คุณเคยเป็นโมเม้นแบบนี้ไหม รู้สึกจุกๆที่ลำคอ ไม่รู้ว่าควรทำหน้าหรือเริ่มต้นพูดอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรอยู่ต่อหรือเดินหนีไป แล้วยิ่งเห็นหน้าของคนที่ทำให้อาการแบบนี้เกิด ยิ่งรู้สึกว่าขอบตาเริ่มร้อนคล้ายว่ามันกำลังเออล้นไปด้วยน้ำตา คือตอนนี้ฉันเป็นและฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงในสถานการณ์นี้ดี
“ปริ้น คือ ไม่ใช่อย่างที่คิดนะ พอดีฟีย่าสะดุดกิ่งไม้พี่ท็อปเลยมารับไว้แล้วเราเลย….”ฟีย่าเริ่มพูดแบบเขินอายก่อนจะหยุดคำพูดแล้วยกมือลูบปากไปมา
แต่คำพูดกับการกระทำมันสวนทางกันอย่างที่สุด ภาพที่เห็นคือเธอเขย่งตัวไปจูบพี่ท็อปแล้วจะมาบอกว่าล้มเนี้ยนะ หึ ตลกชะมัด!
“บอกทำไม ฉันยังไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย”ฉันเอ่ยเสียงนิ่ง และเลือกมองแต่ยัยฟีย่าที่ยังยิ้มชอบใจ ไม่รู้ทำไมฉันถึงไม่กล้ามองพี่ท็อปตอนนี้ เป็นความรู้สึกที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ
“เออ…ปริ้น พี่….”
“งั้นฉันไม่กวนแล้วนะ ตามสบาย”ฉันขัดคำพูดพี่ท็อปที่เหมือนว่าเค้าจะเพิ่งเรียกสติกลับมาได้หลังจากที่นิ่งไปสักพักใหญ่
“ปริ้นฟังก่อนสิ ปริ้น”พี่ท็อปเดินตามฉันจะมาถึงห้องโถง ด้วยสีหน้าไม่ดีและเค้าก็ดึงแขนฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าห้องนอน
ฉันไม่อยากจะเงยหน้าขึ้นมองเค้าตอนนี้เลยแม้สักนิ ไม่รู้สิ รับรองเลยว่าฉันต้องร้องไห้แน่ๆ มันเสียความรู้สึกจนบรรยายไม่ได้ มันผิดหวังไปหมดทุกอย่าง ทำไมเค้าถึงได้ทำกับฉันแบบนี้ละ?
อ่า…เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนิ ทำไมเค้าจะทำไม่ได้ ฉันลืมข้อนี้ไปได้ยังไง!
“ฟังก่อนนะ สิ่งที่เห็นมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น”
“…แต่มากกว่านั้นหรือไงค่ะ แค่นี้ก็เยอะเกินแล้วนะ”ฉันตอบเสียงสั่นแต่ไม่มากและควบคุมน้ำตาไม่ให้ไหล
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะปริ้น ฟีย่าเค้าจะล้มพี่เลยรับตัวเค้าไว้ แต่เค้ากับดึงพี่ไป…..”
“…..”ถึงจะรู้ว่ายัยนั้นมันเป็นคนยังไงแต่ฉันก็โกรธที่ทำไมเค้าไม่ผลักเธอออก หรือทำอะไรที่หลบเลี่ยง หรือว่าลึกๆเค้าก็ชอบฟีย่ากันแน่
ผู้ชายก็เป็นแบบนี้หมดหรือเปล่า ของฟรีอยู่ตรงหน้า คงไม่มีใครโง่ไม่เอาหรอกจริงไหม แล้วยัยนั้นทั้งดูเรียบร้อยน่ารัก ใครๆก็สนใจอยู่แล้ว!
“เรื่องมันเกิดขึ้นเร็วจนพี่ตั้งตัวไม่ถูก แล้วปริ้นก็มาพอดี พี่ยิ่งช็อค! คือมันไม่ได้เป็นแบบนั้น”
“…..”
“ได้โปรด อย่าเงียบแล้วหันหน้าหนีแบบนี้ปริ้น พี่ขอร้อง”
“ปล่อยเถอะ ปริ้นไม่ได้เป็นอะไร พี่ท็อปจะจูบกับใครนั้นมันก็เรื่องของพี่ท็อป ปริ้นโอเค เห็นไหม ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย^^”ฉันยิ้มแสดงความรู้สึกที่ตรงข้ามหัวใจ ก่อนที่พี่ท็อปจะเริ่มปล่อยมือที่จับและมองฉันอย่างผิดหวัง
ทั้งที่ฉันควรจะบอกเค้าแบบนั้น กลายเป็นเค้าที่ทำ เรื่องนี้มันบ้าที่สุดเลยจริงๆ
“ขอตัวไปนอนนะคะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า อ่อ ยัยนั้นรออยู่ที่หน้าประตู คุยกันเสร็จก็อย่าลืมล็อคให้สนิทนะ”ฉันพูดพร้อมเบนสายตาไปยังเงาผู้หญิงที่เดินไปเดินมา อยู่หน้าห้องก่อนที่จะเดินก้าวเข้าห้องด้วยความหนื่อยล้า
แปลกนะทั้งที่คอว่าคงจะร้องไห้ แต่พอเดินเข้าห้องมากลับทิ้งตัวลงบนเตียงเฉยๆ ฉันยกมือจับที่หัวใจอย่างอ่อนล้า นี้ฉันเป็นอะไรกันแน่นะ พี่ท็อปจะจูบกับใครทำไมฉันต้องเสียใจด้วย ความจริงมากกว่าจูบฉะนก็ไม่ควรจะรู้สึกอะไรด้วยซ้ำ แค่พูดว่าขอจีบไม่ได้แปลว่าเค้ารักฉัน หรือฉันรักเค้าสักหน่อย มันต้องไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่….เลิกคิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้แล้วหลับตานอนซะปริ้นเซสT^T
-8.00-
พวกเราทุกคนประจำการอยู่ที่ลานกิจกรรม ก่อนจะเดินตามพี่โปเต้ไปยังโรงเรียนบนดอยที่ห่างจากรีสอร์ทพอสมควร ตอนนี้รายคนต่างแยกย้ายไปประจำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงฉันที่กำลังทาสีพนังโรงเรียนอยู่กับยัยนิวและพี่ปีย์พี่ธันเดอร์ ส่วนพี่ท็อปเค้าช่วยพี่ยุนอาอีกด้านของโรงเรียนและแน่นอนว่ามีฟีย่าตามประกบอยู่ไม่นาน นั้นยิ่งทำให้ฉันหัวเสียงและหงุดหงิดแต่ฉันก็ไม่ได้พูดหรือแสดงอาการอะไร
“น้องปริ้นกับไอ้ท็อปเป็นอะไรกันหรือเปล่าครับ เห็นแปลกๆตั้งแต่กินข้าวเช้าแล้ว แยกกันนั่ง ไม่คุย ไม่มอง ไม่….”
