ตอนที่ 17 : Unexpected EP.15 -บุคคลส่วนตัว
M u s i c ' B u r n
ฉันอยากจะบ้าตาย ถ้ารู้ว่าจะต้องมาดูแลคนแบบนี้ ฉันยอมเชื่อฟังแม่ตอนท่านสอนทำอาหารไปนานละ ขอบอกว่าฉันไม่มีทักษะใดๆเลยในการเข้าครัว ตอกไข่ยังเละ ให้ตายเถอะ แต่แล้วตอนนี้ฉันกำลังเปิดไอแพดเพื่อดูวิธีการทำข้าวต้มหมู เพื่อให้พี่ท็อปที่นอนอยู่ในห้องกิน จะรอดไหมนะ T^T
เรากลับมาที่หอพักแล้วตอนนี้ กลับมาเมื่อวานตอนเย็นหลังจากพี่ท็อปให้คุณแม่ใช้อิทธิพลมืดสั่งให้ทางโรงพยาบาลปล่อยเค้ากลับ ทั้งที่พี่ชะพลูก็บอกให้เค้าไปพักฟื้นที่บ้านแล้วแท้ๆ แต่เค้ากลับเลือกจะมาอยู่ที่หอ แล้วเป็นภาระฉันอยู่แบบนี้ไง เค้าจงใจแกล้งฉันค่ะท่านผู้ชม ฮือออ
“นำน้ำเปล่า หรือ น้ำซุปกระดูกหมูที่เตรียมไว้ใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่ผงปลุงรส ตามด้วยหมูสับที่หมักไว้….”
ฉันอ่านวิธีทำตามไอแพดก่อนจะลงมือทำอย่างตั้งใจ เชื่อเถอะว่าครั้งแรกที่ปริ้นเซสจะทำอะไรแบบนี้ให้ใครสักคน ความจริงมันซื้อกินก็ได้ก็จริงแต่ฉันแค่อยากลองทำอะไรด้วยตัวเองก่อน ตอนนี้ยังเช้า(มาก)อยู่ถ้าไม่อร่อยยังไงฉันก็ยังลงไปซื้อของกินมาให้พี่ท็อปก่อนจะตื่นได้
อ่ออีกอย่างคือเมื่อวานพวกพี่ยุนอา ยัยฟีย่า พี่ออรีนก็เอาของมาเยี่ยมเยอะแยะเต็มไปหมด ถึงข้าวต้มที่ฉันทำมันแย่ก็มีแผนสำรองละนะ
-30นาที ผ่านไป-
ฉันเปิดหม้อที่ตอนนี้เต็มไปด้วยหมูสับลอยในน้ำเดือดและผักสีสันน่ากินพร้อมกลิ่นหอมๆ จะบอกไงดีละ ฉันคงมีพรสวรรค์ละมั้ง คือหน้าตาผ่านมากเลยนะข้าวต้มหมอนี้ แต่รสชาติหรอ อันนี้ต้องชิม^^
“…..”ฉันขมวดคิ้วหลังตักน้ำในหม้อชิม มันขาดอะไรไปน่า…ความจริงมันก็ได้แล้วแต่มันขาดอะไรสักอย่าง!!
“ใส่กระเทียมเจียวหรือยัง?”
“เออ ใช่ กระเทียมเจียว….พะพี่ท็อป มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”ฉันก็มัวแต่ตกใจจากเสียงที่แทรกมาในความคิดแต่พอหันไปพี่ท็อปก็นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารด้านหลังฉันแล้ว มาตอนไหนละทำไมฉันไม่รู้เรื่อง แฮะๆ
“เมื่อกี้เอง นึกว่าใครจะพังครัวซะอีก”
“พี่ท็อปอะ อุส่าตื่นมาทำข้าวต้มให้นะ ครั้งแรกกับการเข้าครัวคนเดียวด้วย”ฉันพูดพรางตั้งไฟกระทะเพื่อจะเอากระเทียมลงไปเจียวกับน้ำมัน
“นี่พี่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลนะ หวังว่าคงไม่เข้าเพราะท้องเสียกะทันหันหรืออะไรแบบนั้นหรอกใช่ปะ^^”
“พี่ท็อป!!”ฉันแหวใส่เค้าเสียงดังซึ่งเค้าก็เอาแต่ขำชอบใจ
“โอเคๆ พี่ล้อเล่นน๊า ปริ้นเซสอุส่าตั้งใจขนาดนี้ มีหรือพี่จะไม่ยอมท้องเสีย”ดูความกวนประสาทของพี่รหัสฉันนะ- -^
“พี่ท็อปอะ…ไปล้างหน้าก่อนเลยไป จะได้มากินข้าวต้มร้อนๆ”
“ไม่เอา เจ็บมือ รอคนไปแปรงฟันให้”
“…ว่าไงนะ?”
