ตอนที่ 22 : Unexpected EP.20 - เรื่องร้าย เรื่องรัก
แล้วฉันก็เดินขึ้นห้องเรียนไปความสงสัยไคล้รู้ ก่อนจะเจอตัสปัญหาอีกตัว ยัยฟีย่าเปลี่ยนชุดมาเรียนพอดีลิฟต์ตัวเดียวกับฉันเลย โอ้ย!!!
เดี๋ยวนะ พี่สาว ฟีนิกซ์….ฟีย่า!!!!!!
แล้วคำพูดแปลกๆที่ฟีย่าบอก แววตาที่แสนจะคล้ายกันนี้!!
“ฟีย่า ฟีนิกซ์ ทำไมฉันไม่เอะใจเลยนะ”ฉันทักเธอทั้งที่เธอยืนไม่สนใจฉัน
“แหม! ฉลาดสักทีนะ^^”
“ไม่เกี่ยกับฉลาดหรือโง่หรอก เพราะพวกเธอสองคนไม่ได้จัดอยู่ในสิ่งที่ฉันสนใจต่างหาก ไร้สาระชะมัด”ฉันตอบก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ที่อยู่ชั้นหนึ่งพอดี
“งั้นหรอ หึ คิดงั้นก็ดี แล้วเธอจะเสียใจ”
คำพูดติดกวนประสาทนั้นทำให้ฉันมองเธอแบบอาฆาต มันกวนประสาท กวนสมอง กวนไปทุกสัดส่วนจนฉัน
เรียนไม่รู้เลยอะ ฉันมองยัยฟีย่าที่กดโทรศัพท์เล่นทั้งคาบด้วยสีหน้าเหยียดยิ้ม พออกพอใจ ก่อนจะหันมาเจอสายตาฉันเธอเลยเลื่อนโทรศัพท์ลงเก็บไป
รู้สึกไม่ดี รู้สึกไม่ดีแบบนี้มันคืออะไร!!
ครืด ครืด (นิวเยียร์)
ฉันขมวดคิ้วให้หน้าจอโทรศัพท์เมื่อไลน์ยัยนิวเด้งขึ้นก่อนจะตาลุกกว้างแบบตกใจ
รูปนี้มัน!!!!!!!
รูปตอนที่ไอ้บ้าฟินิกซ์ไปเรียกฉันไปคุยแล้วเอาหน้ามาใกล้ๆจนคล้ายว่าเราจูบกันนะสิ แล้วคือรูปพวกนี้มันมีข้อความในภาพ “ดาวมหาลัยฉาว!!!”
ฉันหันไปทางคนในห้องที่บางคนเริ่มหยิบโทรศัพท์ดูแล้วหันมองฉันแปลกๆ อย่าบอกนะว่า….ถูกส่งหาทุกคนงั้นหรอ!
“ยัยฟีย่า”ฉันกำปากกาแน่นก่อนจะมองเธอที่หันหางตามามองฉันอย่างพอใจ
พี่ท็อป…พี่ท็อป!! อยู่ดีๆฉันก็มีชื่อนี้เด้งมาในหัวสมองเป็นคนแรก ให้ตายเถอะวะฉันโทรหาเค้าไม่ติดเลย ทำ
อะไรอยู่ก็ไม่รู้ แล้วความคิดตอนนี้คือฉันนั่งไม่ติดแล้ว ลุกจากห้องที่อาจารย์กำลังสอนอยู่จนยิ่งทำให้เป็นเป้าสายตา ฉันไม่แคร์ว่าใครจะคิดยังไง แต่คนเดียวที่ไม่ยอมรับสายตอนนี้มันไม่ปกติแล้วละ
เค้าต้องเห็นแล้วแน่ๆ แล้วฉันคิดว่าเห็นเป็นคนแรกๆเลยด้วย ขาฉันไวพอๆกับความคิดนั้นละ ก้าวมาถึงตึกดนตรีสากลอย่างรวดเร็วและนแน่นอนว่าตลอดทางฉันโดนมองด้วยสายตาของคนในมหาลัย สื่ออินเตอร์เน็ต
มันน่ากลัวแบบนี้เอง!