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”ฉันแสยะยิ้มให้พี่ธันเดอร์ก่อนที่บรรยากาศจะเงียบลงอีกครั้ง แต่คงเป็นฉันคนเดียวที่เงียบ เมื่อพี่มาร์ชเดินมาสมทบกับพวกพี่ธันเดอร์ตรงเราก็เสียงเพราะเสียงหัวเราะร่าเริงของยัยนิวกับพี่ปีย์
ส่วนคนอื่นๆตอนนี้ต่างแยกไปช่วยทำในโรงเรียนส่วนต่างๆ เช่นซ่อมไฟ ซ่อมคอม บำรุงรักษาโรงเรียนให้ได้มากที่สุด คงจะเดากันออกใช่ไหมว่าที่นี้กันดานมากแค่ไหน อยู่บนดอยที่ไกลแสนไกลขนาดนี้
“ปริ้น แกโอเคไหม แกแทบไม่ยิ้มเลยนะเว้ย”ไอ้นิวที่ทาสีข้างๆเอ่ยถามฉันหลังจากที่เสียงคุยและเสียงหัวเราะยังคงดังไม่หยุด
ฉันเล่าให้ยัยนิวฟังหมดตั้งแต่ตอนกินข้าวและละ เธอก็อึ้งๆไปแต่ก็บอกว่าเป็นแผนฟีย่า ซึ่งทั้งคืนฉันก็นอนคิดแบบนั้นมาทั้งคืนและคิดว่าเช้านี้พี่ท็อปจะมาตามง้อ แต่มันก็ผิดจากที่ฉันคิดไปไกลเลยเมื่อเค้ายังคงมีฟีย่าตามติดไม่ห่าง สงสัยเมื่อคืนเค้าคงปรับความเข้าใจกันจงลงเอยไปแล้วละมั้ง
“โอเคดิ มีอะไรตรงไหนไม่โอเควะ”ฉันทำหน้าปกติ โดยที่มือยังคงทาสีต่อ
“เนี้ย โคตรไม่โอเคเลย! คบกันมากี่ปีวะ คิดวู่ไม่ออกไง”
“บ่นอะไรของแกเนี้ยนิว ทำงานไป ทำงาน!!”ว่าแล้วฉันก็หันไปฉีกยิ้มให้นิว แต่หางตากลับไปเห็นภาพที่ทำให้ฉันตอบทำตัวไม่ถูก เมื่อยัยฟีย่ากำลังยกผ้าเช็ดหน้าซับหน้าพี่ท็อปอยู่ และเมื่อพี่ยุนอาเห็นก็เหมือนจะเดินมาขัดระหว่างสองคนนั้นจนพี่ท็อปรีบขยับออก
“เจ็บเลยไง!!”เสียงยัยนิวเรียกสติฉันให้กลับสนใจถังสีกับแปรงทาสีต่อ
“…..”ไม่น่ามา ไม่น่าเลย ไม่ควรจริงๆ
“รู้สึกยังไงก็พูดออกไปตรงๆดีกว่าปะวะ พูดตรงข้ามความรู้สึก เจ็บทั้งคู่”
“…...”
“ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะปริ้น ฉันดูแกก็รู้ว่าแกรู้ว่ารู้สึกยังไงกับพี่ท็อป จะลังเลจนโดนคาบไปรับประทานไงวะ”
“…...”
“ที่พูดเนี้ยไม่ได้อยากให้เครียดนะ แต่เห็นทำหน้าซังกะตายแบบนี้แล้วไม่ชอบเลยวะ”
“พี่ปีย์ค่ะ พี่ปีย์”ฉันตะโกนเรียกพี่ปีย์ที่นั่งอยู่ห่างเราไม่เท่าไรจนพี่ๆที่นั่งอยู่หันมาหมด
“ว่าไงน้องปริ้น”
“ว่างไหมค่ะ มาเก็บน้องรหัสไปนั่งข้างๆที่ได้ ปริ้นรำคาญมันจะแย่แล้วเนี้ย”ฉันพูดน้ำเสียงล้อเล่นจนยัยนิวมุ่ยหน้างอนๆก่อนจะแยกเขี้ยวและเป็นฝ่ายเดินไปนั่งข้างพี่ปีย์ ก่อนที่จะเห็นยัยนั้นซุบซิบนินทาอะไรสักอย่าง คงไม่พ้นฉันหรอก…
“น้องๆ เพื่อนๆ ครับ พักทานข้าวกลางวันกันก่อนนะ”เสียงพี่สต็อบทำให้ทุกคนหยุดกิจกรรมตรงหน้าอย่างรวดเร็ว เพราะทำตั้งแต่เช้าแบบไม่ได้หยุดแล้วนี้คือกำลังจะเที่ยงแล้วนั้นเอง
“เจอกันที่ชายน้ำตกข้างๆโรงเรียนนะครับ พี่ๆเตรียมของไว้ให้แล้ว”พี่โปเต้เป็นอีกคนที่เสริม
ข้างๆโรงเรียนนี้เป็นน้ำตกละ ตอนนั่งทำงานฉันก็ได้ยินเสียง ได้ยินว่าเป็นต้นทำด้วยนะ น้ำใสและเย็นสะอาดมาก ฉันเดินไปเกือบๆสุดท้ายหลังจากที่รอยัยนิวกับพี่ปีย์ที่สวีทกันอยู่ข้างๆ
“ปล่อยให้พวกเค้าไปแย่งกันก่อนเถอะ ขี้เกลียดไปวุ่นวาย”ยัยนิวพูดพร้อมพี่ปีย์ที่พยักหัวรับฟังตามคำขอ
“ไอ้ท็อปแม่งเป็นอะไรวะ ไม่มาเทคน้องปริ้นเลย”
“พี่ปีย์ บอกว่าอย่าพูด”แล้วเสียงยัยนิวก็แหวจนพี่ปีย์ส่งยิ้มแหยๆมาให้ฉัน ซึ่งฉันก็ทำได้แต่ถอนหายใจให้กับคำพูดที่ทิ่มแทง
หลังจากที่ฟินให้กับคู่พี่น้องรหัสคู่นี้สักพักฉันก็เดินตามมานั่งที่ริมน้ำตกที่ตอนนี้โดนจับจ้องไปหมด เมื่อได้ข่าวพี่มาร์ชก็รีบตะโกนเรียกให้พวกเราไปรวมกลุ่ม ที่ตรงนั้นอยู่กันครบทั้งพี่ธันเดอร์ พี่ลิตเติ้ล พี่ยุนอา พี่ท็อปและยัยฟีย่า และนั้นก็ทำให้ฉันลังเล
“แกจะไปนั่งตรงอื่นไหม ฉันไปเป็นเพื่อน”
“ไม่อะ นั่งตรงไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ”และฉันก็เดินไปนั่งข้างพี่ยุนอา โดยที่พี่ปีย์กับยัยนิวก็ตามมาติดๆ
พี่ท็อปหันมองฉันแปปนึงก่อนที่จะหันกลับเพราะยัยฟีย่าตักอะไรสักอย่างลงให้กกล่องข้าวพี่ท็อปด้วยความเอาอกเอาใจ
“ฟีย่าจ้ะ ท็อปไม่ชอบกินไข่ดาวนะ แต่พี่ชอบพี่ขอละกัน”พี่ลิตเติ้ลพูดจบก็ตักไข่ดาวออกไปอย่างรวดเร็ว
“งั้นกุ้งละกันนะคะ”เสียงฟีย่าพูดอีกครั้ง และฉันเดาว่าเธอกำลังตักกุ้งให้พี่ท็อปอีก