“ก็รอปริ้นไปแปรงฟันให้ไง ใครบอกว่าจะดูแลพี่น่า”พี่ท็อปยกยิ้มเจ้าเล่ห์จนฉันแยกเขี้ยวใส่แสดงความไม่พอใจ แต่ก็เท่านั้นละ ฉันไปสัญญากับเค้าเอาไว้นิ ก็ต้องน้อมรับด้วยความไม่เต็มใจต่อไป
“พี่ท็อปอยู่นิ่งๆสิ เดี๋ยวแปรงมันก็กระแทกปากหรอก ทำเป็นเด็กไปได้”ฃเชื่อเค้าเลยจริงๆ ให้ฉันมาแปรงฟันให้ แต่โยกตัวเล่นไปมาแล้วก็จับมือหยิกแก้มฉันไปพราง คือนี้มันยิ่งกว่าเด็กอนุบาลอีกนะ ฉันว่าเค้าโดนกระทืบจนสมองผิดปกติแน่ๆเลยอะ
“โอเอ(โอเค)”
ตอนนี้ฉันไม่กล้ามองเค้าสักนิด รวมรวมพลังงานทุกส่วนไว้ที่มือแล้วโฟกัสที่แปรงกับฟันอย่างเดียว ทำไมช่วงนี้เค้าพยายามสกินชีพโดนตัวฉันตลอดก็ไม่รู้สิ แต่อย่าหวังเลย เยอะมาเดี๋ยวฉันจะจัดการขั้นเด็ดขาด
“บ้วนน้ำล้างปากเร็วๆเข้า”ฉันยื่นแก้วน้ำไปที่ปากเค้าซึ่งหมอนี้ก็อ้าปากรับเป็นเด็กๆก่อนจะยอมบ้วนปากจนเสร็จ
“เช็ดปากให้ทีสิ”เค้าพูดหลังยกผ้าเช็ดตัวส่งให้ฉัน
“ก็เช็ดเองสิ แขนไม่ได้หักนิ แปรงฟันให้ก็ใจดีมากพอละนะ คุณพี่รหัสที่เคารพ!”
“เช็ดปากด้วยเช็ดปาก”พี่ท็อปบทจะรั้นนี้ยิ่งกว่าเด็ก4ขวบอีกนะ เค้ายังคงยื่นผ้ามาทางฉัน สุดท้ายฉันก็ตัดปัญหาด้วยการเช็ดไปที่ปากเค้าแรงๆจนเจ้าของหน้านิ่วหน้าเพราะมันโดนแผลที่มุมปากด้วย
“สมน้ำหน้า รีบๆอาบน้ำละ จะออกไปเตรียมโต๊ะอาหารให้”พูดจบฉันก็ส่งผ้าให้เค้าอีกครั้ง แหงละใครจะอยู่ละเค้าจะอาบน้ำนี่
หมับ
“เจ็บมือ เจ็บตัวขนาดนี้ ถอดเสื้อให้หน่อยสิ”พี่ท็อปคว้าแขนฉันไว้แบบรวดเร็ว จนฉันไม่สามารถก้าวเดินต่อได้ ไม่แค่นั้นเค้ายังแช่แข็งฉันด้วยคำสั่งเอาแต่ใจอีก
“หะห้ะO.O!!!!”
“ถอดเสื้อไง พี่ปวดตัวยกแขนไม่ไหว”
“จะจะบ้าหรอพี่ท็อป ทำเองเลยไม่เอา ปล่อยปริ้นนะ จะออกไปแล้ว”
“ไม่ถอดก็ไม่ปล่อย…^^”
“พี่ท็อป!”ฉันแหวเสียงดัง
“ปริ้นเซส”ดูๆ ยังมีหน้ามาแหวเสียงใส่ฉันอีก- -^
“ปล่อยนะ จะโกรธจริงๆแล้วนะ ถ้าพี่ท็อปยังเอาแต่ใจอยู่แบบนี้”
“ใครกันแน่ บอกจะดูแลเค้า ชิ ไม่รับผิดชอบคำพูด”
“- -!!”
“….”
