งแต่เที่ยงแน่ๆ เปลี่ยนห้องกันขนาดนี้ไม่ธรรมดา
“มาชนกันดีกว่าเพื่อสิ่งดีๆที่เข้ามา”
กริ้ง! เสียงขอบแก้วชนกันก่อนที่พวกเราจะยกตามที่พี่ตัสบอก
“เดี๋ยวพี่กับเติ้ลขอกลับก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องพาจูเนียร์น้องชายลิตเติ้ลไปสวนสนุกอีก ดึกแล้วด้วย^^”
“ขอบคุณที่มานะครับพี่ตัส เติ้ลด้วยนะ”
“งั้นฉันขอตัวกลับเลยเหมือนกัน ท็อปกับปริ้นจะได้พัก อีกอย่างนิวก็ควรจะพักด้วย”
“อ้าวกลับกันหมดเลยเหรอ?”แล้วไม่ทันที่ฉันจะเตรียมตัวอะไร พี่ๆที่นั่งอยู่ก็ขอตัวกลับไปพร้อมกันเลย
“ใครขับรถก็ขับกันดีๆนะ วันนี้ขอบคุณมากที่มา”พี่ท็อปพูดหลังจากฉันและเขาเดินมาส่งแขก
“ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะทุกคน แถมของเยี่ยมในครัวอีก”
“จ้า กลับแล้วนะ”
บทจะไปก็ไปกันหมดเลยอะ…ห้องที่มีแต่เสียงคุยเลยเหลือแต่เสียงเพลงคลอๆเลย
ฟึบ!
ฉันที่เก็บของไปไว้ที่ซิ้งล้างจานถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกพี่ท็อปกอดจากด้านหลัง
“อะ อะไร กอดทำไม”
“อยากกอด”กลิ่นจางๆของของเบียร์ทำให้ฉันหันหน้ามามองพี่ท็อป
“เมาใช่ไหมเนี่ย!!”
“นิดนึง แฮะๆ แต่ยังมีสติครบนะ รู้ว่านี้กอด และนี้ก็…จูบ”พี่ท็อปกระซิบเสียงเบาก่อนจะบอดขยี้ริมฝีปากตัวเองมาประชิดไม่ให้ฉันได้หันหนีได้เลย ความร้อนและกลิ่นเบียร์ส่งจากริมฝีปากอ่อนของพี่ท็อปมาที่ฉันลมหายใจเราสัมผัสกันไปมา ฉันไม่ได้หนีและตอบสนองกลับไปและพี่ท็อปเองก็มองสัมผัสปลายลิ้นที่อ่อนหวานแต่มีรสฝาดๆเข้ามาไม่หยุด
“อื้อ…พอแล้ว!”
“ฟอด ฟอด”
“พี่ท็อป!”ตาคนนี้ก็จริงๆเลย พอให้เลิกจูบก็เปลี่ยนมาเป็นหอมฉันไม่หยุดแทน มันน่าตีนัก
“ไปนอนกัน พี่ง่วงแล้วอะ”
“ง่วงหรือเมาเอาให้แน่”ฉันยกมือคล้องคอพี่ท็อปที่เอาแก้มมาแนบหน้าฉันไม่ห่าง อุณหภูมิตัวพี่ท็อปร้อนทั้งที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ คงไม่พ้นฤทธิ์แอลกอฮอล์แหงๆ ฉันเห็นพี่ตัสส่งเบียร์ให้พี่ท็อปบ่อยจนน่ากลัว เวลาแป็บเดียวพวกเขากินกันหมดเกือบสองลัง กินโหดชะมัดเลย
“ทั้งสองอย่างเลย เอาไว้เก็บพรุ่งนี้เถอะนะ ไปนอนกัน”
“อย่ามาขี้ตู่ คนละห้องเถอะ!”เพราะพี่ท็อปยกมือมากอดเอวก่อนจะฉุดกระชากให้ฉันเดินตามแต่ฉันก็เอามือที่รั้งคอเข้าไว้ยื้อไม่ให้เดิน
“อะไรละ จะแต่งอยู่แล้วนอนด้วยกันแปลกตรงไหน ที่ทะเลก็นอน ที่โรงพยาบาลพี่ก็เฝ้าปริ้นข้างเตียงเลยนะ”
“เจ้าเล่ห์ ไม่เหมือนกันนิ ที่นี้ปริ้นมีห้องนอน ไม่เห็นต้องนอนด้วยกันเลย!”