“อุ้ย ทำไมข้าวผัดของยุนอาไม่มีกุ้งเลยละ ท็อปยุนอาขอละกันเนอะ”
“พี่ๆอะ แย่งพี่ท็อปทำไมละคะ”แล้วเสียงแอ็บๆก็ถามอย่างน่ารัก ก่อนจะไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากพี่ลิตเติ้ลพี่พี่ยุนอา
“ไม่เป็นไรฟีย่า แค่นี้พี่ก็กินไม่หมดแล้ว”
แล้วฉันก็ตักข้าวเข้าปากด้วยความสงบนิ่ง มองน้ำตกที่ไหลลงจากชั้นบน จนไหลตกไปชั้นล่างๆ ริมๆน้ำตกมีคนเริ่มเดินลงไปสัมผัสน้ำแล้ว แต่มันดูอันตรายมาก เพราะมันเป็นผาลงไป ทำให้เดินเล่นอยู่ได้เพียงแค่ตรงด้านบน
“ฟีย่าอยากเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวมานะคะพี่ท็อป”ฉันได้ยินเสียงออดอ่อน ก่อนจะเห็นยัยนี้ลุกออกไปอีกฝั่ง จากนั้นหางตาก็บอกได้ว่ามีคนกำลังมองฉันอยู่และฉันก็ไม่พอใจเอามากๆ
“อิ่มแล้วหรอแก ไม่ถูกปากสินะ”
“เปล่า ฉันแค่ไม่ค่อยหิวอะ”ฉันตอบก่อนจะปิดหกล่องอาหารลง โดยที่พี่ๆยังคงนั่งกินกันอยู่
“ฉันไปเดินเล่นนะนิว”
“เห้ยไปเป็นเพื่อนไหมแก”
“แกกินไปเหอะนิว ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ไปแค่แถวนี้แหละ”ฉันพูดก่อนจะหยิบกล่องอาหารไปวางโดยไม่สนใจใคร
ฉันเดินเตร็ดเตร่ออกมาโรงเรียนอีกครั้ง ซึ่งมันก็ค่อนข้างลำบากเพราะทางที่ไม่สม่ำเสมอ อีกทั้งมีหลุมอะไรเยอะเยอะตามทางขึ้นเขา และนอกจากนี้บางจุดยังมีหลุมกับดักของชาวบ้านไว้จับสัตว์อีก ดีนะที่เป็นช่วงเที่ยงทำให้เห็นได้ชัด ไม่งั้นถ้าจกหลุมนี้ไปมีหวังปีนขึ้นมาไม่ได้แน่ๆ
“อ้าวปริ้นเซสกินข้าวไม่ลงหรอจ้ะ^^”แล้วเสียงทักของคนที่ฉันเบื่อที่สุดก็ดังขึ้นตรงหน้าหลังจากที่หันไปสนใจหลุมกับดักนี้ที่อันตราย
“หลบ”ฉันพูดพร้อมกับส่งสีหน้าเรียบนิ่งให้กับเธอ
“หึ เธอกับพี่ท็อปดีกันหรือยังจ้ะ ฉันเป็นห่วงน๊า”
“เรื่องของฉัน!”
“หรอ…สงสัยจะยังสินะ พี่ท็อปเค้าถึงได้ไม่พูดกับเธอเลย ให้ฉันพูดให้ไหมละปริ้นเซส ยังไงเราก็เพื่อนกัน”ยัยนี้จงใจพูดยั่วจนฉันของขึ้นเลยให้ตาย
“ฉันจำได้ว่าไม่เคยมีเพื่อนเป็นปลิงตัวเมีย- -!”
“ปริ้นเซส จะมากไปแล้วนะ!”ฉันเพิ่งเคยเห็นยัยนี้ตะโกนเสียงดังก็วันนี้เองนะ
“โธ่ๆ ฟีย่าพูดเบาๆสิจ้ะ เดี๋ยวคนอื่นก็เห็นธาตุแท้ๆคนอย่างเธอหมดหรอก อุส่าแอ๊บมาได้ตั้งนาน”
“หึ ขอบใจที่เตือนนะ แต่ความแอ๊บของฉันก็มักจะได้ผลด้วยสิ เมื่อคืนก็หลอกล่อจนจูบพี่ท็อปได้มาแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็คงได้มากกว่านั้น…”ฉันกำมัดแน่นพร้อมเม้มปากจนสั่นไหวไปทั่วตัว
“ด้านกว่านี้มีอีกไหมเนี้ย”ฉันด่ายัยนี้เสียงเรียบ
“ด้านได้ อายอด เคยได้ยินไหม”
โอ้ว….สาบานว่าฉันไม่เคยรู้สึกรังเกลียจผู้หญิงคนไหนได้เท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต ยัยนี้มันยิ่งกว่าตัวอิจฉาในละครร้ำเน่าอีกนะ ท่าทางยั่วโมโหทำให้ฉันอยากจะผลักเธอให้ตกหลุมกับดักของชาวบ้านให้รู้แล้วรู้รอด
“เธอน่ะเด็กชะมัดเลยนะปริ้น ยิ่งเธอทำตัวไม่น่ารัก แก่น แล้วดูตรงมากเท่าไร ฉันก็ยิ่งชอบ เพราะฉันจะได้ดูน่าสงสารมากเท่านั้น”
“…..”
“ฉันอุส่ามาเรียนที่นี้เพราะพี่ท็อป ฉันไม่มีทางปล่อยให้เค้าได้กับเธอง่ายๆหรอกรู้ไว้ซะ”
“…..”ยัยนี้พูดพร้อมกับเดินวนไปวนมาจนฉันเริ่มปวดหัว คือดูละครมากไปไหมนะทำยังกะพวกนางอิจฉาที่ขู่เอาชีวิตนางเอกอยู่งั้นละ
“หลุมนี้ก็ไม่เลวนะ”แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ฉันขมวดคิ้วมองหน้าเธอย่างไม่เข้าใจ
“พูดบ้าอะไรของเธอฟีย่า หลบไปได้ละฉันไม่อยากจะยุ่งกับคนประสาทอย่างเธอ”
“แต่ฉันอยากยุ่ง อะไรที่มาขว้างฉัน ฉันจะยุ่งจนมันหายไปให้ไกลจากหางตา”
“…..”ยัยแอ๊บนี้เดินมาขว้างทางฉันอีกครั้ง แล้วทางมันก็ไม่ได้กว้างเลยนะที่จะหนีไปทางอื่นได้
“ตอนแรกฉันน่ะอยากเป็นเพื่อเธอจริงๆนะปริ้นเซส แต่ดูเถอะสิ ได้สิ่งที่ไม่ควรได้ไปมากมาย ทั้งน้องรหัสพี่ท็อป นอนห้องเดียวกับเค้า แล้วไหนจะดาวมหาลัยที่ควรเป็นฉัน”ยัยนี้เริ่มรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆจนฉันได้แต่ถอนหายใจให้ความน่ารำคาญที่ไม่จบสิ้น ร้อนก็ร้อน มายืนทะเลาะอะไรกันตรงกลางแดดที่มีหลุมใหญ่นี้อยู่นะ ถ้ามีใครหน้ามืดจนตกไปจะทำยังไงฟะ!