“ยกมือขึ้นสิ”แล้วก็ต้องเป็นฉันสินะที่ต้องยอมเค้าอีกครั้งเมื่อเค้าทำสีหน้างอน แต่พอฉันบอกให้ยกมือขึ้นทำนั้นแหละอมยิ้มยังกับฉันบอกจะให้เงินล้าน
“ยอมเพราะเจ็บตัวหรอกนะ ถ้าวันหลังทำแบบนี้ปริ้นโกรธจริงๆด้วย”
“คร๊าบบบบบบบบบ”
ฉันค่อยๆดึงเสื้อเค้าขึ้น ก่อนจะเห็นว่าที่ตัวยังมีรอยช้ำเต็มไปหมด เค้าคงเจ็บน่าดูผิวขาวๆปะปนไปด้วยรอยม่วงๆแบบนี้ เพราะฉันสินะ เพราะฉัน
“ทำหน้าแบบนั้นโทษตัวเองอยู่สินะ คิดมากน่า พี่ไม่เป็นอะไรจริงๆ”
“ไม่เป็นอะไรแล้วรอยพวกนี้ละคะ คืออะไร”ฉันตอบเสียงอ่อย พร้อมกับดึงเสื้อออกจากตัวเค้า
“อย่าคิดมากสิ พี่ช่วยปริ้นเพราะปริ้นคือคนสำคัญ เป็นคนที่พี่อยากดูแล เพราะฉะนั้นถ้าจะรู้สึกผิด ปริ้นต้องดูแลพี่เป็นอย่างดีจนกว่าจะหาย โอเคไหม”
“เจ้าเล่ห์นักนะ หึ อาบน้ำไปเลย เร็วๆด้วยนะ”
“อยากให้เร็วงั้นก็มาอาบให้ดิ”คำพูดพี่ท็อปทำเอาฉันหน้าร้อนวูบวาบเลย
“ไอ้คนทะลึ่ง”ก่อนที่ฉันจะถูกใช้ให้ทำอย่างที่พูดจริงๆ ฉันก็รีบวิ่งออกมานอกห้องน้ำก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของพี่ท็อปที่ได้แกล้งฉัน
ตาบ้าเอ้ย!!
“สบายตัว แฮะๆ”เชื่อเถอะว่าปริ้นเซสคนนี้จะต้องพลิกผันตัวเองมาเป็นคนรับใช้ในชั่วข้ามคืน ให้ตายเถอะให้ตาย ฉันนั่งกัดฟันอย่างจำใจที่โซฟา แล้วอะไรนะหรอ หลังจากอาบน้ำเสร็จเค้าไม่ยอมนั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารที่ฉันจัด แต่มานั่งดูทีวีแล้วให้ฉันตามป้อนข้าวเป็นเด็กๆ นี่ปริ้นเซส
จะปี๊ดดดแล้วนะ- -^
“อ้าปากเร็วๆเข้าสิ”
“โห้ คุณพยาบาลส่วนตัวดุไปปะครับ คนไข้กลัวนะ”
“พี่ท็อป!”ฉันใช่สายตาขู่อาฆาตจนพี่ท็อปอาปากกินข้าวต้มอีกคำ
“อร่อยนะเนี้ย น้องรหัสใครเนี้ยเก่งที่สุด ว่าแต่อย่าไปทำให้ใครกินรู้ป่าว ทำให้พี่กินคนเดียวพอ”
“มีสิทธิอะไรมาสั่งปริ้น”
“สิทธิอะไรดีนะ…พี่รหัส พี่สนิท คนรู้ใจ คนพิเศษ คนสำคัญ หรือว่า….”ยังไม่ทันพี่ท็อปจะร่ายคำพูดที่ทำให้ฉันทำตัวไม่ถูก ฉันก็ตักข้าวต้มยัดใส่ปากเพื่อปิดคำพูดเค้าอีกครั้ง
พี่ท็อปต้องโดนกระทืบจนต่อมอาย กับต่อมแสดงความรู้สึก มันทำงานผิดปกติแหงเลยอะ ทำไมเค้าเอาแต่ทำอะไรให้ฉันใจสั่น ใจเต้น คล้ายจะเป็นลมทั้งวันเลยก็ไม่รู้ จะรู้ไหมเนี้ยไอ้ที่ฉันนิ่งๆ
เนี้ยข้างในมันจะพองจนแตกอยู่แล้ว อย่าทำให้เขินจนเก็บอาการไม่อยู่จะได้ไหมนะ….
“กินยาที่วางไว้เลยนะ เดี๋ยวปริ้นจะเอาชามข้าวต้มไปเก็บก่อน!”