“โห้ว…คนอุส่าไปช่วย ดูแลอย่างดี ทำเซอร์ไพรส์ให้ ถ้าแฟนจะใจแคบหนีไปนอนคนเดียวทิ้งพี่ให้เหงานอนเศร้าคนเดียวก็ไม่เป็นไร”
“ช่วงนี้พี่ท้อปดราม่าบ่อยไปนะ แฟนไม่รักเหรอ?”ฉันยังคงแกล้งโดยการทำหน้ากวนประสาทจนพี่ท็อปเริ่มงอนจริงๆ
“ชิ งอนจริงๆแล้วนะ- -^”
“อืม งอนไปเลย ไม่ง้อหรอก ง่วงแล้ว”
“เห้ย…เดี๋ยวดิ”ฉันแค่เอามือที่คล้องคอพี่ท็อปออกแล้วทำหน้างอนกลับกลายเป็นว่าเขามาดึงมือฉันไว้แทน
“นอนด้วยกันเถอะนะ ไม่ได้นอนกอดมาหลายคืนอล้วเนี่ย จะขาดใจ”
“เวอร์!!”
“จริงๆ เมื่อคืนไปเฝ้าพี่ก็นอนไม่หลับคอยดูปริ้นทั้งคืนเลย”สาบานว่าฉันต้องใจแข็งต่อไป แต่เพราะไอ้ประโยคที่ทำให้ฉันยิ้มอยู่ตอนนี้กับหน้าคนตรงหน้าที่กังเกลี้ยกล่อมฉันด้วยสีหน้าเยิ้มๆจะฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับการง้อฉันอยู่ทำให้ฉันใจอ่อนไปโดยปริยาย
“สัญญามาก่อน!”
“สัญญาอะไร…พี่ทำได้ทุกข้อเลย!”ฉันเห็นรอยยิ้มเปล่งประกายจากหน้าพี่ท้อปก่อนที่ฉันจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์นั้น
“ต่อจากนี้และตลอดไป ห้ามมองใครนอกจากปริ้น ห้ามรักใครนอกจากปริ้น และดูแลปริ้นแบบนี้ตลอดไปนะพี่ท็อป”
“…”พี่ท็อปเล่นอึ้งไปเลย เงียบไปด้วย
“ทำได้ไหม แล้วจะให้นอนกอดทุกวันเลย”
“ไม่ได้!”
“…ห้ะ?”
“ข้อแรกพี่อาจจะทำได้นะ แต่ข้อสองข้อสามคงไม่ได้”
“ทะ ทำไมล่ะ”ฉันถามด้วยอารมณ์ข่มน้ำตาที่รู้สึกจะไหลออกมาเมื่อเห็นหน้าตาและน้ำเสียงไม่รู้สึกรู้สาของคนตรงหน้า
“เพราะต่อจากนี้พี่จะรักปริ้นมากขึ้น ดูแลปริ้นดีขึ้น ปริ้นจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของพี่นับจากวินาทีนี้…อืมความจริงปริ้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของพี่ตั้งแต่วินาทีแรกแล้วนะ วันนั้นที่เราเจอกันวันแรกที่โรงแรม จนมาเจอที่รีสอร์ทและที่มหาลัยจนทำให้เรามาเป็นพี่ร้องรหัสกัน พี่เชื่อว่าทุกสิ่งที่ทำให้เราได้มาเจอและรักกันมันคือพรมลิขิต”
“ถ้าแบบนั้นพี่ท็อปก็เป็นพรมลิขิตของปริ้เหมือนกันนะ ถึงตอนแรกปริ้นจะอคติ แต่ปริ้นก็สนใจพี่ท็อปมาตลอด ไม่งั้นคงไม่สรรหาเรื่องมาจับผิดพี่ท็อปหรอก ตั้งแต่แรก!”