“เลิกพูดเพ้อเจ้อแล้วหลบไปสักที ฉันร้อน”
“เธอน่ะได้ในสิ่งที่ไม่สมควรได้ ไม่คิดจะชดใช้อะไรให้ฉันหน่อยหรอ”
“ฟีย่า เธอพูดบ้าอะไรของเธอเนี้ย เป็นเด็กมีปมด้อยหรอ ถึงได้พูดจาเหมือนขาดความรักขนาดนี้ ไม่มีใครแย่งอะไรจากเธอ เธอยอมรับความจริงไม่เป็นหรือไง ฉันชนะเธอเรื่องประกวดดาวคณะนั้นก็เพราะความสามารถ ส่วนเรื่องพี่รหัสน้องรหัสเธอก็รู้ว่ามันถูกตั้งไว้ตั้งแต่เราเข้ามามหาลัยโดยที่เราไม่มีสิทธิ์เลือก”บ้าที่สุดในโลก ทำไมฉันต้องมาอธิบายอะไรมากมายให้ยัยแอ๊บนี้ฟังก็ไม่รู้ แถมฉันก็หงุดหงิดมากจนลั่นปากไปเสียงดัง
“หึ ขอบใจนะปริ้นที่พูดดังขนานี้ อีกไม่นานพี่ๆเค้าก็คงเดินมาดู เพราะคิดว่าใครกำลังทะเลาะกัน”ยัยฟีย่ายกยิ้มจนฉันขมวดคิ้วอีกครั้ง
แต่แล้วก็จริงมีเสียงฝีเท้ากำลังเดินมาทางเราจริงๆจนฉันกำลังจะหันไปมอง แต่แล้ว…
ตุบ กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด….
เชื่อเถอะว่ายัยฟีย่าต้องเป็นเพี้ยนแน่ๆ บ้าประสาทไม่ดี อยู่ดีๆก็โดดลงไปในหลุมกับดักนั้นทั้งที่ฉันคว้าตัวเธอไม่ทัน แล้วคือฉันก็โคตรตกใจ อะไรของยัยนี้เนี้ย!!
“เธอ!! ทำบ้าอะไรเนี้ย ส่งมือมา”ฉันยืนอึ้งตะลึงก่อนจะเอ่ยถามเธอที่ยังคงส่งเสียงดังไม่หยุด
“ถึงเวลาที่เธอจะต้องรับผิดชอบแล้วปริ้นเซส หึ…ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยฟีย่าด้วยค่ะ”เธอแสยะยิ้มทั้งที่ฉันยังคงประมวลผลไม่ได้
“เห้ยเสียงน้องฟีย่านิ ใครเป็นอะไร!!”มีเสียงคนที่เดินมาทำเอาฉันหันไปจะตะโกนให้ช่วยแต่ก็ต้องหยุดเมื่อฟีย่าส่งเสียงอีกครั้ง
“ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยฟีย่าที ฟีย่าเจ็บจนลุกไม่ขึ้นแล้ว”
ตอนนี้พี่ทุกคนวิ่งมาจนถึงจุดเกิดเหตุและนักศึกษาอีกหลายคน กำลังมองฉันสลับกับฟีย่าแบบไม่เข้าใจเหตุการณ์ แล้วหนึ่งในนั้นคือพี่ท็อปที่เดินแหวกวงล้อมมา
“พี่ท็อป พี่ท็อปช่วยฟีย่าด้วยค่ะ ฟีย่าเจ็บจนขึ้นไปไม่ไหว”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย”เสียงพี่โปเต้พูดขึ้นหลังจากที่ทุกคนอึ้งกันหมด
“คือ…เธอตกลงไป…..”ฉันกำลังจะพูดแต่กลับถูกเสียงบีบน้ำตาพูดแทรกอีกครั้ง สายตาพี่ท็อปจ้องฉันด้วยอารมณ์ที่ทำเอาฉันพูดไม่ออก เค้ากำลังว่าฉันด้วยสายตางั้นหรอ แล้วฉันทำอะไรผิดวะเนี้ย!!
“พอดีว่าฟีย่าทักปริ้นเซสดีๆ น่ะค่ะ แต่เธอคงไม่พอใจที่ฟีย่าอยู่ใกล้ๆพี่ท็อปก็เลย…..”ฉันหันมองยัยฟีย่าที่พูดบ้าอะไรไม่รู้ต่อหน้าทุกคน และหยุดคำพูดด้วยเสียงเศร้าเหมือนว่าฉันผลักเธอลงไปงั้นแหละ
“ไอ้ปริ้น แกเป็นอะไรไหม!”เป็นเสียงยัยนิวที่เดินมาจับแขนฉันไว้ ซึ่งฉันได้แต่หันหน้ามองทุกคน แต่สายตาเหล่านั้นกลับมองฉันได้อย่างไม่น่าเชื่อ สายตาคาดโทษ ไม่เชื่อใจ และคิดว่าฉันทำเรื่องงี่เง่านี้จริงๆ
"น้องฟีย่ากำลังจะบอกว่าน้องปริ้นผลักน้องตกลงไปหรอค่ะ มะไม่จริงอะ!”แล้วเสียงพี่ลิตเติ้ลก็ทำเอาทุกคนตาค้างปากอ้าอีกครั้ง
“อย่าโทษปริ้นเลยค่ะ ฟีย่าผิดเองที่ไปแยกเธอกับพี่ท็อป อีกอย่างเมื่อคืนเธอคงไม่พอใจพี่ท็อปกับฟีย่า…..”
“หยุดพล่ามสักทีได้ไหมฟีย่า เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้ทำ”ฉันพูดด้วยเสียงสั่นเครือด้วยความโกรธและความเสียใจที่ตอนนี้ทุกคนมองฉันอย่างเป็นผู้ร้าย
“ฮือ ฉันขอโทษเธอแล้วนะปริ้น แล้วก็ขอให้เธอเลิกเมินพี่ท็อป ทำไมเธอต้องตะคอกฉันเสียงดังแล้วทำแบบนี้ละจ้ะT^T”
เชื่อเลยว่ายัยนี้เรียนนิเทศเอกการแสดง แล้วเชื่อกว่านั้นเมื่อบุคคลที่สามที่ยัยนี้เอ่ยชื่อเดินชนฉันไปแล้วส่งมือช่วยให้ฟีย่าปีนขึ้นมาก่อนที่พี่ผู้ชายจะมาช่วยดึงเธอจากหลุมนั้นอีกสองสามคน
“เหอะ…เธอ ตอแหลได้โล่เลยวะ ถ้าฉันจะทำนะไม่ใช่แค่ผลักหรอก อย่างเธอมันต้องเอาดินกลบปากด้วยฉันถึงจะซะใจ!”ฉันชี้หน้าฟีย่าก่อนจะกัดฟันตัวสั่นเทา ด้วยสีหน้าคนที่ช่วยเธอมองฉันได้แย่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ ฉันไม่แคร์สักนิดที่ใครจะมองว่าฉันทำหรือไม่ได้ทำอย่างที่ยัยนี้พูด แต่เค้าคนเดียวที่มองฉันแล้วฉันอยากจะบ้าที่สุด
“เลิกทำตัวงี่เง่าสักทีได้ไหมปริ้น ครั้งนี้มันแรงเกินไป”เสียงเรียบจากพี่ท็อปทำเอาฉันหันไปจ้องด้วยสีหน้าไม่พอใจ มือเค้าประคองยัยนั้นแน่น และยัยแอ๊บประสาทนี้ก็ทำเป็นเจ็บขาจนโอเวอร์
“…..”