“ป้อนสิ”
“พี่ท็อป ทำไมทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ละ”
“ไม่ป้อนก็ไม่กิน ไม่กินๆ”ว่าแล้วพี่ท็อปก็กอดอกหันหน้าไปอีกฝั่งเหมือนประชดฉันงั้นแหละ ฉันละอยากเอาชามในมือโคกหัวให้แตกสักสามทีจริงๆ ฉันว่าฉันเอาแต่ใจแล้วนะเจอหมอนี้ไปมันแบบสุดๆเลย
อดทนไว้ปริ้นเซส อดทนๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ฮึ๋ย!!!! รอให้หายก่อนเถอะนะ- -^
“อ้าปากเร็วๆเข้า”ฉันพูดจบก็วางชามแล้วหยิบยาที่วางจับปากเค้ามากรอกก่อนจะส่งน้ำในแก้วให้อย่างรุนแรง พี่ท็อปเหมือนจะสำลักน้ำนิดหน่อยก่อนจะมองฉันแบบไม่วางตา
“เห้ย จะฆ่ากันไงเนี้ย พยาบาลโรงบาลไหนเนี้ย โหดชะมัด”
“ชิ คนไข้กวนประสาทเอาแต่ใจก็เจอแบบนี้แหละ”
“ถ้าสำลักตายไปจะทำไงเนี้ย”
“ก็ทำศพไง”ฉันยกไหล่แบบไม่แคร์สายตาเคืองๆของพี่ท็อปก่อนจะเดินไปทำความสะอาดในห้องครัวที่มันเต็มไปด้วยอุปกรณ์
“…ตอนทำก็น่าสนุก แต่ทำไมตอนเก็บมันไม่น่าสนุกเลยนะ”
“พี่ช่วยไหม^^”
“จะตามมาทำไม ไปนอนพักไป เดี๋ยวปริ้นจัดการเอง”
“ไม่เอาอะ นั่งๆนอนๆ เบื่อละ งั้นเดี๋ยวปริ้นล้างน้ำยาล้างจาน พี่ล้างน้ำเปล่า โอเคนะ ช่วยกันได้เสร็จเร็วๆ”อันความจริงข้อเสนอนี้ของพี่ท็อปก็ดีแหละนะ ถ้าไม่ติตรงเค้ายังเจ็บอยู่
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวปริ้นจัดการเอง ไปพักเถอะ”
“อย่าดื้อสิ”
“- -!”
ใครกันแน่ที่ดื้อ ฉันถูกเค้าดันให้เข้าประจำที่ฝั่งล้างน้ำยาล้างจาน พร้อมกับบีบซันไลต์ใส่มาในมือฉันเรียบร้อยเลย จากนั้นฉันก็ต้องขัดๆถูๆจานชาม ก่อนจะส่งให้ จะว่าไปมันก็เร็วดีนะ ถึงจะเหมือนใช้แรงงานคนเจ็บก็เถอะ แต่เค้าช่วยฉันเยอะเลยอะ ถ้วยชามและสภาพครัวค่อยกลับมาสู่สภาวะปกติหน่อย
“อยากกินแอปเปิ้ล”เสร็จจากการล้างจานพี่ท็อปก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาเหมือนว่าเหน็ดเหนื่อยซะเหลือเกิน ซึ่งตอนนี้ฉันกำลังเช็ดถ้วยชามที่ล้างเก็บเข้าที่
“ปริ้นปอกไว้ให้ตั้งแต่เมื่อคืนแช่ไว้ในกล่องในตู้เย็น หยิบได้เลยพี่ท็อป”
“เดินไม่ไหวละเหนื่อย หยิบให้หน่อยนะ”
ถ้าไม่อยู่ในเหตุการณ์โดนกระทืบฉันคงคิดว่าเค้าโดนรถฉันแขนขาขาดหรืออะไรเทือกนั้นเป็นแน่ วันนี้เค้างอแงใส่ฉันมากจนเกินคำว่าที่สุดมาเยอะนะว่าไหม
กึก เสียงกล่องผลไม้ที่ฉันปอกมาวางอยู่บนโต๊ะหน้าทีวีจนคนที่ร่ำร้องจะกินหันมาอมยิ้ม
“น่ารักจัง มีแฟนยังเนี้ย จีบได้ป่าว^^”ช่างเป็นคำขอบคุณที่แปลกสิ้นดี...แต่ก็ชอบนะ!