“ปริ้นก็เป็นพรมลิขิตของพี่ เราเป็นพรมลิขิตของกันและกันจากนี้และตลอดไปนะ พี่รักปริ้นที่สุด เจ้าหญิงของพี่”
“ปริ้นก็รักพี่ท็อปค่ะ เจ้าชายของปริ้นเซส^_^”ฉันยืดขาเพื่อให้หน้าไปประชิดริมฝีปากพี่ท็อปอย่างอบอุ่น เป็นจูบที่ฉันจะมอบให้แก่เจ้าชายที่แสนดีของฉันคนนี้และคนเดียวตลอดไป
บทส่งท้าย
แท่น แทน แทแดน แท่น แทนทาแดน เสียงเพลงงานแต่งเรียบชายหาด นี่เป็นงานฉลองงานแต่งงานของฉันเอง ตอนนี้ฉันกำลังเดินจับมือพ่อออกมายังงานหน้ารีสอร์ทพี่ท็อปที่ถูกจัดเป็นงานแต่งแสนน่ารักที่มีแต่คนสนิทของฉันกับพี่ท็อปอยู่ในงาน เป็นเพียงงานฉลองเรียบง่ายเฉยๆ เพราะเมื่อเช้าเราจัดงานแต่งที่โรงแรมพี่ท็อปไปแล้วแขกกว่าพันคนคิดดูสิฉันตื่นเต้นแทบบ้า
แต่ถึงตอนนี้จะมีแค่คนรู้จัก…แต่ฉันก็ยังตื่นเต้นอยู่ดีนิ แต่งงานนะ ครั้งแรก ครั้งเดียวในชีวิต!
ทางเข้าสำหรับงานมีช่อดอกไม้สีขาวใหญ่ประดับอยู่หลายสิบช่อ มีซุ้มดอกไม้นานาพันธ์ส่งกลิ่นหอมมากับลมทะเล ส่วนทางเดินเป็นการตกแต่งกลีบดอกไม้สีขาวแทนพรมในพิธี สองฝั่งเป็นเก้าอี้ของแขกในงานและตรงกลางเป็นเวทีเล็กๆ น่ารักที่มีพี่ท็อปยืนรอในชุดสูทเจ้าบ่าว ฉันยิ้มรับและเดินตามเด็กผู้หญิงผู้ชายที่โปรยดอกไม้ตามทางเข้าสู่งาน
“ตื่นเต้นเหรอลูก งานพิธีเมื่อกลางวันยังไม่ชินอีกเหรอ”พ่อกำลังจับมือฉันเดินเข้ามาในงานที่ถูกคนกำลังหันมาจ้องฉันทุกสายตา ทำให้ฉันกำมือพ่อแน่นไปใหญ่
“จะชินได้ไงค่ะ งานแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของหนูนะ”
“หึ หายใจเข้าหายใจออกช้าๆนะ พ่อไม่ทำให้ลูกสาวคนสวยขายหน้าแน่ๆ”พ่อพูดจบก็จับมือฉันแน่นขึ้น ด้วยส้นสูงและชุดทำเอาฉันต้องพยายามทรงตัวมากกว่าเดิมซะอีก
“พ่อฝากฟริ้นด้วยนะท็อป”พ่อยื่นมือฉันออกมาส่งวางที่มือพี่ท็อป ทำให้ฉันแอบมองหน้าพ่อที่มีน้ำตาคลอเล็กน้อย
“ครับผมจะดูแลปริ้นอย่างดีที่สุด”
“ปริ้นเซสดื้อ ซน ไม่ฟังใคร และยังไม่มีเหตุผลอีก ท็อปต้องเหนื่อยหน่อย…”
“พ่อ!”ฉันเรียกพ่อเสียงดังด้วยความเขินอาย โดยที่พ่อยังจับมือเราอยู่ทำให้คนในงานเริ่มมีเสียงหัวเราะ
“ผมทราบครับ”
“แต่ยัยปริ้นก็เป็นคนน่ารัก จริงใจ รักใครรักจริง แน่วแน่มั่นคง หนักแน่นนะท็อป พ่อเชื่อว่าท็อปเป็นคนดีจริง และจะดูแลลูกสาวตัวแสบของพ่อได้ดี”
“ผมรักปริ้นและจะดูแลปริ้นให้ดีที่สุดครับคุณพ่อ”
ฉันเม้มปากแน่นไม่คิดว่าคำพูดที่ดูเหมือนไม่ใส่ใจของพ่อกลับทำให้ฉันตื่นตันอย่างบอกไม่ถูก
“หนูรักพ่อนะ แม่ด้วย^^”ฉันพูดจบพ่อก็กอดฉันทีหนึ่งก่อนจะส่งยิ้มให้แม่ที่นั่งอยู่