G803 ฉันมองป้ายห้องที่เป็นห้องเรียนของพี่ท็อปที่เค้าส่งตารางเรียนมาในไลน์ฉัน ก่อนจะมองผ่านกระจก
เล็กๆตรงประตูเพื่อมองหาพี่ท็อป
คนเยอะแบบนี้ ฉันจะเจอไหมเนี้ยT^T
แอ๊ดดดด
แล้วเหมือนสวรรค์จะช่วยฉันบ้างเมื่อมีคนเดินมาเปิดประตูแล้วนั้นคือพี่มาร์ช!!
“อ้าวน้องปริ้น มาหาไอ้ท็อปสินะ”
“พี่มาร์ช พี่ท็อปอยู่ในห้องเรียนหรือเปล่าค่ะ”
“ไอ้ท็อปมันเห็นรูปนั้น แล้วมันก็ออกไปตั้งสักพักแล้วอะ ดูจะอารมณ์ไม่ดีด้วย”
“ไม่จริงนะคะ รูปนั้นมันเพียงแค่มุมกล้องT^T”คือฉันก็ไม่รู้จะแก้ตัวทำไม แต่พี่มาร์ชดูไม่ใส่ใจรูปนั้นเลย
“พี่เชื่อนะ เป็นดาวมหาลัยใครๆเค้าก็อิจฉาแหละ เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นได้ แต่ไอ้ท็อปดูจะหงุดหงิดนะ ลองไปที่ชมรมสิ มันน่าจะไปที่นั้นนะ เห็นว่าอยากอยู่เงียบๆ”
“ค่ะ ขอบคุณนนะคะ”
แล้วฉันก็ต้องรีบเดินขึ้นไปชั้น10ที่เป็นห้องชมรมดนตรีของพี่ท็อป ก่อนจะเห็นว่าไฟมันปิดสนิท บ้าเอ้ย!! ไม่มีใครอยู่หรอ…
“น้องปริ้น!”แล้ววันนี้ฉันก็เหมือนดวงดีในความโชคร้ายอีกครั้งเมื่อพี่ลิตเติ้ลเปิดประตูออกมาจากห้องชมรม
“พี่ลิตเติ้ล”
“มันเกิดอะไรขึ้น พี่เห็นข่าวนั้นแล้วนะ”
“พี่ลิตเติล ปริ้นโดนแกล้งค่ะ แต่จะอธิบายที่หลังนะคะ ตอนนี้เห็นพี่ท็อปไหมค่ะ”
“ท็อปหรอ โน่นไง!”แล้วพี่ลิตเติ้ลก็ชี้มือไปทางระเบียงชั้น10ที่เห็นเงารางๆของคนที่ฉันหา
“ขอบคุณนะคะ^^”ฉันยกยิ้มให้พี่ลิตเติ้ลก่อนจะเดินไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อพี่ลิตเติ้ลดึงมือไว้
“ท็อปกำลังโมโห พี่ว่ารอให้ใจเย็นแล้วค่อยคุยไหม พี่รู้จักท็อปดี ส่วนเรื่องข่าวนั้นพี่สั่งให้แฟนให้ITของมหาลัยกำลังตรวจและลบภาพนั้น พี่เชื่อว่าปริ้นไม่ได้ทำแบบนั้น”อยู่ดีๆฉันก็เผลอถอนหายใจหน่วงๆทิ้ง พวกพี่ๆเค้าดีจังที่เชื่อฉันแต่ทำไมคนที่อยู่ตรงระเบียงถึงเป็นแบบนี้นะ
“ขอบคุณนะคะพี่ลิตเติ้ลแต่ไม่ต้องตรวจสอบหรอกค่ะว่าใคร ปริ้นรู้ว่าใคร”
“ใคร บอกพี่มา ทำเรื่องแบบนี้มันไม่ถูกต้อง!”