“แฟนไม่มี แต่ไม่ให้จีบ ไม่ชอบคนงอแงเอาแต่ใจ เข้าใจปะ”ฉันแยกเขี้ยวใส่พี่ท็อปก่อนจะเดินมาเก็บโซนครัวตัว
“ไม่ให้จีบก็จะจีบ เข้าใจปะ”คำพูดในเชิงน่ารักแบบนี้ทำให้ฉันเผลอยิ้มขึ้นมาได้ไงก็ไม่รู้ ตาคนบ้าเอ้ย!
zzzZZZZZ
หลังจากเก็บครัวและปลอกผลไม้เอาไปแช่ตู้เสร็จฉันก็เดินมาที่หน้าทีวี ถึงว่าสินะเสียงเงียบไปขนาดนี้ พี่ท็อปนอนทิ้งตัวยาวลงบนโซฟา กล่องผลไม้ยังไม่ปิดเลย เค้านี้จริงๆเลยให้ตาย แถมทีวียังดูเค้าแทนด้วย
“พี่ท็อป…พี่ท็อปไปนอนในห้องไหม”
“…หืม”เสียงตอบรับในลำคอทำให้ฉันสายหัวไปมา สงสัยอาจเป็นเพราะยาแน่ๆเลยที่ทำให้เค้าหลับได้ หรือไม่ก็หมดแรงเพราะก่อกวนฉันตั้งแต่เช้า
ฉันเดินไปหยิบผ้าห่มในห้องฉันที่เป็นผืนเล็กมาคลุมตัวให้ เพราะแอร์ที่ตกอยู่ตอนนี้อาจทำให้เค้าเป็นหวัดได้อีก ร่างกายยังไม่หายดีฉันไม่อยากจะปล่อยแม้จะเป็นรายละเอียดเล็กน้อย
จะว่าไปมันก็ง่วงเหมือนกันฉันตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเลยอะ แถมทั้งโดนกวนทั้งทำโน่นทำนี้จนเพลียแล้วเหมือนกัน พักสายตาสักนิดก็คงดีไม่น้อยนะ ว่าแล้วฉันก็นั่งทิ้งตัวลงโซฟาข้างๆที่พี่ท็อปนอนก่อนจะเอนลงข้างๆอย่างสบาย
หาววว(zZZZZ) ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ฉันหลับไป แต่รู้สึกแค่ฟ้ามันมืด ห้องตกอยู่ในความมืดจนมองไม่เห็นอะไรเพราะไม่ได้เปิดม่านไว้ตั้งแต่แรก ฉันพยายามจะลุกตัวขึ้นแต่ไม่ไหวแฮะ เหมือนมันติดอะไร…
“…อื้อ”
สะเสียงครางของพี่ท็อปสาบานว่ามันใกล้ประสาทหูฉันอย่างกับแนบชิดจนทำให้ฉันเบิกตามองชัดๆ
“พี่ท็อปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปป”
“…หะหืม อะไรปริ้น”เค้าลืมตามองฉันที่แกหปากเสียงดังแบบไม่สะทกสะท้าน
“ทำไมปริ้นมานอนอยู่บนโซฟาเดียวกับพี่ท็อปแบบนี้อะ”
“ก็พี่เห็นว่าหลับตรงนั้นมันไม่สบายตัวไงคะ เลยให้มานอนกับพี่แทน”
“พะพี่ท็อป! แล้วทำไมต้องกอดด้วย”
“ก็ผ้าห่มมีพื้นเดียว แถมพื้นเล็กด้วยก็ต้องกอดดิจะได้ห่มสองคนได้”พี่ท็อปตอบหน้าตาย แต่นั้นเชื่อเถอะว่ามันทำให้ฉันปี๊ดแตก
“ฉวยโอกาส ปล่อยเลยนะ ปล่อยสิๆ ปล่อย”ฉันแหวใส่คนหน้าไม่อายที่ยังคงกอดฉันตาพริ้มอย่างชอบใจ
“แบบนี้ละดีแล้ว ดีที่สุด”
“ดีอะไรเหล่าปล่อยเลยนะ นับ1ถึง3 จะโกรธแล้วนะ”
“โอ๋ๆ โอเคๆ ปล่อยแล้วจ้าปล่อย”ว่าจบพี่ท็อปก็ยอมปล่อยฉันให้หลุดจากอ้อมกอดที่แนบชิดไปเกือบทุกส่วน
เชื่อเถอะว่าตั้งแต่เกิดฉันไม่เคยกอดแนบชิดอะไรกับใครแบบนี้ แล้วคือหัวใจฉันมันเต้นแรงมากจริงๆ ไม่เพียงแค่ฉันนะ แต่ฉันได้ยินหัวใจของผู้ชายที่นอนอยู่ก็เต้นแรงพอๆกัน ฉันว่าเราสองคนหัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าไปวิ่งรอบสนามมาซะอีก ใบหน้าฉันคงแดงมากแน่ๆ แต่ดีที่ความมืดปกปิดอยู่ และพอเค้าปล่อยฉันให้เป็นอิสระฉันก็รีบลุกมานั่งที่โซฟาอีกฝั่งแบบไม่กล้าหันมองพี่ท้อปที่พลิกตัวขึ้นนั่งตาม
“กี่โมงแล้วนะ”พี่ท็อปพูดจบก็ยกไอโฟนมามอง “หกโมงครึ่งแล้วหรอเนี้ย” พี่ท้อปพูดอย่างไม่อยากเชื่อ เพราะตอนที่นอนมันเพิ่งจะบ่ายกว่าเอง เรานอนไปยาวมากเลยจริงๆนะ
“ปริ้นไปอาบน้ำดีกว่า….”