“น้องปริ้นเนี้ยนะ จะกล้าผลักฟีย่าลงไป พี่ว่าฟีย่าเซตกไปหรือเปล่า แดดร้อนๆอาจจะเข้าใจผิดนะ”แล้วเสียงใสจากพี่ยุนอาก็ทำเอาฉันหันไปมองเธอ ตรงนั้นมีพี่ลิตเติ้ลพี่ยุนอาที่ดูจะเชื่อว่าฉันไม่ได้ได้ทำ ก่อนที่สายตารอบข้างจะทำให้ฉันหันมองทางอื่น
"อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ค่ะพี่ยุนอา ขอโทษที่ทำให้ทุกคนมองปริ้นไม่ดีนะคะ ปริ้นเค้าไม่ได้ตั้งใจทำหรอกค่ะ โอ้ยเจ็บขาอะคะพี่ท็อป”แล้วมันก็ยิ่งตอกย้ำฉันอีกครั้งด้วยการที่เธอทำทีจะมาจับมือฉันแต่ฉันสะบัดแขนจนเธอเหมือนจะล้มโดยความโอเวอร์จนพี่ท็อปมาประคองแนบตัว
"แสดงขนาดนี้ เอาโล่ตอแหลดีเด่นเลยไหม กลับกรุงเทพฉันจะซื้อให้สักอัน!"ฉันกัดฟันพร้อมจ้องอย่างเอาเรื่อง ตอนนี้ไม่สนไม่แคร์แล้วว่าทุกคนจะมองจะคิดยังไง ใครจะเชื่อก็เชื่อไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ ฉันไม่สนใจแล้วพูดจริงๆขอแค่ได้ด่ายัยสตอบอแหลนี้อย่างที่คิดเถอะ มันเหลืออดมากนะที่เฝ้ามองดูยัยนี้ทำตัวเป็นนางเอกแบ๊วๆไม่จบไม่สิ้น
“ปริ้น ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเป็นเด็กแบบนี้ ทำเค้าเจ็บแล้วยังไม่ขอโทษอีก แล้วนี้อะไรต่อหน้าทุกคนทำแบบนี้ได้ยังไง”
“…พี่ท็อปคิดว่าปริ้นทำแบบที่ยัยนี้พูดหรอ?”ฉันกัดฟันเผชิญหน้ากับพี่ท็อปโดยมีนิวเยียร์บีบมือเพื่อปรามอารมณ์ฉันตอนนี้
“มันก็ชัดเจนไม่ใช่หรอ”
"คิดว่าปริ้นเป็นโรคจิตชอบทำร้ายคนอื่น!"
"......."
"คิดว่าคนอย่างปริ้นจะทำเรื่องไร้สาระแบบนี้เพื่อเหตุผลที่แสนจะงี่เง่านั้น?"
"......"พี่ท็อปเอาแต่นิ่งด้วยสีหน้าลังเล โดยที่ฉันก็ชัดเจนว่าเค้าไม่เคยเชื่อใจฉันเลยแม้แต่น้อย
“พี่ท็อปจำที่ตัวเองพูดเมื่อคืนได้ไหมค่ะ สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ที่เป็น แม้แต่คำพูดตัวเองพี่ท็อปยังทำไม่ได้ พี่ท็อปไม่เคยมองปริ้นในแง่ดี คิดว่าปริ้นทำเรื่องี่เง่านี้จริงๆ โดยที่ไม่ถามปริ้นสักคำ ก่อนหน้านี้ที่ปริ้นเคยบอกว่าจะให้โอกาส ขอให้มันยุติลงตรงนี้เท่านี้ละกันนะ”ไม่รอฟังอะไรทั้งนั้น ท่ามกลางสายตาและเสียงซุบซิบนินทาฉันเดินสวนพี่ท็อปออกมาแบบไม่แคร์ใครหน้าไหนทั้งสิ้น มียัยนิวที่เดินก้าวเท้าตามาอย่างเงียบๆ
ฉันกับยัยนิวเป็นสองคนที่เดินกลับมาที่รีสอร์ทโดยที่ตอนนี้ฉันน้ำตาไหลอาบสองแก้มอย่างพูดไม่ออก
“แก ฉันรู้ว่าแกไม่ได้ทำ แกโอเคนะปริ้น”
“แก…ทำไมทุกคนมองฉันแบบนั้นวะ ทำไมไม่มีใครเชื่อฉันสักคน”
“ฉันว่ามีคนเชื่อ แต่เค้าคงอึ้งอยู่เลยพูดไม่ออก อีกอย่างเหตุการณ์มันไม่มีใครเห็น ยัยนั้นดูใสใสอ่อนแอมาตลอดใครจะเชื่อ”
“ถ้าพวกเค้าได้ยินสิ่งที่ยัยนั้นพูดกับฉัน เค้าจะไม่มองฉันและทำกับฉันแบบนี้”ฉันยังคงพูดทั้งที่ยังร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของยัยนิว ซึ่งยัยนี้ก็ปล่อยโฮตามฉัน
“ฉันจะกลับ”
“แกจะกลับได้ไง…นี้มันบนดอยนะเว้ย!!!”ยัยนิวมองฉันที่ปาดน้ำตาลวกๆ
ฉันไม่พูดพร่ำให้เสียเวลาเดินตรงไปที่ประชาสัมพันธ์ของทางรีสอร์ทเพื่อให้เค้าจัดการทำให้ฉันเข้าไปตัวเมืองของจังหวัดแบบเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งอาจเป็นโชคดีมากที่มีทางที่รถATVขับลงเขา เป็นทางที่ใช้ขนส่งของเข้ารีสอร์ท ซึ่งเป็นทางที่ไม่ค่อยดีนักเท่าไร แต่ฉันก็ยอมที่จะกลับ
“แกจะไม่รอพี่ๆกลับมาก่อนหรอ ไปแบบนี้ทุกคนเค้าจะคิดว่าแกทำนะ”ยัยนิวเตือนสติอีกครั้งที่ฉันขนกระเป๋าเสื้อผ้าโยนใส่รถATVของรีสอร์ท
“แกคิดว่า ฉันอยู่จะมีใครเชื่ออีกหรอวะ ไม่เห็นการแสดงสุดเหนือชั้นของยัยนั้นหรอ”
“ไม่ให้ฉันกลับด้วยแน่นะ- -”
“อืม แกอยู่เถอะ พี่ปีย์เค้าคงเศร้าถ้าแกหนีกลับไป”
“ไม่สนหรอก ยังไงแกสำคัญกว่าอยู่แล้ว”ยัยนิวพูดจบก็เดินมากอดฉันอีกครั้ง
“ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ แล้วก็เข้มแข็งพอ ฝากลาพี่ปีย์ พี่ธันเดอร์ พี่ยุนอา พี่ลิตเติ้ล พี่มาร์ชด้วยนะ ขอโทษแทนฉันด้วยที่อยู่ไม่ครบ”
“อืม อย่าคิดมากน่ะ ถึงตัวเมืองแล้วติดต่อฉันนะ”
“อืม….”ฉันกอดยัยนี้แน่นๆ ก่อนจะโดดดขึ้นรถที่เจ้าหน้าที่นั่งรออยู่ ก่อนจะนั่งรถออกมาโดยที่มีลมปะหน้า แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาซะอย่างมากมายตอนนี้
“ถึงแล้วครับคุณ!!”