“อย่าให้พูดเลยค่ะ มีเรื่องกันไปเรื่องก็ไม่จบไม่สิ้นปริ้นไม่อยากต่อเวรต่อกรรม”ฉันพูดแล้วมองพี่ลิตเติ้ลที่จ้องมองและคิดตาม
“อย่าบอกนะว่า…น้องฟีย่าหรอ!!”
“นั้นละคะ ผู้ชายในภาพคือน้องชายฟีย่าที่ตามจีบปริ้น แต่ปริ้นไม่เล่นด้วย แล้วเมื่อเช้าฟีย่าก็พูดจากับปริ้นแปลกๆ พอมาถึงคณะน้องชายเธอก็มาลากปริ้นไปคุย แต่ปริ้นก็เพิ่งรู้ว่าเค้าเป็นพี่น้องกันเมื่อเช้านี้เองค่ะ”
ฉันตอบพี่ลิตเติ้ลที่ดูจะช็อคไปสักพัก คงไม่คิดว่ายัยฟีย่าจะกล้าทำอะไรแบบนี้
“ไม่น่าเชื่ออะ…เอาเป็นว่าเรื่องรูปพี่ให้แฟนจัดการแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ ส่วนเรื่องตาคนนั้นอะ ปล่อยเค้าไว้สักพัก เดี๋ยวคิดได้คงจะโอเคขึ้นเอง นี่คงตกใจ”
“ค่ะ”
“งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ”
“ค่ะ”ฉันตอบพี่ลิตเติ้ลทั้งที่สาตตาจับจ้องที่พี่ท็อปที่ยืนมองไปทางนอกระเบียง
แล้วก็เชื่อเถอะว่าฉันนั่งรอพี่ท็อปที่หน้าชมรมเกือบสองชั่วโมง โดยที่เค้าไม่รู้เลยว่าฉันกำลังนั่งมองเค้าที่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น ไม่คิดจะหันมามองสักนิดเลยด้วยซ้ำว่าใครรออยู่ จนสัญญาณหมดคาบเรียนทำให้พี่ท็อปเหมือนได้สติ
“พี่ท็อป!”ฉันเรียกเค้าที่เดินก้มหน้ากำลังเข้าสู่ตัวตึกหลังที่ออกไปนอกระเบียงนานสองนาน
“ปริ้น….”สายตาสับสนดูจะถามว่าฉันมาได้ยังไง มานานหรือยัง หรืออะไรประมาณนั้นแต่เค้าก็เงียบแล้วไม่ยอมมองฉันเลย
“มันไม่ใช่นะ ไม่ได้เป็นแบบในรูป”
“อืม”
“รูปนั้นมันแค่มุมกล้องจริงๆนะ เด็กนั้นเป็นน้องฟีย่า ชื่อฟีนิกซ์…ตามตื้อปริ้นตั้งแต่มัธยม แต่ปริ้นไม่ได้เล่นด้วย แล้วก็เพิ่งรู้ด้วยว่าหมอนั้นเป็นน้องชายฟีย่า”
“….”
“พูดไปได้ยินไหมเนี้ย ทั้งหมดมันเป็นแผนของคนที่ยากให้เราทะเลาะกันนะ”
“….”
ซึม นิ่ง มึน ตึง คงบอกสถานการณ์ที่พี่ท็อปเป็นได้ดีที่สุด พี่ท็อปพยักหน้ารับแล้วก็เดินนำฉันออกมาจากตึกโดยที่ดุ่มๆตรงไปที่รถก แล้วฉันก็เดินตามมาเงียบๆ โดยสายตาคนรอบข้างก็มองมาแล้วยิ่งตอนนี้ยิ่งเป็นเวลาเลิกเรียนฉันเลยถูกมองมากเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่แคร์ไง คนที่แคร์เค้าเดินไม่สนใจฉันสักนิด!