“เอาละครับ ตอนนี้เจ้าสาวเจ้าบ่าวก็เข้าสู่พิธีเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปจะเริ่มพิธีสวมแหวนแต่งงานอีกครั้งนะครับ”
สิ่งที่พี่ปีย์ที่เป็นพิธีกรในงานพูดหมายถึงว่าตอนนี้ฉันกับพี่ท็อปใส่แหวนเพชรแปดกระรัตเม็ดบิ๊กอยู่นะสิ ซึ่งเป็นของเก่าแก่ของคุณแม่พี่ท็อป แต่จะให้ฉันใส่แหวนวงนี้ไปไหนมาไหนคงได้โดนจี๋แน่ๆพี่ท็อปเลยใช้แหวนที่ขอฉันแต่งงานในการให้ฉันใส่ในชีวิตประจำวัน แล้ววงใหญ่นี้ใส่เฉพาะออกงาน
ฉันยื่นนิ้วนางให้พี่ท็อปสวมแหวน พร้อมกับสวมแหวนให้พี่ท็อปเช่นกัน เป็นแหวนคู่ที่สั่งทำขึ้นโดยเฉพาะเป็นมงกุฎเจ้าหญิงกับเจ้าชายที่ไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าหมายความว่ายังไง
“นิวกับพี่ปีย์ขอเป็นตัวแทนกล่าวแสดงความยินดีแทนพี่ๆ ทุกคนนะคะ ขอให้พี่ท็อปและปริ้นเซสมีความสุขมากๆ นิวเชื่อว่าไม่มีใครง้อยัยปริ้นได้น่ารักเท่าพี่ท็อป และไม่มีใครจะงอแงใส่พี่ท็อปได้น่ารักเท่ายัยปริ้นอีกแล้ว ขอให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองเลยนะคะ คุณลุงคุณป้าฝากกระซิบบอก^^”
ฮิ้วววววววววววววววววว!
แล้วก็ตามสเต็ปพวกพี่ๆ เล่นโห้แซวเราทั้งงาน โดยมาครบเลยทั้งพี่มาร์ช พี่ธันเดอร์ พี่ยุนอา พี่ลิตเติ้ล พี่ตัส พี่ชะพลู พี่ซัน พี่สมาย พี่สกาย เล่นเอาฉันกับพี่ท็อปมองหน้ากันแล้วเขินกันใหญ่
“เจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวขอบคุณแขกหน่อยครับ”
“ก็ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานนะครับ เป็นคนสนิทกันอยู่แล้วและเห็นพัฒนาการคู่ของเรามาตลอด หลายคนทั้งช่วย ทั้งเป็นแม่ยกคู่เรามาตลอด ผมอยากขอบคุณจริงๆ ตอนนี้เราสองคนมาถึงก้าวแรกของการใช้ชีวิตคู่แล้ว ผมสัญญาว่าจะดูแลปริ้นเซสภรรยาของผมคนนี้จากนี้และตลอดไปจนถึงก้าวสุดท้าย จะไม่มีวันไหนที่ผมจะปล่อยมือจากเธอ ถึงแม้วันไหนผมจะไม่มีแรง หรือจะแก่เกินกว่าจะดูแลใครได้ แต่ผมสัญญาว่าผมจะดูแลเธอด้วยกำลังที่ผมมีทั้งหมดของผู้ชายคนนึงที่จะปกป้องผู้หญิงที่เป็นที่รักให้ได้”
“พี่ท็อป^^”
“พี่รักปริ้นนะ”และคำพูดอีกคำก็ทำให้น้ำตาฉันไหลในที่สุด มันเป็นความรู้สึกที่มันทั้งตื่นตัน ตื่นเต้น และมีความสุขจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลยนะ ต้องลองแต่งกันดูคุณจะเข้าใจ!
“ปริ้นขอบคุณพี่ท็อปที่ดูแลปริ้นมาตลอด ขอบคุณที่ง้อเด็กเอาแต่ใจคนนี้ ขอบคุณที่รักและอยู่ข้างกันนะ พี่ท็อปอาจจะไม่รู้แต่ว่าปริ้นรักพี่ท็อปมากเช่นกันนะ ตั้งแต่ปริ้นรู้ว่ารักพี่ท็อป มันมีแต่มากขึ้นทุกวันไม่มีน้อยลง และจะรักมากตลอดไป”
ฮิ้ววววววววววววว!