“ค่ะ นี้ค่ะ”ฉันส่งเงินจำนวนนึงให้เป็นค่าจ้างที่เจ้าหน้าที่มาส่งฉันที่ตลาดตัวเมืองทั้งที่ทางมันดูยากลำบาก แต่ความจริงเจ้าหน้าที่เค้าต้องลงมารับของที่ตลาดในอยู่แล้วทำให้เค้าไม่ยอมรับเงินที่ฉันให้เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นฉันเลยซื้อน้ำกับขนมเป็นของให้เค้าเป็นข้อแลกเปลี่ยน จากนั้นก็ถามที่ต่อรถเพื่อจะนั่งไปปาย
ความจริงก็คิดมาตลอดทางเลยนะว่าจะเอายังไงดี แต่เมื่อคิดดูอีกทีคุณลุงคุณป้าฉันอยู่ที่ปาย จ.แม่ฮ่องสอนซึ่งนั่งรถจากที่นี้ไปได้ ทำให้ฉันเริ่มรู้แล้วละว่าจะไปซุกหัวนอนที่ไหน เชื่อสิว่าท่านจะตกใจมากแค่ไหนที่เห็นหลายจอมเรื่องมากคนนี้ไปโผล่ที่บ้านของท่านได้
แหงละฉันมาไม่บ่อยมาก เพราะที่นั้นอยู่แบบเรียบง่ายแล้วชีวิตติดกรุงอย่างฉันจะอยู่ไปได้ยังไง แต่ก็คงไม่เรียบง่ายเท่าที่เราไปออกค่ายหรอกนะ บ้านคุณลุงฉันมีเนื้อที่กว้างเรียกได้ว่าเป็นคนรวยในย่านชนบทเลยละ มีไร่ผลไม้ด้านหลังบ้านให้ชาวบ้านมาทำงาน ถัดจากไร้ผลไม้ไปก็เป็นสวนดอกกุหลาบของคุณป้าและเป็นเชิงเขาซึ่งตรงนั้นละเป็นจุดชมวิวที่เลิศที่สุด
กริ่ง กริ่ง
“มาหาใคร…..ยัยปริ้น ยัยปริ้นใช่ไหมเนี้ย!!!”
“คุณป้าค๊าT^T”แล้วฉันก็โผล่กอดคุณป้าเมื่อเจอ มันอึดอัดจนพูดไม่ออก พอเห็นคนที่รักที่คิดถึงแล้วยิ่งร้องไห้ ท่านดูตกใจมากแต่ฉันก็แก้ตัวว่าร้องไห้เพราะคิดถึงท่านมากๆก่อนที่ท่านจะพาไปหาคุณลุงที่นั่งเล่นอยู่ที่โซฟาหลังบ้าน
“คุณ…ดูสิค่ะว่าใครมาเยี่ยม”แล้วคุณป้าก็ทำให้คุณลุงหันมามองก่อนจะเบิกตากว้าง
“คุณลุงสวัสดีค่ะ”ฉันว่าแล้วก็เข้าไปกอด ปกติตอนเด็กๆฉันสนิทกับคุณลุงพอๆกับคุณพ่อเลยนะ เพราะเราอยู่บ้านเดียวกัน แต่พอคุณลุงย้ายมาประจำการเป็นตำรวจที่ปายเราก็นานๆเจอกันที ท่านเป็นคนร่างใหญ่หน้าตาดุที่ใจดีสำหรับฉันที่สุดในโลกเลย
“ยัยตัวแสบ มาได้ไงเนี้ย ลมอะไรพาเด็กติดกรุงมาที่นี้ได้ แล้วพ่อแม่เราละ”
“หนูมาออกค่ายกับมหาลัยนะคะ พอดีคิดถึงคุณลุงคุณป้าเลยขอแวะมาหา^^”คุณลุงมองหน้าฉันเหมือนไม่เชื่อแต่ก็ไม่ซักอะไรฉันต่อ ขอบตาฉันมันแดงมากขนาดนี้ฉันว่าท่านคงรู้แต่ไม่อยากถามนั้นละ
“แจ๋ว ไปเตรียมห้องนอนให้คุณปริ้นนะ เอาห้องติดกับตาหมอเลย พี่น้องคู่นี้เค้าไม่ได้เจอกันหลายปีคงเม้าส์กันยาว”คุณป้าหันไปสั่งพี่รับใช้ก่อนที่ฉันจะเริ่มยิ้มออกเมื่อเอ่ยถึงใครบ้างคน
พี่หมอก้อง พี่ชายสุดหล่อแถมฉลาดเป็นกรด เค้าเป็นพี่และเพื่อนเล่นฉันตอนเด็กๆแต่พอย้ายมาพร้อมคุณลงเราก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร จะทักกันในเฟซบุคนานๆครั้ง เพราะพี่แกเป็นหมอที่งานยุ่งเวอร์
“พี่หมอกลับกี่โมงค่ะคุณลุง”
“เข้าเวรเช้า เย็นๆก็มาแล้วลูก ช่วงนี้บ่นงานเยอะ ดูเครียดๆเรามาก็ดีละจะได้ชวนเค้าทะเลาะให้อารมณ์ดีหน่อย”
“คุณป้าอะ เห็นหนูเป็นเด็กเรื่อยเลย”แล้วฉันก็ค่อยรู้สึกดีขึ้นมานิดนึง หลังจากนั้นฉันก็เดินขึ้นไปเอาของไปเก็บพร้อมกับเดินไปสำรวจห้องพี่หมอก้องโดยที่ไม่ขออนุญาตใคร แฮะๆ นี้ละฉัน!
หืม ห้องคุณหมอนี้เต็มไปด้วยหนังสือเพียบเลย เห็นแล้วปวดหัวจี๊ด ฉันมองห้องที่มีกลิ่นแอลกอฮอลบางๆอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เป็นหัวผู้ชายที่เนี๊ยบมากจนฉันอายไปหลายตลบ
แกก!
“เธอ!!!!”เสียงตกใจทำเอาตัวฉันสะดุ้งไปด้วย
“เซอร์ไพร์สจ้ะ คุณหมอสุดหล่อ”ฉันยิ้มก่อนจะโดดกอดพี่ชายจนเค้าเซเพราะตั้งหลักไม่ทัน
“ยัยตัวแสบ มาได้ไงเนี้ยนึกว่าผีที่โรงบาลตามมาหลอกถึงห้อง!”