“พี่ท็อป…พี่ท็อป พี่ท็อป”ฉันตะโกนเสียงดังและหยุดเดินเมื่อเห็นพี่ท็อปไม่พูดอะไร ถึงแม้จะมีคนมองตรงทางเดินที่จะไปลานจอดรถแต่ฉันก็ไม่แคร์ ฉันเน้นชื่อครั้งสุดท้ายเพื่อดูว่าเค้าจะหยุดเดินไหม และนั้นก็เปล่าประโยชน์คนเดินนำชะลอเท้าก็จริงแต่ก็ยังก้าวต่อ
เออ…ดี ฉันก็เหนื่อยจะอธิบายละ ไม่อยากฟังก็ไม่ต้องฟัง!!
ฉันหันหลังเดินตรงข้ามกับพี่ท็อป รู้ว่าเค้าจะไม่ง้อแล้วฉันก็ไม่สนใจ ก่อนจะหยิบไอโฟนโทรหายัยนิวเยียร์
“ไอ้ปริ้น ไอ้ปริ้นทางนี้”แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้กดโทรออกเสียงยัยนิวก็ตะโกนอยู่ตรงข้ามกับฉันพร้อมกับพี่ปีย์ที่ตามมา
“นิว….”
“เลิกทำหน้าเศร้าแล้วพูดมาว่าฟีนิกซ์ทำไมหมอนั้นมาอยู่ที่นี้ได้”ยัยนี้ถามฉันไม่สนใจใครเหมือนที่ฉันก็ไม่ได้แคร์ ก่อนที่จะถูกพี่ปีย์ลากเรามาที่หลังตึกดนตรีสากลที่เงียบและไม่มีคนอยู่
“หมอนั้นเป็นน้องฟีย่า สองคนนี้กำลังปั่นให้ฉันกับพี่ท็อปทะเลาะกัน จบปะ”ฉันพูดประโยคที่รวดรัดจนทำให้นิวเยียร์กับพี่ปีย์อึ้งไปพักใหญ่
“เออวะ ฟีนิกซ์ ฟีย่า ทำไมนึกไม่ถึงวะ แม่งร้ายเซตคู่”ยัยนิวบ้าแล้วก็จิกตาแค้นๆเมื่อคิดออก
“แล้วไอ้ท็อปละน้องปริ้น มันว่าไง เห็นรูแก็เดินออกไปไม่ฟังใครเลย”
“งี่เง่าค่ะพี่ปีย์ ไม่เคยเชื่อปริ้นยังไงก็ไม่เชื่อแบบนั้น”ฉันว่าพร้อมกันผ่อนลมหายใจเซงๆ คือตอนนี้โกรธพี่ท็อปนะที่งี่เง่าไม่ชอบฟังใคร แต่อีกใจก็เข้าใจแหละว่าเค้าแคร์ฉันมาเลยน้อยใจเป็นธรรมดา แต่หงุดหงิดเป็นไงทั้งโดนมองสายตาแบบนั้นแล้วไหนจะน้อยใจพี่ท็อปเหมือนกันที่ไม่เชื่อกัน เลยยังไม่อยากคุยด้วย
“เอ้า!! แกควรรีบเคลียร์นะเว้ยปริ้น ก็รู้อยู่ว่าพี่ท็อปน้อยใจแก”
“รู้ แต่ก็น้อยใจเป็นเหมือนกันปะ อุส่ารีบมาหาแต่ไม่ยอมฟัง น่าโมโห”
“พี่ปีย์ เอาไงดีค่ะ”แล้วยัยนิวก็หาแนวร่วมเมื่อสับสนกับเรื่องของฉันจนหาทางแก้ไม่ได้
“พี่ว่ากลับคอนโดกันก่อนไหม ไอ้ท็อปคงไปที่นั้น อีกอย่างไอ้มาร์ชกับลิตเติ้ลก็กำลังช่วยกันให้รูปพวกนั้นหายไปด้วย ทางที่ดีเรากลับกันไปตั้งหลักก่อนดีกว่า”
“จริงด้วยแก ไปปริ้น ไปหาพี่ท็อปกัน!”