หมับ
เพราะความมืดทำให้ฉันตกใจอีกครั้ง ความรู้สึกเหมือนมือของพี่ท็อปรีบรั้งมือฉันไว้ก่อนที่ร่างกายเค้าจะลุกขึ้นตาม
“ปริ้น….”เสียงเค้าแผ่วเบาและดูเหมือนแฝงไปด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่างทำให้ฉันหยุดเท้าที่ก้าวหนี้
“…..”
“คืนนี้นอนด้วยกันอีกนะ”
“หะห้ะ!!”พอได้ยินประโยคนี้เท่านั้นฉันรีบดึงมืออกจากการเกาะกุมของคนร่างใหญ่ออก แต่ก็ไม่มีแรงพอจริงๆ ความรู้สึกจมดิ่งไปกับประโยคก่อนหน้านี้ T^T
“ไม่ได้จะทำอะไรอย่างนั้นยัยเด็กดื้อ คิดลึกใช่ไหมเนี้ย พี่แค่คิดว่านอนกอดปริ้นพี่หลับง่ายดี ปกติพี่นอนไม่ค่อยหลับน่ะ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่พี่หลับสนิทโดยไม่ต้องกินยานอนหลับเพื่อให้นอนหลับยาวๆ”
“….?”อะไรกันละ เค้าจะสื่ออะไรกัน?
“พี่เป็นโรคนอนไม่หลับมาหลายปีแล้วอะ เลยนอนดึกมาตลอด ถ้าไม่อย่างนั้นก็จะกินยานอนหลับถ้าเหนื่อยและอยากพักจริงๆ แต่เมื่อกี้พี่หลับได้แบบไม่น่าเชื่อเลย”
“เอ่อ…พี่ท็อปอาจจะกินยาที่หมอให้ก็ได้นะ เลยง่วง”ฉันตอบไปแบบพยายามหาสาเหตุมาหักล้าง และความน่าจะเป็นที่พอจะคิดได้ตอนนี้
“ไม่จริงหรอก พี่กินยาชุดนี้มาหลายวันแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พี่หลับสนิทสุด”
“…..”มือพี่ท็อปเริ่มปล่อยจากแขนที่ดึงมือฉันไว้ ซึ่งตอนนี้ฉันได้แต่ย่นคิ้วให้กับคำพูดที่เค้าพูดมา
“จริงๆนะ พี่ไม่ได้คิดไปเอง”
“…แต่ว่า”ยังไงละ โอ้ย ไม่ดีหรอกมั้ง ผู้ชายผู้หญิงนอนด้วยกัน ฉันนิ่วหน้าอย่างซีเรียสดีที่มันมืดจนคนตรงหน้าสังเกตได้ไม่ชัด
“อย่าดื้ออสิครับ ไหนว่าจะดูแลพี่ไง พี่เจ็บไปทั้งตัวเลยนะ หรือปริ้นจะให้พี่นอนเจ็บคนเดียวแบบนี้ ทั้งเจ็บทั้งเหงา ชีวิตพี่นี้มันน่าสงสารจริงๆT^T”พี่ท็อปพูดพรางเลื่อนมือมารอบเอวฉันอย่างไม่ตั้งตัวและมันก็เบาเกินกว่าที่ฉันจะหลุดออกจากภวังค์
คิดไม่ตก…ฉันไม่น่ารับปากอะไรกับผู้ชายคนนี้เลยให้ตาย คนเจ้าเล่ห์!!