“ชิ ผีที่ไหนจะสวยเท่านี้ฮะ ดาวมหาลัยนะคะจะบอก”ฉันทำเสียงกวนๆก่อนที่พี่หมอจะขยี้ผมอย่างเอ็นดู
“มาได้ไง มาเมื่อไร มายังไง และกับใคร”
“เอิ่ม…ซักประวัติซะเป็นคนไข้เลยพี่หมอ มากับหมาลัย มาออกค่าย แต่ขอกลับเองเพราะคิดถึงพี่หมอที่ซู้ด”ฉันทำปากแบะๆก่อนจะนั่งลงที่เตียงสุดเนี๊ยบ
“อกหักหรอ ตาแดงๆเหมือนร้องไห้”พี่หมอพูดจบก็วางกระเป๋าที่โต๊ะทำงานก่อนจะถอดเนกไทและเดินไปห้องแต่งตัวข้างๆห้องนอน
ชะอุ้ย!! หมอนี้เป็นโรคตรงไปตรงมากว่าฉันเยอะ- -!!
“ปากเสีย พูดมากไม่คิดถึงละ”
“แสดงว่าจริง มีฟงมีแฟนกับเค้าแล้วหรอตัวแค่เนี้ย”แล้วพี่หมอก็เดินออกมาด้วยชุดไปรเวท หมอนี้เปลี่ยนชุดได้ไวจนหน้าใจหายอะ
“นี่…เลิกเซ้าซี่เรื่องมั่วๆได้ปะ ว่าแต่พี่หมอเหอะ ทำงานหนักหาแฟนได้ยังเนี้ย”
“หึ…พี่ถามเรากลับมาถามพี่อีก ยักเด็กแสบ จะว่าไปก็ดูดีขึ้นเยอะเลยนะเนี้ย เห็นรูปในเฟซนึกว่าใช้360ช่วย”ว่าแล้วเค้าก็เดินมานั่งข้างๆฉันก่อนจะสำเร็จหน้าฉันดีๆ
“ชิ โนแอพจ้ะ สวยใสไร้แอพ!”ฉันพูดจบก็เปรยยิ้มแกล้งๆจนพี่หมอขำ
“หรอนึกว่าสวยใสไร้สติ ลงไปกินข้าวเหอะ แม่เตรียมของกินไว้เพียบเลย ถึงว่าถามว่าทำไมทำกับข้าวเยอะถึงได้ไม่ตอบ หลานสาวสุดที่รักมานี้เอง”
“แน่ละยะ เตรียมตัวตกกระป๋องได้เลย”ฉันพูดก่อนจะหันไปยิ้มขำๆให้กับพี่ชายสุดหล่อ
ตอนนี้ฉันแยกกับพี่หมอหลังจากคุยกันหลังกินข้าว และขอตัวมาพักที่ห้องด้วยความรู้สึกที่เหนื่อยไปหมด ทั้งที่ฝืนยิ้ม ทั้งที่ร่าเริง ทั้งที่ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเหนื่อยขีดสุดอย่างหาอะไรเทียบไม่ได้ ฉันกำโทรศัพท์แน่นพร้อมกับกดเปิดเครื่องหลังจากที่ปิดไว้ตั้งแต่ถึงค่ายเพราะไม่มีสัญญาณ แค่อยากจะส่งข้อความบอกยัยนิวว่าฉันอยู่บ้านคุณลุงเท่านั้น แค่นั้นเอง
‘นิว…ตอนนี้ฉันอยู่บ้านคุณลุงที่ปายนะ แกไม่ต้องเป็นห่วง ฉันกำลังยิ้มอย่างมีความสุข’ ฉันกดส่งข้อความทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายัยนิวจะเปิดอ่านได้ไหม บนนั้นสัญญาณไม่ค่อยมี ต้องดวงดีๆเท่านั้นละถึงจะติด
เมื่อเสร็จสิ่งที่ต้องทำฉันก็เดินออกไปนอกระเบียงห้องบนชั้นสองมองดูดวงจันทร์ที่เป็นเสี้ยวเหมือนกำลังยิ้มอย่างสุขใจ ช่างตรงข้ามกับใจฉันได้ซะเหลือเกิน
พระจันทร์ที่ยิ้มอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นแบบนี้ ก็แอบคล้ายฉันเลยนะ…ฝืนยิ้มอย่างโดดเดี่ยวในที่ที่เหน็บหนาวแบบนี้ ทำไมมันเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
สายตา คำพูด การกระทำ ของใครบางคนที่วนเวียนในใจทำให้น้ำตาฉันไหลลงมาอีกครั้ง เพียงแค่คิดถึง แค่คิดถึงเค้าทำไมฉันถึงอ่อนแอได้ขนาดนี้….ฉันรักเค้าแล้วใช่ไหมน่ะ?
ไร้สาระ เพ้อเจ้อ เหอะ…ฉันเสียเวลาไปคิดแบบนั้นกับคนที่ไม่เคยเชื่อฉันได้ยังไงกัน แย่เกินไป ฉันต้องลบ ลบความรู้สึกบ้าๆนี้ออกให้หมดก่อนจะกลับไปเจอเค้าอีกครั้ง!
ครืด ครืด (นิวเยียร์)ฉันต้องตกใจอีกรอบเมื่อเสียงโทรศัพท์ที่โยนไว้ที่เตียงดังขึ้น
“ว่าไง ยัยนิว”
(แกเป็นยังไงบ้าง โทรหาทำไมไม่ติดเลยวะ พี่ๆทุกคนเค้าเป็นห่วงแกนะเว้ย)
“อย่างที่บอกฉันกำลังสนุกอยู่ปาย”ฉันทำเสียงที่ดีที่สุดที่ฉันจะทำได้ให้เพื่อนที่จับผิดฟัง
(สนุกบ้าอะไรวะ เสียงเหมือนคนร้องไห้!)แต่มันรู้ดีเกินกว่าฉันจะปกปิดT^T
“อย่ามาทำเป็นรู้ดี ฉันกำลังดื่มด่ำบรรยากาศในสวนผลไม้ และมองเห็นสวนดอกกุหลาบเชิงเขาพร้อมกับจิบนมอุ่นๆอยู่ในระเบียงห้องนอนที่สวยหรู อยากให้แกมาด้วยจริงๆ โทษทีนะไม่ได้ชวน”
(เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเหอะ เออรู้ไรปะ ตอนนี้ทุกคนเชื่อแล้วนะว่าแกไม่ได้ทำ)
“…..”ฉันหมดคำพูด พูดแล้วน้ำตาจะไหลอีกครั้ง หัวใจเจ็บแปลบเมื่อนึกถึงสายตาคนที่ค่ายเมื่อบ่าย ฉันจำติดตาและติดใจ จะลืมได้ยังไงสายตาที่คาดโทษ ไร้ความเชื่อใจ ชัดเจนแม่นยำเลยละ
(คืองี้มีคนเห็นเหตุการณ์แล้วถ่ายรูปไว้ได้พอดี เป็นรุ่นพี่ผู้ชายภาคฉันอะเค้าออกไปถ่ายรูปสถานที่เพื่อจะอัพลงอินสตราแกรมเว้ย แต่ขณะที่ถ่ายเค้าบอกว่าได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันเลยมาเจอแกสองคนคุยกันอยู่ เค้าเลยถ่ายคลิปทันตอนที่ยัยฟีย่าตกลงหลุมนั้นไปไว้ได้พอดี เพราะว่าเปิดกล้องทิ้งเอาไว้ เสียดายที่เสียงอัดที่ยัยฟีย่าพูดไม่ได้ยิน แล้วเชื่อปะว่ายัยฟีย่าพูดว่าอะไร บอกว่าเข้าใจผิด ลมมาโดนเลยคิดว่าแกผลัก เหอะ โคตรสตออะ)
“เลิกพูดเรื่องยัยแอ๊บนี้ได้ปะ อารมณ์เสียวะ!”ฉันแบะปากเมื่อยัยนิวพูดเรื่องของยัยตอแหลนี้ออกมา
(พี่ทุกคนเค้าก็เลยตามหาแกที่รีสอร์ทหลังจากที่แกออกไปสักพัก เค้าจะขอโทษที่เข้าใจผิด แต่พอรู้ว่าแกกลับไปเค้าเลยเศร้าๆกันเลย พยายามให้ฉันติดต่อแกแต่ก็ไม่ติด พี่ท็อปจะลงไปตามแกแต่เจ้าหน้าเค้าบอกว่ามันเย็นเกินไปแล้วกลัวจะมืดแล้วขึ้นมาไม่ได้เลยไปไม่ได้!)