แล้วก็ต้องเป็นแบบนั้น เพราะสองเสียงมากกว่าหนึ่งเสียงยังไงละ
ก็จริงที่ฉันต้องอธิบาย จริงที่ฉันควรพูด แต่ยังไงละ มาถึงห้องพี่ปียน์กับยัยนิวก็บอกให้ฉันเข้ามาคุยส่วนตัวกับพี่ท็อป แต่เค้าก็อยู่ในห้องเปิดเพลงเสียงดังไม่ได้สนกันเลย แล้วฉันก็ไม่กล้าเข้าไปในห้องส่วนตัวเค้าด้วย
แต่เดินวนไปวนมาแบบนี้มันอึดอัดเป็นบ้าเลย โวะ!!
ฉันตัดสินใจไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าล้างตาก่อนจะทำใจให้เย็นเพื่อไปคุยกับพี่ท็อปอีกครั้ง มองหน้าในกระจกแล้วเซงชะมัดเลย ไม่ผิดนะ ไม่ได้ผิดสักนิด ทำไมต้องมาวุ่นวายเพราะยัยฟีย่า กับไอ้บ้าฟีนิกซ์ด้วยเนี้ย อย่าให้ป่วนกลับนะจะเอาให้แสบเลยคอยดูเถอะ!
แล้วก็อีหรอบเดิม พอมาถึงหน้าห้องพี่ท็อปฉันก็ไม่กล้าจะเคาะเรียก เดินไปเดินมาตัดสินใจสักพักถึงได้รวบรวมความกล้าเม้นปากจนเน้นและยกมือไปสัมผัสประตู แต่ว่า…
แอ๊ดด เค้าเปิดมาพอดีนะสิ!!
ฉันและพี่ท็อปมองกันสักพัก ด้วยความนิ่งเข้าครอบคลุมบรรยากาศทั้งหมด เสียงเพลงในห้องทำให้ฉันรู้สึกปวดหูนิดหน่อยเพราะมันดังแบบกระแทกออกมานอกลำโพง พี่ท็อปมองนิ่งก่อนจะเดินเข้ามาในห้องทั้งที่เปิด
ประตูทิ้งไว้
ยังไง…คือเค้ามาเปิดเพื่อจะออกไปข้างนอก หรือเปิดเพื่อให้ฉันเข้าไป?
“พี่ท็อป”ฉันพูดแล้วเดินกล้าๆกลัวเข้ามา ก่อนจะปิดประตูเพราะแอร์ในห้องที่เค้าเปิดอยู่
“…”
“อย่าเงียบดิ มาคุยกัน”
“….”แล้วเค้าก็เดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือก่อนจะยืนพิงแล้วหยิบหนังสือที่วางอยู่มาอ่านแบบไม่สนใจฉัน
“นี่!!!”
“…”เวลาผู้ชายงอนมันน่าหมั่นไส้นะ อยากจะปาด้วยกีต้าร์ข้างประตูนี้ให้หัวแตก - -^
“อะไรเอ่ย…กำลังงอน”พี่ท็อปบทจะไม่ฟังทีไรก็ทำตัวเป็นเด็กตลอดเลย งอนๆ ๆ ๆ เล่นตัวชะมัด
“…..”
“อะไรเอ่ย ไม่ยอมพูดด้วย=.=!!”
“…...”
“อะไรเอ่ย กำลังเข้าใจผิด”นี้ใจเค้าไม่คิดจะหันมามองหน้าฉันสักนิดเชียวหรอ ดี! เดี๋ยวจะกลับไปหาฟีนิกซ์ให้น้ำตาเช็ดหัวเข่าเลยคอยดู
ฉันแค่คิดเล่นๆนะ ไม่มีทางหรอก กลับไปหาหมอนั้นยอมง้อพี่ท็อปจนตายดีกว่า=//=
ฉันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่เนี้ย ฮึ่ย!!!
“พี่ท็อป!!”
“…..”
“อะไรเอ่ย ไม่รู้ตัวว่าปริ้นรักเค้า….มากซะด้วย!”ไม้ตายสุดท้ายแล้วนะ ถ้าอีกประโยคไม่หันมา จะไม่ง้อจริงๆแล้วนะ =_=!!!