“นะ ปริ้น!”เสียงแผ่วเบาที่เรียกฉันทำให้ฉันสะดุ้งและรู้สึกว่ามือเย็นรามมาถึงช่วงเอว
“พี่ท็อป…จะทำอะไรO//O”
“ถ้าไม่เชื่อฟังดีๆ งั้นพี่ก็จะไม่เชื่อฟังปริ้นบ้างดีไหมนะ”
“……”
“ไม่ให้กอด พี่ก็จะกอด ไม่ให้จูบ พี่ก็…”พี่ท็อปพูดจบก็เลื่อนหน้ามาใกล้หน้าฉันอย่างรวดเร็ว มือเค้าไล่จนมาประจบกันจนกอดฉันในที่สุด แต่สิ่งที่ได้ยินข้างหูเมื่อกี้มันเหมือนไม่ได้แค่คำพูด เมื่อเค้าเลื่อนแก้มที่แนบชิดกับแก้มฉันมาจนเกือบถึงริมฝีปากของฉันที่ตอนนี้ฉันได้แต่มอง
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นอย่างไม่เข้าใจ
“โอเค…เรานอนด้วยกันเถอะ นอนด้วยกัน!!”ฉันรีบตอบก่อนที่คนตรงหน้าจะจูบฉันจริงๆ
แต่ว่า….ฉัน-คิด-ผิด
ถึงฉันก็ตะโกนตอบไปแบบนั้น สัมผัสอ่อนนุ่มก็ทาบลงที่ปากฉันอย่างอ่อนละมุนเหมือนสัมผัสกับวิปครีมที่นุ่นลิ้น เค้ากดลมหายใจลงจนทำให้ฉันเผอรับตา พี่ท็อปจับแขนสองข้างฉันมาคองที่รอบคอเค้าอย่างเชื่องช้าก่อนจะวางมือลงที่เอวฉันอีกครั้ง
สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือตัวฉันมันหาความเป็นตัวของตัวเองไม่ได้สักนิด มือที่ถูกจับวางยังคงวางที่รอบคอพร้อมกับยังรั้งคอเค้าไว้เบาๆ รสจูบที่เนิ่นนานทำให้ฉันเริ่มขาดอากาศ
กริ่ง…เสียงสัญญาณหน้าห้องดังจนทำให้ฉันดึงสติกลับ แต่พี่ท็อปก็ยังไม่ปล่อยหน้าที่ฝั่งเข้ามาที่หน้าฉัน
“…มีคนมา”ฉันผลักอกเค้าให้ออกห่างก่อนจะเตือนสติ
“อย่าให้รู้นะว่าใคร ถ้าไม่สำคัญนะ…หึ”พี่ท็อปพูดทั้งที่ยังคลองเอวอยู่ไม่ห่าง แต่ฉันก็ต้องพลิกตัวออกอย่าง หัวใจฉันจะระเบิดเป็นโกโก้ครั้นช์อยู่แล้วนะให้ตาย!
ตอนนี้ฉันเดินไปเปิดไฟห้องทั้งที่ไม่เต็มใจ เพราะมันทั้งเขินทั้งอายปะปนในอารมณ์และไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าฉันมันแดงระดับไหนแล้วรู้แค่ว่าเขินที่สุดเท่าที่เคยเขินมาก่อนหน้านี้ น่าอายที่สุดที่ฉันตอบรับจูบเค้าอย่างไม่หลีกเลี่ยงแถมยังนานมากอีกด้วยๆ
กริ่งๆ ๆ ๆ ๆ
“มากแล้วค่ะๆ”ฉันรีบเปิดประตูใหญ่ ส่วนพี่ท็อปก็ทิ้งตัวลงโซฟาเช่นเดิม
“ฮัลโหล ทำไรกันอยู่มาเปิดประตูช้าเลย น้องปริ้นสุดสวย”
ทำไมซื้อหวยไม่ถูกสิน่า ว่าแล้วต้องเป็นคู่พี่น้องรหัสคู่นี้ ยัยนิวกับพี่ปีย์!