“T^T”ยัยนิวร่ายยาวจนฉันเริ่มกลั้นเสียงร้องไห้ไม่อยู่
(พี่ท็อปเค้าเสียใจมากเลยนะ พี่ปีย์บอกว่าพอรู้ว่าแกกลับออกไปเค้าเดินไปต่อยกำแพงจนเลือดออก ติดต่อแกแต่ไม่ติด ส่วนยัยฟีย่าก็โดนพี่ยุนอากับพี่ลิตเติ้ลคุมเข้มไม่ให้ออกจากห้องนอนเพราะแผลเล็กๆน้อยๆนั้นละ)
“เรื่องของเค้าเถอะ แค่คนอื่นรู้ว่าฉันไม่ได้ทำก็โอเคละ อย่าบอกใครนะว่าแกคุยกับฉัน”
(ไม่ทันละวะ ฉันดีใจจนตะโกนบอกพี่ปีย์ พี่ท็อปไปแล้วอะT^T)
“แกมัน!!”ฉันสบถเบาๆก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
(คนเรามีสิทธิ์เข้าใจผิดนะปริ้น แกยังเข้าใจผิดเรื่องจูบได้เลย เพราะงั้นอย่าโกรธพี่ท็อปเลยนะ)
“ถ้าแกไม่เลิกพูดถึงคนอื่นฉันจะวาง!”
(โอเคเลิกพูด…ว่าแต่บ้านลุงแกที่เคยเล่าอะนะว่าสวยๆติดเขา)
“อืม…คิดไม่ออกว่าจะไปนอนไหนดีอะ เลยมาที่นี้ อีกอย่างกลับบ้านก็กลัวตอบคำถามพ่อกับแม่ได้ว่าแพลนจะไปค่ายอาทิตย์เดียวแต่แค่วันเดียวก็กลับบ้านซะแล้ว พูดแล้วเจ็บใจชะมัด แต่ก็ดี ไม่ได้อยากไปแต่แรกอยู่ละ- -!!”
(พี่ท็อปเดินมาวะ เอาไง)เสียงตื่นเต้นของนิวทำเอาใจฉันสั่นตาม
“วางก่อนนะแก ดูแลตัว…..”
(ปริ้น…อย่าเพิ่งวาง ขอร้อง!)เสียงที่แทรกมาทำเอาฉันนิ่งงัน หมดคำพูด และทำอะไรไม่ถูก
“….”
(พี่ขอโทษ ขอโทษที่ไม่เชื่อและพูดจาไม่ดี ขอโทษที่เมื่อวานนี้ทำให้ปริ้นตกใจ และวันนี้พี่ยังทำเป็นไม่สนใจปริ้นอีก พี่แค่อยากรู้ว่าปริ้นแคร์พี่บ้างไหม ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้)
“แบบนี้ แบบไหน”ฉันคุมเสียงที่สั่นให้นิ่งจนเย็น
(เห็นนิวบอกว่าอยู่บ้านลุงที่ปาย ที่นั้นโอเคไหม กินอะไรหรือยัง เหนื่อยหรือเปล่า)เสียงพี่ท็อปอ่อนโยนจนฉันโมโห อย่ามาทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและคิดว่าฉันจะใจอ่อนได้ไหม มันไร้ประโยชน์สิ้นดี!
“อย่าทำอะไรที่เหมือนเดิม ทั้งที่ความจริงมันไม่เหมือนเดิม”
(พี่ขอโทษ พี่มันแย่ พี่มันไม่ดีเอง ปริ้นเซส)
“พอเถอะพี่ท็อป ปริ้นว่าปริ้นพูดชัดเจนแล้วนะ อย่าทำอะไรที่มันไร้ประโยชน์ในตอนที่สายไปแล้ว มันไม่สามารถเรียกความรู้สึกที่เสียไปกลับมาได้อีก”
(ปริ้นพี่….ฮึก)เสียงขาดหายตัดเป็นเสียงเหมือนเค้ากำลังร้องไห้อยู่ทำให้ใจฉันสั่งการให้ร้องไห้ตามอย่างที่ควบคุมไม่ได้อีกแล้ว
“วางนะT^T”
(เดี๋ยว ขอร้อง…อย่าเพิ่งตัดโอกาสพี่นะ นะปริ้น ให้พี่ทำอะไรก็ได้ เพื่อให้ปริ้นยอม ให้พี่ออกหาปริ้นตอนนี้ ให้ไปขอโทษ ให้ทำอะไรก็ได้ ขอร้องนะ)
“โอกาส มันเป็นสิ่งที่ได้กันยากนะพี่ท็อป และเมื่อเสียมันไป คนเรามักจะไม่สามารถเรียกร้องขอมันได้อีก เพราะไม่งั้น มันจะไม่เรียกว่า…โอกาส!”
โอ้ยยยย แค้นแทน
พี่ท๊อปนะถ้าจะดีจนไม่ทันมารยายายฟีย่านะ คิดแล้วมันน่าน้อยใจ ชิๆๆ
แต่ก็หวังให้คู่นี้ดีกันไวๆเพราะดูจะรักกันซะละแต่ยังไม่กล้าบอกความในใจ ;))
ไรเตอร์ขอบคุณมากสำหรับฉากดร่าม่าที่ทำให้อินสุดๆคิดว่าเป็นเรื่องของตัวเอง 5555
ชอบคำนี้มากโอกกาศมันมีความสำคัญ ถ้าได้เสียมันไปแล้วมักจะเรียกร้องกลับมาได้ยาก
สมน้ำหน้าพี่ท็อป
ปริ้น อย่าไปยอมง่ายๆน้าาาา
ส่วนพี่ท็อป ไมไม่เชื่อใจปริ๊นเลย โง่ได้อีก
ขอให้ปริ้นโกดพี่ท็อปไปนานๆเลยนะ
สู้ๆน้าปริ้นนนนนน