“…..”
“นี่ไม่เคยง้อใครเลยนะ อีกอย่างเรื่องก็ไม่จริง พี่ท็อปก็น่าจะรู้จักปริ้นดีนิ อย่างงอนน่า พอรู้เรื่องรีบไปหาคนแรกเลยรู้ตัวไหม สำคัญขนาดนี้คิดไม่ได้อีกไง”
“….”แม้จะพูดยืดยาวก็ไม่ได้ทำให้คนที่ยืนอ่านหนังสืออยู่ข้างๆหันมาสนใจเลยสักนิ
เออสิ ทำแบบนี้จะจำไว้เลย จำไว้!!!!!
ถ้าหากว่าไม่หันมาหลังจากจบประโยคนี้ละก็นะ…ไม่ง้อ ไม่คุย ไม่ยุ่งละจริงๆ
“อะไรเอ่ย เป็นแฟนกันนะ นะคร๊าบบบบ พี่ท็อป ง้อๆๆ ดีกันนะ^^”ฉันพูดพร้อมกับกระตุกแขนเสื้อเค้าให้หันมา พร้อมกับยื่นหน้าไปข้างแก้มด้วยอาการง้อสุดพลัง จนเห็นว่าเค้ากำลังข่มไม่ให้ยิ้ม ไอ้ขี้แกล้งนิ ชอบแกล้งตลอดเลยอะ!
“รอตั้งนานแล้วคำนี้ เล่นลิ้นอยู่ได้^O^”ไอ้คนกวนประสาทยิ้มเยาะหันมาจนได้! ทีแบบนี้ละรีบหันมาเลย
“ไม่ได้โกรธครับ แค่น้อยใจ แค่อยากให้ง้อ เข้าใจไหมครับคุณแฟน^^”พี่ท็อปวางหนังสือในมือลงที่โต๊ะก่อนจะดึงฉันไปอยู่ตรงหน้าแล้วจับมือฉันไปคล้องคอพล่างมองฉันด้วยสายตาอบอุนที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้รับมา แล้วมือเค้าก็กระชับเอวฉันให้ประชิดตัว
คนบ้าอะไรอบอุ่นชวนฝันได้แบบนี้ แล้วฉันก็ยิ้มออกจนได้เมื่อเค้ากอดฉันพร้อมหมุนไปมาเพื่อให้รู้ว่าเค้าไม่ได้งอนไม่ได้โกรธแล้ว พี่ท็อปนี้น่า!!!
^^
“กว่าจะมาง้อได้นะ รอตั้งนาน”พี่ท็อปว่าเสร็จก็หอมฉันจนได้
“ไม่มีอะไรจริงๆนะ จริงๆ”ฉันย้ำจนเค้ายิ้ม
“รู้แล้ว ไอ้มาร์ชกับเติ้ลโทรมาบอกว่าใครเป็นคนทำแล้ว”สีหน้าดูไม่ดีไปนิด แต่เค้าก็ยิ้มมาให้ฉัน
“….”
“ฟีย่าสินะ”
“….”
“คิดไว้แล้วละ เพราะเธอเป็นคนส่งรูปนั้นให้พี่ก่อนรูปจะโดนปล่อยอีก”
“ห้ะ!!”