“มาทำอะไรตอนนี้วะไอ้ปีย์ ไม่ไปข้างนอกบ้างไง”
“แหมไอ้เพื่อนยาก มาเยี่ยมแท้ๆดูมันไล่เลยวะ ทำไมฉันมาผิดจังหวะสินะ น้องปริ้นถึงได้หน้าแดงแบบนี้”
“เอ่อ ไม่ใช่นะคะ ปริ้นเพิ่งตื่นกำลังจะไปอาบน้ำ”ฉันแก้ตัวแบบไม่มองหน้าพี่ท็อป และทุกคน เขินอะ เขินสุด
“แกเป็นไรเนี้ยปริ้น ไม่สบายหรอวะ^^”
“ไม่นินิว ฉันสบายดี แฮะๆ”ยัยเพื่อนคนนี้มันตั้งใจแซวฉัน ฉันเห็นรอยยิ้มมันแล้วฉันรู้ แต่คือฉันโต้ตอบมันไม่ได้ไง เพราะความจริงเรื่องนี้มันพูดไม่ได้ >///<
“จะมาบอกว่าชมรมเราอาทิตย์หน้าจะไปออกค่ายที่ดอยแม่สลอง จ.เชียงรายนะเว้ย ฉันเพิ่งเข้าประชุมมาเมื่อกี้เอง”
“อ้าว ไหนตอนแรกบอกจะไปแจกของเด็กๆที่อีสาน เปลี่ยนเป็นเหนือหรอวะ”
“อืม ไอ้สต็อปมันมีบ้านพักอยู่ที่นั้นแล้วมันบอกเด็กๆดอยขาดเครื่องเรียนเยอะเลย แล้วอีกอย่างบรรยากาศตอนนี้ก็ดี คนในชมรมก็เลยเห็นดีเห็นงามด้วยกันหมด”พี่ปีย์ว่าพรางยกยิ้มมาทางฉันที่ยืนอยู่กับนิว
“ปริ้นแกไปเป็นเพื่อฉันนะ พี่ปีย์ชวนฉันไปแต่ฉันไม่มีเพื่อนเลยอะ อีกอย่างพวกพี่เค้าก็มีแต่ผู้ชายส่วนใหญ่”ยัยนิวเยียร์ออดอ้อนฉันยกใหญ่
“แต่…ฉันไม่ชอบป่าเขา แกก็รู้ ไม่เอาอะ”
“ปริ้น ไปเหอะนะ พี่ยุนอาก็ไปนะแก เพราะเค้าอยู่ชมรมอาสารักดีเหมือนกัน”
“แกอะ…อย่าทำให้ลำบากใจดิวะ”
“นิว เราไปกันเถอะ ปล่อยให้พี่รหัสน้องปริ้นเค้าจัดการกันเองดีกว่า พี่หิวข้าวจะแย่ละ”พี่ปีย์พูดจบก็คว้าแขนมาโอบรอบคอยัยนิวอย่างหมั่นเขี้ยว
“ปริ้นมันไม่ชอบป่าจริงๆนะพี่ปีย์ เราช่วยพูด…”ยังไม่ทันที่ยัยนิวจะพูดต่อ ก็ถูกดึงออกนอกห้องไปซะละ
“…..ไม่ไปนะ ไม่ต้องมอง”ฉันมองพี่ท็อปที่นั่งจ้องฉันตาไม่กระพริบ ราวกับอ้อนวอน ซึ่งมันเกือบจะได้ผลด้วยไง ฉันต้องหันหนี ไม่ๆ ๆ ๆ ฉันไม่ชอบป่าT^T
“ปริ้นไม่ไปพี่จะนอนกับใครอะ”
“ห้ะ?”
“หมายถึงว่า พี่จะทิ้งปริ้นนอนที่ห้องคนเดียวได้ไงละ^^”
“ไม่เป็นไร ปริ้นกลับไปนอนบ้านก็ได้”
“เคยได้ยินสต็อปมันโม้ว่าบนดอย อากาศเย็นสบาย มีไร่ชาบรรยากาศสวย มีสถานที่เยอะมากให้ถ่ายรูป ถ้าได้ไปกับคนที่ชอบคงดีอะ”
“…..”ทำไมฟังดูมันกดดันฉันแปลกๆ
“ไปเหอะนะ ถ้ากลัวเดี๋ยวพี่จะอยู่กับปริ้นตลอดเวลา ไม่ให้มีโอกาสกลัวเลยรับประกัน”
“….น่ากลัวกว่าป่าเขาอีก”ฉันพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะจากคนข้างๆ
“สรุปว่าไปนะ”
“ยังไม่พูดสักคำเลยนะ ขอคิดดูก่อนตั้งอาทิตย์หน้า เดี๋ยวใกล้ๆจะบอก”
“โอเค ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวพี่โทรสั่งอาหารให้”
“รับทราบเจ้าค่ะ^^”

ว่าจะมาแค่ครึ่งเดียว แต่เค้ามาช้า
และไม่สามารถตัดออกได้จริงๆ
รออยู่ไหมค๊า จัดไปก่อนตอนหวานๆ
ตอนหน้ายังหวานอยู่ ดูแลกันถึงเตียง
ห้ะ .... จะNC หรอ นี่มันนิยายรักใสๆนะ
5555555555555
มันติดจากอีกเรื่อง พี่ท้อปเราลุกอะ
อยากให้ncเบาๆไหม ไรท์บ้าไปแล้ว กร๊ากก
จะโดนรีดเดอร์ประนามไหมนะ แอบกลัว!
ผู้ชายโอนโยนเค้าก็มีโมเม้นแบบนี้นะ ^^
อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจนะจ้า
จะรออ่าน ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟ :)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไรท์สู้ๆๆค่ะ
มี NC ก็ดีนะ 55555 (อินี่ค่อนข้างบ้า-///-)