เสียงแซวดังพร้อมกับมืออุ่นของพี่ท็อปปาดน้ำตาข้างแก้มฉันบางเบา ฉันมีความสุข ฉันอบอุ่นจากนี้ไปฉันจะมีเขาที่ทำให้ฉันมีความรู้สึกนี้ต่อไปในทุกวัน ฉันเป็นผู้หญิงที่โชคดีจัง
“จูบเลย จูบเลย จูบเลย จูบเลย”แต่ความซึ้งยังไม่ทันจางหาย อาการเขินอายก็เริ่มก่อตัว พี่ๆรวมทั้งพ่อแม่ ของพวกเราก็ตะโกนขึ้นมาบนเวที และทำให้ฉันกับพี่ท็อปมองหน้ากันช้าๆก่อนที่หน้าพี่ท็อปจะเลื่อนมา เลื่อนมาจนจรดริมฝีปากฉัน
“รักนะ…เจ้าหญิงของพี่”
จูบที่วูบไหว วาบหวั่นอย่างทุกครั้งทำให้ฉันหลับตารับและแสดงออกถึงคำตอบที่ฉันจะบอกเขาว่าฉันก็รักเขามาเช่นกัน ถ้าเทียบรสจูบนี้เป็นรสชาติคงเป็นรสวานิลาที่หอมหวานอ่อนละมุนจนทำให้ฉันไม่สามารถสลัดออกจากห่วงความรู้สึกได้ พี่ท็อปทำให้ฉันรู้จักรักคนอื่น รู้จักส่งต่อความรู้สึก แชร์ความรู้สึกของกันและกันให้อีกฝ่ายรับรู้และช่วยตัดสินใจ ฉันยอมรับว่าการทำอะไรตัวคนเดียวมันก็ดี มันก็สบายใจ แต่พี่ท็อปสอนให้ฉันรู้ว่าการมีอีกคนที่ช่วยตัดสินใจและแก้ปัญหาไปด้วยกัน มันดียิ่งกว่า…ยิ่งกว่ามากๆ ^^
ฉันโชคดีที่มีเขาเป็นหุ้นส่วนชีวิตของฉันจากนี้ตลอดไป “ขอบคุณนะคะคุณสามี!”
(END)
ในที่สุดก็มีวันนี้จนได้นะพี่ท็อป
ฮือ! ไม่คิดว่าจะแต่งเรื่องนี้จบ เพราะหมดบทไปหลายรอบมาก
ผู้ชายดี๊ดีอย่างพี่ท็อปสมหวังกับหนูปริ้นแล้ว เย้!!!
เมื่อคืนดูพี่โป๊ปสามีตีตราแล้วแอบคิดถึงพี่ท็อปเบาๆ คนดีชั้นหนึ่งอยากได้ หล่ออีก 555
แฮปปี้ลงเอยกันไปอีกคู่แล้วโนีะ หวังว่าทุกคนจะพอใจกับพระเอกแสนดีคนนี้
หากมีคำผิดหรือการอัพที่ดอกสักพักไปบ้างขอโทษด้วยนะคะ
แต่ทุกคนก็ยังอยู่กันครบเลย(รึป่าวววว 5555)
หลังๆขอเม้นเยอะ เข้าใจกันใช่ป่าวอารมณ์เหนื่อยล้วนๆๆ งานเยอะปั่นนิยายนอนดึก
แต่ทุกคนก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย รอติดตามกันนะคะที่รักทุกคน
ตอนนี้มีนิยายที่กำลังอัพ mission hunter กับThe Devil Heart
และมีโปรเจคดี ๆๆ มาให้ทุกคน ฟิน จิ้น เลิฟสุดๆๆ แน่นอน
เจอกันเรื่องต่อไปนะคะ ขอบคุณที่อ่านกันจนจบและอยู่ด้วยกันตลอดๆ
เลิฟยู้วววววววววววววววว
ปาหัวใจใส่แก้มมมมมม ปย๊ง 5555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฟินสุดๆของที่สุด^^
เราติดตามทุกเรื่องและจะติดตามต่อๆไปนะคะ
ชอบอ่านเวลามีงานแต่งในนิยาย ฟินสุดๆๆ
หว่า จบแล้วอ่ะ
>///////////////////<
สนุกมากๆ เลยอ่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
^^
ผู้ชายแบบพี่ท็อปหาได้ที่ไหน ><