“ที่โกรธอะ แค่รู้สึกดูแลเปลี่ยนไม่ได้สักครั้งเฉยๆ โกรธตัวเอง”พี่ท็อปมองฉันเศร้าๆอีกแล้ว
“อย่าคิดมากสิ แฟนปริ้นหล่อมากนะเวลายิ้ม^^”คำพูดที่ไม่คิดว่าจะออกจากปากตัวเองทำเอาพี่ท็อปยิ้มแก้มปริเลย
แล้วฉันก็ทำให้เค้าตกใจตรงที่ยื่นหน้าไปใกล้ริมฝีปากเค้า เรามองกันแบบใกล้มากๆจนหัวใจเราดังประสากัน แล้วฉันก็คิดว่าไม่ไหวแน่เลยผละตัวออกดีกว่า แต่แล้วพี่ท็อปก็ยื่นหน้ามาชิดจนฉันหนีไปไม่ได้และก็ต้องตอบ
รับจูบหวานๆนั้นกลับเมื่อเค้าส่งมา
“อื้อ!!”ฉันฝืนตัวที่เขย้งอยู่ ให้รู้ว่าทั้งเมื่อยและหายใจไม่ออกจนพี่ท็อปยอมปล่อยแล้วดึงไปกอดอย่างหมั่นเคี้ยวอีกครั้ง
“แล้วสรุปเรายังต้องไปรีสอร์ทไหมค่ะเนี้ย”
“ไปสิ ก็รอให้ง้อเสร็จก่อนไงค่อยไป>//<”
“เจ้าเล่ห์ตลอด!!!”
“รักปะละ”ดูเค้าสิ หน้าฉันแดงจนจะระเบิดแล้วเมื่อเค้ายังแกล้งฉันไม่เลิก
“ยังจะมาถามอีก รักสิ รัก รักค่ะ”คำพูดย้ำชัดหนักแน่นทำให้พี่ท็อปยิ้มไม่หุบอีกครั้ง
“ถ้าในโลกนี้มีคำอะไรที่มากกว่าคำว่ารักปริ้น พี่คงพูดคำนั้นให้ฟัง แต่เมื่อมันไปมี เพราะงั้นจะใช้คำที่ซ้ำคนอื่นแล้วกัน รักนะครับ คนดี รักที่สุด”
แล้วเค้าก็ย้ำมันให้ฉันฟังก่อนจะยื่นหน้าอีกใกล้อีกแล้ว แต่ฉันก็หยิบหนังสือมาบังเพราะความเขินอาย
“ยังไม่ได้จัดกระเป๋า ไปจัดกระเป๋าก่อนนะ!!!”
“ก็ได้ มีเวลาให้สวีทอีกเยอะนิเนอะ ริมทะเลและสองเรา^^”
อร๊าย!!!!! บอกทีว่าทำให้ไม่เขินมันทำยังไง….ทำยังไง!!!!!

ฟินไหมค่ะ หวานไหม
แต่งไปก็เขินเองไป ตลก 555555
หวานจริงแบบอมยิ้มตอนแต่งเหมือนคนบ้า ^^
พี่ท็อปน่ารัก ปริ้นเซสก็จัดเต็มง้อกำลังสิบ น่ารักสุด ๆ
ใกล้จะจบแบ้ววว รักกันได้สักทีคู่กัดคู่นี้555
แต่ตัวมารยังไม่จบนะเซ้ เอาใจช่วยกันต่อ
จะเจออะไร ขอเม้นหน่อยได้ปะ
งานเยอะ เรื่องแยะค่ะ ปวดหัว
กว่าจะบิ้วให้แต่งแนวรัก ๆ นี้นานเลย 55555
ลูเยิฟจ้า ขอกำลังใจเจ๊นิดนึงน๊าาาาา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น่าร้ากกกกกก
ปริ้นง้อซะสุดๆพี่ท๊อปนี่ก็เหลือร้ายจริงๆ >\\\<
เจิมด่วนๆ
นึกว่าโกรธปริ้นจิงๆซะอีก
ตามอ่านของไรเตอร์ทุกเรื่องเลย
หนุกทุกเรื่อง น่าติดตามมากกก
เม้นโลดดดดดดดด ชอบๆๆๆๆๆๆ
อย่าบอกน่ะว่ามีคนแอบบถ่ายรูปแล้วเอาไปให้พี่ท๊อปดู
เรื่องนี้ตัวร้ายเยอะจุง รออ่านตอนต่อไปนะคะ
เพิ่งเริ่มอ่านวันนี้ อ่านทันแล้วค่ะ ใช้เวลาวันเดี่ยว
ฟีนิกซ์&ฟีย่า -*-โกรธค่ะโกรธ